แชร์

บทที่ 80

ผู้เขียน: มู่โร่ว
“ใช่ ข้าเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าด่านเจิ้นกวนดีแค่ไหน มีเสบียงอาหารกินไม่หมด โจมตีกองทัพเผ่าหมานสามครั้งชนะสามครั้ง วันนี้ฆ่าเผ่าหมานตายหนึ่งแสนคนภายในวันเดียว”

“ฆ่าตายหนึ่งแสนคนในวันเดียว อย่าว่าแต่เผ่าหมานในม่อเป่ย แม้แต่ในแผ่นดินจงหยวน ก็มีการรบที่ถูกตีย่อยยับเช่นนี้น้อยมาก”

แม้ว่ากองทัพตระกูลจ้านจะล้มตายไปหนึ่งแสนแปดหมื่นคน แต่ก็ไม่ได้ตายในการรบเพียงสนามเดียว

ในหนึ่งปีนี้เผ่าหมานบุกโจมตีอย่างต่อเนื่อง กองทัพตระกูลจ้านทำได้แต่ตั้งรับและป้องกันเท่านั้น

พวกเขาตายเพราะพิทักษ์ประตูเมืองต่างหาก!

สงครามสามครั้งนี้ เกรงว่าไม่นานคงแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินหัวเซี่ย

คนเหล่านั้นที่คิดจะลงมือกับแคว้นฉี่ จ้องจะเขมือบแคว้นฉู่กับแคว้นฉี ก็ควรจะใตร่ตรองความสามารถของตนด้วย

ว่าสามารถขอผลประโยชน์จากภายใต้การบัญชาของจ้านเฉิงอิ้นได้หรือไม่

เขาคือเทพสงครามที่เก่งกาจทรงพลังที่สุดในยุคนั้น คำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเขาของคนยุคหลังกล่าวไว้ไม่มีผิด

เหล่าประชาชนยืนล้อมจ้านเฉิงอิ้นพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นด้วยความตื้นตัน

“แม่ทัพ ขอบคุณท่านที่พิทักษ์ด่านเจิ้นกวนและปกป้องชาวบ้านไว้ได้”

“แม่ทัพ หากไม่ใช่ท่าน คนอย่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 81

    วันนี้ได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ กองทัพสามแสนนายของเผ่าหมาน เหลือเพียงสองแสนนายเท่านั้นตอนจ้านเฉิงอิ้นโจมตี กองทัพเผ่าหมานมีกำลังเสริมมาช่วย ทว่าถูกหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินตีจนล่าถอยขณะนั้นลูกธนูเหลือเพียงสองหมื่นดอก หากพวกเขากล้าฝ่าลูกธนูเข้ามา ทางประตูทิศใต้และทิศเหนือคงไม่เจ็บสาหัสแต่พวกเขากลับล่าถอยเพราะกลัวถูกธนูยิงตาย ยิ่งกลัวถูกระเบิดจนบาดเจ็บ!ต้องทนเห็นทัพประจำการประตูทิศใต้และเหนือ ถูกกองทัพตระกูลจ้านที่มีเพียงแปดพันคนถล่มตอนจ้านเฉิงอิ้นเก็บกวาดสนามรบ ทัพเสริมได้แต่มองดูไกล ๆ ไม่กล้ารุกล้ำเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียวดังนั้น ทัพของจ้านเฉิงอิ้นจึงถอยออกมาอย่างปลอดภัยวันนี้ทั้งสามศึกต่างได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่!กองทัพตระกูลจ้าน มีคนล้มตายหนึ่งพันกว่าคน บาดเจ็บอีกสองพันกว่าคนซ่งอวิ๋นฮุยเข้ามาในกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ในมือเขาสวมถุงมือสีขาวชั้นบาง ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ“ยาใกล้จะไม่พอใช้แล้ว รีบขอยากับท่านเทพ ยาแก้อักเสบ ยาห้ามเลือด โดยเฉพาะยาฉีด เร็วเข้า!”“ได้!”จ้านเฉิงอิ้นเขียนแผ่นกระดาษแล้วใส่เข้าไปในแจกันดอกไม้เสร็จแล้ว หันไปสั่งให้ซ่งตั๋วดูแลทหารบาดเจ็บให้ดีส่ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 82

    คิ้วชายฉกรรจ์กระตุก ก่อนจะฟาดไพ่ลงบนโต๊ะ ไม่เล่นแล้วเขาถือโทรศัพท์เดินออกจากห้องน้ำชาแล้วหาที่ปลอดคน “สี่เท่า คุณแน่ใจนะว่าจะซื้อในราคาสี่เท่า?”“ใช่ ยาแก้อักเสบและแก้ปวดก็จะซื้อด้วย”“ยาชาเอาหรือเปล่า?”“เอา!”“ผมขายยาให้คุณได้ แต่คุณช่วยเขียนหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้ได้หรือเปล่า”ชายฉกรรจ์อธิบายต่อ “คุณซื้อยาโดยไม่ใช่โรงพยาบาล เกิดมีคนตาย แล้วมาเอาผิดกับผมจะทำยังไง?”“ได้ ฉันจะเซ็นหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบให้”ฝ่ายโรงงานยานัดเจอเธอที่โกดังของเขาเขาขนยาปฏิชีวนะ ยาบาดทะยัก ยาแก้อักเสบและยาแก้ปวด รวมถึงยาชาอีกสองลัง...จากนั้นครึ่งชั่วโมง เย่มู่มู่ก็มาถึงโกดังของโรงงานยาเมื่ออีกฝ่ายเห็นเย่มู่มู่ที่อายุยังน้อย และหน้าตาสวยงามจึงถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณมาซื้อยาเหรอ?”“ใช่ค่ะ พี่ชาย”“คุณลองดูสิ ยาพวกนี้พอไหม?”ยาทั้งหมดสามสิบกว่าลัง หนึ่งลังมียี่สิบถึงห้าสิบกล่อง“มีหัวเข็มฉีดยา กระบอกฉีดยา ถุงมือปลอดเชื้อ หน้ากากอนามัยหรือเปล่า?” “รอก่อน”พี่ชายหันหลังเดินเข้าไปในโกดัง แล้วขนออกมาอีกหลายลังเขาเอาหนังสือปฏิเสธความรับผิดชอบออกมา“เซ็นชื่อสิ ต้องทำการทดสอบทางผิวห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 83

    เมื่อเห็นเย่มู่มู่ไม่ยอมลงจากรถ เหลียงชุ่ยฮวาใช้ไม้เท้าเคาะหน้ารถเธอเสียงดังลั่นแม้รถกระบะคันใหญ่จะทนทาน แต่หน้ารถถูกเคาะจนสีรถถลอกสิ่งที่ทำให้เย่มู่มู่ทนไม่ได้มากที่สุด คือเสียงดังครืนครานที่ดังขึ้นจากหน้ารถเหลียงชุ่ยฮวา ลุงใหญ่ อารอง อาสามล้วนแต่กำลังด่าทอเธอลุงใหญ่ตำหนิเธอเสียงดัง“เย่มู่มู่ เธอนี่มันเนรคุณแล้งน้ำใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีในตอนนี้ ล้วนแย่งมาจากเย่ซินทั้งนั้น”“เดิมทีสมบัติทั้งหมดของพ่อเธอยกให้เย่ซินหมดแล้ว แต่เธอนี่สิ กลับให้ทนายมาฟ้องพวกเรา จะยึดบ้านและรถกลับไป”“หนำซ้ำยังคิดจะยึดคฤหาสน์ของพี่ชายเธอกลับไปอีก ถ้าพี่ชายเธอไม่มีบ้าน แล้วจะแต่งเมียยังไง?” “เธอทำให้พี่ชายเธอติดคุกหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้เธอรีบโอนหุ้นของบริษัทให้พี่ชายเธอเลยนะ แล้วขอโทษขอขมาเขาอย่างจริงใจ” “เขาจะเห็นแก่พ่อเธอ แล้วดูแลเธออย่างดี”ย่าของเธอด่าทอเสียงดัง “นังเด็กสารเลว ลงมา ลงมาคุกเข่าให้ฉันเดี๋ยวนี้!”“แกคิดว่าหลบอยู่ในรถแล้วพวกฉันจะทำอะไรไม่ได้เหรอ? วันนี้ฉันจะให้พวกเขาทำลายรถซะ แกต้องลงมาคุกเข่าให้ฉัน”อารองยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบ“มู่มู่ หนูให้ทนายมาฟ้องพว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 84

    “เหอะ ๆ ผมมีวิธีของผม ให้คนไปจับตัวมา แล้วพาไปจัดการตรงที่ปลอดคนสักยก”“ถ้ายังไม่เชื่อฟัง ก็ติดประกาศชื่อโรงเรียน ชั้นเรียน ชื่อครูประจำชั้นของลูกพวกเขา...โดยทั่วไป เมื่อมาถึงขั้นนี้ คนพวกนี้ก็จะเชื่องไปเอง” “วิธีนี้อาจไม่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางคนเจ้าเล่ห์เพทุบาย”“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก พวกที่หื่นกาม เราก็สืบหาหลักฐานการซื้อประเวณีไปให้เมียเขาดู และส่งให้เจ้านายพวกเขาอีกหนึ่งชุด แค่นี้ก็เรียบร้อย”“หากหาไม่เจอ ก็หาผู้หญิงมาเป็นกับดับก็พอแล้ว!”“ส่วนพวกที่ไม่ชอบเรื่องพรรค์นี้ พวกเราก็สามารถหาหลักฐานการติดสินบน ทำใบเสร็จปลอม หรือการรับค่าส่วนต่าง”“ผมสนิทกับเจ้าของบ้านภายในย่านดี ภายในเมืองนี้ พวกเรามีสารพัดวิธีครับ”“เมื่อถึงขั้นที่สาม ค่าเสียเวลาเริ่มต้นที่สองล้านห้าขึ้นไป เพราะต้องใช้เส้นสาย ต้องพาไปสังสรรค์”“แต่พวกญาติของคุณเมื่อกี้ ไม่ต้องถึงขั้นที่สามหรอกครับ แค่ขั้นแรกก็สงบเสงี่ยมแล้ว ผมขอแค่ห้าแสนครับ”เย่มู่มู่มองสำรวจผู้จัดการนิติบุคคลอย่างจริงจังภายในย่านมีคฤหาสน์สองร้อยกว่าหลัง ราคาบ้านสูง ค่าส่วนกลางจึงแพงไปด้วยคนที่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ ล้วนเป็นบุคคลร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 85

    เย่มู่มู่พิงราวกั้นอยู่สักครู่ หลังจากรู้สึกดีขึ้น จึงใช้พลังจิตส่งน้ำต่อไปครั้งนี้ ระดับน้ำลดลงประมาณครึ่งเมตรสีหน้าของเธอขาวซีด แผ่นหลังเปียกชื้นเหงื่อ ฝืนไม่ไหวอีกต่อไปเธอหยุดพักสักครู่ แล้วอุ้มแจกันดอกไม้ขึ้นมา ก้าวขาที่อ่อนแรงเดินไปที่คฤหาสน์ตอนเดินไปที่บ่อน้ำ เธอหันมองบ่อน้ำ ด้านในยังเต็มอยู่เธอเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายในคฤหาสน์ แล้วล้มลงบนโซฟา เหนื่อยจนลืมตาไม่ขึ้นมีกระดาษแผ่นหนึ่งหล่นลง แต่เธอไม่ทันสังเกตเห็น*ด่านเจิ้นกวน ริมแม่น้ำมีโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่สองดวงแขวนอยู่ แสงไฟส่องสว่างอย่างมากเมื่อพวกชาวบ้านเห็นน้ำขึ้นสูงกะทันหัน จึงกรูกันเข้าไปที่ริมแม่น้ำชาวบ้านบางคนที่นอนหลับไปแล้ว กลับต้องตื่นเพราะเสียงตะโกนของคนในบ้านส่วนคนแก่ที่เดินไม่ไหว คนในบ้านใช้แผ่นกระดานหามไปจนถึงริมแม่น้ำคนหลายหมื่นคนคุกเข่าลงตรงริมแม่น้ำ มองเห็นน้ำที่ใสสะอาดภายใต้แสงจันทร์ พร้อมคลื่นน้ำที่สะเทือนแผ่วเบาพวกชาวบ้านคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง บางคนแอบเช็ดน้ำตาบางคนร้องไห้เสียงฟัง ร้องจนแทบขาดใจมีน้ำแล้วในที่สุดในแม่น้ำก็มีน้ำแล้ว!สวรรค์มีตา!ในที่สุดก็ผ่านภัยแล้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 86

    เย่มู่มู่โทรหาลุงหยางเขาบอกว่าผ่านการชั่งบนเครื่องชั่งรถบรรทุกแล้ว จำนวนถูกต้องเธอจึงโอนยอดเงินที่เหลือให้หัวหน้าฝ่ายขายหัวหน้าฝ่ายขายโทรกลับมาหาเธออย่างดีใจ “คุณเย่ ได้รับยอดเงินแล้วครับ ผ้าใบกันน้ำกับผ้ายีนส์กำลังเร่งการผลิตอยู่ครับ คุณยังต้องการผ้าชนิดไหนอีก โรงงานผมทำให้ได้หมดครับ”“ถ้ามีผ้าสีพื้นราคาถูก เอามาขายให้ฉันได้”“ได้ครับ คุณต้องการเท่าไหร่?”“ต้องการสินค้าในราคาสิบล้าน สีพื้นที่เหมาะกับผู้ชายอย่างสีเนวี่บลู สกายบลู สีดำ สีเขียวทหาร...ต้องการเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือต้องการผ้าสีพื้นที่เหมาะกับผู้หญิง ชมพูอ่อน เหลืองอ่อน สีขาว สีเขียวอ่อน...เรื่องสีคุณจัดการตามความเหมาะสม”“ได้ครับ ผมจะรีบสั่งให้ทางโรงงานผลิตให้”เย่มู่มู่โอนเงินห้าล้านให้เขาเป็นค่ามัดจำหลังจากหัวหน้าฝ่ายขายได้รับเงินมัดจำ เขาแจ้งว่าอีกประมาณสิบวันเศษถึงจะส่งสินค้าได้เย่มู่มู่เตรียมย้ายออกจากคฤหาสน์สักพักอย่างน้อยก็ให้ญาติกระหายเงินพวกนั้นหาเธอไม่เจอชั่วคราวแต่หากจะปล่อยให้บ้านว่าง เธอก็กลัวพวกเขาจะปีนเข้ามายึดบ้านหลังจากครุ่นคิด เธอจึงโทรไปหาป้าหลิวแม่บ้านเก่าของเธอป้าหลิวลาออ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 87

    ป้าหลิวมาถึงคฤหาส์ช่วงบ่ายไม่เจอกันสามเดือนป้าหลิวผอมลงและดำขึ้นบนมือเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย เย่มู่มู่เห็นมือของเธอแล้วขอบตาแดงก่ำเธอจึงรีบซ่อนมือไว้ด้านหลัง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนไปเก็บอาหารหมูแล้วบาดโดน ไม่เจ็บหรอกค่ะ”เมื่อป้าหลิวเห็นสวนดอกไม้ที่มีแต่หญ้ารก ปวดใจเหลือเกินแล้ววิ่งไปดูที่สวนหลังบ้าน สวนหลังบ้านไม่เหลือเค้าของสวนผักแม้แต่น้อย มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมดป้าหลิวปวดใจ “สวนใหญ่ขนาดนี้ ทำไมคุณหนูไม่ปลูกพวกแตงกวา มะเขือ แล้วก็พริก...”“ฉันโทรหาสองสามีภรรยาเหล่าจางแล้วค่ะ พวกเขาจะมาถึงตอนเย็น ยามหน้าบ้านสวีฉิ่งตกงาน บอกว่ายินดีกลับมาเหมือนกันค่ะ”“เฝ้าบ้านแค่สี่คนน่าจะพอแล้ว”เย่มู่มู่เอาเงินสดให้เธอสามหมื่น “ป้าคะ ฉันจะไปบ่ายนี้เลย เงินก้อนนี้ป้าเก็บไว้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ซื้อกับข้าว...ถ้าไม่พอก็โทรหาฉัน”“คุณหนูจะไปบ่ายนี้เหรอคะ? รีบร้อนขนาดนี้เลย?”“ใช่ค่ะ!”ก่อนจากมา เย่มู่มู่พาป้าหลิวเข้าไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย เพื่อสอนวิธีดูกล้องวงจรปิดป้าหลิวเรียนรู้อย่างตั้งใจเย่มู่มู่บอกเธอว่าบนกำแพงติดตั้งรั้วไฟฟ้า ซึ่งปล่อยกระแสไฟยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อให้คนตระกูลเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 88

    ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นพอจะประมาณการปริมาณของหนึ่งคันรถได้แล้วเขาบอกเฉินอู่ “รีบให้คนไปขุดหลุมยักษ์หนึ่งหลุม แล้วปูผ้าใบรองเอาไว้ อีกเดี๋ยวจะมีเนื้อหมูสดถูกส่งมา แล้วก็น้ำแข็งอีกจำนวนมาก”เมื่อได้ยินเนื้อหมูและน้ำแข็ง เฉินอู่ดีใจจนออกนอกหน้าเนื้อหมูเชียวนะ เนื้อที่โรงครัวใกล้จะหมดแล้ว ตอนนี้จึงใช้เนื้อม้าแทนไปก่อนทว่าเนื้อสัมผัสของเนื้อม้าสู้เนื้อหมูไม่ได้ เพราะม้าศึกผอมเกินไป อีกทั้งยังมีกลิ่นสาบเขาชอบกินเนื้อหมูมากกว่าครั้งนี้ท่านเทพยังส่งน้ำแข็งมาให้ด้วยน้ำแข็งเชียวนะ!ด่านเจิ้นกวนอากาศร้อนมาก หากเป็นเมื่อก่อน เรื่องน้ำแข็งไม่กล้าแม้แต่จะคิดในหน้าหนาวหิมะตกที่ด่านเจิ้นกวนเป็นชั้นบาง ๆ เท่านั้นพอวันที่สองและสามหิมะละลาย ทำให้มีปริมาณน้ำไม่มากนักดังนั้น สถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีน้ำแข็งมาก่อนไม่เหมือนเมืองหลวง หน้าหนาวแซะน้ำแข็ง หน้าร้อนเอามาดับร้อนเขาเฝ้ารอน้ำแข็งที่ท่านเทพประทานให้อย่างมาก ช่างคิดถึงความรู้สึกเย็นเยือกเหลือเกินเฉินอู่รีบพาคนไปขุดหลุมทันทีขณะนี้ มั่วฝานพาจวงเหลียงและเจียงหยวน เดินทางมาที่จวนของเฉินขุยเขาเห็นม้วนผ้ามากมายในโกดัง จึงวิ่งเข้าไปรื้อค

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 395

    ขณะที่สองมือของเศรษฐินีแตะตัวเย่มู่มู่ เย่มู่มู่เบือนตัวหลีกทันทีเศรษฐินีคนนี้ทำอย่างกับรู้จักมักคุ้นกันมานานเกินไปแล้วเธอไม่ได้รู้จักเศรษฐินีคนนี้สักหน่อยมิหนำซ้ำยังไม่ใช่เพื่อนสนิทของแม่อีกในขณะนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก ลู่ฉีหยางที่ตั้งใจแต่งตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินออกมาครั้นเขาเห็นเย่มู่มู่ ดวงตาทั้งสองก็พลันเปล่งประกาย“มู่มู่ เธอมาแล้วเหรอ?”“แม่ฉันอยากเจอเธอมากแล้ว ตั้งแต่บินมาเมืองหลวง เธอก็ด่าฉันสาดเสียเทเสียยกหนึ่ง ว่าฉันเปิดเผยภูมิหลังและตัวตนของเธอ ทั้งที่ฉันไม่ได้บอกเธอสักคำได้ยังไง”“แต่เธอวางใจนะ ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สื่อและนักข่าวจะไม่มีทางปล่อยข่าวออกไปแน่นอน แล้วก็หาภูมิหลังของเธอบนเน็ตไม่เจอด้วย”“แล้วก็ เธอสนใจไลฟ์สดที่เธอทำมาก ๆ ถามว่าเธอสนใจจะก่อตั้งบริษัทอินคิวไอดอลเอ็มซีเอ็นไหม...”คุณหญิงลู่คว้ามือของเย่มู่มู่เอาไว้อย่างกระตือรือร้น พร้อมลากเธอไปนั่งลงบนโซฟา“ไลฟ์ช่วยเกษตรกรที่เธอทำนั่น ได้เป็นที่นิยมในเน็ตมาก ๆ ได้รับความนิยมเยอะมาก ๆ ระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงสามเดือน ยอดแฟนคลับของห้องไลฟ์สดทั้งสองห้องก็สูงถึงสามสิบล้าน”“กระท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 394

    บีบให้เธอต้องหยุดรถเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์สีดำคันหนึ่ง มีผู้ชายสวมชุดสูทสีดำ ใส่แว่นดำ รูปร่างสูงใหญ่ห้าคนลงมาจากรถดูแล้วพวกเขาคล้ายกับบอดีการ์ดมีผู้ชายสวมหมวกคนหนึ่ง มาตรงหน้ากระจกรถเย่มู่มู่ ก่อนจะเคาะกระจกรถเย่มู่มู่ลดกระจกลงท่าทีของผู้ชายคนนั้นมีมารยาทเป็นอย่างมาก หลังเขาถอดหมวกออกและเป็นฝ่ายคำนับให้เธอก่อน“คุณหนูเย่ ใช่ไหมครับ?”เย่มู่มู่พยักหน้า ในมือเธอกดเบอร์โทร 191 ไว้แล้ว หากอีกฝ่ายกระทำอะไรเกินขอบเขตออกมา...เธอจะต่อสายแจ้งตำรวจทันทีเพียงแต่อีกฝ่ายถามเธอด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงกับคุณชายบ้านผม อยากจะเชิญคุณไปทานข้าวสักมื้อน่ะครับ”ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง อีกสามชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาอาหารเย็นข้ออ้างนี้จะเกินจริงไปหน่อยหรือเปล่าเย่มู่มู่ส่ายศีรษะ แล้วกล่าวปฏิเสธ “ฉันไม่มีเวลา!”“คุณหนูเย่ผมเห็นของที่คุณใส่ไว้เต็มรถ คุณจะส่งไปไหนเหรอครับ พวกเราช่วยไปส่งให้คุณได้นะครับ”“รบกวนคุณช่วยรับคำเชิญไปทานข้าวกับคุณผู้หญิงและคุณชายบ้านเราด้วยนะครับ”พูดพลางเหล่าบอดีการ์ด ก็เตรียมจะเปิดประตูด้วยท่าทีอันธพาล พวกเขาเข้าไปในรถบรรทุกคันน้อย แล้ว ‘เชิญ’ เย่มู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 393

    ม้าขาวของจ้านเฉิงอิ้นพุ่งออกมาราวกับตกใจ เบื้องหลังม้าขาวมีผู้บัญชาการกลุ่มใหญ่กำลังไล่ตามมาเซี่ยเวย จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิงต่างตะโกนใส่มั่วฝานว่า “สกัดเอาไว้ เร็วเข้า สกัดม้าเอาไว้...”“ท่านแม่ทัพใหญ่ได้รับบาดเจ็บหนัก ให้ม้าหยุด”มั่วฝานสั่งหน่วยกล้าตาย “ขวางม้าเอาไว้!”หน่วยกล้าตายล้วงเชือกออกมา แล้วคล้องคอม้าเอาไว้อย่างรวดเร็วม้าถูกหน่วยกล้าตายตรึงไว้อย่างแรงทั้งสี่ มันยกเท้าหน้าขึ้นสูง พร้อมคำรามด้วยความหวาดกลัว!ขณะนี้จ้านเฉิงอิ้นที่อยู่บนหลังม้ากำลังจะร่วงลงมาเหล่าทหารผ่านศึกมือเร็วตาไว รับตัวจ้านเฉิงอิ้นเอาไว้ทั้งเนื้อตัวของจ้านเฉิงอิ้นเต็มไปด้วยเลือด ถูกม้าทำให้สั่นโคลงเคลงอย่างแรง เดิมทีหมดสติไปแล้ว ทว่าตอนนี้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทหารผ่านศึกตะโกนดังลั่น “ท่านรัฐทายาท ท่านแม่ทัพฟื้นแล้วขอรับ”มั่วฝานกล่าวอย่างร้อนใจ “เรียกหมอประจำกองทัพ เร็วเข้า...”วินาทีถัดมา มือที่เปื้อนเลือดสดของจ้านเฉิงอิ้นก็คว้าปกเสื้อของมั่วฝานเอาไว้ เนื่องจากเขาเห็นแจกันในอ้อมอกของมั่วฝานมั่วฝานรีบคุกเข่าลง พร้อมประคองเขาเอาไว้จ้านเฉิงอิ้นอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ครั้นอ้าปากก็อันกระอักเลือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 391

    ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนายปรากฏตัวขึ้นมาพวกเขาติดอุปกรณ์สมบูรณ์แบบ กำลังถือดาบม่อเตาและดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง พร้อมแบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา กำลังคนและม้าสองแสนนายกำลังพุ่งเข้ามาด้วยทีท่าดุเดือดครั้นเยี่ยนเย่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง ก็พลันหันหน้ากลับไปเห็นเฉินขุย เฉินอู่และซ่งตั๋วนำกำลังคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา!มู่ซาตะโกนเสียงดัง “พวกเขาออกมาจากไหน? เหตุใดถึงมาขวางทางหนีทีไล่เรา?”เจียงเหว่ยด่ากราดอย่างเดือดดาล “ข้ารู้อยู่แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หนึ่งคิดกลอุบายไม่เป็น สองนำทหารสู้รบไม่เป็น กระทั่งสถานการณ์ข้าศึกแข็งแกร่งเราอ่อนแอก็ยังไม่รู้”“ข้าเคยบอกแล้วอย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสเหมาะในการฆ่าจ้านเฉิงอิ้น ตอนนี้จบเห่แล้ว กลับกันตอนนี้ยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายอีก!”เกาอี้ผู้บัญชาการแคว้นฉีกล่าวขึ้นทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟว่า “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว คิดหาวิธีฝ่าวงล้อมก่อน กองทัพตระกูลจ้านสองพันนายเรายังรับมือไม่ได้ ตอนนี้กองทัพตระกูลจ้านยกทัพมาทั้งกองทัพ พวกเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่หรือ? ยังจะมาทะเลาะกันเอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 390

    ส่วนที่แข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นคือ ทหารผ่านศึกในกองทัพของเขาล้วนมีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดาเกราะและอาวุธของกองทัพตระกูลจ้านมีคุณภาพสูง สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบนอกจากนี้ การซื้อใจชาวบ้านสี่ร้อยคนที่ถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบยิ่งขึ้นอุปกรณ์และระเบิดเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาขยายกว้างขึ้นหากเป็นเมื่อครู่ พวกเขายังกล้ายืนยันได้อย่างมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นต้องตายอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ ความหวังที่จะชนะเลือนลางลงบางคนเริ่มอยากล่าถอย เพราะไม่ต้องการไปตายขณะที่เจียงเหว่ยถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกลับถูกทหารของเยี่ยนเย่ขวางทางไว้เยี่ยนเย่นำกองทัพหนึ่งแสนคน โดยมีห้าหมื่นคนคอยติดตามอยู่ข้างกายหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเยี่ยนเย่ พร้อมทั้งจับตาดูความเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลาเสียงเยียบเย็นของเยี่ยนเย่ดังขึ้น “แม่ทัพแคว้นฉู่กำลังจะไปไหนหรือ?”“ในเมื่อทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารจ้านเฉิงอิ้น เจ้าจะถอนตัวเองไปโดยพลการได้อย่างไร”“วางใจเถอะ ต่อให้ต้องบุกทะลวง กองทัพแคว้นเยี่ยนของข้าจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 389

    ซุนหลินพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “กินได้สิ!”พูดจบ เขาหยิบมันเทศขึ้นมาเช็ดกับเสื้อ แล้วหักออก...เนื้อสีม่วงแดงของมันเทศก็เผยออกมากลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันเทศลอยออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนซุนหลินกลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ เขาเลยกัดไปคำหนึ่ง เนื้อกรอบหวานละมุนใจ“อร่อยจริงๆ!”“มันเทศสามารถนำไปปิ้งหรือนึ่งก็ได้ หรือจะใช้ต้มทำเป็นโจ๊ก หรือข้าวมันเทศก็ได้... มีวิธีกินเยอะแยะ ทั้งหวานทั้งเหนียว หอมอร่อยมาก!"จากนั้นเขาก็ยื่นมันเทศให้ซุนเฮ่อ “ลุงสาม ลองชิมดูสักคำสิ”ซุนเฮ่อชะงักเล็กน้อยก่อนรับมันเทศมาลองกัดคำหนึ่งทันทีที่กัดเข้าไป เขาเบิกตากว้างกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หวานจริง ๆ แถมยังมีน้ำในเนื้ออีก กรอบมาก...”เขาพูดพร้อมเคี้ยวอีกสองสามคำ “อร่อยมาก!”ซุนหลินยิ้มอย่างภูมิใจ “อร่อยใช่ไหมล่ะ! ที่ด่านเจิ้นกวนของเราปลูกมันเทศไว้มากกว่าหมื่นหมู่ ต่อไปนี้ทุกคนก็จะได้กินกันทั่วหน้า!”เหล่าชาวบ้านต่างพากันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ขณะฟังซุนหลินกล่าว “หมื่นหมู่ นั่นเป็นพื้นที่กว้างขนาดไหนกันนะ!”“ไร่นาทุกผืนล้วนมีน้ำรดได้ แม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนน้ำเลยจริงๆ!”“คำพูดของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 388

    ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status