เมื่อเห็นเย่มู่มู่ไม่ยอมลงจากรถ เหลียงชุ่ยฮวาใช้ไม้เท้าเคาะหน้ารถเธอเสียงดังลั่นแม้รถกระบะคันใหญ่จะทนทาน แต่หน้ารถถูกเคาะจนสีรถถลอกสิ่งที่ทำให้เย่มู่มู่ทนไม่ได้มากที่สุด คือเสียงดังครืนครานที่ดังขึ้นจากหน้ารถเหลียงชุ่ยฮวา ลุงใหญ่ อารอง อาสามล้วนแต่กำลังด่าทอเธอลุงใหญ่ตำหนิเธอเสียงดัง“เย่มู่มู่ เธอนี่มันเนรคุณแล้งน้ำใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีในตอนนี้ ล้วนแย่งมาจากเย่ซินทั้งนั้น”“เดิมทีสมบัติทั้งหมดของพ่อเธอยกให้เย่ซินหมดแล้ว แต่เธอนี่สิ กลับให้ทนายมาฟ้องพวกเรา จะยึดบ้านและรถกลับไป”“หนำซ้ำยังคิดจะยึดคฤหาสน์ของพี่ชายเธอกลับไปอีก ถ้าพี่ชายเธอไม่มีบ้าน แล้วจะแต่งเมียยังไง?” “เธอทำให้พี่ชายเธอติดคุกหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้เธอรีบโอนหุ้นของบริษัทให้พี่ชายเธอเลยนะ แล้วขอโทษขอขมาเขาอย่างจริงใจ” “เขาจะเห็นแก่พ่อเธอ แล้วดูแลเธออย่างดี”ย่าของเธอด่าทอเสียงดัง “นังเด็กสารเลว ลงมา ลงมาคุกเข่าให้ฉันเดี๋ยวนี้!”“แกคิดว่าหลบอยู่ในรถแล้วพวกฉันจะทำอะไรไม่ได้เหรอ? วันนี้ฉันจะให้พวกเขาทำลายรถซะ แกต้องลงมาคุกเข่าให้ฉัน”อารองยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบ“มู่มู่ หนูให้ทนายมาฟ้องพว
“เหอะ ๆ ผมมีวิธีของผม ให้คนไปจับตัวมา แล้วพาไปจัดการตรงที่ปลอดคนสักยก”“ถ้ายังไม่เชื่อฟัง ก็ติดประกาศชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน ชื่อครูประจำชั้นของลูกพวกเขา...โดยทั่วไป เมื่อมาถึงขั้นนี้ คนพวกนี้ก็จะเชื่องไปเอง” “วิธีนี้อาจไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย”“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก พวกที่หื่นกาม เราก็สืบหาหลักฐานการซื้อประเวณีไปให้เมียเขาดู และส่งให้เจ้านายพวกเขาอีกหนึ่งชุด แค่นี้ก็เรียบร้อย”“หากหาไม่เจอ ก็หาผู้หญิงมาเป็นกับดับก็พอแล้ว!”“ส่วนพวกที่ไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้ พวกเราก็สามารถหาหลักฐานการติดสินบน ทำใบเสร็จปลอม หรือการรับค่าส่วนต่าง”“ผมสนิทกับเจ้าของบ้านภายในย่านดี ภายในเมืองนี้ พวกเรามีสารพัดวิธีครับ”“เมื่อถึงขั้นที่สาม ค่าเสียเวลาเริ่มต้นที่สองล้านห้าขึ้นไป เพราะต้องใช้เส้นสาย ต้องพาไปสังสรรค์”“แต่พวกญาติของคุณเมื่อกี้ ไม่ต้องถึงขั้นที่สามหรอกครับ แค่ขั้นแรกก็สงบเสงี่ยมแล้ว ผมขอแค่ห้าแสนครับ”เย่มู่มู่มองสำรวจผู้จัดการนิติบุคคลอย่างจริงจังภายในย่านมีคฤหาสน์สองร้อยกว่าหลัง ราคาบ้านสูง ค่าส่วนกลางจึงแพงไปด้วยคนที่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ ล้วนเป็นบุคคลร
