Share

บทที่ 19

Author: มู่โร่ว
หญิงชราที่เขาเคยให้ข้าวปั้นก้อนเล็ก ๆ คราวก่อนอุ้มหลานสาวมาตรงต่อหน้าจ้านเฉิงอิ้น

ดวงตาของนางไม่มีความสิ้นหวังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว กลับมีชีวิตชีวาขึ้น นางและหลานสาวคุกเข่าลงต่อหน้าจ้านเฉิงอิ้น

“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยชีวิตพวกเราสองคนย่าหลาน!”

พูดพลางหญิงชราก็มอบแท่งหมึกครึ่งก้อนซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวนางให้ไป

“ท่านแม่ทัพ ข้าไม่มีอะไรที่พอจะเป็นประโยชน์ได้ นี่เป็นแท่นหมึกครึ่งก้อนที่ลูกชายของข้าทิ้งไว้เมื่อครั้งไปร่ำเรียน ตอนนี้ลูกชายกับลูกสะใภ้จากไปแล้ว เหลือไว้แต่หลานสาว ขอให้ท่านแม่ทัพรับไว้ด้วยเถิด!”

เมื่อมีหญิงชราเป็นผู้ให้คนแรก ชาวบ้านที่เหลือก็มอบสิ่งของที่มีค่าที่สุดในสายตาของพวกเขาให้กับแม่ทัพด้วยเช่นกัน

บางคนให้ม้วนไม้ไผ่ บางคนให้เหรียญทองแดง บางคนให้หยกที่สืบทอดกันมาในตระกูล

พ่อค้าผู้มั่งคั่งที่เคยทำธุรกิจในด่านเจิ้นกวน ได้มอบเมล็ดแตงทองคำและถั่วทองคำ...

แต่ส่วนใหญ่จะให้รากของผักป่า

รากผักในเมืองทั้งหมดถูกขุดออกมาจนหมดเกลี้ยง ไม่รู้ว่าชาวบ้านเก็บสิ่งของเหล่านี้ไว้นานแค่ไหนแล้ว หญ้าเหี่ยวแห้ง รากผักเต็มไปด้วยทราย...

จ้านเฉิงอิ้นไม่ได้รับรากผักเอาไว้

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (3)
goodnovel comment avatar
ต้อง นภา
สนุกมากค่ะน่าติดตาม
goodnovel comment avatar
Natchapat Kohkawee
สนุกค่ะชอบมาก
goodnovel comment avatar
กัญญภัส หุ้มทอง
นิยายอ่านสนุกมากค่ะชอบๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 20

    เขาเปิด ‘คู่มือฝึกทหารอาสา’ ‘ตำราการใช้คนที่มีความสามารถ’ และ ‘ตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ’ จุดตะเกียงอ่านหนังสือยามค่ำคืน*เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เครื่องสูบน้ำหยุดทำงานแล้ว เมื่อคืนเธอซื้อเครื่องสูบน้ำที่ใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มอีกสามเครื่อง ท่อน้ำมีความหนาเป็นสองเท่าของท่อเดิม และให้ท่อสามท่อนสูบน้ำพร้อมกัน น้ำไหลเชี่ยวราวกับน้ำท่วม เมื่อน้ำมันดีเซลหมดแล้ว เครื่องสูบน้ำก็หยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เธอเห็นห่อเล็ก ๆ ข้างแจกัน เมื่อเธอเปิดห่อออกมา ก็เห็นม้วนไม้ไผ่ หยก เมล็ดแตงทองคำ ถั่วทองคำ แท่นฝนหมึก แท่นหมึก ชามกระเบื้อง แก้วกระเบื้อง... แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าของเด็กผู้หญิงก็ยังมี และมีจดหมายที่จ้านเฉิงอิ้นเขียนไว้ “ข้าได้เปิดโรงทานโจ๊กแล้ว ชาวเมืองทั้งเมืองกำลังต่อแถวรับโจ๊ก...” เขาบอกว่าของขวัญทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งของและเครื่องบรรณาการที่ชาวบ้านนำมามอบให้เพื่อขอบคุณเทพเจ้า หวังว่าเธอจะไม่รังเกียจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของเก่า มีมูลค่ามหาศาล เธอจะรังเกียจได้ยังไง! เขายังกล่าวอีกว่า เมื่อเปิดเผยแล้ว จะไม่สามารถปิดบังเรื่องที่มีน้ำและเสบียงอาหารอยู่ในเมืองได้อีกต่อไป เผ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 21

