เห็นว่าผ่านไปนานแล้วนางยังคงไม่ตอบกลับ จ้านเฉิงอิ้นจึงส่งกระดาษมาอีกหลายแผ่น “ท่านเทพ?”“ทำให้ท่านเทพเป็นกังวลแล้ว ล้วนเป็นความผิดข้าเอง ข้าจะไม่ทำให้ท่านเทพผิดหวัง จะนำพาปวงประชาฝ่าวงล้อมออกไปให้จงได้”“ท่านเทพหลับแล้วหรือ? เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว”เย่มู่มู่เห็นกระดาษขาว จึงรีบตอบกลับ“ข้าไปช่วยซื้อเครื่องใช้ยุทธภัณฑ์มา ได้ชุดเกราะมาพันชุด ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังห้าพันเล่ม หน้าไม้ราชวงศ์ฉินร้อยคัน…”จ้านเฉิงอิ้นตอบ “ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังคือสิ่งใด? หน้าไม้ราชวงศ์ฉินเล่า? กองทัพของข้ายังมีธนูและศรอยู่”เย่มู่มู่เพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ แคว้นต้าฉี่คงยังไม่มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังเองก็เป็นเกิดขึ้นหลังจากยุคของพวกเขาราวหนึ่งพันห้าร้อยปีเห็นจะได้ “ส่งแท็บเล็ตมาให้ข้า ข้าจะโหลดวิดีโอการใช้งานอาวุธให้เจ้าเรียนรู้”แท็บเล็ตถูกส่งกลับมาเย่มู่มู่เปิดดูแกลเลอรีเห็นภาพถ่ายภาพหนึ่งมีชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงห้าคนอยู่ในชุดเกราะ ทว่าเสื้อผ้าด้านในกลับมอซอยิ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเครารุงรัง ดวงตาทอประกาย ต่างเมียงมองมายังกล้องด้วยความฉงนสนเท่ห์เย่มู่มู่ยังสังเกตเห็น ว่าฉากหลังของพวกเข
เย่มู่มู่ดาวน์โหลดคลิปวิดีโอสาธิตวิธีใช้งานดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรวมถึงยังดาวน์โหลดยุทธวิธีสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนในช่วงหลายพันปีมานี้ของจีนมาทั้งหมดอีกด้วยดาวน์โหลดตำราพิชัยสงครามหลายเล่ม เนื้อหาครอบคลุมกว้างขวาง แม้แต่หนังสือเกี่ยวกับการรบของพลเอกอาวุโสซู่อวี้ในยุคใกล้[1]ก็ดาวน์โหลดมาด้วยเช่นกันดาวน์โหลดเสร็จก็หยิบพาวเวอร์แบงค์หนึ่งเครื่องโยนลงไปด้วยกันฝ่ายจ้านเฉิงอิ้นได้รับแล้วก็เห็นว่ามีวิดีโอเกี่ยวกับดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน รวมถึงตำราเกี่ยวกับการรบอีกหลายเล่มเขาดีใจยิ่งนัก“ท่านเทพ ขอบพระคุณอย่างสูง ตำราพิชัยสงครามและบันทึกการสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนมีความสำคัญสำหรับอิ้นยิ่งนัก!”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก รีบพักผ่อนเถอะ ข้าเตรียมจะปล่อยน้ำแล้ว”เย่มู่มู่ส่งกระดาษแผ่นสุดท้ายลงไปเสร็จก็เปิดเครื่องสูบน้ำดีเซลเริ่มส่งน้ำไปให้*วันรุ่งขึ้น เธออาบน้ำและกินมื้อเช้าเสร็จก็โทรไปนัดผู้อาวุโสมู่ล่วงหน้าผู้อาวุโสมู่ได้รับสายจากเธอก็ดีใจมากบอกว่ารอเธออยู่ที่ร้านทั้งวัน!เย่มู่มู่เลือกเหรียญทองแดงสามแบบจากบรรดาสิ่งของที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาให้เธอคราวก่อน โ
บันทึกทางประวัติศาสตร์มีความสำคัญใหญ่หลวงทุพภิกขภัยเมื่อสองพันปีก่อนได้เกิดขึ้นจริง เมืองร้างพันลี้ แคว้นเล็กหลายแคว้นถึงกาลล่มสลายในนั้นยังรวมแคว้นฉี่ด้วยเช่นกันผู้อาวุโสมู่มีสีหน้าพลุ่งพล่านใจ “คุณผู้หญิง คุณต้องการขายม้วนไม้ไผ่กับเหรียญสามเหรียญนี้ใช่ไหม ผมซื้อทั้งหมด! หนึ่งพันล้านเป็นยังไง?”ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ อยากบอกว่าเปิดราคาสูงเกินไปแล้วแต่วัตถุโบราณจากแคว้นต้าฉี่มีแค่เจ้านี้เท่านั้น หายากเสียยิ่งกว่ายากหนึ่งพันล้านสูงมากก็จริง แต่ก็คู่ควรเธอพยักหน้า “ตกลง คุณต้องชำระโดยเร็วที่สุดนะคะ”ผู้อาวุโสมู่ยิ้มบอกให้คนไปจัดการโอนเงินเย่มู่มู่ตรวจสอบยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีแล้วก็บอกลากับผู้อาวุโสมู่ผู้อาวุโสมู่ยังอยากรั้งเธอไว้ เพราะรู้สึกว่าในมือเธอน่าจะยังมีของดีกว่านี้แต่สหายเก่าแก่ที่มาวันนี้มีเยอะเกินไป ล้วนแต่เป็นระดับหัวหน้าของพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ๆ จึงไม่ได้รั้งไว้ แต่ขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเย่มู่มู่แทน*เย่มู่มู่ออกมาจากร้านขายวัตถุโบราณก็เดินทางไปนอกเมืองต่อฤดูกาลนี้เป็นช่วงที่แตงโมวางตลาดพอดีชาวไร่แตงโมนำแตงโมมาตั้งแผงขายริมถนน ด้านหลังก็คือไร่แตงโมพ่อค้
จ้านเฉิงอิ้นตวัดดาบไปมาก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศขวับ ๆ...เขาอุทานชมเชย “เป็นดาบที่ดีจริง ๆ!”ซ่งตั๋วถือดาบม่อเตาราชวงศ์ถังอย่างติดใจจนวางไม่ลง “ข้าน้อยทำอาวุธมานานหลายปีก็ยังไม่เคยเห็นดาบยาวที่คมกริบถึงเพียงนี้มาก่อนเลย”เมื่อวานนำเหล็กกล้าชั้นดีไปหลอม เหล็กกล้าแข็งแกร่ง จุดหลอมเหลวสูง ไม่จำเป็นต้องตีก็สามารถทำเป็นอาวุธได้โดยตรงเขานึกว่าเหล็กกล้าเหล่านั้นดีมากแล้วเสียอีกแต่เมื่อเทียบกับดาบม่อเตาที่ได้รับมาวันนี้กลับห่างชั้นกันไกลนี่ก็คืออาวุธที่ท่านเทพประทานให้เช่นนั้นหรือ เยี่ยมยอดกว่าของแคว้นต้าอวี่ไม่รู้ตั้งกี่เท่า!ทันใดนั้น ชุดเกราะกว่าพันชุดก็หล่นลงมาในคลังสรรพาวุธชุดเกราะผลิตอย่างพิถีพิถัน มีชั้นนอกชั้นในสองชั้น เกราะชั้นนอกเป็นแผ่นเหล็กทรงใบหลิวร้อยต่อกัน เกราะชั้นในบุด้วยผ้าฝ้ายและผ้าสำลีซ่งตั๋วใช้ฝักดาบโจมตีชุดเกราะอย่างแรงชุดเกราะไม่บุบยุบ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้นเขาตกตะลึงสุดแสน “ท่านแม่ทัพ ชุดเกราะนี้ดีกว่าชุดเกราะของพวกเราเสียอีกขอรับ!!”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือแตะเกราะชั้นนอกที่เย็นเฉียบเบา ๆ แล้วชักกระบี่พกของตนออกมาฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~กระบี่ข
เมื่อเหล่าทหารเห็นดาบม่อเตาและชุดเกราะ ดวงตาก็พลันวาววับเฉินอู่ชักดาบม่อเตาออกจากฝักแล้วฟันไปกลางอากาศเสียงแหวกอากาศดังขวับเขาร้องเสียงดัง “ดาบที่ดี!”เปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงจับชุดเกราะด้วยความหลงใหลไม่วางมือทหารใต้บังคับบัญชาพวกเขาล้วนแต่เป็นพลบุกทะลวงที่อยู่ทัพหน้า กองทัพขาดแคลนวัสดุ ชุดเกราะทองแดงพังแล้วไม่มีวัสดุมาซ่อมบำรุง ได้แต่ถอดเอาจากทหารที่เสียชีวิตไปแล้ว นำมาประกอบกันใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ชุดเกราะทุกชุดล้วนแต่ชำรุดยามนี้ได้เห็นชุดเกราะเหล็กกล้าใหม่เอี่ยมก็รู้สึกหลงใหลยินดียิ่งนักแผ่นเหล็กกล้าบนชุดเกราะแน่นหนาแข็งแกร่ง หมุดย้ำต่อเนื่อง ข้างในบุด้วยผ้าฝ้ายและผ้าสำลี สัมผัสนุ่มนิ่มไม่เสียดสีผิวหนัง ระดับการป้องกันสูงยิ่งเมื่อทหารได้สวมก็ช่วยลดการบาดเจ็บล้มตายได้เกินครึ่งจ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่งทันทีว่าชุดเกราะและดาบม่อเตาจะจัดสรรให้ทหารทัพหน้าเสียก่อนเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงจับกลุ่มฝึกซ้อมทหารทัพหน้า ชุดเกราะบวกกับดาบม่อเตา คนสามคนจับกลุ่มหันหลังให้กัน สามารถต้านทานกองทัพทหารม้าที่เหี้ยมหาญที่สุดของเผ่าหมานได้ นอกจากนี้ยังคัดเลือกพลธนูที่มีเรี่ยวแรงแขนมากม
ตอนเย็น จ้านเฉิงอิ้นออกจากค่ายทหารกลับมายังจวนแม่ทัพตลอดทางไม่ปรากฏชาวบ้านร่างผ่ายผอมนอนรอความตายอยู่ข้างทางให้เห็นอีกแล้วบางครั้งก็จะเห็นแม่ม่ายตัวคนเดียวบางคนเดินไม่ไหว แต่ก็จะมีเพื่อนบ้านมาช่วยประคองพาไปต่อแถวรับโจ๊กอาหลี่จิตใจเอื้อเฟื้อ เขาจัดการให้คนแจกจ่ายโจ๊ก มีโจ๊กสองหม้อที่นำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่หิวโหยจนรอไม่ไหวโดยเฉพาะพอพวกเขามาถึงก็จะได้รับประทานทันทีแจกจ่ายโจ๊กสองวัน คนทั้งเมืองล้วนได้กินกันหมดแล้ววันนี้ ชาวบ้านไม่เพียงแต่ได้รับโจ๊กหนึ่งถ้วย แต่ยังได้รับแตงโมคนละชิ้นอีกด้วยแตงโมที่เย่มู่มู่ส่งมามีจำนวนมากเกินไป ยามนี้ขุดหลุมเก็บไว้ในห้องใต้ดินแล้วเก็บไว้ในห้องใต้ดินไม่รู้ว่าจะสามารถเก็บไว้ได้นานเท่าไรจึงนำออกมาแจกจ่ายให้ทุกคนกินชาวบ้านเห็นแล้วก็คิดว่าท่านแม่ทัพแจกจ่ายโจ๊กแล้วยังแถมแตงโมให้อีกด้วย!คนที่ฉลาดหน่อยล้วนดูออกแล้วว่าด่านเจิ้นกวนไม่ขาดแคลนเสบียงอีกต่อไปแล้ว ท่านแม่ทัพจึงสามารถแจกจ่ายแตงโมให้ชาวบ้านในเมืองเช่นนี้ประกาศรับสมัครคนเข้ากองทัพเพิ่งเอาไปติดเมื่อวานนี้ก็มีคนมาสมัครถึงสองพันคนภายในวันเดียวคนเหล่านี้มาเพราะอยากลองดูว่าจะได้รับจัดสรรข
“ฉันยังต้องการเข็มและด้ายหลายชนิดสำหรับเย็บผ้า ต้องการในปริมาณมาก!”“ได้ค่ะ งานถนัดของฉันเลยค่ะคุณเย่ เรื่องนี้ไว้ใจฉันได้เลย”หัวหน้าฝ่ายขายกล่าวต่อว่า “โรงงานของเรายังมีคลังเก็บผ้าที่มีตำหนิเล็กน้อย ขายลดราคาที่เมตรละสองบาทห้าสิบสตางค์ คุณโอเคไหมคะ?”เย่มู่มู่พยักหน้า “ตกลง!”หัวหน้าฝ่ายขายดีใจมากและเรียกฝ่ายการเงินมาคำนวณเพราะจำนวนสินค้านั้นมากมายมหาศาล เกรงว่าคลังสินค้าทั้งสี่แห่งในเขตชานเมืองของเย่มู่มู่อาจไม่พอเก็บเย่มู่มู่จึงกล่าวว่า “ทยอยส่งมาในสามวันนะคะ คลังสินค้าของฉันเก็บไม่หมด!”“ตกลง ไม่มีปัญหาค่ะ”หลังจากฝ่ายการเงินคำนวณแล้ว พบว่ารวมทั้งผ้าและเข็มด้าย... คิดเป็นเงินทั้งหมดสามร้อยล้านบาทเย่มู่มู่ชำระเงินงวดแรก ส่วนที่เหลือจะชำระหลังของถูกส่งมาครบทั้งหมดหัวหน้าฝ่ายขายส่งเธอขึ้นรถด้วยรอยยิ้ม พร้อมยื่นนามบัตรให้ “คุณเย่คะ ถ้าต้องการวัสดุผ้าอีกเมื่อไหร่ โทรหาฉันได้เลยนะคะ”“เราไม่ได้มีแค่ผ้าสำหรับทำเสื้อผ้าเท่านั้น เรายังมีโรงงานย่อยที่ผลิตผ้าสำหรับทำเต็นท์ ผ้าเดนิม...”เย่มู่มู่คิดขึ้นมาได้ทันที “ผ้าลายพรางสำหรับทะเลทรายทำได้ไหมคะ?”“ทำได้ค่ะ หากคุณต้องการ เ
มีข่าวลือแพร่สะพัดออกมาว่าจวนแม่ทัพมีเสบียงอาหารจำนวนมาก วันนี้ผู้ที่มาต่อแถวรับข้าวต้มยังได้รับแตงโมหวานฉ่ำคนละชิ้นจ้าวโหย่วไฉยิ่งมั่นใจว่าจวนแม่ทัพต้องมีเสบียงอาหารมหาศาล!ก่อนที่กองทัพชนเผ่าหมานจะบุกลงใต้ เว่ยกวงเคยเป็นหัวโจกนักเลงที่มีชื่อเสียงในด่านเจิ้นกวน เขามีพี่น้องที่เคยเสี่ยงชีวิตร่วมกันในหน่วยลาดตระเวนบนถนนในด่านเจิ้นกวน เว่ยกวงถือว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลทั้งในด้านมืดและด้านสว่างปกติเวลาไปกินอาหารตามร้านค้าก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินร้านค้าที่มีกิจการดี ๆ ยินดีจ่ายค่าคุ้มครองให้โดยสมัครใจ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกอันธพาลเข้ามาก่อกวนในร้านเมื่อเว่ยกวงรับเงินไปแล้ว เขาย่อมทำงานแน่นอน หากมีใครมากินอาหารแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน เขาจะให้คนของเขาลากตัวออกไปแล้วซ้อมสั่งสอนแม้ว่าเขาจะเป็นนักเลง แต่ก็ยังถือว่ามีคุณธรรมเหตุผลที่จ้าวโหย่วไฉเลือกเว่ยกวงก็เพราะเว่ยกวงเคยถูกทหารประจำด่านเจิ้นกวนออกหมายจับมาก่อนเขารู้เส้นทางลับที่เชื่อมต่อระหว่างด่านเจิ้นกวนและโลกภายนอก ทำให้ไม่เคยถูกจับได้จ้าวโหย่วไฉต้องการส่งข่าวออกไปข้างนอก โดยวางแผนให้เผ่าหมานเข้ามาในด่านเจิ้นกวนผ่านเส้นทางลับ โจมตี
ครั้นมั่วฝานได้ยินว่าหลูซีได้รับรางวัล ในใจก็ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่งทว่าก็ไม่ได้เป็นเพราะอิจฉา ในบัตรของเขายังมีสี่ร้อยล้าน ไม่จำเป็นต้องอิจฉาเขาเพียงแต่...เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมการดำเนินชีวิตใหม่ ดูสิ หลูซีเพิ่งจะสิบหก ก็จับผู้ต้องการหนีคดีได้ตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วหาเลี้ยงตัวเองได้แล้วส่วนเขาได้แต่พึ่งการขายของมีมูลค่าที่ตัวประทังชีวิตเห็นได้ชัดว่าตนไร้ประโยชน์ขนาดนั้น!เฮ้ออารมณ์เสียชะมัด!กลุ้มใจจริง ๆ!เขาหยิบขวดเบียร์ขึ้นมา แล้วกระดกหมดในรวดเดียวในขณะนี้เอง ผู้รับเหมาก็พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคมาด้วยกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคร่างเล็ก ค่อนข้างผอม สีหน้าซีดเผือดราวกับไม่ได้เจอแสงแดดมานานเขาไม่ได้สวมแว่น สวมเสื้อลายสก็อตธรรมาดา ๆ พร้อมนั่งลงอย่างเหนียมอาย เมื่อเห็นว่าผู้ที่นั่งอยู่โต๊ะนี้ไม่ใช่หนุ่มหล่อทว่าเป็นสาวสวย ก็วางมือลงบนเข่าด้วยความรู้สึกอึดอัดส่วนผู้รับเหมาย้ายเก้าอี้มานั่งข้างเย่มู่มู่อย่างสนิทสนมทั้งที่รู้จักกันได้ไม่นานเขาหยิบเบียร์ขึ้นมาเองขวดหนึ่ง จากนั้นก็รินใส่จนเต็มแก้ว“คุณบอกว่านักฆ่าคนนั้นถูกจับแล้ว?”“ใช่ค่ะ เพิ่งโทรเข้ามา มีคดีฆาตกรรมติด
มั่วฝานและหลูซีต่างตาเบิกโพลง พวกเขาได้ยินอะไรกันตระกูลใหญ่โตตระกูลหนึ่งแย่งสมบัติกัน โดยใช้วิธีให้ยายเฒ่าผู้หนึ่งฆ่าตัวเอง บีบให้ท่านเทพยกเลิกการทวงหนี้ของพวกเขาพวกเขาเคยเห็นผู้ที่ไร้ยางอาย ทว่าไม่เคยเห็นผู้ที่ไร้จิตใจเช่นนี้มาก่อนพายายเฒ่าอายุเจ็ดสิบขึ้นไปยังดาดฟ้าชั้นสามสิบ ไปกระโดดฆ่าตัวตาย?แม้เบื้องล่างจะมีเบาะรองรับการกระโดดปูเอาไว้ ทว่าคนแก่คนชราแค่ล้มก็กระดูกหักได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกระโดดลงมาจากตึกสูงเช่นนี้เลยวันนี้หลูซียังนับความสูงของชั้นอย่างตั้งใจอีกด้วยเขารู้ว่าสามสิบชั้นสูงเท่าไรกันแน่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ในโลกของท่านเทพบ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!เพื่อเงิน...บ้ากันไปหมดแล้วจริง ๆ!ในต้าฉี่ของพวกเขา แม้เงินจะสำคัญมาก ๆ ทว่าเสบียงอาหารและน้ำสำคัญยิ่งกว่ามีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อน้ำและเสบียงอาหารได้...ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่ยกให้เงินเป็นอันดับแรก ทว่าเสบียงอาหารและน้ำต่างหากที่เป็นอันดับแรก!มั่วฝานเองก็รู้สึกว่าคนในครอบครัวของท่านเทพ เสียสติไปแล้วเพียงเพราะเงินตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่า ที่แท้ท่านเทพเป็นเด็กกำพร้าข้างกายยังมีญาติพี่น้องชั้นหนึ่งอีกกลุ่มหนึ่ง
“เปล่านะครับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนหนึ่งของทางเรา ได้ติดตั้งโปรแกรมไว้ในโทรศัพท์ของพวกเขา เนื้อหาที่พวกเขาคุยกันคือ จะเอาเงินจากทางฝั่งคุณยังไง วิธีที่คิดขึ้นมาเรียกได้ว่าสกปรกสุด ๆ นอกเหนือจากนี้เหมือนจะไม่มีอย่างอื่นแล้วครับ”“พวกเขาไม่ได้จ้างวานฆ่าฉันจริง ๆ เหรอคะ?”ครั้นผู้รับเหมาได้ยินดังนั้น นี่ถึงขั้นจ้างวานฆ่าแล้วเหรอ?นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้วนะเย่มู่มู่บอกเรื่องที่เมื่อครู่เธอเกือบถูกจัดฉากให้ตายด้วยอุบัติเหตุและเรื่องที่นักฆ่ามืออาชีพถูกจับให้กับผู้รับเหมาฟังผู้รับเหมารีบก่นด่าขึ้นมา “ผมให้คนฟังเนื้อหาที่พวกเขาคุยกันทุกวัน ต้องไม่กล้าฆ่าคนแน่ ๆ วางใจได้ครับ คุณคือคนให้ที่อยู่ที่กินของเรา ใครกล้าลอบทำร้ายคุณ ก็เท่ากับจงใจหาเรื่องเรา!”“ผมจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคส่งเนื้อหาที่ตระกูลเย่พูดคุยกันให้คุณนะครับ!”“โอเคค่ะ”เย่มู่มู่ถามขึ้นอีกว่า “ฝีมือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ?”“เขาเก่งมากครับ ไม่ได้เรียนอะไรมา แต่เรียนด้วยตัวเองทั้งนั้น เป็นแฮกเกอร์ที่เชื่อถือได้!”“งั้นคุณพาเขามาหน่อยนะคะ ทางฉันมีโทรศัพท์ที่ต้องการให้เขาแฮกเครื่องหนึ่ง ถ้าแฮก
มั่วฝานเห็นสีหน้าเย่มู่มู่ไม่สู้ดี นางเลื่อนดูทุกอย่างในโทรศัพท์ ข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรไม่มีเลยหลูซีซ้อมคนไปยกหนึ่ง ได้ระบายความโกรธไปไม่น้อยอาหารอร่อย ๆ เต็มโตะ เขาก็กินอย่างมีความสุขน้ำเสียงที่กล่าวก็เปลี่ยนไปเยอะเช่นกัน!“คนผู้นั้นยังปากแข็ง ข้าอัดเขายกหนึ่ง เขายังหัวเราะร่า บอกว่าถ้าแน่จริงข้าก็อัดเขาให้ตายสิ...”“เขายังบอกอีกว่าข้าไม่กล้าฆ่า เพราะหากฆ่าเขา ต้องคิดถึงผลที่ตามมาด้วย!”“ฮึ เขาหลอกคนโบราณเยี่ยงข้า เมื่อวานที่สถานีตำรวจ พวกพี่สาวบอกเกร็ดความรู้แก่ข้าแล้ว ข้ายังอายุไม่ถึงสิบแปดปีเต็ม หากพลั้งมือฆ่าคนจริง ๆ ปัญหาไม่ใหญ่...”“ข้าบอกกับเขาว่า บนหลังเขาแบกชีวิตคนเอาไว้ ข้ารู้จักคนที่สถานีตำรวจไม่น้อย พี่ชายที่ใส่กุญแจมือให้ข้าเมื่อวาน เอาเบอร์โทรให้ข้าแล้ว ข้าจะโทรให้เขามาจับคน”“ข้าส่งตัวนักฆ่าให้พี่ชายผู้นั้นไปโดยตรง...”เย่มู่มู่ฟังแล้วต้องถอนหายใจ“กระถางนั่นเล่าเจ้าคิดว่าอย่างไร จะตกใส่หัวข้าหรือ?”“องศา นักฆ่าอย่างเราจะฝึกใช้อาวุธลับ มุมและองศาในการออกแรงเรามองออกในพริบตาเดียว เขามุ่งเป้ามาหาท่าน!”“กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขาฉุนยิ่งนัก หาคนเช่นนี้บนถนนไม่พบ
“ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนี่ชอบไปเที่ยวที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือ? ทำไมยังหน้าแดงอีกเล่า?”หลูซีมองหญิงสาวที่สวมกระโปรงสั้น เผยให้เห็นต้นขาขาวผ่องออกมา เขากล่าวอย่างกระวนกระวายว่า “ท่านเทพ ที่ต้าฉี่ไม่มีผู้ใดใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ แม้จะเป็นขอทานก็ปิดมิดชิดทุกส่วน!”เย่มู่มู่ตอบกลับ “นั่นถือว่ายังมีจรรยาบรรณทางวิชาชีพทีเดียว”“แม้ท่านรัฐทายาทจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ไปค้างคืนที่หอโคมเขียวบ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่เคยค้างคืนกับหญิงสาวที่หอโคมเขียว...”“ฉะนั้น นี่เขายังซิงอยู่หรือ?”หลูซีไม่เข้าใจอะไรที่เรียกว่าซิง เขาเอียงศีรษะน้อย ๆ พลางครุ่นคิดแล่วเอ่ยขึ้นว่า “อืม เขาบอกว่าผู้หญิงที่หอโคมเขียวเองก็ไม่ง่าย หากเขาค้างคืนด้วย แล้วรู้ว่านี่คือคนของเขา ก็จะไม่มีขุนนางชั้นสูงและคนตระกูลชั้นสูงผู้อื่นมาซื้อ และอาจมารังแกพวกนางได้!”เย่มู่มู่อดไม่ได้ที่จะมองรัฐทายาทน้อยตรง ๆ “นับว่าเขาเป็นคนดีทีเดียว!”“แน่นอนอยู่แล้วขอรับ...เขาเองก็ปฏิบัติกับหน่วยกล้าตายไม่เลวเช่นกัน!”ทันใดนั้น หลูซีก็ยืนตัวตรงพร้อมกำดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังในมือแน่นสีหน้าเคร่งเครียด เขาแหงนหน้าขึ้นไป สายตาของนัยน์ตาดำขลับมองไปยังที่ที่
“ทุกท่าน เพื่อให้อนาคตมีอาวุธที่หลอมจากเหล็กใช้ไม่ขาดมือ ต้องชิงที่แห่งนี้มาให้ได้!”“ข้าคิดจะชิงตัดแหล่งที่มาของอาวุธพวกเขา ก่อนจะโจมตีกองทัพธงเหลือง”“ต้องส่งคนกลุ่มหนึ่งไปเฝ้าติดตามทางนั้นก่อน หานายทหารที่ไหวพริบดี ชำนาญการซ่อนตัวไปไปบางส่วน”“ให้ซุนเฮ่อหาชาวบ้านที่เคยขุดเหมืองมาสักสองสามคน ขับรถไปพร้อมกัน เตรียมเสบียงอาหารให้เยอะขึ้นอีกหน่อย!”เหล่านายทหารได้ยินดังนั้น นี่คือภูเขาเหมืองแร่เหล็กที่กลั่นเหล็กกล้าเลยนะหัวเซี่ยผืนแผ่นดินใหญ่ มีกองทหารของแว่นแคว้นมากมาย ทว่ายังใช้อาวุธทองสัมฤทธิ์อยู่หากเอาภูเขาเหมืองแร่หินมาได้ ก็เท่ากับแหล่งที่มาของอาวุธที่มีให้ใช้ไม่ขาดมือต้องชิงที่นี่มาให้ได้จ้าวเฉียน สวีจื่อหลิง เฉินเซียนซง จางเฉา หลัวอวี๋...ต่างคุกเข่าลงในทันใดอยากจะขอคำสั่งบุกแม้อยู่ด้วยกันมาก็ช่วงหนึ่งแล้ว ทว่าอันที่จริงจ้านเฉิงอิ้นก็ไม่ได้เข้าใจนิสัยของบรรดาผู้นำทัพเยี่ยนมากมายนักเขามองไปที่เซี่ยเวย “แม่ทัพเซี่ยคิดว่าจะส่งผู้ใดล่วงหน้าไป?”เซี่ยเวยตอบ “ท่านแม่ทัพ ระเบิดโรงงานดินปืน ให้จางเฉานำคนไปเถิด เขาคุ้นเคยกับการสู้รบตอนกลางคืน หากเป็นตอนกลางคืนอัตราความส
จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้พูดตอบใด ๆเปลี่ยนไปจิตใจดีอะไรกัน เพียงแต่นึกไปถึงว่าหากต้าฉี่ต้องล่มสลาย เลยจะดึงเขามาเป็นพวกล่วงหน้าเท่านั้นหากมีไทเฮาคอยดูแลท่านแม่และบ้านน้องรองอยู่ในวัง เขาก็จะได้เบาใจไปสองสามส่วนจ้านเฉิงอิ้นกล่าวกับจวงเหลียงว่า “เจ้าเผยข่าวเรื่องที่ข้าถูกลอบโจมตี และได้รับบาดเจ็บหนักให้ไทเฮาทรงทราบเสีย”“แจ้งลงไป พักอยู่ที่ช่องเขาเป้าเสียสามวัน จนกว่าท่านเทพจะนำวัตุระเบิดมาไว้ในที่ว่างเปล่า แล้วค่อยออกเดินทาง”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”*ตอนบ่ายเย่มู่มู่ไปยังพื้นที่ก่อสร้างท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาเธอเห็นรัฐทายาทน้อยที่เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยโคลน กำลังเข็นรถเข็นสามล้อคันน้อยพร้อมออกแรงสุดชีวิตภายในรถเข็นคันน้อยใส่หินเอาไว้เต็มคันรถเขากำลังเข็นไปยังใต้กำแพงทั้งเหงื่อท่วมหัว จากนั้นก็ย้ายขึ้นไปกองยังชั้นสามทีละก้อน ๆก่อนจะเดินลงมาทั้งขากะเผลกตลอดทั้งทางอีกครั้งส้นเท้าถูกบดจนเลือดออก นิ้วเต็มไปด้วยตุ่มพอง“มั่วฝาน หลูซี...ไป ข้าจะพาพวกเจ้าไปทำซิมการ์ดกับบัตรธนาคาร!”ทั้งสองคนวางงานในมือลง แล้วรีบวิ่งมาทันทีบนใบหน้ามอมแมมไปหมด บนร่างกายเองก็ไม่มีจุดไหนที่สะอาดเช่นกัน
ซ่งอวิ๋นฮุยรีบป้อนยาให้จ้านเฉิงอิ้น รอเขาสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย ค่อยจับชีพจรต่อเขากล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ ต้องห้ามมีอารมณ์พลุ่งพล่านเกินไปเป็นอันขาด มันไม่ดีต่อการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า!ต่อต้านต้องต่อต้าน!ทว่าตอนนี้ต้องจัดการกองทัพธงเหลืองก่อนและต้องพาครอบครัวที่อยู่เมืองหลวงออกมาบัดนี้บิดามารดาของเฉินขุยเฉินอู่...และมารดา พี่ใหญ่ ทั้งครอบครัวพี่รองของเขา...ถูกขังอยู่ในวัง!จวนตระกูลจ้านยังมีท่านย่า น้องชายสี่ น้องหญิงห้า...ต้องพาทุกคนออกมาครอบครัวของนายทหารส่วนใหญ่ล้วนอยู่ที่เมืองหลวง ต้องลอบย้ายคนออกมาอย่างลับ ๆจ้านเฉิงอิ้นมองไปที่เฉินขุย เฉินอู่ เฉินจวิ้นหลินและซ่งตั๋ว...“เฉินขุย เฉินอู่ พวกเจ้าไปถามพวกทหารผ่านศึกว่า ผู้ใดยังมีครอบครัวอยู่ที่เมืองหลวงอีกบ้าง และทำบันทึกเอาไว้”“นายทหารที่ตายไปเหล่านั้นหากมีครอบครัวอยู่ที่เมืองหลวง ก็อย่าให้ตกหล่นเป็นอันขาด”“เฉินจวิ้นหลิน เจ้านำกองกำลังกองหนึ่งล่วงหน้าเข้าเมือง โยกย้ายครอบครัวออกมาจากเมืองหลวงอย่างลับ ๆ ก่อน ไม่จำเป็นต้องโยกย้ายจำนวนมาก นำคนออกจากเมืองชุดหนึ่งทุก ๆ สองสามวัน กระทั่งจะ
หลังจากกลุ่มคนจากไป จวงเหลียงก็หยิบพระราชโองการลับของไทเฮาออกมาไทเฮาทรงเขียนถึงมั่วฝาน เพียงแต่เขาไม่อยู่ จวงเหลียงจึงเปิดพระราชโองการออกด้านบนเขียนไว้ว่า แคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นเยี่ยน เผ่าหมาน... ล้วนส่งสาส์นตราแผ่นดินมายังฮ่องเต้แคว้นต้าฉี่พวกเขามีเจตนาที่จะผูกมิตรไมตรีกับแคว้นต้าฉี่ยินดีลงนามในข้อตกลงหยุดสงครามเป็นเวลาห้าสิบปีพวกเขายินดีที่จะยกเมืองบางเมืองให้ เผ่าหมานส่งวัวและแกะมาถวาย...ข้อเรียกร้องเพียงข้อเดียวของข้อตกลงหยุดสงคราม เนื่องมาจากจ้านเฉิงอิ้นสังหารทหารของพวกเขาไปมากมายในเมื่อลงนามในข้อตกลงหยุดสงครามแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็ไร้ประโยชน์พวกเขาเรียกร้องให้ฮ่องเต้น้อยสังหารจ้านเฉิงอิ้นแล้วค่อยลงนามในข้อตกลงจ้านเฉิงอิ้นเห็นจดหมายลับฉบับนี้ โทสะก็ลุกโชน เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนเขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อแคว้นต้าฉี่กองทัพตระกูลจ้านสองแสนนายของเขา บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน เหลือไม่ถึงสองหมื่นนายฮ่องเต้น้อยไม่เพียงแต่ไม่เลื่อนบรรดาศักดิ์ให้เขาผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงแต่ยังแสดงเจตนาสังหารอย่างชัดเจน!ในจดหมายลับ ไทเฮากล่าวถึงฮ่องเต้น้อยทรงสนพระทัยการเจรจาสันติภ