จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยมาถึงที่บ้านของเขาเฉินขุยมีภรรยาเอกหนึ่งคน อนุอีกสองคน และบ่าวรับใช้อีกสามสิบคน ทุกคนออกมารอต้อนรับทุกคนแต่งกายซอมซ่อ เหล่าภรรยาและลูก ๆ ยังถือว่าแต่งกายเรียบร้อย เพียงแต่เสื้อผ้าดูมอมแมมเพราะไม่มีน้ำให้ซักผ้าเสื้อผ้าของบ่าวรับใช้เต็มไปด้วยรอยเย็บปะ แม้พวกเขาจะผ่ายผอม ทว่าแต่ละคนดูกระตือรือร้นเฉินขุยนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไส้กรอกแฮมให้ภรรยาลูก ๆ ของเขาต่างดีใจกระโดดโลดเต้น อยากเห็นว่าท่านพ่อของพวกเขานำของอร่อยอะไรกลับมาบ้านอีกคืนวันก่อน ท่านพ่อนำหมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยหุงสุกเลิศรสกลับมาอย่างละหนึ่งกล่องคืนเมื่อวาน เป็นขาแกะย่าง และเนื้อย่าง ยังมีเนื้อวัวผัดแห้งอีกหนึ่งจานตอนนี้ ลูก ๆ ทุกคนต่างพากันตั้งหน้าตาตั้งตารอท่านพ่อกลับบ้านวันนี้เขานำกล่องกระดาษใหญ่ ๆ กลับมาด้วยสองกล่องเฉินขุยแกะกล่องไส้กรอกแฮม ก่อนจะแจกจ่ายให้ลูก ๆ ห้าคน คนละอัน“จำไว้ เปลือกนอกกินไม่ได้นะ”เขาเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาอีกสามห่อ มอบให้กับภรรยาของเขาภรรยาของเขายิ้มและคารวะขอบคุณจ้านเฉิงอิ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่งต่อให้พ่อบ้านพ่อบ้านพาเด็ก ๆ ไปต้มบะหมี่ในครัวเฉินขุ
จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยว่า “ผ้าไม่กี่พับ ไม่เป็นไรหรอก”ขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับ เฉินขุยรีบเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ทัพ โปรดช้าก่อน”เฉินขุยรีบส่งสายตาให้ภรรยาของตนฮูหยินเฉินเข้าใจทันที ไม่นาน นางก็ยกกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งมา ในกล่องมีกล่องสีแดงลายดอกไม้สองกล่องวางอยู่ฮูหยินยกมาอย่างยากลำบาก เฉินขุยรีบเข้าไปรับไว้ จากนั้นก็ยกมาวางไว้ตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะเปิดออกในกล่องเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา ส่องประกายระยิบระยับในกล่องสีแดงลายดอกไม้ มีปิ่นระย้าที่หญิงสาวชอบอยู่ข้างในเป็นแบบที่นิยมกันอย่างมากในแคว้นต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นเห็นกล่องเครื่องประดับสองกล่องนั้น ก็ดีใจอย่างมากท่านเทพจะต้องชอบแน่!เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านเทพประทานเสบียงอาหารมาให้เรา วันนี้ยังประทานผ้ามาให้ด้วย ข้าเฉินขุยสมควรตอบแทน”“ท่านแม่ทัพ มอบเพชรนิลจินดาเหล่านี้ให้ท่านเทพทั้งหมดเถิด!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มขณะตบไหล่เฉินขุย“ลำบากแล้ว!”จ้านเฉิงอิ้นปิดกล่อง ก่อนจะหย่อนกล่องลงไปในแจกันดอกไม้พร้อมกันเขาปล่อยมือ สิ่งของก็หายวับไปกับตาฮูหยินเฉินเห็นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับนึกว่าตัวเองตาฝาดไปสิ่งของหายไป
สองสามีภรรยาส่งจ้านเฉิงอิ้นที่ประตู บังเอิญเจอกลุ่มพลทหารที่มาดูผ้าในจวนของเฉินขุยพอดีครั้นเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมหน้า จ้านเฉิงอิ้นจึงบอกว่า “พวกเจ้าไปเลือกผ้ามาสองสามพับ เอากลับบ้านไปให้บ่าวเย็บเสื้อผ้า พรุ่งนี้มะรืนนี้ยังจะมีผ้าถูกส่งมาอีกสองชุด”ผ้าที่ท่านเทพประทานมาให้ครั้งนี้ นอกจากทำเสื้อผ้าใหม่ให้เหล่าทหารแล้วก็ยังเหลืออีก!มั่วฝานเหนื่อยหน่ายกับเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม และเหม็นสาบบนตัวมานานแล้วไม่มีน้ำ จึงซักผ้าไม่ได้เขาวิ่งเข้าไปในเรือนหลังเป็นคนแรก ผ่านไปไม่นาน ก็อุ้มผ้าออกมาสี่ห้าพับผ้าสีคราม สีน้ำเงินอย่างละพับ และผ้าลายดอกสีสันสดใสอีกสามพับ มอบให้กับกุนซือผู้ติดตามพอเขาเปิด พลทหารที่เหลือก็ไม่มัวอ้ำอึ้งอีกทุกคนเลือกคนละสามพับ มอบให้กับทหารชั้นผู้ช่วยเอากลับบ้านไปก่อนเฉินขุยกลับไม่ได้เข้าไปเลือก พี่ใหญ่ของเขาจะช่วยส่งกลับจวนไปเองเขาบอกว่า “ท่านแม่ทัพ ทางกำแพงเมืองรายงานมา จนถึงยามเที่ยงวัน เผ่าหมานไม่ได้โจมตี แต่ก็มิได้ล่าถอย ยังคงปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ขอรับ”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “พวกเขากำลังรอโอกาส ได้ยินว่าหลัวเก๋อพาหมอผีมาด้วย หมายจะอาศัยการทำน
จ้านเฉิงอิ้นส่ายหน้า “บรรพบุรุษของข้ารับใช้แคว้นต้าฉี่มานาน ไม่มีทางยอมจำนนต่อแคว้นฉีแน่นอน เจ้าเขียนจดหมายส่งกลับไปให้เยว่หงหนึ่งฉบับ”“สั่งให้เขานำกองกำลังมาจำนนต่อเรา ทหารหนึ่งคนเบิกข้าวสารได้หกจิน แป้งหมี่สามจิน น้ำมันหนึ่งถัง เกลือขาวหนึ่งห่อต่อหนึ่งเดือน...”“เขานำคนมามากเท่าใด ข้าก็จะรับไว้เท่านั้น”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “ดี ความคิดนี้ดีมาก เหยียดหยามเขาได้สาแก่ใจนัก”จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างกังวลอีกว่า “อย่างนั้นก็เท่ากับเราเป็นคนแพร่งพรายเรื่องที่เรามีเสบียงด้วยตัวเองน่ะสิขอรับ?”จ้านเฉิงอิ้น “อย่างไรก็ปิดข่าวไม่มิด เพื่อเสบียงอาหาร เจ้าว่าแคว้นฉู่กับแคว้นฉีจะส่งทหารมาขับไล่เผ่าหมานหรือไม่?”“แน่นอน ใต้หล้าประสบภัยแล้ง เสบียงอาหารมีค่ากว่าชีวิตคน”จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยต่อว่า “พวกเขาจะร่วมมือกันขับไล่เผ่าหมานเพื่อเสบียงอาหารและน้ำแน่นอน จากนั้นสองแคว้นก็จะรบกัน แคว้นใดชนะจะหันมาโจมตีเมืองเรา เพื่อชิงเสบียงอาหาร!”สายตาของเขาเย็นชาเมื่อใดที่ท่านเทพส่งอาวุธชุดที่สองมา ไม่ว่าแคว้นฉู่หรือแคว้นฉีชนะ เขาก็ไม่กลัวเขาสั่งเฉินขุย “อย่างไรก็ต้องกวนน้ำให้ขุ่น เจ้าส่งสารส์นไปที่แคว้น
เสื้อเกราะกันกระสุนหลายสิบชุดที่ซื้อในออนไลน์คราวก่อนยังอยู่ระหว่างจัดส่งเธอเจอร้านค้าออนไลน์ที่ขายแผ่นเหล็กกระสุนระดับหกโดยเฉพาะด้านหน้าและด้านหลังมีเหล็กสองแผ่นป้องกัน เพิ่มเสื้อเกราะกันกระสุนสองร้อยชุดยอดขายดี รีวิวก็ไม่เลวด้วยเย่มู่มู่ถามฝ่ายบริการลูกค้าว่าแผ่นเหล็กกันกระสุนและเสื้อเกราะกันกระสุนในสต๊อกสินค้าเหลืออยู่เท่าไหร่ฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าเดิมทียังเหลืออยู่หนึ่งแสนชุด แต่หลายวันก่อนทางฝั่งตะวันออกสั่งไปแปดหมื่นชุด ขายปลีกไปก็ไม่น้อย ตอนนี้จึงเหลืออยู่เพียงหนึ่งหมื่นกว่าชุดเท่านั้นเย่มู่มู่บอกว่าจะเหมาหมดเลย แล้วถามว่าลดราคาได้หรือไม่หลังจากปรึกษากับเถ้าแก่ร้าน เมื่อเธอซื้อหนึ่งหมื่นห้าพันชุด จะได้ในราคาเก้าร้อยบาทต่อชุดฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าจะจัดส่งพรุ่งนี้เย่มู่มู่ให้ทางร้านส่งสินค้าเดี๋ยวนี้ รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็มาในชั่วข้ามคืนเธอสามารถจ่ายเงินมัดจำก่อนครึ่งหนึ่งได้ เมื่อสินค้ามาถึงแล้วค่อยจ่ายเงินเต็มจำนวณฝ่ายบริการลูกค้าขอปรึกษากับเถ้าแก่เถ้าแก่ตกลงว่าจะส่งสินค้าเดี๋ยวนี้*จากนั้นเธอก็หาร้านค้าออนไลน์ที่ขายรองเท้าผ้าใบสำหรับผู้ชายรองเท้าผ้าปักก
ไม่นานนัก แตงโมทั้งหมดก็ถูกส่งมาหมดแล้ว พอส่งเสร็จแล้ว เธอรู้สึกเบลอ ๆ เล็กน้อย ต้องพักสักครู่ถึงจะผ่อนคลายลงสภาพจิตใจแข็งแรงกว่าตอนขนย้ายวันแยก ไม่ได้เวียนหัวขนาดนั้นบนโต๊ะทำงานมีแตงโมมากกว่าสิบลูก หลายลูกเก็บไว้ให้ตัวเองกิน ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ให้ลุงหยาง*จ้านเฉิงอิ้นและกลุ่มแม่ทัพมองแตงโมที่กองอยู่อย่างตกตะลึงแตงโมนี้กองพะเนินเป็นภูเขา!เดิมทีเหล่าทหารจะกินได้เพียงหนึ่งชิ้นในมื้อเย็นเท่านั้นตอนนี้ได้กินมื้อละหนึ่งชิ้น และยังมีกินอีกหลายวันกว่าจะหมดเขาใช้นิ้วกดขมับเบา ๆ “ขุดห้องใต้ดินแล้วเอาไปเก็บไว้ ทุกคนเอากลับบ้านไปคนละสองลูก ถ้าไม่รีบกินให้หมด เกรงว่ามันเสียเอาได้!”พวกทหารไม่ปฏิเสธอีกแล้ว ทุกคนเลือกลูกใหญ่ ๆ สองลูกอย่างมีความสุข แล้วให้ทหารชั้นผู้ช่วยส่งกลับบ้านทุกคนกลับไปที่ห้องบัญชาการบนหอประตูเมือง วางแตงโมที่หั่นแล้วสองลูกไว้บนโต๊ะ ทหารแต่ละคนที่ยืนประจำการอยู่ก็จะได้กินกันคนละชิ้นจ้านเฉิงอิ้นมองไปยังตำแหน่งที่เผ่าหมานตั้งฐานที่มั่นอยู่ จนกระทั่งช่วงบ่ายก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ เกรงว่าวันนี้คงไม่มีการโจมตีแล้วขอรับ”หลี
เฉินขุยเบิกตากว้าง เจ้าหมอนี่ทำอย่างกับสั่งข้าวเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าที่ท่านเทพยอมช่วยพวกเขาเพราะเห็นแก่หน้าแม่ทัพกล่องเครื่องประดับเล็ก ๆ ก็กล้าเอามาเป็นของต่อรองเรียกร้องอีกอย่าง เขายังเป็นคนแรกที่เข้าไปเอาผ้าในสวนหลังบ้าน แล้วยังเอาลูกอมติดตัวมาด้วย!ฮูหยินก็ไม่ได้ห้ามปรามช่างหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!มั่วฝานและท่านแม่ทัพเกิดในปีเดียวกัน พวกเขาทั้งคู่อายุยี่สิบปี มั่วฝานแก่กว่าท่านแม่ทัพสองเดือนเหตุใดถึงได้ไร้เดียงสาขนาดนี้!หากไม่มีคนหนุนหลัง ด่านเจิ้นกวนสถานที่กินคนแห่งนี้ เขาคงตายไปแล้วพันครั้งจ้านเฉิงอิ้นรับกล่องเครื่องประดับไป ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบตกลงแค่พูดว่า “ต้องเพิ่มเงิน!”มั่วฝานตอบตกลง แล้วพูดกับหน่วยกล้าตายว่า “ไป ไปเอาเงินที่จวนมา”หน่วยกล้าตายเอากล่องรองเท้าและถุงเท้าไปด้วยกุนซืออยากจะถอยจ้านเฉิงอิ้นเรียกให้เขาหยุด “กุนซือจวง อยู่ก่อน”หนังสือที่จ้านเฉิงอิ้นแจกให้ทหาร พวกตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ หรือพจนานุกรมอะไรพวกนั้น...มั่วฝานไม่ได้อ่านแม้แต่คำเดียว กลับมอบมันทั้งหมดให้กุนซือกุนซือจวงและกุนซือหลิวหลิงชาวฮั่นลูกน้องของหลัวเก๋อ ล้วนมาจากสำนักเดียวกัน
มีนักพรตมาทั้งหมดสามคน ชายชราสองเด็กหนุ่มหนึ่งชายชราสองคนนั้น คนหนึ่งเปิดแผงลอยดูดวงบนถนนคนหนึ่งถูกเรียกว่าเทพหมอดูแต่ทางฝั่งเด็กหนุ่มคนนี้ แม้จะสวมเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง แต่แววตากลับสดใส ดูไม่เหมือนนักพรตเลยจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้คนนำแตงโมสามลูกและข้าวหนึ่งถุงมาวางไว้บนโต๊ะ“ทั้งสามท่านทำนายว่าในช่วงเวลานี้ เวลาไหนคือเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีเมือง”“หากคำนวณแม่นยำจะได้รับรางวัลเป็นข้าวหนึ่งถุง”“แน่นอน ไม่ได้ให้พวกท่านมาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์ ทุกคนจะได้แตงโมคนละลูกกลับไปด้วย”นักพรตสามคนดีใจอย่างคาดไม่ถึง แตงโมคือของหายากในปีนี้ มันช่วยดับกระหาย ช่วยให้อิ่มท้อง เปลือกของมันยังกินได้ด้วยชายชราที่ตั้งแผงลอยนับนิ้วคนชราที่อยู่ข้างๆ ก็ใช้กระดองเต่าในการคำนวณเด็กหนุ่มเดินออกจากห้องบัญชาการ แล้วมองขึ้นไปบนฟ้า มองไปรอบๆ แล้วพึมพำบางอย่างชายชราทั้งสองกล่าวว่าคืนนี้เป็นเวลาเหมาะที่สุดในการโจมตีเมืองทว่าเด็กหนุ่มกลับบอกว่ากองทัพหมานจะโจมตีเมืองตอนเที่ยงในอีกสามวันจ้านเฉิงอิ้นให้พวกเขาเอาแตงโมกลับไปหลังเที่ยงคืนคืนนี้ หากการคำนวณแม่นยำจะได้ข้าวยี่สิบชั่งเมื่อพวกเขากลับไป
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด