เธอสั่งให้ผู้จัดการทำความสะอาดคฤหาสน์ เพราะวันนี้จะย้ายเข้าไปอยู่พ่อแม่ของเธอเหมาภูเขาลูกนี้และสร้างคฤหาสน์ไปร่วมพันล้านกิจการของฟาร์มท่องเที่ยวดำเนินไปด้วยดี หลังหักลบรายจ่าย แต่ละปีมีกำไรสุทธิหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ทว่ายังห่างจากต้นทุนลิบลับ ทำเป็นรีสอร์ทท่องเที่ยว เย่มู่มู่รู้สึกพอใจมาก!เมื่อผู้จัดการหลี่ได้ยินว่าเธอจะมา จึงให้คนไปทำความสะอาดคฤหาสน์ทันทีเย่มู่มู่ขับรถไปที่ฟาร์มท่องเที่ยว เธอขับจนไปถึงไหล่เขาตรงหน้าคฤหาสน์หลังจากบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ ทุกปีพ่อกับแม่จะมาพักเป็นเพื่อนเธอสองเดือนบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นของครอบครัวเธอตอนนี้กลับมาอีกครั้ง กลับมีเธอแค่คนเดียว!ผู้จัดการหลี่ช่วยเปิดประตูใหญ่ และยกอาหารเย็นมาที่โต๊ะ“คุณหนูเย่ จะพักนานแค่ไหนครับ?”“น่าจะเดือนสองเดือน คุณไปทำงานเถอะ ถ้าไม่มีอะไรอย่ามารบกวนฉัน แล้วก็ไม่ต้องยกอาหารมาหรอก ถ้าฉันหิวจะโทรไปที่ร้านอาหารเอง”“ได้ครับ”หลังจากผู้จัดการออกไป เธอเห็นว่าเซียวหัวโทรมา “มู่มู่ ทำไมหนูไม่รับสาย?”“สินค้าชุดนี้ส่งไปถึงชานเมืองแล้ว หนูยังเอาอยู่หรือเปล่า?”“เอาค่ะ คุณลุงเซียว ตอนนี้หนูอย
ดวงตาของเหล่าผู้ใต้บัญชาแต่ละคนจ้องมองจ้านเฉิงอิ้นอย่างมีความหวังทว่าจ้านเฉิงอิ้นกลับย้อนถาม“พวกเจ้ารู้หรือไม่ เหตุใดที่จวนของเฉินขุยจึงมีม้วนผ้าจำนวนมาก และมีหญิงปักผ้าเย็บผ้าอยู่ในจวน”“เพราะเฉินขุยและเฉินฮูหยินมอบเงินทองให้ท่านเทพหนึ่งหีบ แค่ทองหยองเครื่องประดับก็มีสองกล่องใหญ่แล้ว”“เหตุใดมั่วฝานถึงให้รองเท้าแก่บ่าวในจวนสองคู่ ทุกครั้งที่ผ้ามาถึง เขาต้องได้เลือกก่อน เพราะเขามอบทองคำกับเครื่องประดับให้ท่านเทพสองหีบ”“การแลกเปลี่ยนกับท่านเทพอย่างยุติธรรม ต้องเป็นฝ่ายถวายเงินทอง ไม่ใช่ร้องขอทุกครั้งไป”คำพูดของจ้านเฉิงอิ้น ทำให้เหล่าทหารรู้สึกละอายใจอู๋ซานหลาง เฉินอู่ เฉินจวิ้นหลิน เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง หลินต้าจวิน เหอหง...ทุกคนต่างลุกขึ้นยืน ใบหน้าแดงเพราะอาย จากนั้นทำความเคารพจ้านเฉิงอิ้น “ท่านแม่ทัพ พวกเราขอตัวกลับบ้านก่อน อีกเดี๋ยวจะกลับมาขอรับ!”เมื่อพูดจบ ทุกคนก็วิ่งออกไปพวกเขาขี่ม้าไปกลับอย่างรวดเร็ว ในมือของแต่ละคนมีสิ่งของกลับมาด้วยเฉินอู่ถือเครื่องประดับมาหนึ่งกล่อง มีทั้งปิ่นทอง ปิ่นระย้า ต่างหู กำไล...เครื่องประดับทุกชิ้นทำจากทองคำบริสุทธิ์ ฝีมือประณีต
แต่ฮ่องเต้แคว้นฉี่ส่งทัพของแม่ทัพสวีหวยมารับช่วงดูแลด่านเจิ้นกวนต่อ เพราะที่นี่มีน้ำและเสบียงราชสำนักต้องการริดรอนอำนาจทหารของจ้านเฉิงอิ้นเมื่อเห็นอย่างนี้ เย่มู่มู่อยากจะด่าคนอย่างอดไม่ได้จ้านเฉิงอิ้นสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญที่แนวหน้า เพื่อปกป้องแผ่นดินของแคว้นฉี่ เขาทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกาย ยอมสู้ตายเพื่อต้าฉี่ทว่าฮ่องเต้ต้าฉี่กลับระแวงเขา อยากยึดอำนาจจากเขา อยากให้เขาตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวน!มีฮ่องเต้เช่นนี้ แต่แคว้นต้าฉี่ยังสามารถอยู่มาถึงตอนนี้ได้ ถือว่าโชคดีมากแล้วจ้านเฉิงอิ้นยังเขียนในจดหมายว่าเขาขอรับประกันกับท่านเทพ เขาจะอยู่รอดต่อไป จะทำให้กำลังทหารของสวีหวย เข้าสู่สังกัดของกองทัพตระกูลจ้านให้ได้กำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ต้านทานกองทัพห้าแสนห้าหมื่นนาย!ไม่มีทางชนะเลยแต่หากมีระเบิดจำนวนมาก จากนั้นฝังไว้บนเส้นทางที่แคว้นฉู่และแคว้นฉีต้องเดินทางผ่าน บางทีอาจขัดขวางไม่ให้พวกเขายึดด่านเจิ้นกวนได้เร็วขนาดนั้นหากมีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหนึ่งแสนคัน ลูกธนูสองล้านดอกชุดเกราะหนึ่งแสนห้าหมื่นชุด เสื้อเกราะกันกระสุนหนึ่งแสนห้าหมื่นตัว ดาบม่อเตาหนึ่งแสนเล่ม...พวกเขาต้องชน
เฉินขุยเฉินอู่ย้อนกลับมาที่ห้องประชุม เพื่อบอกว่าท่านเทพรับปากพวกเขาแล้วเหล่าทหารต่างโห่ร้องอย่างดีใจ!เพราะว่า ระเบิดกับหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและดาบม่อเตา ชุดเกราะ...สำคัญมากเหลือเกิน!เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงแคว้นต้าฉี่ที่สามารถเอาชนะอีกสามแคว้นที่ร่วมมือกันได้หรือไม่หากท่านเทพประทานสิ่งของอย่างทันท่วงที พวกเขาไม่เพียงชนะทั้งสามฝ่าย แต่ยังโต้ตอบอีกสองแคว้นได้ด้วยโจมตีพวกเขาให้แตกพ่าย แล้วเรียกร้องให้ชดใช้ด้วยดินแดน ด้วยเงินทอง แล้วเซ็นสัญญาไม่รุกรานอีกห้าสิบปีทางที่ดีต้องให้พวกเขาสละเมืองหลายเมือง ทำให้แคว้นต้าฉี่ก้าวกระโดดขึ้นเป็นแคว้นที่ใหญ่อันดับหนึ่งเมื่อก่อน เหล่าทหารทุกคนต่างเคยฝันว่าจะกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแต่เสียดาย ราชวงศ์ของต้าฉี่วุ่นวายเกินไป พวกเขาจึงได้เพียงแค่ฝันตอนนี้ความฝันของพวกเขาใกล้เป็นจริงแล้วจะไม่ดีใจได้อย่างไร?กำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ต่อต้านกองทัพห้าแสนห้าหมื่นนาย ในสายตาคนนอกเหมือนรนหาที่ตายแต่สำหรับพวกเขาคือโอกาส คือความท้าทาย!คือศึกแรกแห่งการรวบรวมดินแดนหัวเซี่ยให้เป็นปึกแผ่นจ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้น “ไปดูที่โกดังก่อน ท่านเทพจะส
เธอโอนเงินไปล่วงหน้าห้าสิบล้านเมื่อเจ้าของได้รับเงิน ยิ้มจนปากหุบไม่ลง!บอกว่าจะขนของขึ้นรถ แล้วเอาไปส่งให้คืนนี้เลยเขาจึงขอที่อยู่กับเย่มู่มู่เธอส่งที่อยู่โกดังของรีสอร์ทให้เจ้าของโรงงานจากนั้นเธอติดต่อร้านชุดเกราะ หน้าไม้ราชวงศ์ฉินและโรงงานดาบม่อเตาครั้งที่แล้วเย่มู่มู่สั่งสินค้าสองร้อยล้าน เจ้าของโรงงานต้องเพิ่มไลน์ผลิตหลายสายและรับสมัครคนงานจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเย่มู่มู่ตอนนี้เย่มู่มู่โทรหาเขา แล้วสั่งชุดเกราะ หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ลูกธนู ดาบม่อเตาเพิ่มหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหนึ่งแสนคัน ลูกธนูสามล้านดอก ต้องการด่วน...เมื่อเจ้าของได้ยิน ทั้งดีใจและร้อนใจหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและลูกธนูสามารถเร่งผลิตให้ได้เย่มู่มู่ให้เขาทำโอทีเพื่อเร่งผลิตออกมาก่อน ภายในหนึ่งอาทิตย์ต้องได้รับสินค้าเจ้าของโรงงานรับปาก เขาให้โรงงานของน้องชายผลิตร่วมกันชุดเกราะราคาต่อชุดแพง ชุดเกราะหนึ่งแสนห้าหมื่นชุด มีมูลค่าสามพันล้านเจ้าของโรงงานไม่อยากเสียโอกาส จึงหาคนทั้งหมู่บ้านช่วยกันประกอบชุดเกราะประกอบได้กี่ชุดก็ส่งสินค้าตามจำนวนนั้นไลน์ผลิตของดาบม่อเตาเพิ่มขึ้นอีกสองสาย แต่ละวันสามาร
หลังจากเย่มู่มู่ส่งรายการให้จ้านเฉิงอิ้น ได้ทำบัญชีขึ้นมาการจัดซื้อในครั้งนี้เธอใช้เงินไปทั้งหมดสามพันห้าร้อยกว่าล้านการจัดซื้ออาวุธ ระเบิด เสบียง ถ่านหิน ปูนซีเมนต์ในครั้งที่แล้ว...ใช้เงินไปสองพันล้านรายได้จากการขายวัตถุโบราณครั้งที่แล้ว จอกสุราสามขาสามพันล้าน เหรียญเงินกับม้วนไม้ไผ่สองร้อยล้าน ชุดจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์สองพันห้าร้อยล้านรวมทั้งหมดหกพันห้าร้อยล้าน ตอนนี้เหลือแค่ห้าร้อยล้านเดิมทีเธอนึกว่าตัวเองจะเก็บเงินได้จำนวนมาก!สุดท้าย เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด เพื่อให้จ้านเฉิงอิ้นชนะศึกเงินแค่นี้ไม่พอให้เธอใช้สอยด้วยซ้ำจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนที่เข้าใจความเป็นไปของสังคม จึงส่งเงินทองเครื่องประดับวัตถุโบราณมากมายมาล่วงหน้าเธอนั่งอยู่กลางวัตถุโบราณ แกะถุงกันฝุ่น ค่อย ๆ ค้นหาวัตถุโบราณเธอต้องการวัตถุโบราณที่ไม่หวือหวา แต่ขายได้ราคาสูงภาพวาดสองภาพนั้นเธอขายไม่ลง พิณโบราณก็ตัดใจขายไม่ได้เครื่องประดับไม่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นของใช้เชื้อพระวงศ์ จึงไม่ได้ราคาสุดท้ายเหรียญทอง ทองคำแท่ง ทองหยวนเป่า...ก็ไม่ได้ราคาเมื่อคิดได้อย่างนั้น เธอไปขนของลงจากรถอีกหลายกล่องเธ
การรักษาความปลอดภัยสูงมากเย่มู่มู่กดลิฟท์ลงไปถึงชั้นบีสอง เดินทางลับลงไปถึงชั้นบีสามกล่องทั้งสิบสองใบถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของแล้วล็อกไว้อย่างดีเมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอค้นชุดถ้วยชามกระเบื้องห้าชุดที่ยังไม่เคยใช้ ออกมาจากตู้เก็บของในห้องครัวหนึ่งชุดประกอบไปด้วยถ้วย จานเล็ก จานใหญ่ หม้อดิน ตะเกียบ ช้อน...รวมสิบหกชิ้นชุดถ้วยชามขอบทอง ชุดถ้วยชามลายครามดอกไม้ ชุดถ้วยชามกระเบื้องเคลือบสี ชุดของขวัญถ้วยชามตำบลจิ่งเต๋อสองชุด...บรรจุในกล่องผ้าแพรบุกำมะหยี่พร้อมหูหิ้ว สะดวกมอบเป็นของขวัญเย่มู่มู่เขียนแผ่นกระดาษ “จ้านเฉิงอิ้น ข้ามอบชุดจานชามกระเบื้องให้เจ้าหลายชุด เจ้านำไปแลกถ้วยกระเบื้อง จานกระเบื้อง ขวดกระเบื้อง...ที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวันมาให้ข้าทั้งหมด”เธอส่งชุดกระเบื้องถ้วยชามทั้งห้าชุดข้ามไป*ภายในห้องประชุม ทุกคนอารมณ์ดีมาก ล้วนแต่กำลังกินดื่มกันอยู่ และหารือกันว่าจะโจมตีเผ่าหมานอย่างหนักอีกครั้งเพราะอย่างไรระเบิดก็ส่งมาแล้วหากไม่ระเบิดตอนนี้ จะไประเบิดตอนไหน !ทันใดนั้น กระดาษใบหนึ่งลอยลงมา ยังไม่ทันได้อ่านเนื้อหาบนกระดาษด้วยซ้ำกล่องผ้าแพรกล่องใหญ่ห้าใบก็ตกล
สาเหตุที่เย่มู่มู่ย้ายมาอยู่ที่ฟาร์มเพราะข้างคฤหาสน์ มีลำธารสายหนึ่งที่น้ำผุดขึ้นจากใต้ดิน ไหลตั้งแต่ยอดเขาลงไปถึงเชิงเขาคุณภาพของน้ำใสสะอาด สามารถนำมาดื่มกินได้เด็กในหมู่บ้านตรงเชิงเขาอาบน้ำจับปลา ยิ่งในช่วงแรกชาวบ้านนำมาซักผ้าทำอาหารเพียงแต่ ตอนนี้น้ำประปาเข้าถึงบ้านทุกหลัง จึงไม่มีใครมาใช้น้ำที่ลำธารอีกเธออยากลองดู หากเอาแจกันวางในลำธาน น้ำจะถูกส่งข้ามไปได้หรือไม่ทันใดนั้น เธอจึงส่งกระดาษไปให้จ้านเฉิงอิ้นหลังจากจ้านเฉิงอิ้นได้รับ ตอบกลับเธอ “ขอรับ ท่านเทพข้าเตรียมบ่อน้ำไว้แล้ว”เพื่อความสะดวกในการรองน้ำดื่มของทางค่ายทหาร จ้านเฉิงอิ้นให้ทหารทำความสะอาดบ่อน้ำที่แห้งไปแล้วหากบ่อน้ำถูกเติมให้เต็ม เหล่าทหารจะได้ดื่มน้ำอย่างสะดวกสบายมากขึ้นลำธารสายนี้ห่างจากคฤหาสน์ไม่ถึงสิบเมตร น่าจะส่งข้ามไปฝั่งโน้นได้เธอใช้โซ่เหล็กพันรอบปากแจกันแล้วแขวนไว้บนต้นไม้ทั้งสองฝั่ง เพื่อไม่ให้น้ำพัดแจกันไปจากนั้นใช้หินเรียงกันเหมือนแอ่ง เพื่อกั้นแจกันไว้อีกหนึ่งชั้นสุดท้ายวางแจกันลงไปในลำธาน ให้ปากแจกันจมลงไปในน้ำปากแจกันกลายเป็นน้ำวน ไหลเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ไหลออกมาสำเร็จแล้
การจัดซื้อเสบียง แม้ต้องขนส่งข้ามโลกก็ต้องทำ!การจะนำเข้าอาหารจำนวนมากจากต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหมายถึงการต้องแย่งทรัพยากรจากประเทศอื่นประชาชนต้าฉี่มีถึงยี่สิบล้านคน การให้ทั้งหมดต้องพึ่งพาเธอเลี้ยงดูย่อมเป็นไปไม่ได้ทางที่ดีที่สุดก็คือ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นสามารถพึ่งพาตัวเองได้ข้าวสามารถเติบโตและเก็บเกี่ยวได้เร็วที่สุดในเวลาเพียงสามเดือน หากสภาพอากาศร้อนพอ สามารถปลูกได้ถึงปีละสามรอบขอเพียงมีปุ๋ยและแหล่งน้ำเพียงพอยังมีพืชผลที่ให้ผลผลิตสูง... เช่น มันเทศ มันฝรั่ง ข้าวโพดอีกเพียงสองปี จะเกิดหายนะหิมะครั้งใหญ่ พวกเขาต้องเร่งสะสมเสบียงให้เพียงพอ พวกเขาจะสามารถผ่านช่วงเวลานั้นไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอนดังนั้น เมื่อจ้านเฉิงอิ้นเสนอให้บุกเบิกพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ในตงโจวเย่มู่มู่ก็ตอบรับโดยไม่ลังเล“ดี! จ้านเฉิงอิ้น ข้าจะสนับสนุนเจ้า หากเจ้าอยากทำสิ่งใด จงทำให้เต็มที่!”“ข้าจะเป็นกำลังหนุนของเจ้าเสมอ!”ดวงตาของแม่ทัพหนุ่มเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา หางตาแดงก่ำ มือที่เปรอะเปื้อนโลหิตลูบไล้แจกันอย่างแผ่วเบาเสียงของเขาต่ำและแหบแห้ง “ขอบคุณท่านมาก ท่านเทพ!” “บุญคุณของท่าน ข
เย่มู่มู่ลองใช้พลังดูแล้ว แต่เธอไม่สามารถข้ามไปได้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทั้งมั่วฝาน หลูซีและหลูหมิง ต่างสามารถข้ามไปได้ตามปกติเธอใช้พลังจนหมดสิ้น ใบหน้าซีดขาว ร่างกายอ่อนแรงไร้เรี่ยวแรงกลับไม่มีแม้แต่ความเคลื่อนไหวใด ๆเธอคิดว่า การที่เจ้าของแจกันสามารถเดินทางข้ามสองพันปีได้นั้น...บางทีอาจต้องอาศัยสื่อกลางบางอย่าง หรือไม่ก็ตัวแจกันเองอาจต้องผ่านการอัพเกรดขึ้นอีกระดับเมื่อจ้านเฉิงอิ้นได้ยินคำตอบของเย่มู่มู่ เขากลับหัวเราะออกมาเสียงหัวเราะนั้นเต็มไปด้วยความสุข เห็นได้ชัดว่า เขาดีใจมากจริง ๆการได้พบเย่มู่มู่ทำให้เขาดีใจยิ่งกว่าการได้รับชัยชนะในศึกครั้งนี้เสียอีกเย่มู่มู่ที่ห่วงใยเขา ถึงกับพยายามเผาผลาญพลังทั้งหมดเพื่อจะข้ามมาให้ได้เธอรีบกล่าวเตือน “จ้านเฉิงอิ้น ข้าสัญญากับเจ้าแล้วว่าจะพบเจ้า ข้าจะไม่ผิดคำพูดแน่นอน!”“ตอนนี้เผ่าหมานยังไม่ถูกกวาดล้าง เจ้ายังไม่ต้องรีบร้อนข้ามมายังยุคปัจจุบัน กำจัดเผ่าหมานให้เสร็จเสียก่อน!”“เพราะว่า เพราะว่า...การข้ามกาลเวลานั้นต้องใช้พลังชีวิตอย่างมาก เจ้ายังต้องรักษาสติและพลังงานไว้ให้พร้อม ต้องระวังให้มาก เพราะเผ่าหมานอาจบุกเข้ามา
บัดนี้ พวกเขาทุกคนกลายเป็นเชลยศึกพวกเขาทำได้เพียงอ้อนวอน ขอให้กองทัพตระกูลจ้านเมตตาปล่อยผ่าน ขอเพียงได้มื้ออาหารให้มีชีวิตรอดก็เพียงพอ!ซ่งตั๋วสั่งให้เชลยรวบรวมศพทั้งหมดมากองรวมกัน นำไปวางบนไม้แห้ง ราดน้ำมัน แล้วจุดไฟเผาขณะที่เหล่าทหารผ่านศึกต่างเหนื่อยล้า นั่งพักกระจัดกระจายเต็มพื้นสนามรบจ้านเฉิงอิ้นหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา สอบถามขบวนรถ “พวกเผ่าหมานส่งกำลังมาสนับสนุนกองทัพธงเหลืองหรือไม่?”“ท่านแม่ทัพ ไม่มีขอรับ...พวกเราไม่กล้าดับเครื่องรถเลย กลัวพวกมันจะควบม้าบุกมาเล่นงานเรา แต่แปลกมาก ทั้งที่พวกมันรู้ดีว่ากองทัพธงเหลืองกำลังรบกับพวกเรา”“เสียงระเบิดดังไปไกลขนาดนั้น แต่พวกมันยังนิ่งเฉย ปล่อยให้พวกนั้นตายไปต่อหน้าต่อตา!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าจับตาดูต่อไป หากพวกมันบุกเข้ามา ให้ใช้ระเบิดไล่ต้อน”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นปิดวิทยุสื่อสารก่อนหน้านี้ เขาคิดว่ากองทัพธงเหลืองกับเผ่าหมานม่อเป่ยมีพันธมิตรอันแน่นแฟ้นเมื่อชนเผ่าป่าเถื่อนจับผู้คนมากินเป็นอาหาร และสังหารประชาชนแคว้นต้าฉี่ แต่กองทัพธงเหลืองกลับทำเป็นไม่เห็นเสียอย่างนั้นแต่ดูจากสถานการณ์ตอน
ครั้งนี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงซ่งตั๋วประกาศคำสั่ง กองทัพธงเหลืองทั้งหมดต่างพากันทิ้งอาวุธและยอมจำนนทหารกว่าสิบหมื่นนาย นอกจากผู้ที่เสียชีวิตในสนามรบแล้ว!ที่เหลือล้วนแต่ยอมจำนน!พวกเขาคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ชูอาวุธขึ้นเหนือศีรษะ ก้มหน้าลงต่ำด้วยความพ่ายแพ้ ตามธรรมเนียมของสงครามที่ผ่านมา ผู้ที่ถูกจับเป็นเชลยจะมีเพียงสองทางเลือกถูกสังหารในที่นั้น หรือกลายเป็นทาส ใช้ชีวิตอย่างต่ำต้อยเหมือนตายทั้งเป็นแต่พวกเขาอยากเสี่ยงเดิมพัน!พวกเขาทั้งหมดเป็นชาวบ้านผู้หิวโหยที่ไม่มีทางรอด จึงมาสมัครเป็นทหารของกองทัพธงเหลืองเพราะรู้ว่าที่นี่มีเสบียงให้กิน พวกเขาจึงเข้าร่วมหากยังพอมีอาหารให้ประทังชีวิต แม้ไม่ใช่ทาส แม้ต้องลงเหมืองทำงานหนัก พวกเขาก็ยอม!ขอเพียงได้รับค่าตอบแทนตามกำหนด ได้ส่งเงินกลับไปเลี้ยงดูครอบครัวพวกเขายอมทำทุกอย่าง!ซ่งตั๋วสั่งให้ทหารผ่านศึกเข้ายึดอาวุธจากผู้ที่ยอมจำนนให้คนที่ยอมจำนนยืนเข้าแถวทีละคน เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจนับจำนวนจ้านเฉิงอิ้นยืนอยู่กลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยบาดแผลแห่งสงคราม ซากศพเกลื่อนกลาดทั่วทุกหนแห่ง~ชนะแล้ว!พวกเขาชนะแล้ว!เดิมที คิดว่า
ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเขาดูเหมือนจะสลายไปหมดแล้ว เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างสิ้นหวังไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะเดินมาถึงจุดนี้!ไม่ยินยอมยิ่งนัก!ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงไม่ยอมจำนน คำรามอย่างไม่ยอมแพ้ “ข้าไม่...”ด้านหลังของเขา ซ่งตั๋วรังเกียจที่เขาส่งเสียงดัง จึงใช้ดาบในมือฟาดเขาจนสลบ“ยุ่งยากเสียจริง!”หลีชิงกับสวีจู้กล่าวว่า “ชื่อเสียงของคนผู้นี้ไม่ได้แย่นัก เพียงแต่ไม่รู้ว่า ไยมู่ฉีซิวถึงได้มอบหมายตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ให้กับเขา!”ซ่งตั๋วกล่าวว่า “ด้วยความภักดีของเขา สามารถรับตำแหน่งที่สำคัญของมู่ฉีซิวได้ ก็ไม่น่าประหลาดใจอันใด!”ในตอนนี้ ซ่งตั๋วขึ้นไปบนรถคันเล็กของมั่วฝาน นำลำโพงที่อยู่ตรงเบาะหลังของเขา ย้ายไปไว้ที่กระโปรงท้ายรถทั้งหมดหลังจากนั้นก็ขับรถไล่ตามไปยังทิศทางที่ทหารของกองทัพธงเหลืองหลบหนีไปไล่ตามไปด้วย ตะโกนใส่ลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ไปด้วย“ผู้ที่ยอมจำนน และมอบอาวุธจะไม่ถูกสังหาร!”“ผู้ที่หันมาพึ่งพิงกองทัพตระกูลจ้านและสร้างผลงาน ไม่มีตำแหน่งขุนนางชั้นสูง ไม่มีที่ศักดินาหนึ่งพันครัวเรือน ที่ดินอันอุดมสมบูรณ์หนึ่งพันหมู่ให้!”“ทหารกองทัพตระกูลจ้านมีอาหารวันละส
เมื่อจ้านเฉิงอิ้นโบกมือ อากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจำนวนสิบลำก็ปรากฏขึ้น ด้านบนผูกดินระเบิดเอาไว้เรียบร้อยแล้วมั่วฝานควบคุมอากาศยานไร้คนขับลำหนึ่ง ลอยขึ้นไปอย่างช้า ๆ ไล่ตามไปทางที่พวกมู่ฉีซิวหลบหนีไปยิ่งไปกว่านั้นเฉินอู่ได้พาทหารผ่านศึกกลุ่มใหญ่ บุกเข้าไปในกลุ่มของกองทัพธงเหลืองเขาตะโกน “เหล่าสหาย สังหาร รถคันใหญ่ของพวกเราหนีไปแล้ว!”“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้เป็นอันขาด!”“หากเอารถคันใหญ่มาไม่ได้ ก็ต้องเอารถยนต์คันเล็กมาให้ได้สักคัน บุก...”กองทัพธงเหลืองที่เดิมทีต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่แนวหน้า อยู่ ๆ ก็ละทิ้งชุดเกราะกันเป็นจำนวนมากอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งหมดวิ่งหนีไปที่ด้านหลังพวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นจนกระทั่งมีคนตะโกนขึ้นมา “ท่านผู้นำให้ถอยทัพ เร็วเข้า รีบถอยทัพ!”คนพวกนั้นถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเวลานี้กองทัพตระกูลจ้านประสมธนู หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน และดินระเบิด...เข้าด้วยกันขวัญกำลังใจของพวกเขาเต็มเปี่ยม ทั้งหมดบุกสังหารด้วยท่าทางดุดันทหารกองทัพธงเหลืองวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตท่านผู้นำยังหนีไปแล้ว ขวัญกำลังใจจึงลดลงไปอย่างมาก เหลือแค่เ
จ้านเฉิงอิ้นขึ้นขี่ม้า สวมหมวกกันน็อก มือถือดาบม่อเตา แล้วขี่ออกมาเพื่อเผชิญหน้าเฉินอู่กับซ่งตั๋วตามติดอยู่ด้านหลังครั้งนี้ เหลือหน่วยกล้าตายส่วนหนึ่งไว้เพื่อปกป้องมั่วฝานมั่วฝานกล่าวว่า “พวกเจ้าไปสังหารศัตรูกันให้หมด ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงข้า!”เขาขึ้นนั่งบนรถ และขับพุ่งเข้าไปท่ามกลางฝูงชนของกองทัพธงเหลืองการศึกในครั้งนี้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนคนมากเกินไป พวกเขามาถึงใกล้กับเมืองหลวงแล้ว ไม่ยอมละทิ้งความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างง่ายดายต้องการสังหารกองทัพตระกูลจ้านกองทัพตระกูลจ้านมีประสบการณ์ในการรบมากกว่ากองทัพธงเหลือง อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ดียิ่งกว่ากองทัพธงเหลืองอย่างไรก็ดีฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมากพวกเขาต่อสู้อย่างยากลำบาก!หน่วยปืนล่าสัตว์ถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง แม้แต่หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยังทิ้งคันธนูและศร หยิบดาบม่อเตามาต่อสู้กับศัตรู...ในเวลานี้ หวังเซิ่งคิดว่าหากต่อสู้ต่อไป กองทัพตระกูลจ้านจะร่อยหรอสองแสนคนเมื่อเทียบกับสามหมื่นคน มากมายเกินไปจริง ๆ อีกทั้ง พวกเขายังถูกโอบล้อม หากอยากฝ่าวงล้อม มีแต่ต้องสังหารกองทัพธงเหลืองให้สิ้นเท่านั้นเขามอ
เย่มู่มู่กำลังต่อรองราคากับเจ้าของร้าน อยากจะซื้อปืนล่าสัตว์จำนวนมากเจ้าของร้านจนใจยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่นว่าเขาขายเพียงกระบอกเดียวเท่านั้นเย่มู่มู่เตรียมจะใช้เงินติดสิบน เพื่องัดปากเจ้าของร้านทันใดนั้นเอง ภายในสมองของนางก็ได้ยินเสียงของจ้านเฉิงอิ้นที่แฝงไปด้วยความตื้นตันอย่างชัดเจนว่า “ท่านเทพ บุญคุณในวันนี้ เฉิงอิ้นจะจดจำเอาไว้”“เฉิงอิ้นไม่มีอันใดจะตอบแทน ข้าจะสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญ พิชิตกองทัพธงเหลืองให้ได้ และทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”เมื่อเย่มู่มู่ได้ยิน ก็กอดแจกันพลางรีบวิ่งเข้าไปในรถเมื่อเจ้าของร้านเห็นดังนั้น ก็ตะโกนไล่หลังนาง “นี่ คุณยังเอาอยู่ไหม นำเข้าจากเยอรมัน นำเข้าจากรัสเซียมีหมด อานุภาพสูง จะล่าหมีก็ไม่มีปัญหา!”“รอเดี๋ยวค่ะ ฉันจะกลับมาซื้อ!”เย่มู่มู่รีบเข้าไปนั่งในรถ กอดแจกันไว้ พลางถามจ้านเฉิงอิ้นด้วยความตื่นเต้น“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าเห็นปืนสองพันกระบอกแล้วหรือไม่?”“ขอโทษด้วย ข้าสามารถซื้อมาได้เพียงเท่านี้ เจ้าของร้านเกรงว่าจะถูกตรวจสอบ ไม่ว่าอย่างไรก็ขายให้ข้าได้เพียงเท่านี้!”ภายในแจกัน เสียงแหบและทุ้มต่ำจากสองพันปีก่อนดังออกมา“ท่านเทพ บุญคุณใหญ่หลว
ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง