จ้านเฉิงอิ้นดีใจมาก ส่งกระดาษแผ่นที่สองมาแบ่งปันความสุขกับเธอ“เหอหง เฉินจวิ้นหลินไปทางประตูทิศใต้ พวกเขาแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยม เฉินจวิ้นหลินเข้าร่วมการรบครั้งแรก แต่ฆ่าศัตรูตายถึงสี่ร้อยกว่าคน เมื่อเทียบกับแม่ทัพเฉินอู่แล้ว ไม่น้อยหน้าเลย!”“ประตูทิศใต้ฆ่าตายทั้งหมดสองหมื่นห้าพันคน ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตายหนึ่งหมื่นห้า ถูกดาบม่อเตาฆ่าตายหนึ่งหมื่น ที่เหลือหนีไปได้ทั้งหมด”“ได้รับม้าศึกมีชีวิตหกร้อยตัว เนื้อม้านับไม่ถ้วน…”“กองทัพเผ่าหมานที่ตั้งค่ายอยู่ทางประตูทิศใต้และเหนือ ถูกพวกเรากำราบทั้งหมด!”“วันนี้ข้ารู้สึกมีความสุขและสนุกสุด ๆ ไม่ได้มีความสุขเช่นนี้มานานมากแล้ว”“ท่านเทพ ข้าขอขอบคุณท่านมาก!”เย่มู่มู่เองก็ดีใจมากเช่นกันหน้าไม้ราชวงศ์ฉินกับดาบม่อเตามีประโยชน์มากถึงขนาดนี้ จำนวนต่างกันมาก อาวุธยุทโธปกรณ์ดี จนฆ่าเผ่าหมานตายได้โดยไม่ต้องลงแรงเยอะวันนี้กองทัพตระกูลจ้านได้รับขวัญกำลังใจขึ้นมามากการต่อสู้สามครั้งนี้เป็นการวางรากฐานให้กับกองทัพตระกูลจ้านขณะเดียวกันก็เป็นการประกาศว่า กองทัพใหญ่ของเผ่าหมานกำลังจะถึงจุดสิ้นสุดถ้าหากพวกเขาฉลาดหน่อย ก็ควรรู้ตัวว่าต้อ
“ใช่ ข้าเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าด่านเจิ้นกวนดีแค่ไหน มีเสบียงอาหารกินไม่หมด โจมตีกองทัพเผ่าหมานสามครั้งชนะสามครั้ง วันนี้ฆ่าเผ่าหมานตายหนึ่งแสนคนภายในวันเดียว”“ฆ่าตายหนึ่งแสนคนในวันเดียว อย่าว่าแต่เผ่าหมานในม่อเป่ย แม้แต่ในแผ่นดินจงหยวน ก็มีการรบที่ถูกตีย่อยยับเช่นนี้น้อยมาก”แม้ว่ากองทัพตระกูลจ้านจะล้มตายไปหนึ่งแสนแปดหมื่นคน แต่ก็ไม่ได้ตายในการรบเพียงสนามเดียวในหนึ่งปีนี้เผ่าหมานบุกโจมตีอย่างต่อเนื่อง กองทัพตระกูลจ้านทำได้แต่ตั้งรับและป้องกันเท่านั้นพวกเขาตายเพราะพิทักษ์ประตูเมืองต่างหาก!สงครามสามครั้งนี้ เกรงว่าไม่นานคงแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินหัวเซี่ยคนเหล่านั้นที่คิดจะลงมือกับแคว้นฉี่ จ้องจะเขมือบแคว้นฉู่กับแคว้นฉี ก็ควรจะใตร่ตรองความสามารถของตนด้วยว่าสามารถขอผลประโยชน์จากภายใต้การบัญชาของจ้านเฉิงอิ้นได้หรือไม่เขาคือเทพสงครามที่เก่งกาจทรงพลังที่สุดในยุคนั้น คำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเขาของคนยุคหลังกล่าวไว้ไม่มีผิดเหล่าประชาชนยืนล้อมจ้านเฉิงอิ้นพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นด้วยความตื้นตัน“แม่ทัพ ขอบคุณท่านที่พิทักษ์ด่านเจิ้นกวนและปกป้องชาวบ้านไว้ได้”“แม่ทัพ หากไม่ใช่ท่าน คนอย่า
วันนี้ได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ กองทัพสามแสนนายของเผ่าหมาน เหลือเพียงสองแสนนายเท่านั้นตอนจ้านเฉิงอิ้นโจมตี กองทัพเผ่าหมานมีกำลังเสริมมาช่วย ทว่าถูกหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินตีจนล่าถอยขณะนั้นลูกธนูเหลือเพียงสองหมื่นดอก หากพวกเขากล้าฝ่าลูกธนูเข้ามา ทางประตูทิศใต้และทิศเหนือคงไม่เจ็บสาหัสแต่พวกเขากลับล่าถอยเพราะกลัวถูกธนูยิงตาย ยิ่งกลัวถูกระเบิดจนบาดเจ็บ!ต้องทนเห็นทัพประจำการประตูทิศใต้และเหนือ ถูกกองทัพตระกูลจ้านที่มีเพียงแปดพันคนถล่มตอนจ้านเฉิงอิ้นเก็บกวาดสนามรบ ทัพเสริมได้แต่มองดูไกล ๆ ไม่กล้ารุกล้ำเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียวดังนั้น ทัพของจ้านเฉิงอิ้นจึงถอยออกมาอย่างปลอดภัยวันนี้ทั้งสามศึกต่างได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่!กองทัพตระกูลจ้าน มีคนล้มตายหนึ่งพันกว่าคน บาดเจ็บอีกสองพันกว่าคนซ่งอวิ๋นฮุยเข้ามาในกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ในมือเขาสวมถุงมือสีขาวชั้นบาง ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ“ยาใกล้จะไม่พอใช้แล้ว รีบขอยากับท่านเทพ ยาแก้อักเสบ ยาห้ามเลือด โดยเฉพาะยาฉีด เร็วเข้า!”“ได้!”จ้านเฉิงอิ้นเขียนแผ่นกระดาษแล้วใส่เข้าไปในแจกันดอกไม้เสร็จแล้ว หันไปสั่งให้ซ่งตั๋วดูแลทหารบาดเจ็บให้ดีส่ว
คิ้วชายฉกรรจ์กระตุก ก่อนจะฟาดไพ่ลงบนโต๊ะ ไม่เล่นแล้วเขาถือโทรศัพท์เดินออกจากห้องน้ำชาแล้วหาที่ปลอดคน “สี่เท่า คุณแน่ใจนะว่าจะซื้อในราคาสี่เท่า?”“ใช่ ยาแก้อักเสบและแก้ปวดก็จะซื้อด้วย”“ยาชาเอาหรือเปล่า?”“เอา!”“ผมขายยาให้คุณได้ แต่คุณช่วยเขียนหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้ได้หรือเปล่า”ชายฉกรรจ์อธิบายต่อ “คุณซื้อยาโดยไม่ใช่โรงพยาบาล เกิดมีคนตาย แล้วมาเอาผิดกับผมจะทำยังไง?”“ได้ ฉันจะเซ็นหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้”ฝ่ายโรงงานยานัดเจอเธอที่โกดังของเขาเขาขนยาปฏิชีวนะ ยาบาดทะยัก ยาแก้อักเสบและยาแก้ปวด รวมถึงยาชาอีกสองลัง...จากนั้นครึ่งชั่วโมง เย่มู่มู่ก็มาถึงโกดังของโรงงานยาเมื่ออีกฝ่ายเห็นเย่มู่มู่ที่อายุยังน้อย และหน้าตาสวยงามจึงถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณมาซื้อยาเหรอ?”“ใช่ค่ะ พี่ชาย”“คุณลองดูสิ ยาพวกนี้พอไหม?”ยาทั้งหมดสามสิบกว่าลัง หนึ่งลังมียี่สิบถึงห้าสิบกล่อง“มีหัวเข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา ถุงมือปลอดเชื้อ หน้ากากอนามัยหรือเปล่า?” “รอก่อน”พี่ชายหันหลังเดินเข้าไปในโกดัง แล้วขนออกมาอีกหลายลังเขาเอาหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบออกมา“เซ็นชื่อสิ ต้องทำการทดสอบทางผิวห
เมื่อเห็นเย่มู่มู่ไม่ยอมลงจากรถ เหลียงชุ่ยฮวาใช้ไม้เท้าเคาะหน้ารถเธอเสียงดังลั่นแม้รถกระบะคันใหญ่จะทนทาน แต่หน้ารถถูกเคาะจนสีรถถลอกสิ่งที่ทำให้เย่มู่มู่ทนไม่ได้มากที่สุด คือเสียงดังครืนครานที่ดังขึ้นจากหน้ารถเหลียงชุ่ยฮวา ลุงใหญ่ อารอง อาสามล้วนแต่กำลังด่าทอเธอลุงใหญ่ตำหนิเธอเสียงดัง“เย่มู่มู่ เธอนี่มันเนรคุณแล้งน้ำใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีในตอนนี้ ล้วนแย่งมาจากเย่ซินทั้งนั้น”“เดิมทีสมบัติทั้งหมดของพ่อเธอยกให้เย่ซินหมดแล้ว แต่เธอนี่สิ กลับให้ทนายมาฟ้องพวกเรา จะยึดบ้านและรถกลับไป”“หนำซ้ำยังคิดจะยึดคฤหาสน์ของพี่ชายเธอกลับไปอีก ถ้าพี่ชายเธอไม่มีบ้าน แล้วจะแต่งเมียยังไง?” “เธอทำให้พี่ชายเธอติดคุกหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้เธอรีบโอนหุ้นของบริษัทให้พี่ชายเธอเลยนะ แล้วขอโทษขอขมาเขาอย่างจริงใจ” “เขาจะเห็นแก่พ่อเธอ แล้วดูแลเธออย่างดี”ย่าของเธอด่าทอเสียงดัง “นังเด็กสารเลว ลงมา ลงมาคุกเข่าให้ฉันเดี๋ยวนี้!”“แกคิดว่าหลบอยู่ในรถแล้วพวกฉันจะทำอะไรไม่ได้เหรอ? วันนี้ฉันจะให้พวกเขาทำลายรถซะ แกต้องลงมาคุกเข่าให้ฉัน”อารองยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบ“มู่มู่ หนูให้ทนายมาฟ้องพว
“เหอะ ๆ ผมมีวิธีของผม ให้คนไปจับตัวมา แล้วพาไปจัดการตรงที่ปลอดคนสักยก”“ถ้ายังไม่เชื่อฟัง ก็ติดประกาศชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน ชื่อครูประจำชั้นของลูกพวกเขา...โดยทั่วไป เมื่อมาถึงขั้นนี้ คนพวกนี้ก็จะเชื่องไปเอง” “วิธีนี้อาจไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย”“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก พวกที่หื่นกาม เราก็สืบหาหลักฐานการซื้อประเวณีไปให้เมียเขาดู และส่งให้เจ้านายพวกเขาอีกหนึ่งชุด แค่นี้ก็เรียบร้อย”“หากหาไม่เจอ ก็หาผู้หญิงมาเป็นกับดับก็พอแล้ว!”“ส่วนพวกที่ไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้ พวกเราก็สามารถหาหลักฐานการติดสินบน ทำใบเสร็จปลอม หรือการรับค่าส่วนต่าง”“ผมสนิทกับเจ้าของบ้านภายในย่านดี ภายในเมืองนี้ พวกเรามีสารพัดวิธีครับ”“เมื่อถึงขั้นที่สาม ค่าเสียเวลาเริ่มต้นที่สองล้านห้าขึ้นไป เพราะต้องใช้เส้นสาย ต้องพาไปสังสรรค์”“แต่พวกญาติของคุณเมื่อกี้ ไม่ต้องถึงขั้นที่สามหรอกครับ แค่ขั้นแรกก็สงบเสงี่ยมแล้ว ผมขอแค่ห้าแสนครับ”เย่มู่มู่มองสำรวจผู้จัดการนิติบุคคลอย่างจริงจังภายในย่านมีคฤหาสน์สองร้อยกว่าหลัง ราคาบ้านสูง ค่าส่วนกลางจึงแพงไปด้วยคนที่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ ล้วนเป็นบุคคลร
เย่มู่มู่พิงราวกั้นอยู่สักครู่ หลังจากรู้สึกดีขึ้น จึงใช้พลังจิตส่งน้ำต่อไปครั้งนี้ ระดับน้ำลดลงประมาณครึ่งเมตรสีหน้าของเธอขาวซีด แผ่นหลังเปียกชื้นเหงื่อ ฝืนไม่ไหวอีกต่อไปเธอหยุดพักสักครู่ แล้วอุ้มแจกันดอกไม้ขึ้นมา ก้าวขาที่อ่อนแรงเดินไปที่คฤหาสน์ตอนเดินไปที่บ่อน้ำ เธอหันมองบ่อน้ำ ด้านในยังเต็มอยู่เธอเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายในคฤหาสน์ แล้วล้มลงบนโซฟา เหนื่อยจนลืมตาไม่ขึ้นมีกระดาษแผ่นหนึ่งหล่นลง แต่เธอไม่ทันสังเกตเห็น*ด่านเจิ้นกวน ริมแม่น้ำมีโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สองดวงแขวนอยู่ แสงไฟส่องสว่างอย่างมากเมื่อพวกชาวบ้านเห็นน้ำขึ้นสูงกะทันหัน จึงกรูกันเข้าไปที่ริมแม่น้ำชาวบ้านบางคนที่นอนหลับไปแล้ว กลับต้องตื่นเพราะเสียงตะโกนของคนในบ้านส่วนคนแก่ที่เดินไม่ไหว คนในบ้านใช้แผ่นกระดานหามไปจนถึงริมแม่น้ำคนหลายหมื่นคนคุกเข่าลงตรงริมแม่น้ำ มองเห็นน้ำที่ใสสะอาดภายใต้แสงจันทร์ พร้อมคลื่นน้ำที่สะเทือนแผ่วเบาพวกชาวบ้านคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง บางคนแอบเช็ดน้ำตาบางคนร้องไห้เสียงฟัง ร้องจนแทบขาดใจมีน้ำแล้วในที่สุดในแม่น้ำก็มีน้ำแล้ว!สวรรค์มีตา!ในที่สุดก็ผ่านภัยแล้
เย่มู่มู่โทรหาลุงหยางเขาบอกว่าผ่านการชั่งบนเครื่องชั่งรถบรรทุกแล้ว จำนวนถูกต้องเธอจึงโอนยอดเงินที่เหลือให้หัวหน้าฝ่ายขายหัวหน้าฝ่ายขายโทรกลับมาหาเธออย่างดีใจ “คุณเย่ ได้รับยอดเงินแล้วครับ ผ้าใบกันน้ำกับผ้ายีนส์กำลังเร่งการผลิตอยู่ครับ คุณยังต้องการผ้าชนิดไหนอีก โรงงานผมทำให้ได้หมดครับ”“ถ้ามีผ้าสีพื้นราคาถูก เอามาขายให้ฉันได้”“ได้ครับ คุณต้องการเท่าไหร่?”“ต้องการสินค้าในราคาสิบล้าน สีพื้นที่เหมาะกับผู้ชายอย่างสีเนวี่บลู สกายบลู สีดำ สีเขียวทหาร...ต้องการเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือต้องการผ้าสีพื้นที่เหมาะกับผู้หญิง ชมพูอ่อน เหลืองอ่อน สีขาว สีเขียวอ่อน...เรื่องสีคุณจัดการตามความเหมาะสม”“ได้ครับ ผมจะรีบสั่งให้ทางโรงงานผลิตให้”เย่มู่มู่โอนเงินห้าล้านให้เขาเป็นค่ามัดจำหลังจากหัวหน้าฝ่ายขายได้รับเงินมัดจำ เขาแจ้งว่าอีกประมาณสิบวันเศษถึงจะส่งสินค้าได้เย่มู่มู่เตรียมย้ายออกจากคฤหาสน์สักพักอย่างน้อยก็ให้ญาติกระหายเงินพวกนั้นหาเธอไม่เจอชั่วคราวแต่หากจะปล่อยให้บ้านว่าง เธอก็กลัวพวกเขาจะปีนเข้ามายึดบ้านหลังจากครุ่นคิด เธอจึงโทรไปหาป้าหลิวแม่บ้านเก่าของเธอป้าหลิวลาออ
ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั
ด่านเจิ้นกวน...อันที่จริงจ้านเฉิงอิ้นหย่อนจดหมายไปสองฉบับฉบับหนึ่งเป็นเพียงแค่ผิวเผิน ให้ทหารขับรถกลับไปยังด่านเจิ้นกวน ส่งให้หลี่หยวนจงให้เขาอ่านออกมาต่อหน้าทุกคนผ่านการฝึกมาระยะหนึ่ง พวกอู๋ลี่หนึ่งแสนกว่าคน ก็มีท่าทางของทหารประจำการแล้วกลับกันกองกำลังหนึ่งแสนนายไม่ทราบมาจากที่ใดของสวีหวย กลับเกียจคร้านขึ้นเรื่อย ๆเนื่องจากกองกำลังหลักกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่พวกเขาไม่ยอมรับการอบรมของพวกหลี่หยวนจงและเปี้ยนจื่อผิงทว่าให้พวกเขาออกไปจากด่านเจิ้นกวน ออกไปจากสถานที่ที่มีอาหารและน้ำ พวกเขาก็ไม่มีผู้ใดยินดีขณะแจกจ่ายเสบียงทหารในทุกเดือน มาเร็วกว่าใครทั้งสิ้นตามแบบฉบับ ให้ผลประโยชน์เอาหมดให้ทำงาน ขอประทานโทษทำไม่เป็น!มิหนำซ้ำยังไม่ให้ความร่วมมืออีกด้วยอย่างเช่นวันนี้ หลี่หยวนจงอ่านจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นออกมาก็มีคนต่อต้านทันที รองแม่ทัพนามว่าเว่ยโจวรีบเป็นผู้นำคัดค้านขึ้นมา“พวกเราไปโจมตีเผ่าหมาน...ท่านแม่ทัพกำลังล้อเล่นอยู่หรือ?”“เราใช้ชีวิตกันอยู่ดี ๆ เหตุใดต้องไปรนหาที่ตายด้วย?”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าทัพใหญ่ของเผ่าหมานไม่อยู่ในอาณาเขตแคว้นฉี่ หากเข
เหล่าแม่ทัพทั้งหลายรู้สึกว่าเรื่องนี้เหลวไหลเกินไปอย่างน้อยเขาก็เป็นคนเมืองหลวงบนรถม้าก็ยังมีทหารผ่านศึกต่อให้พวกเขาจะไม่เอาไหนเพียงใด ก็ไม่ถึงขนาดหาทางกลับบ้านตัวเองไม่เจอจ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ครอบครัวในเมืองหลวงต้องอพยพก่อน ไม่ต้องพูดถึงมารดาและพี่รองของข้า ทั้งครอบครัวตระกูลเฉิน ครอบครัวของทหารผ่านศึกในเมืองหลวงอีกมากมาย!”“พวกเขาออกรบฆ่าศัตรู ก็เพื่อให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ได้มีชีวิตที่ดี!”“พวกเราไม่ได้ก่อกบฏ ฮ่องเต้น้อยวิกลจริต จะจับพ่อแม่ของพวกเขาไปแขวนคอบนกำแพงเมือง!”เมื่อจ้านเฉิงอิ้นกล่าวจบ เหล่าทหารทั้งหลายก็เงียบงันจริง ฮ่องเต้น้อยสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ทุกคนไม่ต้องท้อแท้ ได้ติดต่อกับเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงที่ด่านเจิ้นกวนไปแล้ว!”“ทันทีที่กองทัพแคว้นเยี่ยนของพวกเผ่าหมานปรากฏตัวในแคว้นต้าฉี่ เปี้ยนจื่อผิงจะนำทหารห้าหมื่นนาย บุกไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยน จัดการราชวงศ์และขุนนางของพวกเขาให้สิ้น!”“หลี่หยวนจงจะนำทัพบุกโจมตีม่อเป่ย แหล่งกำลังพลและที่อยู่ของราชวงศ์ของพวกเขา แล้วสังหารให้หมดอีกครั้ง!”“หากพวกเผ่าหมานแคว้นเยี่ยนไม่กลับไปป
จ้านเฉิงอิ้นมองดูกระดาษที่เย่มู่มู่ส่งกลับมา นางไม่เสียดายคำชมแก่หยางชิงเหอย้ำแล้วย้ำอีกว่า การที่พวกเขารั้งตัวหยางชิงเหอไว้ได้นั้น เป็นการได้เปรียบอย่างมหาศาลส่วนเครื่องมือนั้นที่ยาว ๆ ตรงๆ...กลับกลายเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นไม่เข้าใจ!ให้เฉินขุยและเฉินอู่ดู ทั้งสองหน้าแดงก่ำ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ไม่ยอมมองภาพวาดนั้นก็แค่ล้อสองล้อ กับเครื่องมือยาว ๆ ตรงๆท่านเทพบอกว่าเป็นอาวุธสังหาร!ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายตอบกลับของเย่มู่มู่ให้หยางชิงเหอดูหยางชิงเหอเห็นว่าเงินเดือนประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบห้าล้าน ก็หัวเราะออกมาทันที จนปากแทบจะฉีกถึงหู“ยี่สิบห้าล้าน ฮ่า ๆ ๆ... เงินซื้อบ้านของฉันรวมได้ครึ่งหนึ่งแล้ว!”เหล่าแม่ทัพได้ยินก็พากันอุทานราคาบ้านในโลกของท่านเทพ ช่างสูงลิบลิ่วเสียจริงข้าวสองล้านห้าแสนชั่ง ยังซื้อบ้านไม่ได้สักหลัง!เฉินขุยรู้สึกสงสารนางยิ่งนักก่อนตบอกตัวเองพร้อมกล่าวว่า “แม่นางหยาง ท่านแม่ทัพมีเงิน เดี๋ยวจะให้เครื่องประดับแก่เจ้าสักหน่อย เอาไปเถิด จะได้ครบเงินซื้อบ้าน!”เฉินอู่ก็กล่าวว่า “ข้าก็ยังมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่บ้
คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!
หยางชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางหยุดฝีเท้ามู่ฉีซิวถึงกับจะร่วมมือกับฮ่องเต้ แคว้นเยี่ยน และเผ่าหมาน เพื่อปราบปรามจ้านเฉิงอิ้น...เรื่องนี้ช่างเหลวไหลสิ้นดีแต่ก็สมจริงอย่างยิ่งเป็นเรื่องที่มู่ฉีซิวสามารถทำได้เขาเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหากสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ตัวฉกาจที่สุดอย่างจ้านเฉิงอิ้นได้ ฆ่าให้ตายตั้งแต่ยังอยู่ในเปลไม่ต้องพูดถึงการร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย ต่อให้ต้องไปเป็นชายบำเรอของฮ่องเต้น้อย เขาก็คงจะยอมเขารู้ว่าในโลกนี้ เขาไม่ใช่ผู้ข้ามกาลเวลามาเพียงคนเดียวหยางชิงเหอก็ใช่จ้านเฉิงอิ้นก็ใช่~เขาเห็นโรงงานถลุงเหล็กที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ในใจคงจะหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมถึงได้ร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย!เนื่องจากมีจดหมายลับส่งมา เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว จวงเหลียง เซี่ยเวย จ้าวเฉียน และคนอื่น ๆ...เมื่อได้รับข่าว ก็มายังเรือนพักชั่วคราวของจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายลับให้พวกเขาดูเฉินขุยอ่านก่อนเป็นคนแรกทันใดนั้น ความโกรธก็พุ่งขึ้นถึงกระหม่อม!“ข้าจะนำคนกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ยิงไอ้สุนัขเนรคุณนั่นให้ตาย! ท่านแม่ทัพอุตส่าห์ช่วยเขาปราบปรามกองทัพธงเห
เขาส่งกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้เย่มู่มู่รายการสิ่งของที่หยางชิงเหอต้องการ ทั้งหมดถูกเขียนไว้อย่างครบถ้วนเย่มู่มู่ได้รับกระดาษแผ่นนั้น ก็เปิดออกดูดวงตาก็เบิกกว้าง“สายพานลำเลียงแร่...”ไม่เคยเห็นมาก่อน!“แม่พิมพ์ แม่พิมพ์สำหรับผลิตดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง!”เจ้าของโรงงานผลิตของเลียนแบบโบราณ จะเปิดเผยความลับทางการค้าให้เธอเหรอ?“เชือกลวดเหล็ก อะไรนะ? หลายพันเมตร?”เธอจะไปหาซื้อที่ไหน?“โรงไฟฟ้าดีเซลขนาดเล็ก...”ถ้าเธอมีของแบบนี้ จะต้องซื้อเครื่องปั่นไฟทำไม?“สายไฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ตัวต้านทานไฟฟ้า อุปกรณ์ต่อสาย ท่ออ่อน...”ของพวกนี้ดูเหมือนจะหาซื้อได้ตามท้องตลาด!และหยางชิงเหอก็ได้วาดภาพให้เย่มู่มู่ดูเป็นภาพการขนแร่ลงมาจากยอดเขาใช้ปั้นจั่นหอสูงขนส่งแร่ลงมาทีละตะกร้ายังมีอีกวิธีหนึ่ง คือการขึงเชือกลวดเหล็กไว้บนยอดเขา ใช้รอก และกระบะเลื่อนลงมาจากด้านบนวิธีนี้ยังพอเป็นไปได้มากกว่าปั้นจั่นหอสูง ถึงแม้จะสามารถขนส่งสิ่งของได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ในลักษณะนี้เธอทำเครื่องหมายถูกที่แผนการที่สอง แล้วส่งภาพวาดกลับไปให้จ้านเฉิงอิ้น“แผนการที่สอง ข้าจะหาคนไปทำ!”“จริงสิ หยางชิงเหอไม่ได้บอก
จ้านเฉิงอิ้นก็ตกตะลึงกับราคาบ้านที่หยางชิงเหอพูดถึงเช่นกันไม่คิดว่าโลกของท่านเทพ ราคาบ้านจะสูงลิ่วเช่นนี้หากเขาย้ายไปอยู่ที่นั่น แล้วซื้อบ้านไม่ได้เล่า?เขาจะไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอนท่านเทพจะยังคบหากับเขาอยู่หรือไม่?ไม่ได้ เขาต้องเก็บเงินส่วนตัวไว้บ้าง จะได้ซื้อบ้านได้จะย้ายไปแล้วกลายเป็นคนเร่ร่อน เดินเตร็ดเตร่อยู่ตามถนนไม่ได้เด็ดขาด!เขากล่าวว่า “ได้ หากเจ้าตกลงจะอยู่ต่อหนึ่งปี ข้าจะบอกท่านเทพให้เงินเดือนปีละสิบห้าล้านให้เจ้า! พร้อมทั้งสวัสดิการห้าอย่าง”“หากภายในหนึ่งปีเจ้าทำได้ดี ข้าจะให้รางวัลพิเศษเป็นทองคำหนึ่งหีบ”หยางชิงเหอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่งสิบห้าล้าน แถมด้วยทองคำอีกหนึ่งหีบฮ่า ฮ่า ฮ่า รวยแล้ว!แค่ปีเดียวเอง เธอทำงานให้กับมู่ฉีซิวมาสิบปี มู่ฉีซิวไม่เคยให้สิ่งใดตอบแทนเลยสักอย่างเงินเก็บที่เธอสะสมได้มาจากการทำลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งขาย ให้เสี่ยวเถาแอบนำไปขาย ถึงได้เงินมาบ้างแต่ลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งก็ถูกมู่ฉีซิวค้นพบอย่างรวดเร็ว เขาข่มขู่ให้เธอมอบสูตรให้ และยังห้ามไม่ให้เธอขายข้างนอกอีก เพราะจะไปรบกวนราคาตลาดของเขาและยังสัญญาว่าจะแบ่งผลก
เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับ 985 ผ่านไป 10 ปี ไม่รู้ว่าความสามารถในการแข่งขันในตลาดยังคงมีอยู่หรือไม่มิเช่นนั้น เธอคงต้องหารายได้สักหน่อยก่อนกลับไปถ้าไม่ได้จริง ๆ คงต้องนำวัตถุโบราณไปขายจะกลับไปยุคปัจจุบันมือเปล่าไม่ได้เด็ดขาดมิฉะนั้น สิบปีของวัยสาวจะสูญเปล่า เงินเก็บก็ไม่มี บ้านก็ซื้อไม่ได้ ข้าวก็ไม่มีจะกินแล้วจะกลับไปทำไมกัน!ถ้าเกิดพ่อแม่ถามขึ้นมาว่า สิบปีที่ผ่านมาเธอหายไปไหนจะตอบอย่างไร?เธอพูดกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นว่าในคลังยังมีแม่พิมพ์เก่าอยู่ หากจะสร้างใหม่คงจะยุ่งยาก แต่ข้าสามารถสอนพวกท่านลับแม่พิมพ์ได้!”“แม่พิมพ์นั้นแข็งมาก แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ยังต้องใช้เครื่องจักรกลในการผลิต!”“ข้าจะช่วยพวกท่านสร้างแม่พิมพ์หัวลูกศรของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ท่านจะให้เงินข้าสักหน่อยได้หรือไม่ ข้าจะได้เลื่อนเวลากลับไปอีกสักสองสามวัน!”เหล่าแม่ทัพต่างเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความนัยเดิมทีพวกเขาอยากจะรั้งตัวแม่นางหยางไว้สักระยะหนึ่งแต่เมื่อได้เอ่ยปากสัญญาว่าจะส่งนางกลับในตอนค่ำไปแล้วตอนนี้เมื่อภารกิจสำเร็จลุล่วง พวกเขาก็ไม่อาจกลับคำพูดได้ตอนนี้แม่นางหยางเอ่ยปา