แชร์

บทที่ 48

ผู้เขียน: มู่โร่ว
จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยว่า “ผ้าไม่กี่พับ ไม่เป็นไรหรอก”

ขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับ เฉินขุยรีบเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ทัพ โปรดช้าก่อน”

เฉินขุยรีบส่งสายตาให้ภรรยาของตน

ฮูหยินเฉินเข้าใจทันที ไม่นาน นางก็ยกกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งมา ในกล่องมีกล่องสีแดงลายดอกไม้สองกล่องวางอยู่

ฮูหยินยกมาอย่างยากลำบาก เฉินขุยรีบเข้าไปรับไว้ จากนั้นก็ยกมาวางไว้ตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะเปิดออก

ในกล่องเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา ส่องประกายระยิบระยับ

ในกล่องสีแดงลายดอกไม้ มีปิ่นระย้าที่หญิงสาวชอบอยู่ข้างใน

เป็นแบบที่นิยมกันอย่างมากในแคว้นต้าฉี่

จ้านเฉิงอิ้นเห็นกล่องเครื่องประดับสองกล่องนั้น ก็ดีใจอย่างมาก

ท่านเทพจะต้องชอบแน่!

เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านเทพประทานเสบียงอาหารมาให้เรา วันนี้ยังประทานผ้ามาให้ด้วย ข้าเฉินขุยสมควรตอบแทน”

“ท่านแม่ทัพ มอบเพชรนิลจินดาเหล่านี้ให้ท่านเทพทั้งหมดเถิด!”

จ้านเฉิงอิ้นยิ้มขณะตบไหล่เฉินขุย

“ลำบากแล้ว!”

จ้านเฉิงอิ้นปิดกล่อง ก่อนจะหย่อนกล่องลงไปในแจกันดอกไม้พร้อมกัน

เขาปล่อยมือ สิ่งของก็หายวับไปกับตา

ฮูหยินเฉินเห็นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับนึกว่าตัวเองตาฝาดไป

สิ่งของหายไป
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 49

    สองสามีภรรยาส่งจ้านเฉิงอิ้นที่ประตู บังเอิญเจอกลุ่มพลทหารที่มาดูผ้าในจวนของเฉินขุยพอดีครั้นเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมหน้า จ้านเฉิงอิ้นจึงบอกว่า “พวกเจ้าไปเลือกผ้ามาสองสามพับ เอากลับบ้านไปให้บ่าวเย็บเสื้อผ้า พรุ่งนี้มะรืนนี้ยังจะมีผ้าถูกส่งมาอีกสองชุด”ผ้าที่ท่านเทพประทานมาให้ครั้งนี้ นอกจากทำเสื้อผ้าใหม่ให้เหล่าทหารแล้วก็ยังเหลืออีก!มั่วฝานเหนื่อยหน่ายกับเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม และเหม็นสาบบนตัวมานานแล้วไม่มีน้ำ จึงซักผ้าไม่ได้เขาวิ่งเข้าไปในเรือนหลังเป็นคนแรก ผ่านไปไม่นาน ก็อุ้มผ้าออกมาสี่ห้าพับผ้าสีคราม สีน้ำเงินอย่างละพับ และผ้าลายดอกสีสันสดใสอีกสามพับ มอบให้กับกุนซือผู้ติดตามพอเขาเปิด พลทหารที่เหลือก็ไม่มัวอ้ำอึ้งอีกทุกคนเลือกคนละสามพับ มอบให้กับทหารชั้นผู้ช่วยเอากลับบ้านไปก่อนเฉินขุยกลับไม่ได้เข้าไปเลือก พี่ใหญ่ของเขาจะช่วยส่งกลับจวนไปเองเขาบอกว่า “ท่านแม่ทัพ ทางกำแพงเมืองรายงานมา จนถึงยามเที่ยงวัน เผ่าหมานไม่ได้โจมตี แต่ก็มิได้ล่าถอย ยังคงปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ขอรับ”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “พวกเขากำลังรอโอกาส ได้ยินว่าหลัวเก๋อพาหมอผีมาด้วย หมายจะอาศัยการทำน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 50

    จ้านเฉิงอิ้นส่ายหน้า “บรรพบุรุษของข้ารับใช้แคว้นต้าฉี่มานาน ไม่มีทางยอมจำนนต่อแคว้นฉีแน่นอน เจ้าเขียนจดหมายส่งกลับไปให้เยว่หงหนึ่งฉบับ”“สั่งให้เขานำกองกำลังมาจำนนต่อเรา ทหารหนึ่งคนเบิกข้าวสารได้หกจิน แป้งหมี่สามจิน น้ำมันหนึ่งถัง เกลือขาวหนึ่งห่อต่อหนึ่งเดือน...”“เขานำคนมามากเท่าใด ข้าก็จะรับไว้เท่านั้น”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “ดี ความคิดนี้ดีมาก เหยียดหยามเขาได้สาแก่ใจนัก”จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างกังวลอีกว่า “อย่างนั้นก็เท่ากับเราเป็นคนแพร่งพรายเรื่องที่เรามีเสบียงด้วยตัวเองน่ะสิขอรับ?”จ้านเฉิงอิ้น “อย่างไรก็ปิดข่าวไม่มิด เพื่อเสบียงอาหาร เจ้าว่าแคว้นฉู่กับแคว้นฉีจะส่งทหารมาขับไล่เผ่าหมานหรือไม่?”“แน่นอน ใต้หล้าประสบภัยแล้ง เสบียงอาหารมีค่ากว่าชีวิตคน”จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยต่อว่า “พวกเขาจะร่วมมือกันขับไล่เผ่าหมานเพื่อเสบียงอาหารและน้ำแน่นอน จากนั้นสองแคว้นก็จะรบกัน แคว้นใดชนะจะหันมาโจมตีเมืองเรา เพื่อชิงเสบียงอาหาร!”สายตาของเขาเย็นชาเมื่อใดที่ท่านเทพส่งอาวุธชุดที่สองมา ไม่ว่าแคว้นฉู่หรือแคว้นฉีชนะ เขาก็ไม่กลัวเขาสั่งเฉินขุย “อย่างไรก็ต้องกวนน้ำให้ขุ่น เจ้าส่งสารส์นไปที่แคว้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 51

    เสื้อเกราะกันกระสุนหลายสิบชุดที่ซื้อในออนไลน์คราวก่อนยังอยู่ระหว่างจัดส่งเธอเจอร้านค้าออนไลน์ที่ขายแผ่นเหล็กกระสุนระดับหกโดยเฉพาะด้านหน้าและด้านหลังมีเหล็กสองแผ่นป้องกัน เพิ่มเสื้อเกราะกันกระสุนสองร้อยชุดยอดขายดี รีวิวก็ไม่เลวด้วยเย่มู่มู่ถามฝ่ายบริการลูกค้าว่าแผ่นเหล็กกันกระสุนและเสื้อเกราะกันกระสุนในสต๊อกสินค้าเหลืออยู่เท่าไหร่ฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าเดิมทียังเหลืออยู่หนึ่งแสนชุด แต่หลายวันก่อนทางฝั่งตะวันออกสั่งไปแปดหมื่นชุด ขายปลีกไปก็ไม่น้อย ตอนนี้จึงเหลืออยู่เพียงหนึ่งหมื่นกว่าชุดเท่านั้นเย่มู่มู่บอกว่าจะเหมาหมดเลย แล้วถามว่าลดราคาได้หรือไม่หลังจากปรึกษากับเถ้าแก่ร้าน เมื่อเธอซื้อหนึ่งหมื่นห้าพันชุด จะได้ในราคาเก้าร้อยบาทต่อชุดฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าจะจัดส่งพรุ่งนี้เย่มู่มู่ให้ทางร้านส่งสินค้าเดี๋ยวนี้ รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็มาในชั่วข้ามคืนเธอสามารถจ่ายเงินมัดจำก่อนครึ่งหนึ่งได้ เมื่อสินค้ามาถึงแล้วค่อยจ่ายเงินเต็มจำนวณฝ่ายบริการลูกค้าขอปรึกษากับเถ้าแก่เถ้าแก่ตกลงว่าจะส่งสินค้าเดี๋ยวนี้*จากนั้นเธอก็หาร้านค้าออนไลน์ที่ขายรองเท้าผ้าใบสำหรับผู้ชายรองเท้าผ้าปักก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 52

    ไม่นานนัก แตงโมทั้งหมดก็ถูกส่งมาหมดแล้ว พอส่งเสร็จแล้ว เธอรู้สึกเบลอ ๆ เล็กน้อย ต้องพักสักครู่ถึงจะผ่อนคลายลงสภาพจิตใจแข็งแรงกว่าตอนขนย้ายวันแยก ไม่ได้เวียนหัวขนาดนั้นบนโต๊ะทำงานมีแตงโมมากกว่าสิบลูก หลายลูกเก็บไว้ให้ตัวเองกิน ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ให้ลุงหยาง*จ้านเฉิงอิ้นและกลุ่มแม่ทัพมองแตงโมที่กองอยู่อย่างตกตะลึงแตงโมนี้กองพะเนินเป็นภูเขา!เดิมทีเหล่าทหารจะกินได้เพียงหนึ่งชิ้นในมื้อเย็นเท่านั้นตอนนี้ได้กินมื้อละหนึ่งชิ้น และยังมีกินอีกหลายวันกว่าจะหมดเขาใช้นิ้วกดขมับเบา ๆ “ขุดห้องใต้ดินแล้วเอาไปเก็บไว้ ทุกคนเอากลับบ้านไปคนละสองลูก ถ้าไม่รีบกินให้หมด เกรงว่ามันเสียเอาได้!”พวกทหารไม่ปฏิเสธอีกแล้ว ทุกคนเลือกลูกใหญ่ ๆ สองลูกอย่างมีความสุข แล้วให้ทหารชั้นผู้ช่วยส่งกลับบ้านทุกคนกลับไปที่ห้องบัญชาการบนหอประตูเมือง วางแตงโมที่หั่นแล้วสองลูกไว้บนโต๊ะ ทหารแต่ละคนที่ยืนประจำการอยู่ก็จะได้กินกันคนละชิ้นจ้านเฉิงอิ้นมองไปยังตำแหน่งที่เผ่าหมานตั้งฐานที่มั่นอยู่ จนกระทั่งช่วงบ่ายก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ เกรงว่าวันนี้คงไม่มีการโจมตีแล้วขอรับ”หลี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 53

    เฉินขุยเบิกตากว้าง เจ้าหมอนี่ทำอย่างกับสั่งข้าวเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าที่ท่านเทพยอมช่วยพวกเขาเพราะเห็นแก่หน้าแม่ทัพกล่องเครื่องประดับเล็ก ๆ ก็กล้าเอามาเป็นของต่อรองเรียกร้องอีกอย่าง เขายังเป็นคนแรกที่เข้าไปเอาผ้าในสวนหลังบ้าน แล้วยังเอาลูกอมติดตัวมาด้วย!ฮูหยินก็ไม่ได้ห้ามปรามช่างหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!มั่วฝานและท่านแม่ทัพเกิดในปีเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่อายุยี่สิบปี มั่วฝานแก่กว่าท่านแม่ทัพสองเดือนเหตุใดถึงได้ไร้เดียงสาขนาดนี้!หากไม่มีคนหนุนหลัง ด่านเจิ้นกวนสถานที่กินคนแห่งนี้ เขาคงตายไปแล้วพันครั้งจ้านเฉิงอิ้นรับกล่องเครื่องประดับไป ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบตกลงแค่พูดว่า “ต้องเพิ่มเงิน!”มั่วฝานตอบตกลง แล้วพูดกับหน่วยกล้าตายว่า “ไป ไปเอาเงินที่จวนมา”หน่วยกล้าตายเอากล่องรองเท้าและถุงเท้าไปด้วยกุนซืออยากจะถอยจ้านเฉิงอิ้นเรียกให้เขาหยุด “กุนซือจวง อยู่ก่อน”หนังสือที่จ้านเฉิงอิ้นแจกให้ทหาร พวกตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ หรือพจนานุกรมอะไรพวกนั้น...มั่วฝานไม่ได้อ่านแม้แต่คำเดียว กลับมอบมันทั้งหมดให้กุนซือกุนซือจวงและกุนซือหลิวหลิงชาวฮั่นลูกน้องของหลัวเก๋อ ล้วนมาจากสำนักเดียวกัน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 54

    มีนักพรตมาทั้งหมดสามคน ชายชราสองเด็กหนุ่มหนึ่งชายชราสองคนนั้น คนหนึ่งเปิดแผงลอยดูดวงบนถนนคนหนึ่งถูกเรียกว่าเทพหมอดูแต่ทางฝั่งเด็กหนุ่มคนนี้ แม้จะสวมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง แต่แววตากลับสดใส ดูไม่เหมือนนักพรตเลยจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้คนนำแตงโมสามลูกและข้าวหนึ่งถุงมาวางไว้บนโต๊ะ“ทั้งสามท่านทำนายว่าในช่วงเวลานี้ เวลาไหนคือเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีเมือง”“หากคำนวณแม่นยำจะได้รับรางวัลเป็นข้าวหนึ่งถุง”“แน่นอน ไม่ได้ให้พวกท่านมาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์ ทุกคนจะได้แตงโมคนละลูกกลับไปด้วย”นักพรตสามคนดีใจอย่างคาดไม่ถึง แตงโมคือของหายากในปีนี้ มันช่วยดับกระหาย ช่วยให้อิ่มท้อง เปลือกของมันยังกินได้ด้วยชายชราที่ตั้งแผงลอยนับนิ้วคนชราที่อยู่ข้างๆ ก็ใช้กระดองเต่าในการคำนวณเด็กหนุ่มเดินออกจากห้องบัญชาการ แล้วมองขึ้นไปบนฟ้า มองไปรอบๆ แล้วพึมพำบางอย่างชายชราทั้งสองกล่าวว่าคืนนี้เป็นเวลาเหมาะที่สุดในการโจมตีเมืองทว่าเด็กหนุ่มกลับบอกว่ากองทัพหมานจะโจมตีเมืองตอนเที่ยงในอีกสามวันจ้านเฉิงอิ้นให้พวกเขาเอาแตงโมกลับไปหลังเที่ยงคืนคืนนี้ หากการคำนวณแม่นยำจะได้ข้าวยี่สิบชั่งเมื่อพวกเขากลับไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 55

    เธอจะช่วยจ้านเฉิงอิ้นได้อย่างไร?เย่มู่มู่เข้าสู่ระบบชุมชนกองทัพออนไลน์ เว็บบอร์ดโรงเรียนนายร้อยแต่ละแห่งมีกระทู้ปักหมุดไว้ด้านบนมีคนคอมเมนต์เยอะมาก ส่วนใหญ่ไปในทางด้านลบคนสองหมื่นคนต่อสู้กับกองทัพสามแสนคน ต่อให้จูเก๋อเลี่ยง[1]กลับชาติมาก่อนก็ไม่มีทางทำอะไรได้ จำนวนคนมันห่างไกลกันเกินไปแม้ว่าคนสองหมื่นคนในเมืองจะเป็นเหมือนเครื่องบดเนื้อ แต่กองทัพสามแสนนายก็สามารถทำลายเครื่องบดเนื้อและพวกทหารไปพร้อมกันได้มีคนแนะนำว่าผู้โพสต์ว่าควรรีบยอมแพ้ ไม่มีหนทางรอดแล้วยังมีคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่เสนอความคิดอย่างจริงจังความแตกต่างในจำนวนคนนั้นมากเกินไป รักษาอย่างสุดชีวิตก็ไม่มีทางเอาชนะได้ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่มีน้ำไม่มีเสบียง หากจะเป็นฝ่ายรักษาสุดชีวิต ก็ทำได้เพียงถูกฆ่าตายทั้งเป็นควรจะมองหาโอกาสในการเริ่มโจมตีผู้ยิ่งใหญ่ทิ้งแก่นสารสิบหกคำเอาไว้ เมื่อศัตรูล่าถอยข้าจะบุก เมื่อศัตรูประจำการข้าจะก่อกวน เมื่อศัตรูอ่อนล้าข้าจะโจมตี เมื่อศัตรูถอยข้าจะไล่บี้...การรบแบบกองโจรเหมาะสำหรับชนบทล้อมเมืองถูกขังตายอยู่ในเมืองเหมาะที่จะทำสงครามอุโมงค์ ขุดอุโมงค์เพื่อก่อกวนหลังจากติดตั้งอุปกรณ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 56

    จ้านเฉิงอิ้นรีบนำแท็บเล็ตส่งกลับไปทันที ทุกคนหาหรือกันว่า ถ้าสามารถแอบเข้าไปในคอกม้าของเผ่าหมานได้ ก็ให้จุดประทัดที่ติดอยู่กับก้นม้า เมื่อม้าในกองทัพตกใจ ก็จะพุ่งชนกันไปมาในค่ายทหาร ทำให้ค่ายใหญ่เผ่าหมานเกิดความวุ่นวาย ในเวลานี้ สวี่หมิงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา กระซิบข้าหูจ้านเฉิงอิ้นด้วยเสียงต่ำ จ้านเฉิงอิ้นถามเขาในทันทีว่า “เจ้าพูดจริงหรือ?” สวี่หมิงพยักหน้า “ขอรับ ท่านแม่ทัพ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้มีทางลับสองทาง แยกออกเป็นทางสู่ทิศใต้และทิศเหนือ” แววตาของจ้านเฉิงอิ้นฉายประกายขึ้นมาในพริบตา “เช่นนั้นก็ดีสิ เว่ยกวงคนนี้มีประโยชน์มากจริง ๆ” เฉินอู่ถามจ้านเฉิงอิ้นว่า “หมายถึงอันธพาลข้างถนนที่เคยช่วยจากคุกใต้ดินเมื่อครั้งก่อนรึเปล่า?” “ใช่ เขาบอกว่าเส้นทางออกจากเมืองนี้ยังมีทางลับสองทาง เป็นเส้นทางที่พวกพ่อค้าที่ทำการค้าขายใช้เพื่อหลบเลี่ยงภาษี และเส้นทางลับทั้งสองเส้นนั้นยังแยกออกไปสู่เส้นทางไปทิศใต้และทิศเหนือ กองกำลังหลักของทัพใหญ่เผ่าหมาน ตั้งค่ายอยู่ห่างจากประตูเมืองไปทางทิศตะวันออกสิบลี้ ทางทิศเหนือและทิศใต้มีการกระจายกำลังทหารไว้ แต่น้อยกว่ากองกำลังหลั

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 432

    “ดีขึ้นมากแล้ว อีกสามวันก็เริ่มออกเดินทางได้ ท่านเทพ มั่วฝานกับหลูซีสร้างความวุ่นวายให้กับท่านหรือไม่?”“ถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟัง ท่านส่งพวกเขากลับมา!”เย่มู่มู่กล่าว “ไม่เป็นไร!”ทั้งสองคนค่อนข้างเชื่อฟัง อย่างน้อยพวกเขาก็ตั้งใจทำงานในพื้นที่ก่อสร้างมั่วฝานมีอุดมคติอันสูงส่งเป็นของตัวเองอีกครั้งก่อนกลับไปที่ต้าฉี่ อย่างน้อยเขาจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าให้ได้และวันนี้หลูซีจับฆาตกรไว้ได้ฆาตกรตัวเป็น ๆ ได้รางวัลเป็นเงินหนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทก่อนกลับไป เขาจะเอาเงินรางวัลแลกเป็นเสบียงอาหารและเอามาไว้ในมือที่สำคัญกว่านั้นเย่มู่มู่รู้สึกว่าหลูซีมีฝีมือการต่อสู้ที่ดี ประพฤติตัวดีมากและยังเชื่อฟังถ้าไม่ใช่เพราะหลูซี เธอเกือบตายถึงสองครั้งแล้วเธออยากให้หลูซีอยู่ต่อ ไม่ว่าจะเข้าเรียนหรือเป็นผู้พิทักษ์ของเธอเด็กคนนี้มีอุปนิสัยที่ดีปกติไม่ค่อยพูดจา แต่ชอบทำงานและมีสมาธิในการทำงานสูงมากหน้าตาก็ยังน่ารักมากอีกด้วย!เย่มู่มู่นำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้บอกเล่าแก่จ้านเฉิงอิ้นมีคนออกคำสั่งให้มาฆ่าเธอถ้าไม่ใช่เพราะหลูซีช่วยเธอไว้ บางทีเธออาจถูกแจกันอันหนึ่งฟาดตายแล้ว!เธอถ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 431

    การติดต่อครั้งที่สามคือเมื่อสามวันก่อน ฝ่ายตรงข้ามจ่ายเงินล่วงหน้าไว้ห้าสิบล้านนักฆ่าติดต่อฝ่ายตรงข้ามและกล่าว ไม่สำเร็จ!ต่อจากนั้น มือถือก็ตกอยู่ในมือหลูซีเย่มู่มู่ถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค “ตรวจสอบและค้นหาบัญชีที่ชำระเงินได้ไหม?”เธอต้องการรู้ให้ได้ว่าคนที่จะเอาชีวิตเธอคือใครและยังมีบิดามารดาของเธอ คนที่ทำร้ายพวกเขาคือใครกันแน่ถ้าเธอหาเจอ คนที่อยู่เบื้องหลังจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต!เย่มู่มู่ถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค “ตรวจสอบและค้นหาคนอยู่เบื้องหลังที่จ้างนักฆ่าได้ไหม?”“มีความยากเล็กน้อย เครือข่ายแวนถูกซ้อนอีกชั้นและเปลี่ยนที่อยู่ IP แล้วหลายครั้ง ไม่สามารถติดตามได้ ที่สำคัญ…”“ที่สำคัญอะไร?”“ผมรู้สึกว่าคำสั่งการของฝ่ายตรงข้าม เขาหาคนเฉพาะทางสั่งการอีกที ในเครือข่ายแวนมีคนคอยช่วยทำเรื่องที่ไม่อาจบอกใครได้บางอย่าง พวกเขาไม่ใช่ผู้อยู่เบื้องหลัง แต่เป็นคนกลางที่ส่งต่อมาเป็นทอด ๆ !”“คนกลางที่ส่งออกไปเป็นทอด ๆ อาจมีสองสามชั้นและอาจมีหลายสิบชั้น!”“ผมต้องใช้เวลาตรวจสอบนานมาก?”เย่มู่มู่จนใจกัดฟันพูดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค “ห้าล้านบาท หาคนที่อยู่เบื้องหลังการว่าจ้างนักฆ่ามาฆ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 430

    “ผู้หญิงที่หอโคมเขียวนั่นอย่างไร อ้างตนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ครั้นเจอรัฐทายาทน้อยก็บีบน้ำตาร้องไห้ บอกว่าถูกขุนนางชั้นผู้ใหญ่และเศรษฐีรังแก อยากให้รัฐทายาทน้อยช่วยตัดสินใจแทนพวกนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า”“พอรัฐทายาทน้อยไปช่วยออกหน้าแทนพวกนาง และหาเรื่องคนเหล่านั้นจริง ๆ พวกนางกลับร้องไห้ฉุดเขาเอาไว้ บอกว่าเพียงอยู่เป็นเพื่อนแค่คืนเดียว ทำให้คนทั้งเมืองหลวงรู้ว่า พวกนางคือคนของรัฐทายาทน้อย ถึงจะไม่ถูกคนรังแก”“รัฐทายาทน้อยค้างคืนในห้องของพวกนางจริง ๆ วันต่อมานางก็ส่งเขากลับไปด้วยความปลื้มปีติ จากนั้นก็ห้อยป้ายรับแขก ราคาสูงกว่าราคาก่อนหน้านี้เป็นสองเท่า ลูกไม้ที่บอกกับคนนอกคือ ผู้หญิงที่ทำให้รัฐทายาทน้อยอยู่ค้างอ้างแรมจนลืมกลับจวน!”“ขุนนางชั้นสูงและเศรษฐีแห่กันไปชิงอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ข้าเคยเห็นมาก่อน คืนก่อนหน้านั้นยังร่ำไห้บ่นกับรัฐทายาทน้อยอยู่เลย คุกเข่าขอร้องให้เขาตัดสินใจรับเป็นหญิงสาวที่ค้างแรมด้วย ขณะเดียวกันวันต่อมาก็รับรองแขกผู้ชายสามคน เรื่องพรรค์นี้เยอะจนนับไม่หวาดไม่ไหว!”“เขาถูกหลอกหลายครั้งมาก ๆ ตระกูลมั่วก็จะช่วยเขาจัดการ!”เย่มู่มู่เห็นมั่วฝานกับคังเจียสยง เรียกพี่เรียกน้อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 429

    ผู้รับเหมาเขี่ยเถ้าบุหรี่ ก่อนจะกล่าวว่า “คุณรู้ดีอยู่แก่ใจก็พอแล้ว หากมีบุคคลที่น่าสงสัย ก็บอกมาเลย ผมจะช่วยหาคนไปจับตามองให้คุณเอง”“ได้ค่ะ!”ผู้รับเหมาดับบุหรี่ แล้วชนเบียร์กับมั่วฝานแก้วหนึ่ง พร้อมถามเย่มู่มู่“หนุ่มหน้าขาวไปหามาจากไหน?”มั่วฝานจีบปากจีบคอแล้วโต้กลับ “ข้าไม่ใช่หนุ่มหน้าขาว!”จากนั้นก็มองที่เย่มู่มู่อย่างไม่เป็นธรรมชาติ เขาไม่กล้าดูแคลนท่านเทพ!“โอเค ๆ ๆ นายไม่ใช่หนุ่มหน้าขาว มื้อนี้ใครเลี้ยง ดูท่าทางนายยังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ใช่ไหม นายมีเงินจ่ายไหม?”ครั้นกล่าวถึงเงิน มั่วฝานก็ของขึ้นทันทีจะว่าอะไรเขาก็ได้แต่จะว่าเขาไม่มีเงินไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นที่ต้าฉี่ หรือว่าในยุคปัจจุบัน...เขารีบล้วงโทรศัพท์ดอกเบญจมาศรุ่นใหม่ออกมา พร้อมเปิดข้อความยอดเงินคงเหลือในธนาคาร“เห็นหรือยังว่าข้าซื่อจื่อมีเงิน!”ผู้รับเหมายื่นคอออกมาชำเลืองมองทีหนึ่ง นี่ ไม่ดูก็ไม่เป็นไรทว่าเมื่อดูก็เป็นอันต้องตกตะลึง!สี่...สี่ร้อยล้านเชียว!ไม่คิดเลยว่าเจ้าหมอนี่จะเป็นทายาทเศรษฐีดูเหมือนว่าคนโง่แต่มีเงินเยอะ หลอกได้ง่ายสุด ๆ!แม้ผู้รับเหมาจะเป็นคนที่ทำมาหากินไม่ถูกต้อง แต่เขาจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 428

    ครั้นมั่วฝานได้ยินว่าหลูซีได้รับรางวัล ในใจก็ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งทว่าก็ไม่ได้เป็นเพราะอิจฉา ในบัตรของเขายังมีสี่ร้อยล้าน ไม่จำเป็นต้องอิจฉาเขาเพียงแต่...เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมการดำเนินชีวิตใหม่ ดูสิ หลูซีเพิ่งจะสิบหก ก็จับผู้ต้องการหนีคดีได้ตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วหาเลี้ยงตัวเองได้แล้วส่วนเขาได้แต่พึ่งการขายของมีมูลค่าที่ตัวประทังชีวิตเห็นได้ชัดว่าตนไร้ประโยชน์ขนาดนั้น!เฮ้ออารมณ์เสียชะมัด!กลุ้มใจจริง ๆ!เขาหยิบขวดเบียร์ขึ้นมา แล้วกระดกหมดในรวดเดียวในขณะนี้เอง ผู้รับเหมาก็พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคมาด้วยกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคร่างเล็ก ค่อนข้างผอม สีหน้าซีดเผือดราวกับไม่ได้เจอแสงแดดมานานเขาไม่ได้สวมแว่น สวมเสื้อลายสก็อตธรรมาดา ๆ พร้อมนั่งลงอย่างเหนียมอาย เมื่อเห็นว่าผู้ที่นั่งอยู่โต๊ะนี้ไม่ใช่หนุ่มหล่อทว่าเป็นสาวสวย ก็วางมือลงบนเข่าด้วยความรู้สึกอึดอัดส่วนผู้รับเหมาย้ายเก้าอี้มานั่งข้างเย่มู่มู่อย่างสนิทสนมทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นานเขาหยิบเบียร์ขึ้นมาเองขวดหนึ่ง จากนั้นก็รินใส่จนเต็มแก้ว“คุณบอกว่านักฆ่าคนนั้นถูกจับแล้ว?”“ใช่ค่ะ เพิ่งโทรเข้ามา มีคดีฆาตกรรมติด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 427

    มั่วฝานและหลูซีต่างตาเบิกโพลง พวกเขาได้ยินอะไรกันตระกูลใหญ่โตตระกูลหนึ่งแย่งสมบัติกัน โดยใช้วิธีให้ยายเฒ่าผู้หนึ่งฆ่าตัวเอง บีบให้ท่านเทพยกเลิกการทวงหนี้ของพวกเขาพวกเขาเคยเห็นผู้ที่ไร้ยางอาย ทว่าไม่เคยเห็นผู้ที่ไร้จิตใจเช่นนี้มาก่อนพายายเฒ่าอายุเจ็ดสิบขึ้นไปยังดาดฟ้าชั้นสามสิบ ไปกระโดดฆ่าตัวตาย?แม้เบื้องล่างจะมีเบาะรองรับการกระโดดปูเอาไว้ ทว่าคนแก่คนชราแค่ล้มก็กระดูกหักได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกระโดดลงมาจากตึกสูงเช่นนี้เลยวันนี้หลูซียังนับความสูงของชั้นอย่างตั้งใจอีกด้วยเขารู้ว่าสามสิบชั้นสูงเท่าไรกันแน่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ในโลกของท่านเทพบ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!เพื่อเงิน...บ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!ในต้าฉี่ของพวกเขา แม้เงินจะสำคัญมาก ๆ ทว่าเสบียงอาหารและน้ำสำคัญยิ่งกว่ามีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อน้ำและเสบียงอาหารได้...ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่ยกให้เงินเป็นอันดับแรก ทว่าเสบียงอาหารและน้ำต่างหากที่เป็นอันดับแรก!มั่วฝานเองก็รู้สึกว่าคนในครอบครัวของท่านเทพ เสียสติไปแล้วเพียงเพราะเงินตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่า ที่แท้ท่านเทพเป็นเด็กกำพร้าข้างกายยังมีญาติพี่น้องชั้นหนึ่งอีกกลุ่มหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 426

    “เปล่านะครับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนหนึ่งของทางเรา ได้ติดตั้งโปรแกรมไว้ในโทรศัพท์ของพวกเขา เนื้อหาที่พวกเขาคุยกันคือ จะเอาเงินจากทางฝั่งคุณยังไง วิธีที่คิดขึ้นมาเรียกได้ว่าสกปรกสุด ๆ นอกเหนือจากนี้เหมือนจะไม่มีอย่างอื่นแล้วครับ”“พวกเขาไม่ได้จ้างวานฆ่าฉันจริง ๆ เหรอคะ?”ครั้นผู้รับเหมาได้ยินดังนั้น นี่ถึงขั้นจ้างวานฆ่าแล้วเหรอ?นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้วนะเย่มู่มู่บอกเรื่องที่เมื่อครู่เธอเกือบถูกจัดฉากให้ตายด้วยอุบัติเหตุและเรื่องที่นักฆ่ามืออาชีพถูกจับให้กับผู้รับเหมาฟังผู้รับเหมารีบก่นด่าขึ้นมา “ผมให้คนฟังเนื้อหาที่พวกเขาคุยกันทุกวัน ต้องไม่กล้าฆ่าคนแน่ ๆ วางใจได้ครับ คุณคือคนให้ที่อยู่ที่กินของเรา ใครกล้าลอบทำร้ายคุณ ก็เท่ากับจงใจหาเรื่องเรา!”“ผมจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคส่งเนื้อหาที่ตระกูลเย่พูดคุยกันให้คุณนะครับ!”“โอเคค่ะ”เย่มู่มู่ถามขึ้นอีกว่า “ฝีมือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ?”“เขาเก่งมากครับ ไม่ได้เรียนอะไรมา แต่เรียนด้วยตัวเองทั้งนั้น เป็นแฮกเกอร์ที่เชื่อถือได้!”“งั้นคุณพาเขามาหน่อยนะคะ ทางฉันมีโทรศัพท์ที่ต้องการให้เขาแฮกเครื่องหนึ่ง ถ้าแฮก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 425

    มั่วฝานเห็นสีหน้าเย่มู่มู่ไม่สู้ดี นางเลื่อนดูทุกอย่างในโทรศัพท์ ข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรไม่มีเลยหลูซีซ้อมคนไปยกหนึ่ง ได้ระบายความโกรธไปไม่น้อยอาหารอร่อย ๆ เต็มโตะ เขาก็กินอย่างมีความสุขน้ำเสียงที่กล่าวก็เปลี่ยนไปเยอะเช่นกัน!“คนผู้นั้นยังปากแข็ง ข้าอัดเขายกหนึ่ง เขายังหัวเราะร่า บอกว่าถ้าแน่จริงข้าก็อัดเขาให้ตายสิ...”“เขายังบอกอีกว่าข้าไม่กล้าฆ่า เพราะหากฆ่าเขา ต้องคิดถึงผลที่ตามมาด้วย!”“ฮึ เขาหลอกคนโบราณเยี่ยงข้า เมื่อวานที่สถานีตำรวจ พวกพี่สาวบอกเกร็ดความรู้แก่ข้าแล้ว ข้ายังอายุไม่ถึงสิบแปดปีเต็ม หากพลั้งมือฆ่าคนจริง ๆ ปัญหาไม่ใหญ่...”“ข้าบอกกับเขาว่า บนหลังเขาแบกชีวิตคนเอาไว้ ข้ารู้จักคนที่สถานีตำรวจไม่น้อย พี่ชายที่ใส่กุญแจมือให้ข้าเมื่อวาน เอาเบอร์โทรให้ข้าแล้ว ข้าจะโทรให้เขามาจับคน”“ข้าส่งตัวนักฆ่าให้พี่ชายผู้นั้นไปโดยตรง...”เย่มู่มู่ฟังแล้วต้องถอนหายใจ“กระถางนั่นเล่าเจ้าคิดว่าอย่างไร จะตกใส่หัวข้าหรือ?”“องศา นักฆ่าอย่างเราจะฝึกใช้อาวุธลับ มุมและองศาในการออกแรงเรามองออกในพริบตาเดียว เขามุ่งเป้ามาหาท่าน!”“กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขาฉุนยิ่งนัก หาคนเช่นนี้บนถนนไม่พบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 424

    “ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนี่ชอบไปเที่ยวที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือ? ทำไมยังหน้าแดงอีกเล่า?”หลูซีมองหญิงสาวที่สวมกระโปรงสั้น เผยให้เห็นต้นขาขาวผ่องออกมา เขากล่าวอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านเทพ ที่ต้าฉี่ไม่มีผู้ใดใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ แม้จะเป็นขอทานก็ปิดมิดชิดทุกส่วน!”เย่มู่มู่ตอบกลับ “นั่นถือว่ายังมีจรรยาบรรณทางวิชาชีพทีเดียว”“แม้ท่านรัฐทายาทจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ไปค้างคืนที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่เคยค้างคืนกับหญิงสาวที่หอโคมเขียว...”“ฉะนั้น นี่เขายังซิงอยู่หรือ?”หลูซีไม่เข้าใจอะไรที่เรียกว่าซิง เขาเอียงศีรษะน้อย ๆ พลางครุ่นคิดแล่วเอ่ยขึ้นว่า “อืม เขาบอกว่าผู้หญิงที่หอโคมเขียวเองก็ไม่ง่าย หากเขาค้างคืนด้วย แล้วรู้ว่านี่คือคนของเขา ก็จะไม่มีขุนนางชั้นสูงและคนตระกูลชั้นสูงผู้อื่นมาซื้อ และอาจมารังแกพวกนางได้!”เย่มู่มู่อดไม่ได้ที่จะมองรัฐทายาทน้อยตรง ๆ “นับว่าเขาเป็นคนดีทีเดียว!”“แน่นอนอยู่แล้วขอรับ...เขาเองก็ปฏิบัติกับหน่วยกล้าตายไม่เลวเช่นกัน!”ทันใดนั้น หลูซีก็ยืนตัวตรงพร้อมกำดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังในมือแน่นสีหน้าเคร่งเครียด เขาแหงนหน้าขึ้นไป สายตาของนัยน์ตาดำขลับมองไปยังที่ที่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status