แชร์

บทที่ 43

ผู้เขียน: มู่โร่ว
เฉินอู่หัวเราะลั่น “ดียิ่ง ข้ายังคิดอยู่เลยว่าจะขอดินระเบิดจากท่านเทพอย่างไร ทว่านางกลับเป็นฝ่ายมอบให้พวกเราเสียเองเ!”

“ท่านแม่ทัพ อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ หากเผ่าหมานกลับมาโจมตีเมืองอีก พวกเราก็จะมีอาวุธชั้นดีไว้ป้องกัน!”

“ดินระเบิดระเบิดภูเขาใหญ่ทั้งลูกได้ หากใช้ระเบิดสังหารคนแล้วละก็ อานุภาพจะไม่ยิ่งคร่าชีพได้มากกว่าหรือ!”

จ้านเฉิงอิ้นรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เขาสั่งการไปยังซ่งตั๋ว

“หากระท่อมว่างหลังเล็ก ๆ จำไว้ รัศมีห้าลี้มิอาจให้มีชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ใดอยู่ใกล้เคียง หาทหารรักษาการณ์ที่ไว้ใจได้มาคอยลาดตระเวนโดยรอบ และห้ามมิให้พวกเขาเข้าใกล้เกินไปเช่นกัน”

ซ่งตั๋วค้อมตัวประสานมือคารวะ “ข้าน้อยรับบัญชา”

เย่มู่มู่ส่งข้อความมาอีกครั้ง นางไปสั่งอาหารมื้อดึกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ท่านเทพดีต่อเขายิ่งนัก!

ชาติปางก่อนเขาคงได้กราบขอพรหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าอยู่ภพหนึ่ง จึงทำให้ชาตินี้ได้พบท่านเทพเปี่ยมเมตตาเช่นนี้

มาช่วยชีพคนทั้งเมืองเอาไว้ ในยามที่เขาสิ้นไร้ซึ่งหนทางอย่างถึงที่สุด!

ชาตินี้แม้จนเขากระดูกแตกแหลกลาญก็ไม่อาจตอบแทนนางได้หมดสิ้น!

*

เย่มู่มู่จอดรถที่บนถนนสายปิ้งย่างแห่งหนึ่ง รอบข้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 44

    รอบขอบตาเฉินอู่แดงก่ำขึ้นเช่นกัน “ใช่แล้ว ลูกสาวสองคนของข้าหวิดจะสิ้นชีพอยู่แล้ว หากไม่มีข้าวกล่องช่วยไว้ พวกนางคงไม่มีชีวิตมาถึงตอนนี้ ท่านแม่ทัพ ข้าเฉินอู่ขอคารวะท่าน และขออภัยสำหรับความหยาบทรามที่ข้าแสดงเมื่อยามเราได้พบกันคราแรก!”คนอื่น ๆ ดวงตาก็เริ่มชื้นน้ำไปตาม ๆ กัน พวกเขาติดสอยห้อยตามกองทัพตระกูลจ้าน ก้าวขึ้นมาอย่างช้า ๆเช่นซ่งตั๋ว เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง หลินต้าจวิน และเหอหงบ้างก็ถูกส่งตัวมาจากราชสำนัก ในตอนแรกพวกเขาถูกส่งมาเพื่อตรวจสอบกองทัพตระกูลจ้าน และคอยโอกาสแบ่งแย่งอำนาจทางการทหารจากจ้านเฉิงอิ้นอาทิเฉินขุย เฉินอู่ อู๋ซานหลาง มั่วฝาน และเฉินจวิ้นหลินสองพี่น้องเฉินขุยและเฉินอู่ คราแรกที่มาถึงด่านเจิ้นกวน ก็ตรงเข้าไปหาจ้านเฉิงอิ้นเพื่อขอทหาร จ้านเฉิงอิ้นบอกปัดปฏิเสธ สองคนจึงยุยงมั่วฝาน ให้เป็นปฏิปักษ์ต่อจ้านเฉิงอิ้นมั่วฝานสืบสายสกุลบรรดาศักดิ์ขุนนาง เป็นหลานชายแท้ ๆ ของไทเฮาในเมืองหลวงเขามีชื่อในฐานะผู้รากมากดี ทุก ๆ วันหลับนอนเสียจนตะวันโด่งขึ้นสามลำไผ่ ไม่มีวันใดแวะเวียนไปค่ายทหาร วัน ๆ เทียวแต่ดื่มเหล้าเคล้าด้วยนารีครอบครัวกลัวเขาลำบากยากแค้น จึงส่งข้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 45

