อันดับแรก ธนูและลูกดอกยังไม่พอ!เธอค้นหาคันธนูและลูกดอกในพื้นที่ หรือจะเป็นปืนล่าสัตว์ก็ได้เธอหาปืนล่าสัตว์ไม่เจอ แต่กลับเจอร้านขายธนูทดกำลังเจอสามร้านเธอโทรไปทันทีเจ้าของร้านกำลังอยู่ในห้วงความฝัน จึงไม่ได้รับสายเธอรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงรีบขับรถลงจากเขา ตรงดิ่งไปที่หน้าประตูร้านพนักงานทำความสะอาดบอกว่าอย่างเร็วที่สุดร้านเปิดเจ็ดโมงเช้า บอกให้เธอรอไปก่อน!เย่มู่มู่เหมาไข่ต้มใบชาหนึ่งหม้อ และเหมาเสี่ยวหลงเปากับน้ำเต้าหู้ทั้งหมดในร้านอาหารเช้าข้าง ๆร้านบะหมี่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รอดเช่นกัน เธอสั่งให้เถ้าแก่ห่อบะหมี่หนึ่งร้อยกว่ากล่องจากนั้นก็เหมาน้ำและเครื่องดื่มทั้งหมดในตู้แช่ร้ายขายของชำพอขับรถมาถึงที่ลับตาคน เธอส่งมื้อเช้าทั้งหมดไปเธอกินเสี่ยวหลงเปาและดื่มน้ำเต้าหู้ ขณะที่รอร้านเปิดเจ็ดโมงครึ่ง ในที่สุดเถ้าแก่ก็เดินหาวมาเปิดประตูร้านเย่มู่มู่ถามไปตรง ๆ ว่าธนูทดกำลังในร้านมีกี่คัน?เถ้าแก่เห็นว่าเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง จึงลังเลไปเล็กน้อย ก่อนถามว่าเธอจะเอาขนาดไหนเธอบอกว่า “ยิงระยะไกล สามารถล่าหมูได้!”ล่าหมู ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร!เถ้าแก่บอกว่า “ในร้านมีหนึ่
อาหารในด่านเจิ้นกวนมีมากจนกินไม่หมด ผักสดระเนระนาดเต็มพื้นชาวบ้านยากจนข้นแค้นจากแคว้นฉู่ เพื่อมาจำนนต่อด่านเจิ้นกวน พวกเขาเดินทางข้ามน้ำข้ามภูเขามา กินเปลือกไม้รากหญ้า หิวจนต้องกินดินขาวเพื่อประทังชีวิตจำนวนคนตอนออกเดินทางมีถึงห้าพันคน ทว่าพอมาถึงด่านเจิ้นกวนกลับเหลือไม่ถึงครึ่ง!ตอนนี้ พวกเขาเห็นผักมากมายขนาดนั้น ดวงตาก็พลันรื้นไปด้วยน้ำใส ๆ ยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาไม่หยุด!ถึงพวกเขาต้องลำบากยากเข็ญอีกแค่ไหน ขอเพียงคนที่เหลือมีชีวิตรอด เท่านั้นก็คุ้มค่าแล้ว!ทหารที่อยู่แถว ๆ นั้นเคยชินกับปริมาณผักที่มหาศาลไปนานแล้วเฉินขุยหยิบแตงกวาลูกหนึ่งขึ้นมากกัดกินอยู่ตรงนั้นเขาเห็นว่าท่ามกลางชาวบ้านแคว้นฉู่ที่สวมใส่เสื้อผ้าซอมซ่อ มีเด็กหลายคนกำลังจ้องเขากินตาปริบ ๆเขาจึงหยิบแตงกวาอีกหลายลูก และแบ่งให้พวกเด็ก ๆ คนละลูกพ่อแม่ของพวกเด็ก ๆ รีบคุกเข่าลง เฉินขุยรีบปราม “ต่อไปก็จะได้กินอิ่มทุกมื้อ เลี้ยงเด็กให้เติบโตไปอย่างดีเถอะ!”พวกพ่อแม่ของเด็ก ๆ ต่างพากันขอบอกขอบใจเขา จากนั้นก็พาเด็ก ๆ เดินจากไป*เหล่าทหารเตรียมพร้อมทำศึกอย่างเต็มกำลังคนในโรงครัวเก็บกวาดผักสดที่กลิ้งไปทั่วพื้นจ
เถ้าแก่ชวียิ้มแย้มเบิกบาน สั่งให้คนขนถ่ายสินค้าทั้งหมดซึ่งก็คือเสื้อกันกระสุนและหมวกกันน็อกชุดเกราะทั้งเซ็ต เสื้อกันกระสุนหนึ่งพันสี่ร้อยบาท หมวกกันน็อกค่อนข้างแพง เพราะแผ่นเหล็กหุ้มทั้งใบ และเพิ่มประสิทธิภาพกันแรงสั่นสะเทือน ตกใบละสองพันบาท!เถ้าแก่ชวีขายให้เธอในราคาเซ็ตละสามพันบาททั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นเซ็ต รวมเป็นเงินสี่ร้อยห้าสิบล้านบาท!เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ตอนที่เย่มู่มู่โอนเงินแอบเสียดายอยู่ในใจ แต่พอคิดว่าช่วยจ้านเฉิงอิ้นได้คุ้มค่าแล้ว!หลังจากจ่ายเงินเสร็จ เถ้าแก่ชวียิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรงเขากระซิบเสียงเบาว่า “ในโรงงานมีของคุณภาพดีกว่านี้อีก มีอุปกรณ์กันกระสุนติดอาวุธทั้งตัว แต่ยังไม่สามารถผลิตจำนวนมากได้”เย่มู่มู่บอกเขาว่า “ถ้าผลิตได้จำนวนมาก ฉันจองล่วงหน้าก่อนห้าหมื่นชุดนะคะ”“ได้ครับ ตกลงตามนี้!”พวกคนขับรถขนถ่ายสินค้าเสร็จแล้ว เย่มู่มู่ให้เงินผู้จัดการโรงงานสองหมื่นห้าพันบาทให้เขาไปซื้อแอร์ฯ มาติดในห้องยามหนึ่งตัว เงินที่เหลือก็ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เขาไว้ใช้ในเวลางานพนักงานดูแลโกดังดีใจมาก เขาได้ใช้แค่พัดลมเวลาอยู่ในโกดัง อากาศร้อนมากจริง ๆ!เขารีบไป
จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “เฉินอู่ หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรอรับคำสั่ง ธนูทดกำลังเตรียมตัวให้พร้อม!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่จึงไปแบ่งหน้าที่ขณะที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ภายในระยะห้ากิโลเมตร ยืนอยู่ในระยะของวัตถุระเบิดแล้ว ก็ยังมีทหารม้าอีกจำนวนมากตามมาข้างหลังด้วยเมื่อห่างจากกำแพงเมืองสามกิโลเมตร จ้านเฉิงอิ้นได้พบกับแม่ทัพแคว้นฉู่ หลิงเซี่ยวเฟิงเขาอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว เป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นฉู่และมีชื่อเสียงในช่วงเวลาเดียวกับพ่อของจ้านเฉิงอิ้นด้วยว่ากันว่าในกองทัพของทั้งหกแคว้น ทางใต้มีหลิงเซี่ยวเฟิง ทางเหนือมีจ้านเทียนอี้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็อยากเห็นพวกเขาสู้รบกันเพื่อดูว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากันแต่เป็นที่น่าเสียดาย บิดาของเขาจ้านเทียนอี้ถูกเผ่าหมานสังหาร ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสได้ลงสนามรบแข่งขันกันอีก!หลิงเซี่ยวเฟิงสวมชุดเกราะสีดำ ใบหน้ามีหนวดเครา ร่างกายสูงใหญ่ข้าง ๆ เขาคือลูกชายสองคนของเขาหลิงอวิ๋นเจ๋อและหลิงซื่อเฉิน อายุใกล้เคียงกับจ้านเฉิงอิ้นเพียงแต่ว่าทั้งสองคนนี้ลงสนามรบตอนอายุสิบกว่าปี ความดีความชอบในการรบของพวกเขาไม่ดีเท่าจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิ
ติ้ง~เมื่อลูกธนูยิงโดน ก็ทำให้ทหารผู้นั้นถอยไปหลายก้าวทหารผู้นั้นก้าวมาด้านหน้าอีกครั้ง แล้วดึงคันธนูทดกำลังยิงลงไปด้านล่างต่อหมวกกันน็อกบนศีรษะของเขาไม่แตกแต่กลับเป็นลูกธนูของหลิงเซี่ยวเฟิงที่หักที่น่าแค้นยิ่งกว่านั้นคือด้านหน้าหมวกกันน็อกมีแผ่นป้องกันสีดำ สามารถปิดบังใบหน้า ทำให้พวกเขาไม่สามารถยิงไปที่หว่างคิ้วได้!หลิงเซี่ยวเฟิงยิงไปที่หน้าอกของชายผู้นั้นอีกครั้งติ้ง เกิดพวงประกายไฟขึ้นมา ลูกธนูหนักของหลิงเซี่ยวเฟิงก็หักทันที!เขาไม่เคยเห็นอุปกรณ์สวมใส่ที่แปลกประหลาด และการป้องกันยอดเยี่ยมขนาดนี้ อุปกรณ์สวมใส่เหล่านี้เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ของทหารจ้านเฉิงอิ้นได้มากถึงสามเท่ากองทัพแคว้นฉู่ไม่อาจทำลายกำแพงเมืองได้กองทัพแคว้นฉีก็ดูเหมือนจะเสียเปรียบตั้งแต่เริ่มเฉินขุย เฉินอู่ เปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจง กำลังรับมือกับกองทัพใหญ่สองหมื่นนายของแคว้นฉีพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าฮ่องเต้แคว้นฉีจะออกสู้รบด้วยตัวเองเขานั่งอยู่บนรถม้า ดื่มสุราไปพร้อมกับมองดูเหล่าทหารเข้าโจมตีเมืองอย่างสำราญใจข้างกายเขามีสตรีรูปร่างดีและใบหน้างดงามสองนาง สวมชุดในวังคอยช่วยรินสุราให้เขา
จำนวนผู้ตายของกองทัพศัตรูเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และศพก็กองพะเนินราวกับภูเขา ใกล้จะสูงเท่ากำแพงเมืองแล้วเลือดรวมเป็นสายน้ำเล็ก ๆ ไหลเข้าไปในประตูเมืองศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนกำแพงเมือง เลือดไหลนองบนพื้นกำแพงเมืองชุดเกราะป้องกันระดับสูงของกองทัพตระกูลจ้านทำให้กองทัพศัตรูที่ปีนขึ้นไปบนกำแพงเมือง ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ละคนถูกกองทัพตระกูลจ้านสังหารไปทีละคนอยู่บนกำแพงเมืองการต่อสู้ครั้งนี้ยากลำบากและดุเดือด!จนกระทั่งถึงค่ำ กองทัพตระกูลจ้านก็ใช้ไฟโจมตีเมือง!ไม่ผิด ไม่รู้ว่าพวกเขาเอาน้ำมันก๊าดที่มีกลิ่นแรงมาจากไหน เผารถกระทุ้งกำแพงเมืองไปหลายสิบคัน!เผากองทัพศัตรูตายไปนับไม่ถ้วนศพที่กองอยู่ใต้กำแพงเมืองถูกราดด้วยน้ำมันก๊าดแล้วจุดไฟเผา!ป้องกันไม่ให้ศัตรูที่ล้อมโจมตีเข้ามาใกล้!หลิงเซี่ยวเฟิงเห็นว่าไม่มีหวังที่จะโจมตีเมือง เขาทั้งเศร้าและสิ้นหวัง…เขาและจ้านเทียนอี้ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ ทว่าพ่ายแพ้ให้กับลูกชายของเขาอย่างจนตรอกเขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้!ฮ่องเต้แคว้นต้าฉีตกใจกลัวเพราะระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าเขาอยากจะถอยทัพแม่ทัพเยว่หงนับจำนวนดูอยู่นานสองนาน ต้าฉีสูญเสียทหารไปก
“ท่านพ่อ พวกเรากลับไปทำดินปืน หยิบดาบม่อเตามาสักสองสามเล่ม แล้วก็ธนูยาว...เอาทั้งหมดกลับไปศึกษาและผลิตออกมา”“ครั้งนี้พวกเราจะแพ้หรือไม่นั้นไม่สำคัญ พวกเราประจำการอยู่ข้างนอกห่างออกไปร้อยลี้ พัฒนาอาวุธใหม่ แล้วกลับมาอีกครั้ง สังหารเขาแล้ว ความอัปยศอดสูในวันนี้ใคร ๆ ก็รู้!”“ประวัติศาสตร์ย่อมเป็นผู้ชนะที่เขียนขึ้นมาใหม่!”ในที่สุด หลิงเซี่ยวเฟิงก็ถูกลูกชายเกลี้ยกล่อม ดวงตาของเขาแดงก่ำ ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความไม่เต็มใจ “ถอยทัพ!”ทหารแคว้นฉู่ ถอยทัพเร็วกว่าทหารของแคว้นฉีทหารที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาหนีไปโดยไม่สนใจสิ่งใดเมื่อหลิงเซี่ยวเฟิงเห็นเช่นนี้ ก็โกรธมาก “แบกทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องถูกทุบด้วยท่อนไม้กองทัพ!”กองทัพแคว้นฉู่พาทหารที่ได้รับบาดเจ็บถอยทัพออกไปด้านนอกหนึ่งร้อยลี้ก่อนจะหยุดลงจ้านเฉิงอิ้นที่ร่างกายย้อมไปด้วยเลือด ยืนอยู่บนกำแพงเมืองมองกองทัพทั้งสองแคว้นหนีหัวซุกหัวซุนเขากำดาบม่อเตาเอาไว้ในมือแน่นถอยแล้วในที่สุดแคว้นฉู่ และแคว้นฉีก็ล่าถอย!ในที่สุดพวกเขาก็ชนะการต่อสู้ครั้งนี้!เฉินขุยตื่นเต้น ตะโกนสุดแรง “ทหารแคว้นฉู่และแคว้นฉีถอยไปแล้ว พวกเราชนะแ
จ้านเฉิงอิ้นยังคงจัดเตรียมงานหลังสงคราม เถียนฉินก็มาพร้อมกับกระดาษมากมายเขารีบพลิกดูกระดาษนั้นอย่างรวดเร็ว กระดาษแต่ละแผ่นล้วนเป็นความกังวลที่เย่มู่มู่มีต่อเขานางกังวลมาก...กลัวว่าด่านเจิ้นจะถูกโจมตี!กลัวว่าเขาจะตายในสนามรบ!กลัวว่าเหล่าประชาชนที่นางช่วยเหลือมานานจะต้องตายภายใต้ดาบของศัตรูในที่สุด!โชคดีที่ด่านเจิ้นกวนชนะ!จ้านเฉิงอิ้นถอดชุดเกราะที่เปื้อนเลือดออก แล้วมอบให้เถียนฉิน ก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องโถงหารือมีกระดาษอยู่รอบ ๆ แจกันเย่มู่มู่เขียนตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็นเธอกังวลตลอดทั้งวัน!สิ่งที่เขียนมากที่สุดในกระดาษก็คือเธอจะช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร มีสิ่งใดที่เธอจะทำเพื่อเขาได้บ้าง เธอขอให้พวกเขาอดทนไว้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องปกป้องด่านเจิ้นกวนเอาไว้ให้ได้!เมื่ออาวุธชุดที่สองมาถึงไม่ต้องพูดถึงกองทัพทั้งสองแคว้นของแคว้นฉู่และแคว้นฉี รวมถึงเผ่าหมาน ก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้โชคดีที่เขาไม่ทำให้เธอผิดหวัง!จ้านเฉิงอิ้นหยิบพู่กันออกมาเขียนในจดหมาย “ท่านเทพ แคว้นฉู่แคว้นฉีถอยทัพไปแล้ว กองทัพตระกูลจ้านชนะ!”ขณะที่เย่มู่มู่กำลังกังวลมากที่สุด กระดาษใบหนึ่งก็ตกลง
แม่ทัพที่ชื่อสวีจือ พูดขึ้นด้วยเสียงสะอื้น เบ้าตาแดงก่ำ “แม่ทัพเฉิน ข้านำอาหารกลับไปให้ภรรยาได้หรือไม่? นางแต่งงานกับข้ามา ไม่เคยมีวันไหนได้อยู่ดีมีสุขเลย เมื่อคืนยังตกใจจนสลบไปอีก!”“นางเกือบถูกพวกเผ่าหมานฆ่า ถ้าไม่ใช่เพราะคนรับใช้เข้ามาขวางดาบ เกรงว่าคงต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาแล้ว!”เฉินขุยได้ยินดังนั้นก็ด่าสวีหวย “เจ้าแก่นี่! ครั้งก่อนที่ข้าไปถึงค่าย ข้าน่าจะแทงเขาให้ตายตั้งแต่ตอนนั้น จะได้ไม่ต้องมีคนต้องตายมากมายแบบนี้”“พวกเจ้าอยากนำอาหารกลับไปให้ครอบครัว ก็เอาไปเถิด!”“ถ้าไม่พอ บอกให้พ่อครัวทำเพิ่มได้เลย!”เหล่าผู้บังคับบัญชาหลายคนถึงกับน้ำตาคลอเบ้าในทันที ตั้งท่าจะคุกเข่าลงขอบคุณแต่เฉินขุยรีบยื่นมือมาประคองไว้พวกเขาใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา ก่อนจะพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “ขอบคุณท่านแม่ทัพเฉินเป็นอย่างมาก!”เฉินขุยโบกมือ “ต่อไปวันดี ๆ แบบนี้จะมีให้มาก!”เขาไม่รบกวนการกินอาหารของพวกเขา เมื่อเขาเดินออกจากกระโจมเฉิงจื่อเซียวก็ตามเขาออกมาด้วย“ท่านน้าเขย...”เฉินขุยมองเจ้าเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นักหลานสาวของเขาต้องทนลำบากมากมายเพราะเขา แถมลูกน้อยร่างกายก็อ่อน
เหล่าสตรีอาบน้ำอยู่ต้นน้ำ บุรุษอาบน้ำอยู่ปลายน้ำ ห่างกันสองลี้ฮูหยินเฉินยังส่งคนนำผ้าเช็ดตัวและสบู่อาบน้ำมาให้พวกเขาบรรดาหญิงสาวต่างประหลาดใจเมื่อพบว่า สบู่ก้อนหนึ่งเหมือนกับไขมันหยก สามารถถูจนเกิดฟองและล้างคราบสกปรกออกจากร่างกายได้อย่างหมดจดแถมยังทิ้งกลิ่นหอมจาง ๆ ไว้อีกด้วยพวกผู้ชายก็ได้พบเช่นกัน เมื่อถูสบู่ให้เกิดฟองตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่างกายของพวกเขาก็สะอาดหมดจดหลังจากที่ทุกคนอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้ว โจ๊กที่เตรียมไว้สำหรับหนึ่งแสนคนก็พร้อมพอดีเพื่อป้องกันกระเพาะอาหารที่ยังอ่อนแอของพวกเขา ในโจ๊กจึงใส่เพียงไข่ไก่และเกลือเล็กน้อยเท่านั้นคนหนึ่งแสนคนที่หิวโหยมากว่าหนึ่งปี เมื่อได้ประคองถ้วยข้าวต้มร้อน ๆ ไว้ในมือ หลายคนถึงกับน้ำตาคลอเด็กน้อยคนหนึ่งที่ประคองโจ๊กข้าวขาวอยู่ในมือ ร้องไห้พูดกับสตรีว่า “ท่านแม่ นี่คือโจ๊กข้าวขาว หากท่านพ่ออยู่ได้นานอีกสักสองสามเดือน ท่านก็คงจะได้กินโจ๊กนี้ด้วย!”หญิงสาวประคองโจ๊กข้าวขาว ร้องไห้ออกมาทันที!หากพ่อของลูกในตอนนั้นยอมเป็นทหารหนีทัพหนีมาที่ด่านเจิ้นกวน...ก็คงจะมีชีวิตรอดส่วนเหล่าทหารผ่านศึกบางคนก็ลอบปาดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ
“นับตั้งแต่วันที่เจ้าตกลงร่วมมือกับฉีซวนเหิง เจ้าก็กลายเป็นคนตายสำหรับข้าไปแล้ว!”“ตอนนี้ข้าจะพูดเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ใครอยากเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้าน คืนนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า”“ผู้ที่ปฏิเสธ สังหารให้หมด!”ตูม~เมื่อเสียงจบลง ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดรีบเข้าไปในกระโจมเพื่อเก็บสัมภาระอย่างรวดเร็วส่วนคนใต้อาณัติของหลี่หู่ที่ถือดาบ จะเข้าเมืองก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อก็ไม่เหมาะเฉิงจื่อเซียวถลึงตาใส่พวกเขา “ยังไม่รีบไปอีก รอให้ถูกยิงตายหรือไง?"