เขาไม่อาจกล้ำกลืนความแค้นที่จ้านเฉิงอิ้นผลาญล้างชีวิตคนหมื่นคนของเขาไปได้เขาจ้องมองที่กุนซืออย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้ารู้หรือไม่ว่าในเมืองมีทั้งน้ำและเสบียงอาหาร?”“หากมิอาจยึดด่านเจิ้นกวนได้ กองพลของเราก็มีแต่จะหิวตาย”“ในขณะที่กองพลของจ้านเฉิงอิ้น ได้พักผ่อนฟื้นฟู จนสมบูรณ์แข็งแรง!”"ข้ามิสนว่ามังกรจะพลิกมิพลิกกาย ในสามวันนี้ ข้าจะต้องยึดด่านเจิ้นกวนมาให้จงได้!”กุนซือหลิวหลิงใจเต้นแรงในเมืองด่านเจิ้นกวนมีเสบียงอาหารอยู่อย่างนั้นหรือ?จะเป็นไปได้อย่างไร?ด่านเจิ้นกวนถูกปิดล้อมมากว่าครึ่งปี จนกลายสภาพราวถังเหล็กก็ปาน แม้แต่วิหคสักตัวก็มิอาจบินพ้นผ่านเข้าไปได้ปากคอเขาแห้งผาก เพียงคิดถึงว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ ดวงตาก็ฉายแววหมายมาดในชัยชนะเขาโค้งตัวลงประสานมือคารวะ ท่าทีเปลี่ยนราวคนละคน"ท่านอ๋องน้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าในเมืองมีน้ำ เราจึงจำเป็นยิ่งที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ มิอาจหุนหันพลันแล่นโจมตีเมืองได้"“เสบียงอาหารและน้ำของจ้านเฉิงอิ้นมาจากที่ใด? มีมากเท่าใด จัดเก็บไว้ที่แห่งใด?"“การโจมตีเมืองก็จำต้องมีแผนการ หากบุกจากประตูเมือง กำแพงเมืองก็สูงขึ้นแล้ว คันรถกระทุ้งกำแพง
เฉินอู่หัวเราะลั่น “ดียิ่ง ข้ายังคิดอยู่เลยว่าจะขอดินระเบิดจากท่านเทพอย่างไร ทว่านางกลับเป็นฝ่ายมอบให้พวกเราเสียเองเ!”“ท่านแม่ทัพ อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ หากเผ่าหมานกลับมาโจมตีเมืองอีก พวกเราก็จะมีอาวุธชั้นดีไว้ป้องกัน!”“ดินระเบิดระเบิดภูเขาใหญ่ทั้งลูกได้ หากใช้ระเบิดสังหารคนแล้วละก็ อานุภาพจะไม่ยิ่งคร่าชีพได้มากกว่าหรือ!”จ้านเฉิงอิ้นรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เขาสั่งการไปยังซ่งตั๋ว“หากระท่อมว่างหลังเล็ก ๆ จำไว้ รัศมีห้าลี้มิอาจให้มีชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ใดอยู่ใกล้เคียง หาทหารรักษาการณ์ที่ไว้ใจได้มาคอยลาดตระเวนโดยรอบ และห้ามมิให้พวกเขาเข้าใกล้เกินไปเช่นกัน”ซ่งตั๋วค้อมตัวประสานมือคารวะ “ข้าน้อยรับบัญชา”เย่มู่มู่ส่งข้อความมาอีกครั้ง นางไปสั่งอาหารมื้อดึกเอาไว้เรียบร้อยแล้วท่านเทพดีต่อเขายิ่งนัก!ชาติปางก่อนเขาคงได้กราบขอพรหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าอยู่ภพหนึ่ง จึงทำให้ชาตินี้ได้พบท่านเทพเปี่ยมเมตตาเช่นนี้ มาช่วยชีพคนทั้งเมืองเอาไว้ ในยามที่เขาสิ้นไร้ซึ่งหนทางอย่างถึงที่สุด!ชาตินี้แม้จนเขากระดูกแตกแหลกลาญก็ไม่อาจตอบแทนนางได้หมดสิ้น!*เย่มู่มู่จอดรถที่บนถนนสายปิ้งย่างแห่งหนึ่ง รอบข้า
รอบขอบตาเฉินอู่แดงก่ำขึ้นเช่นกัน “ใช่แล้ว ลูกสาวสองคนของข้าหวิดจะสิ้นชีพอยู่แล้ว หากไม่มีข้าวกล่องช่วยไว้ พวกนางคงไม่มีชีวิตมาถึงตอนนี้ ท่านแม่ทัพ ข้าเฉินอู่ขอคารวะท่าน และขออภัยสำหรับความหยาบทรามที่ข้าแสดงเมื่อยามเราได้พบกันคราแรก!”คนอื่น ๆ ดวงตาก็เริ่มชื้นน้ำไปตาม ๆ กัน พวกเขาติดสอยห้อยตามกองทัพตระกูลจ้าน ก้าวขึ้นมาอย่างช้า ๆเช่นซ่งตั๋ว เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง หลินต้าจวิน และเหอหงบ้างก็ถูกส่งตัวมาจากราชสำนัก ในตอนแรกพวกเขาถูกส่งมาเพื่อตรวจสอบกองทัพตระกูลจ้าน และคอยโอกาสแบ่งแย่งอำนาจทางการทหารจากจ้านเฉิงอิ้นอาทิเฉินขุย เฉินอู่ อู๋ซานหลาง มั่วฝาน และเฉินจวิ้นหลินสองพี่น้องเฉินขุยและเฉินอู่ คราแรกที่มาถึงด่านเจิ้นกวน ก็ตรงเข้าไปหาจ้านเฉิงอิ้นเพื่อขอทหาร จ้านเฉิงอิ้นบอกปัดปฏิเสธ สองคนจึงยุยงมั่วฝาน ให้เป็นปฏิปักษ์ต่อจ้านเฉิงอิ้นมั่วฝานสืบสายสกุลบรรดาศักดิ์ขุนนาง เป็นหลานชายแท้ ๆ ของไทเฮาในเมืองหลวงเขามีชื่อในฐานะผู้รากมากดี ทุก ๆ วันหลับนอนเสียจนตะวันโด่งขึ้นสามลำไผ่ ไม่มีวันใดแวะเวียนไปค่ายทหาร วัน ๆ เทียวแต่ดื่มเหล้าเคล้าด้วยนารีครอบครัวกลัวเขาลำบากยากแค้น จึงส่งข้
เย่มู่มู่ไม่ได้ตอบกลับ เธอรีบออฟไลน์ จัดการเติมน้ำลงในแจกัน แล้วไปพักผ่อนเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมาเธอพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับอยู่หลายสายเธอรีบลุกขึ้น อาบน้ำชำระร่างกายอย่างง่าย ๆ จากนั้นโอบยกแจกันดอกไม้ขึ้นรถตรงไปยังโกดังเจ้าของร้านค้าข้าวและหัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอกำลังรอการชำระเงินอยู่ที่โกดังครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็มาถึงโกดังหลังตรวจเช็กสินค้ากับทางเจ้าของร้านค้าข้าวแล้ว ก็ทำการชำระเงินก้อนสุดท้าย ก่อนเจ้าของร้านค้าข้าวจะจากไปเขาเอ่ยถามเธอ “ยังต้องการเสบียงอีกไหมครับ?”เธอตอบ “ต้องการค่ะ คุณจัดหาข้าวสารมาเรื่อย ๆ ได้เลยนะคะ”“งั้นตกลงตามนี้เลยนะครับ!”สิ่งของช่วยบรรเทาภัยน้ำท่วมห้าคันรถบรรทุก เสบียงสามแสนล้านชั่ง ทั้งหมดเป็นเงินกว่าห้าสิบล้านบาทเธอแบ่งจ่ายเงินก้อนสุดท้ายให้กับหัวหน้าฝ่ายขายโรงงานสิ่งทอไปหนึ่งในสามส่วนก่อนจะกลับไปก็เอ่ยถามขึ้น “สนใจจักรเย็บผ้าไหมคะ แบบใช้เท้าเหยียบน่ะ? ลูกค้าฉันจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า มีจักรเย็บผ้าแบบเท้าเหยียบรุ่นที่เลิกใช้ไปเมื่อสิบปีก่อนอยู่ล็อตหนึ่ง ราคาถูกมาก เครื่องละห้าร้อยบาทเอง ไหนจะมีเข็มสำหรับใช้กับเครื่องโดยเฉพาะอ
พืชผลถูกแสงแดดแผดเผาจนเฉาตายอยู่ในไร่แคว้นอื่น ๆ อีกห้าแคว้นต่างก็กำลังคิดหาหนทางตุนเสบียงหากเรื่องที่ด่านเจิ้นกวนมีเสบียงแพร่งพรายออกไป ไม่เพียงเผ่าหมานที่คิดจะแย่งชิงเสบียง กองทัพจากแคว้นอื่นต้องมารวมตัวกันที่ด่านเจิ้นกวนอย่างแน่นอนตอนนี้ทั้งการเกณฑ์ทหาร จัดกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และการฝึกฝนล้วนกำลังดำเนินการไปอย่างเร่งรัดเผ่าหมานยังปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ จับจ้องด่านเจิ้นกวนอย่างไม่ยอมละสายตาพร้อมโจมตีได้ทุกเมื่อ!พวกเขาต้องปกป้องเสบียงชุดนี้ไว้ให้ได้ในขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกำลังจะออกจากคลังพร้อมกับแจกันนั้นก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอกแฮม ข้าวสวยแบบอุ่นเอง และหม้อไฟแบบอุ่นเองร่วงตกลงมาอีกมากมายนับไม่ถ้วน…พื้นที่ในคลังมีไม่พอ กล่องเหล่านั้นจึงล้นออกมานอกประตูพลทหารหลายคนเบิกตากว้าง พากันจ้องมองหม้อไฟและข้าวสวยแบบอุ่นเองที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเฉินขุยเปิดกล่อง และหยิบขึ้นมาดูหนึ่งกล่องเล็กด้วยความสงสัยทุกคนเพ่งมองอักษรตัวย่อ ครั้นปะติดปะต่อกันก็พออ่านออกได้“ท่านแม่ทัพ ข้าวนี้ แค่ใช้น้ำก็อุ่นให้ร้อนได้แล้วขอรับ!”ซ่งตั๋วอ่านวิธีทำเขาตื่นเต้นอย่าง
จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยมาถึงที่บ้านของเขาเฉินขุยมีภรรยาเอกหนึ่งคน อนุอีกสองคน และบ่าวรับใช้อีกสามสิบคน ทุกคนออกมารอต้อนรับทุกคนแต่งกายซอมซ่อ เหล่าภรรยาและลูก ๆ ยังถือว่าแต่งกายเรียบร้อย เพียงแต่เสื้อผ้าดูมอมแมมเพราะไม่มีน้ำให้ซักผ้าเสื้อผ้าของบ่าวรับใช้เต็มไปด้วยรอยเย็บปะ แม้พวกเขาจะผ่ายผอม ทว่าแต่ละคนดูกระตือรือร้นเฉินขุยนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไส้กรอกแฮมให้ภรรยาลูก ๆ ของเขาต่างดีใจกระโดดโลดเต้น อยากเห็นว่าท่านพ่อของพวกเขานำของอร่อยอะไรกลับมาบ้านอีกคืนวันก่อน ท่านพ่อนำหมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยหุงสุกเลิศรสกลับมาอย่างละหนึ่งกล่องคืนเมื่อวาน เป็นขาแกะย่าง และเนื้อย่าง ยังมีเนื้อวัวผัดแห้งอีกหนึ่งจานตอนนี้ ลูก ๆ ทุกคนต่างพากันตั้งหน้าตาตั้งตารอท่านพ่อกลับบ้านวันนี้เขานำกล่องกระดาษใหญ่ ๆ กลับมาด้วยสองกล่องเฉินขุยแกะกล่องไส้กรอกแฮม ก่อนจะแจกจ่ายให้ลูก ๆ ห้าคน คนละอัน“จำไว้ เปลือกนอกกินไม่ได้นะ”เขาเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาอีกสามห่อ มอบให้กับภรรยาของเขาภรรยาของเขายิ้มและคารวะขอบคุณจ้านเฉิงอิ้นเล็กน้อย ก่อนจะส่งต่อให้พ่อบ้านพ่อบ้านพาเด็ก ๆ ไปต้มบะหมี่ในครัวเฉินขุ
จ้านเฉิงอิ้นเอ่ยว่า “ผ้าไม่กี่พับ ไม่เป็นไรหรอก”ขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับ เฉินขุยรีบเอ่ยขึ้น “ท่านแม่ทัพ โปรดช้าก่อน”เฉินขุยรีบส่งสายตาให้ภรรยาของตนฮูหยินเฉินเข้าใจทันที ไม่นาน นางก็ยกกล่องขนาดใหญ่กล่องหนึ่งมา ในกล่องมีกล่องสีแดงลายดอกไม้สองกล่องวางอยู่ฮูหยินยกมาอย่างยากลำบาก เฉินขุยรีบเข้าไปรับไว้ จากนั้นก็ยกมาวางไว้ตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น ก่อนจะเปิดออกในกล่องเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดา ส่องประกายระยิบระยับในกล่องสีแดงลายดอกไม้ มีปิ่นระย้าที่หญิงสาวชอบอยู่ข้างในเป็นแบบที่นิยมกันอย่างมากในแคว้นต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นเห็นกล่องเครื่องประดับสองกล่องนั้น ก็ดีใจอย่างมากท่านเทพจะต้องชอบแน่!เฉินขุยกล่าวว่า “ท่านเทพประทานเสบียงอาหารมาให้เรา วันนี้ยังประทานผ้ามาให้ด้วย ข้าเฉินขุยสมควรตอบแทน”“ท่านแม่ทัพ มอบเพชรนิลจินดาเหล่านี้ให้ท่านเทพทั้งหมดเถิด!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มขณะตบไหล่เฉินขุย“ลำบากแล้ว!”จ้านเฉิงอิ้นปิดกล่อง ก่อนจะหย่อนกล่องลงไปในแจกันดอกไม้พร้อมกันเขาปล่อยมือ สิ่งของก็หายวับไปกับตาฮูหยินเฉินเห็นเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปาก ราวกับนึกว่าตัวเองตาฝาดไปสิ่งของหายไป
สองสามีภรรยาส่งจ้านเฉิงอิ้นที่ประตู บังเอิญเจอกลุ่มพลทหารที่มาดูผ้าในจวนของเฉินขุยพอดีครั้นเห็นว่าทุกคนอยู่พร้อมหน้า จ้านเฉิงอิ้นจึงบอกว่า “พวกเจ้าไปเลือกผ้ามาสองสามพับ เอากลับบ้านไปให้บ่าวเย็บเสื้อผ้า พรุ่งนี้มะรืนนี้ยังจะมีผ้าถูกส่งมาอีกสองชุด”ผ้าที่ท่านเทพประทานมาให้ครั้งนี้ นอกจากทำเสื้อผ้าใหม่ให้เหล่าทหารแล้วก็ยังเหลืออีก!มั่วฝานเหนื่อยหน่ายกับเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม และเหม็นสาบบนตัวมานานแล้วไม่มีน้ำ จึงซักผ้าไม่ได้เขาวิ่งเข้าไปในเรือนหลังเป็นคนแรก ผ่านไปไม่นาน ก็อุ้มผ้าออกมาสี่ห้าพับผ้าสีคราม สีน้ำเงินอย่างละพับ และผ้าลายดอกสีสันสดใสอีกสามพับ มอบให้กับกุนซือผู้ติดตามพอเขาเปิด พลทหารที่เหลือก็ไม่มัวอ้ำอึ้งอีกทุกคนเลือกคนละสามพับ มอบให้กับทหารชั้นผู้ช่วยเอากลับบ้านไปก่อนเฉินขุยกลับไม่ได้เข้าไปเลือก พี่ใหญ่ของเขาจะช่วยส่งกลับจวนไปเองเขาบอกว่า “ท่านแม่ทัพ ทางกำแพงเมืองรายงานมา จนถึงยามเที่ยงวัน เผ่าหมานไม่ได้โจมตี แต่ก็มิได้ล่าถอย ยังคงปักหลักอยู่นอกเมืองห่างออกไปสิบลี้ขอรับ”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “พวกเขากำลังรอโอกาส ได้ยินว่าหลัวเก๋อพาหมอผีมาด้วย หมายจะอาศัยการทำน
ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง
“ว้าว...”“รถบรรทุกขนาดใหญ่ นี่มันรถบรรทุกขนาดใหญ่เชียวนะ!”กองทัพตระกูลจ้านระเบิดเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทุกคนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขทหารผ่านศึกจำนวนไม่น้อยดีใจถึงขนาดกระโดดโลดเต้น!พวกเขานั่งรถบรรทุก โคลงเคลงตลอดทางมาถึงที่นี่หลายคนคิดว่าหากตนเองมีรถบรรทุกเช่นนี้สักหนึ่งคันจะดีสักเพียงใดรถบรรทุกมีโครงใหญ่ ล้อใหญ่ วิ่งได้หนึ่งพันลี้ต่อวัน!อีกทั้งรถคันนี้มีคุณภาพสมน้ำสมเนื้อ จอดห่างออกไปไม่กี่ลี้ไม่เหมือนกับคำมั่นลม ๆ แล้ง ๆ ของมู่ฉีซิว ขุนนางชั้นสูงอันใดกัน?นั่นก็ต้องก่อการกบฏให้สำเร็จ สังหารฮ่องเต้ กำจัดขุนนาง ยึดเอาแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!รางวัลที่ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ผิดสัญญาแม้แต่ครั้งเดียวและ มู่ฉีซิวแห่งกองทัพธงเหลือง ตลอดมาก็อาศัยคำมั่นที่ให้กับทหาร วาดฝันให้กับทุกคน ถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้หากพวกเขาสนับสนุนให้มู่ฉีซิวขึ้นสู่บัลลังก์ แล้วคำมั่นที่เขาให้ไม่มีทางเป็นจริงได้เขาก็จะยิ่งประสบกับการแว้งกัดที่รุนแรงยิ่งขึ้น!ตอนนี้ทุกหนทุกแห่งกำลังประสบทุพภิกขภัย ต่อให้ท่านแม่ทัพให้ที่นาเป็นรางวัล ก็จะให้ที่นาที่มีน้ำ มีคนและที่นาเ
กองทัพธงเหลืองจำนวนไม่น้อยหวาดกลัว พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่กล้าพุ่งมาข้างหน้าเท่านั้น ซ้ำยังล่าถอยกันอย่างต่อเนื่องด้วยเมื่อมู่ฉีซิวเห็นฉากดังกล่าว ก็ยกโล่ขึ้นมาอย่างโกรธแค้น พลางตะโกนอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ว่า “ฆ่าให้หมด สังหารกองทัพตระกูลจ้านให้สิ้น!” “พวกมันมีเพียงแค่สามหมื่นคน พวกเรามีสองแสนคน ต่อให้พวกมันมีปืน แล้วอย่างไรเล่า? พวกมันต้องใช้เวลาในการบรรจุลูกกระสุนปืน ตราบใดที่เร็วพอ โจมตีในระยะประชิดพวกมันก็จะไม่มีเวลาบรรจุลูกกระสุนและยิงปืน”ทว่าเหล่าทหารไม่เข้าใจหลักการของปืนถึงแม้ไม่ได้ล่าถอยต่อไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกไปยังเบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้านเพราะพวกเขารู้ว่าผู้ใดที่ยื่นหน้าออกมา จะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอนในมุมมองของพวกเขา ยังไม่ทันได้สัมผัสเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้าม ก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ววิธีการตายเช่นนี้น่าคับข้องใจยิ่งนัก!เนื่องจากทหารกลัวตาย มู่ฉีซิวจึงตะโกนออกไปอย่างมีโทสะว่า “ผู้ใดสังหารกองทัพตระกูลจ้านได้หนึ่งคน ตกรางวัลข้าวโพดหนึ่งกระสอบ สังหารสองคน บุกเข้าไปในวังหลวง ตกรางวัลเป็นทาสสองคน!” “ผู้ที่สังหารกองทัพตระกูลจ้านได้ห้าคนขึ้นไป จะได้เป็นนายกอง และ
ใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้านเฉิงอิ้นตึงเครียด ไม่กล่าวอันใดแม้แต่คำเดียวเขามองดูมู่ฉีซิวหัวเราะเสียงดังอย่างอวดดีด้วยแววตาเย็นชา พลางยกมือขึ้นอย่างไม่แยแส...เวลานี้ นักรบมากมายของกองทัพตระกูลจ้าน ได้หยิบปืนออกมาจากด้านหลัง บรรจุกระสุนปืน และเล็งไปที่มู่ฉีซิว...เมื่อมู่ฉีซิวได้เห็นฉากนี้ ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น“ฮ่าฮ่าฮ่า จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคิดว่าข้าเบาปัญญากระนั้นหรือ?”“การศึกที่ภูเขาเหมือง ถูกใช้เล่ห์เหลี่ยม จนทำให้ข้าตัดสินใจผิดพลาด ทำให้คนเจ็ดแสนกว่าคนต้องพ่ายแพ้ ถูกคนในใต้หล้าหัวเราะเยาะ!”“ตอนนี้เจ้ายังคิดที่จะมาใช้ไม้นี้อีก คิดว่าข้าปัญญาอ่อนจริง ๆ หรือไร!”จ้านเฉิงอิ้นไม่พูดจาไร้สาระ เมื่อโบกมือ...ปัง~ปืนล่าสัตว์ก็เกิดเสียงดังสนั่น!ลูกกระสุนปืนยิงไปยังมู่ฉีซิวเมื่อมู่ฉีซิวเห็นมือปืนเหนี่ยวไก เสียงหัวเราะก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ตกลงมาจากหลังม้าเขาไม่ได้ถูกยิงทว่ายิงโดนหัวของม้าสีขาวม้าล้มลงในทันที ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดสดไหลรินออกมาจากศีรษะ...มันดิ้นรนยืนขึ้นมาสองสามครั้ง แต่เลือดกลับไหลรินออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่คาดคิดเพียงไม่นานมันก็หยุดด
ผิดปกติยิ่งนัก!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวกับสวี่หมิง “บินอากาศยานไร้คนขับสำรวจสถานการณ์ของกองทัพธงเหลือง!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ตอนที่สวี่หมิงนำท่าอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กออกมาลอยขึ้นสูง แล้วเตรียมที่จะบินไปยังธารน้ำจากภูเขานั้น...ทันใดนั้นเอง ธนูดอกหนึ่งก็ยิงโดนท่ากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจนทำให้เกิดกลุ่มควันและตกลงมาจากท้องฟ้าเฉินอู่ตะโกนเสียงดัง “ทุกคนระวัง!”จ้านเฉิงอิ้นหน้าเปลี่ยนสี สายตามองไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงออกมาแย่แล้ว พวกเขาถูกโอบล้อมแล้ว!พื้นที่เนินเขาที่อยู่เบื้องหน้า มีกองทัพธงเหลืองจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังปีนขึ้นมาจากพื้น พวกเขาและกองทัพตระกูลจ้านอยู่ใกล้กันมาก ระยะห่างเพียงแค่สามสี่ร้อยเมตรเท่านั้นทุกคนล้วนสวมชุดลายพราง ใบหน้าเต็มไปด้วยดินเหลือง ในมือกำลังถือดาบม่อเตาเลียนแบบ...คนจำนวนสองแสนคน กำลังปิดล้อมกองทัพตระกูลจ้านจำนวนสามหมื่นคนเอาไว้ในวงกลมโอบล้อมกองทัพตระกูลจ้านเอาไว้หลายต่อหลายชั้นมู่ฉีซิวกำลังขี่ม้าสีขาว สวมชุดเกราะสีดำ ยืนอยู่เบื้องหน้ากองทัพธงเหลืองจำนวนสองแสนคนเขาผ่ายผอมลงไปมาก จนแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมก่อนหน้านี้ยังนับว่ามีใบหน้าที่หล่อเหลา บัดนี
มั่วฝานเก็บกระดาษที่ตกอยู่ขึ้นมา และมองเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้น ปะ...ปืนสองพันกระบอก!กระสุนปืนห้าร้อยกล่องกระสุนห้าร้อยกล่อง มีลูกกระสุนอยู่ทั้งหมดสองหมื่นห้าพันนัดของเหล่านี้เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิวได้แล้ว!มั่วฝานรู้ดีว่าปืนล่าสัตว์เหล่านี้สำคัญเป็นอย่างมากขอเพียงกองทัพธงเหลืองสามารถถอยทัพกลับไปได้ เผ่าหมานที่เหลือสองแสนคน หากกองทัพตระกูลจ้านของพวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง จะต้องสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนแผนสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ คือเขาต้องรีบนำแจกันไปที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุดมั่วฝานตะโกนเสียงดัง “หวังเซิ่ง!”ไม่มีผู้ใดขานรับ หน่วยกล้าตายที่อยู่ข้างกายเขาล้วนแต่อยู่ในสนามรบทั้งสิ้นมีเพียงแค่ทหารเด็กจำนวนหนึ่ง และประชาชนในเมืองตงโจวเท่านั้น เหล่าราษฎรถือชามโจ๊กมองมาที่เขามั่วฝานเท้าสะเอว พลางมองไปยังแจกันที่อยู่ตรงหน้าสุดท้ายเขาก็หิ้วแจกันขึ้นมา เดินไปที่ข้างรถกระบะ และพยายามขนถังใบใหญ่ลงมาจากรถด้วยความยากลำบากเขานำแจกันวางไว้ที่ด้านข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นก็สตาร์ทรถและไล่ตามจ้านเฉิงอิ้นไป...จ้านเฉิงอิ้นออกไปได้ประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว ความเร็วของเขามากกว
“คุณก็บอกไปว่าส่งไปเมืองนอกไม่ได้เหรอ?”เถ้าแก่ “...”ครั้นเย่มู่มู่เห็นเถ้าแก่ไม่ยอมผ่อนปรนให้ ก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “หกพัน หกพันกระบอกได้แล้วใช่ไหมคะ? ฉันจะจ่ายตามราคาครั้งที่แล้ว ราคาขายของคุณเป็นสองเท่า ฉันต้องการเร่งด่วน คุณว่ามาเถอะค่ะ ออเดอร์นี้จะดีลไหมคะ?”เถ้าแก่ไม่หวั่นไหวคงเป็นเรื่องโกหกหกพันกระบอก ราคาขายของทุกกระบอกหลายหมื่นทีเดียว!นี่ทำเงินได้มากกว่าส่งออกนอกประเทศหลายเท่าตัวเลยทว่า ขายออกไปหกพันกระบอก หากถูกตรวจสอบขึ้นมา เขาต้องติดคุกแน่“ไม่ได้ ผมไม่กล้าเสี่ยง ลูกเมียผมต้องพึ่งผมทั้งนั้น หากติดคุกติดตารางขึ้นมาจะทำยังไง?”เย่มู่มู่คิดว่าต้องสร้างความมั่นใจให้เถ้าแก่!เปิดแอปธนาคารในมือถือของเธอ จากนั้นก็อัดวิดีโอ แล้วส่งวิดีโอให้เถ้าแก่บัตรดำใบหนึ่งของเธอ ตอนนี้มียอดเงินคงเหลือพันกว่าล้านเป็นเงินที่เวินลี่โอนเข้ามาเมื่อหลายวันก่อนเธอกล่าว “ห้าพันกระบอก ในคลังของคุณต้องมีแน่ ฉันรู้ว่าคุณขายส่ง สินค้าของร้านเล็ก ๆ มากมาย ล้วนมาเอาจากคุณทั้งนั้น!”“ลูกกระสุนฉันเหมาหมด นี่เป็นยอดเงินคงเหลือของฉัน ขอแค่คุณขายให้ฉัน ฉันจะจ่ายเงินทันที!”“ตราบใดที่ดองสินค้าเอ
“หากเจ้ามีชีวิตรอดกลับมา ข้ารับปากเจ้า จะพบหน้าเจ้า!”จ้านเฉิงอิ้นฉีกยิ้ม น้ำเสียงไม่เคร่งขรึมหรือเศร้าโศกอีกเขาดีใจ น้ำเสียงใสและร่าเริง “ท่านเทพ ท่านตกลงแล้ว?”“ใช่ ข้าตกลงแล้ว!”“ข้าจะมีชีวิตรอดให้ได้ ต้องมีชีวิตรอด!”“ดี ข้าจะรอเจ้า พวกเจ้าจะไปรบแล้ว มีอะไรที่ข้าช่วยได้บ้าง?”“ไม่ต้องแล้วขอรับท่านเทพ ที่ท่านช่วยได้ก็ช่วยแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงพวกข้าต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น!”“ท่านรอข่าวดีจากข้าได้เลย ไม่ว่าจะต้องข้ามภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบหรือมหาสมุทร ห่างกันหมื่นปี ข้าก็จะไปเจอท่านให้ได้!”เย่มู่มู่เช็ดน้ำตาที่ขอบตา พร้อมฉีกยิ้มอย่างความโศกเศร้ากลายเป็นความสุข “ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”“กองทัพมารวมตัวกันแล้ว ข้าเตรียมตัวจะออกเดินทางแล้ว ท่านเทพไว้เจอกันนะขอรับ!”มือของเย่มู่มู่ลูบแจกัน “เจอกัน จ้านเฉิงอิ้น!”หลังจากนั้น ในใจของเธอมีเสียงเต้นตึกตักเล็ก ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง“ต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!”จนกระทั่ง ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก เย่มู่มู่ก็รู้ทันทีว่าจ้านเฉิงอิ้นไปแล้ว!ไม่รู้ว่าผู้ใดถือแจกันเอาไว้เขาจะต้องปลอดภัย!ในจังหวะนี้เอง มีเสียงความเคลื่อนไหวอยู่ในแจกัน จากนั้นก็มีก
เย่มู่มู่เดินกลับไป แล้วถามฮ่าวอี้ว่า “พวกคุณเข้ามาได้ยังไง?”“ให้บุหรี่ดันฮิลกับรปภ.ตัวหนึ่ง ก็ปล่อยเข้าไปแลว แถมเราไม่ใช่คนไม่ดีอะไร มารับคุณที่หน้าประตูมหาลัยทุกวัน จนสนิทกับรปภ.แล้ว!”รปภ.ได้ยินพวกเขาบอกว่า เป็นบอดี้การ์ดได้เงินเดือนเดือนละสามแสนกำลังคิดจะโยกย้ายงาน ไปเป็นบอดี้การ์ดให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่ถามอีกว่า “แน่ใจเหรอว่าหลูหมิงจะออกมาได้?”“ได้แน่นอน อีกฝ่ายพกมีด แถมยังรับเงิน สภาพการณ์นี้ก็จะต่างออกไปแล้ว ขอแค่เป็นทนายที่ไม่ตาบอดจนเกินไป ก็แก้ต่างให้พ้นโทษได้!”เย่มู่มู่โทรหาเวินลี่เวินลี่คล้ายกับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย บอกว่าหาทนายเอาไว้เรียบร้อยแล้วตอนนี้อยู่ระหว่างไปสถานีตำรวจ ยื่นประกันตัวออกมาวันนี้เย่มู่มู่ถอนหายใจทีหนึ่งเมื่อเธอกลับถึงคฤหาสน์ ก็พุ่งเข้าไปในห้อง จากนั้นก็เปิดตู้เซฟเธอย้ายแจกันออกมา กระดาษขาวแผ่นหนึ่งร่วงตกลงมาตรงก้นแจกันเธอหยิบกระดาษขึ้นมาด้านบนเขียนตัวอักษรแสนคุ้นเคยที่ชัดเจนและทรงพลัง เป็นจดหมายที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาแม้จะบอกว่าเป็นจดหมาย ทว่าเหมือนจดหมายลาตายมากกว่าเขาบอกว่า ของทั้งหมดที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้ ใส่เอาไ