    เย่มู่มู่ไม่ได้ตอบกลับ เธอรีบออฟไลน์ จัดการเติมน้ำลงในแจกัน แล้วไปพักผ่อนเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมาเธอพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับอยู่หลายสายเธอรีบลุกขึ้น อาบน้ำชำระร่างกายอย่างง่าย ๆ จากนั้นโอบยกแจกันดอกไม้ขึ้นรถตรงไปยังโกดังเจ้าของร้านค้าข้าวและหัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอกำลังรอการชำระเงินอยู่ที่โกดังครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็มาถึงโกดังหลังตรวจเช็กสินค้ากับทางเจ้าของร้านค้าข้าวแล้ว ก็ทำการชำระเงินก้อนสุดท้าย ก่อนเจ้าของร้านค้าข้าวจะจากไปเขาเอ่ยถามเธอ “ยังต้องการเสบียงอีกไหมครับ?”เธอตอบ “ต้องการค่ะ คุณจัดหาข้าวสารมาเรื่อย ๆ ได้เลยนะคะ”“งั้นตกลงตามนี้เลยนะครับ!”สิ่งของช่วยบรรเทาภัยน้ำท่วมห้าคันรถบรรทุก เสบียงสามแสนล้านชั่ง ทั้งหมดเป็นเงินกว่าห้าสิบล้านบาทเธอแบ่งจ่ายเงินก้อนสุดท้ายให้กับหัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอไปหนึ่งในสามส่วนก่อนจะกลับไปก็เอ่ยถามขึ้น “สนใจจักรเย็บผ้าไหมคะ แบบใช้เท้าเหยียบน่ะ? ลูกค้าฉันจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า มีจักรเย็บผ้าแบบเท้าเหยียบรุ่นที่เลิกใช้ไปเมื่อสิบปีก่อนอยู่ล็อตหนึ่ง ราคาถูกมาก เครื่องละห้าร้อยบาทเอง ไหนจะมีเข็มสำหรับใช้กับเครื่องโดยเฉพาะอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 46

    พืชผลถูกแสงแดดแผดเผาจนเฉาตายอยู่ในไร่แคว้นอื่น ๆ อีกห้าแคว้นต่างก็กำลังคิดหาหนทางตุนเสบียงหากเรื่องที่ด่านเจิ้นกวนมีเสบียงแพร่งพรายออกไป ไม่เพียงเผ่าหมานที่คิดจะแย่งชิงเสบียง กองทัพจากแคว้นอื่นต้องมารวมตัวกันที่ด่านเจิ้นกวนอย่างแน่นอนตอนนี้ทั้งการเกณฑ์ทหาร จัดกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และการฝึกฝนล้วนกำลังดำเนินการไปอย่างเร่งรัดเผ่าหมานยังปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ จับจ้องด่านเจิ้นกวนอย่างไม่ยอมละสายตาพร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อ!พวกเขาต้องปกป้องเสบียงชุดนี้ไว้ให้ได้ในขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกำลังจะออกจากคลังพร้อมกับแจกันนั้นก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอกแฮม ข้าวสวยแบบอุ่นเอง และหม้อไฟแบบอุ่นเองร่วงตกลงมาอีกมากมายนับไม่ถ้วน…พื้นที่ในคลังมีไม่พอ กล่องเหล่านั้นจึงล้นออกมานอกประตูพลทหารหลายคนเบิกตากว้าง พากันจ้องมองหม้อไฟและข้าวสวยแบบอุ่นเองที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเฉินขุยเปิดกล่อง และหยิบขึ้นมาดูหนึ่งกล่องเล็กด้วยความสงสัยทุกคนเพ่งมองอักษรตัวย่อ ครั้นปะติดปะต่อกันก็พออ่านออกได้“ท่านแม่ทัพ ข้าวนี้ แค่ใช้น้ำก็อุ่นให้ร้อนได้แล้วขอรับ!”ซ่งตั๋วอ่านวิธีทำเขาตื่นเต้นอย่าง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 47

    จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยมาถึงที่บ้านของเขาเฉินขุยมีภรรยาเอกหนึ่งคน อนุอีกสองคน และบ่าวรับใช้อีกสามสิบคน ทุกคนออกมารอต้อนรับทุกคนแต่งกายซอมซ่อ เหล่าภรรยาและลูก ๆ ยังถือว่าแต่งกายเรียบร้อย เพียงแต่เสื้อผ้าดูมอมแมมเพราะไม่มีน้ำให้ซักผ้าเสื้อผ้าของบ่าวรับใช้เต็มไปด้วยรอยเย็บปะ แม้พวกเขาจะผ่ายผอม ทว่าแต่ละคนดูกระตือรือร้นเฉินขุยนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไส้กรอกแฮมให้ภรรยาลูก ๆ ของเขาต่างดีใจกระโดดโลดเต้น อยากเห็นว่าท่านพ่อของพวกเขานำของอร่อยอะไรกลับมาบ้านอีกคืนวันก่อน ท่านพ่อนำหมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยหุงสุกเลิศรสกลับมาอย่างละหนึ่งกล่องคืนเมื่อวาน เป็นขาแกะย่าง และเนื้อย่าง ยังมีเนื้อวัวผัดแห้งอีกหนึ่งจานตอนนี้ ลูก ๆ ทุกคนต่างพากันตั้งหน้าตาตั้งตารอท่านพ่อกลับบ้านวันนี้เขานำกล่องกระดาษใหญ่ ๆ กลับมาด้วยสองกล่องเฉินขุยแกะกล่องไส้กรอกแฮม ก่อนจะแจกจ่ายให้ลูก ๆ ห้าคน คนละอัน“จำไว้ เปลือกนอกกินไม่ได้นะ”เขาเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาอีกสามห่อ มอบให้กับภรรยาของเขาภรรยาของเขายิ้มและคารวะขอบคุณจ้านเฉิงอิ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่งต่อให้พ่อบ้านพ่อบ้านพาเด็ก ๆ ไปต้มบะหมี่ในครัวเฉินขุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 48

    จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยว่า “ผ้าไม่กี่พับ ไม่เป็นไรหรอก”ขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับ เฉินขุยรีบเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ทัพ โปรดช้าก่อน”เฉินขุยรีบส่งสายตาให้ภรรยาของตนฮูหยินเฉินเข้าใจทันที ไม่นาน นางก็ยกกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งมา ในกล่องมีกล่องสีแดงลายดอกไม้สองกล่องวางอยู่ฮูหยินยกมาอย่างยากลำบาก เฉินขุยรีบเข้าไปรับไว้ จากนั้นก็ยกมาวางไว้ตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะเปิดออกในกล่องเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา ส่องประกายระยิบระยับในกล่องสีแดงลายดอกไม้ มีปิ่นระย้าที่หญิงสาวชอบอยู่ข้างในเป็นแบบที่นิยมกันอย่างมากในแคว้นต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นเห็นกล่องเครื่องประดับสองกล่องนั้น ก็ดีใจอย่างมากท่านเทพจะต้องชอบแน่!เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านเทพประทานเสบียงอาหารมาให้เรา วันนี้ยังประทานผ้ามาให้ด้วย ข้าเฉินขุยสมควรตอบแทน”“ท่านแม่ทัพ มอบเพชรนิลจินดาเหล่านี้ให้ท่านเทพทั้งหมดเถิด!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มขณะตบไหล่เฉินขุย“ลำบากแล้ว!”จ้านเฉิงอิ้นปิดกล่อง ก่อนจะหย่อนกล่องลงไปในแจกันดอกไม้พร้อมกันเขาปล่อยมือ สิ่งของก็หายวับไปกับตาฮูหยินเฉินเห็นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับนึกว่าตัวเองตาฝาดไปสิ่งของหายไป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 49

    สองสามีภรรยาส่งจ้านเฉิงอิ้นที่ประตู บังเอิญเจอกลุ่มพลทหารที่มาดูผ้าในจวนของเฉินขุยพอดีครั้นเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมหน้า จ้านเฉิงอิ้นจึงบอกว่า “พวกเจ้าไปเลือกผ้ามาสองสามพับ เอากลับบ้านไปให้บ่าวเย็บเสื้อผ้า พรุ่งนี้มะรืนนี้ยังจะมีผ้าถูกส่งมาอีกสองชุด”ผ้าที่ท่านเทพประทานมาให้ครั้งนี้ นอกจากทำเสื้อผ้าใหม่ให้เหล่าทหารแล้วก็ยังเหลืออีก!มั่วฝานเหนื่อยหน่ายกับเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม และเหม็นสาบบนตัวมานานแล้วไม่มีน้ำ จึงซักผ้าไม่ได้เขาวิ่งเข้าไปในเรือนหลังเป็นคนแรก ผ่านไปไม่นาน ก็อุ้มผ้าออกมาสี่ห้าพับผ้าสีคราม สีน้ำเงินอย่างละพับ และผ้าลายดอกสีสันสดใสอีกสามพับ มอบให้กับกุนซือผู้ติดตามพอเขาเปิด พลทหารที่เหลือก็ไม่มัวอ้ำอึ้งอีกทุกคนเลือกคนละสามพับ มอบให้กับทหารชั้นผู้ช่วยเอากลับบ้านไปก่อนเฉินขุยกลับไม่ได้เข้าไปเลือก พี่ใหญ่ของเขาจะช่วยส่งกลับจวนไปเองเขาบอกว่า “ท่านแม่ทัพ ทางกำแพงเมืองรายงานมา จนถึงยามเที่ยงวัน เผ่าหมานไม่ได้โจมตี แต่ก็มิได้ล่าถอย ยังคงปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ขอรับ”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “พวกเขากำลังรอโอกาส ได้ยินว่าหลัวเก๋อพาหมอผีมาด้วย หมายจะอาศัยการทำน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 50

    จ้านเฉิงอิ้นส่ายหน้า “บรรพบุรุษของข้ารับใช้แคว้นต้าฉี่มานาน ไม่มีทางยอมจำนนต่อแคว้นฉีแน่นอน เจ้าเขียนจดหมายส่งกลับไปให้เยว่หงหนึ่งฉบับ”“สั่งให้เขานำกองกำลังมาจำนนต่อเรา ทหารหนึ่งคนเบิกข้าวสารได้หกจิน แป้งหมี่สามจิน น้ำมันหนึ่งถัง เกลือขาวหนึ่งห่อต่อหนึ่งเดือน...”“เขานำคนมามากเท่าใด ข้าก็จะรับไว้เท่านั้น”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “ดี ความคิดนี้ดีมาก เหยียดหยามเขาได้สาแก่ใจนัก”จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างกังวลอีกว่า “อย่างนั้นก็เท่ากับเราเป็นคนแพร่งพรายเรื่องที่เรามีเสบียงด้วยตัวเองน่ะสิขอรับ?”จ้านเฉิงอิ้น “อย่างไรก็ปิดข่าวไม่มิด เพื่อเสบียงอาหาร เจ้าว่าแคว้นฉู่กับแคว้นฉีจะส่งทหารมาขับไล่เผ่าหมานหรือไม่?”“แน่นอน ใต้หล้าประสบภัยแล้ง เสบียงอาหารมีค่ากว่าชีวิตคน”จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยต่อว่า “พวกเขาจะร่วมมือกันขับไล่เผ่าหมานเพื่อเสบียงอาหารและน้ำแน่นอน จากนั้นสองแคว้นก็จะรบกัน แคว้นใดชนะจะหันมาโจมตีเมืองเรา เพื่อชิงเสบียงอาหาร!”สายตาของเขาเย็นชาเมื่อใดที่ท่านเทพส่งอาวุธชุดที่สองมา ไม่ว่าแคว้นฉู่หรือแคว้นฉีชนะ เขาก็ไม่กลัวเขาสั่งเฉินขุย “อย่างไรก็ต้องกวนน้ำให้ขุ่น เจ้าส่งสารส์นไปที่แคว้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 51

    เสื้อเกราะกันกระสุนหลายสิบชุดที่ซื้อในออนไลน์คราวก่อนยังอยู่ระหว่างจัดส่งเธอเจอร้านค้าออนไลน์ที่ขายแผ่นเหล็กกระสุนระดับหกโดยเฉพาะด้านหน้าและด้านหลังมีเหล็กสองแผ่นป้องกัน เพิ่มเสื้อเกราะกันกระสุนสองร้อยชุดยอดขายดี รีวิวก็ไม่เลวด้วยเย่มู่มู่ถามฝ่ายบริการลูกค้าว่าแผ่นเหล็กกันกระสุนและเสื้อเกราะกันกระสุนในสต๊อกสินค้าเหลืออยู่เท่าไหร่ฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าเดิมทียังเหลืออยู่หนึ่งแสนชุด แต่หลายวันก่อนทางฝั่งตะวันออกสั่งไปแปดหมื่นชุด ขายปลีกไปก็ไม่น้อย ตอนนี้จึงเหลืออยู่เพียงหนึ่งหมื่นกว่าชุดเท่านั้นเย่มู่มู่บอกว่าจะเหมาหมดเลย แล้วถามว่าลดราคาได้หรือไม่หลังจากปรึกษากับเถ้าแก่ร้าน เมื่อเธอซื้อหนึ่งหมื่นห้าพันชุด จะได้ในราคาเก้าร้อยบาทต่อชุดฝ่ายบริการลูกค้าบอกว่าจะจัดส่งพรุ่งนี้เย่มู่มู่ให้ทางร้านส่งสินค้าเดี๋ยวนี้ รถบรรทุกขนาดใหญ่ก็มาในชั่วข้ามคืนเธอสามารถจ่ายเงินมัดจำก่อนครึ่งหนึ่งได้ เมื่อสินค้ามาถึงแล้วค่อยจ่ายเงินเต็มจำนวณฝ่ายบริการลูกค้าขอปรึกษากับเถ้าแก่เถ้าแก่ตกลงว่าจะส่งสินค้าเดี๋ยวนี้*จากนั้นเธอก็หาร้านค้าออนไลน์ที่ขายรองเท้าผ้าใบสำหรับผู้ชายรองเท้าผ้าปักก

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 392

    ทีแรกทั้งสองฝ่ายสู้กันมือเปล่า ทัพพันธมิตรสี่แคว้นด้วยจำนวนคนมาก จึงได้เปรียบอยู่เล็กน้อยหลังจ้านเฉิงอิ้นใช้วัตถุระเบิดจนหมดส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน นำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบสถานการณ์พลันพลิกกลับอาวุธของพวกเขาล้ำสมัยยิ่งนัก แม้ยังฝึกใช้ดาบม่อเตาไม่คล่อง ทว่าชุดเกราะและเสื้อกันกระสุนก็ป้องกันได้สองชั้นอาวุธของทัพศัตรูไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ทัพแคว้นเยี่ยค่อย ๆ ถอยทัพทีละก้าว ๆคนเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆห้าหมื่นนายถูกระเบิดตายไปหลายพันนายเข่นฆ่ากับจ้านเฉิงอิ้นตายไปอีกบางส่วนตอนนี้เซี่ยเวยนำห้าหมื่นคนเข้าสู่สนามรบจำนวนของทหารแคว้นเยี่ยน กำลังลดลงไปอย่างรวดเร็วจากสี่หมื่นสองพันคน เพียงระยะเวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชา ลดลงไปถึงสามหมื่นสองหมื่น...ขณะที่ในสนามรบเหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนเยี่ยนเย่รู้ว่าสู้ไม่ไหวแล้วเขาหวังเพียงว่าคนอื่นจะช่วยเขาได้ทว่าครั้นเขาหันหลังกลับไปมองเจียงเหว่ยกับเกาอี้กลับนำคนเข้ามามีเพียงมู่ซาและกำลังพลห้าหมื่นนายของเขาขวางไว้ได้เพียงครู่หนึ่ง หลังพวกเขาลิ้มลอง ก็ค้นพบว่าอุปกรณ์ของกองทัพตระกูลจ้านร้ายแรงเพียงใดมู่ซาเองก็ต้านไม่อยู่ ตายไปหนึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 391

    ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เบื้องหลังของพวกเขาก็มีกองทัพตระกูลจ้านห้าหมื่นนายปรากฏตัวขึ้นมาพวกเขาติดอุปกรณ์สมบูรณ์แบบ กำลังถือดาบม่อเตาและดาบเหิงเตาราชวงศ์ถัง พร้อมแบกหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน...จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา กำลังคนและม้าสองแสนนายกำลังพุ่งเข้ามาด้วยทีท่าดุเดือดครั้นเยี่ยนเย่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวเบื้องหลัง ก็พลันหันหน้ากลับไปเห็นเฉินขุย เฉินอู่และซ่งตั๋วนำกำลังคนจำนวนมากพุ่งเข้ามา!มู่ซาตะโกนเสียงดัง “พวกเขาออกมาจากไหน? เหตุใดถึงมาขวางทางหนีทีไล่เรา?”เจียงเหว่ยด่ากราดอย่างเดือดดาล “ข้ารู้อยู่แล้วไอ้คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้า หนึ่งคิดกลอุบายไม่เป็น สองนำทหารสู้รบไม่เป็น กระทั่งสถานการณ์ข้าศึกแข็งแกร่งเราอ่อนแอก็ยังไม่รู้”“ข้าเคยบอกแล้วอย่างไร ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสเหมาะในการฆ่าจ้านเฉิงอิ้น ตอนนี้จบเห่แล้ว กลับกันตอนนี้ยังถูกจัดการได้อย่างง่ายดายอีก!”เกาอี้ผู้บัญชาการแคว้นฉีกล่าวขึ้นทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟว่า “เลิกทะเลาะกันได้แล้ว คิดหาวิธีฝ่าวงล้อมก่อน กองทัพตระกูลจ้านสองพันนายเรายังรับมือไม่ได้ ตอนนี้กองทัพตระกูลจ้านยกทัพมาทั้งกองทัพ พวกเจ้าอยากตายอยู่ที่นี่หรือ? ยังจะมาทะเลาะกันเอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 390

    ส่วนที่แข็งแกร่งของจ้านเฉิงอิ้นคือ ทหารผ่านศึกในกองทัพของเขาล้วนมีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ทุกคนที่รอดชีวิตมาได้ล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดาเกราะและอาวุธของกองทัพตระกูลจ้านมีคุณภาพสูง สามารถต่อกรกับศัตรูได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบนอกจากนี้ การซื้อใจชาวบ้านสี่ร้อยคนที่ถูกใช้เป็นระเบิดมนุษย์ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นได้เปรียบยิ่งขึ้นอุปกรณ์และระเบิดเหล่านี้ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างพวกเขาขยายกว้างขึ้นหากเป็นเมื่อครู่ พวกเขายังกล้ายืนยันได้อย่างมั่นใจว่าจ้านเฉิงอิ้นต้องตายอย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ ความหวังที่จะชนะเลือนลางลงบางคนเริ่มอยากล่าถอย เพราะไม่ต้องการไปตายขณะที่เจียงเหว่ยถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นกลับถูกทหารของเยี่ยนเย่ขวางทางไว้เยี่ยนเย่นำกองทัพหนึ่งแสนคน โดยมีห้าหมื่นคนคอยติดตามอยู่ข้างกายหน้าที่ของพวกเขาคือปกป้องเยี่ยนเย่ พร้อมทั้งจับตาดูความเคลื่อนไหวในสนามรบอยู่ตลอดเวลาเสียงเยียบเย็นของเยี่ยนเย่ดังขึ้น “แม่ทัพแคว้นฉู่กำลังจะไปไหนหรือ?”“ในเมื่อทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารจ้านเฉิงอิ้น เจ้าจะถอนตัวเองไปโดยพลการได้อย่างไร”“วางใจเถอะ ต่อให้ต้องบุกทะลวง กองทัพแคว้นเยี่ยนของข้าจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 389

    ซุนหลินพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “กินได้สิ!”พูดจบ เขาหยิบมันเทศขึ้นมาเช็ดกับเสื้อ แล้วหักออก...เนื้อสีม่วงแดงของมันเทศก็เผยออกมากลิ่นหอมเฉพาะตัวของมันเทศลอยออกมาให้ได้กลิ่นชัดเจนซุนหลินกลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ เขาเลยกัดไปคำหนึ่ง เนื้อกรอบหวานละมุนใจ“อร่อยจริงๆ!”“มันเทศสามารถนำไปปิ้งหรือนึ่งก็ได้ หรือจะใช้ต้มทำเป็นโจ๊ก หรือข้าวมันเทศก็ได้... มีวิธีกินเยอะแยะ ทั้งหวานทั้งเหนียว หอมอร่อยมาก!"จากนั้นเขาก็ยื่นมันเทศให้ซุนเฮ่อ “ลุงสาม ลองชิมดูสักคำสิ”ซุนเฮ่อชะงักเล็กน้อยก่อนรับมันเทศมาลองกัดคำหนึ่งทันทีที่กัดเข้าไป เขาเบิกตากว้างกล่าวด้วยความประหลาดใจ “หวานจริง ๆ แถมยังมีน้ำในเนื้ออีก กรอบมาก...”เขาพูดพร้อมเคี้ยวอีกสองสามคำ “อร่อยมาก!”ซุนหลินยิ้มอย่างภูมิใจ “อร่อยใช่ไหมล่ะ! ที่ด่านเจิ้นกวนของเราปลูกมันเทศไว้มากกว่าหมื่นหมู่ ต่อไปนี้ทุกคนก็จะได้กินกันทั่วหน้า!”เหล่าชาวบ้านต่างพากันเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ขณะฟังซุนหลินกล่าว “หมื่นหมู่ นั่นเป็นพื้นที่กว้างขนาดไหนกันนะ!”“ไร่นาทุกผืนล้วนมีน้ำรดได้ แม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนน้ำเลยจริงๆ!”“คำพูดของท่านแม่ทัพใหญ่เป็นค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 388

    ลูกน้องของผู้นำให้คำสั่งเด็ดขาดกับพวกเขาก่อนจากมา ยังได้กำชับเป็นพิเศษว่า“จงคิดถึงครอบครัวของพวกเจ้า พ่อแม่ที่แก่ชรา ภรรยาที่อ่อนแอ และลูก ๆ ที่ยังเล็กจนต้องการการดูแล...”“แม่ทัพต้องการได้ยินข่าวดี หากสำเร็จ ภรรยา พ่อแม่ และลูก ๆ ของพวกเจ้า ผู้นำจะดูแลพวกเขาให้ จะไม่ปล่อยให้พวกเขาขาดอาหารแม้แต่มื้อเดียว และยังจะแบ่งบ้านกับที่ดินสิบหมู่ให้ด้วย!"“ไปเถอะ อย่าทำให้ท่านผู้ผิดหวัง!”แต่ตอนนี้ พวกเขามองดูน้ำในกระบอกน้ำเก็บความร้อน มองดูแป้งห่อ โจ๊กหวาน และเสบียงแห้ง...ท่านแม่ทัพถูกกองกำลังพันธมิตรจากสี่แคว้นปิดล้อมไว้ที่นี้ และถูกต้อนจนมุม แต่กลับยังเลือกที่จะมอบเสบียงอาหารและน้ำที่ล้ำค่าที่สุดให้พวกเขาพวกเขาไม่อาจทรยศหักหลังด้วยการกระทำชั่วช้าเช่นการระเบิดสังหารท่านแม่ทัพและกองทัพตระกูลจ้านได้พวกเขาลงมือไม่ลงในขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความเงียบงัน ผู้นำกลุ่มของพวกเขาอย่างซุนเฮ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ พวกเรายังมีครอบครัวอยู่ในเมืองหยงโจว สามารถพาออกมาได้ จะได้รับอาหารกับน้ำหรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า“แน่นอน ตราบใดที่เป็นประชาชนแคว้นต้าฉี่ ทุกคนย่อมมีอาหารก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 387

    เมื่อครู่พวกเขาต่างตั้งใจฟังอย่างจดจ่อซุนหลินได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารกว่าพันชั่ง!นี่แสดงให้เห็นว่ากองทัพตระกูลจ้านไม่ได้ขาดแคลนเสบียงสำหรับชาวแคว้นต้าฉี่ที่เผชิญกับภัยแล้งมาเกือบปี ข้าวปลาอาหารและแหล่งน้ำมีเสน่ห์ดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้พวกเขาหิวและกระหายเกินกว่าจะอดทนไหว แม้ในเมืองหยงโจวจะมีโจ๊กแจก แต่ในแต่ละวันกลับได้เพียงถ้วยเล็ก ๆ ของโจ๊กข้าวโพด ซึ่งไม่พอให้ประทังความหิวได้เลยผู้คนมากมายต่างพยายามทุกวิถีทางที่จะลอกเปลือกไม้ หรือขุดหาผักป่า...ในเมืองหยงโจว เมื่อจำนวนผู้คนเพิ่มมากขึ้น ผู้คนถึงกับทะเลาะวิวาทแย่งชิงรากหญ้าและเปลือกไม้ จนถึงขั้นมีการฆ่ากันตายก็ไม่น้อยขณะนั้น ชาวบ้านสี่ร้อยคนต่างจ้องมองด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง หลายคนถึงกับลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปใกล้ปากถ้ำโดยไม่รู้ตัวเฉินจวิ้นหลินและเหล่าทหารผ่านศึกอีกสิบกว่าคน ได้นำเสบียงอาหารที่เหลือจากคนสองร้อยกว่าชีวิตที่เสียชีวิตไปแล้วออกมาแจกจ่ายนอกจากสิ่งที่ถูกระเบิดจนเสียหายและไม่สามารถกินได้ พวกเขายังนำแป้งห่อจำนวนมาก โจ๊กธัญพืชแปดชนิดสองร้อยกระป๋อง และขนมปังแข็งกว่าสองร้อยกล่องออกมาแจกจ่ายเฉินจวิ้นหลินพูด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 386

    “ครอบครัวและชาวบ้านในหมู่บ้านจะอยู่รอดไปได้อีกสักระยะ!”ซุนหลินยังคงจินตนาการถึงความสุขในการที่ตนนำเสบียงกลับไปให้ครอบครัวแต่เมื่อชาวบ้านสี่ร้อยคนได้ยินเรื่องเสบียงกว่าหนึ่งพันชั่งดวงตาเบิกกว้าง จ้องมองไปที่ซุนหลินอย่างแน่วแน่เสบียงอาหาร หนึ่งพันกว่าชั่งเชียวนะหากนำไปต้มเป็นโจ๊ก จะเลี้ยงคนได้มากแค่ไหนกันเมื่อซุนเฮ่อได้ยินคำพูดของซุนหลิน ริมฝีปากก็ขยับ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว“ท่านลุงสาม เหตุใดถึงไม่พูดอะไรเลยเล่า ครอบครัวสบายดีหรือไม่?”ซุนหลินยังคงจมอยู่ในจินตนาการของตัวเอง พอเห็นซุนเฮ่อไม่พูดอะไร จึงเงยหน้ามองเขาแต่สิ่งที่เห็นคือ ดวงตาของซุนเฮ่อเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง เขาดูเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่หยาดน้ำตาในดวงตานั้นกลับแห้งเหือดไปหมดแล้วเขาเบิกตาแดงก่ำ ก่อนจะก้มศีรษะหนักอึ้งลงต่ำก้มหน้าอยู่นานก่อนจะพูดว่า “พวกเจ้า... ครอบครัวของพวกเจ้า... ตายหมดแล้ว!”“คนทั้งหมู่บ้าน... มีเพียงสามชีวิตที่รอด หนึ่งคือข้า และอีกสองคน...”ซุนหลินกระชากคอเสื้อของซุนเฮ่ออย่างแรง ยกตัวเขาที่ผอมแห้งลอยขึ้นจากพื้นดวงตาของซุนหลินแดงฉานเต็มไปด้วยความ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 385

    จ้านเฉิงอิ้นและคนอื่น ๆ อีกหลายคนเดินออกมาส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึก ซึ่งมีคนหนึ่งจำซุนเฮ่อได้เขาตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ลุง ลุงสาม... ทำไมถึงเป็นท่าน?”“ท่านมาที่ช่องเขาเป้าเสียได้อย่างไร?”คนที่จำซุนเฮ่อได้ ชื่อซุนหลิน อายุยี่สิบกว่าปี เข้าร่วมกองทัพมาห้าปีแล้ว!เขาเป็นนายกองพันภายใต้การบังคับบัญชาของจ้านเฉิงอิ้นก่อนหน้านี้เขาเคยอยู่ในหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน แต่พบว่าตนเองไม่ได้สังหารศัตรูมากเท่าคนอื่น จึงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีอย่างมากหลังจากนั้น ก็อาสาเป็นทหารทัพหน้าบุกทะลวงแม้จะต้องเสี่ยงอันตรายแม้ว่าทหารทัพหน้าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่ก็พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อเขาเป็นคนกล้าหาญ พยายามเป็นทหารทัพหน้าและสังหารศัตรูมากมายสะสมเสบียงอาหารได้มากกว่าหนึ่งพันชั่ง แป้งสาลีแปดร้อยชั่งได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นนายกองพันครั้งนี้ที่เข้าไปในหุบเขา ซุนหลินก็ลุงสามาเองเขาอยากได้พัดลมพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มอีกสองสามชุด เพื่อมอบให้กับคนในหมู่บ้านแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับซุนเฮ่อที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันที่นี่ซุนเฮ่อเป็นลุงสามของเขา เป็นคนในตระกูลเดียวกัน!เขาวิ่งออกมาด้วยความดีใจ วิ่งไปหาซุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 384

    “ใครก็ได้ ไปเฝ้าบริเวณใกล้ถ้ำที่จ้านเฉิงอิ้นซ่อนตัวอยู่ หากเกิดระเบิดแล้วยังไม่ตาย ให้คอยสกัดไม่ให้คนด้านในหลบหนีออกมาได้...”มู่ซาถาม “จะให้ส่งไปกี่คน?”“ยี่สิบคน ล้อมเอาไว้อย่าให้เหลือไปแม้แต่คนเดียว”“ไม่จำเป็นต้องใช้คนมากขนาดนี้ก็ได้กระมัง?”แม่ทัพแคว้นฉู่เจียงเหว่ยพูดว่า “เจ้าไม่รู้อะไร เกราะป้องกันของจ้านเฉิงอิ้นอยู่ในระดับสูงมาก สามารถต้านทานการโจมตีจากคนสิบคนได้เพียงลำพัง และอาวุธก็แหลมคม สามารถฟันดาบเสี้ยวของพวกเผ่าหมานได้ง่ายดายราวกับหั่นผักหั่นปลา”“เพื่อไม่ให้เสียเวลา เมื่อระบุตำแหน่งของจ้านเฉิงอิ้นแล้ว ทุกคนจงล้อมที่นี่ไว้ให้แน่นหนา ห้ามปล่อยให้คนข้างในหนีออกมาได้แม้แต่คนเดียว”แม่ทัพทั้งสี่แคว้นต่างก็ให้ความสำคัญพวกเขารู้ดีว่า หากฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้ ประชาชนต้าฉี่ก็จะกลายเป็นเสบียงของแคว้นต่าง ๆ ของพวกเขาไม่มีเสบียงแล้วจะทำไม?ชาวต้าฉี่มีจำนวนมาก เพียงพอให้พวกเขากินได้อีกนานผ่านพ้นช่วงความอดอยากไปได้อย่างไม่มีปัญหาเลยยิ่งไปกว่านั้น ราชวงศ์ต้าฉี่ก็ร่ำรวยได้ยินมาว่า ทรัพย์สมบัติในวังหลวงนั้นกองสูงเป็นภูเขาเสนาบดีซูยังรวบรวมสมบัติล้ำค่าหายากให้กับฮ่องเต้น้อย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status