Share

บทที่ 104

Aвтор: มู่โร่ว
แต่เธอไม่ใช่เทพยดานะ แล้วก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้าด้วย เธอเป็นคนเป็น ๆ ต่างหาก!

สร้างวัดให้คนเป็น ๆ จะโอเวอร์เกินไปรึเปล่า

“ถ้าอย่างไร พวกเจ้าสร้างวัดพระโพธิสัตว์ดีกว่าไหม?”

“เหตุใดต้องเป็นวัดพระโพธิสัตว์?”

จู่ ๆ เย่มู่มู่ก็นึกขึ้นได้ ยุคนี้ศาสนาพุทธยังไม่แพร่เข้ามาในประเทศ

“ข้าหมายถึง สร้างรูปปั้นไปเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปของข้า ข้าเป็นคนเป็น ๆ จะให้คนมากราบไหว้บูชาก็ออกจะ…”

ไม่เหมาะสม!

“ไม่ขอรับ ท่านช่วยกองทัพตระกูลจ้านของเรา ท่านช่วยอิ้นไว้ ช่วยชาวบ้านทั้งเมืองไว้ด้วย พวกชาวบ้านไม่มีทางกราบไหว้บูชาคนแปลกหน้าที่ไหน”

“ท่านคือท่านเทพยดาของพวกเราอย่างไร้ข้อกังขา ได้โปรดส่งรูปเหมือนของท่านมา ช่างฝีมือเร่งเร้าแล้ว ไม่อาจชักช้าได้อีก!”

จ้านเฉิงอิ้นจะสร้างวัดให้เธอให้ได้

ก็ได้!

เธอจะไม่เถียงกับคนโบราณ!

คฤหาสน์หลังนี้ไม่มีรูปถ่ายของเธอ แต่บ้านเดิมมี

เย่มู่มู่บอกว่า “รออีกสองสามวัน ข้าจะกลับไปเอารูป!”

“ได้ขอรับ ท่านเทพอย่าลืมก็แล้วกัน!”

“วันนี้ได้ม้ามาเพิ่มสี่พันกว่าตัว อาหารม้าไม่พอแล้วใช่หรือไม่?”

“ขอรับ อิ้นอยากบอกท่านอยู่พอดี!”

“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ข้าจะสั่งให้คนส่งมาสองคันรถ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава
Комментарии (1)
goodnovel comment avatar
Chinnapach Piyapornphant
ชอบมาก อัพเยอะๆนะรอมานานแล้ว ขอบคุณครับ
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Related chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 105

    กองทัพแคว้นฉู่และแคว้นฉีใช้เส้นทางอ้อมภูเขาหลายลูก หมายมุ่งหน้ามาโจมตีด่านเจิ้นกวนซ่งตั๋วดักซุ่มโจมตีอยู่ไม่ห่างจากฐานที่มั่นของฝ่ายศัตรู ซุ่มรออยู่นานกลับยังไม่เห็นควันลอยขึ้นจากกระโจมของอีกฝ่ายเขาติดตามกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลายี่สิบกว่าปี มีประสบการณ์มากกว่าสองพี่น้องสกุลเฉิน อู๋ซานหลาง และเฉินจวิ้นหลินมากเขาสังเกตได้ถึงความผิดปกติ จึงเรียกทหารเก่าแก่สองนายแฝงตัวเข้าไปในค่ายทหารแคว้นฉู่ในยามวิกาลเวลานี้ พวกเขาค้นพบว่าค่ายทหารแห่งนี้ว่างเปล่าร้างไร้ผู้คนไปแล้วม้าศึก อาวุธ อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนถูกเอาไปหมดแล้วเหลือไว้เพียงบ้านอิฐ และกระโจมสิบกว่าหลังที่ยังไม่มีใครแตะต้องซ่งตั๋วสบถด่าด้วยความเดือดดาล“มารดาเอ็งเถอะ พวกเราถูกปั่นหัวแล้ว!”ทหารเก่าแก่รีบถาม “แม่ทัพซ่ง ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”“รีบส่งนกพิราบส่งข่าวกลับไปให้ท่านแม่ทัพใหญ่ บอกเขาว่าแคว้นฉู่เคลื่อนทัพไปด่านเจิ้นกวนแล้ว ให้เตรียมกองทัพตั้งรับศึกได้เลย!”หวังว่าตอนที่ข่าวถูกส่งไปถึง จะยังไม่สายไปนะ!“อย่างนั้นพวกเรารีบกลับไปตอนนี้เลยหรือไม่?”ซ่งตั๋วตอบราวกับร่างไร้วิญญาณว่า “พวกเรากลับไปไม่ทันแล้ว!”เขาหันไปมอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 106

    ดังนั้น กองทัพเผ่าหมานถูกโจมตีจนสั่นคลอน ผู้นำถูกปลด ผู้นำคนใหม่ก็ยังมาไม่ถึง…พวกเขาจึงตัดเผ่าหมานออกมีความเป็นไปได้สูงที่ทั้งสองแคว้นจะโจมตีเข้ามาทางประตูทิศตะวันออกและประตูทิศเหนือ เพราะสองทิศนี้เป็นเส้นทางที่ใกล้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีมากที่สุดสองแคว้นเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ได้ใช้เส้นทางที่ซ่งตั๋วฝังระเบิดไว้ เป็นไปได้ว่าในเมืองมีหนอนบ่อนไส้ซ่งตั๋วออกจากเมืองด้วยเส้นทางลับหากรู้ว่าเขาออกจากเมือง แสดงว่าจะต้องเป็นหนอนบ่อนไส้ที่มีตำแหน่งไม่ธรรมดาแน่นอนนึกมาถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นหันไปมองเหล่าทหารที่ยังไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ทว่ากลับมองเขาด้วยท่าทางขึงขังพร้อมรบพวกเขาล้วนเคยร่วมกินเปลือกไม้มาพร้อมกับเขา เคยแทะรากหญ้าแห้งด้วยกัน และมีมิตรภาพร่วมกันมามากมายจ้านเฉิงอิ้นไม่อยากสงสัยพวกเขาแต่กลับมีคนที่แอบขายข้อมูลให้คนภายนอกแฝงตัวอยู่ในกองทัพเขาเรียกเฉินขุยมาหา กระซิบสั่งข้างหูเขาสองสามประโยคเฉินขุยได้ยินก็เบิกตาด้วยความตกตะลึง ราวกับไม่อยากจะเชื่อ“จริงหรือขอรับ?”เขาพยักหน้า หยิบกระดาษข้อความให้เฉินขุยอ่าน“ท่านเทพไม่มีทางฝันร้ายอย่างไม่มีต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 107

    กองทัพฉู่อยู่ห่างจากด่านเจิ้นกวนสามสิบกว่าลี้ พลทหารมืดฟ้ามัวดินนับแสนยืนเรียงรายกันโดยมีธงรบสีเหลืองปักอยู่!กองทัพแคว้นฉี่มาถึงในหนึ่งชั่วยามให้หลัง พวกเขาปักหลักอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกยี่สิบลี้ แคว้นฉี่บีบคั้นด่านเจิ้นกวนยิ่งกว่าแคว้นฉู่เสียอีก!ธงมังกรดำโบกสะบัดอยู่ห่างออกไปยี่สิบลี้ ดูน่ากริ่งเกรงอย่างมาก!กองทัพใหญ่บุกประชิดพรมแดน ต่างจากเผ่าหมานที่ไร้ระเบียบแบบแผน กองทัพของทั้งสองแคว้นเป็นระบบระเบียบ มีวินัยเข้มงวด ทั้งยังผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีจ้านเฉิงอิ้นรบรากับเผ่าหมานเสียส่วนมาก เขาไม่เคยสู้กับแคว้นฉู่และแคว้นฉีเลยสักครั้งแม้เขาจะมีชื่อเสียงร่ำลือตั้งแต่อายุยังน้อย และมีบารมีน่าเกรงขามของแม่ทัพหนุ่มอยู่ แต่กลับไม่เคยได้รับแรงกดดันมหาศาลเช่นนี้มาก่อน!เขาถามหลี่จงหยวน “ยังเหลือธนูอีกเท่าใด?”“เหลือธนูห้าพันคัน ลูกดอกไม่พอแล้วขอรับ เหลือเพียงหนี่งแสนกว่าดอก หักไปไม่น้อยแล้ว”ลูกดอกหนึ่งแสนกว่าเล่มไม่เพียงพอที่จะใช้ต้านศึกจากทหารม้าสามแสนห้าหมื่นนายแน่นอนเวลานี้ เฉินขุยวิ่งกลับมาในสภาพสะบักสะบอมเขาพูดเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าง่วนอยู่สองชั่วยามกว่า ในท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 108

    อันดับแรก ธนูและลูกดอกยังไม่พอ!เธอค้นหาคันธนูและลูกดอกในพื้นที่ หรือจะเป็นปืนล่าสัตว์ก็ได้เธอหาปืนล่าสัตว์ไม่เจอ แต่กลับเจอร้านขายธนูทดกำลังเจอสามร้านเธอโทรไปทันทีเจ้าของร้านกำลังอยู่ในห้วงความฝัน จึงไม่ได้รับสายเธอรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงรีบขับรถลงจากเขา ตรงดิ่งไปที่หน้าประตูร้านพนักงานทำความสะอาดบอกว่าอย่างเร็วที่สุดร้านเปิดเจ็ดโมงเช้า บอกให้เธอรอไปก่อน!เย่มู่มู่เหมาไข่ต้มใบชาหนึ่งหม้อ และเหมาเสี่ยวหลงเปากับน้ำเต้าหู้ทั้งหมดในร้านอาหารเช้าข้าง ๆร้านบะหมี่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รอดเช่นกัน เธอสั่งให้เถ้าแก่ห่อบะหมี่หนึ่งร้อยกว่ากล่องจากนั้นก็เหมาน้ำและเครื่องดื่มทั้งหมดในตู้แช่ร้ายขายของชำพอขับรถมาถึงที่ลับตาคน เธอส่งมื้อเช้าทั้งหมดไปเธอกินเสี่ยวหลงเปาและดื่มน้ำเต้าหู้ ขณะที่รอร้านเปิดเจ็ดโมงครึ่ง ในที่สุดเถ้าแก่ก็เดินหาวมาเปิดประตูร้านเย่มู่มู่ถามไปตรง ๆ ว่าธนูทดกำลังในร้านมีกี่คัน?เถ้าแก่เห็นว่าเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง จึงลังเลไปเล็กน้อย ก่อนถามว่าเธอจะเอาขนาดไหนเธอบอกว่า “ยิงระยะไกล สามารถล่าหมูได้!”ล่าหมู ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร!เถ้าแก่บอกว่า “ในร้านมีหนึ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 109

    อาหารในด่านเจิ้นกวนมีมากจนกินไม่หมด ผักสดระเนระนาดเต็มพื้นชาวบ้านยากจนข้นแค้นจากแคว้นฉู่ เพื่อมาจำนนต่อด่านเจิ้นกวน พวกเขาเดินทางข้ามน้ำข้ามภูเขามา กินเปลือกไม้รากหญ้า หิวจนต้องกินดินขาวเพื่อประทังชีวิตจำนวนคนตอนออกเดินทางมีถึงห้าพันคน ทว่าพอมาถึงด่านเจิ้นกวนกลับเหลือไม่ถึงครึ่ง!ตอนนี้ พวกเขาเห็นผักมากมายขนาดนั้น ดวงตาก็พลันรื้นไปด้วยน้ำใส ๆ ยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาไม่หยุด!ถึงพวกเขาต้องลำบากยากเข็ญอีกแค่ไหน ขอเพียงคนที่เหลือมีชีวิตรอด เท่านั้นก็คุ้มค่าแล้ว!ทหารที่อยู่แถว ๆ นั้นเคยชินกับปริมาณผักที่มหาศาลไปนานแล้วเฉินขุยหยิบแตงกวาลูกหนึ่งขึ้นมากกัดกินอยู่ตรงนั้นเขาเห็นว่าท่ามกลางชาวบ้านแคว้นฉู่ที่สวมใส่เสื้อผ้าซอมซ่อ มีเด็กหลายคนกำลังจ้องเขากินตาปริบ ๆเขาจึงหยิบแตงกวาอีกหลายลูก และแบ่งให้พวกเด็ก ๆ คนละลูกพ่อแม่ของพวกเด็ก ๆ รีบคุกเข่าลง เฉินขุยรีบปราม “ต่อไปก็จะได้กินอิ่มทุกมื้อ เลี้ยงเด็กให้เติบโตไปอย่างดีเถอะ!”พวกพ่อแม่ของเด็ก ๆ ต่างพากันขอบอกขอบใจเขา จากนั้นก็พาเด็ก ๆ เดินจากไป*เหล่าทหารเตรียมพร้อมทำศึกอย่างเต็มกำลังคนในโรงครัวเก็บกวาดผักสดที่กลิ้งไปทั่วพื้นจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 110

    เถ้าแก่ชวียิ้มแย้มเบิกบาน สั่งให้คนขนถ่ายสินค้าทั้งหมดซึ่งก็คือเสื้อกันกระสุนและหมวกกันน็อกชุดเกราะทั้งเซ็ต เสื้อกันกระสุนหนึ่งพันสี่ร้อยบาท หมวกกันน็อกค่อนข้างแพง เพราะแผ่นเหล็กหุ้มทั้งใบ และเพิ่มประสิทธิภาพกันแรงสั่นสะเทือน ตกใบละสองพันบาท!เถ้าแก่ชวีขายให้เธอในราคาเซ็ตละสามพันบาททั้งหมดหนึ่งแสนห้าหมื่นเซ็ต รวมเป็นเงินสี่ร้อยห้าสิบล้านบาท!เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ตอนที่เย่มู่มู่โอนเงินแอบเสียดายอยู่ในใจ แต่พอคิดว่าช่วยจ้านเฉิงอิ้นได้คุ้มค่าแล้ว!หลังจากจ่ายเงินเสร็จ เถ้าแก่ชวียิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรงเขากระซิบเสียงเบาว่า “ในโรงงานมีของคุณภาพดีกว่านี้อีก มีอุปกรณ์กันกระสุนติดอาวุธทั้งตัว แต่ยังไม่สามารถผลิตจำนวนมากได้”เย่มู่มู่บอกเขาว่า “ถ้าผลิตได้จำนวนมาก ฉันจองล่วงหน้าก่อนห้าหมื่นชุดนะคะ”“ได้ครับ ตกลงตามนี้!”พวกคนขับรถขนถ่ายสินค้าเสร็จแล้ว เย่มู่มู่ให้เงินผู้จัดการโรงงานสองหมื่นห้าพันบาทให้เขาไปซื้อแอร์ฯ มาติดในห้องยามหนึ่งตัว เงินที่เหลือก็ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้เขาไว้ใช้ในเวลางานพนักงานดูแลโกดังดีใจมาก เขาได้ใช้แค่พัดลมเวลาอยู่ในโกดัง อากาศร้อนมากจริง ๆ!เขารีบไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 111

    จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “เฉินอู่ หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรอรับคำสั่ง ธนูทดกำลังเตรียมตัวให้พร้อม!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่จึงไปแบ่งหน้าที่ขณะที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ภายในระยะห้ากิโลเมตร ยืนอยู่ในระยะของวัตถุระเบิดแล้ว ก็ยังมีทหารม้าอีกจำนวนมากตามมาข้างหลังด้วยเมื่อห่างจากกำแพงเมืองสามกิโลเมตร จ้านเฉิงอิ้นได้พบกับแม่ทัพแคว้นฉู่ หลิงเซี่ยวเฟิงเขาอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว เป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นฉู่และมีชื่อเสียงในช่วงเวลาเดียวกับพ่อของจ้านเฉิงอิ้นด้วยว่ากันว่าในกองทัพของทั้งหกแคว้น ทางใต้มีหลิงเซี่ยวเฟิง ทางเหนือมีจ้านเทียนอี้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็อยากเห็นพวกเขาสู้รบกันเพื่อดูว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากันแต่เป็นที่น่าเสียดาย บิดาของเขาจ้านเทียนอี้ถูกเผ่าหมานสังหาร ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสได้ลงสนามรบแข่งขันกันอีก!หลิงเซี่ยวเฟิงสวมชุดเกราะสีดำ ใบหน้ามีหนวดเครา ร่างกายสูงใหญ่ข้าง ๆ เขาคือลูกชายสองคนของเขาหลิงอวิ๋นเจ๋อและหลิงซื่อเฉิน อายุใกล้เคียงกับจ้านเฉิงอิ้นเพียงแต่ว่าทั้งสองคนนี้ลงสนามรบตอนอายุสิบกว่าปี ความดีความชอบในการรบของพวกเขาไม่ดีเท่าจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 112

    ติ้ง~เมื่อลูกธนูยิงโดน ก็ทำให้ทหารผู้นั้นถอยไปหลายก้าวทหารผู้นั้นก้าวมาด้านหน้าอีกครั้ง แล้วดึงคันธนูทดกำลังยิงลงไปด้านล่างต่อหมวกกันน็อกบนศีรษะของเขาไม่แตกแต่กลับเป็นลูกธนูของหลิงเซี่ยวเฟิงที่หักที่น่าแค้นยิ่งกว่านั้นคือด้านหน้าหมวกกันน็อกมีแผ่นป้องกันสีดำ สามารถปิดบังใบหน้า ทำให้พวกเขาไม่สามารถยิงไปที่หว่างคิ้วได้!หลิงเซี่ยวเฟิงยิงไปที่หน้าอกของชายผู้นั้นอีกครั้งติ้ง เกิดพวงประกายไฟขึ้นมา ลูกธนูหนักของหลิงเซี่ยวเฟิงก็หักทันที!เขาไม่เคยเห็นอุปกรณ์สวมใส่ที่แปลกประหลาด และการป้องกันยอดเยี่ยมขนาดนี้ อุปกรณ์สวมใส่เหล่านี้เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ของทหารจ้านเฉิงอิ้นได้มากถึงสามเท่ากองทัพแคว้นฉู่ไม่อาจทำลายกำแพงเมืองได้กองทัพแคว้นฉีก็ดูเหมือนจะเสียเปรียบตั้งแต่เริ่มเฉินขุย เฉินอู่ เปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจง กำลังรับมือกับกองทัพใหญ่สองหมื่นนายของแคว้นฉีพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าฮ่องเต้แคว้นฉีจะออกสู้รบด้วยตัวเองเขานั่งอยู่บนรถม้า ดื่มสุราไปพร้อมกับมองดูเหล่าทหารเข้าโจมตีเมืองอย่างสำราญใจข้างกายเขามีสตรีรูปร่างดีและใบหน้างดงามสองนาง สวมชุดในวังคอยช่วยรินสุราให้เขา

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 705

    หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 704

    “พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 703

    เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status