แชร์

บทที่ 100

ผู้เขียน: มู่โร่ว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-28 13:42:24
มีผู้อาวุโสมู่ รองผู้อำนวยการจาง และผู้อาวุโสอีกสองคนที่ดูสง่างาม

เมื่อผู้อาวุโสมู่เห็นคฤหาสน์ที่สร้างอย่างมีกลิ่นอายโบราณ ตั้งอยู่บนไหล่เขาที่มีหมอกรายล้อม

ด้านหน้าคือที่ดิน ที่เพาะปลูกผลหมากรากไม้และพืชผัก

ด้านหลังมีลำธารหนึ่งสาย ข้างลำธารมีศาลาริมน้ำและศาลาพักร้อน

เขาจึงกล่าวขึ้น “ที่แห่งนี้ราวกับดินแดนสุขาวดี น่าอยู่อาศัยมาก”

เย่มู่มู่หัวเราะ “หากคุณชอบ สามารถมาพักได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ฟาร์มเซียนหยวนยังมีห้องว่าง ให้ฉันแจ้งผู้จัดการเก็บห้องไว้ไหมคะ?”

“เฮ้อ ไม่มีเวลาพักหรอก ผมต้องกลับไปดูร้านอีก”

เย่มู่มู่เชิญพวกผู้อาวุโสมู่เข้าไปที่ห้องรับแขก

ภายในห้องรับแขก มีถ้วยกระเบื้อง จานกระเบื้อง ขวดกระเบื้องแบบต่าง ๆ วางไว้บนโต๊ะน้ำชาอย่างละยี่สิบใบ

บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง วางกาสุราสีทองอร่ามเอาไว้

ผู้อาวุโสที่สง่างามสองคน เดินตรงไปที่โต๊ะน้ำชา แล้วหยิบจานขึ้นด้วยนิ้วที่สั่นระริก จากนั้นพลิกดูไม่หยุด

ผู้อาวุโสที่สวมแว่นตา ถึงขนาดเอาแว่นขยายออกมาส่องดู

รองผู้อำนวยการจางกลับมองเห็นกาสุราตั้งแต่แวบแรก เขาหยิบขึ้นด้วยใบหน้าแดงเถือก แล้วตรวจดูที่ก้นกา จากนั้นดูที่ตัวกาสุรา ต่อมาสำรวจดูมังกรสีท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (9)
goodnovel comment avatar
Boonpatsorn Thopdanthanapat
อุตส่าห์เติมเงินไว้อ่านต่อไม่ได้
goodnovel comment avatar
ชีวิต ดี๊ดี
ขาดตอนเลยเสียอารมย์
goodnovel comment avatar
มานัสรินทร์ อำมฤคขจร
ทำไมถึงทำกับชั้นได้หลอกให้อ่านแล้วแล้วรอเก้อ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 101

    รองผู้อำนวยการจางหยิบเหรียญทองขึ้นมาถามว่า “สามพันสองร้อยห้าสิบล้าน คุณเย่คิดว่ายังไงครับ?”เย่มู่มู่นึกไม่ถึงว่าจะขายได้ราคาสูงขนาดนี้!ในรายการตรวจสอบสมบัติ เงินทองในยุคเดียวกันไม่ได้มีราคาเท่าเครื่องลายครามกับภาพเขียนและภาพวาดพู่กันสามพันสองร้อยห้าสิบล้านนั้นสูงเกินราคาจริงของมันไปมากเธอพึงพอใจกับราคานี้มาก “ได้ค่ะ ถ้าคุณคิดว่าคุ้มราคา ฉันก็ขาย”รองผู้อำนวยการจางหยักยิ้มมุมปาก รีบเก็บเหรียญทองทันที เขาใช้ผ้าไหมเช็ดถูอย่างเบามือ จากนั้นก็เก็บไว้ในกล่องเล็ก ๆเขายิ้มให้ผู้อาวุโสมู่ “กาสุรา คุณก็อย่าเอาแต่แย่งกับผมเลย!”ผู้อาวุโสมู่ไม่ยอม!“ผมกับคุณเย่ตกลงราคากันแล้ว จะยอมยกให้คุณได้ยังไงล่ะ?”รองผู้อำนวยการจางบอกว่า “กาสุรากับถังเหล้าเป็นชุดเดียวกัน ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของพิพิธภัณฑ์ คุณตั้งราคาเท่าไร ผมให้เพิ่มหนึ่งร้อยล้าน!”ผู้อาวุโสมู่ถูกเขายั่วโมโห “รู้อย่างนี้ไม่พาคุณมาแต่แรกก็ดี ไม่คิดว่าจะมาแย่งของกันอย่างนี้”รองผู้อำนวยการจางเก็บเหรียญทองกับกาสุราไปในราคารวมทั้งหมดหกพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านเขาสั่งให้ฝ่ายการเงินรีบโอนเงินให้เย่มู่มู่เพราะกลัวจะถูกใครแย่งไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 102

    นัยน์ตาดำขลับของจ้านเฉิงอิ้นหันไปมองที่ประตูเมืองหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยว่า “กำลังหลักของเผ่าหมาน ปักหลักอยู่ทางทิศตะวันออก”“กำลังสำคัญอยู่ที่คอกม้า จะต้องมีม้าศึกอยู่มากมายเป็นแน่ ต้องหาวิธีขโมยม้าออกมา”“เรามีม้าศึกสองร้อยตัวของกองทัพตระกูลจ้าน คราวก่อนยึดม้ามาหกร้อยตัว ทั้งหมดมีไม่เกินแปดร้อย ไม่พอเลยสักนิด!”เฉินขุยได้ยินก็ตบหัวตัวเองแรง ๆ หนึ่งฉาด“ทำไมข้านึกไม่ถึง ตอนนี้สิ่งที่พวกเราขาดแคลนมากที่สุดก็คือม้าศึก”“ท่านแม่ทัพ กลางคืนข้าจะเอาน้ำและอาหารม้าไปที่คอกม้าของเผ่าหมาน หลอกล่อม้าของพวกมันออกมา”“ทางประตูทิศตะวันตกให้พากำลังคนไปก่อความวุ่นวายสักหน่อยก็พอ วันนี้จุดประสงค์หลักของพวกเราคือหากองทัพม้ามาเพิ่ม”“เอาละ ไปวางแผนกันที่ห้องโถงหารือกัน”สิ้นเสียงคำสั่งของจ้านเฉิงอิ้น น้ำก็หยุดไหลพอดีบ่อน้ำบ่อที่ห้าเต็มแล้วเหล่าทหารเห็นบ่อน้ำเต็มแล้วก็กู่ร้องด้วยความยินดี ต่างหยิบน้ำเต้าของตัวเองขึ้นมาตักน้ำที่ข้างบ่อจ้านเฉิงอิ้นยกแจกันดอกไม้ขึ้นมาห่อด้วยผ้าไหม จากนั้นก็ยกไปที่ห้องโถงหารือด้วยเวลานี้ กระดาษแผ่นหนึ่งลอยลงมา“ข้าซื้อชุดกล่องของขวัญเซราม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 103

    เผ่าหมานไม่กล้าเดินหน้าเข้ามาอีก ทำได้เพียงถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลบลูกธนูเหอหงเป็นคนใจกล้า เขานำทัพเข้าไปทางด้านข้าง มุ่งหน้าสู่คอกม้าทันทีพอเปิดประตูคอกม้า ก็รีบปลดเชือกที่มัดม้าไว้ทุกครั้งที่ปลดเชือกม้า ก็ป้อนอาหารให้ม้าหนึ่งคำ ป้อนน้ำหนึ่งคำลากออกไปได้มากเท่าใดก็เอาเท่านั้นด้านหน้า พลทหารกำลังยั่วยุท้าทาย ยังคงปล่อยธนูอย่างต่อเนื่องด้านข้าง ม้าหนึ่งพันกว่าตัวในคอกถูกปล่อยออกไปหมดแล้วพวกมันวิ่งตามคนชุดดำสิบกว่าคนบนหลังม้าอ้วนท้วมและแข็งแรงบึกบึนซึ่งแบกกระสอบไว้ม้าวิ่งเร็วเกินไป ดึงก็ดึงไม่อยู่เหอหงกับพรรคพวกอีกสิบกว่าคนล่อลวงม้าหนึ่งพันกว่าตัวออกมาได้หลี่จงหยวนกับหลินต้าจวินเห็นเขาทำสำเร็จต่างก็ยกนิ้วโป้งให้ชื่นชมที่เขาใจกล้า เพราะทันทีที่ถูกเผ่าหมานจับได้ พวกเขาคงไม่มีวันได้หวนกลับมาอีกแต่เขากลับทำสำเร็จแล้วครั้นขโมยม้าศึกสำเร็จก็ไม่เสียเวลาสู้ต่อ พวกเขาล่อม้าหนึ่งพันกว่าตัวกลับเมืองเหล่าทหารเห็นม้าศึกฝูงใหญ่พุ่งทะยานมาจากทางประตูเมือง ต่างก็เบิกตากว้างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วม้าศึกของเผ่าหมานถูกล่อกลับมาอย่างนี้เลยหรือ?ม้าเหล่านี้เทียบกับม้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 104

    แต่เธอไม่ใช่เทพยดานะ แล้วก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าด้วย เธอเป็นคนเป็น ๆ ต่างหาก!สร้างวัดให้คนเป็น ๆ จะโอเวอร์เกินไปรึเปล่า“ถ้าอย่างไร พวกเจ้าสร้างวัดพระโพธิสัตว์ดีกว่าไหม?”“เหตุใดต้องเป็นวัดพระโพธิสัตว์?”จู่ ๆ เย่มู่มู่ก็นึกขึ้นได้ ยุคนี้ศาสนาพุทธยังไม่แพร่เข้ามาในประเทศ“ข้าหมายถึง สร้างรูปปั้นไปเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปของข้า ข้าเป็นคนเป็น ๆ จะให้คนมากราบไหว้บูชาก็ออกจะ…”ไม่เหมาะสม!“ไม่ขอรับ ท่านช่วยกองทัพตระกูลจ้านของเรา ท่านช่วยอิ้นไว้ ช่วยชาวบ้านทั้งเมืองไว้ด้วย พวกชาวบ้านไม่มีทางกราบไหว้บูชาคนแปลกหน้าที่ไหน”“ท่านคือท่านเทพยดาของพวกเราอย่างไร้ข้อกังขา ได้โปรดส่งรูปเหมือนของท่านมา ช่างฝีมือเร่งเร้าแล้ว ไม่อาจชักช้าได้อีก!”จ้านเฉิงอิ้นจะสร้างวัดให้เธอให้ได้ก็ได้!เธอจะไม่เถียงกับคนโบราณ!คฤหาสน์หลังนี้ไม่มีรูปถ่ายของเธอ แต่บ้านเดิมมีเย่มู่มู่บอกว่า “รออีกสองสามวัน ข้าจะกลับไปเอารูป!”“ได้ขอรับ ท่านเทพอย่าลืมก็แล้วกัน!”“วันนี้ได้ม้ามาเพิ่มสี่พันกว่าตัว อาหารม้าไม่พอแล้วใช่หรือไม่?”“ขอรับ อิ้นอยากบอกท่านอยู่พอดี!”“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ข้าจะสั่งให้คนส่งมาสองคันรถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-13
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 105

    กองทัพแคว้นฉู่และแคว้นฉีใช้เส้นทางอ้อมภูเขาหลายลูก หมายมุ่งหน้ามาโจมตีด่านเจิ้นกวนซ่งตั๋วดักซุ่มโจมตีอยู่ไม่ห่างจากฐานที่มั่นของฝ่ายศัตรู ซุ่มรออยู่นานกลับยังไม่เห็นควันลอยขึ้นจากกระโจมของอีกฝ่ายเขาติดตามกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลายี่สิบกว่าปี มีประสบการณ์มากกว่าสองพี่น้องสกุลเฉิน อู๋ซานหลาง และเฉินจวิ้นหลินมากเขาสังเกตได้ถึงความผิดปกติ จึงเรียกทหารเก่าแก่สองนายแฝงตัวเข้าไปในค่ายทหารแคว้นฉู่ในยามวิกาลเวลานี้ พวกเขาค้นพบว่าค่ายทหารแห่งนี้ว่างเปล่าร้างไร้ผู้คนไปแล้วม้าศึก อาวุธ อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนถูกเอาไปหมดแล้วเหลือไว้เพียงบ้านอิฐ และกระโจมสิบกว่าหลังที่ยังไม่มีใครแตะต้องซ่งตั๋วสบถด่าด้วยความเดือดดาล“มารดาเอ็งเถอะ พวกเราถูกปั่นหัวแล้ว!”ทหารเก่าแก่รีบถาม “แม่ทัพซ่ง ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”“รีบส่งนกพิราบส่งข่าวกลับไปให้ท่านแม่ทัพใหญ่ บอกเขาว่าแคว้นฉู่เคลื่อนทัพไปด่านเจิ้นกวนแล้ว ให้เตรียมกองทัพตั้งรับศึกได้เลย!”หวังว่าตอนที่ข่าวถูกส่งไปถึง จะยังไม่สายไปนะ!“อย่างนั้นพวกเรารีบกลับไปตอนนี้เลยหรือไม่?”ซ่งตั๋วตอบราวกับร่างไร้วิญญาณว่า “พวกเรากลับไปไม่ทันแล้ว!”เขาหันไปมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 106