พวกเขาถึงได้สติกลับมา แม้แต่ของก็ยังไม่ทันเก็บ รีบตามกองทัพส่วนใหญ่เข้าไปในเมือง*หนึ่งแสนชีวิต~ทหารใต้บัญชาของสวีหวยทั้งหมดเคลื่อนพลเข้าสู่ด่านเจิ้นกวนขบวนทัพอันยิ่งใหญ่และคึกคักเดินผ่านประตูเมืองไปอย่างต่อเนื่อง พวกเขามองถนนในเมืองที่กว้างขวางและเรียบเนียนใต้ฝ่าเท้าด้วยความประหลาดใจ พื้นทางเดินปูด้วยปูนซีเมนต์อย่างเรียบเนียนสองฝั่งของถนนเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ถูกทาด้วยสีขาวสดใหม่ ภายใต้แสงไฟในยามค่ำคืนดูโดดเด่นสะดุดตาสิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจที่สุดคือ เสาไฟริมถนน...มันไม่ใช่โคมไฟที่ต้องจุดด้วยน้ำมัน แต่กลับเป็นไฟพลั
หญิงสาวตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว นางกอดลูกไว้ในอ้อมอก ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตา จ้องมองคมดาบที่ยกสูง! ฟิ้ว ลูกธนูพุ่งทะลุหน้าอกของทหารที่ชูดาบ ร่างของเขาทรุดลงในทันที เฉินอู่ถือลำโพงประกาศเสียงบนกำแพงเมือง พร้อมตวาดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด “ข้าเคยสังหารกองทัพศัตรูมาแล้วห้าแสนคน! กล้าลงมือหน้าประตูเมืองของข้า พวกเจ้าคิดว่าชีวิตตัวเองยืนยาวนักหรือไง?” “ทุกคนวางอาวุธลงให้หมด หากกล้าทำร้ายสตรีและเด็ก ข้าจะสังหารโดยไม่ละเว้น...!” บนกำแพงเมืองตะวันตก พลธนูยืนเรียงเป็นแถวดึงธนูเล็งเป้าที่ประตูเมืองตะวันตก กองทัพตระกูลจ้านยกดาบม่อเตาขึ้นทหารใต้บัญชาของสวีหวย ต่างชักอาวุธทองสัมฤทธิ์ออกมา หมายจะขัดขวางครอบครัวทหารที่พยายามหนีไปพึ่งพาด่านเจิ้นกวนบรรยากาศทั้งสองฝ่ายเริ่มตึงเครียด ดาบและธนูถูกเตรียมพร้อมจะปะทะกัน สวีหวยถูกหามขึ้นเปล มือกุมหน้าอก พลางเอ่ยสั่งหลี่หู่ด้วยน้ำเสียงยากลำบาก “อย่า...อย่าให้ผู้ใด ออกจากค่ายไปได้!” “ผู้ใดฝ่าฝืน สังหารทันที!” สิ้นคำสั่งของเขา เฉิงจื่อเซียวพาทหารที่สูญเสียภรรยาและลูกจากการสังหารหมู่ของกองทัพเผ่าหมานเมื่อคืน รวมถึงหัวหน้าทหาร เดินออ
“ข้าจะออกจากเมืองไปฆ่าเขาเอง!”แม่ทัพผู้ทรยศต่อบ้านเมืองขาดน้ำไร้เสบียงคนหนึ่ง กลับยังกล้าไม่เห็นหัวพวกเขาให้เกียรติมันเกินไปแล้ว! จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากได้ด่านเจิ้นกวน พวกเราก็ย่อมหมายจะได้กองกำลังของเขาเช่นกัน!” “คอยดูเถิด อีกหน่อย สวีหวยจะล้มเอง” สิ้นคำพูดของเขา ทันใดนั้น จากมุมอับหนึ่งของกระโจมข้าง ๆ ปืนล่าสัตว์ก็ยื่นออกมา มือปืนเหนี่ยวไก ยิงกระสุนตรงเข้าหัวใจของสวีหวย ปัง~ ระยะที่ใกล้เกินไป ทำให้สวีหวยและหลี่หู่รู้สึกตัว แต่ก็สายเกินกว่าจะหลบหลีกได้ ทั้งสองรู้จักเพียงคันธนู แต่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าปืน สวีหวยที่ถูกยิงก็ล้มลงทันที...หลี่หู่รีบตะโกนอย่างร้อนรน “มีนักฆ่า ทหาร”“เร็ว มาช่วยแม่ทัพ...”พลทหารในกระโจมใกล้เคียง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติ ก็คว้าดาบพุ่งเข้ามายังที่ซ่อนของเฉินขุยและพรรคพวกทันที... ฟิ้ว~ ดาบที่เพิ่งถูกยกขึ้น ก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินบนกำแพงเมืองตะวันตกยิงเข้าอย่างแม่นยำ ร่างนั้นล้มลงในทันที เสียงจากลำโพงบนกำแพงเมืองดังกึกก้อง ในค่ำคืนอันเงียบสงัด เสียงนั้นยิ่งชัดเจน! “หากคิดจะเข้าด่านเจิ้นกวน อย่าได้ประมาทหรือ
จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากกระโจม ร่วมดื่มเหล้าและกินเนื้อกับเหล่าทหาร ในช่วงเที่ยง พ่อครัวยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารสำหรับชาวเมือง มีทั้งปลานึ่ง เป็ดแย่ง ไก่ตุ๋น...กลิ่นหอมอบอวลของอาหารเหล่านี้แผ่กระจายไปทั่วทั้งค่ายทหาร ชาวบ้านที่เคยกินเพียงข้าวต้มขาวทุกวัน บางครั้งถึงกับต้องเอาข้าวสารไปแลกเนื้อม้ากับโรงครัวเพื่อประทังชีวิต แต่งานเลี้ยงฉลองชัยในวันนี้ กลับมีปลานึ่งที่ชาวบ้านจำนวนมากไม่เคยเห็นมาก่อน ในพื้นที่ตอนเหนือ แม้ก่อนจะเกิดภัยแล้ง ฝนก็ตกน้อยมาก ปลาจึงกลายเป็นของหายาก! จะพบได้เฉพาะในแม่น้ำชานเมืองใกล้เมืองหลวง ซึ่งแม่น้ำถูกชนชั้นสูงเหมาไว้เลี้ยงปลาปลาจึงเป็นอาหารที่ราคาแพงอย่างยิ่งในเมืองหลวง วันนี้ ชาวเมืองทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กต่างได้ลิ้มรสเนื้อปลาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มเปี่ยมสุขปรากฏบนใบหน้าของทุกคน พวกเขากินกันอย่างเอร็ดอร่อย นอกจากนี้ ยังมีไก่ตุ๋น เป็ดย่าง... และอาหารอร่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ชาวบ้านที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดชีวิต ไม่เคยมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน สุราขาวและเบียร์มากกว่าพันลังถูกนำออกมา เหล่าทหารดื่มกินกันอย่างเต็
*หลังจากซ่อมกระโจมของจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ เถียนฉินเดินเข้ามารายงาน“แม่ทัพ สวีหวยกับกองกำลังคนและม้าหนึ่งแสนคน ตั้งค่ายพักที่ประตูทิศตะวันออก ไม่ยอมจากไปขอรับ”“สมาชิกในครอบครัวของพวกทหารล่ะ?”เถียนฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “เมื่อคืน เพื่อล่อให้ท่านออกจากเมือง สมาชิกในครอบครัวหนึ่งหมื่นกว่าคนของทหาร ถูกฆ่าตายหกพันคน เหลือเพียงผู้หญิงและเด็กที่บาดเจ็บจำนวนหนึ่งเท่านั้น!”“พวกนางอยากเข้าด่านเจิ้นกวน แต่สวีหวยไม่ยอมปล่อยคน”“วันนี้ แม่ทัพเฉินขุยเฉินอู่เกณฑ์ทหาร มีคนสนใจจำนวนมากขอรับ แต่กลับถูกสวีหวยฆ่าตายถึงสามคนที่ตรงนั้น คนที่เหลือเลยไม่มีใครกล้าขยับตัวอีก!”ในเวลาเดียวกัน เฉินขุยเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามาหลังจากเขานั่งลง เขาดื่มน้ำคำใหญ่ก่อน จากนั้นเริ่มระบายความโกรธด่าทอสวีหวย“ในมือเขาไม่มีเสบียงอาหารแต่ก็ไม่ยอมให้นายทหารใต้บัญชาเข้าเมือง!”“และยังเชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนที่ติดตามเขา นับว่าโชคร้ายแปดชั่วอายุคน”“วางใจเถอะ สามีของหลานสาวข้าเฉิงจื่อเซียว กล่วว่าคืนนี้จะนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเมือง เขาทนการฆ่าผู้บริสุทธิ์ของสวีหวยไม่ไหวแล้วเช่นกัน”สวีหวยทำเช่นนี้ เขากำลังเดิมพันเดิมพั
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเธอซื้อของใช้ประจำวันมากหน่อยและส่งไปด่านเจิ้นกวนหลังจากพูดคุยกับจ้านเฉิงอิ้นเสร็จเธอชำระล้างง่าย ๆ แล้วลงไปข้างล่างเธอกินอาหารเช้าพร้อมใช้มือถือสั่งของผู้หญิงล้วนชอบซื้อของทุกคนเธอซื้อของอย่างมีความสุขมากเธอเข้าไปร้านค้าออนไลน์ของศูนย์การค้าท้องถิ่น สั่งซื้อน้ำหอม ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอางค์ ลิปสติก ปากกาเขียนคิ้ว อายแชโดว์ รองพื้น โฟมล้างหน้าก่อน…ให้พี่ขนส่งหรือพี่รับจัดการเรื่องแทนส่งมาให้จากนั้นเธอซื้อของใช้มีประโยชน์เช่น ผ้าเช็ดทำความสะอาด ทรายขัดผิว สบู่กำมะถัน รองเท้าแตะ ถุงเท้า ถุงมือแรงงานและยากำจัดเหาต่อ…หนึ่งร้อยลังเป็นอย่างต่ำ เธอพูดคุยกับร้านค้า ให้เจ้าของร้านส่งของถึงหน้าประตู!หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าของร้านข้าวมาพร้อมกับแอลกอฮอล์หนึ่งคันรถพี่ซุนเรียกยามมาช่วยขนถ่ายสินค้าเมื่อมีคนมาก การขนถ่ายจึงรวดเร็ว ของที่สั่งล้วนวางไว้ข้างในโกดังจอดรถของคฤหาสน์ หลังจากคนเดินออกไปแล้ว เย่มู่มู่ดึงประตูม้วนโกดังลงมาและทำการส่งแอลกอฮอล์เครื่องดื่มไปให้จากนั้นคนขับหวงขับรถมาส่งเนื้อสัตว์ไม่มีใครช่วยคนขับหวงขนถ่าย เธอจึงให้คนข
*จ้านเฉิงอิ้นนั่งลง หยิบกระดาษจับพู่กันแล้วตอบจดหมายเย่มู่มู่“ท่านเทพ ตื่นแล้วหรือ?”เย่มู่มู่มองเวลาเก้าโมงเช้า ยังดี ถือว่าตื่นเช้า!“ด่านเจิ้นกวนเริ่มงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จแล้วหรือ?”“ใช่ กำลังกินขอรับ”“ในค่ายทหารทำของอร่อยอะไรบ้าง?”“เมื่อคืนนำเนื้อม้ากลับมาได้จำนวนมาก จึงทำเนื้อม้าเป็นกะมะลังใหญ่ ยังมีพืชผักที่ส่งมาเมื่อครั้งก่อน มีข้าวสารนึ่งสุก พลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมกินด้วยกันทุกคน ทุกคนดีใจมาก...”กระบี่คมกริบที่แขวนไว้ในด่านเจิ้นกวนหายไปแล้วเย่มู่มู่จินตนาการได้ว่าทุกคนดีใจเพียงใดหนึ่งปี!หนึ่งปีเต็ม ๆ กองทัพตระกูลจ้านต้องสูญเสียคนถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคนชาวเมืองด่านเจิ้นกวนสองแสนคนล้มตายเสียชีวิตจากนี้ไป ทุกคนสามารถดำรงชีวิตต่อไปและเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างอิสระ จะไม่มีกองทัพศัตรูปิดล้อมพวกเขาอีกแล้ว!“ทำดีมาก! นักเรียนจ้านเฉิงอิ้น เมื่อคืนเจ้าทำตัวกล้าหาญองอาจเป็นอย่างมาก!”“ท่านเทพยกยอเกินไป เป็นเพราะท่านเทพส่งเสื้อเกราะกันกระสุนกับปืนล่าสัตว์มาได้ทันเวลา ทำให้หน่วยดาบม่อเตาที่เป็นแนวหน้า ฆ่าฟันศัตรูได้ตามใจชอบราวกับเข้าไปในดินแดนไร้คน…”“อืม ในเม