    เย่มู่มู่เห็นข้อความจากจ้านเฉิงอิ้นแล้วถึงกับขำก๊าก!แท็บเล็ตเครื่องเล็ก ๆ เครื่องเดียวที่ลบฟังก์ชันส่วนใหญ่ออกไปแล้ว กลับทำให้คนโบราณตกตะลึงเสียจนร้องอุทานว่าปาฏิหาริย์เย่มู่มู่ตอบกลับไป “ไอแพดหรือเรียกอีกอย่างว่าแท็บเล็ต เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เห็นได้ทั่วไปในชีวิตคนยุคปัจจุบัน”“มันมีฟังก์ชันถ่ายรูป เจ้าค่อย ๆ ลองใช้ดูแล้วกัน ถ่ายบรรยากาศเมืองเจิ้นกวนมาให้ข้า ข้าจะได้รู้ว่าพวกเจ้ายังขาดเหลือสิ่งใด”เย่มู่มู่คิดดูแล้ว หากพวกเขาใช้วิธีสร้างกำแพงปูนซีเมนต์แบบยุคปัจจุบันจะต้องออกมาดีแน่ แต่หากเผ่าหมานรวมตัวกันบุกจู่โจมเมืองอย่างรวดเร็วการใช้ข้าวเหนียว ผงปูนขาวและหินคลุก จะช่วยให้คนโบราณลงมือทำได้ทันทีใช้ปูนซีเมนต์นั้นยังต้องเรียนรู้อีก เธอจึงจัดหาข้าวเหนียวกับหินปูนสักล็อตแล้วรีบส่งไปก่อนซ่อมกำแพงเมืองก่อน...“ขอบคุณท่านเทพยิ่ง พอจะส่งไม้ฟืนมาให้เราอีกสักชุดได้หรือไม่ ต้นไม้ทั้งเมืองถูกตัดโค่นจนหมดสิ้น ตอนนี้ไม้ที่ใช้หุงข้าวก่อไฟล้วนเป็นแผ่นไม้ที่รื้อมาจากบ้านเรือนที่เสียหาย”เย่มู่มู่เข้าใจถ่องแท้ในทันทีจินตนาการได้เลยว่าเมืองเจิ้นกวนคงไม่มีอะไรเหลือแล้วนอกจากราบคา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 22

    ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือคืนส่งท้ายปีเก่า เย่ซินผลักเธอตกจากบันไดต่อหน้าต่อตาทุก ๆ คนในตระกูล เธอสลบเหมือดไปในทันที ต้องนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลถึงสามวันกว่าจะฟื้นขึ้นมาวันนั้นแม่ตบหน้าพ่ออย่างแรง ทั้งยังโวยวายจะหย่าให้ได้!หากไม่ยอมหย่าให้ก็จะเผาพวกเขาให้วอดเสียทั้งตระกูล!หลังจากเธอถูกทำร้ายในครานั้น แม่ก็ไม่ยอมกล้ำกลืนฝืนทนอีกต่อไป ถึงกับโทรเรียกญาติพี่น้องฝั่งแม่ยกโขยงกันมาเต็มคันรถพากันอาละวาดทำลายข้าวของบ้านลุงใหญ่ไปยกใหญ่ ลุงใหญ่และเหล่าอาทั้งหลาย ต่างก็ถูกตบตีไปตาม ๆ กันหลังจากนั้นย่าของเธอก็สงบลงมากทีเดียวอีกทั้งทางบ้านลุงใหญ่ก็ไม่กล้าหาเรื่องอีกพ่อเลิกบังคับให้แม่และเย่มู่มู่ต้องกลับไปบ้านนอกในทุก ๆ ปีแล้วแน่นอนว่า พ่อยังคงกตัญญูได้อย่างโง่งมเช่นเคย ที่ยังคอยช่วยเหลือเรื่องเงินให้พวกลุงใหญ่อาเล็กอย่างลับ ๆ โดยที่แม่ได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งไป!ทว่ามีข้อแม้ว่าเงินให้ยืมไปเท่าไหร่ล้วนต้องเขียนสัญญากู้ยืมในทุก ๆ ครั้ง ต้องมีพยานบุคคล รวมถึงต้องบันทึกภาพวิดีโอตลอดกระบวนการหากเรื่องถึงโรงถึงศาล จะได้เรียกร้องให้พวกเขาคืนมาให้จนได้สิบปียี่สิบปีมานี้ที่มีพ่อคอยช่วยเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 23

    จ้านเฉิงอิ้นกลับถูกข้าวเหนียว และแป้งข้าวเหนียวทั้งหมดห้าสิบกว่าถุงดึงดูดเข้าให้ข้าวเหนียวพวกนี้หากต้มจนเหลวเป็นน้ำ ก็เป็นอันใช้สร้างกำแพงเมืองได้!เขาเอ่ยถามเฉินอู่ “ห้องโกดังยังเหลือปูนขาวอยู่หรือไม่?”“มีขอรับ อยู่ในโกดังใต้กำแพงเมือง!”“ขนข้าวเหนียวและแป้งข้าวเหนียวไปที่นั่น และรวมพลคนงานมาซ่อมแซมกำแพงเมือง!”“ขอรับท่านแม่ทัพ!”เฉินอู่เรียกพลทหารมาช่วยกันขนย้ายข้าวเหนียวและอาหารม้าออกไปวันนี้ที่เขาเดินทางมาจากค่ายทหาร เห็นว่าชาวบ้านในเมืองล้วนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ทั้งยังเปิดปากกล่าวทักทายด้วยความดีอกดีใจแม้ว่าใบหน้าของทุกคนจะซูบตอบ บางคนถึงขั้นหิวจนเดินแทบไม่ไหว แต่ก็ต่างช่วยประคับประคองกันไปต่อแถวรอรับโจ๊กพวกเขาไม่ได้สิ้นหวังหมดอาลัยอีกต่อไป ทว่าล้วนมีชีวิตชีวา นัยน์ตาเปี่ยมประกายความหวังสระน้ำหลังจวนแม่ทัพเดิมหวิดจะแห้งขอดเต็มที บัดนี้กลับมีน้ำใสเอ่อล้นเมื่อมีน้ำก็ย่อมมีความหวัง! ทุกคนได้อิ่มท้อง มีน้ำดื่ม แม้ว่าจะถูกกักล้อมอยู่ในเมือง แต่ก็ไม่สิ้นหวังหมดอาลัยอีก เพราะต่างมีความหวังที่จะรอดพ้น!เหล่าพลทหารแต่ละนายสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปไม่น้อยเหตุเพราะวันนี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 24

    “ท่านแม่ทัพ นี่คือสิ่งใดกัน น่าอัศจรรย์โดยแท้!”จ้านเฉิงอิ้นส่งแท็บเล็ตให้เฉินขุย “เจ้าลองใช้มือสัมผัสดู”เพียงนิ้วมือหยาบกระด้างกร้านแผลเป็นของเฉินขุยแตะเบา ๆ ลงบนหน้าจอ วิดีโอก็หยุดลงทันทีว้าว...เหล่านายทหารทั้งหลายพลันร้องอุทานเสียงดังเฉินขุยแตะบนหน้าจออีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อจากเดิมตาเขาเบิกออกโตอย่างแทบไม่อยากเชื่อสายตาตน“สมเป็นของวิเศษจากท่านเทพจริง ๆ คนธรรมดาเช่นเราเกรงว่าในพันปีก็คงไม่อาจสรรค์สร้างได้!”พลทหารนายอื่น ๆ ก็อดรนทนไม่ไหวอยากสัมผัสบ้างเช่นกัน“คนเราจะเข้าไปได้อย่างไร ทั้งเขายังหยุดการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย!”“กระหม่อมคิดว่าเป็นวิชาดูดกลืนวิญญาณของท่านเทพ ที่ดูดวิญญาณเข้าไปภายใน เจ้าคนโฉดจึงได้เชื่อฟังคำสั่งเช่นนี้!”จ้านเฉิงอิ้นได้ยินนายทหารพูดคุยกันอย่างออกรสก็อดขำไม่ได้เขาศึกษาเข้าใจวิธีการถ่ายภาพและอัดวิดีโอแล้ว เขาเอื้อมหยิบแท็บเล็ตมา กดปุ่มเปิดใช้งานกล้องถ่ายรูปแชะ~และแล้วภาพแสนคมชัดของเหล่านายทหารทั้งห้านายที่มีสีหน้าต่างกันไปก็ปรากฏขึ้นมา เขาขยายภาพและส่งให้พวกพลทหารได้ดูพวกเขาต่างเบิกตากว้าง มองดูภาพของตนด้วยความประหลาดใจ“วาดได้สม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 25

    กองทัพตระกูลจ้านเหลือทหารเพียงสองหมื่นนาย ไร้ทั้งม้าศึก ไร้ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ดี ๆ ใช้หากข่าวที่ว่าในเมืองมีน้ำเล็ดรอดออกไป มั่วเป่ยหมานอ๋องจะต้องยกทัพมาโจมตีเมืองอย่างแน่นอน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งมากค่ามากราคาเท่าใดก็ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะนี่เป็นถึงสายน้ำแห่งชีวิต!จ้านเฉิงอิ้นลุกขึ้นยืน เรือนคิ้วดาบบนใบหน้าหล่อเหลาคมคายขมวดมุ่นเขาเดินไปมาในกระโจมด้วยกังวลในใจพลทหารเฝ้าประตูเห็นท่าทีแล้วก็รับรู้ได้ถึงความไม่สบายใจของท่านแม่ทัพจึงได้สั่งให้ทุกคนถอยห่าง อัปเปหิตนไกลจากกระโจมมาหลายหมี่[1]ทันใดนั้น เหนือกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น ก็มีถุงถ่านหินและไม้ฟืนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากฟากฟ้าราวห่าฝนตุบ ตุบ ตุบ...ถ่านหินกองพะเนินอยู่เต็มกระโจม จนเมื่อกระโจมของเขารับน้ำหนักไม่ไหวอีกต่อไปก็ขาดแคว่กเสียงดัง ทั้งถ่านหินและไม้ฟืนราวหิมะถล่มก็มิปานแต่ละมวลแต่ละชิ้นหลุดทะลักทลายออกมาจากกระโจม กองพะเนินเต็มอาณาพื้นที่!“ท่านแม่ทัพ...”พลทหารที่ได้ยินเสียงต่างกุลีกุจอกันมาดู เห็นเพียงว่าภายในรัศมีสองหมี่รอบตัวจ้านเฉิงอิ้น หาได้มีสิ่งใดตกหล่นลงมา เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างไร้ภัยย่างกราย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 26

    ซ่งตั๋วปิติยินดี “ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่ง!”ด้วยรางวัลตอบแทนมากเช่นนี้ จะต้องมีชาวบ้านมาลงชื่อกันมากมายเป็นแน่และการผลิตอาวุธก็ย่อมเร็วขึ้นเช่นกันซ่งตั๋วเรียกพลทหารมาขนย้ายถ่านหินทั้งหมดออกไปพลทหารนายอื่น ๆ ต่างตาร้อนมองตามซ่งตั๋วขนย้ายเหล็กกล้าชั้นเยี่ยมทั้งหมดไป*ปูนซีเมนต์และอิฐที่เย่มู่มู่สั่งซื้อมาทั้งหมดต่างส่งถึงโกดังแล้วเมื่อวานเธอได้สั่งจองข้าวสารจากพ่อค้าร้านค้าข้าวเอาไว้ล่วงหน้า ข้าวสารส่วนที่เหลืออีกหนึ่งพันแปดร้อยกระสอบต่างก็ส่งมาถึงโกดังแล้วเช่นกันทว่าการเก็บปูนซีเมนต์และข้าวสารไว้ในที่เดียวกัน อย่างไรก็คงไม่ดีนักเย่มู่มู่จึงขอให้ลุงหยางผู้ดูแลโกดัง เปิดประตูใหญ่โกดังแห่งที่สองให้โกดังแรกใช้สำหรับจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ส่วนโกดังแห่งที่สองใช้จัดเก็บเสบียงอาหารและผักผลไม้ลุงหยางเองก็คับข้องใจ เย่มู่มู่จะซื้อปูนซีเมนต์และอิฐมากมายเช่นนั้นไปทำอะไรแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรนัก เพียงเปิดประตูโกดังแห่งที่สอง ให้พ่อค้าร้านค้าข้าวขับรถเข้าไปด้านในได้เมื่อเย่มู่มู่มาถึงโกดัง ลุงหยางดูเวลาแล้ว เห็นว่าพักกินข้าวเที่ยงพอดีเขาบอกกล่าวเธอสักหน่อยแล้ว จึงได้ไปพักกินข้าว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 27

    จ้านเฉิงอิ้นจัดแจงข้าวสารและแป้งสาลีเข้าโกดัง นายทหารทั้งหลายมองดูเสบียงอาหารกองพะเนินเป็นกำแพงสูง...เสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานนั้น เพียงพอแค่กินได้หนึ่งวัน พวกเขายังกังวลกันว่าหากขาดแคลนเสบียงจะทำอย่างไรต่อไป?บัดนี้ สิ่งแน่นหนักในใจเหล่านั้นสลายหายไปหมดแล้วท่านเทพเป็นผู้รักษาวาจาท่านประทานอาหารมาให้อย่างเพียงพอจริง ๆ!จ้านเฉิงอิ้นวางมือลงบนกระสอบข้าวสาร มองไล่ไปตามเสบียงอาหารขาวโพลนพลางเอ่ย “หากตามที่ท่านเทพบอก เสบียงนี้เพียงพอจะอยู่ได้นานเท่าใด”หลี่หยวนจงตอบว “ข้าวสารสองแสนชั่ง แป้งสาลีสองหมื่นห้าพันชั่ง...”บัดนี้พลทหารแต่ละนายได้ข้าวสารวันหนึ่งครึ่งชั่งใช้ประทังชีพได้ยี่สิบเอ็ดวันขอรับ”นายทหารได้ยินกันถ้วนทั่ว หากเป็นเมื่อก่อนน่ะหรือ เพียงคิดก็ไม่อาจหาญกล้า!มีที่ไหนใครจะได้กินข้าววันหนึ่งถึงครึ่งชั่ง เกรงว่าจะมีแต่เชื้อพระวงศ์ขุนนางที่กล้าฟุ่มเฟือยได้เพียงนั้น!ภายนอกเมืองกำลังประสบทุพภิกขภัยครั้งใหญ่!แต่ในเมืองของพวกเขา กลับผ่านไปอย่างสุขสันต์ดังแดนสวรรค์ทุกคืนวันคิดถึงตรงนี้ ทหารแต่ละนายต่างก็ยิ่งอยากมีชีวิตรอด อยากตีฝ่าวงล้อมออกไป อยากทำลายเผ่าหม

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 705

    หลัวซู่กับจ้านเฉิงอิ้นซึ่งเป็นผู้นำหลักของทั้งสองฝ่าย กำลังโรมรันกันอยู่ในสนามรบตอนที่ทหารเผ่าหมานทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่กับจ้านเฉิงอิ้นและหลัวซู่อยู่นั้นทันใดนั้นเอง รถบรรทุกสองคัน ก็พุ่งชนเข้ามาอย่างอุตลุด และพุ่งตรงไปทางกองฟืนทหารเผ่าหมานเห็นสิ่งที่ใหญ่มหึมาก็หน้าเปลี่ยนสี ทุกคนต่างก็วิ่งหนีแยกย้ายกันไปคนละทิศละทางอย่างไม่คิดชีวิตเด็กสองคนที่ถูกขึงไว้บนท่อนไม้ ไม่มีคนคอยจับตาดูเอาไว้รถบรรทุกสองคันจอดอยู่รอบ ๆ กองฟืนกองทัพตระกูลจ้านที่อยู่บนท้ายรถ ยิงธนู ยิงปืน และยิงธนูทดกำลัง ขับไล่กองทัพเผ่าหมานที่อยู่บริเวณโดยรอบออกไปจนหมดทหารที่อยู่ท้ายรถบรรทุก กระโดดลงจากรถโดยทันที จากนั้นก็ตัดเชือกให้ขาดด้วยดาบเดียวในวินาทีที่เด็กร่วงลงมาก็รับไว้ได้อย่างมั่นคงอุ้มเด็กขึ้นมาแล้วยัดเข้าไปในด้านหลังของห้องโดยสารนับจากที่เด็กน้อยร้องให้งอแง จากนั้นก็ถูกช่วยเหลือ และยัดใส่ห้องโดยสาร…สำเร็จภายในอึดใจเดียว!ถึงขนาดที่แม้กระทั่งรถออฟโรดขนาดเล็กก็ยังไม่ได้เอาออกมาใช้อย่างเต็มความสามารถด้วยซ้ำในตอนนี้ทหารของกองทัพเผ่าหมานถึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาถูกหลอกเข้าให้แล้วฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 704

    “พยายามช่วยเหลือเด็กกับราษฎรห้าหมื่นคนออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวดินระเบิดของพวกมัน คาดว่าตอนนี้คงเปียกโชกไปจนหมดแล้ว!”เฉินขุยหัวเราะเสียงดัง “เดิมทีท่านบอกว่ามีวิธี เป็นวิธีเช่นนี้นี่เองสินะขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่ การศึกในครั้งนี้พวกเราจะต้องมีชัยกลับมาอย่างแน่นอน!”พอวางจากวิทยุสื่อสารแล้ว จ้านเฉิงอิ้นก็นำแจกันเข้าไปเก็บในรถเขากล่าวกับมั่วฝานว่า “เดินหน้าเต็มที่ จู่โจมเต็มกำลัง...”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานหยิบแท่งขยายเสียงออกมา ส่วนลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่วางไว้ที่ด้านหลังของรถกระบะเขากล่าวเสียงดัง “ท่านแม่ทัพมีคำสั่ง จู่โจมเต็มกำลัง...”*เผ่าหมานคิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนที่ตกหนักอยู่นั้นจะมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนแรกพวกเขาคิดว่าเป็นสียงฟ้าร้อง จึงไม่ได้ให้ความสำคัญอันใด!เนื่องจากเสียงฟ้าร้องยังคงอยู่ และมีฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักทว่าเมื่อฟังอย่างละเอียด กลับดูเหมือนว่าจะอยู่ใกล้อย่างมาก!จนกระทั่ง มีระเบิดตกลงมาข้างกายพวกเขา มีคนหลายร้อยคนถูกระเบิดจนตายพวกเขาจึงได้ค้นพบว่า...มารดามันเถิด ตอนที่พวกเขากำลังเฉลิมฉลองกับฝนท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 703

    เมื่อมั่วฝานได้ยินคำพูดเช่นนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“เป็นเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”จ้านเฉินอิ้นยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นท่านเทพ...”“เป็นนางงั้นหรือ?”“นางดูดน้ำฝนเข้ามาในแจกัน และข้าก็เคลื่อนย้ายน้ำฝนจากแจกันมายังแผ่นดินอันแห้งแล้งของตงโจว...”เมื่อมั่วฝานได้ฟัง ก็หัวเราะเสียงดังในทันที“เช่นนั้น พวกเจ้าทั้งสองร่วมแรงกันลำเลียงน้ำฝนจากยุคปัจจุบันมาที่นี่กระนั้นหรือ?”“ใช่!”“ดียิ่งนักจ้านเฉิงอิ้น! ต้าฉี่ของพวกเรามีทางรอดแล้ว แม่น้ำแห้งเหือด แผ่นดินแตกระแหงแล้วอย่างไรเล่า...”“พวกเจ้าสามารถลำเลียงน้ำได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า สวรรค์ไม่ปล่อยให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าต้องพินาศ!”จ้านเฉิงอิ้นยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าลองบินอากาศยานไร้คนขับดูหน่อย ข้าควบคุมขอบเขตของฝนตกเอาไว้แล้ว ลองดูว่าสถานที่ที่ฝังดินระเบิดเอาไว้ โดนฝนจนเปียกไปแล้วหรือไม่!”“ได้!”มั่วฝานสั่งให้หน่วยกล้าตายผู้หนึ่งบินอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง เพราะว่าไม่ต้องเกรงกลัวสภาพอากาศฟ้าร้องและฟ้าผ่า และบินได้ไกลขึ้นเล็กน้อยมุมมองภาพของอากาศยานไร้คนขับ นอกเมืองตงโจวยังคงแห้งแล้งดวงอาทิตย์ที่แผดเผาทำให้อากาศข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status