Share

บทที่ 57

Author: มู่โร่ว
เสียงเคาะประตูที่สร้างความรำคาญใจ ทำให้เย่มู่มู่โทรหาผู้จัดการนิติบุคคล

“ทำไมพวกคุณถึงปล่อยให้เขาเข้ามาได้?”

ผู้จัดการนิติบุคคลเองก็ลำบากใจ “คุณหนูเย่ คุณยายท่านนั้นสร้างปัญหามากจริง ๆ ครั้งก่อนที่คุณขับรถทำให้เธอตกใจจนล้มลง เธอนอนอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกและไม่ยอมไปไหน”

“เธอจอดรถขวางหน้าประตูทางเข้าบ้านของเจ้าของบ้านคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน จนทุกคนหมดหนทางแล้วจริง ๆ พอโทรเรียกรถพยาบาลมารับเธอ เธอก็ไม่ยอมขึ้นรถพยาบาล”

“เธอร้องไห้โวยวายอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน บอกว่าพ่อของคุณอกตัญญู บอกว่าคุณขับรถชนย่าของตัวเองจนเสียชีวิตแล้วหนีไป”

“เราตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นว่าไม้เท้าของเธอชนรถของคุณก่อน คุณแค่ขู่เธอเท่านั้น แล้วรถก็ไม่ได้โดนตัวเธอเลย เธอล้มเองด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังฉวยโอกาสเรียกร้องค่าเสียหาย”

“เจ้าของบ้านที่โมโหโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจเลยพาตัวเธอไป”

เดิมทีผู้จัดการนิติบุคคลคิดว่าเธอไปแล้ว เรื่องก็น่าจะสงบลงได้แล้ว

แต่ปรากฏว่าสองวันต่อมา เธอพานักข่าวมาหาเย่มู่มู่อีก

ถ้ามีเหตุผลก็แจ้งความ ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไกล่เกลี่ย แต่ถ้าไร้ศีลธรรมก็พานักข่าวมา...

ยายเฒ่าคนนี้ทำให้ผู้จัดการนิ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 58

    “มีหลักฐานการกู้ยืมหรือเปล่าครับ?” “มีค่ะ ตอนเซ็นเอกสารก็ถ่ายวิดีโอไว้ด้วย” “ดีเลยครับ คุณมอบอำนาจให้สำนักงานทนายความดำเนินการแทนคุณทั้งหมดในการทวงถามเงินที่ให้ยืมคืนมา หรือฟ้องร้องเลยครับ?”“ฟ้องร้องเลยค่ะ พวกคุณคงทวงเงินคืนได้ยาก”เย่มู่มู่ถ่ายรูปเอกสารการกู้ยืมและคัดลอกวิดีโอชุดหนึ่งส่งให้ทนาย แล้วมอบหมายให้สำนักงานทนายความจัดการทั้งหมดเมื่อทนายสวีเห็นยอดเงินกู้ยืมสามร้อยล้านบาท ก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก เขาจึงยืนยันว่าจะช่วยเธอทวงเงินคืนให้ได้หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เย่มู่มู่ก็เตรียมกล่องใบใหญ่หนึ่งใบ และกล่องเครื่องประดับอีกสามกล่องเธอหาถุงกันฝุ่นและผ้าเช็ดมาทำความสะอาดของมีค่าทุกชิ้นหลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้ว เธอก็ใช้ถุงกันฝุ่นปิดผนึกไว้ ใส่ลงไปในกล่องหนังเครื่องประดับพวกนี้ทั้งหมดรวมกันแล้วเต็มกล่องใหญ่สองใบ และเธอเก็บไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินเหลือไว้เพียงจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์สีสันสดใสใบหนึ่งเธอถ่ายรูปจานกระเบื้องเคลือบและส่งไปให้ผู้อาวุโสมู่ณ เวลาสี่ทุ่มครึ่ง เธอคิดว่าผู้อาวุโสมู่คงจะพักผ่อนแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้อาวุโสมู่กลับวิดี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 59

    ผู้อาวุโสมู่ชื่นชอบจานกระเบื้องเคลือบลายหงส์จริง ๆ จึงรีบโอนเงินมาให้ทันทีเธอยอมขายให้ ผู้อาวุโสมู่จะมารับที่บ้านในวันพรุ่งนี้ตอนสิบโมงเช้าหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็เตรียมเครื่องปั๊มน้ำ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นฉบับหนึ่ง “ฉันถามนักประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง เขาบอกว่าประวัติศาสตร์บันทึกว่าเจ้าจะตายในสนามรบที่ด่านเจิ้นกวน”“ด่านเจิ้นกวนจะถูกตีแตกจากการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานสามฝ่าย”“เจ้าถูกทหารจากแคว้นฉีรุมฆ่าจนเสียชีวิต” “จ้านเฉิงอิ้น ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดชีวิตไปได้ และต้องระวังการร่วมมือของแคว้นฉู่ แคว้นฉี และเผ่าหมานด้วยนะ”ด้วยความกังวลใจ เธอจึงใส่กระดาษลงในแจกันดอกไม้*ที่ชายแดน ในกระโจมของค่ายเผ่าหมาน หลัวเก๋อกำลังโมโหใส่เหล่านายทหาร“ม้าศึกสองพันตัววิ่งหายไป ทหารสามพันกว่านายถูกเหยียบตายไปหลายร้อยคน…”“พวกเจ้ายังไม่รู้หรือว่าเป็นฝีมือใคร? จับไม่ได้กระทั่งเงา”“พวกเจ้านี่มันไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์สิ้นดี…”หลัวเก๋อขว้างกาน้ำชาบนโต๊ะใส่นายทหารคนหนึ่งซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าอย่างแรง จนเกิดรอยช้ำเลือดบนหน้าผากของเขาทุกคนหมอบลง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 60

    ดวงตาของเขาเย็นชา แต่ยังคงก้มหน้าลงโดยไม่แสดงอารมณ์เมื่อทหารออกไปแล้ว หลัวเก๋อก็สั่งว่า “เตรียมอาวุธและแต่งกายให้พร้อม ไปสนับสนุนทั้งทางใต้และทางเหนือของเมือง…”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”กองทัพหลักมีจำนวนหนึ่งแสนห้าหมื่นนายที่ประตูเมืองทางตะวันตก ทางใต้ และทางเหนือ มีกองทัพปักหลักประจำกการอยู่ที่ละห้าหมื่นนายทหารห้าหมื่นนายสู้กับทหารสองหมื่นนายของจ้านเฉิงอิ้น อย่างไรเสียก็ต้องชนะอย่างแน่นอน ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้?หลัวเก๋อนำกำลังทหารจำนวนมากไปช่วยเสริมกำลัง* ณ ด่านเจิ้นกวน บนกำแพงเมืองจ้านเฉิงอิ้นมองไปทางกองทัพเผ่าหมานสงครามกองโจรได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเฉินขุย เฉินอู่ อู๋ซานหลาง และเปี้ยนจื่อผิงพาคนจำนวนสามพันนายออกไปสองทาง โดยสวมชุดเกราะและนำประทัดกับระเบิดมุ่งหน้ามายังฐานที่ตั้งของทัพเผ่าหมานเผ่าทั้งทางทิศใต้และทิศเหนือเวลาเที่ยงคืนพอดี เป็นช่วงเวลาที่คนหลับลึกที่สุดเขายืนอยู่บนหอประตูเมือง มองไปยังตำแหน่งของกระโจมในค่ายเผ่าหมานการระเบิดคอกม้าทางใต้และทางเหนือเป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น เพื่อทำให้ศัตรูตกหลุมพรางที่ตนวางไว้เป้าหมายของจ้านเฉิงอิ้นตั้งแต่ต้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 61

    หลัวเก๋อถูกระเบิดจริง!น่าเสียดายที่คร่าชีวิตเขาไม่ได้ม้าศึกของเขาตัวใหญ่นัก บังระเบิดส่วนใหญ่ไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บแต่ขาทั้งสองข้างของเขาถูกระเบิดจนพิการนับแต่นั้น หลัวเก๋อกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ เนื่องจากผู้นำทัพได้รับบาดเจ็บสาหัส ขวัญกำลังใจของทหารกองหนุนเผ่าหมานพลันดับสูญ ฝ่ายของพวกเขาถูกระเบิดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก จึงถอยทัพอย่างต่อเนื่องระเบิดทำให้ม้าตกใจยากควบคุม มันแบกทหารบนหลังหนีเตลิด วิ่งเข้าสู่ส่วนลึกของทุ่งหญ้า ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งอีกต่อไปเดิมกองทัพเผ่าหมานก็หย่อนยานอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งสับสนอลหม่านสิ้นดีเฉินขุยและเปี้ยนจื่อผิงรีบนำทหารสามพันนายออกจากจุดซุ่มโจมตี“บุกสังหาร เหล่านักรบ จงสังหารเผ่าหมานให้ราบ พิทักษ์ต้าฉี่ของเรา!”“ตัดได้หนึ่งศีรษะ แลกรางวัลข้าวสารสิบชั่ง บะหมี่ห้าชั่ง...พี่น้องทั้งหลาย จงบดขยี้พวกมันกับข้า พวกมันล้วนเป็นแค่เศษสวะ!”กองทัพตระกูลจ้านฮึกเหิม เดือดพล่านสุดขีดทหารที่สวมชุดเกราะหนัก ถือดาบม่อเตาเป็นผู้นำรบออกหน้า วิ่งปรี่ไปยังค่ายศัตรูตามด้วยลูกศรของหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน เสริมด้วยธนูและศรปิดท้ายด้วยการโจมตีซ้ำจากนายทหารน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 62

    ต่อให้เป็นก่อนถูกล้อมเอาไว้ในเมือง พวกเขาก็ไม่เคยมีชีวิตที่ดีขนาดนี้บัดนี้ กองทัพตระกูลจ้านชนะศึกกลับมา พวกเขาราวกับได้เห็นชีวิตดี ๆ กำลังกวักมือเรียกเหล่าชาวบ้านมีน้ำตาอุ่นร้อนคลอหน่วยทหารที่ยังไม่ได้ออกจากเมืองไปสู้รบ รวมทั้งทหารใหม่ ล้วนอยากจะเข้าสู่สมรภูมิไปคร่าศัตรูฆ่าเผ่าหมานหนึ่งคน แลกข้าวสารสิบชั่ง และบะหมี่ห้าชั่ง อาหารจำนวนนี้สามารถเลี้ยงหนึ่งครอบครัวได้หนึ่งเดือน หากประหยัดโดยการต้มโจ๊ก จะอยู่ได้หนึ่งเดือนครึ่งพวกเขาไม่หวั่นไหวก็คงจะแปลกโดยเฉพาะทหารใหม่ ที่เข้าร่วมกองทัพเพื่อรับข้าวสารสี่ชั่งและบะหมี่หนึ่งชั่งต่อเดือนตอนนี้เห็นเสบียงทหารจำนวนมากกองอยู่ตรงหน้า พวกเขาแทบอยากจะลงสนามรบเดี๋ยวนี้เลย“แม่ทัพเฉินขุย สังหารข้าศึกไปทั้งสิ้นสองร้อยสี่สิบราย ได้รับข้าวสารสองพันสี่ร้อยชั่ง บะหมี่หนึ่งพันสองร้อยชั่ง” ทหารชั้นผู้ช่วยของเฉินขุย ผู้ติดตาม องครักษ์...ล้วนอาศัยอยู่ในจวนของเฉินขุยเมื่อรวมส่วนของคนเหล่านี้ คิดเป็นรางวัลข้าวสารห้าพันชั่ง บะหมี่อีกกว่าสองพันชั่งพวกเขายินดีปรีดาอยู่ที่หน้าแถวสุด แบกกระสอบอาหารไว้บนหลัง แล้วเดินไปที่จวนแม่ทัพเฉินขุยอย่างชื่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 63

    เขาพูดต่อ “ท่านแม่ทัพ ข้าเห็นหลัวเก๋อถูกแรงระเบิดพลัดจากหลังม้า ป่านนี้เขาน่าจะตายไปแล้ว”เหล่านายทหารมองไปที่เฉินอู่เป็นตาเดียวดวงตาตกตะลึง ประหลาดใจและเหลือเชื่อ!หลัวเก๋อถูกระเบิดจริงหรือ?แม้แต่มั่วฝานคนเคร่งขรึมยังถามเขาว่า “เจ้าแน่ใจหรือ? เขาเป็นน้องชายร่วมสายเลือดของม่อเป่ยอ๋อง ราชสำนักม่อเป่ยไว้วางใจเขามาก จึงมอบกองกำลังสามแสนนายให้เขาบุกโจมตีเมืองนี้” “ข้าแน่ใจ เพราะข้าจับตาดูเขาอยู่ตลอด ทั้งตั้งคันธนูและศร จุดน้ำมันตะเกียง ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ข้าก็ยิงธนูจุดระเบิดที่ใต้เกือกม้าของเขา”“เป็นไปตามคาด เขาถูกระเบิดคนแรก ตามด้วยคนที่อยู่ข้างหลังเขา ทหารม้าเผ่าหมานจำนวนหนึ่งถูกระเบิด ทั้งคนและม้าล้มตายอลหม่าน!” เฉินอู่ยิ้มภูมิใจจนเห็นฟันซี่ใหญ่ “ข้ากล้ายืนยันว่าเขาตายแล้ว หรือต่อให้ไม่ตาย ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส” “ระเบิดที่ท่านเทพมอบให้นั้นมีประโยชน์มาก วันนี้เราสังหารทหารเผ่าหมานได้สี่หมื่นนาย สามหมื่นในนั้นตายเพราะแรงระเบิด นี่คือข้อได้เปรียบของพวกเรา”“ท่านแม่ทัพ ขอระเบิดจากท่านเทพเพิ่มได้หรือไม่? ระเบิดนี้เป็นกุญแจสำคัญให้กองทัพเราชนะโดยสูญเสียน้อยลง” จ้านเฉิงอิ้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 64

    วันนี้ผู้อาวุโสมู่พาลูกศิษย์มาด้วยสองคน ยังดูวัยรุ่นกันอยู่ผู้อาวุโสมู่เห็นเย่มู่มู่ผมฟู อยู่ในชุดนอน ดูยังไม่ตื่นเต็มตา “ผมมาเช้าไปหน่อย เมื่อคืนคุณนอนดึกเหรอครับ?”เย่มู่มู่หาวหวอด “ฉันนอนดึกไปหน่อย ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ” ยากที่จะเห็นผู้อาวุโสมู่แต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการ กวาดตามองสวนของบ้านเย่มู่มู่ มันเต็มไปด้วยวัชพืช กุหลาบไม่ได้ลิดกิ่ง อดบ่นเหมือนคนแก่ไม่ได้ “ทำไมไม่ดูแลสวนเลย ดูสิต้นหญ้าสูงกว่าดอกไม้หมดแล้ว”“ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลาเลยค่ะ”เธอเชิญผู้อาวุโสมู่เข้ามาในห้องรับแขก จากนั้นก็เดินขึ้นชั้นบนเพื่อหยิบจานกระเบื้องลงมาชั้นล่าง ผู้อาวุโสมู่และลูกศิษย์ทั้งสองกำลังนั่งยอง ๆ อยู่หน้าแจกัน เพื่อศึกษาผู้อาวุโสมู่ถือแว่นขยายอยู่ด้วยเย่มู่มู่แอบพึมพำ “ซวยแล้ว ลืมซ่อนแจกันจนได้”เธอยกจานกระเบื้องลงมาที่ชั้นหนึ่ง ผู้อาวุโสมู่ถามว่า “คุณจะขายแจกันใบนี้ไหมครับ?”เย่มู่มู่ตอบ “ไม่ขายค่ะ มันเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ ฉันจะไม่ขายมันเด็ดขาด”ผู้อาวุโสมู่มองเธอด้วยรอยยิ้มเหมือนไม่ยิ้มไม่ขายมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษอะไรกัน แต่ของโบราณหลายชิ้นที่เธอขายยังวางอยู่ที่บ้านเขา ช

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 65

    เย่มู่มู่ดีใจมากสังหารทหารเผ่าหมานห้าหมื่นนายภายในวันเดียว เช่นนั้นสามแสนนาย ยังเกินเอื้อมอยู่หรือ?“ท่านเทพ ครั้งนี้สามารถชนะได้ เพราะวัตถุระเบิดที่ท่านมอบให้ ทว่าศึกครั้งที่สองนี้ใช้วัตถุระเบิดเกือบหมด ท่านช่วยส่งมาเพิ่มอีกหน่อยเถิด ข้าจะไม่ใช้ให้สูญเปล่า” “มั่วฝานขอมอบเครื่องประดับหนึ่งกล่อง แลกกับวัตถุระเบิดของท่าน” กล่องไม้แกะสลักและเคลือบเงาสีแดงขนาดใหญ่ใบหนึ่งปรากฏตรงหน้าเย่มู่มู่กล่องขนาดใหญ่กว่าสามกล่องเล็กที่อยู่ในลังใหญ่ที่ได้รับเมื่อวานนี้เธอรีบเปิดมันด้วยความตื่นเต้น ภายในกล่องมีเครื่องประดับหลากหลายชนิด ทั้งทองและหยก...มีชุดเครื่องกระเบื้องเคลือบลายหงส์ครบชุดด้วยจานมีสามใบ ว่างไปหนึ่งช่อง นั่นคือจานใบที่ผู้อาวุโสมู่ซื้อไปแล้ว ชามเล็กสี่ใบ ตะเกียบทองสลักลายสี่คู่ ช้อนทองสองคัน และชามทะเลทองสองใบปิ่นระย้าประดับหงส์คาบหยกหนึ่งอัน กำไลทองประดับอัญมณีหนึ่งคู่ สร้อยคอทองคำประดับทับทิมและอัญมณีสีส้มแดงหนึ่งเส้น...มีอีกมากมาย ล้วนวางเป็นระเบียบเรียบร้อยสมบัติแต่ละชิ้นในกล่องนี้ล้วนถูกสลักด้วยคำว่าของขวัญพระราชทานในราชวงศ์เครื่องประดับบางชิ้นที่สลักลายหงส์

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 576

    กระบอกไม้ไผ่สิบกว่าอัน ใหญ่กว่าที่ทำเมื่อวานหนึ่งเท่าหยางชิงเหอเห็น ก็เป็นกังวลเล็กน้อย“ไม่แน่ว่าจะใส่หน้าไม้ราชวงศ์ได้!”หวังเซิ่งกล่าว “ข้าขอลองหน่อย!”เขาใช้สายสองเส้นตรึงกระบอกไม้ไผ่ก่อนยิงออกไป ดึงสายจุดไฟ...ครั้นยิงหน้าไม้ออกไป...มู่ฉีซิว เยี่ยนซวี่ แม่ทัพลั่ว หลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องทุกคนอยู่หน้าสุดของกองกำลังพวกเขาเพิ่งเดินมาถึงใต้หุบเขาแห่งหนึ่ง...ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอึกทึกดังตูมเสียงหนึ่งจู่ ๆ บนยอดเขาก็มีเสียงระเบิดดังอึกทึกหลังจากนั้น ม้าก็อยากวิ่งหนีไปทุกทิศทุกทาง ราวกับตกใจทว่าวินาทีถัดมา ก็มีหินก้อนมหึมากลิ้งตกลงมาจากบนยอดเขาเนื่องจากหลุมลึกที่เกิดจากการระเบิด ทำให้หินผุกร่อนกลิ้งตกลงมาอย่างต่อเนื่องม้าของทหารม้าด้านหน้า วิ่งเตลิดไปคนละทิศคนละทาง เหยียบทหารไปไม่น้อยส่วนทหารที่อยู่เบื้องหลัง ครั้นเห็นดังนั้นก็รีบถอยหลังคนที่อยู่ด้านหน้าถอยหลัง คนที่อยู่ด้านหลังเบียดไปด้านหน้า การเดินหน้าของทัพใหญ่พลันเข้าสู่การชะงักหลัวซู่ม่อเป่ยอ๋องรีบรั้งบังเหียน พร้อมตะโกน “ทุกคนทำให้ม้าสงบ สงบสติ...”เมื่อเยี่ยนซวี่ได้ยินเสียงแสนคุ้นเคยนี้ สีหน้าก็ซีดเผือด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 575

    จ้านเฉิงอิ้นและเหล่าผู้นำ ทั้งหมดต่างยืนอยู่บนสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุด ใช้กล้องส่องทางไกลมองไปพื้นที่ราบใต้ยอดเขาสองสามแห่ง เต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัดทัพใหญ่เจ็ดแสนนาย ยาวเหยียดเป็นกิโลเมตร มองไม่เห็นที่สิ้นสุดพวกเขาล้วนสวมชุดเกราะ มือถืออาวุธ บุกโจมตีเข้ามาทางฐานที่มั่นของกองทัพตระกูลจ้านส่วนกองทัพตระกูลจ้านที่เมื่อคืนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน และพวกชาวบ้าน ทุกคนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงอึกทึกพวกเขาเพิ่งนอนได้ยังไม่ถึงสองชั่วยาม เบิกตาสะลึมสะลือพลางลนลานสวมชุดเกราะ พกอาวุธติดตัว และถูกผลักไปบนสนามรบอันโหดร้ายทั้งอย่างนี้หยางชิงเหอคิดไม่ถึงว่า มู่ฉีซิวจะบุกโจมตีเข้ามาจริง ๆคนของเขาต้องยังไม่ถึงเมืองหลวงเป็นแน่ก้าวนี้ของเขา เป็นการเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจนจ้านเฉิงอิ้นมองทัพศัตรูที่ทอดสายตามองไปไม่เห็นจุดสิ้นสุด พลางถามหยางชิงเหอ “เจ้าบอกว่า เมื่อมู่ฉีซิวเห็นกระบอกเหล็กเหล่านี้จะถอยทัพ!”หยางชิงเหอพยักหน้า “ใช่!”“หากเป็นเมื่อวาน มีความเป็นไปได้เพียงหกส่วน เช่นนั้นวันนี้มีความเป็นไปได้เก้าส่วนที่จะถอยทัพ!”เนื่องจากทัพกองกำลังหลักของมู่ฉีซิวไม่ได้มา กำลังอยู่ระหว่างทางไปเมืองห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 574

    “ขอรับ ท่านแม่ทัพ ข้าคลุกคลีอยู่กับกองทัพธงเหลืองมากที่สุด ในค่ายทหารเลื่อนขั้นเร็วที่สุด พวกเขาเป็นล่อหรือเป็นม้า ในใจข้ารู้ดีที่สุด”เมื่อเป็นเช่นนี้ จ้านเฉิงอิ้นจึงกล่าวว่า “เฉินอู่ หวังเซิ่ง ฟังคำสั่ง พวกเจ้าสองคนนำทหารผ่านศึกห้าหมื่นนาย นั่งรถไปห้าร้อยคัน ด้านล่างบรรทุกสิ่งของและยุทธภัณฑ์ ด้านบนให้คนนั่ง สกัดกั้นกองทัพธงเหลืองให้ได้!”“หากวันนี้พวกเขาไม่โจมตีเมือง คืนนี้ก็คุ้มกันพวกเจ้าออกเดินทาง!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”เฉินขุยกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย “แต่ว่าท่านแม่ทัพ เราเพิ่งจะมีรถเพียงสองร้อยคันเท่านั้น!”“ท่านเทพบอกไว้ว่าจะส่งมาคืนนี้...”ครั้นสิ้นเสียง ก็มีกระดาษขาวใบหนึ่งลอยลงมาจากปากแจกันเถียนฉินหยิบขึ้นมาส่งให้จ้านเฉิงอิ้นเห็นเพียงในนั้นเขียนไว้ว่า “จ้านเฉิงอิ้น ส่งรถบรรทุกที่เหลือสามร้อยคันไปแล้ว”“รถบรรทุกน้ำมันหามาได้แค่ยี่สิบคัน ประหยัดหน่อยนะ!”“อีกยี่สิบนาทีจะส่งมา!”จ้านเฉิงอิ้นพลันฉีกยิ้มดูสิ ท่านเทพไม่มีทางผิดคำพูดเป็นอันขาดหยางชิงเหอมองกระดาษแผ่นนั้นทีหนึ่ง ก่อนจะพึมพำขึ้นมาประโยคหนึ่ง “คุณหนูเย่ผู้นี้ ช่างดีกับท่านแม่ทัพใหญ่ยิ่งนัก!”เมื่อมั่วฝานได

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 573

    มู่ฉีซิวฉีกยิ้มพลางทำท่าคารวะ “คำยินดีของเยี่ยนอ๋อง ข้ารับไว้ก่อนแล้ว!”“ฉะนั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องแตกหักกับม่อเป่ยอ๋องเลย มา ข้าจะไปไกล่เกลี่ยให้ ท่านกับม่อเป่ยอ๋องยิ้มแย้มให้กันความขุ่นเคืองก็ลืมมันไปเถิด!”มู่ฉีซิวกล่าวจบ ก็โน้มน้าวเยี่ยนซวี่กลับไปแต่เยี่ยนซวี่ไม่กระดุกกระดิก กลับกันยังถามเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอีกด้วย“เจ้าจะยังโจมตีจ้านเฉิงอิ้นหรือไม่?”“โจมตี โจมตีอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะอุตส่าห์ตรากตรำเชิญทุกท่านมาที่นี่ทำไม!”เยี่ยวซวี่ถึงถูกมู่ฉีซิวโน้มน้าวกลับไปพวกเขาเข้าไปในกระโจม อากาศยานไร้คนขับไม่สามารถถ่ายภาพต่อจากนี้ได้ มองอะไรไม่เห็นหลังภาพตัดไป ทหารทุกนายก็พากันเงียบพวกเขาไม่เคยเห็นลูกศิษย์ที่ไร้ยางอายและโหดเหี้ยมเช่นมู่ฉีซิวเช่นนี้มาก่อน!หยางชิงเหอที่เพิ่งได้รับตำแหน่งแม่ทัพเงียบไปอยู่นานสองนาน จู่ ๆ ก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า“ทุกคนเห็นชัดกันแล้วว่ามู่ฉีซิวเป็นคนเช่นไร!”“สำหรับเขาแล้ว การโจมตีกองทัพตระกูลจ้านมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย จึงตั้งทัพร่วมกับเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยและแคว้นเยี่ยนรุมโจมตีกองทัพตระกูลจ้าน”“แต่เขาก็ยังมีวิธีเล่นอย่างที่สอง หากแพ้ขึ้นมา! เขาย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 572

    “ฉันรับของไว้แล้ว แล้วเจอกันค่ะ!”ทั้งสองคนไปส่งเวินลี่กลับที่หน้าประตู ทว่าไม่ได้ย่างเท้าออกจากคฤหาสน์เวินลี่ทองสองหนุ่มจากกระจกมองหลัง ไม่รู้ว่าคุณหนูเย่ไปหาบอดี้การ์ดมาจากไหนอายุยังน้อย แถมยังจงรักภักดีมากทีเดียว!*ต้าฉี่ ภูเขาเหมืองฟ้าสว่างแล้ว ชาวบ้านทั้งเมืองทำงานกันทั้งคืนตอนนี้ บนกำแพงเมืองมีปืนใหญ่วางเรียงรายอยู่เป็นหน้าตับแน่นอนว่า ล้วนเป็นปืนใหญ่ของปลอมที่ทำกันทั้งคืน!บรรดาชาวบ้านและทหารเองก็ไม่รู้ว่ามีประโยชน์อันใดเพียงแค่ขนย้ายขึ้นไป พวกเขาก็สูญเสียพละกำลังไปมหาศาลแล้วขนย้ายทั้งคืน ชาวบ้านล้วนเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดตอนนี้ไปนอนกันหมดแล้วโจ๊กที่พ่อครัวต้มตอนเช้า ไม่มีใครกินเลยสักคนผู้ชายไม่น้อยนอนแผ่กับพื้นโดยตรงกระทั่งพวกเฉินขุยเฉินอู่ ล้อมปืนใหญ่กระบอกหนึ่งพลางขบคิดเฉินขุยค้อมตัวลงพลางมองยางรถเปล่า!“ยางรถนี่อ่อนนุ่มนิ่ม เดิมทีประคองท่อเหล็กไม่ไหวอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะชั้นตรงกลาง ยางรถก็ยุ่ยไปนานแล้ว”เฉินอู่ลูบคาง “ข้ามองไม่ออกจริง ๆ ว่าเจ้าสิ่งนี้มีประโยชน์อะไร?”ทั้งสองคนมองไปที่จวงเหลียงผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมจวงเหลียงหมดคำพูด มือเขาสัม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 571

    แม่ทัพเฉินขุยยกนิ้วให้ “แม่นางหยางโดดเด่นในหมู่สตรี ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก!”เฉินอู่กล่าวขึ้นอย่างเบิกบาน “แม่นางหยางคือสตรีที่อึดถึกที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา หากเจ้าเป็นบุรุษ คงได้ลงสนามรบเข่นฆ่าศัตรูกับเราสองพี่น้องแน่!”ทว่าจวงเหลียงกลับกล่าวว่า “แม่นางหยางเป็นสตรีแล้วอย่างไร นางได้เป็นแม่ทัพ ทุกเรื่องที่นางทำ ทุกพิมพ์เขียวที่วาด ล้วนต้านทานกองทัพมหึมาได้ทั้งสิ้น!”จ้านเฉิงอิ้นคิดไม่ถึงว่าหยางชิงเหอจะกล่าวคำพูดฮึกเหิมและกล้าหาญออกมาได้เขาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “แม่นางหยาง แม้จะบอกว่าเจ้าใช้เวลาเพียงหนึ่งปี แต่เจ้าได้รับตำแหน่งแม่ทัพ...”“ข้าจะออกคำสั่งแต่งตั้งเจ้าเป็นแม่ทัพ เบื้องล่างบัญชาการหนึ่งหมื่นคน เป็นเช่นไร?”หยางชิงเหอรีบปฏิเสธ “ไม่ละ ข้ายังอยากกลับบ้าน ภายในหนึ่งปีข้าจะพยายามช่วยกองทัพตระกูลจ้านอย่างสุดความสามารถ แต่ข้าไม่ต้องการตำแหน่ง”จวงเหลียงกล่าวด้วยความเสียดาย “พวกข้าเข้ารับตำแหน่งยากลำบาก แม่นางหยางทิ้งโอกาสดี ๆ เช่นนี้น่าเสียดายยิ่งนัก บางทีเจ้าอาจไม่รู้ หากเป็นแม่ทัพจะมีเบี้ยหวัด มีศักดินา...”“ศึกใหญ่ได้รับชัยชนะ ก็จะได้ตบรางวัลเป็นพวกแก้วแหวนเงินทอง...”ครั้นหยา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 570

    บางทีคนอื่นอาจคิดว่า กระถางวิเศษเป็นเพียงแค่ตำนานแต่เมื่อสุดยอดสุดยอดโรงงานถูกสร้างขึ้น ก็เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่า แจกันวิเศษไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่าลือจ้านเฉิงอิ้นมีมันอยู่จริง ๆไม่เพียงแต่สามารถเสกอาหาร น้ำ และอาวุธได้เท่านั้น แต่ยังมีโรงงานขนาดมหึมาอีกด้วยใส่แร่เหล็กเข้าไปก็ได้อาวุธเหล็กกล้าออกมา!ในหกแคว้น ใครครอบครองสุดยอดโรงงาน ผู้นั้นก็มีพลังที่จะยึดครองแผ่นดิน รวมหัวเซี่ยให้เป็นหนึ่งเดียวใครบ้างในหกแคว้นที่ไม่ต้องการมันแคว้นฉู่และแคว้นฉีไม่ได้ส่งทหารมา เพราะกำลังรอดูสถานการณ์ และมีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการหากแคว้นใดทนต่อสิ่งล่อใจไม่ไหว ส่งทหารออกมาเมื่อนั้น แคว้นที่ป้องกันหละหลวม แคว้นฉู่และแคว้นฉีจะฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตีทันทีพวกเขาไม่ใช่ไม่โลภ แต่มีสิ่งที่ได้ผลตอบแทนแน่นอนกว่ารออยู่เมื่อพวกเขาส่งทหารมาโจมตีจ้านเฉิงอิ้นในระลอกที่สอง...หลังจากที่ระลอกแรกบุกโจมตีและสูญเสียกำลังพลไปแล้ว แม้จ้านเฉิงอิ้นจะเก่งกาจเพียงใดพวกเขาก็จะจัดการได้ง่ายขึ้นสองแคว้นนี้ฉลาดที่สุดมู่ฉีซิวยุยงแคว้นเยี่ยนและม่อเป่ยให้มาโจมตีจ้านเฉิงอิ้น ก็เพราะให้ผลประโยชน์อย่างงามชุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 569

    ความคิดที่หยางชิงเหอเสนอนั้น ฟังดูไร้สาระและน่าขันสิ้นดีขนท่อเหล็กขึ้นไปบนหลังคาแล้ววางไว้บนนั้น"บนยอดเขาก็ให้ยกท่อเหล็กขึ้นไปแล้วจัดวางให้เรียบร้อย!บนกำแพงเมืองก็เช่นกัน ถึงขนาดวางท่อเหล็กทุกสิบเมตรแล้วก็เกณฑ์คนมาจำนวนมาก เพื่อสร้างโครงสำหรับท่อเหล็กโครงนั้นก็แปลกประหลาด มีล้อไม้สองล้อ วางท่อเหล็กไว้ตรงกลางให้ปากท่อชี้ขึ้นฟ้า...นางบอกว่า หากมู่ฉีซิวเห็นเข้า เขาจะต้องถอยทัพ!เหล่าทหารที่ได้ยิน ต่างก็คิดว่าเหลวไหล!ล้อสองล้อ โครงหนึ่งอัน วางท่อเหล็ก... แล้วจะถอยทัพพวกเขารวบรวมกองกำลังจากสี่ทิศ จำนวนมากถึงเจ็ดแสนห้าหมื่นนาย เพียงเพราะได้เห็นอาวุธรูปร่างประหลาดนี้!ก็จะถอยทัพ...ช่างไร้สาระสิ้นดี!แต่มั่วฝานกลับพูดว่า “ทำตามที่แม่นางหยางบอกไป ส่วนจะได้ผลหรือไม่นั้น ยังไม่แน่...”“บางทีอาจเกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงก็ได้?”จากนั้น หยางชิงเหอก็ไม่รู้ไปได้ยินมาจากไหนว่า เย่มู่มู่จะหาประทัดมาให้จำนวนมาก“ดินปืนที่ส่งมา ให้ข้าใช้ก่อน จากนั้นถ้าเป็นไปได้ หายางเก่ามาเพิ่มด้วย...”“คืนนี้ ทหารและชาวบ้านทุกคนต้องฟังคำสั่งข้า เคลื่อนไหวตามคำสั่งข้าเท่านั้น!”จ้านเฉิงอิ้นหันไปถ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 568

    หากศัตรูทั้งเจ็ดแสนร่วมกันโจมตี กองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนาย ทหารใหม่ห้าหมื่นนาย รวมกับชาวบ้านอีกราวแปดหมื่นคน รวมเป็นหนึ่งแสนแปดหมื่นคน...อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ครั้งนี้แตกต่างจากที่ด่านเจิ้นกวน ที่นั่นยังสามารถซุ่มโจมตีได้...แต่ตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในหุบเขาหลายลูก แม้จะใช้ไฟโจมตี ก็เกรงว่าไฟจะลามไปถึงค่ายไม่สามารถซุ่มโจมตี ไม่สามารถหลบซ่อน ได้แต่เผชิญหน้ากับศัตรูโดยตรง...พูดตามตรง แม้มั่วฝานจะมีความมั่นใจในกองทัพตระกูลจ้านมากเพียงใด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาชนะได้อย่างไร!ถ้ามีปืนก็คงจะดีเขาดูภาพยนตร์สงครามมาเยอะ ดูหนังยิงปืนก็มาก หากมีปืนกล อย่างเช่นเจ้า AK อะไรนั่น...ต้องชนะแน่นอนแม้ท่านเทพจะส่งท่อเหล็กมาให้ แต่ไม่มีดินปืน พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างลูกปืนใหญ่ได้เมื่อคิดเช่นนี้ มั่วฝานก็หยิบบัตรประจำตัวประชาชนออกมา“เฮ้อ ถ้าแพ้ ข้าก็ยังสามารถหนีไปโลกของท่านเทพผ่านแจกันได้...”“พวกเจ้าต่างออกไป พวกเจ้าไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน แม้จะหนีไปยังโลกของท่านเทพ ก็คงถูกจับในฐานะคนไร้บ้าน!”“อ้อ ใช่ โลกของท่านเทพมีกฎหมายคนไร้บ้าน ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ไม่สามารถขึ้นรถ ไม่สามารถซ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status