มีผู้อาวุโสมู่ รองผู้อำนวยการจาง และผู้อาวุโสอีกสองคนที่ดูสง่างามเมื่อผู้อาวุโสมู่เห็นคฤหาสน์ที่สร้างอย่างมีกลิ่นอายโบราณ ตั้งอยู่บนไหล่เขาที่มีหมอกรายล้อมด้านหน้าคือที่ดิน ที่เพาะปลูกผลหมากรากไม้และพืชผักด้านหลังมีลำธารหนึ่งสาย ข้างลำธารมีศาลาริมน้ำและศาลาพักร้อนเขาจึงกล่าวขึ้น “ที่แห่งนี้ราวกับดินแดนสุขาวดี น่าอยู่อาศัยมาก”เย่มู่มู่หัวเราะ “หากคุณชอบ สามารถมาพักได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ฟาร์มเซียนหยวนยังมีห้องว่าง ให้ฉันแจ้งผู้จัดการเก็บห้องไว้ไหมคะ?”“เฮ้อ ไม่มีเวลาพักหรอก ผมต้องกลับไปดูร้านอีก”เย่มู่มู่เชิญพวกผู้อาวุโสมู่เข้าไปที่ห้องรับแขกภายในห้องรับแขก มีถ้วยกระเบื้อง จานกระเบื้อง ขวดกระเบื้องแบบต่าง ๆ วางไว้บนโต๊ะน้ำชาอย่างละยี่สิบใบบนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง วางกาสุราสีทองอร่ามเอาไว้ผู้อาวุโสที่สง่างามสองคน เดินตรงไปที่โต๊ะน้ำชา แล้วหยิบจานขึ้นด้วยนิ้วที่สั่นระริก จากนั้นพลิกดูไม่หยุดผู้อาวุโสที่สวมแว่นตา ถึงขนาดเอาแว่นขยายออกมาส่องดูรองผู้อำนวยการจางกลับมองเห็นกาสุราตั้งแต่แวบแรก เขาหยิบขึ้นด้วยใบหน้าแดงเถือก แล้วตรวจดูที่ก้นกา จากนั้นดูที่ตัวกาสุรา ต่อมาสำรวจดูมังกรสีท
รองผู้อำนวยการจางหยิบเหรียญทองขึ้นมาถามว่า “สามพันสองร้อยห้าสิบล้าน คุณเย่คิดว่ายังไงครับ?”เย่มู่มู่นึกไม่ถึงว่าจะขายได้ราคาสูงขนาดนี้!ในรายการตรวจสอบสมบัติ เงินทองในยุคเดียวกันไม่ได้มีราคาเท่าเครื่องลายครามกับภาพเขียนและภาพวาดพู่กันสามพันสองร้อยห้าสิบล้านนั้นสูงเกินราคาจริงของมันไปมากเธอพึงพอใจกับราคานี้มาก “ได้ค่ะ ถ้าคุณคิดว่าคุ้มราคา ฉันก็ขาย”รองผู้อำนวยการจางหยักยิ้มมุมปาก รีบเก็บเหรียญทองทันที เขาใช้ผ้าไหมเช็ดถูอย่างเบามือ จากนั้นก็เก็บไว้ในกล่องเล็ก ๆเขายิ้มให้ผู้อาวุโสมู่ “กาสุรา คุณก็อย่าเอาแต่แย่งกับผมเลย!”ผู้อาวุโสมู่ไม่ยอม!“ผมกับคุณเย่ตกลงราคากันแล้ว จะยอมยกให้คุณได้ยังไงล่ะ?”รองผู้อำนวยการจางบอกว่า “กาสุรากับถังเหล้าเป็นชุดเดียวกัน ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของพิพิธภัณฑ์ คุณตั้งราคาเท่าไร ผมให้เพิ่มหนึ่งร้อยล้าน!”ผู้อาวุโสมู่ถูกเขายั่วโมโห “รู้อย่างนี้ไม่พาคุณมาแต่แรกก็ดี ไม่คิดว่าจะมาแย่งของกันอย่างนี้”รองผู้อำนวยการจางเก็บเหรียญทองกับกาสุราไปในราคารวมทั้งหมดหกพันสองร้อยยี่สิบห้าล้านเขาสั่งให้ฝ่ายการเงินรีบโอนเงินให้เย่มู่มู่เพราะกลัวจะถูกใครแย่งไป
นัยน์ตาดำขลับของจ้านเฉิงอิ้นหันไปมองที่ประตูเมืองหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยว่า “กำลังหลักของเผ่าหมาน ปักหลักอยู่ทางทิศตะวันออก”“กำลังสำคัญอยู่ที่คอกม้า จะต้องมีม้าศึกอยู่มากมายเป็นแน่ ต้องหาวิธีขโมยม้าออกมา”“เรามีม้าศึกสองร้อยตัวของกองทัพตระกูลจ้าน คราวก่อนยึดม้ามาหกร้อยตัว ทั้งหมดมีไม่เกินแปดร้อย ไม่พอเลยสักนิด!”เฉินขุยได้ยินก็ตบหัวตัวเองแรง ๆ หนึ่งฉาด“ทำไมข้านึกไม่ถึง ตอนนี้สิ่งที่พวกเราขาดแคลนมากที่สุดก็คือม้าศึก”“ท่านแม่ทัพ กลางคืนข้าจะเอาน้ำและอาหารม้าไปที่คอกม้าของเผ่าหมาน หลอกล่อม้าของพวกมันออกมา”“ทางประตูทิศตะวันตกให้พากำลังคนไปก่อความวุ่นวายสักหน่อยก็พอ วันนี้จุดประสงค์หลักของพวกเราคือหากองทัพม้ามาเพิ่ม”“เอาละ ไปวางแผนกันที่ห้องโถงหารือกัน”สิ้นเสียงคำสั่งของจ้านเฉิงอิ้น น้ำก็หยุดไหลพอดีบ่อน้ำบ่อที่ห้าเต็มแล้วเหล่าทหารเห็นบ่อน้ำเต็มแล้วก็กู่ร้องด้วยความยินดี ต่างหยิบน้ำเต้าของตัวเองขึ้นมาตักน้ำที่ข้างบ่อจ้านเฉิงอิ้นยกแจกันดอกไม้ขึ้นมาห่อด้วยผ้าไหม จากนั้นก็ยกไปที่ห้องโถงหารือด้วยเวลานี้ กระดาษแผ่นหนึ่งลอยลงมา“ข้าซื้อชุดกล่องของขวัญเซราม
เผ่าหมานไม่กล้าเดินหน้าเข้ามาอีก ทำได้เพียงถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อหลบลูกธนูเหอหงเป็นคนใจกล้า เขานำทัพเข้าไปทางด้านข้าง มุ่งหน้าสู่คอกม้าทันทีพอเปิดประตูคอกม้า ก็รีบปลดเชือกที่มัดม้าไว้ทุกครั้งที่ปลดเชือกม้า ก็ป้อนอาหารให้ม้าหนึ่งคำ ป้อนน้ำหนึ่งคำลากออกไปได้มากเท่าใดก็เอาเท่านั้นด้านหน้า พลทหารกำลังยั่วยุท้าทาย ยังคงปล่อยธนูอย่างต่อเนื่องด้านข้าง ม้าหนึ่งพันกว่าตัวในคอกถูกปล่อยออกไปหมดแล้วพวกมันวิ่งตามคนชุดดำสิบกว่าคนบนหลังม้าอ้วนท้วมและแข็งแรงบึกบึนซึ่งแบกกระสอบไว้ม้าวิ่งเร็วเกินไป ดึงก็ดึงไม่อยู่เหอหงกับพรรคพวกอีกสิบกว่าคนล่อลวงม้าหนึ่งพันกว่าตัวออกมาได้หลี่จงหยวนกับหลินต้าจวินเห็นเขาทำสำเร็จต่างก็ยกนิ้วโป้งให้ชื่นชมที่เขาใจกล้า เพราะทันทีที่ถูกเผ่าหมานจับได้ พวกเขาคงไม่มีวันได้หวนกลับมาอีกแต่เขากลับทำสำเร็จแล้วครั้นขโมยม้าศึกสำเร็จก็ไม่เสียเวลาสู้ต่อ พวกเขาล่อม้าหนึ่งพันกว่าตัวกลับเมืองเหล่าทหารเห็นม้าศึกฝูงใหญ่พุ่งทะยานมาจากทางประตูเมือง ต่างก็เบิกตากว้างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วม้าศึกของเผ่าหมานถูกล่อกลับมาอย่างนี้เลยหรือ?ม้าเหล่านี้เทียบกับม้า
แต่เธอไม่ใช่เทพยดานะ แล้วก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าด้วย เธอเป็นคนเป็น ๆ ต่างหาก!สร้างวัดให้คนเป็น ๆ จะโอเวอร์เกินไปรึเปล่า“ถ้าอย่างไร พวกเจ้าสร้างวัดพระโพธิสัตว์ดีกว่าไหม?”“เหตุใดต้องเป็นวัดพระโพธิสัตว์?”จู่ ๆ เย่มู่มู่ก็นึกขึ้นได้ ยุคนี้ศาสนาพุทธยังไม่แพร่เข้ามาในประเทศ“ข้าหมายถึง สร้างรูปปั้นไปเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปของข้า ข้าเป็นคนเป็น ๆ จะให้คนมากราบไหว้บูชาก็ออกจะ…”ไม่เหมาะสม!“ไม่ขอรับ ท่านช่วยกองทัพตระกูลจ้านของเรา ท่านช่วยอิ้นไว้ ช่วยชาวบ้านทั้งเมืองไว้ด้วย พวกชาวบ้านไม่มีทางกราบไหว้บูชาคนแปลกหน้าที่ไหน”“ท่านคือท่านเทพยดาของพวกเราอย่างไร้ข้อกังขา ได้โปรดส่งรูปเหมือนของท่านมา ช่างฝีมือเร่งเร้าแล้ว ไม่อาจชักช้าได้อีก!”จ้านเฉิงอิ้นจะสร้างวัดให้เธอให้ได้ก็ได้!เธอจะไม่เถียงกับคนโบราณ!คฤหาสน์หลังนี้ไม่มีรูปถ่ายของเธอ แต่บ้านเดิมมีเย่มู่มู่บอกว่า “รออีกสองสามวัน ข้าจะกลับไปเอารูป!”“ได้ขอรับ ท่านเทพอย่าลืมก็แล้วกัน!”“วันนี้ได้ม้ามาเพิ่มสี่พันกว่าตัว อาหารม้าไม่พอแล้วใช่หรือไม่?”“ขอรับ อิ้นอยากบอกท่านอยู่พอดี!”“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ข้าจะสั่งให้คนส่งมาสองคันรถ
กองทัพแคว้นฉู่และแคว้นฉีใช้เส้นทางอ้อมภูเขาหลายลูก หมายมุ่งหน้ามาโจมตีด่านเจิ้นกวนซ่งตั๋วดักซุ่มโจมตีอยู่ไม่ห่างจากฐานที่มั่นของฝ่ายศัตรู ซุ่มรออยู่นานกลับยังไม่เห็นควันลอยขึ้นจากกระโจมของอีกฝ่ายเขาติดตามกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลายี่สิบกว่าปี มีประสบการณ์มากกว่าสองพี่น้องสกุลเฉิน อู๋ซานหลาง และเฉินจวิ้นหลินมากเขาสังเกตได้ถึงความผิดปกติ จึงเรียกทหารเก่าแก่สองนายแฝงตัวเข้าไปในค่ายทหารแคว้นฉู่ในยามวิกาลเวลานี้ พวกเขาค้นพบว่าค่ายทหารแห่งนี้ว่างเปล่าร้างไร้ผู้คนไปแล้วม้าศึก อาวุธ อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนถูกเอาไปหมดแล้วเหลือไว้เพียงบ้านอิฐ และกระโจมสิบกว่าหลังที่ยังไม่มีใครแตะต้องซ่งตั๋วสบถด่าด้วยความเดือดดาล“มารดาเอ็งเถอะ พวกเราถูกปั่นหัวแล้ว!”ทหารเก่าแก่รีบถาม “แม่ทัพซ่ง ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”“รีบส่งนกพิราบส่งข่าวกลับไปให้ท่านแม่ทัพใหญ่ บอกเขาว่าแคว้นฉู่เคลื่อนทัพไปด่านเจิ้นกวนแล้ว ให้เตรียมกองทัพตั้งรับศึกได้เลย!”หวังว่าตอนที่ข่าวถูกส่งไปถึง จะยังไม่สายไปนะ!“อย่างนั้นพวกเรารีบกลับไปตอนนี้เลยหรือไม่?”ซ่งตั๋วตอบราวกับร่างไร้วิญญาณว่า “พวกเรากลับไปไม่ทันแล้ว!”เขาหันไปมอ
ดังนั้น กองทัพเผ่าหมานถูกโจมตีจนสั่นคลอน ผู้นำถูกปลด ผู้นำคนใหม่ก็ยังมาไม่ถึง…พวกเขาจึงตัดเผ่าหมานออกมีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองแคว้นจะโจมตีเข้ามาทางประตูทิศตะวันออกและประตูทิศเหนือ เพราะสองทิศนี้เป็นเส้นทางที่ใกล้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีมากที่สุดสองแคว้นเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ได้ใช้เส้นทางที่ซ่งตั๋วฝังระเบิดไว้ เป็นไปได้ว่าในเมืองมีหนอนบ่อนไส้ซ่งตั๋วออกจากเมืองด้วยเส้นทางลับหากรู้ว่าเขาออกจากเมือง แสดงว่าจะต้องเป็นหนอนบ่อนไส้ที่มีตำแหน่งไม่ธรรมดาแน่นอนนึกมาถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นหันไปมองเหล่าทหารที่ยังไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ทว่ากลับมองเขาด้วยท่าทางขึงขังพร้อมรบพวกเขาล้วนเคยร่วมกินเปลือกไม้มาพร้อมกับเขา เคยแทะรากหญ้าแห้งด้วยกัน และมีมิตรภาพร่วมกันมามากมายจ้านเฉิงอิ้นไม่อยากสงสัยพวกเขาแต่กลับมีคนที่แอบขายข้อมูลให้คนภายนอกแฝงตัวอยู่ในกองทัพเขาเรียกเฉินขุยมาหา กระซิบสั่งข้างหูเขาสองสามประโยคเฉินขุยได้ยินก็เบิกตาด้วยความตกตะลึง ราวกับไม่อยากจะเชื่อ“จริงหรือขอรับ?”เขาพยักหน้า หยิบกระดาษข้อความให้เฉินขุยอ่าน“ท่านเทพไม่มีทางฝันร้ายอย่างไม่มีต
กองทัพฉู่อยู่ห่างจากด่านเจิ้นกวนสามสิบกว่าลี้ พลทหารมืดฟ้ามัวดินนับแสนยืนเรียงรายกันโดยมีธงรบสีเหลืองปักอยู่!กองทัพแคว้นฉี่มาถึงในหนึ่งชั่วยามให้หลัง พวกเขาปักหลักอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกยี่สิบลี้ แคว้นฉี่บีบคั้นด่านเจิ้นกวนยิ่งกว่าแคว้นฉู่เสียอีก!ธงมังกรดำโบกสะบัดอยู่ห่างออกไปยี่สิบลี้ ดูน่ากริ่งเกรงอย่างมาก!กองทัพใหญ่บุกประชิดพรมแดน ต่างจากเผ่าหมานที่ไร้ระเบียบแบบแผน กองทัพของทั้งสองแคว้นเป็นระบบระเบียบ มีวินัยเข้มงวด ทั้งยังผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีจ้านเฉิงอิ้นรบรากับเผ่าหมานเสียส่วนมาก เขาไม่เคยสู้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีเลยสักครั้งแม้เขาจะมีชื่อเสียงร่ำลือตั้งแต่อายุยังน้อย และมีบารมีน่าเกรงขามของแม่ทัพหนุ่มอยู่ แต่กลับไม่เคยได้รับแรงกดดันมหาศาลเช่นนี้มาก่อน!เขาถามหลี่จงหยวน “ยังเหลือธนูอีกเท่าใด?”“เหลือธนูห้าพันคัน ลูกดอกไม่พอแล้วขอรับ เหลือเพียงหนี่งแสนกว่าดอก หักไปไม่น้อยแล้ว”ลูกดอกหนึ่งแสนกว่าเล่มไม่เพียงพอที่จะใช้ต้านศึกจากทหารม้าสามแสนห้าหมื่นนายแน่นอนเวลานี้ เฉินขุยวิ่งกลับมาในสภาพสะบักสะบอมเขาพูดเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าง่วนอยู่สองชั่วยามกว่า ในท
ด้านในล้างจนสะอาดหมดแล้วเย่มู่มู่กลิ้งถังน้ำเข้าไปในบ่อน้ำข้าง ๆ โดยตรง ใส่น้ำเข้าไปโดยอัตโนมัติครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็ถูกใส่จนเต็มนาทีสุดท้ายในสี่ชั่วโมง รถบรรทุกน้ำมันยี่สิบคันขับเข้ามาอีกฝ่ายสวมหน้ากากอนามัยและแว่นดำ ไร้ซึ่งความเกรงใจ ให้เย่มู่มู่โอนทั้งหมดจ่ายเงินของรถบรรทุกน้ำมันพร้อมกันทีเดียวหลังเย่มู่มู่จ่ายเงิน สีหน้าของคนที่นำขบวนมาถึงค่อย ๆ ผ่อนคลายขึ้นมาพวกเขาขับรถเก๋งสองสามคันกลับไปเวลานี้ฟ้ามืดสนิทแล้วเย่มู่มู่มองเวลา ระยะเวลาสี่ชั่วโมงยังเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายเธอใส่รถบรรทุกน้ำมันทั้งหมดเข้าไปในที่ว่างเปล่าตอนนี้ที่เธอทำได้ก็ทำหมดแล้วที่ช่วยได้ก็พยายามช่วยสุดความสามารถส่วนทางกองกำลังห้าหมื่นคนของเซี่ยเวยนั้น จะปกป้องแคว้นเยี่ยนเอาไว้ได้หรือไม่เธอทำได้เพียงรอดูแล้วแต่เธอหวังว่าเซี่ยเวยจะปกป้องเอาไว้ได้หากราบรื่นก็ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนเช่นนั้นความปรารถนาที่จะรวมทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว แว่นแคว้นแรกก็บรรลุผลแล้วเมื่อเย่มู่มู่คิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็แผ่ซ่านขึ้นมาทั้งตัวแวบหนึ่งพร้อมกับพลันตื่นเต้นขึ้นมาเธอหวังเป็นอย
เวินลี่ตอบตกลงว่าจะหารถบรรทุกน้ำมันมาให้ ภายใต้การรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเย่มู่มู่ส่วนจำนวนที่แน่ชัด ยังตอบตกลงไม่ได้เย่มู่มู่กระทั่งพูดกับเธออย่างกล้าหาญว่า หวังว่าจะรวมไปถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งด้วยแบบนั้นจะได้ขนน้ำมันมาได้อย่างต่อเนื่องในเวลานี้เอง เวินลี่ก็ตัดสายทิ้งไปเลยรวมถึงปั๊มน้ำมันด้วยภูมิหลังไม่เท่าไร ไม่มีเส้นสายบริษัทน้ำมัน จึงไม่ได้โควตา...ยากเป็นอย่างมาก!สำเร็จเรียบร้อย เย่มู่มู่ยังหาโรงงานที่ทำขนส่งถังใส่น้ำในพื้นที่ และเหมาสต็อกทั้งหมดเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวคือต้องล้างภายในถังเหล็กให้สะอาด และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อยขนมาภายในสามชั่วโมงเธอต้องการบรรจุน้ำใส่ถังใหญ่เหล่านี้ให้เรียบร้อย แล้วใส่ในที่ว่างเปล่าภายในแจกันผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถขนส่งหลาบขบวน ขับมาถึงใต้ตีนเขาเย่มู่มู่ตรวจสอบถังน้ำมัน ทั้งหมดถูกเติมจนเต็มแล้วน้ำมันเครื่อง น้ำยาล้างกระจกและอะไหล่ต่าง ๆ เตรียมไว้ครบหมดแล้วขบวนรถล็อตแรกยี่สิบคัน เธอจ่ายเงินค่าเช่าหนึ่งปีเลยเงินนี้แทบจะซื้อรถบรรทุกเก่า ๆ ได้สักคันแล้วหัวหน้าของขบวนรถที่มองอยู่อึ้งไปเลย เธอแก้ไขสัญญากับมือ บอกว่าหากหนึ่งปียั
ความกดดันที่เขาเผชิญในตอนนี้ มากมายเสียยิ่งกว่าพวกเขากลับไปป้องกันแคว้นเยี่ยนเสียอีกทว่ากลับตัดสินใจให้พวกเขากลับไปปกป้องเมืองอย่างแน่วแน่ความเชื่อใจนี้ บุญคุณนี้ พวกเขาหกคนจะไม่มีวันลืมทั้งหกคนลุกขึ้นขอตัวลากับจ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวเพียงสองชั่วยามเท่านั้นผ่านไปสองชั่วยาม ต้องออกเดินทางกลับแคว้นเยี่ยนเมื่อเย่มู่มู่ได้ยินเรื่องนี้ ก็ถามจ้านเฉิงอิ้น...“ตอนนี้มีรถกี่คัน? อาหารกับแหล่งน้ำล่ะ?”คนห้าหมื่นคนกลับไปรักษาป้องกัน และช่วงชิงเวลากับแคว้นฉู่และฉีสองแคว้นตามแผนที่ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา และคำอธิบายของหลูซีกับหลูหมิง แคว้นฉู่และฉีอยู่ใกล้กับแคว้นเยี่ยนมากกว่า...พวกเขารีบกลับไปป้องกัน...และยังต้องต้องแก้ปัญหาอาหารการกิน และน้ำท่าของราษฎรเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนให้เรียบร้อย ราษฎรแคว้นเยี่ยนจะได้มีกำลังมาสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่อย่าว่าแต่ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเลย ขอเพียงพวกเขามีน้ำและอาหาร ก็ถูกสนับสนุนให้เป็นฮ่องเต้แล้วฉะนั้น ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นยังมีเสบียงอีกเท่าไร?จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “รถบรรทุกยี่สิบคัน รถบรรทุกขนาดกลางสามสิบคัน รถเล็กสิบค
เหตุใดจ้านเฉิงอิ้นจะไม่รู้ถึงความกดดันของห้าหมื่นคน ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนห้าแสนคนแม้จะช่วงชิงภูเขาเหมืองและระเบิดโรงงานดินปืนทิ้งไปแล้ว สูญเสียไปหนึ่งแสนคนยังมีอีกสี่แสนคนแต่เขาเองก็รู้ว่า จะให้ไปเฝ้าเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนเอาไว้ มีเพียงเซี่ยเวยที่มีเหตุผลและน่าเชื่อถือที่สุดจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เถียนฉินตามตัวเซี่ยเวยและทหารกลุ่มหนึ่งมาพวกเขาทุกคนกึ่งคุกเข่าพร้อมพยักหน้าจ้านเฉิงอิ้นมองพวกเขา หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ความรู้สึกของทุกคนก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นวันนี้เมื่อยืนยันว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนนำกองกำลังทหารทั้งหมดมายังต้าฉี่จะต้องมีกองกำลังแคว้นอื่นที่ฉวยโอกาสช่วงโกลาหลเข้ามาแน่พวกเขาจะต้องเฝ้าเอาไว้ให้ดีจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ตามรายงานที่น่าเชื่อถือได้ เยี่ยนซวี่รวบรวมกองกำลังสองแสนห้าหมื่นนายสุดท้ายของแคว้นเยี่ยนนำมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการข้าและกองทัพตระกูลจ้าน...”พวกเซี่ยเวย จ้าวเฉียนต่างพากันเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมาในทันใดกระทั่งเซี่ยเวยเอ่ยปากออกมาด้วยความตกตะลึง “เขาบ้าไปแล้วหรือ? รวบรวมกำลังทหารทั้งหมดมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการท่านเนี่ยนะ?”“หากแ
ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั
ด่านเจิ้นกวน...อันที่จริงจ้านเฉิงอิ้นหย่อนจดหมายไปสองฉบับฉบับหนึ่งเป็นเพียงแค่ผิวเผิน ให้ทหารขับรถกลับไปยังด่านเจิ้นกวน ส่งให้หลี่หยวนจงให้เขาอ่านออกมาต่อหน้าทุกคนผ่านการฝึกมาระยะหนึ่ง พวกอู๋ลี่หนึ่งแสนกว่าคน ก็มีท่าทางของทหารประจำการแล้วกลับกันกองกำลังหนึ่งแสนนายไม่ทราบมาจากที่ใดของสวีหวย กลับเกียจคร้านขึ้นเรื่อย ๆเนื่องจากกองกำลังหลักกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่พวกเขาไม่ยอมรับการอบรมของพวกหลี่หยวนจงและเปี้ยนจื่อผิงทว่าให้พวกเขาออกไปจากด่านเจิ้นกวน ออกไปจากสถานที่ที่มีอาหารและน้ำ พวกเขาก็ไม่มีผู้ใดยินดีขณะแจกจ่ายเสบียงทหารในทุกเดือน มาเร็วกว่าใครทั้งสิ้นตามแบบฉบับ ให้ผลประโยชน์เอาหมดให้ทำงาน ขอประทานโทษทำไม่เป็น!มิหนำซ้ำยังไม่ให้ความร่วมมืออีกด้วยอย่างเช่นวันนี้ หลี่หยวนจงอ่านจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นออกมาก็มีคนต่อต้านทันที รองแม่ทัพนามว่าเว่ยโจวรีบเป็นผู้นำคัดค้านขึ้นมา“พวกเราไปโจมตีเผ่าหมาน...ท่านแม่ทัพกำลังล้อเล่นอยู่หรือ?”“เราใช้ชีวิตกันอยู่ดี ๆ เหตุใดต้องไปรนหาที่ตายด้วย?”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าทัพใหญ่ของเผ่าหมานไม่อยู่ในอาณาเขตแคว้นฉี่ หากเข
เหล่าแม่ทัพทั้งหลายรู้สึกว่าเรื่องนี้เหลวไหลเกินไปอย่างน้อยเขาก็เป็นคนเมืองหลวงบนรถม้าก็ยังมีทหารผ่านศึกต่อให้พวกเขาจะไม่เอาไหนเพียงใด ก็ไม่ถึงขนาดหาทางกลับบ้านตัวเองไม่เจอจ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ครอบครัวในเมืองหลวงต้องอพยพก่อน ไม่ต้องพูดถึงมารดาและพี่รองของข้า ทั้งครอบครัวตระกูลเฉิน ครอบครัวของทหารผ่านศึกในเมืองหลวงอีกมากมาย!”“พวกเขาออกรบฆ่าศัตรู ก็เพื่อให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ได้มีชีวิตที่ดี!”“พวกเราไม่ได้ก่อกบฏ ฮ่องเต้น้อยวิกลจริต จะจับพ่อแม่ของพวกเขาไปแขวนคอบนกำแพงเมือง!”เมื่อจ้านเฉิงอิ้นกล่าวจบ เหล่าทหารทั้งหลายก็เงียบงันจริง ฮ่องเต้น้อยสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ทุกคนไม่ต้องท้อแท้ ได้ติดต่อกับเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงที่ด่านเจิ้นกวนไปแล้ว!”“ทันทีที่กองทัพแคว้นเยี่ยนของพวกเผ่าหมานปรากฏตัวในแคว้นต้าฉี่ เปี้ยนจื่อผิงจะนำทหารห้าหมื่นนาย บุกไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยน จัดการราชวงศ์และขุนนางของพวกเขาให้สิ้น!”“หลี่หยวนจงจะนำทัพบุกโจมตีม่อเป่ย แหล่งกำลังพลและที่อยู่ของราชวงศ์ของพวกเขา แล้วสังหารให้หมดอีกครั้ง!”“หากพวกเผ่าหมานแคว้นเยี่ยนไม่กลับไปป
จ้านเฉิงอิ้นมองดูกระดาษที่เย่มู่มู่ส่งกลับมา นางไม่เสียดายคำชมแก่หยางชิงเหอย้ำแล้วย้ำอีกว่า การที่พวกเขารั้งตัวหยางชิงเหอไว้ได้นั้น เป็นการได้เปรียบอย่างมหาศาลส่วนเครื่องมือนั้นที่ยาว ๆ ตรงๆ...กลับกลายเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นไม่เข้าใจ!ให้เฉินขุยและเฉินอู่ดู ทั้งสองหน้าแดงก่ำ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ไม่ยอมมองภาพวาดนั้นก็แค่ล้อสองล้อ กับเครื่องมือยาว ๆ ตรงๆท่านเทพบอกว่าเป็นอาวุธสังหาร!ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายตอบกลับของเย่มู่มู่ให้หยางชิงเหอดูหยางชิงเหอเห็นว่าเงินเดือนประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบห้าล้าน ก็หัวเราะออกมาทันที จนปากแทบจะฉีกถึงหู“ยี่สิบห้าล้าน ฮ่า ๆ ๆ... เงินซื้อบ้านของฉันรวมได้ครึ่งหนึ่งแล้ว!”เหล่าแม่ทัพได้ยินก็พากันอุทานราคาบ้านในโลกของท่านเทพ ช่างสูงลิบลิ่วเสียจริงข้าวสองล้านห้าแสนชั่ง ยังซื้อบ้านไม่ได้สักหลัง!เฉินขุยรู้สึกสงสารนางยิ่งนักก่อนตบอกตัวเองพร้อมกล่าวว่า “แม่นางหยาง ท่านแม่ทัพมีเงิน เดี๋ยวจะให้เครื่องประดับแก่เจ้าสักหน่อย เอาไปเถิด จะได้ครบเงินซื้อบ้าน!”เฉินอู่ก็กล่าวว่า “ข้าก็ยังมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่บ้
คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!