เฉินขุยเฉินอู่ย้อนกลับมาที่ห้องประชุม เพื่อบอกว่าท่านเทพรับปากพวกเขาแล้วเหล่าทหารต่างโห่ร้องอย่างดีใจ!เพราะว่า ระเบิดกับหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและดาบม่อเตา ชุดเกราะ...สำคัญมากเหลือเกิน!เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงแคว้นต้าฉี่ที่สามารถเอาชนะอีกสามแคว้นที่ร่วมมือกันได้หรือไม่หากท่านเทพประทานสิ่งของอย่างทันท่วงที พวกเขาไม่เพียงชนะทั้งสามฝ่าย แต่ยังโต้ตอบอีกสองแคว้นได้ด้วยโจมตีพวกเขาให้แตกพ่าย แล้วเรียกร้องให้ชดใช้ด้วยดินแดน ด้วยเงินทอง แล้วเซ็นสัญญาไม่รุกรานอีกห้าสิบปีทางที่ดีต้องให้พวกเขาสละเมืองหลายเมือง ทำให้แคว้นต้าฉี่ก้าวกระโดดขึ้นเป็นแคว้นที่ใหญ่อันดับหนึ่งเมื่อก่อน เหล่าทหารทุกคนต่างเคยฝันว่าจะกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแต่เสียดาย ราชวงศ์ของต้าฉี่วุ่นวายเกินไป พวกเขาจึงได้เพียงแค่ฝันตอนนี้ความฝันของพวกเขาใกล้เป็นจริงแล้วจะไม่ดีใจได้อย่างไร?กำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ต่อต้านกองทัพห้าแสนห้าหมื่นนาย ในสายตาคนนอกเหมือนรนหาที่ตายแต่สำหรับพวกเขาคือโอกาส คือความท้าทาย!คือศึกแรกแห่งการรวบรวมดินแดนหัวเซี่ยให้เป็นปึกแผ่นจ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้น “ไปดูที่โกดังก่อน ท่านเทพจะส
เธอโอนเงินไปล่วงหน้าห้าสิบล้านเมื่อเจ้าของได้รับเงิน ยิ้มจนปากหุบไม่ลง!บอกว่าจะขนของขึ้นรถ แล้วเอาไปส่งให้คืนนี้เลยเขาจึงขอที่อยู่กับเย่มู่มู่เธอส่งที่อยู่โกดังของรีสอร์ทให้เจ้าของโรงงานจากนั้นเธอติดต่อร้านชุดเกราะ หน้าไม้ราชวงศ์ฉินและโรงงานดาบม่อเตาครั้งที่แล้วเย่มู่มู่สั่งสินค้าสองร้อยล้าน เจ้าของโรงงานต้องเพิ่มไลน์ผลิตหลายสายและรับสมัครคนงานจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเย่มู่มู่ตอนนี้เย่มู่มู่โทรหาเขา แล้วสั่งชุดเกราะ หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ลูกธนู ดาบม่อเตาเพิ่มหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหนึ่งแสนคัน ลูกธนูสามล้านดอก ต้องการด่วน...เมื่อเจ้าของได้ยิน ทั้งดีใจและร้อนใจหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและลูกธนูสามารถเร่งผลิตให้ได้เย่มู่มู่ให้เขาทำโอทีเพื่อเร่งผลิตออกมาก่อน ภายในหนึ่งอาทิตย์ต้องได้รับสินค้าเจ้าของโรงงานรับปาก เขาให้โรงงานของน้องชายผลิตร่วมกันชุดเกราะราคาต่อชุดแพง ชุดเกราะหนึ่งแสนห้าหมื่นชุด มีมูลค่าสามพันล้านเจ้าของโรงงานไม่อยากเสียโอกาส จึงหาคนทั้งหมู่บ้านช่วยกันประกอบชุดเกราะประกอบได้กี่ชุดก็ส่งสินค้าตามจำนวนนั้นไลน์ผลิตของดาบม่อเตาเพิ่มขึ้นอีกสองสาย แต่ละวันสามาร
หลังจากเย่มู่มู่ส่งรายการให้จ้านเฉิงอิ้น ได้ทำบัญชีขึ้นมาการจัดซื้อในครั้งนี้เธอใช้เงินไปทั้งหมดสามพันห้าร้อยกว่าล้านการจัดซื้ออาวุธ ระเบิด เสบียง ถ่านหิน ปูนซีเมนต์ในครั้งที่แล้ว...ใช้เงินไปสองพันล้านรายได้จากการขายวัตถุโบราณครั้งที่แล้ว จอกสุราสามขาสามพันล้าน เหรียญเงินกับม้วนไม้ไผ่สองร้อยล้าน ชุดจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์สองพันห้าร้อยล้านรวมทั้งหมดหกพันห้าร้อยล้าน ตอนนี้เหลือแค่ห้าร้อยล้านเดิมทีเธอนึกว่าตัวเองจะเก็บเงินได้จำนวนมาก!สุดท้าย เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด เพื่อให้จ้านเฉิงอิ้นชนะศึกเงินแค่นี้ไม่พอให้เธอใช้สอยด้วยซ้ำจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนที่เข้าใจความเป็นไปของสังคม จึงส่งเงินทองเครื่องประดับวัตถุโบราณมากมายมาล่วงหน้าเธอนั่งอยู่กลางวัตถุโบราณ แกะถุงกันฝุ่น ค่อย ๆ ค้นหาวัตถุโบราณเธอต้องการวัตถุโบราณที่ไม่หวือหวา แต่ขายได้ราคาสูงภาพวาดสองภาพนั้นเธอขายไม่ลง พิณโบราณก็ตัดใจขายไม่ได้เครื่องประดับไม่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นของใช้เชื้อพระวงศ์ จึงไม่ได้ราคาสุดท้ายเหรียญทอง ทองคำแท่ง ทองหยวนเป่า...ก็ไม่ได้ราคาเมื่อคิดได้อย่างนั้น เธอไปขนของลงจากรถอีกหลายกล่องเธ
การรักษาความปลอดภัยสูงมากเย่มู่มู่กดลิฟท์ลงไปถึงชั้นบีสอง เดินทางลับลงไปถึงชั้นบีสามกล่องทั้งสิบสองใบถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของแล้วล็อกไว้อย่างดีเมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอค้นชุดถ้วยชามกระเบื้องห้าชุดที่ยังไม่เคยใช้ ออกมาจากตู้เก็บของในห้องครัวหนึ่งชุดประกอบไปด้วยถ้วย จานเล็ก จานใหญ่ หม้อดิน ตะเกียบ ช้อน...รวมสิบหกชิ้นชุดถ้วยชามขอบทอง ชุดถ้วยชามลายครามดอกไม้ ชุดถ้วยชามกระเบื้องเคลือบสี ชุดของขวัญถ้วยชามตำบลจิ่งเต๋อสองชุด...บรรจุในกล่องผ้าแพรบุกำมะหยี่พร้อมหูหิ้ว สะดวกมอบเป็นของขวัญเย่มู่มู่เขียนแผ่นกระดาษ “จ้านเฉิงอิ้น ข้ามอบชุดจานชามกระเบื้องให้เจ้าหลายชุด เจ้านำไปแลกถ้วยกระเบื้อง จานกระเบื้อง ขวดกระเบื้อง...ที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวันมาให้ข้าทั้งหมด”เธอส่งชุดกระเบื้องถ้วยชามทั้งห้าชุดข้ามไป*ภายในห้องประชุม ทุกคนอารมณ์ดีมาก ล้วนแต่กำลังกินดื่มกันอยู่ และหารือกันว่าจะโจมตีเผ่าหมานอย่างหนักอีกครั้งเพราะอย่างไรระเบิดก็ส่งมาแล้วหากไม่ระเบิดตอนนี้ จะไประเบิดตอนไหน !ทันใดนั้น กระดาษใบหนึ่งลอยลงมา ยังไม่ทันได้อ่านเนื้อหาบนกระดาษด้วยซ้ำกล่องผ้าแพรกล่องใหญ่ห้าใบก็ตกล
สาเหตุที่เย่มู่มู่ย้ายมาอยู่ที่ฟาร์มเพราะข้างคฤหาสน์ มีลำธารสายหนึ่งที่น้ำผุดขึ้นจากใต้ดิน ไหลตั้งแต่ยอดเขาลงไปถึงเชิงเขาคุณภาพของน้ำใสสะอาด สามารถนำมาดื่มกินได้เด็กในหมู่บ้านตรงเชิงเขาอาบน้ำจับปลา ยิ่งในช่วงแรกชาวบ้านนำมาซักผ้าทำอาหารเพียงแต่ ตอนนี้น้ำประปาเข้าถึงบ้านทุกหลัง จึงไม่มีใครมาใช้น้ำที่ลำธารอีกเธออยากลองดู หากเอาแจกันวางในลำธาน น้ำจะถูกส่งข้ามไปได้หรือไม่ทันใดนั้น เธอจึงส่งกระดาษไปให้จ้านเฉิงอิ้นหลังจากจ้านเฉิงอิ้นได้รับ ตอบกลับเธอ “ขอรับ ท่านเทพข้าเตรียมบ่อน้ำไว้แล้ว”เพื่อความสะดวกในการรองน้ำดื่มของทางค่ายทหาร จ้านเฉิงอิ้นให้ทหารทำความสะอาดบ่อน้ำที่แห้งไปแล้วหากบ่อน้ำถูกเติมให้เต็ม เหล่าทหารจะได้ดื่มน้ำอย่างสะดวกสบายมากขึ้นลำธารสายนี้ห่างจากคฤหาสน์ไม่ถึงสิบเมตร น่าจะส่งข้ามไปฝั่งโน้นได้เธอใช้โซ่เหล็กพันรอบปากแจกันแล้วแขวนไว้บนต้นไม้ทั้งสองฝั่ง เพื่อไม่ให้น้ำพัดแจกันไปจากนั้นใช้หินเรียงกันเหมือนแอ่ง เพื่อกั้นแจกันไว้อีกหนึ่งชั้นสุดท้ายวางแจกันลงไปในลำธาน ให้ปากแจกันจมลงไปในน้ำปากแจกันกลายเป็นน้ำวน ไหลเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ไหลออกมาสำเร็จแล้
มีผู้อาวุโสมู่ รองผู้อำนวยการจาง และผู้อาวุโสอีกสองคนที่ดูสง่างามเมื่อผู้อาวุโสมู่เห็นคฤหาสน์ที่สร้างอย่างมีกลิ่นอายโบราณ ตั้งอยู่บนไหล่เขาที่มีหมอกรายล้อมด้านหน้าคือที่ดิน ที่เพาะปลูกผลหมากรากไม้และพืชผักด้านหลังมีลำธารหนึ่งสาย ข้างลำธารมีศาลาริมน้ำและศาลาพักร้อนเขาจึงกล่าวขึ้น “ที่แห่งนี้ราวกับดินแดนสุขาวดี น่าอยู่อาศัยมาก”เย่มู่มู่หัวเราะ “หากคุณชอบ สามารถมาพักได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ฟาร์มเซียนหยวนยังมีห้องว่าง ให้ฉันแจ้งผู้จัดการเก็บห้องไว้ไหมคะ?”“เฮ้อ ไม่มีเวลาพักหรอก ผมต้องกลับไปดูร้านอีก”เย่มู่มู่เชิญพวกผู้อาวุโสมู่เข้าไปที่ห้องรับแขกภายในห้องรับแขก มีถ้วยกระเบื้อง จานกระเบื้อง ขวดกระเบื้องแบบต่าง ๆ วางไว้บนโต๊ะน้ำชาอย่างละยี่สิบใบบนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง วางกาสุราสีทองอร่ามเอาไว้ผู้อาวุโสที่สง่างามสองคน เดินตรงไปที่โต๊ะน้ำชา แล้วหยิบจานขึ้นด้วยนิ้วที่สั่นระริก จากนั้นพลิกดูไม่หยุดผู้อาวุโสที่สวมแว่นตา ถึงขนาดเอาแว่นขยายออกมาส่องดูรองผู้อำนวยการจางกลับมองเห็นกาสุราตั้งแต่แวบแรก เขาหยิบขึ้นด้วยใบหน้าแดงเถือก แล้วตรวจดูที่ก้นกา จากนั้นดูที่ตัวกาสุรา ต่อมาสำรวจดูมังกรสีท
รองผู้อำนวยการจางหยิบเหรียญทองขึ้นมาถามว่า “สามพันสองร้อยห้าสิบล้าน คุณเย่คิดว่ายังไงครับ?”เย่มู่มู่นึกไม่ถึงว่าจะขายได้ราคาสูงขนาดนี้!ในรายการตรวจสอบสมบัติ เงินทองในยุคเดียวกันไม่ได้มีราคาเท่าเครื่องลายครามกับภาพเขียนและภาพวาดพู่กันสามพันสองร้อยห้าสิบล้านนั้นสูงเกินราคาจริงของมันไปมากเธอพึงพอใจกับราคานี้มาก “ได้ค่ะ ถ้าคุณคิดว่าคุ้มราคา ฉันก็ขาย”รองผู้อำนวยการจางหยักยิ้มมุมปาก รีบเก็บเหรียญทองทันที เขาใช้ผ้าไหมเช็ดถูอย่างเบามือ จากนั้นก็เก็บไว้ในกล่องเล็ก ๆเขายิ้มให้ผู้อาวุโสมู่ “กาสุรา คุณก็อย่าเอาแต่แย่งกับผมเลย!”ผู้อาวุโสมู่ไม่ยอม!“ผมกับคุณเย่ตกลงราคากันแล้ว จะยอมยกให้คุณได้ยังไงล่ะ?”รองผู้อำนวยการจางบอกว่า “กาสุรากับถังเหล้าเป็นชุดเดียวกัน ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของพิพิธภัณฑ์ คุณตั้งราคาเท่าไร ผมให้เพิ่มหนึ่งร้อยล้าน!”ผู้อาวุโสมู่ถูกเขายั่วโมโห “รู้อย่างนี้ไม่พาคุณมาแต่แรกก็ดี ไม่คิดว่าจะมาแย่งของกันอย่างนี้”รองผู้อำนวยการจางเก็บเหรียญทองกับกาสุราไปในราคารวมทั้งหมดหกพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านเขาสั่งให้ฝ่ายการเงินรีบโอนเงินให้เย่มู่มู่เพราะกลัวจะถูกใครแย่งไป
