แชร์

บทที่ 69

ผู้เขียน: มู่โร่ว
คนกลุ่มหนึ่งมาถึงลานหลังจวน

เหล่าหญิงปักผ้าสิบกว่าคนต่อหนึ่งกลุ่ม กำลังตัดเย็บเสื้อผ้าในลานกว้าง

ไม่มีเก้าอี้ ทั้งหมดจึงนั่งกับพื้น ก้มหน้าก้มตาเร่งตัดเย็บเสื้อผ้า

ฮูหยินเฉินพาพวกเขาไปที่ห้องโกดังปลอดคน

“ท่านแม่ทัพ ห้องเก็บผ้า ได้ทำความสะอาดเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

ห้องขนาดใหญ่มาก เมื่อก่อนพ่อค้าผู้มั่งคั่งเคยใช้เก็บสินค้า

“ห้องนี้ก็เพียงพอแล้ว”

จ้านเฉิงอิ้นยื่นมือไปทางเถียนฉินที่อยู่ด้านหลัง รับแท็บเล็ตแล้วมอบให้ฮูหยินเฉิน

ฮูหยินเฉินไม่รู้ว่าเหตุใด ท่านแม่ทัพจึงยื่นกระดานเล็กแผ่นหนึ่งให้นาง

เฉินขุยรีบขยิบตาส่งสัญญาณให้ฮูหยินทันที

นี่เป็นของดีที่ท่านเทพประทานให้ ได้รับโดยไม่ต้องร้องขอ!

ฮูหยินเฉินรีบรับมันมา “ขอบคุณท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”

จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ข้าจะสอนเจ้าเปิดหน้าจอและปลดล็อก”

เมื่อหน้าจอของกระดานดำแผ่นเล็กสว่างขึ้น นางก็เป็นอันต้องสะดุ้งตกใจ

ภายในโกดังอันมืดมิด ความสว่างของแท็บเล็ตเครื่องเล็ก สว่างกว่าเชิงเทียนขนาดเล็กเสียอีก

“เจ้าสิ่งนี้ น่าอัศจรรย์จริง ๆ ”

จ้านเฉิงอิ้นสอนนางตั้งรหัสผ่าน และบันทึกลายนิ้วมือ

จากนั้นสอนให้นางเปิดวิดีโอ

เมื่อฮูหยินเฉินดูวิดีโอด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 70

    เมื่อส่งของเสร็จแล้ว เธอก็ไปซื้อขนมที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอีกครั้งมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ ล่าเถียว ปลาเผ็ดปรุงรส ตีนไก่ดองพริก ถั่ว ขนมปังกรอบ ลูกอมรสนมกระต่ายขาว...อมยิ้ม ช็อกโกแลต วุ้นแช่เย็น ขนมบุกหม่าล่า...เธอซื้อเต็มรถเข็นสามคันรวดพนักงานของซูเปอร์มาร์เก็ตช่วยยกของใส่ท้ายกระบะให้เธอ ยังมีรองเท้าหนึ่งร้อยคู่ที่มั่วฝานอยากได้เธอเดินเข้าร้านค้าออฟฟิเชียลร้านหนึ่ง ซื้อรองเท้าผู้ชายหกสิบคู่ โดยเลือกรองเท้าที่มีลวดลายสีสันมากที่สุด ราคาแพงที่สุดซื้อรองเท้าผู้หญิงสี่สิบคู่ โดยเลือกรองเท้าผ้าใบสวมใส่สบาย สีขาว...ซื้อถุงเท้าคละสีสองร้อยคู่เนื่องจากเย่มู่มู่ซื้อสินค้าจำนวนมาก พนักงานจึงยิ้มไม่หุบผู้จัดการร้านแถมถุงเท้าผู้หญิงหนึ่งร้อยคู่ ชุดกีฬาหนึ่งเซต กระเป๋าสะพายไหล่หนึ่งใบ กระเป๋าสะพายหลังหนึ่งใบ และรองเท้าแตะฤดูร้อนสองคู่...รถกระบะได้บรรทุกเต็มอัตราอีกครั้งเธอขับรถไปยังสถานที่ปลอดคน ทำการถ่ายโอนของในรถ เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจทั้งหมด เจ้าของโรงงานรองเท้าผ้าโทรหาเธอ แจ้งว่าสินค้ามาถึงเมืองของเธอแล้วสายเรียกเข้าจากโรงงานเหล็กแผ่นกันกระสุนเพิ่งดัง รถบรรทุกของพวกเขาก็ขับ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 71

    เฉินขุยพูดไม่ทันจบบท ขนมและลูกกวาดก็ร่วงลงมารอบแจกันอีกมากมาย...ปริมาณและความหลากหลายมีมากกว่าที่ให้เด็ก ๆ เมื่อวานหางตาของเฉินขุยยังมีคราบน้ำตา ริมฝีปากกล่าวขอบคุณต่อท่านเทพมือเปิดเป็ดรมควันห่อหนึ่งและหักขาเป็ดลิ้มรสชาติโดยไม่ให้เสียเวลาจู่ ๆ รูม่านตาของเขาก็ขยายกว้าง โห อร่อยมากจริง ๆ!เขาหักขาเป็ดอีกข้างหนึ่งให้ฮูหยินทีแรกฮูหยินไม่ยอมกิน แต่เฉินขุยยัดใส่ที่มือนางนางใช้แขนเสื้อปิดปากแล้วชิมคำหนึ่งรสชาติเข้มข้น หมักด้วยเครื่องเทศหลายชนิดอร่อยมาก!เป็นรสอร่อยที่พ่อครัวหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่ก็ไม่สามารถทำได้!อาหารมาก่อน เฉินขุยยัดเป็ดรมควันสองห่อให้ฮูหยินโดยไม่สนใจว่าจ้านเฉิงอิ้นยังอยู่ ตีนไก่ไร้กระดูกหนึ่งห่อ ไข่นกกระทาหนึ่งห่อเมื่อเห็นว่าเขากระทำการเหิมเกริม ฮูหยินรีบกล่าวห้ามแต่จ้านเฉิงอิ้นกลับพูด “ยังมีอีกมาก ให้เด็ก ๆ กินเถอะ!”เฉินขุยตะคอกฮึ่ม “ท่านเทพมอบทั้งหมดนี้ให้มั่วฝาน เมื่อวานมั่วฝานเอาลูกอมไปแล้วไม่ใช่หรือ วันนี้พวกเราเอากลับสองสามห่อ ถือว่าเท่าเทียมกัน”หลังจากพูดจบ เฉินขุยหยิบเนื้อแดดเดียว หมูแผ่น ถั่วธัญพืชอีกสองสามห่อ...ให้ฮูหยินอ้อมอกของฮูหยิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 72

    รถบรรทุกคันใหญ่สามคันมีหม้อไฟอุ่นเอง ไส้กรอกรมควัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำแร่...ซาลาเปา แพนเค้กต้นหอมอย่างละห้าแสนชิ้น!เสื้อกันกระสุน แผ่นเหล็กกันกระสุนหนึ่งหมื่นห้าพันชุด!รองเท้าผ้าห้าหมื่นคู่!เมื่อเฉินขุยเห็นจำนวนของบนกระดาษแผ่นเล็ก นิ้วมือพลางสั่นไม่หยุดเขาดีใจเป็นอย่างมาก“ดีจริง ๆ ท่านแม่ทัพ เสบียงอาหารพวกนี้บวกกับเสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อสองวันก่อน สามารถเลี้ยงทหารและชาวบ้านทั้งเมืองได้เป็นปีกว่า!”เขาอยากรู้มากว่าเสื้อเกราะกันกระสุนและแผ่นเหล็กกันกระสุนเป็นของลักษณะอย่างไรสามารถป้องกันการยิงทะลุจากลูกธนูได้จริงหรือไม่?หากแผ่นเหล็กกันกระสุนแข็งดั่งหินผา เช่นนั้นทหารที่ไม่มีเสื้อเกราะก็ปกป้องหัวใจได้เมื่ออยู่ในสนามรบก็สามารถมีชีวิตรอดกลับมาของสิ่งนี้สำคัญมากและจำเป็นมากในกองทัพจ้านเฉิงอิ้นเร่งเร้า “รีบไป คลังสรรพาวุธและโกดังเสื้อเกราะกันกระสุนต้องปิดไม่ให้ผู้ใดเห็น ในเมืองยังมีสายลับ ต้องระวังให้มาก!”เฉินขุย “ขอรับ ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”เขาเดินออกไปพร้อมกับองครักษ์อย่างรวดเร็วจ้านเฉิงอิ้นมองรองเท้า ถุงเท้า ขนม และสายตาสุดท้ายตกที่รองเท้าแตะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 73