    ดังนั้น กองทัพเผ่าหมานถูกโจมตีจนสั่นคลอน ผู้นำถูกปลด ผู้นำคนใหม่ก็ยังมาไม่ถึง…พวกเขาจึงตัดเผ่าหมานออกมีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองแคว้นจะโจมตีเข้ามาทางประตูทิศตะวันออกและประตูทิศเหนือ เพราะสองทิศนี้เป็นเส้นทางที่ใกล้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีมากที่สุดสองแคว้นเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ได้ใช้เส้นทางที่ซ่งตั๋วฝังระเบิดไว้ เป็นไปได้ว่าในเมืองมีหนอนบ่อนไส้ซ่งตั๋วออกจากเมืองด้วยเส้นทางลับหากรู้ว่าเขาออกจากเมือง แสดงว่าจะต้องเป็นหนอนบ่อนไส้ที่มีตำแหน่งไม่ธรรมดาแน่นอนนึกมาถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นหันไปมองเหล่าทหารที่ยังไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ทว่ากลับมองเขาด้วยท่าทางขึงขังพร้อมรบพวกเขาล้วนเคยร่วมกินเปลือกไม้มาพร้อมกับเขา เคยแทะรากหญ้าแห้งด้วยกัน และมีมิตรภาพร่วมกันมามากมายจ้านเฉิงอิ้นไม่อยากสงสัยพวกเขาแต่กลับมีคนที่แอบขายข้อมูลให้คนภายนอกแฝงตัวอยู่ในกองทัพเขาเรียกเฉินขุยมาหา กระซิบสั่งข้างหูเขาสองสามประโยคเฉินขุยได้ยินก็เบิกตาด้วยความตกตะลึง ราวกับไม่อยากจะเชื่อ“จริงหรือขอรับ?”เขาพยักหน้า หยิบกระดาษข้อความให้เฉินขุยอ่าน“ท่านเทพไม่มีทางฝันร้ายอย่างไม่มีต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 107

    กองทัพฉู่อยู่ห่างจากด่านเจิ้นกวนสามสิบกว่าลี้ พลทหารมืดฟ้ามัวดินนับแสนยืนเรียงรายกันโดยมีธงรบสีเหลืองปักอยู่!กองทัพแคว้นฉี่มาถึงในหนึ่งชั่วยามให้หลัง พวกเขาปักหลักอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกยี่สิบลี้ แคว้นฉี่บีบคั้นด่านเจิ้นกวนยิ่งกว่าแคว้นฉู่เสียอีก!ธงมังกรดำโบกสะบัดอยู่ห่างออกไปยี่สิบลี้ ดูน่ากริ่งเกรงอย่างมาก!กองทัพใหญ่บุกประชิดพรมแดน ต่างจากเผ่าหมานที่ไร้ระเบียบแบบแผน กองทัพของทั้งสองแคว้นเป็นระบบระเบียบ มีวินัยเข้มงวด ทั้งยังผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีจ้านเฉิงอิ้นรบรากับเผ่าหมานเสียส่วนมาก เขาไม่เคยสู้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีเลยสักครั้งแม้เขาจะมีชื่อเสียงร่ำลือตั้งแต่อายุยังน้อย และมีบารมีน่าเกรงขามของแม่ทัพหนุ่มอยู่ แต่กลับไม่เคยได้รับแรงกดดันมหาศาลเช่นนี้มาก่อน!เขาถามหลี่จงหยวน “ยังเหลือธนูอีกเท่าใด?”“เหลือธนูห้าพันคัน ลูกดอกไม่พอแล้วขอรับ เหลือเพียงหนี่งแสนกว่าดอก หักไปไม่น้อยแล้ว”ลูกดอกหนึ่งแสนกว่าเล่มไม่เพียงพอที่จะใช้ต้านศึกจากทหารม้าสามแสนห้าหมื่นนายแน่นอนเวลานี้ เฉินขุยวิ่งกลับมาในสภาพสะบักสะบอมเขาพูดเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าง่วนอยู่สองชั่วยามกว่า ในท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 108

