Share

บทที่ 82

Author: มู่โร่ว
คิ้วชายฉกรรจ์กระตุก ก่อนจะฟาดไพ่ลงบนโต๊ะ ไม่เล่นแล้ว

เขาถือโทรศัพท์เดินออกจากห้องน้ำชาแล้วหาที่ปลอดคน “สี่เท่า คุณแน่ใจนะว่าจะซื้อในราคาสี่เท่า?”

“ใช่ ยาแก้อักเสบและแก้ปวดก็จะซื้อด้วย”

“ยาชาเอาหรือเปล่า?”

“เอา!”

“ผมขายยาให้คุณได้ แต่คุณช่วยเขียนหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้ได้หรือเปล่า”

ชายฉกรรจ์อธิบายต่อ “คุณซื้อยาโดยไม่ใช่โรงพยาบาล เกิดมีคนตาย แล้วมาเอาผิดกับผมจะทำยังไง?”

“ได้ ฉันจะเซ็นหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้”

ฝ่ายโรงงานยานัดเจอเธอที่โกดังของเขา

เขาขนยาปฏิชีวนะ ยาบาดทะยัก ยาแก้อักเสบและยาแก้ปวด รวมถึงยาชาอีกสองลัง...

จากนั้นครึ่งชั่วโมง เย่มู่มู่ก็มาถึงโกดังของโรงงานยา

เมื่ออีกฝ่ายเห็นเย่มู่มู่ที่อายุยังน้อย และหน้าตาสวยงาม

จึงถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณมาซื้อยาเหรอ?”

“ใช่ค่ะ พี่ชาย”

“คุณลองดูสิ ยาพวกนี้พอไหม?”

ยาทั้งหมดสามสิบกว่าลัง หนึ่งลังมียี่สิบถึงห้าสิบกล่อง

“มีหัวเข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา ถุงมือปลอดเชื้อ หน้ากากอนามัยหรือเปล่า?”

“รอก่อน”

พี่ชายหันหลังเดินเข้าไปในโกดัง แล้วขนออกมาอีกหลายลัง

เขาเอาหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบออกมา

“เซ็นชื่อสิ ต้องทำการทดสอบทางผิวห
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 83

    เมื่อเห็นเย่มู่มู่ไม่ยอมลงจากรถ เหลียงชุ่ยฮวาใช้ไม้เท้าเคาะหน้ารถเธอเสียงดังลั่นแม้รถกระบะคันใหญ่จะทนทาน แต่หน้ารถถูกเคาะจนสีรถถลอกสิ่งที่ทำให้เย่มู่มู่ทนไม่ได้มากที่สุด คือเสียงดังครืนครานที่ดังขึ้นจากหน้ารถเหลียงชุ่ยฮวา ลุงใหญ่ อารอง อาสามล้วนแต่กำลังด่าทอเธอลุงใหญ่ตำหนิเธอเสียงดัง“เย่มู่มู่ เธอนี่มันเนรคุณแล้งน้ำใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีในตอนนี้ ล้วนแย่งมาจากเย่ซินทั้งนั้น”“เดิมทีสมบัติทั้งหมดของพ่อเธอยกให้เย่ซินหมดแล้ว แต่เธอนี่สิ กลับให้ทนายมาฟ้องพวกเรา จะยึดบ้านและรถกลับไป”“หนำซ้ำยังคิดจะยึดคฤหาสน์ของพี่ชายเธอกลับไปอีก ถ้าพี่ชายเธอไม่มีบ้าน แล้วจะแต่งเมียยังไง?” “เธอทำให้พี่ชายเธอติดคุกหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้เธอรีบโอนหุ้นของบริษัทให้พี่ชายเธอเลยนะ แล้วขอโทษขอขมาเขาอย่างจริงใจ” “เขาจะเห็นแก่พ่อเธอ แล้วดูแลเธออย่างดี”ย่าของเธอด่าทอเสียงดัง “นังเด็กสารเลว ลงมา ลงมาคุกเข่าให้ฉันเดี๋ยวนี้!”“แกคิดว่าหลบอยู่ในรถแล้วพวกฉันจะทำอะไรไม่ได้เหรอ? วันนี้ฉันจะให้พวกเขาทำลายรถซะ แกต้องลงมาคุกเข่าให้ฉัน”อารองยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบ“มู่มู่ หนูให้ทนายมาฟ้องพว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 84

    “เหอะ ๆ ผมมีวิธีของผม ให้คนไปจับตัวมา แล้วพาไปจัดการตรงที่ปลอดคนสักยก”“ถ้ายังไม่เชื่อฟัง ก็ติดประกาศชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน ชื่อครูประจำชั้นของลูกพวกเขา...โดยทั่วไป เมื่อมาถึงขั้นนี้ คนพวกนี้ก็จะเชื่องไปเอง” “วิธีนี้อาจไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย”“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก พวกที่หื่นกาม เราก็สืบหาหลักฐานการซื้อประเวณีไปให้เมียเขาดู และส่งให้เจ้านายพวกเขาอีกหนึ่งชุด แค่นี้ก็เรียบร้อย”“หากหาไม่เจอ ก็หาผู้หญิงมาเป็นกับดับก็พอแล้ว!”“ส่วนพวกที่ไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้ พวกเราก็สามารถหาหลักฐานการติดสินบน ทำใบเสร็จปลอม หรือการรับค่าส่วนต่าง”“ผมสนิทกับเจ้าของบ้านภายในย่านดี ภายในเมืองนี้ พวกเรามีสารพัดวิธีครับ”“เมื่อถึงขั้นที่สาม ค่าเสียเวลาเริ่มต้นที่สองล้านห้าขึ้นไป เพราะต้องใช้เส้นสาย ต้องพาไปสังสรรค์”“แต่พวกญาติของคุณเมื่อกี้ ไม่ต้องถึงขั้นที่สามหรอกครับ แค่ขั้นแรกก็สงบเสงี่ยมแล้ว ผมขอแค่ห้าแสนครับ”เย่มู่มู่มองสำรวจผู้จัดการนิติบุคคลอย่างจริงจังภายในย่านมีคฤหาสน์สองร้อยกว่าหลัง ราคาบ้านสูง ค่าส่วนกลางจึงแพงไปด้วยคนที่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ ล้วนเป็นบุคคลร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 85

    เย่มู่มู่พิงราวกั้นอยู่สักครู่ หลังจากรู้สึกดีขึ้น จึงใช้พลังจิตส่งน้ำต่อไปครั้งนี้ ระดับน้ำลดลงประมาณครึ่งเมตรสีหน้าของเธอขาวซีด แผ่นหลังเปียกชื้นเหงื่อ ฝืนไม่ไหวอีกต่อไปเธอหยุดพักสักครู่ แล้วอุ้มแจกันดอกไม้ขึ้นมา ก้าวขาที่อ่อนแรงเดินไปที่คฤหาสน์ตอนเดินไปที่บ่อน้ำ เธอหันมองบ่อน้ำ ด้านในยังเต็มอยู่เธอเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายในคฤหาสน์ แล้วล้มลงบนโซฟา เหนื่อยจนลืมตาไม่ขึ้นมีกระดาษแผ่นหนึ่งหล่นลง แต่เธอไม่ทันสังเกตเห็น*ด่านเจิ้นกวน ริมแม่น้ำมีโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สองดวงแขวนอยู่ แสงไฟส่องสว่างอย่างมากเมื่อพวกชาวบ้านเห็นน้ำขึ้นสูงกะทันหัน จึงกรูกันเข้าไปที่ริมแม่น้ำชาวบ้านบางคนที่นอนหลับไปแล้ว กลับต้องตื่นเพราะเสียงตะโกนของคนในบ้านส่วนคนแก่ที่เดินไม่ไหว คนในบ้านใช้แผ่นกระดานหามไปจนถึงริมแม่น้ำคนหลายหมื่นคนคุกเข่าลงตรงริมแม่น้ำ มองเห็นน้ำที่ใสสะอาดภายใต้แสงจันทร์ พร้อมคลื่นน้ำที่สะเทือนแผ่วเบาพวกชาวบ้านคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง บางคนแอบเช็ดน้ำตาบางคนร้องไห้เสียงฟัง ร้องจนแทบขาดใจมีน้ำแล้วในที่สุดในแม่น้ำก็มีน้ำแล้ว!สวรรค์มีตา!ในที่สุดก็ผ่านภัยแล้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 86

    เย่มู่มู่โทรหาลุงหยางเขาบอกว่าผ่านการชั่งบนเครื่องชั่งรถบรรทุกแล้ว จำนวนถูกต้องเธอจึงโอนยอดเงินที่เหลือให้หัวหน้าฝ่ายขายหัวหน้าฝ่ายขายโทรกลับมาหาเธออย่างดีใจ “คุณเย่ ได้รับยอดเงินแล้วครับ ผ้าใบกันน้ำกับผ้ายีนส์กำลังเร่งการผลิตอยู่ครับ คุณยังต้องการผ้าชนิดไหนอีก โรงงานผมทำให้ได้หมดครับ”“ถ้ามีผ้าสีพื้นราคาถูก เอามาขายให้ฉันได้”“ได้ครับ คุณต้องการเท่าไหร่?”“ต้องการสินค้าในราคาสิบล้าน สีพื้นที่เหมาะกับผู้ชายอย่างสีเนวี่บลู สกายบลู สีดำ สีเขียวทหาร...ต้องการเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือต้องการผ้าสีพื้นที่เหมาะกับผู้หญิง ชมพูอ่อน เหลืองอ่อน สีขาว สีเขียวอ่อน...เรื่องสีคุณจัดการตามความเหมาะสม”“ได้ครับ ผมจะรีบสั่งให้ทางโรงงานผลิตให้”เย่มู่มู่โอนเงินห้าล้านให้เขาเป็นค่ามัดจำหลังจากหัวหน้าฝ่ายขายได้รับเงินมัดจำ เขาแจ้งว่าอีกประมาณสิบวันเศษถึงจะส่งสินค้าได้เย่มู่มู่เตรียมย้ายออกจากคฤหาสน์สักพักอย่างน้อยก็ให้ญาติกระหายเงินพวกนั้นหาเธอไม่เจอชั่วคราวแต่หากจะปล่อยให้บ้านว่าง เธอก็กลัวพวกเขาจะปีนเข้ามายึดบ้านหลังจากครุ่นคิด เธอจึงโทรไปหาป้าหลิวแม่บ้านเก่าของเธอป้าหลิวลาออ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 87

    ป้าหลิวมาถึงคฤหาส์ช่วงบ่ายไม่เจอกันสามเดือนป้าหลิวผอมลงและดำขึ้นบนมือเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย เย่มู่มู่เห็นมือของเธอแล้วขอบตาแดงก่ำเธอจึงรีบซ่อนมือไว้ด้านหลัง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนไปเก็บอาหารหมูแล้วบาดโดน ไม่เจ็บหรอกค่ะ”เมื่อป้าหลิวเห็นสวนดอกไม้ที่มีแต่หญ้ารก ปวดใจเหลือเกินแล้ววิ่งไปดูที่สวนหลังบ้าน สวนหลังบ้านไม่เหลือเค้าของสวนผักแม้แต่น้อย มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมดป้าหลิวปวดใจ “สวนใหญ่ขนาดนี้ ทำไมคุณหนูไม่ปลูกพวกแตงกวา มะเขือ แล้วก็พริก...”“ฉันโทรหาสองสามีภรรยาเหล่าจางแล้วค่ะ พวกเขาจะมาถึงตอนเย็น ยามหน้าบ้านสวีฉิ่งตกงาน บอกว่ายินดีกลับมาเหมือนกันค่ะ”“เฝ้าบ้านแค่สี่คนน่าจะพอแล้ว”เย่มู่มู่เอาเงินสดให้เธอสามหมื่น “ป้าคะ ฉันจะไปบ่ายนี้เลย เงินก้อนนี้ป้าเก็บไว้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ซื้อกับข้าว...ถ้าไม่พอก็โทรหาฉัน”“คุณหนูจะไปบ่ายนี้เหรอคะ? รีบร้อนขนาดนี้เลย?”“ใช่ค่ะ!”ก่อนจากมา เย่มู่มู่พาป้าหลิวเข้าไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย เพื่อสอนวิธีดูกล้องวงจรปิดป้าหลิวเรียนรู้อย่างตั้งใจเย่มู่มู่บอกเธอว่าบนกำแพงติดตั้งรั้วไฟฟ้า ซึ่งปล่อยกระแสไฟยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อให้คนตระกูลเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 88

    ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นพอจะประมาณการปริมาณของหนึ่งคันรถได้แล้วเขาบอกเฉินอู่ “รีบให้คนไปขุดหลุมยักษ์หนึ่งหลุม แล้วปูผ้าใบรองเอาไว้ อีกเดี๋ยวจะมีเนื้อหมูสดถูกส่งมา แล้วก็น้ำแข็งอีกจำนวนมาก”เมื่อได้ยินเนื้อหมูและน้ำแข็ง เฉินอู่ดีใจจนออกนอกหน้าเนื้อหมูเชียวนะ เนื้อที่โรงครัวใกล้จะหมดแล้ว ตอนนี้จึงใช้เนื้อม้าแทนไปก่อนทว่าเนื้อสัมผัสของเนื้อม้าสู้เนื้อหมูไม่ได้ เพราะม้าศึกผอมเกินไป อีกทั้งยังมีกลิ่นสาบเขาชอบกินเนื้อหมูมากกว่าครั้งนี้ท่านเทพยังส่งน้ำแข็งมาให้ด้วยน้ำแข็งเชียวนะ!ด่านเจิ้นกวนอากาศร้อนมาก หากเป็นเมื่อก่อน เรื่องน้ำแข็งไม่กล้าแม้แต่จะคิดในหน้าหนาวหิมะตกที่ด่านเจิ้นกวนเป็นชั้นบาง ๆ เท่านั้นพอวันที่สองและสามหิมะละลาย ทำให้มีปริมาณน้ำไม่มากนักดังนั้น สถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีน้ำแข็งมาก่อนไม่เหมือนเมืองหลวง หน้าหนาวแซะน้ำแข็ง หน้าร้อนเอามาดับร้อนเขาเฝ้ารอน้ำแข็งที่ท่านเทพประทานให้อย่างมาก ช่างคิดถึงความรู้สึกเย็นเยือกเหลือเกินเฉินอู่รีบพาคนไปขุดหลุมทันทีขณะนี้ มั่วฝานพาจวงเหลียงและเจียงหยวน เดินทางมาที่จวนของเฉินขุยเขาเห็นม้วนผ้ามากมายในโกดัง จึงวิ่งเข้าไปรื้อค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 89

    เฉินขุยมอบสารลับของฮ่องเต้ให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือจ้านเฉิงอิ้นคลี่สาส์นลับออกกองทัพตระกูลจ้านรบสามครั้งชนะสามครั้ง สังหารเผ่าหมานร่วมแสนคน ข่าวได้แพร่ไปถึงเมืองหลวง สร้างความตะลึงให้ราชสำนักอย่างมาก!แม้แต่ประชาชนยังรับรู้ขณะนี้เขามีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ประชน หนำซ้ำอยู่เหนืออำนาจแห่งราชวงศ์ไปแล้วราชสำนักอยากจะริดรอนอำนาจทหารของเขา ไม่ใช่ทนดูเขาเติบโตยิ่งใหญ่ มีทั้งอำนาจและเชื่อเสียงเยี่ยงนี้เพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้น ทางราชสำนักยินดีสละทหารสองแสนนายที่ด่านเจิ้นกวน พ่อค้าตามหัวเมืองและด่านสำคัญสองแสนคน เพื่อมอบให้เผ่าหมานพวกราชวงศ์และเหล่าขุนนาง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมานาน แต่ละวันลุ่มหลงมัวเมา จนรู้ว่าก้าวต่อไปของเผ่าหมานคือทลายเข้าสู่ดินแดนภาคกลางและยึดครองเมืองหลวงจากนั้นปิดเมืองสังหารประชาชน ล้มล้างการปกครองของแคว้นต้าฉี่ฮ่องเต้น้อยวิสัยทัศน์ตื้นเขิน จิตใจคับแคบ ใช้อำนาจตามแต่ใจส่วนเสนาบดีซูเห็นแก่เงิน แต่ละวันจ้องแต่จะคิดหาวิธีตั้งสารพัดภาษีเพื่อขูดรีดเงินทองพวกเขาไม่รู้เลยว่าแคว้นฉู่และแคว้นฉีจ้องจะเล่นงานแคว้นต้าฉี่นานแล้วทั้งสองแคว้นยอมละวางความแค้นหลายปี เ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 90

    เขาทั้งลับลวงและเปิดเผย เตรียมการณ์ทั้งสองด้านจ้านเฉิงอิ้นพูดต่อไป “พวกเขาต้องการยึดครองแคว้นต้าฉี่ ขอเพียงด่านเจิ้นกวนทลาย พวกเขาสามารถร่วมมือกับเผ่าหมาน แล้วมุ่งหน้าเข้ายึดครองเมืองหลวงได้เลย จากนั้นค่อยแบ่งดินแดนของแคว้นต้าฉี่!”หนังสือพงศาวดารที่ท่านเทพมอบให้เขา แคว้นฉี่ล่มสลายไปเพราะเหตุนี้เวลาการตายของเขา เกิดขึ้นในช่วงนี้เดิมแคว้นฉู่และแคว้นฉีเตรียมลงมือ แต่ไม่คิดว่ากองทัพตระกูลจ้านจะดุดันเช่นนี้เผ่าหมานถูกสังหารไปหนึ่งแสนคน ตอนนี้ได้ถอยออกไปไกลหนึ่งร้อยลี้ไม่มีใครกล้าเฝ้าประตูทางทิศใต้เฉียงเหนือหลัวเก๋อฟื้นแล้ว ขาทั้งคู่ถูกระเบิดจนเละ กลายเป็นคนพิการไปแล้วเพราะเขาไร้ประโยชน์ ทางราชสำนักม่อเป่ยลงโทษเขาและริบอำนาจทางทหารคืน อีกทั้งได้ส่งแม่ทัพคนใหม่มาประจำการที่ด่านเจิ้นกวนกองทัพตระกูลจ้านชนะถึงสามครั้ง ดูเหมือนได้รับชัยชนะอย่างสวยงามแต่ทหารเผ่าหมานยังไม่ยกทัพกลับ แคว้นฉู่และแคว้นฉีก็รอจังหวะลงมือหนำซ้ำยังมีราชสำนักคอยเป็นตัวถ่วง ส่งตัวสวีหวยมาก่อกวน“ต่อต้านภายนอก ภายในต้องสงบก่อน ทำให้คนของสวีหวยกลายเป็นพวกเรา”เฉินขุยสงสัย “ท่านแม่ทัพ คนพวกนี้ติดตามสวีหว

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 395

    ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 394

    บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 393

    ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 391

    ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนายปรากฏตัวขึ้นมาพวกเขาติดอุปกรณ์สมบูรณ์แบบ กำลังถือดาบม่อเตาและดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง พร้อมแบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา กำลังคนและม้าสองแสนนายกำลังพุ่งเข้ามาด้วยทีท่าดุเดือดครั้นเยี่ยนเย่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง ก็พลันหันหน้ากลับไปเห็นเฉินขุย เฉินอู่และซ่งตั๋วนำกำลังคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา!มู่ซาตะโกนเสียงดัง “พวกเขาออกมาจากไหน? เหตุใดถึงมาขวางทางหนีทีไล่เรา?”เจียงเหว่ยด่ากราดอย่างเดือดดาล “ข้ารู้อยู่แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หนึ่งคิดกลอุบายไม่เป็น สองนำทหารสู้รบไม่เป็น กระทั่งสถานการณ์ข้าศึกแข็งแกร่งเราอ่อนแอก็ยังไม่รู้”“ข้าเคยบอกแล้วอย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสเหมาะในการฆ่าจ้านเฉิงอิ้น ตอนนี้จบเห่แล้ว กลับกันตอนนี้ยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายอีก!”เกาอี้ผู้บัญชาการแคว้นฉีกล่าวขึ้นทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟว่า “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว คิดหาวิธีฝ่าวงล้อมก่อน กองทัพตระกูลจ้านสองพันนายเรายังรับมือไม่ได้ ตอนนี้กองทัพตระกูลจ้านยกทัพมาทั้งกองทัพ พวกเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่หรือ? ยังจะมาทะเลาะกันเอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 390

    ส่วนที่แข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นคือ ทหารผ่านศึกในกองทัพของเขาล้วนมีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดาเกราะและอาวุธของกองทัพตระกูลจ้านมีคุณภาพสูง สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบนอกจากนี้ การซื้อใจชาวบ้านสี่ร้อยคนที่ถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบยิ่งขึ้นอุปกรณ์และระเบิดเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาขยายกว้างขึ้นหากเป็นเมื่อครู่ พวกเขายังกล้ายืนยันได้อย่างมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นต้องตายอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ ความหวังที่จะชนะเลือนลางลงบางคนเริ่มอยากล่าถอย เพราะไม่ต้องการไปตายขณะที่เจียงเหว่ยถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกลับถูกทหารของเยี่ยนเย่ขวางทางไว้เยี่ยนเย่นำกองทัพหนึ่งแสนคน โดยมีห้าหมื่นคนคอยติดตามอยู่ข้างกายหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเยี่ยนเย่ พร้อมทั้งจับตาดูความเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลาเสียงเยียบเย็นของเยี่ยนเย่ดังขึ้น “แม่ทัพแคว้นฉู่กำลังจะไปไหนหรือ?”“ในเมื่อทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารจ้านเฉิงอิ้น เจ้าจะถอนตัวเองไปโดยพลการได้อย่างไร”“วางใจเถอะ ต่อให้ต้องบุกทะลวง กองทัพแคว้นเยี่ยนของข้าจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 389

    ซุนหลินพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “กินได้สิ!”พูดจบ เขาหยิบมันเทศขึ้นมาเช็ดกับเสื้อ แล้วหักออก...เนื้อสีม่วงแดงของมันเทศก็เผยออกมากลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันเทศลอยออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนซุนหลินกลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ เขาเลยกัดไปคำหนึ่ง เนื้อกรอบหวานละมุนใจ“อร่อยจริงๆ!”“มันเทศสามารถนำไปปิ้งหรือนึ่งก็ได้ หรือจะใช้ต้มทำเป็นโจ๊ก หรือข้าวมันเทศก็ได้... มีวิธีกินเยอะแยะ ทั้งหวานทั้งเหนียว หอมอร่อยมาก!"จากนั้นเขาก็ยื่นมันเทศให้ซุนเฮ่อ “ลุงสาม ลองชิมดูสักคำสิ”ซุนเฮ่อชะงักเล็กน้อยก่อนรับมันเทศมาลองกัดคำหนึ่งทันทีที่กัดเข้าไป เขาเบิกตากว้างกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หวานจริง ๆ แถมยังมีน้ำในเนื้ออีก กรอบมาก...”เขาพูดพร้อมเคี้ยวอีกสองสามคำ “อร่อยมาก!”ซุนหลินยิ้มอย่างภูมิใจ “อร่อยใช่ไหมล่ะ! ที่ด่านเจิ้นกวนของเราปลูกมันเทศไว้มากกว่าหมื่นหมู่ ต่อไปนี้ทุกคนก็จะได้กินกันทั่วหน้า!”เหล่าชาวบ้านต่างพากันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ขณะฟังซุนหลินกล่าว “หมื่นหมู่ นั่นเป็นพื้นที่กว้างขนาดไหนกันนะ!”“ไร่นาทุกผืนล้วนมีน้ำรดได้ แม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนน้ำเลยจริงๆ!”“คำพูดของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 388

    ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status