    รองเท้าส่งมาให้แล้วห้าหมื่นคู่ ทั้งหมดสองพันห้าร้อยลังใส่ไว้เต็มพื้นที่กระโจมใหญ่ เมื่อไม่มีที่วาง กล่องลังจึงกลิ้งออกมาจากข้างในกระโจมจำนวนไม่น้อยทหารสิบนาย มีแต่มั่วฝานที่ไม่อยู่...ตั้งแต่หยิบขนมและรองเท้าที่จวนเฉินขุยไปเขาก็ไม่กลับค่ายทหารอีกเลยเฉินอู่มองกล่องลังรองเท้าแต่ละลังด้วยสายตาแดงก่ำนี่มันคือรองเท้าทั้งนั้น!รองเท้าหลายคู่ของเขาขาดรุ่ยหมดแล้ว ทั้งซ่อมและเย็บ ผิวรองเท้าก็ปะแล้วหลายชั้นรองเท้าผ้าใบที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานล้ำค่าเกินไป เขารู้สึกเสียดายที่จะใส่คิดไม่ถึงว่าวันนี้ท่านเทพส่งรองเท้าใหม่มาให้อีกเขาแกะลังอย่างอดรนทนไม่ไหวรองเท้าผ้าสีน้ำเงินกรมท่าปักลายดอกไม้งามหนึ่งคู่ปรากฏขึ้นในสายตาผิวรองเท้าทำจากผ้าฝ้ายหนา ด้านในรองเท้าบุด้วยแผ่นรองรองเท้าหนึ่งชั้น พื้นรองเท้ามียางนุ่มกันลื่น...เขาถอดรองเท้าเกี๊ยะออกแล้วลองสวมรองเท้าผ้าสบายมาก เบากว่ารองเท้าที่ท่านเทพให้เมื่อวานนี้อีกเขาเดินไปมาสองสามก้าวและยังกระโดดอีกสองสามครั้ง“รองเท้าคู่นี้ดี ใส่สบายพอดีเท้า”“ท่านแม่ทัพ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าผ้า ก็ใส่สบายกว่ารองเท้าเกี๊ยะของพวกเราทั้งนั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 74

    เพียงควักเงินครอบครัวออกมาและเหลือสำหรับค่าเดินทางกลับบ้านเกิดเล็กน้อย ก็สามารถปิดเรื่องกินเนื้อคนได้ครอบครัวผู้เสียหายจะได้รับค่าชดเชยเป็นข้าวสารยี่สิบชั่งหนึ่งถุง แป้งสิบชั่งหนึ่งถุงเสบียงอาหารเหล่านี้ ทุกคนในครอบครัวสามารถกินได้ถึงสามเดือน ดังนั้นย่อมไม่มีการก่อเรื่องอีกเรื่องดังกล่าวก็สามารถข้ามผ่านไปได้อาหลี่คิดว่าเจ้าหนุ่มเว่ยกวงผู้นี้เป็นคนมีความสามารถให้เขาอ่านตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ หนังสือเทพข้ามกาลเวลาสามชุดที่ท่านเทพส่งมาให้ในเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วัน เว่ยกวงอาศัยความมีคารมคมคายและเสน่ห์ส่วนตนตั้งหลักในจวนแม่ทัพได้อย่างมั่นคงแม่ทัพสั่งให้เถียนฉินส่งรองเท้ากลับมาหนึ่งลัง เถียนฉินรู้สึกว่าหนึ่งลังไม่เพียงพอสำหรับเด็กกำพร้าเหล่านั้นเขาหยิบไปสองกล่องลังเมื่อกลับถึงจวนแม่ทัพ เขาเห็นเว่ยกวงยืนอยู่ที่ประตูจึงมอบกล่องลังให้กับเขา“ข้างในเป็นรองเท้า เจ้าให้ทุกคนไปแบ่งกัน แต่ละคนหยิบคนละหนึ่งคู่ ส่วนที่เหลือนำไปเก็บที่ห้องโกดัง”เว่ยกวงมองรองเท้าแล้วมองเท้าของตนเอง เขาไม่ได้สวมรองเท้ามานานมากแล้วเหยียบบนทรายร้อนทุกวัน จนฝ่าเท้าขึ้นตุ่มที่แข็งและหนาเขาเป็นเด็กกำ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 75

    เมื่อเริ่มแจกรองเท้า บรรดาทหารผ่านศึกและทหารใหม่ก็เข้าแถวรับรองเท้าจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าข้างใต้แจกันมีกระดาษ“หมั่นโถวห้าแสนลูก แพนเค้กต้นหอมห้าแสนชิ้นมาถึงแล้ว ข้าเตรียมส่งลงไป”จ้านเฉิงอิ้นเขียนลงด้านหลังกระดาษ “โปรดรออีกเวลาหนึ่งถ้วยชา”หมั่นโถวและแพนเค้กต้นหอมเป็นอาหารปรุงสุก เขาต้องวางไว้ในยุ้งฉางที่อยู่ใกล้ห้องครัวสองสามนาทีผ่านไป หมั่นโถวกับแพนเค้กต้นหอมที่แช่แข็งแล้วจำนวนมากก็ไหลลงมาจำนวนเยอะเกินไป ไม่สามารถวางทั้งหมดในยุ้งฉางได้เฉินขุยเอาผ้าใบกันน้ำปิดคลุมและส่งทหารมาเฝ้าก่อนจากไป เขาหยิบแพนเค้กต้นหอมหนึ่งห่อกัดเข้าไปหนึ่งคำ กลิ่นหอมเข้มข้นของต้นหอมแตกกระจาย“ท่านแม่ทัพ แพนเค้กต้นหอมหอมมาก!”“ข้าแนะนำให้ทหารนำติดตัวสองห่อเวลาออกรบ พกน้ำอีกสองขวด เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่สามารถกลับมาได้ทันการณ์ จะได้ไม่หิวตายในเวลาสั้น ๆ”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ดี เจ้าให้คนนำไปแจกจ่ายซะ”เฉินขุยฉีกยิ้มเริงร่า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”เมื่อก่อนเวลาท่านเทพส่งหมั่นโถวกับแพนเค้กต้นหอมให้หนึ่งล้านชิ้น พวกเขาก็อาจตะลึงครู่หนึ่งช่วงนี้เสบียงอาหารที่ท่านเทพให้มีจำนวนมากเกินไป จน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 76

    จ้านเฉิงอิ้นดีใจเช่นกัน ผลลัพธ์ของเสื้อเกราะกระสุน ดีเกินกว่าที่เขาคาดไว้แผ่นเหล็กสองแผ่น สามารถช่วยชีวิตของทหารในจำนวนที่นับไม่ถ้วนได้“แพร่คำสั่งลงไป ทหารที่บุกโจมตีเมืองตอนเย็น มารับเสื้อเกราะกันกระสุนคนละหนึ่งตัว”เหอหง เฉินจวิ้นหลินที่เป็นคนนำทัพ ใบหน้าเผยความดีใจพร้อมกับคุกเข่าครึ่งตัวและคารวะ“ขอรับ ท่านแม่ทัพพวกเราจะกลับมาพร้อมกับชัยชนะ”จ้านเฉิงอิ้นเดินมาถึงข้าง ๆ พวกเขาและตบไหล่ของพวกเขาอย่างหนักแน่นตอนเย็นเป็นศึกหนัก สองศึกที่ปะทะเมื่อคืนพวกเขาได้รับชัยชนะเพราะอาศัยระเบิดระเบิดถูกใช้จนหมด ตอนเย็นจึงจำต้องสู้อย่างหนักหน่วงโดยไร้อาวุธเสริมจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ดี ตอนเย็นกลับมาพร้อมกับชัยชนะ ข้าจะปรึกษากับท่านเทพ มอบรองเท้ากีฬาให้คนละหนึ่งคู่เป็นรางวัล”“ขอบคุณท่านแม่ทัพ”พวกเขานำคนไปรับเสื้อเกราะกันกระสุนเวลาผ่านไปไม่นาน เสบียงอาหารสี่ล้านชั่งก็มาถึงเหล่าทหารได้ยินสี่ล้านชั่ง ครั้งนี้ช่างเป็นจำนวนมากมายมหาศาลยิ่งนัก มากกว่าครั้งที่แล้วเสียอีกแม่ทัพหลายคนดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ดวงตากลับแดงก่ำพวกเขามีชีวิตรอดจากสภาพที่หิวโหยเหลือเพียงลมหายใจโรยรินจนมาถึงวันที่โก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 77

    หลังจากที่จ้านเฉิงอิ้นตัดสินใจออกรบด้วยตนเอง เหล่าแม่ทัพก็กล่าวห้ามไม่ควรเกิดอุบัติเหตุใดกับจ้านเฉิงอิ้นหากเขาเสียชีวิต จะไม่มีผู้ใดติดต่อกับท่านเทพได้อีกสิ่งที่ท่านเทพมอบให้กองทัพตระกูลจ้านจะหยุดลงทันทีพวกเขาไม่อาจลงเดิมพันสิ่งนี้ได้!ตรงหว่างคิ้วของจ้านเฉิงอิ้นเผยความโอหังของวัยหนุ่ม“ข้าออกศึกตั้งแต่อายุสิบหก ร่วมรบในสงครามนับไม่ถ้วน”“และวันนี้พวกเราพึ่งได้เพียงระเบิด ในฐานะผู้นำทัพ ข้ายิ่งควรทำตัวให้เป็นแบบอย่าง”“ออกศึกฆ่าศัตรู ข้าจะหลบอยู่ข้างหลังได้อย่างไร!”“วางใจเถิด มีเสื้อเกราะกันกระสุนกับชุดเกราะ ข้าไม่เป็นอะไรแน่”ทุกคนยังอยากกล่อมห้าม เฉินอู่เฉินขุยจึงห้ามพวกเขาแม่ทัพมีประสบการณ์ออกรบมากกว่าของพวกเขานำมารวมกันอีก เขาคือหนิงกวนโหว บรรดาศักดิ์ได้มาด้วยผลงานการรบของตนเองต่อให้จำนวนคนต่างกันมาก~อาวุธล้ำหน้ากว่า เผ่าหมานไม่มีผู้นำทัพ กองทัพตระกูลจ้านก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้“ขอรับ ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”เหล่าทหารคุกเข่าลง “ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”จ้านเฉิงอิ้นตะโกนสนั่นเสียง “ดี!”เขาเปลี่ยนเสื้อเกราะกันกระสุน

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 395

    ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 394

    บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 393

    ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 391

    ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนายปรากฏตัวขึ้นมาพวกเขาติดอุปกรณ์สมบูรณ์แบบ กำลังถือดาบม่อเตาและดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง พร้อมแบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา กำลังคนและม้าสองแสนนายกำลังพุ่งเข้ามาด้วยทีท่าดุเดือดครั้นเยี่ยนเย่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง ก็พลันหันหน้ากลับไปเห็นเฉินขุย เฉินอู่และซ่งตั๋วนำกำลังคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา!มู่ซาตะโกนเสียงดัง “พวกเขาออกมาจากไหน? เหตุใดถึงมาขวางทางหนีทีไล่เรา?”เจียงเหว่ยด่ากราดอย่างเดือดดาล “ข้ารู้อยู่แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หนึ่งคิดกลอุบายไม่เป็น สองนำทหารสู้รบไม่เป็น กระทั่งสถานการณ์ข้าศึกแข็งแกร่งเราอ่อนแอก็ยังไม่รู้”“ข้าเคยบอกแล้วอย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสเหมาะในการฆ่าจ้านเฉิงอิ้น ตอนนี้จบเห่แล้ว กลับกันตอนนี้ยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายอีก!”เกาอี้ผู้บัญชาการแคว้นฉีกล่าวขึ้นทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟว่า “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว คิดหาวิธีฝ่าวงล้อมก่อน กองทัพตระกูลจ้านสองพันนายเรายังรับมือไม่ได้ ตอนนี้กองทัพตระกูลจ้านยกทัพมาทั้งกองทัพ พวกเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่หรือ? ยังจะมาทะเลาะกันเอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 390

    ส่วนที่แข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นคือ ทหารผ่านศึกในกองทัพของเขาล้วนมีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดาเกราะและอาวุธของกองทัพตระกูลจ้านมีคุณภาพสูง สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบนอกจากนี้ การซื้อใจชาวบ้านสี่ร้อยคนที่ถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบยิ่งขึ้นอุปกรณ์และระเบิดเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาขยายกว้างขึ้นหากเป็นเมื่อครู่ พวกเขายังกล้ายืนยันได้อย่างมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นต้องตายอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ ความหวังที่จะชนะเลือนลางลงบางคนเริ่มอยากล่าถอย เพราะไม่ต้องการไปตายขณะที่เจียงเหว่ยถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกลับถูกทหารของเยี่ยนเย่ขวางทางไว้เยี่ยนเย่นำกองทัพหนึ่งแสนคน โดยมีห้าหมื่นคนคอยติดตามอยู่ข้างกายหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเยี่ยนเย่ พร้อมทั้งจับตาดูความเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลาเสียงเยียบเย็นของเยี่ยนเย่ดังขึ้น “แม่ทัพแคว้นฉู่กำลังจะไปไหนหรือ?”“ในเมื่อทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารจ้านเฉิงอิ้น เจ้าจะถอนตัวเองไปโดยพลการได้อย่างไร”“วางใจเถอะ ต่อให้ต้องบุกทะลวง กองทัพแคว้นเยี่ยนของข้าจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 389

    ซุนหลินพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “กินได้สิ!”พูดจบ เขาหยิบมันเทศขึ้นมาเช็ดกับเสื้อ แล้วหักออก...เนื้อสีม่วงแดงของมันเทศก็เผยออกมากลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันเทศลอยออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนซุนหลินกลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ เขาเลยกัดไปคำหนึ่ง เนื้อกรอบหวานละมุนใจ“อร่อยจริงๆ!”“มันเทศสามารถนำไปปิ้งหรือนึ่งก็ได้ หรือจะใช้ต้มทำเป็นโจ๊ก หรือข้าวมันเทศก็ได้... มีวิธีกินเยอะแยะ ทั้งหวานทั้งเหนียว หอมอร่อยมาก!"จากนั้นเขาก็ยื่นมันเทศให้ซุนเฮ่อ “ลุงสาม ลองชิมดูสักคำสิ”ซุนเฮ่อชะงักเล็กน้อยก่อนรับมันเทศมาลองกัดคำหนึ่งทันทีที่กัดเข้าไป เขาเบิกตากว้างกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หวานจริง ๆ แถมยังมีน้ำในเนื้ออีก กรอบมาก...”เขาพูดพร้อมเคี้ยวอีกสองสามคำ “อร่อยมาก!”ซุนหลินยิ้มอย่างภูมิใจ “อร่อยใช่ไหมล่ะ! ที่ด่านเจิ้นกวนของเราปลูกมันเทศไว้มากกว่าหมื่นหมู่ ต่อไปนี้ทุกคนก็จะได้กินกันทั่วหน้า!”เหล่าชาวบ้านต่างพากันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ขณะฟังซุนหลินกล่าว “หมื่นหมู่ นั่นเป็นพื้นที่กว้างขนาดไหนกันนะ!”“ไร่นาทุกผืนล้วนมีน้ำรดได้ แม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนน้ำเลยจริงๆ!”“คำพูดของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 388

    ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status