เฉินขุยพูดไม่ทันจบบท ขนมและลูกกวาดก็ร่วงลงมารอบแจกันอีกมากมาย...ปริมาณและความหลากหลายมีมากกว่าที่ให้เด็ก ๆ เมื่อวานหางตาของเฉินขุยยังมีคราบน้ำตา ริมฝีปากกล่าวขอบคุณต่อท่านเทพมือเปิดเป็ดรมควันห่อหนึ่งและหักขาเป็ดลิ้มรสชาติโดยไม่ให้เสียเวลาจู่ ๆ รูม่านตาของเขาก็ขยายกว้าง โห อร่อยมากจริง ๆ!เขาหักขาเป็ดอีกข้างหนึ่งให้ฮูหยินทีแรกฮูหยินไม่ยอมกิน แต่เฉินขุยยัดใส่ที่มือนางนางใช้แขนเสื้อปิดปากแล้วชิมคำหนึ่งรสชาติเข้มข้น หมักด้วยเครื่องเทศหลายชนิดอร่อยมาก!เป็นรสอร่อยที่พ่อครัวหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่ก็ไม่สามารถทำได้!อาหารมาก่อน เฉินขุยยัดเป็ดรมควันสองห่อให้ฮูหยินโดยไม่สนใจว่าจ้านเฉิงอิ้นยังอยู่ ตีนไก่ไร้กระดูกหนึ่งห่อ ไข่นกกระทาหนึ่งห่อเมื่อเห็นว่าเขากระทำการเหิมเกริม ฮูหยินรีบกล่าวห้ามแต่จ้านเฉิงอิ้นกลับพูด “ยังมีอีกมาก ให้เด็ก ๆ กินเถอะ!”เฉินขุยตะคอกฮึ่ม “ท่านเทพมอบทั้งหมดนี้ให้มั่วฝาน เมื่อวานมั่วฝานเอาลูกอมไปแล้วไม่ใช่หรือ วันนี้พวกเราเอากลับสองสามห่อ ถือว่าเท่าเทียมกัน”หลังจากพูดจบ เฉินขุยหยิบเนื้อแดดเดียว หมูแผ่น ถั่วธัญพืชอีกสองสามห่อ...ให้ฮูหยินอ้อมอกของฮูหยิ
รถบรรทุกคันใหญ่สามคันมีหม้อไฟอุ่นเอง ไส้กรอกรมควัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำแร่...ซาลาเปา แพนเค้กต้นหอมอย่างละห้าแสนชิ้น!เสื้อกันกระสุน แผ่นเหล็กกันกระสุนหนึ่งหมื่นห้าพันชุด!รองเท้าผ้าห้าหมื่นคู่!เมื่อเฉินขุยเห็นจำนวนของบนกระดาษแผ่นเล็ก นิ้วมือพลางสั่นไม่หยุดเขาดีใจเป็นอย่างมาก“ดีจริง ๆ ท่านแม่ทัพ เสบียงอาหารพวกนี้บวกกับเสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อสองวันก่อน สามารถเลี้ยงทหารและชาวบ้านทั้งเมืองได้เป็นปีกว่า!”เขาอยากรู้มากว่าเสื้อเกราะกันกระสุนและแผ่นเหล็กกันกระสุนเป็นของลักษณะอย่างไรสามารถป้องกันการยิงทะลุจากลูกธนูได้จริงหรือไม่?หากแผ่นเหล็กกันกระสุนแข็งดั่งหินผา เช่นนั้นทหารที่ไม่มีเสื้อเกราะก็ปกป้องหัวใจได้เมื่ออยู่ในสนามรบก็สามารถมีชีวิตรอดกลับมาของสิ่งนี้สำคัญมากและจำเป็นมากในกองทัพจ้านเฉิงอิ้นเร่งเร้า “รีบไป คลังสรรพาวุธและโกดังเสื้อเกราะกันกระสุนต้องปิดไม่ให้ผู้ใดเห็น ในเมืองยังมีสายลับ ต้องระวังให้มาก!”เฉินขุย “ขอรับ ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”เขาเดินออกไปพร้อมกับองครักษ์อย่างรวดเร็วจ้านเฉิงอิ้นมองรองเท้า ถุงเท้า ขนม และสายตาสุดท้ายตกที่รองเท้าแตะ
รองเท้าส่งมาให้แล้วห้าหมื่นคู่ ทั้งหมดสองพันห้าร้อยลังใส่ไว้เต็มพื้นที่กระโจมใหญ่ เมื่อไม่มีที่วาง กล่องลังจึงกลิ้งออกมาจากข้างในกระโจมจำนวนไม่น้อยทหารสิบนาย มีแต่มั่วฝานที่ไม่อยู่...ตั้งแต่หยิบขนมและรองเท้าที่จวนเฉินขุยไปเขาก็ไม่กลับค่ายทหารอีกเลยเฉินอู่มองกล่องลังรองเท้าแต่ละลังด้วยสายตาแดงก่ำนี่มันคือรองเท้าทั้งนั้น!รองเท้าหลายคู่ของเขาขาดรุ่ยหมดแล้ว ทั้งซ่อมและเย็บ ผิวรองเท้าก็ปะแล้วหลายชั้นรองเท้าผ้าใบที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานล้ำค่าเกินไป เขารู้สึกเสียดายที่จะใส่คิดไม่ถึงว่าวันนี้ท่านเทพส่งรองเท้าใหม่มาให้อีกเขาแกะลังอย่างอดรนทนไม่ไหวรองเท้าผ้าสีน้ำเงินกรมท่าปักลายดอกไม้งามหนึ่งคู่ปรากฏขึ้นในสายตาผิวรองเท้าทำจากผ้าฝ้ายหนา ด้านในรองเท้าบุด้วยแผ่นรองรองเท้าหนึ่งชั้น พื้นรองเท้ามียางนุ่มกันลื่น...เขาถอดรองเท้าเกี๊ยะออกแล้วลองสวมรองเท้าผ้าสบายมาก เบากว่ารองเท้าที่ท่านเทพให้เมื่อวานนี้อีกเขาเดินไปมาสองสามก้าวและยังกระโดดอีกสองสามครั้ง“รองเท้าคู่นี้ดี ใส่สบายพอดีเท้า”“ท่านแม่ทัพ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าผ้า ก็ใส่สบายกว่ารองเท้าเกี๊ยะของพวกเราทั้งนั
เพียงควักเงินครอบครัวออกมาและเหลือสำหรับค่าเดินทางกลับบ้านเกิดเล็กน้อย ก็สามารถปิดเรื่องกินเนื้อคนได้ครอบครัวผู้เสียหายจะได้รับค่าชดเชยเป็นข้าวสารยี่สิบชั่งหนึ่งถุง แป้งสิบชั่งหนึ่งถุงเสบียงอาหารเหล่านี้ ทุกคนในครอบครัวสามารถกินได้ถึงสามเดือน ดังนั้นย่อมไม่มีการก่อเรื่องอีกเรื่องดังกล่าวก็สามารถข้ามผ่านไปได้อาหลี่คิดว่าเจ้าหนุ่มเว่ยกวงผู้นี้เป็นคนมีความสามารถให้เขาอ่านตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ หนังสือเทพข้ามกาลเวลาสามชุดที่ท่านเทพส่งมาให้ในเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วัน เว่ยกวงอาศัยความมีคารมคมคายและเสน่ห์ส่วนตนตั้งหลักในจวนแม่ทัพได้อย่างมั่นคงแม่ทัพสั่งให้เถียนฉินส่งรองเท้ากลับมาหนึ่งลัง เถียนฉินรู้สึกว่าหนึ่งลังไม่เพียงพอสำหรับเด็กกำพร้าเหล่านั้นเขาหยิบไปสองกล่องลังเมื่อกลับถึงจวนแม่ทัพ เขาเห็นเว่ยกวงยืนอยู่ที่ประตูจึงมอบกล่องลังให้กับเขา“ข้างในเป็นรองเท้า เจ้าให้ทุกคนไปแบ่งกัน แต่ละคนหยิบคนละหนึ่งคู่ ส่วนที่เหลือนำไปเก็บที่ห้องโกดัง”เว่ยกวงมองรองเท้าแล้วมองเท้าของตนเอง เขาไม่ได้สวมรองเท้ามานานมากแล้วเหยียบบนทรายร้อนทุกวัน จนฝ่าเท้าขึ้นตุ่มที่แข็งและหนาเขาเป็นเด็กกำ
เมื่อเริ่มแจกรองเท้า บรรดาทหารผ่านศึกและทหารใหม่ก็เข้าแถวรับรองเท้าจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าข้างใต้แจกันมีกระดาษ“หมั่นโถวห้าแสนลูก แพนเค้กต้นหอมห้าแสนชิ้นมาถึงแล้ว ข้าเตรียมส่งลงไป”จ้านเฉิงอิ้นเขียนลงด้านหลังกระดาษ “โปรดรออีกเวลาหนึ่งถ้วยชา”หมั่นโถวและแพนเค้กต้นหอมเป็นอาหารปรุงสุก เขาต้องวางไว้ในยุ้งฉางที่อยู่ใกล้ห้องครัวสองสามนาทีผ่านไป หมั่นโถวกับแพนเค้กต้นหอมที่แช่แข็งแล้วจำนวนมากก็ไหลลงมาจำนวนเยอะเกินไป ไม่สามารถวางทั้งหมดในยุ้งฉางได้เฉินขุยเอาผ้าใบกันน้ำปิดคลุมและส่งทหารมาเฝ้าก่อนจากไป เขาหยิบแพนเค้กต้นหอมหนึ่งห่อกัดเข้าไปหนึ่งคำ กลิ่นหอมเข้มข้นของต้นหอมแตกกระจาย“ท่านแม่ทัพ แพนเค้กต้นหอมหอมมาก!”“ข้าแนะนำให้ทหารนำติดตัวสองห่อเวลาออกรบ พกน้ำอีกสองขวด เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่สามารถกลับมาได้ทันการณ์ จะได้ไม่หิวตายในเวลาสั้น ๆ”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ดี เจ้าให้คนนำไปแจกจ่ายซะ”เฉินขุยฉีกยิ้มเริงร่า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”เมื่อก่อนเวลาท่านเทพส่งหมั่นโถวกับแพนเค้กต้นหอมให้หนึ่งล้านชิ้น พวกเขาก็อาจตะลึงครู่หนึ่งช่วงนี้เสบียงอาหารที่ท่านเทพให้มีจำนวนมากเกินไป จน
จ้านเฉิงอิ้นดีใจเช่นกัน ผลลัพธ์ของเสื้อเกราะกระสุน ดีเกินกว่าที่เขาคาดไว้แผ่นเหล็กสองแผ่น สามารถช่วยชีวิตของทหารในจำนวนที่นับไม่ถ้วนได้“แพร่คำสั่งลงไป ทหารที่บุกโจมตีเมืองตอนเย็น มารับเสื้อเกราะกันกระสุนคนละหนึ่งตัว”เหอหง เฉินจวิ้นหลินที่เป็นคนนำทัพ ใบหน้าเผยความดีใจพร้อมกับคุกเข่าครึ่งตัวและคารวะ“ขอรับ ท่านแม่ทัพพวกเราจะกลับมาพร้อมกับชัยชนะ”จ้านเฉิงอิ้นเดินมาถึงข้าง ๆ พวกเขาและตบไหล่ของพวกเขาอย่างหนักแน่นตอนเย็นเป็นศึกหนัก สองศึกที่ปะทะเมื่อคืนพวกเขาได้รับชัยชนะเพราะอาศัยระเบิดระเบิดถูกใช้จนหมด ตอนเย็นจึงจำต้องสู้อย่างหนักหน่วงโดยไร้อาวุธเสริมจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ดี ตอนเย็นกลับมาพร้อมกับชัยชนะ ข้าจะปรึกษากับท่านเทพ มอบรองเท้ากีฬาให้คนละหนึ่งคู่เป็นรางวัล”“ขอบคุณท่านแม่ทัพ”พวกเขานำคนไปรับเสื้อเกราะกันกระสุนเวลาผ่านไปไม่นาน เสบียงอาหารสี่ล้านชั่งก็มาถึงเหล่าทหารได้ยินสี่ล้านชั่ง ครั้งนี้ช่างเป็นจำนวนมากมายมหาศาลยิ่งนัก มากกว่าครั้งที่แล้วเสียอีกแม่ทัพหลายคนดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ดวงตากลับแดงก่ำพวกเขามีชีวิตรอดจากสภาพที่หิวโหยเหลือเพียงลมหายใจโรยรินจนมาถึงวันที่โก
หลังจากที่จ้านเฉิงอิ้นตัดสินใจออกรบด้วยตนเอง เหล่าแม่ทัพก็กล่าวห้ามไม่ควรเกิดอุบัติเหตุใดกับจ้านเฉิงอิ้นหากเขาเสียชีวิต จะไม่มีผู้ใดติดต่อกับท่านเทพได้อีกสิ่งที่ท่านเทพมอบให้กองทัพตระกูลจ้านจะหยุดลงทันทีพวกเขาไม่อาจลงเดิมพันสิ่งนี้ได้!ตรงหว่างคิ้วของจ้านเฉิงอิ้นเผยความโอหังของวัยหนุ่ม“ข้าออกศึกตั้งแต่อายุสิบหก ร่วมรบในสงครามนับไม่ถ้วน”“และวันนี้พวกเราพึ่งได้เพียงระเบิด ในฐานะผู้นำทัพ ข้ายิ่งควรทำตัวให้เป็นแบบอย่าง”“ออกศึกฆ่าศัตรู ข้าจะหลบอยู่ข้างหลังได้อย่างไร!”“วางใจเถิด มีเสื้อเกราะกันกระสุนกับชุดเกราะ ข้าไม่เป็นอะไรแน่”ทุกคนยังอยากกล่อมห้าม เฉินอู่เฉินขุยจึงห้ามพวกเขาแม่ทัพมีประสบการณ์ออกรบมากกว่าของพวกเขานำมารวมกันอีก เขาคือหนิงกวนโหว บรรดาศักดิ์ได้มาด้วยผลงานการรบของตนเองต่อให้จำนวนคนต่างกันมาก~อาวุธล้ำหน้ากว่า เผ่าหมานไม่มีผู้นำทัพ กองทัพตระกูลจ้านก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้“ขอรับ ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”เหล่าทหารคุกเข่าลง “ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”จ้านเฉิงอิ้นตะโกนสนั่นเสียง “ดี!”เขาเปลี่ยนเสื้อเกราะกันกระสุน
พลยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินสองสามคน คลานไปข้างหน้า เข้าใกล้หอสังเกตการณ์ช้า ๆชักคันหน้าไม้ ยิงทหารรักษาการณ์ที่ยืนอยู่ข้างบนหอสังเกตการณ์ตายกองทัพใหญ่เดินหน้าต่อ เมื่อใกล้จะเข้าใกล้ฐานที่ตั้งทัพเผ่าหมาน จ้านเฉิงอิ้นประกาศคำสั่ง “หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเตรียมพร้อม…”หน้าไม้ราชวงศ์ห้าพันคัน กองกำลังสองกองทัพแบ่งกองละสองพันห้าร้อยเล่มหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินตั้งครหน้าไม้ราชวงศ์ฉินขึ้นพร้อมกับวางปีกลูกธนูไว้สายจ้านเฉิงอิ้นประกาศดังลั่น “ยิงธนู!”สวบ ๆ ๆ…เสียงทะลวงอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนดังออกมา ปีกลูกธนูลอยอยู่ในอากาศอย่างหนาแน่นและมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของเผ่าหมานกระโจมที่คนเผ่าหมานปักหลักตั้งอยู่ ถูหลูกธนูยิงตรงผ่านเข้าสู่กระโจมราวกับเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัยทหารเผ่าหมานที่หลบอยู่ข้างในกระโจมชักดาบพุ่งออกมาวินาทีถัดมา ก็ถูกลูกธนูยิงทะลุทันที“ทหาร รีบเตรียมรบเร็วเข้า จ้านเฉิงอิ้นบุกเข้ามาแล้ว!”“ทุกคนจงตั้งรับการรบให้พร้อม!”“เร็ว รีบวิ่งเร็วเข้า จ้านเฉิงอิ้นบุกเข้ามาอีกแล้ว!”หลายคนถูกยิงตายทันทีที่ออกจากกระโจมคนอีกมากมายที่อยู่ในกระโจมวิ่งสวนกันไปมาราวแมลงวันไร้หัวพว
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด