Share

บทที่ 77

Author: มู่โร่ว
หลังจากที่จ้านเฉิงอิ้นตัดสินใจออกรบด้วยตนเอง เหล่าแม่ทัพก็กล่าวห้าม

ไม่ควรเกิดอุบัติเหตุใดกับจ้านเฉิงอิ้น

หากเขาเสียชีวิต จะไม่มีผู้ใดติดต่อกับท่านเทพได้อีก

สิ่งที่ท่านเทพมอบให้กองทัพตระกูลจ้านจะหยุดลงทันที

พวกเขาไม่อาจลงเดิมพันสิ่งนี้ได้!

ตรงหว่างคิ้วของจ้านเฉิงอิ้นเผยความโอหังของวัยหนุ่ม

“ข้าออกศึกตั้งแต่อายุสิบหก ร่วมรบในสงครามนับไม่ถ้วน”

“และวันนี้พวกเราพึ่งได้เพียงระเบิด ในฐานะผู้นำทัพ ข้ายิ่งควรทำตัวให้เป็นแบบอย่าง”

“ออกศึกฆ่าศัตรู ข้าจะหลบอยู่ข้างหลังได้อย่างไร!”

“วางใจเถิด มีเสื้อเกราะกันกระสุนกับชุดเกราะ ข้าไม่เป็นอะไรแน่”

ทุกคนยังอยากกล่อมห้าม เฉินอู่เฉินขุยจึงห้ามพวกเขา

แม่ทัพมีประสบการณ์ออกรบมากกว่าของพวกเขานำมารวมกันอีก เขาคือหนิงกวนโหว บรรดาศักดิ์ได้มาด้วยผลงานการรบของตนเอง

ต่อให้จำนวนคนต่างกันมาก~

อาวุธล้ำหน้ากว่า เผ่าหมานไม่มีผู้นำทัพ กองทัพตระกูลจ้านก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้

“ขอรับ ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”

เหล่าทหารคุกเข่าลง “ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”

จ้านเฉิงอิ้นตะโกนสนั่นเสียง “ดี!”

เขาเปลี่ยนเสื้อเกราะกันกระสุน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 78

    พลยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินสองสามคน คลานไปข้างหน้า เข้าใกล้หอสังเกตการณ์ช้า ๆชักคันหน้าไม้ ยิงทหารรักษาการณ์ที่ยืนอยู่ข้างบนหอสังเกตการณ์ตายกองทัพใหญ่เดินหน้าต่อ เมื่อใกล้จะเข้าใกล้ฐานที่ตั้งทัพเผ่าหมาน จ้านเฉิงอิ้นประกาศคำสั่ง “หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเตรียมพร้อม…”หน้าไม้ราชวงศ์ห้าพันคัน กองกำลังสองกองทัพแบ่งกองละสองพันห้าร้อยเล่มหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินตั้งครหน้าไม้ราชวงศ์ฉินขึ้นพร้อมกับวางปีกลูกธนูไว้สายจ้านเฉิงอิ้นประกาศดังลั่น “ยิงธนู!”สวบ ๆ ๆ…เสียงทะลวงอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนดังออกมา ปีกลูกธนูลอยอยู่ในอากาศอย่างหนาแน่นและมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของเผ่าหมานกระโจมที่คนเผ่าหมานปักหลักตั้งอยู่ ถูหลูกธนูยิงตรงผ่านเข้าสู่กระโจมราวกับเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัยทหารเผ่าหมานที่หลบอยู่ข้างในกระโจมชักดาบพุ่งออกมาวินาทีถัดมา ก็ถูกลูกธนูยิงทะลุทันที“ทหาร รีบเตรียมรบเร็วเข้า จ้านเฉิงอิ้นบุกเข้ามาแล้ว!”“ทุกคนจงตั้งรับการรบให้พร้อม!”“เร็ว รีบวิ่งเร็วเข้า จ้านเฉิงอิ้นบุกเข้ามาอีกแล้ว!”หลายคนถูกยิงตายทันทีที่ออกจากกระโจมคนอีกมากมายที่อยู่ในกระโจมวิ่งสวนกันไปมาราวแมลงวันไร้หัวพว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 79

    จ้านเฉิงอิ้นดีใจมาก ส่งกระดาษแผ่นที่สองมาแบ่งปันความสุขกับเธอ“เหอหง เฉินจวิ้นหลินไปทางประตูทิศใต้ พวกเขาแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยม เฉินจวิ้นหลินเข้าร่วมการรบครั้งแรก แต่ฆ่าศัตรูตายถึงสี่ร้อยกว่าคน เมื่อเทียบกับแม่ทัพเฉินอู่แล้ว ไม่น้อยหน้าเลย!”“ประตูทิศใต้ฆ่าตายทั้งหมดสองหมื่นห้าพันคน ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตายหนึ่งหมื่นห้า ถูกดาบม่อเตาฆ่าตายหนึ่งหมื่น ที่เหลือหนีไปได้ทั้งหมด”“ได้รับม้าศึกมีชีวิตหกร้อยตัว เนื้อม้านับไม่ถ้วน…”“กองทัพเผ่าหมานที่ตั้งค่ายอยู่ทางประตูทิศใต้และเหนือ ถูกพวกเรากำราบทั้งหมด!”“วันนี้ข้ารู้สึกมีความสุขและสนุกสุด ๆ ไม่ได้มีความสุขเช่นนี้มานานมากแล้ว”“ท่านเทพ ข้าขอขอบคุณท่านมาก!”เย่มู่มู่เองก็ดีใจมากเช่นกันหน้าไม้ราชวงศ์ฉินกับดาบม่อเตามีประโยชน์มากถึงขนาดนี้ จำนวนต่างกันมาก อาวุธยุทโธปกรณ์ดี จนฆ่าเผ่าหมานตายได้โดยไม่ต้องลงแรงเยอะวันนี้กองทัพตระกูลจ้านได้รับขวัญกำลังใจขึ้นมามากการต่อสู้สามครั้งนี้เป็นการวางรากฐานให้กับกองทัพตระกูลจ้านขณะเดียวกันก็เป็นการประกาศว่า กองทัพใหญ่ของเผ่าหมานกำลังจะถึงจุดสิ้นสุดถ้าหากพวกเขาฉลาดหน่อย ก็ควรรู้ตัวว่าต้อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 80

    “ใช่ ข้าเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าด่านเจิ้นกวนดีแค่ไหน มีเสบียงอาหารกินไม่หมด โจมตีกองทัพเผ่าหมานสามครั้งชนะสามครั้ง วันนี้ฆ่าเผ่าหมานตายหนึ่งแสนคนภายในวันเดียว”“ฆ่าตายหนึ่งแสนคนในวันเดียว อย่าว่าแต่เผ่าหมานในม่อเป่ย แม้แต่ในแผ่นดินจงหยวน ก็มีการรบที่ถูกตีย่อยยับเช่นนี้น้อยมาก”แม้ว่ากองทัพตระกูลจ้านจะล้มตายไปหนึ่งแสนแปดหมื่นคน แต่ก็ไม่ได้ตายในการรบเพียงสนามเดียวในหนึ่งปีนี้เผ่าหมานบุกโจมตีอย่างต่อเนื่อง กองทัพตระกูลจ้านทำได้แต่ตั้งรับและป้องกันเท่านั้นพวกเขาตายเพราะพิทักษ์ประตูเมืองต่างหาก!สงครามสามครั้งนี้ เกรงว่าไม่นานคงแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินหัวเซี่ยคนเหล่านั้นที่คิดจะลงมือกับแคว้นฉี่ จ้องจะเขมือบแคว้นฉู่กับแคว้นฉี ก็ควรจะใตร่ตรองความสามารถของตนด้วยว่าสามารถขอผลประโยชน์จากภายใต้การบัญชาของจ้านเฉิงอิ้นได้หรือไม่เขาคือเทพสงครามที่เก่งกาจทรงพลังที่สุดในยุคนั้น คำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเขาของคนยุคหลังกล่าวไว้ไม่มีผิดเหล่าประชาชนยืนล้อมจ้านเฉิงอิ้นพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นด้วยความตื้นตัน“แม่ทัพ ขอบคุณท่านที่พิทักษ์ด่านเจิ้นกวนและปกป้องชาวบ้านไว้ได้”“แม่ทัพ หากไม่ใช่ท่าน คนอย่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 81

    วันนี้ได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ กองทัพสามแสนนายของเผ่าหมาน เหลือเพียงสองแสนนายเท่านั้นตอนจ้านเฉิงอิ้นโจมตี กองทัพเผ่าหมานมีกำลังเสริมมาช่วย ทว่าถูกหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินตีจนล่าถอยขณะนั้นลูกธนูเหลือเพียงสองหมื่นดอก หากพวกเขากล้าฝ่าลูกธนูเข้ามา ทางประตูทิศใต้และทิศเหนือคงไม่เจ็บสาหัสแต่พวกเขากลับล่าถอยเพราะกลัวถูกธนูยิงตาย ยิ่งกลัวถูกระเบิดจนบาดเจ็บ!ต้องทนเห็นทัพประจำการประตูทิศใต้และเหนือ ถูกกองทัพตระกูลจ้านที่มีเพียงแปดพันคนถล่มตอนจ้านเฉิงอิ้นเก็บกวาดสนามรบ ทัพเสริมได้แต่มองดูไกล ๆ ไม่กล้ารุกล้ำเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียวดังนั้น ทัพของจ้านเฉิงอิ้นจึงถอยออกมาอย่างปลอดภัยวันนี้ทั้งสามศึกต่างได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่!กองทัพตระกูลจ้าน มีคนล้มตายหนึ่งพันกว่าคน บาดเจ็บอีกสองพันกว่าคนซ่งอวิ๋นฮุยเข้ามาในกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ในมือเขาสวมถุงมือสีขาวชั้นบาง ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ“ยาใกล้จะไม่พอใช้แล้ว รีบขอยากับท่านเทพ ยาแก้อักเสบ ยาห้ามเลือด โดยเฉพาะยาฉีด เร็วเข้า!”“ได้!”จ้านเฉิงอิ้นเขียนแผ่นกระดาษแล้วใส่เข้าไปในแจกันดอกไม้เสร็จแล้ว หันไปสั่งให้ซ่งตั๋วดูแลทหารบาดเจ็บให้ดีส่ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 82

    คิ้วชายฉกรรจ์กระตุก ก่อนจะฟาดไพ่ลงบนโต๊ะ ไม่เล่นแล้วเขาถือโทรศัพท์เดินออกจากห้องน้ำชาแล้วหาที่ปลอดคน “สี่เท่า คุณแน่ใจนะว่าจะซื้อในราคาสี่เท่า?”“ใช่ ยาแก้อักเสบและแก้ปวดก็จะซื้อด้วย”“ยาชาเอาหรือเปล่า?”“เอา!”“ผมขายยาให้คุณได้ แต่คุณช่วยเขียนหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้ได้หรือเปล่า”ชายฉกรรจ์อธิบายต่อ “คุณซื้อยาโดยไม่ใช่โรงพยาบาล เกิดมีคนตาย แล้วมาเอาผิดกับผมจะทำยังไง?”“ได้ ฉันจะเซ็นหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้”ฝ่ายโรงงานยานัดเจอเธอที่โกดังของเขาเขาขนยาปฏิชีวนะ ยาบาดทะยัก ยาแก้อักเสบและยาแก้ปวด รวมถึงยาชาอีกสองลัง...จากนั้นครึ่งชั่วโมง เย่มู่มู่ก็มาถึงโกดังของโรงงานยาเมื่ออีกฝ่ายเห็นเย่มู่มู่ที่อายุยังน้อย และหน้าตาสวยงามจึงถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณมาซื้อยาเหรอ?”“ใช่ค่ะ พี่ชาย”“คุณลองดูสิ ยาพวกนี้พอไหม?”ยาทั้งหมดสามสิบกว่าลัง หนึ่งลังมียี่สิบถึงห้าสิบกล่อง“มีหัวเข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา ถุงมือปลอดเชื้อ หน้ากากอนามัยหรือเปล่า?” “รอก่อน”พี่ชายหันหลังเดินเข้าไปในโกดัง แล้วขนออกมาอีกหลายลังเขาเอาหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบออกมา“เซ็นชื่อสิ ต้องทำการทดสอบทางผิวห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 83

    เมื่อเห็นเย่มู่มู่ไม่ยอมลงจากรถ เหลียงชุ่ยฮวาใช้ไม้เท้าเคาะหน้ารถเธอเสียงดังลั่นแม้รถกระบะคันใหญ่จะทนทาน แต่หน้ารถถูกเคาะจนสีรถถลอกสิ่งที่ทำให้เย่มู่มู่ทนไม่ได้มากที่สุด คือเสียงดังครืนครานที่ดังขึ้นจากหน้ารถเหลียงชุ่ยฮวา ลุงใหญ่ อารอง อาสามล้วนแต่กำลังด่าทอเธอลุงใหญ่ตำหนิเธอเสียงดัง“เย่มู่มู่ เธอนี่มันเนรคุณแล้งน้ำใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีในตอนนี้ ล้วนแย่งมาจากเย่ซินทั้งนั้น”“เดิมทีสมบัติทั้งหมดของพ่อเธอยกให้เย่ซินหมดแล้ว แต่เธอนี่สิ กลับให้ทนายมาฟ้องพวกเรา จะยึดบ้านและรถกลับไป”“หนำซ้ำยังคิดจะยึดคฤหาสน์ของพี่ชายเธอกลับไปอีก ถ้าพี่ชายเธอไม่มีบ้าน แล้วจะแต่งเมียยังไง?” “เธอทำให้พี่ชายเธอติดคุกหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้เธอรีบโอนหุ้นของบริษัทให้พี่ชายเธอเลยนะ แล้วขอโทษขอขมาเขาอย่างจริงใจ” “เขาจะเห็นแก่พ่อเธอ แล้วดูแลเธออย่างดี”ย่าของเธอด่าทอเสียงดัง “นังเด็กสารเลว ลงมา ลงมาคุกเข่าให้ฉันเดี๋ยวนี้!”“แกคิดว่าหลบอยู่ในรถแล้วพวกฉันจะทำอะไรไม่ได้เหรอ? วันนี้ฉันจะให้พวกเขาทำลายรถซะ แกต้องลงมาคุกเข่าให้ฉัน”อารองยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบ“มู่มู่ หนูให้ทนายมาฟ้องพว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 84

    “เหอะ ๆ ผมมีวิธีของผม ให้คนไปจับตัวมา แล้วพาไปจัดการตรงที่ปลอดคนสักยก”“ถ้ายังไม่เชื่อฟัง ก็ติดประกาศชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน ชื่อครูประจำชั้นของลูกพวกเขา...โดยทั่วไป เมื่อมาถึงขั้นนี้ คนพวกนี้ก็จะเชื่องไปเอง” “วิธีนี้อาจไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย”“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก พวกที่หื่นกาม เราก็สืบหาหลักฐานการซื้อประเวณีไปให้เมียเขาดู และส่งให้เจ้านายพวกเขาอีกหนึ่งชุด แค่นี้ก็เรียบร้อย”“หากหาไม่เจอ ก็หาผู้หญิงมาเป็นกับดับก็พอแล้ว!”“ส่วนพวกที่ไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้ พวกเราก็สามารถหาหลักฐานการติดสินบน ทำใบเสร็จปลอม หรือการรับค่าส่วนต่าง”“ผมสนิทกับเจ้าของบ้านภายในย่านดี ภายในเมืองนี้ พวกเรามีสารพัดวิธีครับ”“เมื่อถึงขั้นที่สาม ค่าเสียเวลาเริ่มต้นที่สองล้านห้าขึ้นไป เพราะต้องใช้เส้นสาย ต้องพาไปสังสรรค์”“แต่พวกญาติของคุณเมื่อกี้ ไม่ต้องถึงขั้นที่สามหรอกครับ แค่ขั้นแรกก็สงบเสงี่ยมแล้ว ผมขอแค่ห้าแสนครับ”เย่มู่มู่มองสำรวจผู้จัดการนิติบุคคลอย่างจริงจังภายในย่านมีคฤหาสน์สองร้อยกว่าหลัง ราคาบ้านสูง ค่าส่วนกลางจึงแพงไปด้วยคนที่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ ล้วนเป็นบุคคลร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 85

    เย่มู่มู่พิงราวกั้นอยู่สักครู่ หลังจากรู้สึกดีขึ้น จึงใช้พลังจิตส่งน้ำต่อไปครั้งนี้ ระดับน้ำลดลงประมาณครึ่งเมตรสีหน้าของเธอขาวซีด แผ่นหลังเปียกชื้นเหงื่อ ฝืนไม่ไหวอีกต่อไปเธอหยุดพักสักครู่ แล้วอุ้มแจกันดอกไม้ขึ้นมา ก้าวขาที่อ่อนแรงเดินไปที่คฤหาสน์ตอนเดินไปที่บ่อน้ำ เธอหันมองบ่อน้ำ ด้านในยังเต็มอยู่เธอเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายในคฤหาสน์ แล้วล้มลงบนโซฟา เหนื่อยจนลืมตาไม่ขึ้นมีกระดาษแผ่นหนึ่งหล่นลง แต่เธอไม่ทันสังเกตเห็น*ด่านเจิ้นกวน ริมแม่น้ำมีโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สองดวงแขวนอยู่ แสงไฟส่องสว่างอย่างมากเมื่อพวกชาวบ้านเห็นน้ำขึ้นสูงกะทันหัน จึงกรูกันเข้าไปที่ริมแม่น้ำชาวบ้านบางคนที่นอนหลับไปแล้ว กลับต้องตื่นเพราะเสียงตะโกนของคนในบ้านส่วนคนแก่ที่เดินไม่ไหว คนในบ้านใช้แผ่นกระดานหามไปจนถึงริมแม่น้ำคนหลายหมื่นคนคุกเข่าลงตรงริมแม่น้ำ มองเห็นน้ำที่ใสสะอาดภายใต้แสงจันทร์ พร้อมคลื่นน้ำที่สะเทือนแผ่วเบาพวกชาวบ้านคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง บางคนแอบเช็ดน้ำตาบางคนร้องไห้เสียงฟัง ร้องจนแทบขาดใจมีน้ำแล้วในที่สุดในแม่น้ำก็มีน้ำแล้ว!สวรรค์มีตา!ในที่สุดก็ผ่านภัยแล้

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 652

    บัดนี้ พวกเขาทุกคนกลายเป็นเชลยศึกพวกเขาทำได้เพียงอ้อนวอน ขอให้กองทัพตระกูลจ้านเมตตาปล่อยผ่าน ขอเพียงได้มื้ออาหารให้มีชีวิตรอดก็เพียงพอ!ซ่งตั๋วสั่งให้เชลยรวบรวมศพทั้งหมดมากองรวมกัน นำไปวางบนไม้แห้ง ราดน้ำมัน แล้วจุดไฟเผาขณะที่เหล่าทหารผ่านศึกต่างเหนื่อยล้า นั่งพักกระจัดกระจายเต็มพื้นสนามรบจ้านเฉิงอิ้นหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา สอบถามขบวนรถ “พวกเผ่าหมานส่งกำลังมาสนับสนุนกองทัพธงเหลืองหรือไม่?”“ท่านแม่ทัพ ไม่มีขอรับ...พวกเราไม่กล้าดับเครื่องรถเลย กลัวพวกมันจะควบม้าบุกมาเล่นงานเรา แต่แปลกมาก ทั้งที่พวกมันรู้ดีว่ากองทัพธงเหลืองกำลังรบกับพวกเรา”“เสียงระเบิดดังไปไกลขนาดนั้น แต่พวกมันยังนิ่งเฉย ปล่อยให้พวกนั้นตายไปต่อหน้าต่อตา!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าจับตาดูต่อไป หากพวกมันบุกเข้ามา ให้ใช้ระเบิดไล่ต้อน”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นปิดวิทยุสื่อสารก่อนหน้านี้ เขาคิดว่ากองทัพธงเหลืองกับเผ่าหมานม่อเป่ยมีพันธมิตรอันแน่นแฟ้นเมื่อชนเผ่าป่าเถื่อนจับผู้คนมากินเป็นอาหาร และสังหารประชาชนแคว้นต้าฉี่ แต่กองทัพธงเหลืองกลับทำเป็นไม่เห็นเสียอย่างนั้นแต่ดูจากสถานการณ์ตอน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 651

    ครั้งนี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงซ่งตั๋วประกาศคำสั่ง กองทัพธงเหลืองทั้งหมดต่างพากันทิ้งอาวุธและยอมจำนนทหารกว่าสิบหมื่นนาย นอกจากผู้ที่เสียชีวิตในสนามรบแล้ว!ที่เหลือล้วนแต่ยอมจำนน!พวกเขาคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ชูอาวุธขึ้นเหนือศีรษะ ก้มหน้าลงต่ำด้วยความพ่ายแพ้ ตามธรรมเนียมของสงครามที่ผ่านมา ผู้ที่ถูกจับเป็นเชลยจะมีเพียงสองทางเลือกถูกสังหารในที่นั้น หรือกลายเป็นทาส ใช้ชีวิตอย่างต่ำต้อยเหมือนตายทั้งเป็นแต่พวกเขาอยากเสี่ยงเดิมพัน!พวกเขาทั้งหมดเป็นชาวบ้านผู้หิวโหยที่ไม่มีทางรอด จึงมาสมัครเป็นทหารของกองทัพธงเหลืองเพราะรู้ว่าที่นี่มีเสบียงให้กิน พวกเขาจึงเข้าร่วมหากยังพอมีอาหารให้ประทังชีวิต แม้ไม่ใช่ทาส แม้ต้องลงเหมืองทำงานหนัก พวกเขาก็ยอม!ขอเพียงได้รับค่าตอบแทนตามกำหนด ได้ส่งเงินกลับไปเลี้ยงดูครอบครัวพวกเขายอมทำทุกอย่าง!ซ่งตั๋วสั่งให้ทหารผ่านศึกเข้ายึดอาวุธจากผู้ที่ยอมจำนนให้คนที่ยอมจำนนยืนเข้าแถวทีละคน เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจนับจำนวนจ้านเฉิงอิ้นยืนอยู่กลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยบาดแผลแห่งสงคราม ซากศพเกลื่อนกลาดทั่วทุกหนแห่ง~ชนะแล้ว!พวกเขาชนะแล้ว!เดิมที คิดว่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 650

    ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเขาดูเหมือนจะสลายไปหมดแล้ว เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างสิ้นหวังไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะเดินมาถึงจุดนี้!ไม่ยินยอมยิ่งนัก!ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงไม่ยอมจำนน คำรามอย่างไม่ยอมแพ้ “ข้าไม่...”ด้านหลังของเขา ซ่งตั๋วรังเกียจที่เขาส่งเสียงดัง จึงใช้ดาบในมือฟาดเขาจนสลบ“ยุ่งยากเสียจริง!”หลีชิงกับสวีจู้กล่าวว่า “ชื่อเสียงของคนผู้นี้ไม่ได้แย่นัก เพียงแต่ไม่รู้ว่า ไยมู่ฉีซิวถึงได้มอบหมายตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ให้กับเขา!”ซ่งตั๋วกล่าวว่า “ด้วยความภักดีของเขา สามารถรับตำแหน่งที่สำคัญของมู่ฉีซิวได้ ก็ไม่น่าประหลาดใจอันใด!”ในตอนนี้ ซ่งตั๋วขึ้นไปบนรถคันเล็กของมั่วฝาน นำลำโพงที่อยู่ตรงเบาะหลังของเขา ย้ายไปไว้ที่กระโปรงท้ายรถทั้งหมดหลังจากนั้นก็ขับรถไล่ตามไปยังทิศทางที่ทหารของกองทัพธงเหลืองหลบหนีไปไล่ตามไปด้วย ตะโกนใส่ลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ไปด้วย“ผู้ที่ยอมจำนน และมอบอาวุธจะไม่ถูกสังหาร!”“ผู้ที่หันมาพึ่งพิงกองทัพตระกูลจ้านและสร้างผลงาน ไม่มีตำแหน่งขุนนางชั้นสูง ไม่มีที่ศักดินาหนึ่งพันครัวเรือน ที่ดินอันอุดมสมบูรณ์หนึ่งพันหมู่ให้!”“ทหารกองทัพตระกูลจ้านมีอาหารวันละส

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 649

    เมื่อจ้านเฉิงอิ้นโบกมือ อากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจำนวนสิบลำก็ปรากฏขึ้น ด้านบนผูกดินระเบิดเอาไว้เรียบร้อยแล้วมั่วฝานควบคุมอากาศยานไร้คนขับลำหนึ่ง ลอยขึ้นไปอย่างช้า ๆ ไล่ตามไปทางที่พวกมู่ฉีซิวหลบหนีไปยิ่งไปกว่านั้นเฉินอู่ได้พาทหารผ่านศึกกลุ่มใหญ่ บุกเข้าไปในกลุ่มของกองทัพธงเหลืองเขาตะโกน “เหล่าสหาย สังหาร รถคันใหญ่ของพวกเราหนีไปแล้ว!”“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้เป็นอันขาด!”“หากเอารถคันใหญ่มาไม่ได้ ก็ต้องเอารถยนต์คันเล็กมาให้ได้สักคัน บุก...”กองทัพธงเหลืองที่เดิมทีต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่แนวหน้า อยู่ ๆ ก็ละทิ้งชุดเกราะกันเป็นจำนวนมากอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งหมดวิ่งหนีไปที่ด้านหลังพวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นจนกระทั่งมีคนตะโกนขึ้นมา “ท่านผู้นำให้ถอยทัพ เร็วเข้า รีบถอยทัพ!”คนพวกนั้นถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเวลานี้กองทัพตระกูลจ้านประสมธนู หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน และดินระเบิด...เข้าด้วยกันขวัญกำลังใจของพวกเขาเต็มเปี่ยม ทั้งหมดบุกสังหารด้วยท่าทางดุดันทหารกองทัพธงเหลืองวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตท่านผู้นำยังหนีไปแล้ว ขวัญกำลังใจจึงลดลงไปอย่างมาก เหลือแค่เ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 648

    จ้านเฉิงอิ้นขึ้นขี่ม้า สวมหมวกกันน็อก มือถือดาบม่อเตา แล้วขี่ออกมาเพื่อเผชิญหน้าเฉินอู่กับซ่งตั๋วตามติดอยู่ด้านหลังครั้งนี้ เหลือหน่วยกล้าตายส่วนหนึ่งไว้เพื่อปกป้องมั่วฝานมั่วฝานกล่าวว่า “พวกเจ้าไปสังหารศัตรูกันให้หมด ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงข้า!”เขาขึ้นนั่งบนรถ และขับพุ่งเข้าไปท่ามกลางฝูงชนของกองทัพธงเหลืองการศึกในครั้งนี้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนคนมากเกินไป พวกเขามาถึงใกล้กับเมืองหลวงแล้ว ไม่ยอมละทิ้งความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างง่ายดายต้องการสังหารกองทัพตระกูลจ้านกองทัพตระกูลจ้านมีประสบการณ์ในการรบมากกว่ากองทัพธงเหลือง อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ดียิ่งกว่ากองทัพธงเหลืองอย่างไรก็ดีฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมากพวกเขาต่อสู้อย่างยากลำบาก!หน่วยปืนล่าสัตว์ถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง แม้แต่หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยังทิ้งคันธนูและศร หยิบดาบม่อเตามาต่อสู้กับศัตรู...ในเวลานี้ หวังเซิ่งคิดว่าหากต่อสู้ต่อไป กองทัพตระกูลจ้านจะร่อยหรอสองแสนคนเมื่อเทียบกับสามหมื่นคน มากมายเกินไปจริง ๆ อีกทั้ง พวกเขายังถูกโอบล้อม หากอยากฝ่าวงล้อม มีแต่ต้องสังหารกองทัพธงเหลืองให้สิ้นเท่านั้นเขามอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 647

    เย่มู่มู่กำลังต่อรองราคากับเจ้าของร้าน อยากจะซื้อปืนล่าสัตว์จำนวนมากเจ้าของร้านจนใจยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่นว่าเขาขายเพียงกระบอกเดียวเท่านั้นเย่มู่มู่เตรียมจะใช้เงินติดสิบน เพื่องัดปากเจ้าของร้านทันใดนั้นเอง ภายในสมองของนางก็ได้ยินเสียงของจ้านเฉิงอิ้นที่แฝงไปด้วยความตื้นตันอย่างชัดเจนว่า “ท่านเทพ บุญคุณในวันนี้ เฉิงอิ้นจะจดจำเอาไว้”“เฉิงอิ้นไม่มีอันใดจะตอบแทน ข้าจะสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญ พิชิตกองทัพธงเหลืองให้ได้ และทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”เมื่อเย่มู่มู่ได้ยิน ก็กอดแจกันพลางรีบวิ่งเข้าไปในรถเมื่อเจ้าของร้านเห็นดังนั้น ก็ตะโกนไล่หลังนาง “นี่ คุณยังเอาอยู่ไหม นำเข้าจากเยอรมัน นำเข้าจากรัสเซียมีหมด อานุภาพสูง จะล่าหมีก็ไม่มีปัญหา!”“รอเดี๋ยวค่ะ ฉันจะกลับมาซื้อ!”เย่มู่มู่รีบเข้าไปนั่งในรถ กอดแจกันไว้ พลางถามจ้านเฉิงอิ้นด้วยความตื่นเต้น“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าเห็นปืนสองพันกระบอกแล้วหรือไม่?”“ขอโทษด้วย ข้าสามารถซื้อมาได้เพียงเท่านี้ เจ้าของร้านเกรงว่าจะถูกตรวจสอบ ไม่ว่าอย่างไรก็ขายให้ข้าได้เพียงเท่านี้!”ภายในแจกัน เสียงแหบและทุ้มต่ำจากสองพันปีก่อนดังออกมา“ท่านเทพ บุญคุณใหญ่หลว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 646

    ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 645

    “ว้าว...”“รถบรรทุกขนาดใหญ่ นี่มันรถบรรทุกขนาดใหญ่เชียวนะ!”กองทัพตระกูลจ้านระเบิดเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทุกคนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขทหารผ่านศึกจำนวนไม่น้อยดีใจถึงขนาดกระโดดโลดเต้น!พวกเขานั่งรถบรรทุก โคลงเคลงตลอดทางมาถึงที่นี่หลายคนคิดว่าหากตนเองมีรถบรรทุกเช่นนี้สักหนึ่งคันจะดีสักเพียงใดรถบรรทุกมีโครงใหญ่ ล้อใหญ่ วิ่งได้หนึ่งพันลี้ต่อวัน!อีกทั้งรถคันนี้มีคุณภาพสมน้ำสมเนื้อ จอดห่างออกไปไม่กี่ลี้ไม่เหมือนกับคำมั่นลม ๆ แล้ง ๆ ของมู่ฉีซิว ขุนนางชั้นสูงอันใดกัน?นั่นก็ต้องก่อการกบฏให้สำเร็จ สังหารฮ่องเต้ กำจัดขุนนาง ยึดเอาแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!รางวัลที่ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ผิดสัญญาแม้แต่ครั้งเดียวและ มู่ฉีซิวแห่งกองทัพธงเหลือง ตลอดมาก็อาศัยคำมั่นที่ให้กับทหาร วาดฝันให้กับทุกคน ถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้หากพวกเขาสนับสนุนให้มู่ฉีซิวขึ้นสู่บัลลังก์ แล้วคำมั่นที่เขาให้ไม่มีทางเป็นจริงได้เขาก็จะยิ่งประสบกับการแว้งกัดที่รุนแรงยิ่งขึ้น!ตอนนี้ทุกหนทุกแห่งกำลังประสบทุพภิกขภัย ต่อให้ท่านแม่ทัพให้ที่นาเป็นรางวัล ก็จะให้ที่นาที่มีน้ำ มีคนและที่นาเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 644

    กองทัพธงเหลืองจำนวนไม่น้อยหวาดกลัว พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่กล้าพุ่งมาข้างหน้าเท่านั้น ซ้ำยังล่าถอยกันอย่างต่อเนื่องด้วยเมื่อมู่ฉีซิวเห็นฉากดังกล่าว ก็ยกโล่ขึ้นมาอย่างโกรธแค้น พลางตะโกนอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ว่า “ฆ่าให้หมด สังหารกองทัพตระกูลจ้านให้สิ้น!” “พวกมันมีเพียงแค่สามหมื่นคน พวกเรามีสองแสนคน ต่อให้พวกมันมีปืน แล้วอย่างไรเล่า? พวกมันต้องใช้เวลาในการบรรจุลูกกระสุนปืน ตราบใดที่เร็วพอ โจมตีในระยะประชิดพวกมันก็จะไม่มีเวลาบรรจุลูกกระสุนและยิงปืน”ทว่าเหล่าทหารไม่เข้าใจหลักการของปืนถึงแม้ไม่ได้ล่าถอยต่อไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกไปยังเบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้านเพราะพวกเขารู้ว่าผู้ใดที่ยื่นหน้าออกมา จะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอนในมุมมองของพวกเขา ยังไม่ทันได้สัมผัสเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้าม ก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ววิธีการตายเช่นนี้น่าคับข้องใจยิ่งนัก!เนื่องจากทหารกลัวตาย มู่ฉีซิวจึงตะโกนออกไปอย่างมีโทสะว่า “ผู้ใดสังหารกองทัพตระกูลจ้านได้หนึ่งคน ตกรางวัลข้าวโพดหนึ่งกระสอบ สังหารสองคน บุกเข้าไปในวังหลวง ตกรางวัลเป็นทาสสองคน!” “ผู้ที่สังหารกองทัพตระกูลจ้านได้ห้าคนขึ้นไป จะได้เป็นนายกอง และ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status