เย่มู่มู่พิงราวกั้นอยู่สักครู่ หลังจากรู้สึกดีขึ้น จึงใช้พลังจิตส่งน้ำต่อไปครั้งนี้ ระดับน้ำลดลงประมาณครึ่งเมตรสีหน้าของเธอขาวซีด แผ่นหลังเปียกชื้นเหงื่อ ฝืนไม่ไหวอีกต่อไปเธอหยุดพักสักครู่ แล้วอุ้มแจกันดอกไม้ขึ้นมา ก้าวขาที่อ่อนแรงเดินไปที่คฤหาสน์ตอนเดินไปที่บ่อน้ำ เธอหันมองบ่อน้ำ ด้านในยังเต็มอยู่เธอเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายในคฤหาสน์ แล้วล้มลงบนโซฟา เหนื่อยจนลืมตาไม่ขึ้นมีกระดาษแผ่นหนึ่งหล่นลง แต่เธอไม่ทันสังเกตเห็น*ด่านเจิ้นกวน ริมแม่น้ำมีโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สองดวงแขวนอยู่ แสงไฟส่องสว่างอย่างมากเมื่อพวกชาวบ้านเห็นน้ำขึ้นสูงกะทันหัน จึงกรูกันเข้าไปที่ริมแม่น้ำชาวบ้านบางคนที่นอนหลับไปแล้ว กลับต้องตื่นเพราะเสียงตะโกนของคนในบ้านส่วนคนแก่ที่เดินไม่ไหว คนในบ้านใช้แผ่นกระดานหามไปจนถึงริมแม่น้ำคนหลายหมื่นคนคุกเข่าลงตรงริมแม่น้ำ มองเห็นน้ำที่ใสสะอาดภายใต้แสงจันทร์ พร้อมคลื่นน้ำที่สะเทือนแผ่วเบาพวกชาวบ้านคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง บางคนแอบเช็ดน้ำตาบางคนร้องไห้เสียงฟัง ร้องจนแทบขาดใจมีน้ำแล้วในที่สุดในแม่น้ำก็มีน้ำแล้ว!สวรรค์มีตา!ในที่สุดก็ผ่านภัยแล้
เย่มู่มู่โทรหาลุงหยางเขาบอกว่าผ่านการชั่งบนเครื่องชั่งรถบรรทุกแล้ว จำนวนถูกต้องเธอจึงโอนยอดเงินที่เหลือให้หัวหน้าฝ่ายขายหัวหน้าฝ่ายขายโทรกลับมาหาเธออย่างดีใจ “คุณเย่ ได้รับยอดเงินแล้วครับ ผ้าใบกันน้ำกับผ้ายีนส์กำลังเร่งการผลิตอยู่ครับ คุณยังต้องการผ้าชนิดไหนอีก โรงงานผมทำให้ได้หมดครับ”“ถ้ามีผ้าสีพื้นราคาถูก เอามาขายให้ฉันได้”“ได้ครับ คุณต้องการเท่าไหร่?”“ต้องการสินค้าในราคาสิบล้าน สีพื้นที่เหมาะกับผู้ชายอย่างสีเนวี่บลู สกายบลู สีดำ สีเขียวทหาร...ต้องการเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือต้องการผ้าสีพื้นที่เหมาะกับผู้หญิง ชมพูอ่อน เหลืองอ่อน สีขาว สีเขียวอ่อน...เรื่องสีคุณจัดการตามความเหมาะสม”“ได้ครับ ผมจะรีบสั่งให้ทางโรงงานผลิตให้”เย่มู่มู่โอนเงินห้าล้านให้เขาเป็นค่ามัดจำหลังจากหัวหน้าฝ่ายขายได้รับเงินมัดจำ เขาแจ้งว่าอีกประมาณสิบวันเศษถึงจะส่งสินค้าได้เย่มู่มู่เตรียมย้ายออกจากคฤหาสน์สักพักอย่างน้อยก็ให้ญาติกระหายเงินพวกนั้นหาเธอไม่เจอชั่วคราวแต่หากจะปล่อยให้บ้านว่าง เธอก็กลัวพวกเขาจะปีนเข้ามายึดบ้านหลังจากครุ่นคิด เธอจึงโทรไปหาป้าหลิวแม่บ้านเก่าของเธอป้าหลิวลาออ