    อันดับแรก ธนูและลูกดอกยังไม่พอ!เธอค้นหาคันธนูและลูกดอกในพื้นที่ หรือจะเป็นปืนล่าสัตว์ก็ได้เธอหาปืนล่าสัตว์ไม่เจอ แต่กลับเจอร้านขายธนูทดกำลังเจอสามร้านเธอโทรไปทันทีเจ้าของร้านกำลังอยู่ในห้วงความฝัน จึงไม่ได้รับสายเธอรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงรีบขับรถลงจากเขา ตรงดิ่งไปที่หน้าประตูร้านพนักงานทำความสะอาดบอกว่าอย่างเร็วที่สุดร้านเปิดเจ็ดโมงเช้า บอกให้เธอรอไปก่อน!เย่มู่มู่เหมาไข่ต้มใบชาหนึ่งหม้อ และเหมาเสี่ยวหลงเปากับน้ำเต้าหู้ทั้งหมดในร้านอาหารเช้าข้าง ๆร้านบะหมี่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รอดเช่นกัน เธอสั่งให้เถ้าแก่ห่อบะหมี่หนึ่งร้อยกว่ากล่องจากนั้นก็เหมาน้ำและเครื่องดื่มทั้งหมดในตู้แช่ร้ายขายของชำพอขับรถมาถึงที่ลับตาคน เธอส่งมื้อเช้าทั้งหมดไปเธอกินเสี่ยวหลงเปาและดื่มน้ำเต้าหู้ ขณะที่รอร้านเปิดเจ็ดโมงครึ่ง ในที่สุดเถ้าแก่ก็เดินหาวมาเปิดประตูร้านเย่มู่มู่ถามไปตรง ๆ ว่าธนูทดกำลังในร้านมีกี่คัน?เถ้าแก่เห็นว่าเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง จึงลังเลไปเล็กน้อย ก่อนถามว่าเธอจะเอาขนาดไหนเธอบอกว่า “ยิงระยะไกล สามารถล่าหมูได้!”ล่าหมู ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร!เถ้าแก่บอกว่า “ในร้านมีหนึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 262

    “ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 261

    จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 260

    *หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 259

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 258

    *จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 257

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าวหยุดเฉินขุย“เจ้าออกไปทางลับ ถ้ามีคนยอมติดตามกองทัพตระกูลจ้าน นำตัวกลับเข้ากองทัพ!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“สำหรับสวีหวย ข้าไม่ลงมือฆ่าเขาด้วยตนเอง ถือว่าให้ความเมตตาที่สุดแล้ว!”“พระราชโองการนั่นที่เขากล่าวถึง ข้าออกรบชนะศึก ฮ่องเต้จะยกให้คนอื่นมารับช่วงด่านเจิ้นกวนต่อได้อย่างไร ต้องเป็นของปลอมแน่!”เฉินขุยเฉินอู่พยักหน้าซ้ำ ๆ เห็นด้วย“ใช่ เป็นของปลอม สวีหวยประกาศพระราชโองการปลอม ความผิดของเขาต้องฆ่าทิ้งทันที!”“เพื่อเพิ่มความปรีดาให้แก่ท่าน ข้าน้อยจะไปกวาดล้างคนเลวข้างกายฮ่องเต้ ตัดหัวสวีหวยผู้ประกาศพระราชโองการปลอมเดี๋ยวนี้!”สองพี่น้องนำคนและม้าออกจากเมืองไปอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรจ้านเฉิงอิ้นจึงนั่งลงอีกครั้ง เห็นมั่วฝานทอดมองแผ่นหลังที่กำลังจากไปของสองพี่น้องพร้อมกับขมวดคิ้วเขาจึงถามมั่วฝาน “เป็นอะไรไป?”“ตอนนี้ยังฆ่าสวีหวยไม่ได้!”“เพราะเหตุใด?”มั่วฝานนำสารลับที่ได้รับวันนี้จากไทเฮา ยื่นให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดสารลับอ่าน คิ้วยาวดุจดาบพลางขมวดเล็กน้อยมั่วฝานกล่าวต่อ “บุตรสาวของสวีหวยได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างมากในพระราชวังถูกแต่งตั้งให้เป็นกุ้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 256

    อำนาจทางการทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะถูกส่งต่อให้กับคนอื่นกองทัพตระกูลจ้านไม่เป็นที่พอใจในสายตาของฮ่องเต้ตั้งแต่ต้นวันนี้พวกเขามีเสบียงมีน้ำ มีอุปกรณ์ติดตัวที่ยอดเยี่ยม…สมาชิกราชวงศ์ต้าฉี่ประพฤติตนไร้สาระ เสนาบดีซูขูดรีดพลเมืองสภาพการณ์ของชาวเมือง ไม่ต่างจากด่านเจิ้นกวนในเวลานั้นภายในแคว้นต้าฉี่มีอิทธิพลหลายกลุ่มเริ่มผนึกตัว เพียงแต่ถูกกำลังทหารสองแสนคนขวางไว้ถ้าชาวเมืองมีชีวิตต่อไปได้ ใครจะรวมพลก่อกบฏอีกเล่าทุกคนล้วนอยู่ภายใต้หนทางตัน สุดท้ายจึงจำใจเลือกเส้นทางนี้จ้านเฉิงอิ้นทำลายกองทัพพันธมิตรของแคว้นฉู่กับแคว้นฉีอย่างแสนสาหัส ทำให้กองทัพเผ่าหมานต้องถอยทัพด้วยความปราชัย ชื่อเสียงของเขาในหมู่พลเมือง อยู่เหนือกว่าสมาชิกราชวงศ์ไปมากฮ่องเต้ไม่อาจยอมรับเขาได้ถอดชุดเกราะเป็นเพียงก้าวแรก ยึดอำนาจทางการทหารของแม่ทัพแล้วยังไม่สบายใจต้องประหารชีวิตแม่ทัพอย่างแน่นอน!พวกเขามีมิตรภาพที่ผ่านความตายมาด้วยกันทั้งนั้น เผชิญความอดอยากด้วยกันในด่านเจิ้นกวน ฆ่าศัตรูในสนามรบไปด้วยกันยิ่งไปกว่านั้น แม่ทัพสามารถติดต่อกับท่านเทพเช่นนั้นแม่ทัพจะกลับเข้าเมืองหลวงไม่ได้ในเวลานี้ ทุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 255

    ลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมืองราวกับเสียงประหลาดที่ดังก้องหู มันเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวยล้วนรู้สึกสนใจ!ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ สำหรับข่าวคราวที่ว่าด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีเสบียงอาหาร บางทียังยึดมั่นในความสงสัยวันนี้เมื่อเห็นบนกำแพงมีทหารชั้นผู้น้อยเฝ้าประตูเมือง กินข้าวโดยใช้กะละมังและดื่มน้ำอย่างตามใจโดยไม่รู้สึกสิ้นเปลือง!ชีวิตดี ๆ ที่พวกเขามี เทียบได้กับช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยไม่ ดีกว่าช่วงก่อนเกิดภัยแล้งและทุพภิกขภัยเสียอีกชีวิตของทหารในด่านเจิ้นกวน เทียบเท่ากับตระกูลชนชั้นสูงของเมืองหลวง ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างนับไม่ถ้วนล้วนเกิดแรงปรารถนาพวกเขาอยากเข้าไปในเมือง อยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน อยากมีข้าวสวยกินทุกวัน อยากมีน้ำที่ดื่มไม่หมดทุกคน!สวีหวยโมโหและดุด่า “ไปเรียกจ้านเฉิงอิ้นออกมา ข้ามารับช่วงด่านเจิ้นกวนพร้อมด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้!”ครั้งนี้ คนที่อยู่ใกล้กำแพงเมืองไม่กี่คน มองสวีหวยคราหนึ่งโดยไม่แสดงอารมณ์ใดในสายตานั้น ไร้ซึ่งความเคารพและความกลัวของทหารที่พึงมีต่อแม่ทัพอย่างสิ้นเชิงใช้แววตาเรียบนิ่งมองสวีหวย กระทั่งแฝงความรังเกียจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 254

    นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ

DMCA.com Protection Status