นัยน์ตาดำขลับของจ้านเฉิงอิ้นหันไปมองที่ประตูเมืองหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยว่า “กำลังหลักของเผ่าหมาน ปักหลักอยู่ทางทิศตะวันออก”“กำลังสำคัญอยู่ที่คอกม้า จะต้องมีม้าศึกอยู่มากมายเป็นแน่ ต้องหาวิธีขโมยม้าออกมา”“เรามีม้าศึกสองร้อยตัวของกองทัพตระกูลจ้าน คราวก่อนยึดม้ามาหกร้อยตัว ทั้งหมดมีไม่เกินแปดร้อย ไม่พอเลยสักนิด!”เฉินขุยได้ยินก็ตบหัวตัวเองแรง ๆ หนึ่งฉาด“ทำไมข้านึกไม่ถึง ตอนนี้สิ่งที่พวกเราขาดแคลนมากที่สุดก็คือม้าศึก”“ท่านแม่ทัพ กลางคืนข้าจะเอาน้ำและอาหารม้าไปที่คอกม้าของเผ่าหมาน หลอกล่อม้าของพวกมันออกมา”“ทางประตูทิศตะวันตกให้พากำลังคนไปก่อความวุ่นวายสักหน่อยก็พอ วันนี้จุดประสงค์หลักของพวกเราคือหากองทัพม้ามาเพิ่ม”“เอาละ ไปวางแผนกันที่ห้องโถงหารือกัน”สิ้นเสียงคำสั่งของจ้านเฉิงอิ้น น้ำก็หยุดไหลพอดีบ่อน้ำบ่อที่ห้าเต็มแล้วเหล่าทหารเห็นบ่อน้ำเต็มแล้วก็กู่ร้องด้วยความยินดี ต่างหยิบน้ำเต้าของตัวเองขึ้นมาตักน้ำที่ข้างบ่อจ้านเฉิงอิ้นยกแจกันดอกไม้ขึ้นมาห่อด้วยผ้าไหม จากนั้นก็ยกไปที่ห้องโถงหารือด้วยเวลานี้ กระดาษแผ่นหนึ่งลอยลงมา“ข้าซื้อชุดกล่องของขวัญเซราม
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม
จ้านเฉิงอิ้นกล่าวหยุดเฉินขุย“เจ้าออกไปทางลับ ถ้ามีคนยอมติดตามกองทัพตระกูลจ้าน นำตัวกลับเข้ากองทัพ!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“สำหรับสวีหวย ข้าไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตนเอง ถือว่าให้ความเมตตาที่สุดแล้ว!”“พระราชโองการนั่นที่เขากล่าวถึง ข้าออกรบชนะศึก ฮ่องเต้จะยกให้คนอื่นมารับช่วงด่านเจิ้นกวนต่อได้อย่างไร ต้องเป็นของปลอมแน่!”เฉินขุยเฉินอู่พยักหน้าซ้ำ ๆ เห็นด้วย“ใช่ เป็นของปลอม สวีหวยประกาศพระราชโองการปลอม ความผิดของเขาต้องฆ่าทิ้งทันที!”“เพื่อเพิ่มความปรีดาให้แก่ท่าน ข้าน้อยจะไปกวาดล้างคนเลวข้างกายฮ่องเต้ ตัดหัวสวีหวยผู้ประกาศพระราชโองการปลอมเดี๋ยวนี้!”สองพี่น้องนำคนและม้าออกจากเมืองไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจ้านเฉิงอิ้นจึงนั่งลงอีกครั้ง เห็นมั่วฝานทอดมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของสองพี่น้องพร้อมกับขมวดคิ้วเขาจึงถามมั่วฝาน “เป็นอะไรไป?”“ตอนนี้ยังฆ่าสวีหวยไม่ได้!”“เพราะเหตุใด?”มั่วฝานนำสารลับที่ได้รับวันนี้จากไทเฮา ยื่นให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดสารลับอ่าน คิ้วยาวดุจดาบพลางขมวดเล็กน้อยมั่วฝานกล่าวต่อ “บุตรสาวของสวีหวยได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมากในพระราชวังถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้
อำนาจทางการทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะถูกส่งต่อให้กับคนอื่นกองทัพตระกูลจ้านไม่เป็นที่พอใจในสายตาของฮ่องเต้ตั้งแต่ต้นวันนี้พวกเขามีเสบียงมีน้ำ มีอุปกรณ์ติดตัวที่ยอดเยี่ยม…สมาชิกราชวงศ์ต้าฉี่ประพฤติตนไร้สาระ เสนาบดีซูขูดรีดพลเมืองสภาพการณ์ของชาวเมือง ไม่ต่างจากด่านเจิ้นกวนในเวลานั้นภายในแคว้นต้าฉี่มีอิทธิพลหลายกลุ่มเริ่มผนึกตัว เพียงแต่ถูกกำลังทหารสองแสนคนขวางไว้ถ้าชาวเมืองมีชีวิตต่อไปได้ ใครจะรวมพลก่อกบฏอีกเล่าทุกคนล้วนอยู่ภายใต้หนทางตัน สุดท้ายจึงจำใจเลือกเส้นทางนี้จ้านเฉิงอิ้นทำลายกองทัพพันธมิตรของแคว้นฉู่กับแคว้นฉีอย่างแสนสาหัส ทำให้กองทัพเผ่าหมานต้องถอยทัพด้วยความปราชัย ชื่อเสียงของเขาในหมู่พลเมือง อยู่เหนือกว่าสมาชิกราชวงศ์ไปมากฮ่องเต้ไม่อาจยอมรับเขาได้ถอดชุดเกราะเป็นเพียงก้าวแรก ยึดอำนาจทางการทหารของแม่ทัพแล้วยังไม่สบายใจต้องประหารชีวิตแม่ทัพอย่างแน่นอน!พวกเขามีมิตรภาพที่ผ่านความตายมาด้วยกันทั้งนั้น เผชิญความอดอยากด้วยกันในด่านเจิ้นกวน ฆ่าศัตรูในสนามรบไปด้วยกันยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสามารถติดต่อกับท่านเทพเช่นนั้นแม่ทัพจะกลับเข้าเมืองหลวงไม่ได้ในเวลานี้ ทุ
ลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมืองราวกับเสียงประหลาดที่ดังก้องหู มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวยล้วนรู้สึกสนใจ!ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ สำหรับข่าวคราวที่ว่าด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเสบียงอาหาร บางทียังยึดมั่นในความสงสัยวันนี้เมื่อเห็นบนกำแพงมีทหารชั้นผู้น้อยเฝ้าประตูเมือง กินข้าวโดยใช้กะละมังและดื่มน้ำอย่างตามใจโดยไม่รู้สึกสิ้นเปลือง!ชีวิตดี ๆ ที่พวกเขามี เทียบได้กับช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยไม่ ดีกว่าช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยเสียอีกชีวิตของทหารในด่านเจิ้นกวน เทียบเท่ากับตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวง ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างนับไม่ถ้วนล้วนเกิดแรงปรารถนาพวกเขาอยากเข้าไปในเมือง อยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน อยากมีข้าวสวยกินทุกวัน อยากมีน้ำที่ดื่มไม่หมดทุกคน!สวีหวยโมโหและดุด่า “ไปเรียกจ้านเฉิงอิ้นออกมา ข้ามารับช่วงด่านเจิ้นกวนพร้อมด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้!”ครั้งนี้ คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองไม่กี่คน มองสวีหวยคราหนึ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ใดในสายตานั้น ไร้ซึ่งความเคารพและความกลัวของทหารที่พึงมีต่อแม่ทัพอย่างสิ้นเชิงใช้แววตาเรียบนิ่งมองสวีหวย กระทั่งแฝงความรังเกียจ
นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