ป้าหลิวมาถึงคฤหาส์ช่วงบ่ายไม่เจอกันสามเดือนป้าหลิวผอมลงและดำขึ้นบนมือเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย เย่มู่มู่เห็นมือของเธอแล้วขอบตาแดงก่ำเธอจึงรีบซ่อนมือไว้ด้านหลัง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนไปเก็บอาหารหมูแล้วบาดโดน ไม่เจ็บหรอกค่ะ”เมื่อป้าหลิวเห็นสวนดอกไม้ที่มีแต่หญ้ารก ปวดใจเหลือเกินแล้ววิ่งไปดูที่สวนหลังบ้าน สวนหลังบ้านไม่เหลือเค้าของสวนผักแม้แต่น้อย มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมดป้าหลิวปวดใจ “สวนใหญ่ขนาดนี้ ทำไมคุณหนูไม่ปลูกพวกแตงกวา มะเขือ แล้วก็พริก...”“ฉันโทรหาสองสามีภรรยาเหล่าจางแล้วค่ะ พวกเขาจะมาถึงตอนเย็น ยามหน้าบ้านสวีฉิ่งตกงาน บอกว่ายินดีกลับมาเหมือนกันค่ะ”“เฝ้าบ้านแค่สี่คนน่าจะพอแล้ว”เย่มู่มู่เอาเงินสดให้เธอสามหมื่น “ป้าคะ ฉันจะไปบ่ายนี้เลย เงินก้อนนี้ป้าเก็บไว้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ซื้อกับข้าว...ถ้าไม่พอก็โทรหาฉัน”“คุณหนูจะไปบ่ายนี้เหรอคะ? รีบร้อนขนาดนี้เลย?”“ใช่ค่ะ!”ก่อนจากมา เย่มู่มู่พาป้าหลิวเข้าไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย เพื่อสอนวิธีดูกล้องวงจรปิดป้าหลิวเรียนรู้อย่างตั้งใจเย่มู่มู่บอกเธอว่าบนกำแพงติดตั้งรั้วไฟฟ้า ซึ่งปล่อยกระแสไฟยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อให้คนตระกูลเย
ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นพอจะประมาณการปริมาณของหนึ่งคันรถได้แล้วเขาบอกเฉินอู่ “รีบให้คนไปขุดหลุมยักษ์หนึ่งหลุม แล้วปูผ้าใบรองเอาไว้ อีกเดี๋ยวจะมีเนื้อหมูสดถูกส่งมา แล้วก็น้ำแข็งอีกจำนวนมาก”เมื่อได้ยินเนื้อหมูและน้ำแข็ง เฉินอู่ดีใจจนออกนอกหน้าเนื้อหมูเชียวนะ เนื้อที่โรงครัวใกล้จะหมดแล้ว ตอนนี้จึงใช้เนื้อม้าแทนไปก่อนทว่าเนื้อสัมผัสของเนื้อม้าสู้เนื้อหมูไม่ได้ เพราะม้าศึกผอมเกินไป อีกทั้งยังมีกลิ่นสาบเขาชอบกินเนื้อหมูมากกว่าครั้งนี้ท่านเทพยังส่งน้ำแข็งมาให้ด้วยน้ำแข็งเชียวนะ!ด่านเจิ้นกวนอากาศร้อนมาก หากเป็นเมื่อก่อน เรื่องน้ำแข็งไม่กล้าแม้แต่จะคิดในหน้าหนาวหิมะตกที่ด่านเจิ้นกวนเป็นชั้นบาง ๆ เท่านั้นพอวันที่สองและสามหิมะละลาย ทำให้มีปริมาณน้ำไม่มากนักดังนั้น สถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีน้ำแข็งมาก่อนไม่เหมือนเมืองหลวง หน้าหนาวแซะน้ำแข็ง หน้าร้อนเอามาดับร้อนเขาเฝ้ารอน้ำแข็งที่ท่านเทพประทานให้อย่างมาก ช่างคิดถึงความรู้สึกเย็นเยือกเหลือเกินเฉินอู่รีบพาคนไปขุดหลุมทันทีขณะนี้ มั่วฝานพาจวงเหลียงและเจียงหยวน เดินทางมาที่จวนของเฉินขุยเขาเห็นม้วนผ้ามากมายในโกดัง จึงวิ่งเข้าไปรื้อค
เฉินขุยมอบสารลับของฮ่องเต้ให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือจ้านเฉิงอิ้นคลี่สาส์นลับออกกองทัพตระกูลจ้านรบสามครั้งชนะสามครั้ง สังหารเผ่าหมานร่วมแสนคน ข่าวได้แพร่ไปถึงเมืองหลวง สร้างความตะลึงให้ราชสำนักอย่างมาก!แม้แต่ประชาชนยังรับรู้ขณะนี้เขามีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ประชน หนำซ้ำอยู่เหนืออำนาจแห่งราชวงศ์ไปแล้วราชสำนักอยากจะริดรอนอำนาจทหารของเขา ไม่ใช่ทนดูเขาเติบโตยิ่งใหญ่ มีทั้งอำนาจและเชื่อเสียงเยี่ยงนี้เพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้น ทางราชสำนักยินดีสละทหารสองแสนนายที่ด่านเจิ้นกวน พ่อค้าตามหัวเมืองและด่านสำคัญสองแสนคน เพื่อมอบให้เผ่าหมานพวกราชวงศ์และเหล่าขุนนาง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมานาน แต่ละวันลุ่มหลงมัวเมา จนรู้ว่าก้าวต่อไปของเผ่าหมานคือทลายเข้าสู่ดินแดนภาคกลางและยึดครองเมืองหลวงจากนั้นปิดเมืองสังหารประชาชน ล้มล้างการปกครองของแคว้นต้าฉี่ฮ่องเต้น้อยวิสัยทัศน์ตื้นเขิน จิตใจคับแคบ ใช้อำนาจตามแต่ใจส่วนเสนาบดีซูเห็นแก่เงิน แต่ละวันจ้องแต่จะคิดหาวิธีตั้งสารพัดภาษีเพื่อขูดรีดเงินทองพวกเขาไม่รู้เลยว่าแคว้นฉู่และแคว้นฉีจ้องจะเล่นงานแคว้นต้าฉี่นานแล้วทั้งสองแคว้นยอมละวางความแค้นหลายปี เ
เขาทั้งลับลวงและเปิดเผย เตรียมการณ์ทั้งสองด้านจ้านเฉิงอิ้นพูดต่อไป “พวกเขาต้องการยึดครองแคว้นต้าฉี่ ขอเพียงด่านเจิ้นกวนทลาย พวกเขาสามารถร่วมมือกับเผ่าหมาน แล้วมุ่งหน้าเข้ายึดครองเมืองหลวงได้เลย จากนั้นค่อยแบ่งดินแดนของแคว้นต้าฉี่!”หนังสือพงศาวดารที่ท่านเทพมอบให้เขา แคว้นฉี่ล่มสลายไปเพราะเหตุนี้เวลาการตายของเขา เกิดขึ้นในช่วงนี้เดิมแคว้นฉู่และแคว้นฉีเตรียมลงมือ แต่ไม่คิดว่ากองทัพตระกูลจ้านจะดุดันเช่นนี้เผ่าหมานถูกสังหารไปหนึ่งแสนคน ตอนนี้ได้ถอยออกไปไกลหนึ่งร้อยลี้ไม่มีใครกล้าเฝ้าประตูทางทิศใต้เฉียงเหนือหลัวเก๋อฟื้นแล้ว ขาทั้งคู่ถูกระเบิดจนเละ กลายเป็นคนพิการไปแล้วเพราะเขาไร้ประโยชน์ ทางราชสำนักม่อเป่ยลงโทษเขาและริบอำนาจทางทหารคืน อีกทั้งได้ส่งแม่ทัพคนใหม่มาประจำการที่ด่านเจิ้นกวนกองทัพตระกูลจ้านชนะถึงสามครั้ง ดูเหมือนได้รับชัยชนะอย่างสวยงามแต่ทหารเผ่าหมานยังไม่ยกทัพกลับ แคว้นฉู่และแคว้นฉีก็รอจังหวะลงมือหนำซ้ำยังมีราชสำนักคอยเป็นตัวถ่วง ส่งตัวสวีหวยมาก่อกวน“ต่อต้านภายนอก ภายในต้องสงบก่อน ทำให้คนของสวีหวยกลายเป็นพวกเรา”เฉินขุยสงสัย “ท่านแม่ทัพ คนพวกนี้ติดตามสวีหว
