ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นพอจะประมาณการปริมาณของหนึ่งคันรถได้แล้วเขาบอกเฉินอู่ “รีบให้คนไปขุดหลุมยักษ์หนึ่งหลุม แล้วปูผ้าใบรองเอาไว้ อีกเดี๋ยวจะมีเนื้อหมูสดถูกส่งมา แล้วก็น้ำแข็งอีกจำนวนมาก”เมื่อได้ยินเนื้อหมูและน้ำแข็ง เฉินอู่ดีใจจนออกนอกหน้าเนื้อหมูเชียวนะ เนื้อที่โรงครัวใกล้จะหมดแล้ว ตอนนี้จึงใช้เนื้อม้าแทนไปก่อนทว่าเนื้อสัมผัสของเนื้อม้าสู้เนื้อหมูไม่ได้ เพราะม้าศึกผอมเกินไป อีกทั้งยังมีกลิ่นสาบเขาชอบกินเนื้อหมูมากกว่าครั้งนี้ท่านเทพยังส่งน้ำแข็งมาให้ด้วยน้ำแข็งเชียวนะ!ด่านเจิ้นกวนอากาศร้อนมาก หากเป็นเมื่อก่อน เรื่องน้ำแข็งไม่กล้าแม้แต่จะคิดในหน้าหนาวหิมะตกที่ด่านเจิ้นกวนเป็นชั้นบาง ๆ เท่านั้นพอวันที่สองและสามหิมะละลาย ทำให้มีปริมาณน้ำไม่มากนักดังนั้น สถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีน้ำแข็งมาก่อนไม่เหมือนเมืองหลวง หน้าหนาวแซะน้ำแข็ง หน้าร้อนเอามาดับร้อนเขาเฝ้ารอน้ำแข็งที่ท่านเทพประทานให้อย่างมาก ช่างคิดถึงความรู้สึกเย็นเยือกเหลือเกินเฉินอู่รีบพาคนไปขุดหลุมทันทีขณะนี้ มั่วฝานพาจวงเหลียงและเจียงหยวน เดินทางมาที่จวนของเฉินขุยเขาเห็นม้วนผ้ามากมายในโกดัง จึงวิ่งเข้าไปรื้อค
เฉินขุยมอบสารลับของฮ่องเต้ให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือจ้านเฉิงอิ้นคลี่สาส์นลับออกกองทัพตระกูลจ้านรบสามครั้งชนะสามครั้ง สังหารเผ่าหมานร่วมแสนคน ข่าวได้แพร่ไปถึงเมืองหลวง สร้างความตะลึงให้ราชสำนักอย่างมาก!แม้แต่ประชาชนยังรับรู้ขณะนี้เขามีชื่อเสียงอย่างมากในหมู่ประชน หนำซ้ำอยู่เหนืออำนาจแห่งราชวงศ์ไปแล้วราชสำนักอยากจะริดรอนอำนาจทหารของเขา ไม่ใช่ทนดูเขาเติบโตยิ่งใหญ่ มีทั้งอำนาจและเชื่อเสียงเยี่ยงนี้เพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้น ทางราชสำนักยินดีสละทหารสองแสนนายที่ด่านเจิ้นกวน พ่อค้าตามหัวเมืองและด่านสำคัญสองแสนคน เพื่อมอบให้เผ่าหมานพวกราชวงศ์และเหล่าขุนนาง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมานาน แต่ละวันลุ่มหลงมัวเมา จนรู้ว่าก้าวต่อไปของเผ่าหมานคือทลายเข้าสู่ดินแดนภาคกลางและยึดครองเมืองหลวงจากนั้นปิดเมืองสังหารประชาชน ล้มล้างการปกครองของแคว้นต้าฉี่ฮ่องเต้น้อยวิสัยทัศน์ตื้นเขิน จิตใจคับแคบ ใช้อำนาจตามแต่ใจส่วนเสนาบดีซูเห็นแก่เงิน แต่ละวันจ้องแต่จะคิดหาวิธีตั้งสารพัดภาษีเพื่อขูดรีดเงินทองพวกเขาไม่รู้เลยว่าแคว้นฉู่และแคว้นฉีจ้องจะเล่นงานแคว้นต้าฉี่นานแล้วทั้งสองแคว้นยอมละวางความแค้นหลายปี เ
เขาทั้งลับลวงและเปิดเผย เตรียมการณ์ทั้งสองด้านจ้านเฉิงอิ้นพูดต่อไป “พวกเขาต้องการยึดครองแคว้นต้าฉี่ ขอเพียงด่านเจิ้นกวนทลาย พวกเขาสามารถร่วมมือกับเผ่าหมาน แล้วมุ่งหน้าเข้ายึดครองเมืองหลวงได้เลย จากนั้นค่อยแบ่งดินแดนของแคว้นต้าฉี่!”หนังสือพงศาวดารที่ท่านเทพมอบให้เขา แคว้นฉี่ล่มสลายไปเพราะเหตุนี้เวลาการตายของเขา เกิดขึ้นในช่วงนี้เดิมแคว้นฉู่และแคว้นฉีเตรียมลงมือ แต่ไม่คิดว่ากองทัพตระกูลจ้านจะดุดันเช่นนี้เผ่าหมานถูกสังหารไปหนึ่งแสนคน ตอนนี้ได้ถอยออกไปไกลหนึ่งร้อยลี้ไม่มีใครกล้าเฝ้าประตูทางทิศใต้เฉียงเหนือหลัวเก๋อฟื้นแล้ว ขาทั้งคู่ถูกระเบิดจนเละ กลายเป็นคนพิการไปแล้วเพราะเขาไร้ประโยชน์ ทางราชสำนักม่อเป่ยลงโทษเขาและริบอำนาจทางทหารคืน อีกทั้งได้ส่งแม่ทัพคนใหม่มาประจำการที่ด่านเจิ้นกวนกองทัพตระกูลจ้านชนะถึงสามครั้ง ดูเหมือนได้รับชัยชนะอย่างสวยงามแต่ทหารเผ่าหมานยังไม่ยกทัพกลับ แคว้นฉู่และแคว้นฉีก็รอจังหวะลงมือหนำซ้ำยังมีราชสำนักคอยเป็นตัวถ่วง ส่งตัวสวีหวยมาก่อกวน“ต่อต้านภายนอก ภายในต้องสงบก่อน ทำให้คนของสวีหวยกลายเป็นพวกเรา”เฉินขุยสงสัย “ท่านแม่ทัพ คนพวกนี้ติดตามสวีหว
เขาเห็นจ้านเฉิงอิ้นรับชาวฉู่ที่มาสมัครเป็นทหาร จึงได้มาขอสวามิภักดิ์เขาอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนมาครึ่งปี จึงเห็นทุกสิ่งชัดเจนตั้งแต่ชาวบ้านที่อดตายทุกวัน จนถึงจวนแม่ทัพแจกจ่ายเสบียง มีน้ำให้ต้มโจ๊กกระทั่งตอนนี้ ที่กองทัพตระกูลจ้านมีอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ที่ไม่ใช่ของยุคสมัยนี้ยุ้งฉางที่มีข้าวสารมากจนไม่มีที่ให้เก็บแตงโมที่ชาวบ้านทั่วเมืองกินมาหลายวัน และยังมีแตง...วันนี้อาหารเช้าเป็นหมั่นโถวหรือชงโหยวปิ่ง ที่กินแกล้มกับโจ๊กอาหารเช้าที่หรูหราขนาดนี้ ไม่ใช่แค่โรงทานโจ๊กที่ตั้งขึ้นเพื่อแจกจ่ายประชาชนทั้งเมืองแต่อาหารเหล่านี้ ต่อให้อยู่ในบ้านของขุนนางเขตรอบวังหลวง ก็ไม่กล้ากินอาหารที่หรูหราเช่นนี้ทุกวันประชาชนด่านเจิ้นกวนมีความสุขมาก พวกเขาไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเสบียงอีกแล้วเมื่อวานแม่น้ำที่แห้งขอดเต็มไปด้วยน้ำมันเต็มภายในชั่วข้ามคืนเรื่องนี้น่าตะลึงเกินไป ทำให้ซื่อเมิ่งผิดคำสาบานต่ออาจารย์ จึงทำนายดูหลังจากทำนายแล้ว มีเลือดพุ่งออกมาจากปากและจมูกของเขา เพราะพลังคำสาบานสะท้อนกลับ!เดิมชะตาของจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนอายุสั้น เขาต้องตายภายในครึ่งเดือนแต่ชะตาของเขากลับพลิกผัน เบื
เธอสั่งให้ผู้จัดการทำความสะอาดคฤหาสน์ เพราะวันนี้จะย้ายเข้าไปอยู่พ่อแม่ของเธอเหมาภูเขาลูกนี้และสร้างคฤหาสน์ไปร่วมพันล้านกิจการของฟาร์มท่องเที่ยวดำเนินไปด้วยดี หลังหักลบรายจ่าย แต่ละปีมีกำไรสุทธิหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ทว่ายังห่างจากต้นทุนลิบลับ ทำเป็นรีสอร์ทท่องเที่ยว เย่มู่มู่รู้สึกพอใจมาก!เมื่อผู้จัดการหลี่ได้ยินว่าเธอจะมา จึงให้คนไปทำความสะอาดคฤหาสน์ทันทีเย่มู่มู่ขับรถไปที่ฟาร์มท่องเที่ยว เธอขับจนไปถึงไหล่เขาตรงหน้าคฤหาสน์หลังจากบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ ทุกปีพ่อกับแม่จะมาพักเป็นเพื่อนเธอสองเดือนบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นของครอบครัวเธอตอนนี้กลับมาอีกครั้ง กลับมีเธอแค่คนเดียว!ผู้จัดการหลี่ช่วยเปิดประตูใหญ่ และยกอาหารเย็นมาที่โต๊ะ“คุณหนูเย่ จะพักนานแค่ไหนครับ?”“น่าจะเดือนสองเดือน คุณไปทำงานเถอะ ถ้าไม่มีอะไรอย่ามารบกวนฉัน แล้วก็ไม่ต้องยกอาหารมาหรอก ถ้าฉันหิวจะโทรไปที่ร้านอาหารเอง”“ได้ครับ”หลังจากผู้จัดการออกไป เธอเห็นว่าเซียวหัวโทรมา “มู่มู่ ทำไมหนูไม่รับสาย?”“สินค้าชุดนี้ส่งไปถึงชานเมืองแล้ว หนูยังเอาอยู่หรือเปล่า?”“เอาค่ะ คุณลุงเซียว ตอนนี้หนูอย
ดวงตาของเหล่าผู้ใต้บัญชาแต่ละคนจ้องมองจ้านเฉิงอิ้นอย่างมีความหวังทว่าจ้านเฉิงอิ้นกลับย้อนถาม“พวกเจ้ารู้หรือไม่ เหตุใดที่จวนของเฉินขุยจึงมีม้วนผ้าจำนวนมาก และมีหญิงปักผ้าเย็บผ้าอยู่ในจวน”“เพราะเฉินขุยและเฉินฮูหยินมอบเงินทองให้ท่านเทพหนึ่งหีบ แค่ทองหยองเครื่องประดับก็มีสองกล่องใหญ่แล้ว”“เหตุใดมั่วฝานถึงให้รองเท้าแก่บ่าวในจวนสองคู่ ทุกครั้งที่ผ้ามาถึง เขาต้องได้เลือกก่อน เพราะเขามอบทองคำกับเครื่องประดับให้ท่านเทพสองหีบ”“การแลกเปลี่ยนกับท่านเทพอย่างยุติธรรม ต้องเป็นฝ่ายถวายเงินทอง ไม่ใช่ร้องขอทุกครั้งไป”คำพูดของจ้านเฉิงอิ้น ทำให้เหล่าทหารรู้สึกละอายใจอู๋ซานหลาง เฉินอู่ เฉินจวิ้นหลิน เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง หลินต้าจวิน เหอหง...ทุกคนต่างลุกขึ้นยืน ใบหน้าแดงเพราะอาย จากนั้นทำความเคารพจ้านเฉิงอิ้น “ท่านแม่ทัพ พวกเราขอตัวกลับบ้านก่อน อีกเดี๋ยวจะกลับมาขอรับ!”เมื่อพูดจบ ทุกคนก็วิ่งออกไปพวกเขาขี่ม้าไปกลับอย่างรวดเร็ว ในมือของแต่ละคนมีสิ่งของกลับมาด้วยเฉินอู่ถือเครื่องประดับมาหนึ่งกล่อง มีทั้งปิ่นทอง ปิ่นระย้า ต่างหู กำไล...เครื่องประดับทุกชิ้นทำจากทองคำบริสุทธิ์ ฝีมือประณีต
แต่ฮ่องเต้แคว้นฉี่ส่งทัพของแม่ทัพสวีหวยมารับช่วงดูแลด่านเจิ้นกวนต่อ เพราะที่นี่มีน้ำและเสบียงราชสำนักต้องการริดรอนอำนาจทหารของจ้านเฉิงอิ้นเมื่อเห็นอย่างนี้ เย่มู่มู่อยากจะด่าคนอย่างอดไม่ได้จ้านเฉิงอิ้นสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญที่แนวหน้า เพื่อปกป้องแผ่นดินของแคว้นฉี่ เขาทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกาย ยอมสู้ตายเพื่อต้าฉี่ทว่าฮ่องเต้ต้าฉี่กลับระแวงเขา อยากยึดอำนาจจากเขา อยากให้เขาตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวน!มีฮ่องเต้เช่นนี้ แต่แคว้นต้าฉี่ยังสามารถอยู่มาถึงตอนนี้ได้ ถือว่าโชคดีมากแล้วจ้านเฉิงอิ้นยังเขียนในจดหมายว่าเขาขอรับประกันกับท่านเทพ เขาจะอยู่รอดต่อไป จะทำให้กำลังทหารของสวีหวย เข้าสู่สังกัดของกองทัพตระกูลจ้านให้ได้กำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ต้านทานกองทัพห้าแสนห้าหมื่นนาย!ไม่มีทางชนะเลยแต่หากมีระเบิดจำนวนมาก จากนั้นฝังไว้บนเส้นทางที่แคว้นฉู่และแคว้นฉีต้องเดินทางผ่าน บางทีอาจขัดขวางไม่ให้พวกเขายึดด่านเจิ้นกวนได้เร็วขนาดนั้นหากมีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหนึ่งแสนคัน ลูกธนูสองล้านดอกชุดเกราะหนึ่งแสนห้าหมื่นชุด เสื้อเกราะกันกระสุนหนึ่งแสนห้าหมื่นตัว ดาบม่อเตาหนึ่งแสนเล่ม...พวกเขาต้องชน
เฉินขุยเฉินอู่ย้อนกลับมาที่ห้องประชุม เพื่อบอกว่าท่านเทพรับปากพวกเขาแล้วเหล่าทหารต่างโห่ร้องอย่างดีใจ!เพราะว่า ระเบิดกับหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและดาบม่อเตา ชุดเกราะ...สำคัญมากเหลือเกิน!เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงแคว้นต้าฉี่ที่สามารถเอาชนะอีกสามแคว้นที่ร่วมมือกันได้หรือไม่หากท่านเทพประทานสิ่งของอย่างทันท่วงที พวกเขาไม่เพียงชนะทั้งสามฝ่าย แต่ยังโต้ตอบอีกสองแคว้นได้ด้วยโจมตีพวกเขาให้แตกพ่าย แล้วเรียกร้องให้ชดใช้ด้วยดินแดน ด้วยเงินทอง แล้วเซ็นสัญญาไม่รุกรานอีกห้าสิบปีทางที่ดีต้องให้พวกเขาสละเมืองหลายเมือง ทำให้แคว้นต้าฉี่ก้าวกระโดดขึ้นเป็นแคว้นที่ใหญ่อันดับหนึ่งเมื่อก่อน เหล่าทหารทุกคนต่างเคยฝันว่าจะกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแต่เสียดาย ราชวงศ์ของต้าฉี่วุ่นวายเกินไป พวกเขาจึงได้เพียงแค่ฝันตอนนี้ความฝันของพวกเขาใกล้เป็นจริงแล้วจะไม่ดีใจได้อย่างไร?กำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ต่อต้านกองทัพห้าแสนห้าหมื่นนาย ในสายตาคนนอกเหมือนรนหาที่ตายแต่สำหรับพวกเขาคือโอกาส คือความท้าทาย!คือศึกแรกแห่งการรวบรวมดินแดนหัวเซี่ยให้เป็นปึกแผ่นจ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้น “ไปดูที่โกดังก่อน ท่านเทพจะส
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม
จ้านเฉิงอิ้นกล่าวหยุดเฉินขุย“เจ้าออกไปทางลับ ถ้ามีคนยอมติดตามกองทัพตระกูลจ้าน นำตัวกลับเข้ากองทัพ!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“สำหรับสวีหวย ข้าไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตนเอง ถือว่าให้ความเมตตาที่สุดแล้ว!”“พระราชโองการนั่นที่เขากล่าวถึง ข้าออกรบชนะศึก ฮ่องเต้จะยกให้คนอื่นมารับช่วงด่านเจิ้นกวนต่อได้อย่างไร ต้องเป็นของปลอมแน่!”เฉินขุยเฉินอู่พยักหน้าซ้ำ ๆ เห็นด้วย“ใช่ เป็นของปลอม สวีหวยประกาศพระราชโองการปลอม ความผิดของเขาต้องฆ่าทิ้งทันที!”“เพื่อเพิ่มความปรีดาให้แก่ท่าน ข้าน้อยจะไปกวาดล้างคนเลวข้างกายฮ่องเต้ ตัดหัวสวีหวยผู้ประกาศพระราชโองการปลอมเดี๋ยวนี้!”สองพี่น้องนำคนและม้าออกจากเมืองไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจ้านเฉิงอิ้นจึงนั่งลงอีกครั้ง เห็นมั่วฝานทอดมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของสองพี่น้องพร้อมกับขมวดคิ้วเขาจึงถามมั่วฝาน “เป็นอะไรไป?”“ตอนนี้ยังฆ่าสวีหวยไม่ได้!”“เพราะเหตุใด?”มั่วฝานนำสารลับที่ได้รับวันนี้จากไทเฮา ยื่นให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดสารลับอ่าน คิ้วยาวดุจดาบพลางขมวดเล็กน้อยมั่วฝานกล่าวต่อ “บุตรสาวของสวีหวยได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมากในพระราชวังถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้
อำนาจทางการทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะถูกส่งต่อให้กับคนอื่นกองทัพตระกูลจ้านไม่เป็นที่พอใจในสายตาของฮ่องเต้ตั้งแต่ต้นวันนี้พวกเขามีเสบียงมีน้ำ มีอุปกรณ์ติดตัวที่ยอดเยี่ยม…สมาชิกราชวงศ์ต้าฉี่ประพฤติตนไร้สาระ เสนาบดีซูขูดรีดพลเมืองสภาพการณ์ของชาวเมือง ไม่ต่างจากด่านเจิ้นกวนในเวลานั้นภายในแคว้นต้าฉี่มีอิทธิพลหลายกลุ่มเริ่มผนึกตัว เพียงแต่ถูกกำลังทหารสองแสนคนขวางไว้ถ้าชาวเมืองมีชีวิตต่อไปได้ ใครจะรวมพลก่อกบฏอีกเล่าทุกคนล้วนอยู่ภายใต้หนทางตัน สุดท้ายจึงจำใจเลือกเส้นทางนี้จ้านเฉิงอิ้นทำลายกองทัพพันธมิตรของแคว้นฉู่กับแคว้นฉีอย่างแสนสาหัส ทำให้กองทัพเผ่าหมานต้องถอยทัพด้วยความปราชัย ชื่อเสียงของเขาในหมู่พลเมือง อยู่เหนือกว่าสมาชิกราชวงศ์ไปมากฮ่องเต้ไม่อาจยอมรับเขาได้ถอดชุดเกราะเป็นเพียงก้าวแรก ยึดอำนาจทางการทหารของแม่ทัพแล้วยังไม่สบายใจต้องประหารชีวิตแม่ทัพอย่างแน่นอน!พวกเขามีมิตรภาพที่ผ่านความตายมาด้วยกันทั้งนั้น เผชิญความอดอยากด้วยกันในด่านเจิ้นกวน ฆ่าศัตรูในสนามรบไปด้วยกันยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสามารถติดต่อกับท่านเทพเช่นนั้นแม่ทัพจะกลับเข้าเมืองหลวงไม่ได้ในเวลานี้ ทุ
ลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมืองราวกับเสียงประหลาดที่ดังก้องหู มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวยล้วนรู้สึกสนใจ!ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ สำหรับข่าวคราวที่ว่าด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเสบียงอาหาร บางทียังยึดมั่นในความสงสัยวันนี้เมื่อเห็นบนกำแพงมีทหารชั้นผู้น้อยเฝ้าประตูเมือง กินข้าวโดยใช้กะละมังและดื่มน้ำอย่างตามใจโดยไม่รู้สึกสิ้นเปลือง!ชีวิตดี ๆ ที่พวกเขามี เทียบได้กับช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยไม่ ดีกว่าช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยเสียอีกชีวิตของทหารในด่านเจิ้นกวน เทียบเท่ากับตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวง ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างนับไม่ถ้วนล้วนเกิดแรงปรารถนาพวกเขาอยากเข้าไปในเมือง อยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน อยากมีข้าวสวยกินทุกวัน อยากมีน้ำที่ดื่มไม่หมดทุกคน!สวีหวยโมโหและดุด่า “ไปเรียกจ้านเฉิงอิ้นออกมา ข้ามารับช่วงด่านเจิ้นกวนพร้อมด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้!”ครั้งนี้ คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองไม่กี่คน มองสวีหวยคราหนึ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ใดในสายตานั้น ไร้ซึ่งความเคารพและความกลัวของทหารที่พึงมีต่อแม่ทัพอย่างสิ้นเชิงใช้แววตาเรียบนิ่งมองสวีหวย กระทั่งแฝงความรังเกียจ
นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