เขาเห็นจ้านเฉิงอิ้นรับชาวฉู่ที่มาสมัครเป็นทหาร จึงได้มาขอสวามิภักดิ์เขาอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนมาครึ่งปี จึงเห็นทุกสิ่งชัดเจนตั้งแต่ชาวบ้านที่อดตายทุกวัน จนถึงจวนแม่ทัพแจกจ่ายเสบียง มีน้ำให้ต้มโจ๊กกระทั่งตอนนี้ ที่กองทัพตระกูลจ้านมีอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ที่ไม่ใช่ของยุคสมัยนี้ยุ้งฉางที่มีข้าวสารมากจนไม่มีที่ให้เก็บแตงโมที่ชาวบ้านทั่วเมืองกินมาหลายวัน และยังมีแตง...วันนี้อาหารเช้าเป็นหมั่นโถวหรือชงโหยวปิ่ง ที่กินแกล้มกับโจ๊กอาหารเช้าที่หรูหราขนาดนี้ ไม่ใช่แค่โรงทานโจ๊กที่ตั้งขึ้นเพื่อแจกจ่ายประชาชนทั้งเมืองแต่อาหารเหล่านี้ ต่อให้อยู่ในบ้านของขุนนางเขตรอบวังหลวง ก็ไม่กล้ากินอาหารที่หรูหราเช่นนี้ทุกวันประชาชนด่านเจิ้นกวนมีความสุขมาก พวกเขาไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องเสบียงอีกแล้วเมื่อวานแม่น้ำที่แห้งขอดเต็มไปด้วยน้ำมันเต็มภายในชั่วข้ามคืนเรื่องนี้น่าตะลึงเกินไป ทำให้ซื่อเมิ่งผิดคำสาบานต่ออาจารย์ จึงทำนายดูหลังจากทำนายแล้ว มีเลือดพุ่งออกมาจากปากและจมูกของเขา เพราะพลังคำสาบานสะท้อนกลับ!เดิมชะตาของจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนอายุสั้น เขาต้องตายภายในครึ่งเดือนแต่ชะตาของเขากลับพลิกผัน เบื
เธอสั่งให้ผู้จัดการทำความสะอาดคฤหาสน์ เพราะวันนี้จะย้ายเข้าไปอยู่พ่อแม่ของเธอเหมาภูเขาลูกนี้และสร้างคฤหาสน์ไปร่วมพันล้านกิจการของฟาร์มท่องเที่ยวดำเนินไปด้วยดี หลังหักลบรายจ่าย แต่ละปีมีกำไรสุทธิหนึ่งร้อยห้าสิบล้าน ทว่ายังห่างจากต้นทุนลิบลับ ทำเป็นรีสอร์ทท่องเที่ยว เย่มู่มู่รู้สึกพอใจมาก!เมื่อผู้จัดการหลี่ได้ยินว่าเธอจะมา จึงให้คนไปทำความสะอาดคฤหาสน์ทันทีเย่มู่มู่ขับรถไปที่ฟาร์มท่องเที่ยว เธอขับจนไปถึงไหล่เขาตรงหน้าคฤหาสน์หลังจากบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ ทุกปีพ่อกับแม่จะมาพักเป็นเพื่อนเธอสองเดือนบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นของครอบครัวเธอตอนนี้กลับมาอีกครั้ง กลับมีเธอแค่คนเดียว!ผู้จัดการหลี่ช่วยเปิดประตูใหญ่ และยกอาหารเย็นมาที่โต๊ะ“คุณหนูเย่ จะพักนานแค่ไหนครับ?”“น่าจะเดือนสองเดือน คุณไปทำงานเถอะ ถ้าไม่มีอะไรอย่ามารบกวนฉัน แล้วก็ไม่ต้องยกอาหารมาหรอก ถ้าฉันหิวจะโทรไปที่ร้านอาหารเอง”“ได้ครับ”หลังจากผู้จัดการออกไป เธอเห็นว่าเซียวหัวโทรมา “มู่มู่ ทำไมหนูไม่รับสาย?”“สินค้าชุดนี้ส่งไปถึงชานเมืองแล้ว หนูยังเอาอยู่หรือเปล่า?”“เอาค่ะ คุณลุงเซียว ตอนนี้หนูอย
ดวงตาของเหล่าผู้ใต้บัญชาแต่ละคนจ้องมองจ้านเฉิงอิ้นอย่างมีความหวังทว่าจ้านเฉิงอิ้นกลับย้อนถาม“พวกเจ้ารู้หรือไม่ เหตุใดที่จวนของเฉินขุยจึงมีม้วนผ้าจำนวนมาก และมีหญิงปักผ้าเย็บผ้าอยู่ในจวน”“เพราะเฉินขุยและเฉินฮูหยินมอบเงินทองให้ท่านเทพหนึ่งหีบ แค่ทองหยองเครื่องประดับก็มีสองกล่องใหญ่แล้ว”“เหตุใดมั่วฝานถึงให้รองเท้าแก่บ่าวในจวนสองคู่ ทุกครั้งที่ผ้ามาถึง เขาต้องได้เลือกก่อน เพราะเขามอบทองคำกับเครื่องประดับให้ท่านเทพสองหีบ”“การแลกเปลี่ยนกับท่านเทพอย่างยุติธรรม ต้องเป็นฝ่ายถวายเงินทอง ไม่ใช่ร้องขอทุกครั้งไป”คำพูดของจ้านเฉิงอิ้น ทำให้เหล่าทหารรู้สึกละอายใจอู๋ซานหลาง เฉินอู่ เฉินจวิ้นหลิน เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง หลินต้าจวิน เหอหง...ทุกคนต่างลุกขึ้นยืน ใบหน้าแดงเพราะอาย จากนั้นทำความเคารพจ้านเฉิงอิ้น “ท่านแม่ทัพ พวกเราขอตัวกลับบ้านก่อน อีกเดี๋ยวจะกลับมาขอรับ!”เมื่อพูดจบ ทุกคนก็วิ่งออกไปพวกเขาขี่ม้าไปกลับอย่างรวดเร็ว ในมือของแต่ละคนมีสิ่งของกลับมาด้วยเฉินอู่ถือเครื่องประดับมาหนึ่งกล่อง มีทั้งปิ่นทอง ปิ่นระย้า ต่างหู กำไล...เครื่องประดับทุกชิ้นทำจากทองคำบริสุทธิ์ ฝีมือประณีต
แต่ฮ่องเต้แคว้นฉี่ส่งทัพของแม่ทัพสวีหวยมารับช่วงดูแลด่านเจิ้นกวนต่อ เพราะที่นี่มีน้ำและเสบียงราชสำนักต้องการริดรอนอำนาจทหารของจ้านเฉิงอิ้นเมื่อเห็นอย่างนี้ เย่มู่มู่อยากจะด่าคนอย่างอดไม่ได้จ้านเฉิงอิ้นสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญที่แนวหน้า เพื่อปกป้องแผ่นดินของแคว้นฉี่ เขาทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกาย ยอมสู้ตายเพื่อต้าฉี่ทว่าฮ่องเต้ต้าฉี่กลับระแวงเขา อยากยึดอำนาจจากเขา อยากให้เขาตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวน!มีฮ่องเต้เช่นนี้ แต่แคว้นต้าฉี่ยังสามารถอยู่มาถึงตอนนี้ได้ ถือว่าโชคดีมากแล้วจ้านเฉิงอิ้นยังเขียนในจดหมายว่าเขาขอรับประกันกับท่านเทพ เขาจะอยู่รอดต่อไป จะทำให้กำลังทหารของสวีหวย เข้าสู่สังกัดของกองทัพตระกูลจ้านให้ได้กำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ต้านทานกองทัพห้าแสนห้าหมื่นนาย!ไม่มีทางชนะเลยแต่หากมีระเบิดจำนวนมาก จากนั้นฝังไว้บนเส้นทางที่แคว้นฉู่และแคว้นฉีต้องเดินทางผ่าน บางทีอาจขัดขวางไม่ให้พวกเขายึดด่านเจิ้นกวนได้เร็วขนาดนั้นหากมีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหนึ่งแสนคัน ลูกธนูสองล้านดอกชุดเกราะหนึ่งแสนห้าหมื่นชุด เสื้อเกราะกันกระสุนหนึ่งแสนห้าหมื่นตัว ดาบม่อเตาหนึ่งแสนเล่ม...พวกเขาต้องชน
เฉินขุยเฉินอู่ย้อนกลับมาที่ห้องประชุม เพื่อบอกว่าท่านเทพรับปากพวกเขาแล้วเหล่าทหารต่างโห่ร้องอย่างดีใจ!เพราะว่า ระเบิดกับหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและดาบม่อเตา ชุดเกราะ...สำคัญมากเหลือเกิน!เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงแคว้นต้าฉี่ที่สามารถเอาชนะอีกสามแคว้นที่ร่วมมือกันได้หรือไม่หากท่านเทพประทานสิ่งของอย่างทันท่วงที พวกเขาไม่เพียงชนะทั้งสามฝ่าย แต่ยังโต้ตอบอีกสองแคว้นได้ด้วยโจมตีพวกเขาให้แตกพ่าย แล้วเรียกร้องให้ชดใช้ด้วยดินแดน ด้วยเงินทอง แล้วเซ็นสัญญาไม่รุกรานอีกห้าสิบปีทางที่ดีต้องให้พวกเขาสละเมืองหลายเมือง ทำให้แคว้นต้าฉี่ก้าวกระโดดขึ้นเป็นแคว้นที่ใหญ่อันดับหนึ่งเมื่อก่อน เหล่าทหารทุกคนต่างเคยฝันว่าจะกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแต่เสียดาย ราชวงศ์ของต้าฉี่วุ่นวายเกินไป พวกเขาจึงได้เพียงแค่ฝันตอนนี้ความฝันของพวกเขาใกล้เป็นจริงแล้วจะไม่ดีใจได้อย่างไร?กำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ต่อต้านกองทัพห้าแสนห้าหมื่นนาย ในสายตาคนนอกเหมือนรนหาที่ตายแต่สำหรับพวกเขาคือโอกาส คือความท้าทาย!คือศึกแรกแห่งการรวบรวมดินแดนหัวเซี่ยให้เป็นปึกแผ่นจ้านเฉิงอิ้นเอ่ยขึ้น “ไปดูที่โกดังก่อน ท่านเทพจะส
เธอโอนเงินไปล่วงหน้าห้าสิบล้านเมื่อเจ้าของได้รับเงิน ยิ้มจนปากหุบไม่ลง!บอกว่าจะขนของขึ้นรถ แล้วเอาไปส่งให้คืนนี้เลยเขาจึงขอที่อยู่กับเย่มู่มู่เธอส่งที่อยู่โกดังของรีสอร์ทให้เจ้าของโรงงานจากนั้นเธอติดต่อร้านชุดเกราะ หน้าไม้ราชวงศ์ฉินและโรงงานดาบม่อเตาครั้งที่แล้วเย่มู่มู่สั่งสินค้าสองร้อยล้าน เจ้าของโรงงานต้องเพิ่มไลน์ผลิตหลายสายและรับสมัครคนงานจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเย่มู่มู่ตอนนี้เย่มู่มู่โทรหาเขา แล้วสั่งชุดเกราะ หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ลูกธนู ดาบม่อเตาเพิ่มหน้าไม้ราชวงศ์ฉินหนึ่งแสนคัน ลูกธนูสามล้านดอก ต้องการด่วน...เมื่อเจ้าของได้ยิน ทั้งดีใจและร้อนใจหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและลูกธนูสามารถเร่งผลิตให้ได้เย่มู่มู่ให้เขาทำโอทีเพื่อเร่งผลิตออกมาก่อน ภายในหนึ่งอาทิตย์ต้องได้รับสินค้าเจ้าของโรงงานรับปาก เขาให้โรงงานของน้องชายผลิตร่วมกันชุดเกราะราคาต่อชุดแพง ชุดเกราะหนึ่งแสนห้าหมื่นชุด มีมูลค่าสามพันล้านเจ้าของโรงงานไม่อยากเสียโอกาส จึงหาคนทั้งหมู่บ้านช่วยกันประกอบชุดเกราะประกอบได้กี่ชุดก็ส่งสินค้าตามจำนวนนั้นไลน์ผลิตของดาบม่อเตาเพิ่มขึ้นอีกสองสาย แต่ละวันสามาร
หลังจากเย่มู่มู่ส่งรายการให้จ้านเฉิงอิ้น ได้ทำบัญชีขึ้นมาการจัดซื้อในครั้งนี้เธอใช้เงินไปทั้งหมดสามพันห้าร้อยกว่าล้านการจัดซื้ออาวุธ ระเบิด เสบียง ถ่านหิน ปูนซีเมนต์ในครั้งที่แล้ว...ใช้เงินไปสองพันล้านรายได้จากการขายวัตถุโบราณครั้งที่แล้ว จอกสุราสามขาสามพันล้าน เหรียญเงินกับม้วนไม้ไผ่สองร้อยล้าน ชุดจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์สองพันห้าร้อยล้านรวมทั้งหมดหกพันห้าร้อยล้าน ตอนนี้เหลือแค่ห้าร้อยล้านเดิมทีเธอนึกว่าตัวเองจะเก็บเงินได้จำนวนมาก!สุดท้าย เพื่อให้ประชาชนอยู่รอด เพื่อให้จ้านเฉิงอิ้นชนะศึกเงินแค่นี้ไม่พอให้เธอใช้สอยด้วยซ้ำจ้านเฉิงอิ้นเป็นคนที่เข้าใจความเป็นไปของสังคม จึงส่งเงินทองเครื่องประดับวัตถุโบราณมากมายมาล่วงหน้าเธอนั่งอยู่กลางวัตถุโบราณ แกะถุงกันฝุ่น ค่อย ๆ ค้นหาวัตถุโบราณเธอต้องการวัตถุโบราณที่ไม่หวือหวา แต่ขายได้ราคาสูงภาพวาดสองภาพนั้นเธอขายไม่ลง พิณโบราณก็ตัดใจขายไม่ได้เครื่องประดับไม่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นของใช้เชื้อพระวงศ์ จึงไม่ได้ราคาสุดท้ายเหรียญทอง ทองคำแท่ง ทองหยวนเป่า...ก็ไม่ได้ราคาเมื่อคิดได้อย่างนั้น เธอไปขนของลงจากรถอีกหลายกล่องเธ
การรักษาความปลอดภัยสูงมากเย่มู่มู่กดลิฟท์ลงไปถึงชั้นบีสอง เดินทางลับลงไปถึงชั้นบีสามกล่องทั้งสิบสองใบถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของแล้วล็อกไว้อย่างดีเมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอค้นชุดถ้วยชามกระเบื้องห้าชุดที่ยังไม่เคยใช้ ออกมาจากตู้เก็บของในห้องครัวหนึ่งชุดประกอบไปด้วยถ้วย จานเล็ก จานใหญ่ หม้อดิน ตะเกียบ ช้อน...รวมสิบหกชิ้นชุดถ้วยชามขอบทอง ชุดถ้วยชามลายครามดอกไม้ ชุดถ้วยชามกระเบื้องเคลือบสี ชุดของขวัญถ้วยชามตำบลจิ่งเต๋อสองชุด...บรรจุในกล่องผ้าแพรบุกำมะหยี่พร้อมหูหิ้ว สะดวกมอบเป็นของขวัญเย่มู่มู่เขียนแผ่นกระดาษ “จ้านเฉิงอิ้น ข้ามอบชุดจานชามกระเบื้องให้เจ้าหลายชุด เจ้านำไปแลกถ้วยกระเบื้อง จานกระเบื้อง ขวดกระเบื้อง...ที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวันมาให้ข้าทั้งหมด”เธอส่งชุดกระเบื้องถ้วยชามทั้งห้าชุดข้ามไป*ภายในห้องประชุม ทุกคนอารมณ์ดีมาก ล้วนแต่กำลังกินดื่มกันอยู่ และหารือกันว่าจะโจมตีเผ่าหมานอย่างหนักอีกครั้งเพราะอย่างไรระเบิดก็ส่งมาแล้วหากไม่ระเบิดตอนนี้ จะไประเบิดตอนไหน !ทันใดนั้น กระดาษใบหนึ่งลอยลงมา ยังไม่ทันได้อ่านเนื้อหาบนกระดาษด้วยซ้ำกล่องผ้าแพรกล่องใหญ่ห้าใบก็ตกล
“เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย
ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท
บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู
ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด
ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง
ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนายปรากฏตัวขึ้นมาพวกเขาติดอุปกรณ์สมบูรณ์แบบ กำลังถือดาบม่อเตาและดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง พร้อมแบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา กำลังคนและม้าสองแสนนายกำลังพุ่งเข้ามาด้วยทีท่าดุเดือดครั้นเยี่ยนเย่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง ก็พลันหันหน้ากลับไปเห็นเฉินขุย เฉินอู่และซ่งตั๋วนำกำลังคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา!มู่ซาตะโกนเสียงดัง “พวกเขาออกมาจากไหน? เหตุใดถึงมาขวางทางหนีทีไล่เรา?”เจียงเหว่ยด่ากราดอย่างเดือดดาล “ข้ารู้อยู่แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หนึ่งคิดกลอุบายไม่เป็น สองนำทหารสู้รบไม่เป็น กระทั่งสถานการณ์ข้าศึกแข็งแกร่งเราอ่อนแอก็ยังไม่รู้”“ข้าเคยบอกแล้วอย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสเหมาะในการฆ่าจ้านเฉิงอิ้น ตอนนี้จบเห่แล้ว กลับกันตอนนี้ยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายอีก!”เกาอี้ผู้บัญชาการแคว้นฉีกล่าวขึ้นทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟว่า “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว คิดหาวิธีฝ่าวงล้อมก่อน กองทัพตระกูลจ้านสองพันนายเรายังรับมือไม่ได้ ตอนนี้กองทัพตระกูลจ้านยกทัพมาทั้งกองทัพ พวกเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่หรือ? ยังจะมาทะเลาะกันเอง
ส่วนที่แข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นคือ ทหารผ่านศึกในกองทัพของเขาล้วนมีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดาเกราะและอาวุธของกองทัพตระกูลจ้านมีคุณภาพสูง สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบนอกจากนี้ การซื้อใจชาวบ้านสี่ร้อยคนที่ถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบยิ่งขึ้นอุปกรณ์และระเบิดเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาขยายกว้างขึ้นหากเป็นเมื่อครู่ พวกเขายังกล้ายืนยันได้อย่างมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นต้องตายอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ ความหวังที่จะชนะเลือนลางลงบางคนเริ่มอยากล่าถอย เพราะไม่ต้องการไปตายขณะที่เจียงเหว่ยถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกลับถูกทหารของเยี่ยนเย่ขวางทางไว้เยี่ยนเย่นำกองทัพหนึ่งแสนคน โดยมีห้าหมื่นคนคอยติดตามอยู่ข้างกายหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเยี่ยนเย่ พร้อมทั้งจับตาดูความเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลาเสียงเยียบเย็นของเยี่ยนเย่ดังขึ้น “แม่ทัพแคว้นฉู่กำลังจะไปไหนหรือ?”“ในเมื่อทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารจ้านเฉิงอิ้น เจ้าจะถอนตัวเองไปโดยพลการได้อย่างไร”“วางใจเถอะ ต่อให้ต้องบุกทะลวง กองทัพแคว้นเยี่ยนของข้าจ
ซุนหลินพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “กินได้สิ!”พูดจบ เขาหยิบมันเทศขึ้นมาเช็ดกับเสื้อ แล้วหักออก...เนื้อสีม่วงแดงของมันเทศก็เผยออกมากลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันเทศลอยออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนซุนหลินกลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ เขาเลยกัดไปคำหนึ่ง เนื้อกรอบหวานละมุนใจ“อร่อยจริงๆ!”“มันเทศสามารถนำไปปิ้งหรือนึ่งก็ได้ หรือจะใช้ต้มทำเป็นโจ๊ก หรือข้าวมันเทศก็ได้... มีวิธีกินเยอะแยะ ทั้งหวานทั้งเหนียว หอมอร่อยมาก!"จากนั้นเขาก็ยื่นมันเทศให้ซุนเฮ่อ “ลุงสาม ลองชิมดูสักคำสิ”ซุนเฮ่อชะงักเล็กน้อยก่อนรับมันเทศมาลองกัดคำหนึ่งทันทีที่กัดเข้าไป เขาเบิกตากว้างกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หวานจริง ๆ แถมยังมีน้ำในเนื้ออีก กรอบมาก...”เขาพูดพร้อมเคี้ยวอีกสองสามคำ “อร่อยมาก!”ซุนหลินยิ้มอย่างภูมิใจ “อร่อยใช่ไหมล่ะ! ที่ด่านเจิ้นกวนของเราปลูกมันเทศไว้มากกว่าหมื่นหมู่ ต่อไปนี้ทุกคนก็จะได้กินกันทั่วหน้า!”เหล่าชาวบ้านต่างพากันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ขณะฟังซุนหลินกล่าว “หมื่นหมู่ นั่นเป็นพื้นที่กว้างขนาดไหนกันนะ!”“ไร่นาทุกผืนล้วนมีน้ำรดได้ แม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนน้ำเลยจริงๆ!”“คำพูดของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นค
ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก