Share

บทที่ 106

Aвтор: มู่โร่ว
ดังนั้น กองทัพเผ่าหมานถูกโจมตีจนสั่นคลอน ผู้นำถูกปลด ผู้นำคนใหม่ก็ยังมาไม่ถึง…

พวกเขาจึงตัดเผ่าหมานออก

มีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองแคว้นจะโจมตีเข้ามาทางประตูทิศตะวันออกและประตูทิศเหนือ เพราะสองทิศนี้เป็นเส้นทางที่ใกล้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีมากที่สุด

สองแคว้นเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ได้ใช้เส้นทางที่ซ่งตั๋วฝังระเบิดไว้ เป็นไปได้ว่าในเมืองมีหนอนบ่อนไส้

ซ่งตั๋วออกจากเมืองด้วยเส้นทางลับ

หากรู้ว่าเขาออกจากเมือง แสดงว่าจะต้องเป็นหนอนบ่อนไส้ที่มีตำแหน่งไม่ธรรมดาแน่นอน

นึกมาถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นหันไปมองเหล่าทหารที่ยังไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ทว่ากลับมองเขาด้วยท่าทางขึงขังพร้อมรบ

พวกเขาล้วนเคยร่วมกินเปลือกไม้มาพร้อมกับเขา เคยแทะรากหญ้าแห้งด้วยกัน และมีมิตรภาพร่วมกันมามากมาย

จ้านเฉิงอิ้นไม่อยากสงสัยพวกเขา

แต่กลับมีคนที่แอบขายข้อมูลให้คนภายนอกแฝงตัวอยู่ในกองทัพ

เขาเรียกเฉินขุยมาหา กระซิบสั่งข้างหูเขาสองสามประโยค

เฉินขุยได้ยินก็เบิกตาด้วยความตกตะลึง ราวกับไม่อยากจะเชื่อ

“จริงหรือขอรับ?”

เขาพยักหน้า หยิบกระดาษข้อความให้เฉินขุยอ่าน

“ท่านเทพไม่มีทางฝันร้ายอย่างไม่มีต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Related chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 107

    กองทัพฉู่อยู่ห่างจากด่านเจิ้นกวนสามสิบกว่าลี้ พลทหารมืดฟ้ามัวดินนับแสนยืนเรียงรายกันโดยมีธงรบสีเหลืองปักอยู่!กองทัพแคว้นฉี่มาถึงในหนึ่งชั่วยามให้หลัง พวกเขาปักหลักอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกยี่สิบลี้ แคว้นฉี่บีบคั้นด่านเจิ้นกวนยิ่งกว่าแคว้นฉู่เสียอีก!ธงมังกรดำโบกสะบัดอยู่ห่างออกไปยี่สิบลี้ ดูน่ากริ่งเกรงอย่างมาก!กองทัพใหญ่บุกประชิดพรมแดน ต่างจากเผ่าหมานที่ไร้ระเบียบแบบแผน กองทัพของทั้งสองแคว้นเป็นระบบระเบียบ มีวินัยเข้มงวด ทั้งยังผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีจ้านเฉิงอิ้นรบรากับเผ่าหมานเสียส่วนมาก เขาไม่เคยสู้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีเลยสักครั้งแม้เขาจะมีชื่อเสียงร่ำลือตั้งแต่อายุยังน้อย และมีบารมีน่าเกรงขามของแม่ทัพหนุ่มอยู่ แต่กลับไม่เคยได้รับแรงกดดันมหาศาลเช่นนี้มาก่อน!เขาถามหลี่จงหยวน “ยังเหลือธนูอีกเท่าใด?”“เหลือธนูห้าพันคัน ลูกดอกไม่พอแล้วขอรับ เหลือเพียงหนี่งแสนกว่าดอก หักไปไม่น้อยแล้ว”ลูกดอกหนึ่งแสนกว่าเล่มไม่เพียงพอที่จะใช้ต้านศึกจากทหารม้าสามแสนห้าหมื่นนายแน่นอนเวลานี้ เฉินขุยวิ่งกลับมาในสภาพสะบักสะบอมเขาพูดเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าง่วนอยู่สองชั่วยามกว่า ในท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 108

    อันดับแรก ธนูและลูกดอกยังไม่พอ!เธอค้นหาคันธนูและลูกดอกในพื้นที่ หรือจะเป็นปืนล่าสัตว์ก็ได้เธอหาปืนล่าสัตว์ไม่เจอ แต่กลับเจอร้านขายธนูทดกำลังเจอสามร้านเธอโทรไปทันทีเจ้าของร้านกำลังอยู่ในห้วงความฝัน จึงไม่ได้รับสายเธอรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงรีบขับรถลงจากเขา ตรงดิ่งไปที่หน้าประตูร้านพนักงานทำความสะอาดบอกว่าอย่างเร็วที่สุดร้านเปิดเจ็ดโมงเช้า บอกให้เธอรอไปก่อน!เย่มู่มู่เหมาไข่ต้มใบชาหนึ่งหม้อ และเหมาเสี่ยวหลงเปากับน้ำเต้าหู้ทั้งหมดในร้านอาหารเช้าข้าง ๆร้านบะหมี่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รอดเช่นกัน เธอสั่งให้เถ้าแก่ห่อบะหมี่หนึ่งร้อยกว่ากล่องจากนั้นก็เหมาน้ำและเครื่องดื่มทั้งหมดในตู้แช่ร้ายขายของชำพอขับรถมาถึงที่ลับตาคน เธอส่งมื้อเช้าทั้งหมดไปเธอกินเสี่ยวหลงเปาและดื่มน้ำเต้าหู้ ขณะที่รอร้านเปิดเจ็ดโมงครึ่ง ในที่สุดเถ้าแก่ก็เดินหาวมาเปิดประตูร้านเย่มู่มู่ถามไปตรง ๆ ว่าธนูทดกำลังในร้านมีกี่คัน?เถ้าแก่เห็นว่าเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง จึงลังเลไปเล็กน้อย ก่อนถามว่าเธอจะเอาขนาดไหนเธอบอกว่า “ยิงระยะไกล สามารถล่าหมูได้!”ล่าหมู ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร!เถ้าแก่บอกว่า “ในร้านมีหนึ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 109

    อาหารในด่านเจิ้นกวนมีมากจนกินไม่หมด ผักสดระเนระนาดเต็มพื้นชาวบ้านยากจนข้นแค้นจากแคว้นฉู่ เพื่อมาจำนนต่อด่านเจิ้นกวน พวกเขาเดินทางข้ามน้ำข้ามภูเขามา กินเปลือกไม้รากหญ้า หิวจนต้องกินดินขาวเพื่อประทังชีวิตจำนวนคนตอนออกเดินทางมีถึงห้าพันคน ทว่าพอมาถึงด่านเจิ้นกวนกลับเหลือไม่ถึงครึ่ง!ตอนนี้ พวกเขาเห็นผักมากมายขนาดนั้น ดวงตาก็พลันรื้นไปด้วยน้ำใส ๆ ยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาไม่หยุด!ถึงพวกเขาต้องลำบากยากเข็ญอีกแค่ไหน ขอเพียงคนที่เหลือมีชีวิตรอด เท่านั้นก็คุ้มค่าแล้ว!ทหารที่อยู่แถว ๆ นั้นเคยชินกับปริมาณผักที่มหาศาลไปนานแล้วเฉินขุยหยิบแตงกวาลูกหนึ่งขึ้นมากกัดกินอยู่ตรงนั้นเขาเห็นว่าท่ามกลางชาวบ้านแคว้นฉู่ที่สวมใส่เสื้อผ้าซอมซ่อ มีเด็กหลายคนกำลังจ้องเขากินตาปริบ ๆเขาจึงหยิบแตงกวาอีกหลายลูก และแบ่งให้พวกเด็ก ๆ คนละลูกพ่อแม่ของพวกเด็ก ๆ รีบคุกเข่าลง เฉินขุยรีบปราม “ต่อไปก็จะได้กินอิ่มทุกมื้อ เลี้ยงเด็กให้เติบโตไปอย่างดีเถอะ!”พวกพ่อแม่ของเด็ก ๆ ต่างพากันขอบอกขอบใจเขา จากนั้นก็พาเด็ก ๆ เดินจากไป*เหล่าทหารเตรียมพร้อมทำศึกอย่างเต็มกำลังคนในโรงครัวเก็บกวาดผักสดที่กลิ้งไปทั่วพื้นจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 110

    เถ้าแก่ชวียิ้มแย้มเบิกบาน สั่งให้คนขนถ่ายสินค้าทั้งหมดซึ่งก็คือเสื้อกันกระสุนและหมวกกันน็อกชุดเกราะทั้งเซ็ต เสื้อกันกระสุนหนึ่งพันสี่ร้อยบาท หมวกกันน็อกค่อนข้างแพง เพราะแผ่นเหล็กหุ้มทั้งใบ และเพิ่มประสิทธิภาพกันแรงสั่นสะเทือน ตกใบละสองพันบาท!เถ้าแก่ชวีขายให้เธอในราคาเซ็ตละสามพันบาททั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นเซ็ต รวมเป็นเงินสี่ร้อยห้าสิบล้านบาท!เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ตอนที่เย่มู่มู่โอนเงินแอบเสียดายอยู่ในใจ แต่พอคิดว่าช่วยจ้านเฉิงอิ้นได้คุ้มค่าแล้ว!หลังจากจ่ายเงินเสร็จ เถ้าแก่ชวียิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรงเขากระซิบเสียงเบาว่า “ในโรงงานมีของคุณภาพดีกว่านี้อีก มีอุปกรณ์กันกระสุนติดอาวุธทั้งตัว แต่ยังไม่สามารถผลิตจำนวนมากได้”เย่มู่มู่บอกเขาว่า “ถ้าผลิตได้จำนวนมาก ฉันจองล่วงหน้าก่อนห้าหมื่นชุดนะคะ”“ได้ครับ ตกลงตามนี้!”พวกคนขับรถขนถ่ายสินค้าเสร็จแล้ว เย่มู่มู่ให้เงินผู้จัดการโรงงานสองหมื่นห้าพันบาทให้เขาไปซื้อแอร์ฯ มาติดในห้องยามหนึ่งตัว เงินที่เหลือก็ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เขาไว้ใช้ในเวลางานพนักงานดูแลโกดังดีใจมาก เขาได้ใช้แค่พัดลมเวลาอยู่ในโกดัง อากาศร้อนมากจริง ๆ!เขารีบไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 111

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “เฉินอู่ หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรอรับคำสั่ง ธนูทดกำลังเตรียมตัวให้พร้อม!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่จึงไปแบ่งหน้าที่ขณะที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ภายในระยะห้ากิโลเมตร ยืนอยู่ในระยะของวัตถุระเบิดแล้ว ก็ยังมีทหารม้าอีกจำนวนมากตามมาข้างหลังด้วยเมื่อห่างจากกำแพงเมืองสามกิโลเมตร จ้านเฉิงอิ้นได้พบกับแม่ทัพแคว้นฉู่ หลิงเซี่ยวเฟิงเขาอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว เป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นฉู่และมีชื่อเสียงในช่วงเวลาเดียวกับพ่อของจ้านเฉิงอิ้นด้วยว่ากันว่าในกองทัพของทั้งหกแคว้น ทางใต้มีหลิงเซี่ยวเฟิง ทางเหนือมีจ้านเทียนอี้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็อยากเห็นพวกเขาสู้รบกันเพื่อดูว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากันแต่เป็นที่น่าเสียดาย บิดาของเขาจ้านเทียนอี้ถูกเผ่าหมานสังหาร ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสได้ลงสนามรบแข่งขันกันอีก!หลิงเซี่ยวเฟิงสวมชุดเกราะสีดำ ใบหน้ามีหนวดเครา ร่างกายสูงใหญ่ข้าง ๆ เขาคือลูกชายสองคนของเขาหลิงอวิ๋นเจ๋อและหลิงซื่อเฉิน อายุใกล้เคียงกับจ้านเฉิงอิ้นเพียงแต่ว่าทั้งสองคนนี้ลงสนามรบตอนอายุสิบกว่าปี ความดีความชอบในการรบของพวกเขาไม่ดีเท่าจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 112

    ติ้ง~เมื่อลูกธนูยิงโดน ก็ทำให้ทหารผู้นั้นถอยไปหลายก้าวทหารผู้นั้นก้าวมาด้านหน้าอีกครั้ง แล้วดึงคันธนูทดกำลังยิงลงไปด้านล่างต่อหมวกกันน็อกบนศีรษะของเขาไม่แตกแต่กลับเป็นลูกธนูของหลิงเซี่ยวเฟิงที่หักที่น่าแค้นยิ่งกว่านั้นคือด้านหน้าหมวกกันน็อกมีแผ่นป้องกันสีดำ สามารถปิดบังใบหน้า ทำให้พวกเขาไม่สามารถยิงไปที่หว่างคิ้วได้!หลิงเซี่ยวเฟิงยิงไปที่หน้าอกของชายผู้นั้นอีกครั้งติ้ง เกิดพวงประกายไฟขึ้นมา ลูกธนูหนักของหลิงเซี่ยวเฟิงก็หักทันที!เขาไม่เคยเห็นอุปกรณ์สวมใส่ที่แปลกประหลาด และการป้องกันยอดเยี่ยมขนาดนี้ อุปกรณ์สวมใส่เหล่านี้เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ของทหารจ้านเฉิงอิ้นได้มากถึงสามเท่ากองทัพแคว้นฉู่ไม่อาจทำลายกำแพงเมืองได้กองทัพแคว้นฉีก็ดูเหมือนจะเสียเปรียบตั้งแต่เริ่มเฉินขุย เฉินอู่ เปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจง กำลังรับมือกับกองทัพใหญ่สองหมื่นนายของแคว้นฉีพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าฮ่องเต้แคว้นฉีจะออกสู้รบด้วยตัวเองเขานั่งอยู่บนรถม้า ดื่มสุราไปพร้อมกับมองดูเหล่าทหารเข้าโจมตีเมืองอย่างสำราญใจข้างกายเขามีสตรีรูปร่างดีและใบหน้างดงามสองนาง สวมชุดในวังคอยช่วยรินสุราให้เขา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 113

    จำนวนผู้ตายของกองทัพศัตรูเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และศพก็กองพะเนินราวกับภูเขา ใกล้จะสูงเท่ากำแพงเมืองแล้วเลือดรวมเป็นสายน้ำเล็ก ๆ ไหลเข้าไปในประตูเมืองศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนกำแพงเมือง เลือดไหลนองบนพื้นกำแพงเมืองชุดเกราะป้องกันระดับสูงของกองทัพตระกูลจ้านทำให้กองทัพศัตรูที่ปีนขึ้นไปบนกำแพงเมือง ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่ละคนถูกกองทัพตระกูลจ้านสังหารไปทีละคนอยู่บนกำแพงเมืองการต่อสู้ครั้งนี้ยากลำบากและดุเดือด!จนกระทั่งถึงค่ำ กองทัพตระกูลจ้านก็ใช้ไฟโจมตีเมือง!ไม่ผิด ไม่รู้ว่าพวกเขาเอาน้ำมันก๊าดที่มีกลิ่นแรงมาจากไหน เผารถกระทุ้งกำแพงเมืองไปหลายสิบคัน!เผากองทัพศัตรูตายไปนับไม่ถ้วนศพที่กองอยู่ใต้กำแพงเมืองถูกราดด้วยน้ำมันก๊าดแล้วจุดไฟเผา!ป้องกันไม่ให้ศัตรูที่ล้อมโจมตีเข้ามาใกล้!หลิงเซี่ยวเฟิงเห็นว่าไม่มีหวังที่จะโจมตีเมือง เขาทั้งเศร้าและสิ้นหวัง…เขาและจ้านเทียนอี้ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ ทว่าพ่ายแพ้ให้กับลูกชายของเขาอย่างจนตรอกเขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้!ฮ่องเต้แคว้นต้าฉีตกใจกลัวเพราะระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าเขาอยากจะถอยทัพแม่ทัพเยว่หงนับจำนวนดูอยู่นานสองนาน ต้าฉีสูญเสียทหารไปก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 114

    “ท่านพ่อ พวกเรากลับไปทำดินปืน หยิบดาบม่อเตามาสักสองสามเล่ม แล้วก็ธนูยาว...เอาทั้งหมดกลับไปศึกษาและผลิตออกมา”“ครั้งนี้พวกเราจะแพ้หรือไม่นั้นไม่สำคัญ พวกเราประจำการอยู่ข้างนอกห่างออกไปร้อยลี้ พัฒนาอาวุธใหม่ แล้วกลับมาอีกครั้ง สังหารเขาแล้ว ความอัปยศอดสูในวันนี้ใคร ๆ ก็รู้!”“ประวัติศาสตร์ย่อมเป็นผู้ชนะที่เขียนขึ้นมาใหม่!”ในที่สุด หลิงเซี่ยวเฟิงก็ถูกลูกชายเกลี้ยกล่อม ดวงตาของเขาแดงก่ำ ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความไม่เต็มใจ “ถอยทัพ!”ทหารแคว้นฉู่ ถอยทัพเร็วกว่าทหารของแคว้นฉีทหารที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาหนีไปโดยไม่สนใจสิ่งใดเมื่อหลิงเซี่ยวเฟิงเห็นเช่นนี้ ก็โกรธมาก “แบกทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องถูกทุบด้วยท่อนไม้กองทัพ!”กองทัพแคว้นฉู่พาทหารที่ได้รับบาดเจ็บถอยทัพออกไปด้านนอกหนึ่งร้อยลี้ก่อนจะหยุดลงจ้านเฉิงอิ้นที่ร่างกายย้อมไปด้วยเลือด ยืนอยู่บนกำแพงเมืองมองกองทัพทั้งสองแคว้นหนีหัวซุกหัวซุนเขากำดาบม่อเตาเอาไว้ในมือแน่นถอยแล้วในที่สุดแคว้นฉู่ และแคว้นฉีก็ล่าถอย!ในที่สุดพวกเขาก็ชนะการต่อสู้ครั้งนี้!เฉินขุยตื่นเต้น ตะโกนสุดแรง “ทหารแคว้นฉู่และแคว้นฉีถอยไปแล้ว พวกเราชนะแ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 705

    หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 704

    “พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 703

    เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status