รถบรรทุกคันใหญ่สามคันมีหม้อไฟอุ่นเอง ไส้กรอกรมควัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำแร่...ซาลาเปา แพนเค้กต้นหอมอย่างละห้าแสนชิ้น!เสื้อกันกระสุน แผ่นเหล็กกันกระสุนหนึ่งหมื่นห้าพันชุด!รองเท้าผ้าห้าหมื่นคู่!เมื่อเฉินขุยเห็นจำนวนของบนกระดาษแผ่นเล็ก นิ้วมือพลางสั่นไม่หยุดเขาดีใจเป็นอย่างมาก“ดีจริง ๆ ท่านแม่ทัพ เสบียงอาหารพวกนี้บวกกับเสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อสองวันก่อน สามารถเลี้ยงทหารและชาวบ้านทั้งเมืองได้เป็นปีกว่า!”เขาอยากรู้มากว่าเสื้อเกราะกันกระสุนและแผ่นเหล็กกันกระสุนเป็นของลักษณะอย่างไรสามารถป้องกันการยิงทะลุจากลูกธนูได้จริงหรือไม่?หากแผ่นเหล็กกันกระสุนแข็งดั่งหินผา เช่นนั้นทหารที่ไม่มีเสื้อเกราะก็ปกป้องหัวใจได้เมื่ออยู่ในสนามรบก็สามารถมีชีวิตรอดกลับมาของสิ่งนี้สำคัญมากและจำเป็นมากในกองทัพจ้านเฉิงอิ้นเร่งเร้า “รีบไป คลังสรรพาวุธและโกดังเสื้อเกราะกันกระสุนต้องปิดไม่ให้ผู้ใดเห็น ในเมืองยังมีสายลับ ต้องระวังให้มาก!”เฉินขุย “ขอรับ ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”เขาเดินออกไปพร้อมกับองครักษ์อย่างรวดเร็วจ้านเฉิงอิ้นมองรองเท้า ถุงเท้า ขนม และสายตาสุดท้ายตกที่รองเท้าแตะ
รองเท้าส่งมาให้แล้วห้าหมื่นคู่ ทั้งหมดสองพันห้าร้อยลังใส่ไว้เต็มพื้นที่กระโจมใหญ่ เมื่อไม่มีที่วาง กล่องลังจึงกลิ้งออกมาจากข้างในกระโจมจำนวนไม่น้อยทหารสิบนาย มีแต่มั่วฝานที่ไม่อยู่...ตั้งแต่หยิบขนมและรองเท้าที่จวนเฉินขุยไปเขาก็ไม่กลับค่ายทหารอีกเลยเฉินอู่มองกล่องลังรองเท้าแต่ละลังด้วยสายตาแดงก่ำนี่มันคือรองเท้าทั้งนั้น!รองเท้าหลายคู่ของเขาขาดรุ่ยหมดแล้ว ทั้งซ่อมและเย็บ ผิวรองเท้าก็ปะแล้วหลายชั้นรองเท้าผ้าใบที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานล้ำค่าเกินไป เขารู้สึกเสียดายที่จะใส่คิดไม่ถึงว่าวันนี้ท่านเทพส่งรองเท้าใหม่มาให้อีกเขาแกะลังอย่างอดรนทนไม่ไหวรองเท้าผ้าสีน้ำเงินกรมท่าปักลายดอกไม้งามหนึ่งคู่ปรากฏขึ้นในสายตาผิวรองเท้าทำจากผ้าฝ้ายหนา ด้านในรองเท้าบุด้วยแผ่นรองรองเท้าหนึ่งชั้น พื้นรองเท้ามียางนุ่มกันลื่น...เขาถอดรองเท้าเกี๊ยะออกแล้วลองสวมรองเท้าผ้าสบายมาก เบากว่ารองเท้าที่ท่านเทพให้เมื่อวานนี้อีกเขาเดินไปมาสองสามก้าวและยังกระโดดอีกสองสามครั้ง“รองเท้าคู่นี้ดี ใส่สบายพอดีเท้า”“ท่านแม่ทัพ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าผ้า ก็ใส่สบายกว่ารองเท้าเกี๊ยะของพวกเราทั้งนั
เพียงควักเงินครอบครัวออกมาและเหลือสำหรับค่าเดินทางกลับบ้านเกิดเล็กน้อย ก็สามารถปิดเรื่องกินเนื้อคนได้ครอบครัวผู้เสียหายจะได้รับค่าชดเชยเป็นข้าวสารยี่สิบชั่งหนึ่งถุง แป้งสิบชั่งหนึ่งถุงเสบียงอาหารเหล่านี้ ทุกคนในครอบครัวสามารถกินได้ถึงสามเดือน ดังนั้นย่อมไม่มีการก่อเรื่องอีกเรื่องดังกล่าวก็สามารถข้ามผ่านไปได้อาหลี่คิดว่าเจ้าหนุ่มเว่ยกวงผู้นี้เป็นคนมีความสามารถให้เขาอ่านตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ หนังสือเทพข้ามกาลเวลาสามชุดที่ท่านเทพส่งมาให้ในเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วัน เว่ยกวงอาศัยความมีคารมคมคายและเสน่ห์ส่วนตนตั้งหลักในจวนแม่ทัพได้อย่างมั่นคงแม่ทัพสั่งให้เถียนฉินส่งรองเท้ากลับมาหนึ่งลัง เถียนฉินรู้สึกว่าหนึ่งลังไม่เพียงพอสำหรับเด็กกำพร้าเหล่านั้นเขาหยิบไปสองกล่องลังเมื่อกลับถึงจวนแม่ทัพ เขาเห็นเว่ยกวงยืนอยู่ที่ประตูจึงมอบกล่องลังให้กับเขา“ข้างในเป็นรองเท้า เจ้าให้ทุกคนไปแบ่งกัน แต่ละคนหยิบคนละหนึ่งคู่ ส่วนที่เหลือนำไปเก็บที่ห้องโกดัง”เว่ยกวงมองรองเท้าแล้วมองเท้าของตนเอง เขาไม่ได้สวมรองเท้ามานานมากแล้วเหยียบบนทรายร้อนทุกวัน จนฝ่าเท้าขึ้นตุ่มที่แข็งและหนาเขาเป็นเด็กกำ
เมื่อเริ่มแจกรองเท้า บรรดาทหารผ่านศึกและทหารใหม่ก็เข้าแถวรับรองเท้าจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าข้างใต้แจกันมีกระดาษ“หมั่นโถวห้าแสนลูก แพนเค้กต้นหอมห้าแสนชิ้นมาถึงแล้ว ข้าเตรียมส่งลงไป”จ้านเฉิงอิ้นเขียนลงด้านหลังกระดาษ “โปรดรออีกเวลาหนึ่งถ้วยชา”หมั่นโถวและแพนเค้กต้นหอมเป็นอาหารปรุงสุก เขาต้องวางไว้ในยุ้งฉางที่อยู่ใกล้ห้องครัวสองสามนาทีผ่านไป หมั่นโถวกับแพนเค้กต้นหอมที่แช่แข็งแล้วจำนวนมากก็ไหลลงมาจำนวนเยอะเกินไป ไม่สามารถวางทั้งหมดในยุ้งฉางได้เฉินขุยเอาผ้าใบกันน้ำปิดคลุมและส่งทหารมาเฝ้าก่อนจากไป เขาหยิบแพนเค้กต้นหอมหนึ่งห่อกัดเข้าไปหนึ่งคำ กลิ่นหอมเข้มข้นของต้นหอมแตกกระจาย“ท่านแม่ทัพ แพนเค้กต้นหอมหอมมาก!”“ข้าแนะนำให้ทหารนำติดตัวสองห่อเวลาออกรบ พกน้ำอีกสองขวด เผื่อว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วไม่สามารถกลับมาได้ทันการณ์ จะได้ไม่หิวตายในเวลาสั้น ๆ”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ดี เจ้าให้คนนำไปแจกจ่ายซะ”เฉินขุยฉีกยิ้มเริงร่า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”เมื่อก่อนเวลาท่านเทพส่งหมั่นโถวกับแพนเค้กต้นหอมให้หนึ่งล้านชิ้น พวกเขาก็อาจตะลึงครู่หนึ่งช่วงนี้เสบียงอาหารที่ท่านเทพให้มีจำนวนมากเกินไป จน
จ้านเฉิงอิ้นดีใจเช่นกัน ผลลัพธ์ของเสื้อเกราะกระสุน ดีเกินกว่าที่เขาคาดไว้แผ่นเหล็กสองแผ่น สามารถช่วยชีวิตของทหารในจำนวนที่นับไม่ถ้วนได้“แพร่คำสั่งลงไป ทหารที่บุกโจมตีเมืองตอนเย็น มารับเสื้อเกราะกันกระสุนคนละหนึ่งตัว”เหอหง เฉินจวิ้นหลินที่เป็นคนนำทัพ ใบหน้าเผยความดีใจพร้อมกับคุกเข่าครึ่งตัวและคารวะ“ขอรับ ท่านแม่ทัพพวกเราจะกลับมาพร้อมกับชัยชนะ”จ้านเฉิงอิ้นเดินมาถึงข้าง ๆ พวกเขาและตบไหล่ของพวกเขาอย่างหนักแน่นตอนเย็นเป็นศึกหนัก สองศึกที่ปะทะเมื่อคืนพวกเขาได้รับชัยชนะเพราะอาศัยระเบิดระเบิดถูกใช้จนหมด ตอนเย็นจึงจำต้องสู้อย่างหนักหน่วงโดยไร้อาวุธเสริมจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ดี ตอนเย็นกลับมาพร้อมกับชัยชนะ ข้าจะปรึกษากับท่านเทพ มอบรองเท้ากีฬาให้คนละหนึ่งคู่เป็นรางวัล”“ขอบคุณท่านแม่ทัพ”พวกเขานำคนไปรับเสื้อเกราะกันกระสุนเวลาผ่านไปไม่นาน เสบียงอาหารสี่ล้านชั่งก็มาถึงเหล่าทหารได้ยินสี่ล้านชั่ง ครั้งนี้ช่างเป็นจำนวนมากมายมหาศาลยิ่งนัก มากกว่าครั้งที่แล้วเสียอีกแม่ทัพหลายคนดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ดวงตากลับแดงก่ำพวกเขามีชีวิตรอดจากสภาพที่หิวโหยเหลือเพียงลมหายใจโรยรินจนมาถึงวันที่โก
หลังจากที่จ้านเฉิงอิ้นตัดสินใจออกรบด้วยตนเอง เหล่าแม่ทัพก็กล่าวห้ามไม่ควรเกิดอุบัติเหตุใดกับจ้านเฉิงอิ้นหากเขาเสียชีวิต จะไม่มีผู้ใดติดต่อกับท่านเทพได้อีกสิ่งที่ท่านเทพมอบให้กองทัพตระกูลจ้านจะหยุดลงทันทีพวกเขาไม่อาจลงเดิมพันสิ่งนี้ได้!ตรงหว่างคิ้วของจ้านเฉิงอิ้นเผยความโอหังของวัยหนุ่ม“ข้าออกศึกตั้งแต่อายุสิบหก ร่วมรบในสงครามนับไม่ถ้วน”“และวันนี้พวกเราพึ่งได้เพียงระเบิด ในฐานะผู้นำทัพ ข้ายิ่งควรทำตัวให้เป็นแบบอย่าง”“ออกศึกฆ่าศัตรู ข้าจะหลบอยู่ข้างหลังได้อย่างไร!”“วางใจเถิด มีเสื้อเกราะกันกระสุนกับชุดเกราะ ข้าไม่เป็นอะไรแน่”ทุกคนยังอยากกล่อมห้าม เฉินอู่เฉินขุยจึงห้ามพวกเขาแม่ทัพมีประสบการณ์ออกรบมากกว่าของพวกเขานำมารวมกันอีก เขาคือหนิงกวนโหว บรรดาศักดิ์ได้มาด้วยผลงานการรบของตนเองต่อให้จำนวนคนต่างกันมาก~อาวุธล้ำหน้ากว่า เผ่าหมานไม่มีผู้นำทัพ กองทัพตระกูลจ้านก็จะไม่มีวันพ่ายแพ้“ขอรับ ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”เหล่าทหารคุกเข่าลง “ท่านแม่ทัพ พวกเราจะรอท่านกลับมาพร้อมกับชัยชนะ!”จ้านเฉิงอิ้นตะโกนสนั่นเสียง “ดี!”เขาเปลี่ยนเสื้อเกราะกันกระสุน
พลยิงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินสองสามคน คลานไปข้างหน้า เข้าใกล้หอสังเกตการณ์ช้า ๆชักคันหน้าไม้ ยิงทหารรักษาการณ์ที่ยืนอยู่ข้างบนหอสังเกตการณ์ตายกองทัพใหญ่เดินหน้าต่อ เมื่อใกล้จะเข้าใกล้ฐานที่ตั้งทัพเผ่าหมาน จ้านเฉิงอิ้นประกาศคำสั่ง “หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเตรียมพร้อม…”หน้าไม้ราชวงศ์ห้าพันคัน กองกำลังสองกองทัพแบ่งกองละสองพันห้าร้อยเล่มหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินตั้งครหน้าไม้ราชวงศ์ฉินขึ้นพร้อมกับวางปีกลูกธนูไว้สายจ้านเฉิงอิ้นประกาศดังลั่น “ยิงธนู!”สวบ ๆ ๆ…เสียงทะลวงอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนดังออกมา ปีกลูกธนูลอยอยู่ในอากาศอย่างหนาแน่นและมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของเผ่าหมานกระโจมที่คนเผ่าหมานปักหลักตั้งอยู่ ถูหลูกธนูยิงตรงผ่านเข้าสู่กระโจมราวกับเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีคนอาศัยทหารเผ่าหมานที่หลบอยู่ข้างในกระโจมชักดาบพุ่งออกมาวินาทีถัดมา ก็ถูกลูกธนูยิงทะลุทันที“ทหาร รีบเตรียมรบเร็วเข้า จ้านเฉิงอิ้นบุกเข้ามาแล้ว!”“ทุกคนจงตั้งรับการรบให้พร้อม!”“เร็ว รีบวิ่งเร็วเข้า จ้านเฉิงอิ้นบุกเข้ามาอีกแล้ว!”หลายคนถูกยิงตายทันทีที่ออกจากกระโจมคนอีกมากมายที่อยู่ในกระโจมวิ่งสวนกันไปมาราวแมลงวันไร้หัวพว
จ้านเฉิงอิ้นดีใจมาก ส่งกระดาษแผ่นที่สองมาแบ่งปันความสุขกับเธอ“เหอหง เฉินจวิ้นหลินไปทางประตูทิศใต้ พวกเขาแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยม เฉินจวิ้นหลินเข้าร่วมการรบครั้งแรก แต่ฆ่าศัตรูตายถึงสี่ร้อยกว่าคน เมื่อเทียบกับแม่ทัพเฉินอู่แล้ว ไม่น้อยหน้าเลย!”“ประตูทิศใต้ฆ่าตายทั้งหมดสองหมื่นห้าพันคน ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตายหนึ่งหมื่นห้า ถูกดาบม่อเตาฆ่าตายหนึ่งหมื่น ที่เหลือหนีไปได้ทั้งหมด”“ได้รับม้าศึกมีชีวิตหกร้อยตัว เนื้อม้านับไม่ถ้วน…”“กองทัพเผ่าหมานที่ตั้งค่ายอยู่ทางประตูทิศใต้และเหนือ ถูกพวกเรากำราบทั้งหมด!”“วันนี้ข้ารู้สึกมีความสุขและสนุกสุด ๆ ไม่ได้มีความสุขเช่นนี้มานานมากแล้ว”“ท่านเทพ ข้าขอขอบคุณท่านมาก!”เย่มู่มู่เองก็ดีใจมากเช่นกันหน้าไม้ราชวงศ์ฉินกับดาบม่อเตามีประโยชน์มากถึงขนาดนี้ จำนวนต่างกันมาก อาวุธยุทโธปกรณ์ดี จนฆ่าเผ่าหมานตายได้โดยไม่ต้องลงแรงเยอะวันนี้กองทัพตระกูลจ้านได้รับขวัญกำลังใจขึ้นมามากการต่อสู้สามครั้งนี้เป็นการวางรากฐานให้กับกองทัพตระกูลจ้านขณะเดียวกันก็เป็นการประกาศว่า กองทัพใหญ่ของเผ่าหมานกำลังจะถึงจุดสิ้นสุดถ้าหากพวกเขาฉลาดหน่อย ก็ควรรู้ตัวว่าต้อ
ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั
ด่านเจิ้นกวน...อันที่จริงจ้านเฉิงอิ้นหย่อนจดหมายไปสองฉบับฉบับหนึ่งเป็นเพียงแค่ผิวเผิน ให้ทหารขับรถกลับไปยังด่านเจิ้นกวน ส่งให้หลี่หยวนจงให้เขาอ่านออกมาต่อหน้าทุกคนผ่านการฝึกมาระยะหนึ่ง พวกอู๋ลี่หนึ่งแสนกว่าคน ก็มีท่าทางของทหารประจำการแล้วกลับกันกองกำลังหนึ่งแสนนายไม่ทราบมาจากที่ใดของสวีหวย กลับเกียจคร้านขึ้นเรื่อย ๆเนื่องจากกองกำลังหลักกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่พวกเขาไม่ยอมรับการอบรมของพวกหลี่หยวนจงและเปี้ยนจื่อผิงทว่าให้พวกเขาออกไปจากด่านเจิ้นกวน ออกไปจากสถานที่ที่มีอาหารและน้ำ พวกเขาก็ไม่มีผู้ใดยินดีขณะแจกจ่ายเสบียงทหารในทุกเดือน มาเร็วกว่าใครทั้งสิ้นตามแบบฉบับ ให้ผลประโยชน์เอาหมดให้ทำงาน ขอประทานโทษทำไม่เป็น!มิหนำซ้ำยังไม่ให้ความร่วมมืออีกด้วยอย่างเช่นวันนี้ หลี่หยวนจงอ่านจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นออกมาก็มีคนต่อต้านทันที รองแม่ทัพนามว่าเว่ยโจวรีบเป็นผู้นำคัดค้านขึ้นมา“พวกเราไปโจมตีเผ่าหมาน...ท่านแม่ทัพกำลังล้อเล่นอยู่หรือ?”“เราใช้ชีวิตกันอยู่ดี ๆ เหตุใดต้องไปรนหาที่ตายด้วย?”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าทัพใหญ่ของเผ่าหมานไม่อยู่ในอาณาเขตแคว้นฉี่ หากเข