การจัดซื้อเสบียง แม้ต้องขนส่งข้ามโลกก็ต้องทำ!การจะนำเข้าอาหารจำนวนมากจากต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหมายถึงการต้องแย่งทรัพยากรจากประเทศอื่นประชาชนต้าฉี่มีถึงยี่สิบล้านคน การให้ทั้งหมดต้องพึ่งพาเธอเลี้ยงดูย่อมเป็นไปไม่ได้ทางที่ดีที่สุดก็คือ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นสามารถพึ่งพาตัวเองได้ข้าวสามารถเติบโตและเก็บเกี่ยวได้เร็วที่สุดในเวลาเพียงสามเดือน หากสภาพอากาศร้อนพอ สามารถปลูกได้ถึงปีละสามรอบขอเพียงมีปุ๋ยและแหล่งน้ำเพียงพอยังมีพืชผลที่ให้ผลผลิตสูง... เช่น มันเทศ มันฝรั่ง ข้าวโพดอีกเพียงสองปี จะเกิดหายนะหิมะครั้งใหญ่ พวกเขาต้องเร่งสะสมเสบียงให้เพียงพอ พวกเขาจะสามารถผ่านช่วงเวลานั้นไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอนดังนั้น เมื่อจ้านเฉิงอิ้นเสนอให้บุกเบิกพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ในตงโจวเย่มู่มู่ก็ตอบรับโดยไม่ลังเล“ดี! จ้านเฉิงอิ้น ข้าจะสนับสนุนเจ้า หากเจ้าอยากทำสิ่งใด จงทำให้เต็มที่!”“ข้าจะเป็นกำลังหนุนของเจ้าเสมอ!”ดวงตาของแม่ทัพหนุ่มเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา หางตาแดงก่ำ มือที่เปรอะเปื้อนโลหิตลูบไล้แจกันอย่างแผ่วเบาเสียงของเขาต่ำและแหบแห้ง “ขอบคุณท่านมาก ท่านเทพ!” “บุญคุณของท่าน ข
เย่มู่มู่ลองใช้พลังดูแล้ว แต่เธอไม่สามารถข้ามไปได้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทั้งมั่วฝาน หลูซีและหลูหมิง ต่างสามารถข้ามไปได้ตามปกติเธอใช้พลังจนหมดสิ้น ใบหน้าซีดขาว ร่างกายอ่อนแรงไร้เรี่ยวแรงกลับไม่มีแม้แต่ความเคลื่อนไหวใด ๆเธอคิดว่า การที่เจ้าของแจกันสามารถเดินทางข้ามสองพันปีได้นั้น...บางทีอาจต้องอาศัยสื่อกลางบางอย่าง หรือไม่ก็ตัวแจกันเองอาจต้องผ่านการอัพเกรดขึ้นอีกระดับเมื่อจ้านเฉิงอิ้นได้ยินคำตอบของเย่มู่มู่ เขากลับหัวเราะออกมาเสียงหัวเราะนั้นเต็มไปด้วยความสุข เห็นได้ชัดว่า เขาดีใจมากจริง ๆการได้พบเย่มู่มู่ทำให้เขาดีใจยิ่งกว่าการได้รับชัยชนะในศึกครั้งนี้เสียอีกเย่มู่มู่ที่ห่วงใยเขา ถึงกับพยายามเผาผลาญพลังทั้งหมดเพื่อจะข้ามมาให้ได้เธอรีบกล่าวเตือน “จ้านเฉิงอิ้น ข้าสัญญากับเจ้าแล้วว่าจะพบเจ้า ข้าจะไม่ผิดคำพูดแน่นอน!”“ตอนนี้เผ่าหมานยังไม่ถูกกวาดล้าง เจ้ายังไม่ต้องรีบร้อนข้ามมายังยุคปัจจุบัน กำจัดเผ่าหมานให้เสร็จเสียก่อน!”“เพราะว่า เพราะว่า...การข้ามกาลเวลานั้นต้องใช้พลังชีวิตอย่างมาก เจ้ายังต้องรักษาสติและพลังงานไว้ให้พร้อม ต้องระวังให้มาก เพราะเผ่าหมานอาจบุกเข้ามา
บัดนี้ พวกเขาทุกคนกลายเป็นเชลยศึกพวกเขาทำได้เพียงอ้อนวอน ขอให้กองทัพตระกูลจ้านเมตตาปล่อยผ่าน ขอเพียงได้มื้ออาหารให้มีชีวิตรอดก็เพียงพอ!ซ่งตั๋วสั่งให้เชลยรวบรวมศพทั้งหมดมากองรวมกัน นำไปวางบนไม้แห้ง ราดน้ำมัน แล้วจุดไฟเผาขณะที่เหล่าทหารผ่านศึกต่างเหนื่อยล้า นั่งพักกระจัดกระจายเต็มพื้นสนามรบจ้านเฉิงอิ้นหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา สอบถามขบวนรถ “พวกเผ่าหมานส่งกำลังมาสนับสนุนกองทัพธงเหลืองหรือไม่?”“ท่านแม่ทัพ ไม่มีขอรับ...พวกเราไม่กล้าดับเครื่องรถเลย กลัวพวกมันจะควบม้าบุกมาเล่นงานเรา แต่แปลกมาก ทั้งที่พวกมันรู้ดีว่ากองทัพธงเหลืองกำลังรบกับพวกเรา”“เสียงระเบิดดังไปไกลขนาดนั้น แต่พวกมันยังนิ่งเฉย ปล่อยให้พวกนั้นตายไปต่อหน้าต่อตา!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าจับตาดูต่อไป หากพวกมันบุกเข้ามา ให้ใช้ระเบิดไล่ต้อน”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นปิดวิทยุสื่อสารก่อนหน้านี้ เขาคิดว่ากองทัพธงเหลืองกับเผ่าหมานม่อเป่ยมีพันธมิตรอันแน่นแฟ้นเมื่อชนเผ่าป่าเถื่อนจับผู้คนมากินเป็นอาหาร และสังหารประชาชนแคว้นต้าฉี่ แต่กองทัพธงเหลืองกลับทำเป็นไม่เห็นเสียอย่างนั้นแต่ดูจากสถานการณ์ตอน
ครั้งนี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงซ่งตั๋วประกาศคำสั่ง กองทัพธงเหลืองทั้งหมดต่างพากันทิ้งอาวุธและยอมจำนนทหารกว่าสิบหมื่นนาย นอกจากผู้ที่เสียชีวิตในสนามรบแล้ว!ที่เหลือล้วนแต่ยอมจำนน!พวกเขาคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ชูอาวุธขึ้นเหนือศีรษะ ก้มหน้าลงต่ำด้วยความพ่ายแพ้ ตามธรรมเนียมของสงครามที่ผ่านมา ผู้ที่ถูกจับเป็นเชลยจะมีเพียงสองทางเลือกถูกสังหารในที่นั้น หรือกลายเป็นทาส ใช้ชีวิตอย่างต่ำต้อยเหมือนตายทั้งเป็นแต่พวกเขาอยากเสี่ยงเดิมพัน!พวกเขาทั้งหมดเป็นชาวบ้านผู้หิวโหยที่ไม่มีทางรอด จึงมาสมัครเป็นทหารของกองทัพธงเหลืองเพราะรู้ว่าที่นี่มีเสบียงให้กิน พวกเขาจึงเข้าร่วมหากยังพอมีอาหารให้ประทังชีวิต แม้ไม่ใช่ทาส แม้ต้องลงเหมืองทำงานหนัก พวกเขาก็ยอม!ขอเพียงได้รับค่าตอบแทนตามกำหนด ได้ส่งเงินกลับไปเลี้ยงดูครอบครัวพวกเขายอมทำทุกอย่าง!ซ่งตั๋วสั่งให้ทหารผ่านศึกเข้ายึดอาวุธจากผู้ที่ยอมจำนนให้คนที่ยอมจำนนยืนเข้าแถวทีละคน เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจนับจำนวนจ้านเฉิงอิ้นยืนอยู่กลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยบาดแผลแห่งสงคราม ซากศพเกลื่อนกลาดทั่วทุกหนแห่ง~ชนะแล้ว!พวกเขาชนะแล้ว!เดิมที คิดว่า
ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเขาดูเหมือนจะสลายไปหมดแล้ว เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างสิ้นหวังไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะเดินมาถึงจุดนี้!ไม่ยินยอมยิ่งนัก!ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงไม่ยอมจำนน คำรามอย่างไม่ยอมแพ้ “ข้าไม่...”ด้านหลังของเขา ซ่งตั๋วรังเกียจที่เขาส่งเสียงดัง จึงใช้ดาบในมือฟาดเขาจนสลบ“ยุ่งยากเสียจริง!”หลีชิงกับสวีจู้กล่าวว่า “ชื่อเสียงของคนผู้นี้ไม่ได้แย่นัก เพียงแต่ไม่รู้ว่า ไยมู่ฉีซิวถึงได้มอบหมายตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ให้กับเขา!”ซ่งตั๋วกล่าวว่า “ด้วยความภักดีของเขา สามารถรับตำแหน่งที่สำคัญของมู่ฉีซิวได้ ก็ไม่น่าประหลาดใจอันใด!”ในตอนนี้ ซ่งตั๋วขึ้นไปบนรถคันเล็กของมั่วฝาน นำลำโพงที่อยู่ตรงเบาะหลังของเขา ย้ายไปไว้ที่กระโปรงท้ายรถทั้งหมดหลังจากนั้นก็ขับรถไล่ตามไปยังทิศทางที่ทหารของกองทัพธงเหลืองหลบหนีไปไล่ตามไปด้วย ตะโกนใส่ลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ไปด้วย“ผู้ที่ยอมจำนน และมอบอาวุธจะไม่ถูกสังหาร!”“ผู้ที่หันมาพึ่งพิงกองทัพตระกูลจ้านและสร้างผลงาน ไม่มีตำแหน่งขุนนางชั้นสูง ไม่มีที่ศักดินาหนึ่งพันครัวเรือน ที่ดินอันอุดมสมบูรณ์หนึ่งพันหมู่ให้!”“ทหารกองทัพตระกูลจ้านมีอาหารวันละส
เมื่อจ้านเฉิงอิ้นโบกมือ อากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจำนวนสิบลำก็ปรากฏขึ้น ด้านบนผูกดินระเบิดเอาไว้เรียบร้อยแล้วมั่วฝานควบคุมอากาศยานไร้คนขับลำหนึ่ง ลอยขึ้นไปอย่างช้า ๆ ไล่ตามไปทางที่พวกมู่ฉีซิวหลบหนีไปยิ่งไปกว่านั้นเฉินอู่ได้พาทหารผ่านศึกกลุ่มใหญ่ บุกเข้าไปในกลุ่มของกองทัพธงเหลืองเขาตะโกน “เหล่าสหาย สังหาร รถคันใหญ่ของพวกเราหนีไปแล้ว!”“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้เป็นอันขาด!”“หากเอารถคันใหญ่มาไม่ได้ ก็ต้องเอารถยนต์คันเล็กมาให้ได้สักคัน บุก...”กองทัพธงเหลืองที่เดิมทีต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่แนวหน้า อยู่ ๆ ก็ละทิ้งชุดเกราะกันเป็นจำนวนมากอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งหมดวิ่งหนีไปที่ด้านหลังพวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นจนกระทั่งมีคนตะโกนขึ้นมา “ท่านผู้นำให้ถอยทัพ เร็วเข้า รีบถอยทัพ!”คนพวกนั้นถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเวลานี้กองทัพตระกูลจ้านประสมธนู หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน และดินระเบิด...เข้าด้วยกันขวัญกำลังใจของพวกเขาเต็มเปี่ยม ทั้งหมดบุกสังหารด้วยท่าทางดุดันทหารกองทัพธงเหลืองวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตท่านผู้นำยังหนีไปแล้ว ขวัญกำลังใจจึงลดลงไปอย่างมาก เหลือแค่เ
จ้านเฉิงอิ้นขึ้นขี่ม้า สวมหมวกกันน็อก มือถือดาบม่อเตา แล้วขี่ออกมาเพื่อเผชิญหน้าเฉินอู่กับซ่งตั๋วตามติดอยู่ด้านหลังครั้งนี้ เหลือหน่วยกล้าตายส่วนหนึ่งไว้เพื่อปกป้องมั่วฝานมั่วฝานกล่าวว่า “พวกเจ้าไปสังหารศัตรูกันให้หมด ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงข้า!”เขาขึ้นนั่งบนรถ และขับพุ่งเข้าไปท่ามกลางฝูงชนของกองทัพธงเหลืองการศึกในครั้งนี้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนคนมากเกินไป พวกเขามาถึงใกล้กับเมืองหลวงแล้ว ไม่ยอมละทิ้งความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างง่ายดายต้องการสังหารกองทัพตระกูลจ้านกองทัพตระกูลจ้านมีประสบการณ์ในการรบมากกว่ากองทัพธงเหลือง อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ดียิ่งกว่ากองทัพธงเหลืองอย่างไรก็ดีฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมากพวกเขาต่อสู้อย่างยากลำบาก!หน่วยปืนล่าสัตว์ถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง แม้แต่หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยังทิ้งคันธนูและศร หยิบดาบม่อเตามาต่อสู้กับศัตรู...ในเวลานี้ หวังเซิ่งคิดว่าหากต่อสู้ต่อไป กองทัพตระกูลจ้านจะร่อยหรอสองแสนคนเมื่อเทียบกับสามหมื่นคน มากมายเกินไปจริง ๆ อีกทั้ง พวกเขายังถูกโอบล้อม หากอยากฝ่าวงล้อม มีแต่ต้องสังหารกองทัพธงเหลืองให้สิ้นเท่านั้นเขามอ
เย่มู่มู่กำลังต่อรองราคากับเจ้าของร้าน อยากจะซื้อปืนล่าสัตว์จำนวนมากเจ้าของร้านจนใจยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่นว่าเขาขายเพียงกระบอกเดียวเท่านั้นเย่มู่มู่เตรียมจะใช้เงินติดสิบน เพื่องัดปากเจ้าของร้านทันใดนั้นเอง ภายในสมองของนางก็ได้ยินเสียงของจ้านเฉิงอิ้นที่แฝงไปด้วยความตื้นตันอย่างชัดเจนว่า “ท่านเทพ บุญคุณในวันนี้ เฉิงอิ้นจะจดจำเอาไว้”“เฉิงอิ้นไม่มีอันใดจะตอบแทน ข้าจะสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญ พิชิตกองทัพธงเหลืองให้ได้ และทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”เมื่อเย่มู่มู่ได้ยิน ก็กอดแจกันพลางรีบวิ่งเข้าไปในรถเมื่อเจ้าของร้านเห็นดังนั้น ก็ตะโกนไล่หลังนาง “นี่ คุณยังเอาอยู่ไหม นำเข้าจากเยอรมัน นำเข้าจากรัสเซียมีหมด อานุภาพสูง จะล่าหมีก็ไม่มีปัญหา!”“รอเดี๋ยวค่ะ ฉันจะกลับมาซื้อ!”เย่มู่มู่รีบเข้าไปนั่งในรถ กอดแจกันไว้ พลางถามจ้านเฉิงอิ้นด้วยความตื่นเต้น“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าเห็นปืนสองพันกระบอกแล้วหรือไม่?”“ขอโทษด้วย ข้าสามารถซื้อมาได้เพียงเท่านี้ เจ้าของร้านเกรงว่าจะถูกตรวจสอบ ไม่ว่าอย่างไรก็ขายให้ข้าได้เพียงเท่านี้!”ภายในแจกัน เสียงแหบและทุ้มต่ำจากสองพันปีก่อนดังออกมา“ท่านเทพ บุญคุณใหญ่หลว
ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง