Share

บทที่ 24

Author: มู่โร่ว
“ท่านแม่ทัพ นี่คือสิ่งใดกัน น่าอัศจรรย์โดยแท้!”

จ้านเฉิงอิ้นส่งแท็บเล็ตให้เฉินขุย “เจ้าลองใช้มือสัมผัสดู”

เพียงนิ้วมือหยาบกระด้างกร้านแผลเป็นของเฉินขุยแตะเบา ๆ ลงบนหน้าจอ วิดีโอก็หยุดลงทันที

ว้าว...

เหล่านายทหารทั้งหลายพลันร้องอุทานเสียงดัง

เฉินขุยแตะบนหน้าจออีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อจากเดิม

ตาเขาเบิกออกโตอย่างแทบไม่อยากเชื่อสายตาตน

“สมเป็นของวิเศษจากท่านเทพจริง ๆ คนธรรมดาเช่นเราเกรงว่าในพันปีก็คงไม่อาจสรรค์สร้างได้!”

พลทหารนายอื่น ๆ ก็อดรนทนไม่ไหวอยากสัมผัสบ้างเช่นกัน

“คนเราจะเข้าไปได้อย่างไร ทั้งเขายังหยุดการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย!”

“กระหม่อมคิดว่าเป็นวิชาดูดกลืนวิญญาณของท่านเทพ ที่ดูดวิญญาณเข้าไปภายใน เจ้าคนโฉดจึงได้เชื่อฟังคำสั่งเช่นนี้!”

จ้านเฉิงอิ้นได้ยินนายทหารพูดคุยกันอย่างออกรสก็อดขำไม่ได้

เขาศึกษาเข้าใจวิธีการถ่ายภาพและอัดวิดีโอแล้ว

เขาเอื้อมหยิบแท็บเล็ตมา กดปุ่มเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูป

แชะ~

และแล้วภาพแสนคมชัดของเหล่านายทหารทั้งห้านายที่มีสีหน้าต่างกันไปก็ปรากฏขึ้นมา

เขาขยายภาพและส่งให้พวกพลทหารได้ดู

พวกเขาต่างเบิกตากว้าง มองดูภาพของตนด้วยความประหลาดใจ

“วาดได้สม
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 25

    กองทัพตระกูลจ้านเหลือทหารเพียงสองหมื่นนาย ไร้ทั้งม้าศึก ไร้ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ดี ๆ ใช้หากข่าวที่ว่าในเมืองมีน้ำเล็ดรอดออกไป มั่วเป่ยหมานอ๋องจะต้องยกทัพมาโจมตีเมืองอย่างแน่นอน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งมากค่ามากราคาเท่าใดก็ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะนี่เป็นถึงสายน้ำแห่งชีวิต!จ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้นยืน เรือนคิ้วดาบบนใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดมุ่นเขาเดินไปมาในกระโจมด้วยกังวลในใจพลทหารเฝ้าประตูเห็นท่าทีแล้วก็รับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของท่านแม่ทัพจึงได้สั่งให้ทุกคนถอยห่าง อัปเปหิตนไกลจากกระโจมมาหลายหมี่[1]ทันใดนั้น เหนือกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก็มีถุงถ่านหินและไม้ฟืนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าราวห่าฝนตุบ ตุบ ตุบ...ถ่านหินกองพะเนินอยู่เต็มกระโจม จนเมื่อกระโจมของเขารับน้ำหนักไม่ไหวอีกต่อไปก็ขาดแคว่กเสียงดัง ทั้งถ่านหินและไม้ฟืนราวหิมะถล่มก็มิปานแต่ละมวลแต่ละชิ้นหลุดทะลักทลายออกมาจากกระโจม กองพะเนินเต็มอาณาพื้นที่!“ท่านแม่ทัพ...”พลทหารที่ได้ยินเสียงต่างกุลีกุจอกันมาดู เห็นเพียงว่าภายในรัศมีสองหมี่รอบตัวจ้านเฉิงอิ้น หาได้มีสิ่งใดตกหล่นลงมา เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไร้ภัยย่างกราย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 26

    ซ่งตั๋วปิติยินดี “ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่ง!”ด้วยรางวัลตอบแทนมากเช่นนี้ จะต้องมีชาวบ้านมาลงชื่อกันมากมายเป็นแน่และการผลิตอาวุธก็ย่อมเร็วขึ้นเช่นกันซ่งตั๋วเรียกพลทหารมาขนย้ายถ่านหินทั้งหมดออกไปพลทหารนายอื่น ๆ ต่างตาร้อนมองตามซ่งตั๋วขนย้ายเหล็กกล้าชั้นเยี่ยมทั้งหมดไป*ปูนซีเมนต์และอิฐที่เย่มู่มู่สั่งซื้อมาทั้งหมดต่างส่งถึงโกดังแล้วเมื่อวานเธอได้สั่งจองข้าวสารจากพ่อค้าร้านค้าข้าวเอาไว้ล่วงหน้า ข้าวสารส่วนที่เหลืออีกหนึ่งพันแปดร้อยกระสอบต่างก็ส่งมาถึงโกดังแล้วเช่นกันทว่าการเก็บปูนซีเมนต์และข้าวสารไว้ในที่เดียวกัน อย่างไรก็คงไม่ดีนักเย่มู่มู่จึงขอให้ลุงหยางผู้ดูแลโกดัง เปิดประตูใหญ่โกดังแห่งที่สองให้โกดังแรกใช้สำหรับจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ส่วนโกดังแห่งที่สองใช้จัดเก็บเสบียงอาหารและผักผลไม้ลุงหยางเองก็คับข้องใจ เย่มู่มู่จะซื้อปูนซีเมนต์และอิฐมากมายเช่นนั้นไปทำอะไรแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรนัก เพียงเปิดประตูโกดังแห่งที่สอง ให้พ่อค้าร้านค้าข้าวขับรถเข้าไปด้านในได้เมื่อเย่มู่มู่มาถึงโกดัง ลุงหยางดูเวลาแล้ว เห็นว่าพักกินข้าวเที่ยงพอดีเขาบอกกล่าวเธอสักหน่อยแล้ว จึงได้ไปพักกินข้าว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 27

    จ้านเฉิงอิ้นจัดแจงข้าวสารและแป้งสาลีเข้าโกดัง นายทหารทั้งหลายมองดูเสบียงอาหารกองพะเนินเป็นกำแพงสูง...เสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานนั้น เพียงพอแค่กินได้หนึ่งวัน พวกเขายังกังวลกันว่าหากขาดแคลนเสบียงจะทำอย่างไรต่อไป?บัดนี้ สิ่งแน่นหนักในใจเหล่านั้นสลายหายไปหมดแล้วท่านเทพเป็นผู้รักษาวาจาท่านประทานอาหารมาให้อย่างเพียงพอจริง ๆ!จ้านเฉิงอิ้นวางมือลงบนกระสอบข้าวสาร มองไล่ไปตามเสบียงอาหารขาวโพลนพลางเอ่ย “หากตามที่ท่านเทพบอก เสบียงนี้เพียงพอจะอยู่ได้นานเท่าใด”หลี่หยวนจงตอบว “ข้าวสารสองแสนชั่ง แป้งสาลีสองหมื่นห้าพันชั่ง...”บัดนี้พลทหารแต่ละนายได้ข้าวสารวันหนึ่งครึ่งชั่งใช้ประทังชีพได้ยี่สิบเอ็ดวันขอรับ”นายทหารได้ยินกันถ้วนทั่ว หากเป็นเมื่อก่อนน่ะหรือ เพียงคิดก็ไม่อาจหาญกล้า!มีที่ไหนใครจะได้กินข้าววันหนึ่งถึงครึ่งชั่ง เกรงว่าจะมีแต่เชื้อพระวงศ์ขุนนางที่กล้าฟุ่มเฟือยได้เพียงนั้น!ภายนอกเมืองกำลังประสบทุพภิกขภัยครั้งใหญ่!แต่ในเมืองของพวกเขา กลับผ่านไปอย่างสุขสันต์ดังแดนสวรรค์ทุกคืนวันคิดถึงตรงนี้ ทหารแต่ละนายต่างก็ยิ่งอยากมีชีวิตรอด อยากตีฝ่าวงล้อมออกไป อยากทำลายเผ่าหม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 28

    ส่วนคนที่เหลือไปช่วยกันซ่อมแซมกำแพงเมือง!ฟ้าค่อย ๆ มืดลง จ้านเฉิงอิ้นมองดูอาหารสองสามอย่างและข้าวหลายกล่องบนโต๊ะ มุมปากผุดพรายยิ้มนุ่มนวล ท่านเทพมาโปรดสัตว์อีกแล้วเมื่อคืนวานเป็นปลาน้ำแดง วันนี้เป็นซี่โครงหมูนึ่ง เนื้อวัวผัดแห้ง ผัดผัก และซุปมะเขือเทศใส่ไข่นางช่างทุ่มเทส่งอาหารมาให้เขาเต็มกำลังจริง ๆเขาเปิดกล่องอาหารออกแล้วเรียกสวี่หมิงกับเถียนฉินมากินด้วยกัน ทั้งสองกลับส่ายหน้า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าน้อยทานกันที่กองทัพกันแล้วขอรับ”“วันนี้เป็นข้าวสวยหุงสุกหนึ่งมื้อ ผัดหมูจานหนึ่ง ผัดกะหล่ำปลีหนึ่งจาน และน้ำแกงฟักเขียว... อร่อยมากจริง ๆ”“ใช่ขอรับ ที่แท้ข้าวสวยหุงก็อร่อยเช่นนี้ ทั้งหอมละมุน ไม่ติดฝาดบาดคอ รสชาติกลมกล่อม เคี้ยวไปยังมีรสหวานอีกด้วย”จ้านเฉิงอิ้นจึงเลือกกินเพียงซี่โครงหมูนึ่งกับซุป ส่วนที่เหลือยกให้เถียนฉิน ให้เขานำกลับไปให้ลุงหลี่เถียนฉินรับไว้หลังมื้ออาหาร จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทรายจำลองภูมิศาสตร์เผ่าหมานรวมตัวกันห่างออกไปราวสามสิบลี้[1] กองกำลังหลักทั้งสิ้นประจำอยู่ที่ประตูเมืองด้านหลังมีทหารเผ่าหมานกว่าแสน ขัดขวางการติดต่อระหว่างกองทัพตระกูลจ้านและแคว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 29

    เย่มู่มู่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของร้านค้า สอบถามราคาและประสิทธิภาพของชุดเกราะทว่าร้านค้าโดยส่วนใหญ่ผลิตชุดเกราะโบราณสำหรับคอสเพลเยอร์ ไม่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากในการถ่ายละครเท่านั้น ประสิทธิภาพใช้งานจริงเป็นอย่างไรพวกเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดเช่นกัน เธอสอบถามร้านค้าไปกว่าสิบแห่ง ในที่สุดก็พบร้านหนึ่งที่ผลิตอาวุธโบราณจำลอง และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองเนื่องด้วยเธอต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก พ่อค้าจึงต่อสายวิดีโอคอลกับเธอด้วยตัวเองทั้งยังทดสอบให้เธอได้ดู การใช้กระบี่ยาวฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~เกิดประกายไฟพุ่งขึ้นมา ทั้งกระบี่ของเขายังเกิดรอยบิ่น ทว่าชุดเกราะยังคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายพ่อค้าเลื่อนกล้องเข้าไปใกล้ชุดเกราะเพื่อให้เย่มู่มู่เห็นชัด ๆ ว่าชุดเกราะมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับแตกหักเย่มู่มู่เอ่ย “ฉันเห็นร้านคุณมีดาบกระบี่ที่ลับคมแล้ว ลองใช้ดาบคุณฟันชุดเกราะคุณให้ดูหน่อยสิคะ”มาแบบนี้ พ่อค้าก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเธอจึงพูดต่อว่า “ฉันว่าจะสั่งสักหมื่นชุดขึ้นไป แต่พ่อค้าต้องให้ฉันดูก่อนนะคะ ว่าชุดเกราะของคุณแข็งแรงแค่ไหน”เมื่อได้ยินว่าจะสั่งซื้อเป็นหมื่นชุด ซึ่ง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 30

    เห็นว่าผ่านไปนานแล้วนางยังคงไม่ตอบกลับ จ้านเฉิงอิ้นจึงส่งกระดาษมาอีกหลายแผ่น “ท่านเทพ?”“ทำให้ท่านเทพเป็นกังวลแล้ว ล้วนเป็นความผิดข้าเอง ข้าจะไม่ทำให้ท่านเทพผิดหวัง จะนำพาปวงประชาฝ่าวงล้อมออกไปให้จงได้”“ท่านเทพหลับแล้วหรือ? เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว”เย่มู่มู่เห็นกระดาษขาว จึงรีบตอบกลับ“ข้าไปช่วยซื้อเครื่องใช้ยุทธภัณฑ์มา ได้ชุดเกราะมาพันชุด ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังห้าพันเล่ม หน้าไม้ราชวงศ์ฉินร้อยคัน…”จ้านเฉิงอิ้นตอบ “ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังคือสิ่งใด? หน้าไม้ราชวงศ์ฉินเล่า? กองทัพของข้ายังมีธนูและศรอยู่”เย่มู่มู่เพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ แคว้นต้าฉี่คงยังไม่มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังเองก็เป็นเกิดขึ้นหลังจากยุคของพวกเขาราวหนึ่งพันห้าร้อยปีเห็นจะได้ “ส่งแท็บเล็ตมาให้ข้า ข้าจะโหลดวิดีโอการใช้งานอาวุธให้เจ้าเรียนรู้”แท็บเล็ตถูกส่งกลับมาเย่มู่มู่เปิดดูแกลเลอรีเห็นภาพถ่ายภาพหนึ่งมีชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงห้าคนอยู่ในชุดเกราะ ทว่าเสื้อผ้าด้านในกลับมอซอยิ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเครารุงรัง ดวงตาทอประกาย ต่างเมียงมองมายังกล้องด้วยความฉงนสนเท่ห์เย่มู่มู่ยังสังเกตเห็น ว่าฉากหลังของพวกเข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 31

    เย่มู่มู่ดาวน์โหลดคลิปวิดีโอสาธิตวิธีใช้งานดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรวมถึงยังดาวน์โหลดยุทธวิธีสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนในช่วงหลายพันปีมานี้ของจีนมาทั้งหมดอีกด้วยดาวน์โหลดตำราพิชัยสงครามหลายเล่ม เนื้อหาครอบคลุมกว้างขวาง แม้แต่หนังสือเกี่ยวกับการรบของพลเอกอาวุโสซู่อวี้ในยุคใกล้[1]ก็ดาวน์โหลดมาด้วยเช่นกันดาวน์โหลดเสร็จก็หยิบพาวเวอร์แบงค์หนึ่งเครื่องโยนลงไปด้วยกันฝ่ายจ้านเฉิงอิ้นได้รับแล้วก็เห็นว่ามีวิดีโอเกี่ยวกับดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน รวมถึงตำราเกี่ยวกับการรบอีกหลายเล่มเขาดีใจยิ่งนัก“ท่านเทพ ขอบพระคุณอย่างสูง ตำราพิชัยสงครามและบันทึกการสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนมีความสำคัญสำหรับอิ้นยิ่งนัก!”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก รีบพักผ่อนเถอะ ข้าเตรียมจะปล่อยน้ำแล้ว”เย่มู่มู่ส่งกระดาษแผ่นสุดท้ายลงไปเสร็จก็เปิดเครื่องสูบน้ำดีเซลเริ่มส่งน้ำไปให้*วันรุ่งขึ้น เธออาบน้ำและกินมื้อเช้าเสร็จก็โทรไปนัดผู้อาวุโสมู่ล่วงหน้าผู้อาวุโสมู่ได้รับสายจากเธอก็ดีใจมากบอกว่ารอเธออยู่ที่ร้านทั้งวัน!เย่มู่มู่เลือกเหรียญทองแดงสามแบบจากบรรดาสิ่งของที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาให้เธอคราวก่อน โ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 32

    บันทึกทางประวัติศาสตร์มีความสำคัญใหญ่หลวงทุพภิกขภัยเมื่อสองพันปีก่อนได้เกิดขึ้นจริง เมืองร้างพันลี้ แคว้นเล็กหลายแคว้นถึงกาลล่มสลายในนั้นยังรวมแคว้นฉี่ด้วยเช่นกันผู้อาวุโสมู่มีสีหน้าพลุ่งพล่านใจ “คุณผู้หญิง คุณต้องการขายม้วนไม้ไผ่กับเหรียญสามเหรียญนี้ใช่ไหม ผมซื้อทั้งหมด! หนึ่งพันล้านเป็นยังไง?”ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ อยากบอกว่าเปิดราคาสูงเกินไปแล้วแต่วัตถุโบราณจากแคว้นต้าฉี่มีแค่เจ้านี้เท่านั้น หายากเสียยิ่งกว่ายากหนึ่งพันล้านสูงมากก็จริง แต่ก็คู่ควรเธอพยักหน้า “ตกลง คุณต้องชำระโดยเร็วที่สุดนะคะ”ผู้อาวุโสมู่ยิ้มบอกให้คนไปจัดการโอนเงินเย่มู่มู่ตรวจสอบยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีแล้วก็บอกลากับผู้อาวุโสมู่ผู้อาวุโสมู่ยังอยากรั้งเธอไว้ เพราะรู้สึกว่าในมือเธอน่าจะยังมีของดีกว่านี้แต่สหายเก่าแก่ที่มาวันนี้มีเยอะเกินไป ล้วนแต่เป็นระดับหัวหน้าของพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ๆ จึงไม่ได้รั้งไว้ แต่ขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเย่มู่มู่แทน*เย่มู่มู่ออกมาจากร้านขายวัตถุโบราณก็เดินทางไปนอกเมืองต่อฤดูกาลนี้เป็นช่วงที่แตงโมวางตลาดพอดีชาวไร่แตงโมนำแตงโมมาตั้งแผงขายริมถนน ด้านหลังก็คือไร่แตงโมพ่อค้

Pinakabagong kabanata

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 648

    จ้านเฉิงอิ้นขึ้นขี่ม้า สวมหมวกกันน็อก มือถือดาบม่อเตา แล้วขี่ออกมาเพื่อเผชิญหน้าเฉินอู่กับซ่งตั๋วตามติดอยู่ด้านหลังครั้งนี้ เหลือหน่วยกล้าตายส่วนหนึ่งไว้เพื่อปกป้องมั่วฝานมั่วฝานกล่าวว่า “พวกเจ้าไปสังหารศัตรูกันให้หมด ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงข้า!”เขาขึ้นนั่งบนรถ และขับพุ่งเข้าไปท่ามกลางฝูงชนของกองทัพธงเหลืองการศึกในครั้งนี้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนคนมากเกินไป พวกเขามาถึงใกล้กับเมืองหลวงแล้ว ไม่ยอมละทิ้งความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างง่ายดายต้องการสังหารกองทัพตระกูลจ้านกองทัพตระกูลจ้านมีประสบการณ์ในการรบมากกว่ากองทัพธงเหลือง อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ดียิ่งกว่ากองทัพธงเหลืองอย่างไรก็ดีฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมากพวกเขาต่อสู้อย่างยากลำบาก!หน่วยปืนล่าสัตว์ถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง แม้แต่หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยังทิ้งคันธนูและศร หยิบดาบม่อเตามาต่อสู้กับศัตรู...ในเวลานี้ หวังเซิ่งคิดว่าหากต่อสู้ต่อไป กองทัพตระกูลจ้านจะร่อยหรอสองแสนคนเมื่อเทียบกับสามหมื่นคน มากมายเกินไปจริง ๆ อีกทั้ง พวกเขายังถูกโอบล้อม หากอยากฝ่าวงล้อม มีแต่ต้องสังหารกองทัพธงเหลืองให้สิ้นเท่านั้นเขามอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 647

    เย่มู่มู่กำลังต่อรองราคากับเจ้าของร้าน อยากจะซื้อปืนล่าสัตว์จำนวนมากเจ้าของร้านจนใจยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่นว่าเขาขายเพียงกระบอกเดียวเท่านั้นเย่มู่มู่เตรียมจะใช้เงินติดสิบน เพื่องัดปากเจ้าของร้านทันใดนั้นเอง ภายในสมองของนางก็ได้ยินเสียงของจ้านเฉิงอิ้นที่แฝงไปด้วยความตื้นตันอย่างชัดเจนว่า “ท่านเทพ บุญคุณในวันนี้ เฉิงอิ้นจะจดจำเอาไว้”“เฉิงอิ้นไม่มีอันใดจะตอบแทน ข้าจะสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญ พิชิตกองทัพธงเหลืองให้ได้ และทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”เมื่อเย่มู่มู่ได้ยิน ก็กอดแจกันพลางรีบวิ่งเข้าไปในรถเมื่อเจ้าของร้านเห็นดังนั้น ก็ตะโกนไล่หลังนาง “นี่ คุณยังเอาอยู่ไหม นำเข้าจากเยอรมัน นำเข้าจากรัสเซียมีหมด อานุภาพสูง จะล่าหมีก็ไม่มีปัญหา!”“รอเดี๋ยวค่ะ ฉันจะกลับมาซื้อ!”เย่มู่มู่รีบเข้าไปนั่งในรถ กอดแจกันไว้ พลางถามจ้านเฉิงอิ้นด้วยความตื่นเต้น“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าเห็นปืนสองพันกระบอกแล้วหรือไม่?”“ขอโทษด้วย ข้าสามารถซื้อมาได้เพียงเท่านี้ เจ้าของร้านเกรงว่าจะถูกตรวจสอบ ไม่ว่าอย่างไรก็ขายให้ข้าได้เพียงเท่านี้!”ภายในแจกัน เสียงแหบและทุ้มต่ำจากสองพันปีก่อนดังออกมา“ท่านเทพ บุญคุณใหญ่หลว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 646

    ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 645

    “ว้าว...”“รถบรรทุกขนาดใหญ่ นี่มันรถบรรทุกขนาดใหญ่เชียวนะ!”กองทัพตระกูลจ้านระเบิดเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทุกคนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขทหารผ่านศึกจำนวนไม่น้อยดีใจถึงขนาดกระโดดโลดเต้น!พวกเขานั่งรถบรรทุก โคลงเคลงตลอดทางมาถึงที่นี่หลายคนคิดว่าหากตนเองมีรถบรรทุกเช่นนี้สักหนึ่งคันจะดีสักเพียงใดรถบรรทุกมีโครงใหญ่ ล้อใหญ่ วิ่งได้หนึ่งพันลี้ต่อวัน!อีกทั้งรถคันนี้มีคุณภาพสมน้ำสมเนื้อ จอดห่างออกไปไม่กี่ลี้ไม่เหมือนกับคำมั่นลม ๆ แล้ง ๆ ของมู่ฉีซิว ขุนนางชั้นสูงอันใดกัน?นั่นก็ต้องก่อการกบฏให้สำเร็จ สังหารฮ่องเต้ กำจัดขุนนาง ยึดเอาแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!รางวัลที่ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ผิดสัญญาแม้แต่ครั้งเดียวและ มู่ฉีซิวแห่งกองทัพธงเหลือง ตลอดมาก็อาศัยคำมั่นที่ให้กับทหาร วาดฝันให้กับทุกคน ถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้หากพวกเขาสนับสนุนให้มู่ฉีซิวขึ้นสู่บัลลังก์ แล้วคำมั่นที่เขาให้ไม่มีทางเป็นจริงได้เขาก็จะยิ่งประสบกับการแว้งกัดที่รุนแรงยิ่งขึ้น!ตอนนี้ทุกหนทุกแห่งกำลังประสบทุพภิกขภัย ต่อให้ท่านแม่ทัพให้ที่นาเป็นรางวัล ก็จะให้ที่นาที่มีน้ำ มีคนและที่นาเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 644

    กองทัพธงเหลืองจำนวนไม่น้อยหวาดกลัว พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่กล้าพุ่งมาข้างหน้าเท่านั้น ซ้ำยังล่าถอยกันอย่างต่อเนื่องด้วยเมื่อมู่ฉีซิวเห็นฉากดังกล่าว ก็ยกโล่ขึ้นมาอย่างโกรธแค้น พลางตะโกนอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ว่า “ฆ่าให้หมด สังหารกองทัพตระกูลจ้านให้สิ้น!” “พวกมันมีเพียงแค่สามหมื่นคน พวกเรามีสองแสนคน ต่อให้พวกมันมีปืน แล้วอย่างไรเล่า? พวกมันต้องใช้เวลาในการบรรจุลูกกระสุนปืน ตราบใดที่เร็วพอ โจมตีในระยะประชิดพวกมันก็จะไม่มีเวลาบรรจุลูกกระสุนและยิงปืน”ทว่าเหล่าทหารไม่เข้าใจหลักการของปืนถึงแม้ไม่ได้ล่าถอยต่อไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกไปยังเบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้านเพราะพวกเขารู้ว่าผู้ใดที่ยื่นหน้าออกมา จะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอนในมุมมองของพวกเขา ยังไม่ทันได้สัมผัสเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้าม ก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ววิธีการตายเช่นนี้น่าคับข้องใจยิ่งนัก!เนื่องจากทหารกลัวตาย มู่ฉีซิวจึงตะโกนออกไปอย่างมีโทสะว่า “ผู้ใดสังหารกองทัพตระกูลจ้านได้หนึ่งคน ตกรางวัลข้าวโพดหนึ่งกระสอบ สังหารสองคน บุกเข้าไปในวังหลวง ตกรางวัลเป็นทาสสองคน!” “ผู้ที่สังหารกองทัพตระกูลจ้านได้ห้าคนขึ้นไป จะได้เป็นนายกอง และ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 643

    ใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้านเฉิงอิ้นตึงเครียด ไม่กล่าวอันใดแม้แต่คำเดียวเขามองดูมู่ฉีซิวหัวเราะเสียงดังอย่างอวดดีด้วยแววตาเย็นชา พลางยกมือขึ้นอย่างไม่แยแส...เวลานี้ นักรบมากมายของกองทัพตระกูลจ้าน ได้หยิบปืนออกมาจากด้านหลัง บรรจุกระสุนปืน และเล็งไปที่มู่ฉีซิว...เมื่อมู่ฉีซิวได้เห็นฉากนี้ ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น“ฮ่าฮ่าฮ่า จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคิดว่าข้าเบาปัญญากระนั้นหรือ?”“การศึกที่ภูเขาเหมือง ถูกใช้เล่ห์เหลี่ยม จนทำให้ข้าตัดสินใจผิดพลาด ทำให้คนเจ็ดแสนกว่าคนต้องพ่ายแพ้ ถูกคนในใต้หล้าหัวเราะเยาะ!”“ตอนนี้เจ้ายังคิดที่จะมาใช้ไม้นี้อีก คิดว่าข้าปัญญาอ่อนจริง ๆ หรือไร!”จ้านเฉิงอิ้นไม่พูดจาไร้สาระ เมื่อโบกมือ...ปัง~ปืนล่าสัตว์ก็เกิดเสียงดังสนั่น!ลูกกระสุนปืนยิงไปยังมู่ฉีซิวเมื่อมู่ฉีซิวเห็นมือปืนเหนี่ยวไก เสียงหัวเราะก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ตกลงมาจากหลังม้าเขาไม่ได้ถูกยิงทว่ายิงโดนหัวของม้าสีขาวม้าล้มลงในทันที ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดสดไหลรินออกมาจากศีรษะ...มันดิ้นรนยืนขึ้นมาสองสามครั้ง แต่เลือดกลับไหลรินออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่คาดคิดเพียงไม่นานมันก็หยุดด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 642

    ผิดปกติยิ่งนัก!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวกับสวี่หมิง “บินอากาศยานไร้คนขับสำรวจสถานการณ์ของกองทัพธงเหลือง!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ตอนที่สวี่หมิงนำท่าอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กออกมาลอยขึ้นสูง แล้วเตรียมที่จะบินไปยังธารน้ำจากภูเขานั้น...ทันใดนั้นเอง ธนูดอกหนึ่งก็ยิงโดนท่ากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจนทำให้เกิดกลุ่มควันและตกลงมาจากท้องฟ้าเฉินอู่ตะโกนเสียงดัง “ทุกคนระวัง!”จ้านเฉิงอิ้นหน้าเปลี่ยนสี สายตามองไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงออกมาแย่แล้ว พวกเขาถูกโอบล้อมแล้ว!พื้นที่เนินเขาที่อยู่เบื้องหน้า มีกองทัพธงเหลืองจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังปีนขึ้นมาจากพื้น พวกเขาและกองทัพตระกูลจ้านอยู่ใกล้กันมาก ระยะห่างเพียงแค่สามสี่ร้อยเมตรเท่านั้นทุกคนล้วนสวมชุดลายพราง ใบหน้าเต็มไปด้วยดินเหลือง ในมือกำลังถือดาบม่อเตาเลียนแบบ...คนจำนวนสองแสนคน กำลังปิดล้อมกองทัพตระกูลจ้านจำนวนสามหมื่นคนเอาไว้ในวงกลมโอบล้อมกองทัพตระกูลจ้านเอาไว้หลายต่อหลายชั้นมู่ฉีซิวกำลังขี่ม้าสีขาว สวมชุดเกราะสีดำ ยืนอยู่เบื้องหน้ากองทัพธงเหลืองจำนวนสองแสนคนเขาผ่ายผอมลงไปมาก จนแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมก่อนหน้านี้ยังนับว่ามีใบหน้าที่หล่อเหลา บัดนี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 641

    มั่วฝานเก็บกระดาษที่ตกอยู่ขึ้นมา และมองเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้น ปะ...ปืนสองพันกระบอก!กระสุนปืนห้าร้อยกล่องกระสุนห้าร้อยกล่อง มีลูกกระสุนอยู่ทั้งหมดสองหมื่นห้าพันนัดของเหล่านี้เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิวได้แล้ว!มั่วฝานรู้ดีว่าปืนล่าสัตว์เหล่านี้สำคัญเป็นอย่างมากขอเพียงกองทัพธงเหลืองสามารถถอยทัพกลับไปได้ เผ่าหมานที่เหลือสองแสนคน หากกองทัพตระกูลจ้านของพวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง จะต้องสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนแผนสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ คือเขาต้องรีบนำแจกันไปที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุดมั่วฝานตะโกนเสียงดัง “หวังเซิ่ง!”ไม่มีผู้ใดขานรับ หน่วยกล้าตายที่อยู่ข้างกายเขาล้วนแต่อยู่ในสนามรบทั้งสิ้นมีเพียงแค่ทหารเด็กจำนวนหนึ่ง และประชาชนในเมืองตงโจวเท่านั้น เหล่าราษฎรถือชามโจ๊กมองมาที่เขามั่วฝานเท้าสะเอว พลางมองไปยังแจกันที่อยู่ตรงหน้าสุดท้ายเขาก็หิ้วแจกันขึ้นมา เดินไปที่ข้างรถกระบะ และพยายามขนถังใบใหญ่ลงมาจากรถด้วยความยากลำบากเขานำแจกันวางไว้ที่ด้านข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นก็สตาร์ทรถและไล่ตามจ้านเฉิงอิ้นไป...จ้านเฉิงอิ้นออกไปได้ประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว ความเร็วของเขามากกว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 640

    “คุณก็บอกไปว่าส่งไปเมืองนอกไม่ได้เหรอ?”เถ้าแก่ “...”ครั้นเย่มู่มู่เห็นเถ้าแก่ไม่ยอมผ่อนปรนให้ ก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “หกพัน หกพันกระบอกได้แล้วใช่ไหมคะ? ฉันจะจ่ายตามราคาครั้งที่แล้ว ราคาขายของคุณเป็นสองเท่า ฉันต้องการเร่งด่วน คุณว่ามาเถอะค่ะ ออเดอร์นี้จะดีลไหมคะ?”เถ้าแก่ไม่หวั่นไหวคงเป็นเรื่องโกหกหกพันกระบอก ราคาขายของทุกกระบอกหลายหมื่นทีเดียว!นี่ทำเงินได้มากกว่าส่งออกนอกประเทศหลายเท่าตัวเลยทว่า ขายออกไปหกพันกระบอก หากถูกตรวจสอบขึ้นมา เขาต้องติดคุกแน่“ไม่ได้ ผมไม่กล้าเสี่ยง ลูกเมียผมต้องพึ่งผมทั้งนั้น หากติดคุกติดตารางขึ้นมาจะทำยังไง?”เย่มู่มู่คิดว่าต้องสร้างความมั่นใจให้เถ้าแก่!เปิดแอปธนาคารในมือถือของเธอ จากนั้นก็อัดวิดีโอ แล้วส่งวิดีโอให้เถ้าแก่บัตรดำใบหนึ่งของเธอ ตอนนี้มียอดเงินคงเหลือพันกว่าล้านเป็นเงินที่เวินลี่โอนเข้ามาเมื่อหลายวันก่อนเธอกล่าว “ห้าพันกระบอก ในคลังของคุณต้องมีแน่ ฉันรู้ว่าคุณขายส่ง สินค้าของร้านเล็ก ๆ มากมาย ล้วนมาเอาจากคุณทั้งนั้น!”“ลูกกระสุนฉันเหมาหมด นี่เป็นยอดเงินคงเหลือของฉัน ขอแค่คุณขายให้ฉัน ฉันจะจ่ายเงินทันที!”“ตราบใดที่ดองสินค้าเอ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status