เหล่าแม่ทัพทั้งหลายรู้สึกว่าเรื่องนี้เหลวไหลเกินไปอย่างน้อยเขาก็เป็นคนเมืองหลวงบนรถม้าก็ยังมีทหารผ่านศึกต่อให้พวกเขาจะไม่เอาไหนเพียงใด ก็ไม่ถึงขนาดหาทางกลับบ้านตัวเองไม่เจอจ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ครอบครัวในเมืองหลวงต้องอพยพก่อน ไม่ต้องพูดถึงมารดาและพี่รองของข้า ทั้งครอบครัวตระกูลเฉิน ครอบครัวของทหารผ่านศึกในเมืองหลวงอีกมากมาย!”“พวกเขาออกรบฆ่าศัตรู ก็เพื่อให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ได้มีชีวิตที่ดี!”“พวกเราไม่ได้ก่อกบฏ ฮ่องเต้น้อยวิกลจริต จะจับพ่อแม่ของพวกเขาไปแขวนคอบนกำแพงเมือง!”เมื่อจ้านเฉิงอิ้นกล่าวจบ เหล่าทหารทั้งหลายก็เงียบงันจริง ฮ่องเต้น้อยสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ทุกคนไม่ต้องท้อแท้ ได้ติดต่อกับเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงที่ด่านเจิ้นกวนไปแล้ว!”“ทันทีที่กองทัพแคว้นเยี่ยนของพวกเผ่าหมานปรากฏตัวในแคว้นต้าฉี่ เปี้ยนจื่อผิงจะนำทหารห้าหมื่นนาย บุกไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยน จัดการราชวงศ์และขุนนางของพวกเขาให้สิ้น!”“หลี่หยวนจงจะนำทัพบุกโจมตีม่อเป่ย แหล่งกำลังพลและที่อยู่ของราชวงศ์ของพวกเขา แล้วสังหารให้หมดอีกครั้ง!”“หากพวกเผ่าหมานแคว้นเยี่ยนไม่กลับไปป
จ้านเฉิงอิ้นมองดูกระดาษที่เย่มู่มู่ส่งกลับมา นางไม่เสียดายคำชมแก่หยางชิงเหอย้ำแล้วย้ำอีกว่า การที่พวกเขารั้งตัวหยางชิงเหอไว้ได้นั้น เป็นการได้เปรียบอย่างมหาศาลส่วนเครื่องมือนั้นที่ยาว ๆ ตรงๆ...กลับกลายเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นไม่เข้าใจ!ให้เฉินขุยและเฉินอู่ดู ทั้งสองหน้าแดงก่ำ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ไม่ยอมมองภาพวาดนั้นก็แค่ล้อสองล้อ กับเครื่องมือยาว ๆ ตรงๆท่านเทพบอกว่าเป็นอาวุธสังหาร!ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายตอบกลับของเย่มู่มู่ให้หยางชิงเหอดูหยางชิงเหอเห็นว่าเงินเดือนประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบห้าล้าน ก็หัวเราะออกมาทันที จนปากแทบจะฉีกถึงหู“ยี่สิบห้าล้าน ฮ่า ๆ ๆ... เงินซื้อบ้านของฉันรวมได้ครึ่งหนึ่งแล้ว!”เหล่าแม่ทัพได้ยินก็พากันอุทานราคาบ้านในโลกของท่านเทพ ช่างสูงลิบลิ่วเสียจริงข้าวสองล้านห้าแสนชั่ง ยังซื้อบ้านไม่ได้สักหลัง!เฉินขุยรู้สึกสงสารนางยิ่งนักก่อนตบอกตัวเองพร้อมกล่าวว่า “แม่นางหยาง ท่านแม่ทัพมีเงิน เดี๋ยวจะให้เครื่องประดับแก่เจ้าสักหน่อย เอาไปเถิด จะได้ครบเงินซื้อบ้าน!”เฉินอู่ก็กล่าวว่า “ข้าก็ยังมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่บ้
คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!
หยางชิงเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางหยุดฝีเท้ามู่ฉีซิวถึงกับจะร่วมมือกับฮ่องเต้ แคว้นเยี่ยน และเผ่าหมาน เพื่อปราบปรามจ้านเฉิงอิ้น...เรื่องนี้ช่างเหลวไหลสิ้นดีแต่ก็สมจริงอย่างยิ่งเป็นเรื่องที่มู่ฉีซิวสามารถทำได้เขาเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหากสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ตัวฉกาจที่สุดอย่างจ้านเฉิงอิ้นได้ ฆ่าให้ตายตั้งแต่ยังอยู่ในเปลไม่ต้องพูดถึงการร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย ต่อให้ต้องไปเป็นชายบำเรอของฮ่องเต้น้อย เขาก็คงจะยอมเขารู้ว่าในโลกนี้ เขาไม่ใช่ผู้ข้ามกาลเวลามาเพียงคนเดียวหยางชิงเหอก็ใช่จ้านเฉิงอิ้นก็ใช่~เขาเห็นโรงงานถลุงเหล็กที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ในใจคงจะหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมถึงได้ร่วมมือกับฮ่องเต้น้อย!เนื่องจากมีจดหมายลับส่งมา เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว จวงเหลียง เซี่ยเวย จ้าวเฉียน และคนอื่น ๆ...เมื่อได้รับข่าว ก็มายังเรือนพักชั่วคราวของจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายลับให้พวกเขาดูเฉินขุยอ่านก่อนเป็นคนแรกทันใดนั้น ความโกรธก็พุ่งขึ้นถึงกระหม่อม!“ข้าจะนำคนกลับเมืองหลวงเดี๋ยวนี้ ยิงไอ้สุนัขเนรคุณนั่นให้ตาย! ท่านแม่ทัพอุตส่าห์ช่วยเขาปราบปรามกองทัพธงเห
เขาส่งกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้เย่มู่มู่รายการสิ่งของที่หยางชิงเหอต้องการ ทั้งหมดถูกเขียนไว้อย่างครบถ้วนเย่มู่มู่ได้รับกระดาษแผ่นนั้น ก็เปิดออกดูดวงตาก็เบิกกว้าง“สายพานลำเลียงแร่...”ไม่เคยเห็นมาก่อน!“แม่พิมพ์ แม่พิมพ์สำหรับผลิตดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง!”เจ้าของโรงงานผลิตของเลียนแบบโบราณ จะเปิดเผยความลับทางการค้าให้เธอเหรอ?“เชือกลวดเหล็ก อะไรนะ? หลายพันเมตร?”เธอจะไปหาซื้อที่ไหน?“โรงไฟฟ้าดีเซลขนาดเล็ก...”ถ้าเธอมีของแบบนี้ จะต้องซื้อเครื่องปั่นไฟทำไม?“สายไฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ตัวต้านทานไฟฟ้า อุปกรณ์ต่อสาย ท่ออ่อน...”ของพวกนี้ดูเหมือนจะหาซื้อได้ตามท้องตลาด!และหยางชิงเหอก็ได้วาดภาพให้เย่มู่มู่ดูเป็นภาพการขนแร่ลงมาจากยอดเขาใช้ปั้นจั่นหอสูงขนส่งแร่ลงมาทีละตะกร้ายังมีอีกวิธีหนึ่ง คือการขึงเชือกลวดเหล็กไว้บนยอดเขา ใช้รอก และกระบะเลื่อนลงมาจากด้านบนวิธีนี้ยังพอเป็นไปได้มากกว่าปั้นจั่นหอสูง ถึงแม้จะสามารถขนส่งสิ่งของได้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ในลักษณะนี้เธอทำเครื่องหมายถูกที่แผนการที่สอง แล้วส่งภาพวาดกลับไปให้จ้านเฉิงอิ้น“แผนการที่สอง ข้าจะหาคนไปทำ!”“จริงสิ หยางชิงเหอไม่ได้บอก
จ้านเฉิงอิ้นก็ตกตะลึงกับราคาบ้านที่หยางชิงเหอพูดถึงเช่นกันไม่คิดว่าโลกของท่านเทพ ราคาบ้านจะสูงลิ่วเช่นนี้หากเขาย้ายไปอยู่ที่นั่น แล้วซื้อบ้านไม่ได้เล่า?เขาจะไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอนท่านเทพจะยังคบหากับเขาอยู่หรือไม่?ไม่ได้ เขาต้องเก็บเงินส่วนตัวไว้บ้าง จะได้ซื้อบ้านได้จะย้ายไปแล้วกลายเป็นคนเร่ร่อน เดินเตร็ดเตร่อยู่ตามถนนไม่ได้เด็ดขาด!เขากล่าวว่า “ได้ หากเจ้าตกลงจะอยู่ต่อหนึ่งปี ข้าจะบอกท่านเทพให้เงินเดือนปีละสิบห้าล้านให้เจ้า! พร้อมทั้งสวัสดิการห้าอย่าง”“หากภายในหนึ่งปีเจ้าทำได้ดี ข้าจะให้รางวัลพิเศษเป็นทองคำหนึ่งหีบ”หยางชิงเหอได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่งสิบห้าล้าน แถมด้วยทองคำอีกหนึ่งหีบฮ่า ฮ่า ฮ่า รวยแล้ว!แค่ปีเดียวเอง เธอทำงานให้กับมู่ฉีซิวมาสิบปี มู่ฉีซิวไม่เคยให้สิ่งใดตอบแทนเลยสักอย่างเงินเก็บที่เธอสะสมได้มาจากการทำลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งขาย ให้เสี่ยวเถาแอบนำไปขาย ถึงได้เงินมาบ้างแต่ลิปบาล์มดอกไม้และน้ำผึ้งก็ถูกมู่ฉีซิวค้นพบอย่างรวดเร็ว เขาข่มขู่ให้เธอมอบสูตรให้ และยังห้ามไม่ให้เธอขายข้างนอกอีก เพราะจะไปรบกวนราคาตลาดของเขาและยังสัญญาว่าจะแบ่งผลก
เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยระดับ 985 ผ่านไป 10 ปี ไม่รู้ว่าความสามารถในการแข่งขันในตลาดยังคงมีอยู่หรือไม่มิเช่นนั้น เธอคงต้องหารายได้สักหน่อยก่อนกลับไปถ้าไม่ได้จริง ๆ คงต้องนำวัตถุโบราณไปขายจะกลับไปยุคปัจจุบันมือเปล่าไม่ได้เด็ดขาดมิฉะนั้น สิบปีของวัยสาวจะสูญเปล่า เงินเก็บก็ไม่มี บ้านก็ซื้อไม่ได้ ข้าวก็ไม่มีจะกินแล้วจะกลับไปทำไมกัน!ถ้าเกิดพ่อแม่ถามขึ้นมาว่า สิบปีที่ผ่านมาเธอหายไปไหนจะตอบอย่างไร?เธอพูดกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นว่าในคลังยังมีแม่พิมพ์เก่าอยู่ หากจะสร้างใหม่คงจะยุ่งยาก แต่ข้าสามารถสอนพวกท่านลับแม่พิมพ์ได้!”“แม่พิมพ์นั้นแข็งมาก แม้แต่ในยุคปัจจุบัน ยังต้องใช้เครื่องจักรกลในการผลิต!”“ข้าจะช่วยพวกท่านสร้างแม่พิมพ์หัวลูกศรของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ท่านจะให้เงินข้าสักหน่อยได้หรือไม่ ข้าจะได้เลื่อนเวลากลับไปอีกสักสองสามวัน!”เหล่าแม่ทัพต่างเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความนัยเดิมทีพวกเขาอยากจะรั้งตัวแม่นางหยางไว้สักระยะหนึ่งแต่เมื่อได้เอ่ยปากสัญญาว่าจะส่งนางกลับในตอนค่ำไปแล้วตอนนี้เมื่อภารกิจสำเร็จลุล่วง พวกเขาก็ไม่อาจกลับคำพูดได้ตอนนี้แม่นางหยางเอ่ยปา