แชร์

บทที่ 1 ในกาลก่อนที่ข้าโง่งม (2/2)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-23 18:08:49

          ร่างระหงฝืนทนความเจ็บแล้วลุกยืนขึ้น เมื่อเจ็บที่ข้อเท้า นางก็เพียงแค่ไม่เหยียบพื้นเต็มเท้า นางโผเดินไปเกาะตามต้นไม้เพื่อช่วยพยุงตนเอง พอเดินพ้นจากตรงนั้นมาไกลแล้วนางจึงยืนพิงต้นไม้หวังพักให้หายเหนื่อย

            ท่ามกลางป่าที่เงียบสงัดที่นางได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจตัวเอง ในระหว่างที่ยืนเหนื่อยหอบอยู่นั้นหูก็พลันได้ยินเสียงน้ำไหล

            ‘ที่ใดมีแม่น้ำลำธาร ที่แห่งนั้นก็จะมีคนอาศัยอยู่’ คำกล่าวของบิดาที่เคยพานางออกไปสืบคดีกับมือปราบเมื่อยามนางยังเป็นเด็กดังขึ้น

            พอคิดถึงบิดาน้ำตาก็คลอขึ้นในดวงตาดอกท้อทันที นางรู้สึกผิดต่อบิดายิ่งนัก นางมีส่วนที่ทำให้ท่านพ่อต้องตาย

            “ฮึก...” นางสะกดกลั้นอารมณ์โศกเศร้าพลางยกมือปาดน้ำตา นางควรพาตนเองให้รอดออกไปจากป่าให้ได้ก่อน

            “ข้าต้องเข้มแข็ง” อย่างน้อยก็เพื่อแก้แค้นให้ท่านพ่อ

            เมื่อหายเหนื่อยหอบบ้างแล้ว นางจึงเดินไปทางเสียงแม่น้ำด้วยความหวังว่าจะเจอบ้านของชาวบ้าน

            กว่าจะพาตนเองเดินไปถึงแม่น้ำมันช่างเป็นเวลาที่ยาวนานมากในความรู้สึกของนาง ดวงตาดอกท้อฉายแววโศกเศร้าทันทีเมื่อกวาดสายตามองแล้วพบว่าไม่มีบ้านคนดั่งเช่นที่ตนคาดหวัง

            ร่างระหงที่อ่อนล้าทรุดตัวลงนั่ง สายตาก็กวาดมองดูความปลอดภัยไปรอบๆ ก่อนจะสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง

            “นั่นคนใช่หรือไม่” นางรำพึงรำพันกับตัวเอง แต่ด้วยความมืดสิ่งที่นางเห็นเป็นเพียงเงาตะคุ่ม

            “ช่วยข้าด้วย” น้ำเสียงที่ระโหยโรยแรงราวกับคนแทบจะขาดใจทำให้นางชะงัก

            คนผู้นั้นเป็นคนไม่ดี หรือแท้จริงเขากำลังเดือดร้อน

            “ได้โปรดช่วยข้า” เสียงทุ้มคล้ายคลึงเสียงบุรุษดังขึ้นอีกครั้ง พลันภาพบางอย่างแล่นเข้ามาในความทรงจำ

            เหตุใดนางถึงคุ้นเคยราวกับมันเคยเกิดขึ้นมาก่อน ความสงสัยพลันแล่นเข้ามาในความรู้สึก มือเรียวลูบไล้ใบหน้าตนเองก่อนจะพบว่าแท้จริงนางไม่ได้บาดเจ็บที่ใดนอกจากข้อเท้า ดวงหน้างดงามของนางที่ควรมีรอยเหล็กร้อนทาบจนเกิดแผลเหวอะหวะ กลับไม่มี

            นางขยับตัวเข้าไปใกล้แม่น้ำเพื่อหวังจะใช้เงาที่สะท้อนในน้ำมองใบหน้าตนเอง ทว่าก็ต้องผิดหวังเนื่องจากทุกอย่างมืดมิด นางจึงไม่อาจเห็นหน้าตามที่ตั้งใจ แต่จากที่สัมผัสในตอนนี้ ใบหน้านางเรียบเนียน ตามเนื้อตัวมีรอยขีดข่วนจากกิ่งไม้เล็กน้อย เสื้อผ้าฉีกขาดจากการถูกกิ่งไม้เกี่ยวไม่มาก ความเจ็บปวดทรมานในช่องท้องจากยาพิษก็หายไป

            “ช่วยข้าด้วย” ท่ามกลางความสับสน นางควรจะรีบเข้าช่วยเหลือบุรุษผู้นี้ใช่หรือไม่

            อา...จะว่าไปในตอนที่นางกำลังเดินทางออกจากเมืองซานโจว รถม้าของนางถูกโจรป่าโจมตี นางจึงวิ่งหนีเข้าป่าแล้วมาเจอบุรุษผู้หนึ่งที่ริมแม่น้ำเช่นนี้มิใช่หรือ

            ซูหนิงเซียนขยับเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นกลุ่มอาภรณ์ที่กองอยู่บนพื้นไร้ความเคลื่อนไหว นางจึงมองหาไม้หรืออะไรบางอย่าง ก่อนจะเลือกไม้ขนาดพอดีมือมาหนึ่งอัน หากเกิดชายผู้นี้ไม่ใช่คนดีนางจะได้ใช้มันตีเพื่อป้องกันตัว

            “นี่ท่าน...” นางใช้ไม้เขี่ยกลุ่มอาภรณ์กองนั้น

            “...” แน่นิ่งไร้การตอบรับ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายน่าจะหมดสติเรียบร้อยแล้ว

            แม้จะไม่รู้วิชาแพทย์เท่าใดนัก แต่ด้วยเป็นบุตรสาวของเจ้ากรมอาญา นางที่เคยติดตามบิดาไปสืบคดีจึงมีโอกาสได้เห็นลักษณะการตายและศพคนตายมากมาย

            ดังนั้นการตรวจสอบเรื่องชีพจรเบื้องต้นนางจึงสามารถทำได้ในทันที มือเรียวจับชีพจรที่ข้อมือก่อนจะทอดถอนใจอย่างโล่งอก

            นางใช้มือตบบนใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเบาๆ ก่อนจะคาดเดาว่าเขาคงหมดสติไปแล้ว ดวงตาดอกท้อกวาดมองรอบตัวก่อนจะตัดสินใจประคองบุรุษตัวใหญ่ให้ออกห่างจากริมแม่น้ำแห่งนี้

            แม้แม่น้ำจะเป็นแหล่งที่มักจะมีชาวบ้านอาศัยอยู่ แต่หากที่ใดมีแม่น้ำแต่ไม่มีบ้านคน นางควรพึงระลึกเอาไว้ว่าที่แห่งนั้นต้องเป็นแหล่งน้ำของสัตว์ป่าดุร้าย

            หากนางไปจากตรงนี้โดยทิ้งเขาไว้ก็คงดูไร้น้ำใจเกินไป นางจึงตัดสินใจประคองเขาให้ออกห่างจากตรงนั้น

            แม้จะทุลักทุเลแต่ทว่านางก็สามารถประคองเขาไปยังถ้ำแห่งหนึ่งได้ ภายในถ้ำแห่งนี้คุ้นตานางอีกแล้ว เห็นทีสิ่งที่นางคิดจะเป็นจริง

            ใช่แล้ว! นางกำลังคิดว่าแท้จริงตนไม่ได้รอดตาย แต่เป็นนางที่ตายไปแล้วและได้รับโอกาสให้หวนคืนมา หรือไม่ก็เรื่องราวโหดร้ายเหล่านั้นมันเป็นเพียงฝันหนึ่งตื่น

            แต่มันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร หากบอกว่านางฝันแล้วการที่พบเจอบุรุษเจ็บหนักอยู่ริมแม่น้ำ กับถ้ำแห่งนี้ เหตุใดมันถึงเกิดขึ้นจริงเล่า

            เมื่อครู่นางเพียงลองเดินไปตามเส้นทางที่เคยเห็นในฝัน แต่ที่ตรงนี้กลับมีถ้ำจริงๆ แล้วนางก็คุ้นตาหินก้อนนั้นที่นางเคยใช้อาภรณ์ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำของเขาวางพาดเพื่อตากไว้

            ‘แน่ชัดแล้ว ข้าว่าข้าได้รับโอกาสให้หวนกลับคืนมาเพื่อเอาคืนบุรุษสตรีชั่วช้าคู่นั้น’ ดวงตาดอกท้อวาวโรจน์ก่อนจะรั้งความคิดตนเองกลับมา อย่างไรในยามนี้นางก็ต้องช่วยเหลือบุรุษที่ตนพามาด้วยก่อน

            นางสำรวจบาดแผลของเขาตามที่เคยทำในกาลก่อน แต่ดีที่แผลของเขาไม่ได้มากมายเช่นในตอนนั้น ทำให้ซูหนิงเซียนใช้เวลาไม่นานในการทำแผล อาภรณ์ที่เปียกถูกถอดออกจนหมดสิ้น ด้วยความสงสารนางจึงสละอาภรณ์ตัวนอกที่มีรอยขาดมากมายให้เขาเพื่อห่มคลุมให้ความอบอุ่น คืนนี้บาดแผลคงทำให้บุรุษผู้นี้เกิดอาการหนาวสั่น

            นางใช้อาภรณ์ที่ยังเปียกของเขาเช็ดเนื้อเช็ดตัวนางที่เปรอะเปื้อน นัยน์ตาดอกท้อกวาดสายตามองไปทั่วถ้ำแห่งนี้ แม้จะโชคดีที่สามารถหลบฝนที่เพิ่งจะตกลงมาได้ แต่ทว่านางที่เป็นคุณหนูไม่เคยตกระกำลำบากเช่นนี้ นางจึงไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรจึงจะจุดไฟได้ ด้วยเหตุนี้ภายในถ้ำจึงมืดมิด

            กึก กึก กึก เสียงกัดฟันของบุรุษที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆ ดังขึ้น นางได้แต่ถอนหายใจพลางก้มมองอาภรณ์ตัวในของตนที่เปียกชื้นไม่น้อย แต่ก็ยังดีกว่าอาภรณ์ของเขา นางจึงยังสวมใส่อยู่

            “เฮ้อ...” นางถอนหายใจอย่างรู้สึกรำคาญตนเอง ที่เหตุใดถึงต้องสงสารคนที่ไม่เคยพบหน้าผู้นี้

            สุดท้ายก็ทนความจิตใจดีของตนไม่ไหว นางจึงขยับตัวเข้าไปใกล้ ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้าง นางก่ายขาและใช้มือข้างหนึ่งที่ไม่ได้หนุนหัวโอบกอดเขา เพื่อที่อาภรณ์ตัวนอกจะได้ปกคลุมตัวนางด้วย

            ‘กลางป่ายามค่ำคืน เหน็บหนาวยิ่ง’ บุรุษที่กำลังตัวร้อนเช่นนี้คล้ายดั่งเตาอุ่นที่ทำให้นางคลายหนาวได้บ้าง

            ด้วยร่างกายที่เมื่อยล้าและเสียงฝนที่ขับกล่อม สุดท้ายซูหนิงเซียนก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างง่ายดาย

.....................

จริง ๆ หนาวแหละ เห็นตัวอุ่นดีเลยกอดไว้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 2 เจ้าคือฮูหยินของข้า (1/4)

    2เจ้าคือฮูหยินของข้า เสียงนกร้องในยามเช้าทำให้นางสะดุ้งตื่นขึ้น ดวงหน้าหวานแดงก่ำเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าตนเองกำลังซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของบุรุษที่ตนช่วยเอาไว้ นางจับมือเขาที่โอบกอดตัวนางอยู่ออกแล้วขยับตัวออกห่างอย่างช้าๆ ทว่าเมื่อได้เห็นใบหน้าของบุรุษที่ตนช่วยไว้ชัดเจนนางต้องชะงัก เนื่องจากยามค่ำคืนที่มืดมิดนางจึงไม่อาจเห็นหน้าเขาได้ชัดเจนเท่ายามนี้ ‘นี่ข้าไปเก็บเทพเซียนตกสวรรค์มาหรือไร’ เหตุใดเขาถึงได้รูปงามเช่นนี้ ในกาลก่อนหลังจากทำแผลให้เขาเสร็จสิ้น นางโอบกอดให้ความอบอุ่นพอเขาไม่หนาวสั่น และนอกถ้ำฝนหยุดตกนางก็รีบออกเดินทางต่ออย่างรีบเร่งเพื่อเข้าเมืองหลวงด้วยความเป็นห่วงบิดา จนได้เจอกับกลุ่มนักเลงที่คิดทำระยำกับนาง สุดท้ายก็รอดพ้นมาได้จากการช่วยเหลือของมือปราบกวาง อดีตสามีชั่วช้าผู้นั้น เพราะได้รับการช่วยเหลือดูแลเป็นอย่างดีจากอีกฝ่าย นางจึงตอบรับบุรุษผู้นั้นอย่างง่ายดาย หึ...โจรป่าที่ดักปล้นรถม้าของนาง นักเลงพวกนั้นและการช่วยเหลือ มิแคล้วคงจะเป็นแผนการของคนพวกนั้น นางจำได้แล้วตอนนั้นก่อนออกจากเมืองซานโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 2 เจ้าคือฮูหยินของข้า (2/4)

    “แค่เจ้าหายโกรธพี่ พี่ก็ยินดีมากแล้ว” “คุณชายเจ้าคะ ข้าไม่ใช่ฮูหยินของท่าน ข้าเป็นเพียงสตรีชาวบ้านที่ผ่านมาพบเจอจึงช่วยเหลือท่านเอาไว้” “ฮูหยิน เจ้าโกรธพี่ถึงขั้นไม่อยากเกี่ยวข้องเช่นนี้เลยหรือ” “เฮ้อ...ข้าไม่ใช่ฮูหยินของท่านจริงๆ ท่านชื่อแซ่อันใดข้ายังไม่ทราบเลย แล้วข้าจะเป็นฮูหยินของท่านได้อย่างไร” “ซีซวน คือนามของพี่ พี่เข้าใจแล้ว เจ้าคงจะน้อยใจพี่ ต่อจากนี้พี่ยินดีจะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อทำให้เจ้าหายโกรธ” สีหน้าและท่าทางราวกับเสี่ยวโก่ว[1] เวลาถูกเจ้าของดุทำให้นางจนใจ ‘เฮ้อ...กล่าววาจาเลื่อนลอยเช่นนี้ ข้าพูดอันใดไปเขาก็คงไม่เข้าใจสินะ’ นางถอนหายใจราวกับปลดปลง เสียงฝีเท้าจำนวนมากทำให้นางตื่นตัว ไวกว่าความคิดนางรีบดึงรั้งบุรุษตัวใหญ่ให้เดินตามลึกเข้าไปในถ้ำ ก่อนจะพาเขาไปหลบหลังหินก้อนใหญ่ ทว่ามันเป็นพื้นที่แคบ ที่ต้องเบียดเสียดกันเข้าไป ทำให้นางต้องแนบชิดกับเขา ลมหายใจร้อนที่เป่ารดแก้มเนียนใสทำให้นางหัวใจเต้นระรัว นัยน์ตาดำที่ก้มมองนางฉายแววรักใคร่อย่างลึกซึ้ง ได้ใกล้ชิดบุรุษรูปงามถึงเพียงน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 2 เจ้าคือฮูหยินของข้า (3/4)

    “เจ้าจะโกรธพี่อย่างไรก็ได้ แต่อย่าได้ปฏิเสธเรื่องที่เจ้าเป็นฮูหยินของพี่ได้หรือไม่” “เฮ้อ...” นางได้แต่ทอดถอนใจ แรกเริ่มเดิมทีที่ช่วยเหลือเขาก็เพราะอยากพิสูจน์ความคิดของตน และอยากขอความช่วยเหลือเล็กน้อยจากเขาเป็นการตอบแทน มิคิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้ หรือเป็นเพราะนางเลือกที่จะไม่เดินทางจากไปก่อนที่เขาตื่นดั่งเช่นชาติก่อน จึงไม่ทราบว่าแท้จริงบุรุษผู้นี้บาดเจ็บหนักถึงขั้นสติฟั่นเฟือนเช่นนี้ “ฮูหยิน...” “ก็ได้เจ้าค่ะ” นางตอบรับพลางคิดว่าต่อจากนี้ คำว่า ‘ฮูหยิน’ คงจะหลอกหลอนนางไปอีกนาน อาจเพราะชาติก่อนนางเคยปรนนิบัติอดีตสามีชั่วช้าผู้นั้นอยู่บ้าง การช่วยบุรุษแปลกหน้าผู้นี้แต่งกายจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนาง “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ แล้วท่านหมอ...” นางกล่าวพลางจะเดินผ่านบุรุษชุดดำไปที่หน้าถ้ำ แต่กลับถูกมือใหญ่รั้งเอวคอดกิ่วเอาไว้ “ฮูหยิน เจ้าอย่าเข้าใกล้คนพวกนั้น” เขากล่าวพลางรั้งนางเข้าสู่อ้อมกอด ไม่สนใจท่าทีตกตะลึงของคนที่อ้างตัวว่าเป็นลูกน้องตน “คุณหนู...” เจียวโจวกำลังจะกล่าวแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 2 เจ้าคือฮูหยินของข้า (4/4)

    “ไปเมืองหลวงหรือเจ้าคะ” เช่นนั้นก็ดีมากไม่ใช่หรือ เดินทางกับคนพวกนี้เข้าเมืองหลวง นางจะได้ปลอดภัยจากแผนการชั่วร้ายของอดีตสหายและอดีตสามี “อืม” เขารับคำสั้นๆ “เช่นนั้นท่านก็ให้ท่านหมอตรวจสักหน่อยเถิด” ในเมื่อต้องพึ่งพาเขาในการเดินทางไปเมืองหลวง อย่างไรนางก็ควรจะดูแลเขาเพื่อเป็นการตอบแทน “พี่ได้กลิ่นลูกท้อจากตัวเจ้า” “ข้าลืมไปเสียสนิทนี่เจ้าค่ะลูกท้อ ข้าเกรงว่าท่านจะหิวจึงออกไปเก็บลูกท้อมาให้” ซูหนิงเซียนล้วงเอาลูกท้อออกมาจากอกเสื้อ “ฮูหยินของพี่ช่างน่ารักน่าเอ็นดู” “อะแฮ่ม...จะตรวจอยู่หรือไม่ ข้ามิได้ว่างมาดูพวกเจ้าหยอกเย้าเอาอกเอาใจกัน” “ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านรีบมานั่งตรงนี้เถิดท่านหมอเทวดาจะได้ตรวจให้ท่านบ้าง” “เจ้าอย่าได้ลุกขึ้น หมอปีศาจผู้นี้สั่งไว้ว่าเจ้าไม่ควรเดินเหินพักใหญ่” “ข้าเป็นหมอเทวดา นั่งลงได้แล้วจะได้รีบตรวจ” คนป่วยเช่นนี้น่าเอายาพิษกรอกปากเสียจริง ปากหรือก็เอ่ยแต่วาจาไม่น่าฟังออกมา “ข้าขอกินลูกท้อของเจ้าก่อนได้หรือไม่” วาจากำกวมของเขาทำให้ดวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า    บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (1/4)

    3ความในใจของซีซวน เฮือก...เขาฝันร้ายอีกแล้ว นี่นับเป็นครั้งที่เท่าใดไม่ทราบที่เขาฝันถึงเรื่องราวในครั้งนั้น เขาไปช่วยนางไม่ทัน ภาพของสตรีที่นอนหมดลมหายใจอยู่บนพื้นคุกใต้ดินทำให้เขาแทบคลั่ง มือที่กำกระบี่สั่นสะท้านอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ หากในตอนนั้นเขาเลือกที่จะเชื่อหัวใจตนเอง นางก็คงไม่ต้องมีจุดจบเช่นนี้ เพราะยึดมั่นเกี่ยวกับเรื่องราวในหนหลัง เขาจึงเลือกที่จะตอบแทนผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือชีวิตของเขาด้วยการขอหมั้นหมาย ชีวิตนางคล้ายจะลำบากเขาจึงปรารถนาอยากให้นางได้มีชีวิตที่ดี แต่แล้วในวันหนึ่งที่ได้เจอสหายของคู่หมั้น เขากลับจิตใจสั่นไหว รอยยิ้มของนางทำให้ใจดวงน้อยของเขาเต้นระรัว ‘คารวะคุณชายซวนเจ้าค่ะ’ นางทักทายและส่งยิ้มให้เขา ในยามนั้นแม้จะรู้สึกคุ้นเคยกับรอยยิ้มตรงหน้า แต่เขาก็เลือกที่จะปัดความรู้สึกนั้นทิ้ง เพราะอย่างไรนางก็เป็นสหายของคู่หมั้น และที่สำคัญคือนางกำลังจะกราบไหว้ฟ้าดินกับบุรุษผู้หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ได้สนทนากับนางอีกหลายครั้งยามบังเอิญเจอกันที่ตลาด นางส่งยิ้มจริงใจและไม่เคยมองเขาอย่างหวาดกลัวเมื่อสวมใส่หน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า    บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (2/4)

    “ฮูหยินของข้า นางหายไปไหน” “ฮูหยินไปเก็บผลท้อแล้วเดินไปทางลำธารขอรับ” “มีใครตามนางไปหรือไม่” “เจียวหวงติดตามฮูหยินไปแล้วขอรับ” “อืม ดูเหมือนนางจะเจ็บข้อเท้า ส่งคนไปรับลู่จื้อมาด้วย” “ขอรับ” “หากนางกลับมาหาข้าแล้วพวกเจ้าแสร้งทำเป็นมาตามหาข้าแล้วสั่งคนไปพาหมอมา บอกลู่จื้อให้เออออตามข้าอย่าได้ขัดแย้งมิเช่นนั้นข้าจะให้เสี่ยวช่างไปกินเสี่ยวอ้ายของเขา” คำขู่ของผู้เป็นนายทำให้เจียวโจวซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในบรรดาลูกน้องแซ่เจียวทั้งหมดอยากยกมือปาดเหงื่อ หากได้ยินคำข่มขู่เช่นนี้ท่านหมอเทวดาคงจะเดือดดาลจนสาดยาพิษใส่พวกเขาเป็นแน่ ในหมู่พวกเขาใครบ้างจะไม่ทราบว่าเสี่ยวอ้ายคืองูสีเหลืองที่ท่านหมอลู่จื้อรักดุจดวงใจ หวิ้ว เสียงสัญญาณที่ใช้กันในหมู่ผู้ติดตามของเขาดังแว่วมา บ่งบอกว่ากำลังมีคนมา เขาจึงพยักหน้าสั่งให้ผู้ติดตามนับสิบไปซ่อนตัว เมื่ออยู่ตามลำพัง เขาที่ยังคลุมเสื้อตัวนอกของนางอยู่ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่แสนคุ้นเคยทำให้นัยน์ตาดำหม่นแสงลง ในครานั้นหากเขาเชื่อความรู้สึกของตนเอง ทุกอย่างคงไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (3/4)

    บุรุษตัวโตปล่อยให้แม่นางน้อยตรงหน้าดึงรั้งตามใจ ตรงซอกหินที่นางพาเข้าไปหลบช่างดีเหลือเกิน มันทำให้เขาได้แนบชิดกับนาง เสียงหัวใจเต้นระรัวของนางเกือบทำให้เขาเผลอจ้องมองนางด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยอย่างพยายามล่อล่วงนาง ‘คุณชายขอรับ คุณชาย’ “คนพวกนั้นใช่คนของท่านหรือไม่” “ข้าไม่ทราบ” เขาทำหน้าใสซื่อพลางส่ายหน้า ‘นี่มันอาภรณ์ของคุณชาย คุณชายต้องอยู่แถวนี้แน่นอน พวกเจ้าแยกย้ายกันไปหาคุณชาย เจียวมิ่งเจ้ารีบไปนำตัวท่านหมอเทวดามาที่นี่ มีคราบเลือดจางๆ บนอาภรณ์ เกรงว่าตอนนี้คุณชายอาจจะกำลังได้รับบาดเจ็บ’ ‘ขอรับ’ เสียงเจ้าของชื่อตอบรับก่อนที่นางจะได้ยินเสียงคนอื่นค้นหาต่อ “คนพวกนั้นน่าจะเป็นคนของท่าน เราออกไป...” นางยังกล่าวไม่ทันจบมือใหญ่ก็รั้งศีรษะนางแล้วกดใบหน้านางลงบนอกแกร่ง เพื่อไม่ให้นางเห็นดวงตาของเขาวาวโรจน์หลังจากคิดบางอย่างได้ บัดซบ! นางสวมอาภรณ์แค่ตัวใน คนพวกนั้นต้องจ้องมองฮูหยินของเขาเป็นแน่ “คุณชายท่านอยู่ที่นี่เอง” ชายชุดดำส่งเสียง แต่เขาส่งสายตาดุคนพวกนั้นให้หันหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (4/4)

    “มิต้อง เป็นฮูหยินของพี่ เจ้าต้องพักห้องเดียวกับพี่ พี่จะให้เจ้าจ่ายได้อย่างไร” “ข้าเจ็บข้อเท้าเช่นนี้ หากต้องนอนเบียดกับท่านที่บาดเจ็บเช่นกัน ข้าเกรงว่าจะไม่สะดวก อย่างไรเราพักกันคนละห้องดีหรือไม่เจ้าคะ” แค่ต้องแสร้งเป็นฮูหยินให้เขา นางก็เสียหายมากพอแล้ว หากมีใครทราบว่านอนห้องเดียวกันอีก นางมิต้องแต่งให้เขาจริงๆ เลยหรือ “พี่เข้าใจแล้ว เจ้าคงยังโกรธเคืองพี่ เช่นนั้นพี่จะให้เวลาเจ้าทบทวน” เขาตอบรับด้วยสีหน้าท่าทางเศร้าสร้อยราวกับเด็กน้อยถูกปฏิเสธไม่ให้กินถังหู่ลู่ ‘ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นเจ้าค่ะ ข้าไม่ใจอ่อนหรอก’ บุรุษรูปงามเช่นท่านคงมีฮูหยินและอนุเต็มเรือนแล้ว “นี่เป็นค่าห้องของข้าเจ้าค่ะ” นางยื่นตำลึงให้เขา แต่แทนที่เขาจะรับมันไว้ เขากลับเข้ามาโอบอุ้มนางเพื่อพาลงจากรถม้า “ท่านปล่อยข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าเดินเองได้” มีคนมองมากมายเช่นนี้ นางรู้สึกอับอายยิ่งนัก “ท่านหมอกล่าวว่าไม่ให้เจ้าเดินเหินจนกว่าจะหายมิใช่หรือ” ในกาลก่อนแม้จะได้สนทนากันหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยทราบว่าสตรีผู้นี้ดื้อรั้นยิ่งนัก ดวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28

บทล่าสุด

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 18 รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง (2/4)

    “หากท่านอยากปีนหน้าต่างจวนข้า คิดว่าใครจะห้ามได้หรือเจ้าคะ” “ที่เจ้ากล่าวมามันก็จริง เช่นนั้นพี่ไปล่ะ กลางวันแดดร้อนไม่น้อย เอาไว้ยามพระจันทร์ฉายแสงค่อยเจอกันอีกครั้ง” กล่าวจบเขาก็กลับไปขึ้นรถม้า ‘เช่นนั้นวันนี้ท่านก็คงมาเจอข้าไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ เพราะวันนี้เป็นคืนเดือนมืด’ มุมปากหยักของซูหนิงเซียนยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าจวนของตน เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกจากจวนซูได้ชั่วครู่แล้ว คุณชายหยางจึงบอกกล่าวผู้ติดตามก่อนจะทะยานออกจากรถม้าไป “ลมอันใดหอบเจ้ามาที่จวนของข้า” ท่านหมอเทวดาหยอกเย้าสหายที่มีสีหน้าเรียบเฉยดั่งเช่นยามปกติ วันนี้หลอมยาถอนพิษหายากได้สำเร็จ ลู่จื้อจึงอารมณ์ดียิ่งนัก นิ้วเรียวยาวดุจลำเทียนลูบหัวงูสีเหลือง ซึ่งเจ้าเสี่ยวอ้ายคล้ายจะชอบใจยามถูกเจ้านายสัมผัส มิเช่นนั้นคงมิอยู่นิ่งให้อีกฝ่ายลูบไล้เล่น “ลมของแม่นางเซียวอ้ายช่างอย่างไรเล่า เมื่อยามเซิน (15.00-16.59) เจ้าไปที่ใด ข้ามาหาเจ้าที่จวนไม่เจอ” “เสี่ยวอ้ายร่ำร้องอยากออกไปเดินเล่นชมป่าด้านหลัง ข้าจึงตามใจ” “มัวแต่สนใจเ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 18 รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง (1/4)

    18รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง เมื่ออับจนหนทาง สตรีที่พึงใจหวาดระแวงจนอยากเลื่อนการสู่ขอออกไป เขาที่รักมั่นและรอนางมานานมีหรือจะยอม สุดท้ายจำใจต้องหักหลังสหายยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟัง “ที่แท้คู่หมั้นผู้นั้นก็คือท่านหมอเองหรือเจ้าคะ แล้วท่านไปสนิทกับท่านหมอได้อย่างไร มิใช่เพิ่งเจอกันยามที่เขามารักษาอาการสติฟั่นเฟือนให้ท่านหรือเจ้าคะ” คำถามของนางทำให้รอยยิ้มบางของเขาค้างแข็ง “เซียนเอ๋อร์ พี่ยอมแล้ว พี่ขอโทษที่โกหกเจ้า” “ท่านโกหกข้าเรื่องใดเจ้าคะ เรื่องที่อ้ายช่างเป็นคู่หมั้นของท่านหมอ หรือเรื่องที่ท่านสติฟั่นเฟือน” น้ำเสียงและสีหน้าที่ราบเรียบของนางช่างดูคล้ายคลึงกับมารดายามมีโทสะ “แท้จริงแล้วพี่โกหก ในตอนนั้นพี่ไม่ได้สติฟั่นเฟือน แต่พี่เพียงอยากอยู่ใกล้เจ้า เจ้าอาจจะไม่รู้ว่าพี่ดีใจมากเพียงใดที่ได้พบเจอเจ้าอีกครั้ง” ท่าทางหูลู่หางตกคล้ายเจ้าเสี่ยวโก่วยามหวาดหวั่นทำให้นางรู้สึกหมั่นไส้ยิ่งนัก ช่างมากเล่ห์ มากมารยา หากตบแต่งกันไปนางเปิดโรงงิ้วให้เขาเลยดีหรือไม่ รายได้คงงอกเงยมิน้อย “เพราะดีใจที่ได้เจอ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (4/4)

    “สบายดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านเจ๋อคุน” “ข้าสบายดีขอรับ” “ได้ความว่าอย่างไร” “คือว่า...” เมื่อผู้ติดตามของสหายทำท่าจะเอ่ยปากรายงาน นางที่ไม่อยากเป็นคนรู้เยอะจึงรีบกล่าวคำอำลา “เจ้าคงมีเรื่องที่ต้องทำ ข้าเองก็เช่นกัน อีกสองวันข้าจะไปหาเจ้าที่จวน อย่าลืมเตรียมขนมไว้รอข้าด้วย” ซูหนิงเซียนกล่าวด้วยใบหน้าที่แต่งแต้มรอยยิ้ม นางไปอยู่เมืองซานโจวได้เพียงสามวันก็ได้ช่วยเหลืออ้ายช่างที่กำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ สุดท้ายได้นางช่วยเหลือ จึงกลายเป็นสหายกัน แม้จะคบหากันได้เพียงสี่เดือนแต่ทว่ายิ่งสนทนากลับยิ่งคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานหลายปี “ได้! ข้าจะรอเจ้า” เมื่อบอกลาสหายเสร็จเรียบร้อยนางจึงรีบเดินไปที่รถม้า แต่เมื่อถึงรถม้ากลับพบว่าหยางซีซวนยืนรออยู่แล้ว “ขออภัยเจ้าค่ะที่ข้ามาช้า ท่านมารอนานแล้วหรือ” “มินาน พี่มาถึงก่อนเจ้าเพียงชั่วครู่” คำกล่าวของคุณชายทำให้เจียวมิ่งที่แฝงกายอยู่ไม่ไกลอมยิ้ม ส่วนเจียวเจี๋ยที่กลับมาเร้นกายอยู่ข้างๆ รีบสะกิดเตือนไม่ให้พี่น้องร่วมสาบานหัวเราะออกมา

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (3/4)

    “เสร็จแล้ว ก่อนกลับแวะดูเครื่องประดับติดมือกลับจวนสักชิ้นหรือไม่” “อย่าเพิ่งดีกว่าเจ้าค่ะ ไปดูตอนนี้ข้าจะได้กลับเพียงแค่ชิ้นเดียว แต่หากพาท่านกลับจวนไปเป็นสามี เกรงว่าข้าก็จะได้เครื่องประดับทั้งหมด ความคุ้มค่าช่างแตกต่างกันนัก” “ขออภัยฮูหยิน เป็นพี่ไม่รอบคอบ เช่นนั้นพาพี่กลับจวนไปเป็นสามีตอนนี้เลยดีหรือไม่ พี่ยินดีมอบร้านฝากเงินและโรงเตี๊ยมให้เจ้าอย่างไม่อิดออด ” “หลังส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าแล้ว หากข้าไม่อนุญาต ห้ามท่านไปอวดร่ำอวดรวยให้สตรีที่ไหนฟังเช่นนี้เข้าใจหรือไม่เจ้าคะ ข้ามิอยากปวดหัวเรื่องสตรีในเรือนหลัง” “มิต้องห่วง ต่อจากนี้กิจการร้านค้าทุกอย่างของพี่มอบให้เจ้าดีหรือไม่ ให้เจ้าเป็นเถ้าแก่เนี้ย ส่วนพี่จะเป็นลูกจ้างทำงานให้เจ้ากับลูกแทนดีหรือไม่” “ใจป้ำยิ่งนัก หยุดหยอกเย้าข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าอยากกลับจวนแล้ว” “พี่นั่งหลังขดหลังแข็งตั้งใจตรวจบัญชีอยู่นาน เจ้ามิคิดจะมอบรางวัลให้พี่บ้างหรือ” เขากล่าวพลางลุกขึ้นแล้วเดินมาใกล้นาง “อยากได้อันใดเจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง บุรุษที่ติดใจรางวัลในคืนนี้ ใช้

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (2/4)

    “ได้โปรดใจเย็นเจ้าค่ะ ให้ข้าได้แก้แค้นสองคนนั้นก่อนได้หรือไม่” “หนิงเซียน หากเจ้าแต่งกับพี่แล้ว เจ้ายังสามารถแก้แค้นคนพวกนั้นได้ พี่บอกแล้วอย่างไร ว่ายินดีจะสนับสนุนและช่วยเก็บกวาดให้เจ้า” เขารักและหวงแหนนางเหลือเกิน “หากข้าแต่งงานกับท่าน ลี่อินนางก็จะไม่มุ่งมั่นอยากแย่งชิงข้า...ซีซวน ข้าคิดออกแล้ว ท่านส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าเถิด” ซูหนิงเซียนตั้งใจจะปฏิเสธเช่นทุกครั้ง แต่ภาพที่สหายพยายามจะโผเข้าหาบุรุษรูปงามผู้นี้ทำให้นางคิดเรื่องบางอย่างออก “ฮูหยินของพี่ ที่เจ้ากล่าวมาเป็นเรื่องจริงหรือ” เขาที่ยังกุมมือนางเอาไว้รีบคุกเข่าลงบนพื้น นัยน์ตาดำที่จับจ้องนางฉายแววดีใจ “จริงเจ้าค่ะ ข้ายินดีจะแต่งกับท่าน เพียงแต่ท่านจะว่าอันใดหรือไม่หากข้าจะใช้เรื่องนี้ช่วยปิดบัญชีแค้นระหว่างข้ากับหม่าลี่อินและกวางเหลียงอี้” “ไม่ว่าๆ ขอเพียงเจ้ายอมแต่งกับพี่ พี่ยอมทั้งนั้น” สีหน้าที่บ่งบอกว่าดีใจของเขาทำให้นางเริ่มรู้สึกผิดจึงคิดจะเปลี่ยนใจ “แต่...” “ไม่มีแต่ พี่ยินดีร่วมมือกับเจ้า ขอเพียงการแต่งงานครั้งนี้มันกลายเป็น

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (1/4)

    17คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี หลังจากหยางซีซวนพานางออกจากที่ตรงนั้นแล้ว เขาพานางไปที่ร้านเป่าปินซึ่งเป็นร้านขายเครื่องประดับล้ำค่าราคาแพง โดยในกาลก่อนนางมักจะถูกสหายชักชวนให้มาเลือกซื้อเครื่องประดับที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่ายามที่หม่าลี่อินเลือกให้นางก็ต้องจ่ายตำลึงเพื่อซื้อปิ่นล้ำค่าให้สหายที่ตนคิดว่าแสนดี “คารวะคุณชาย คารวะคุณหนูขอรับ” หลงจู๊ของร้านรีบตรงเข้ามาทักทายด้วยท่าทีนอบน้อม “เตรียมขนมและน้ำชาให้คุณหนูซูด้วย” “ขอรับคุณชาย” ชายวัยกลางคนตอบรับก่อนจะเดินแยกไป “เข้าไปด้านในกันเถิด” เขากล่าวพลางจับมือนางที่กำลังมีสีหน้างุนงงให้เดินตาม ยามที่เดินผ่านคนงานของร้าน ทุกคนก็จะหยุดนิ่งก่อนจะแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม กว่านางจะจับต้นชนปลายถูก เขาก็พานางมาถึงห้องทำงานที่อยู่ด้านบนซึ่งเป็นเขตหวงห้าม “เจ้านั่งรอพี่ตรงนั้นก่อน” ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยเมื่อครู่เลือนหาย หลังที่ยืดตรงสง่าผ่าเผยเมื่อครู่งองุ้มลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาแลดูโศกเศร้า ท่าทางคลับคล้ายคลับคลากับเสี่ยวโก่วยามถูกเจ้านายทอดทิ้งทำให

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (5/5)

    เพียะ มือเรียวของหม่าลี่อินยกขึ้นตบใบหน้าตนเอง แม้ไม่แรงมากแต่ก็สามารถดึงความสนใจของคนรอบข้างให้หันมาสนใจได้ “ข้ามันปากไม่ดี กล่าวว่าสหายเช่นเจ้า ข้าทราบว่าเจ้ามิได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงแต่น้อยใจที่คู่หมั้นของตนคล้ายจะสนใจเจ้ามากกว่าข้า ให้อภัยข้าเถิดนะหนิงเซียน” “ข้าไม่เคยโกรธอันใดเจ้า อย่าได้ลงโทษตนเองเช่นนั้น ที่ข้าเปลี่ยนใจไม่ไปชมดอกไม้กับเจ้าแล้วก็เพราะข้าคิดว่าการปล่อยให้เจ้าและคู่หมั้นจิบน้ำชาชมดอกไม้กันเพียงลำพังจะได้ถือโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามก่อนแต่งงาน จะว่าไปฤกษ์แต่งงานของเจ้ากับมือปราบกวางคือเมื่อใดหรือ เหตุใดเจ้ายังไม่บอกกล่าวข้า” “อย่างไรข้าก็อยากให้เจ้าไปชมดอกไม้ด้วยกัน ส่วนเรื่องฤกษ์นั้นเป็นของผู้ใหญ่หากถึงเวลาเมื่อใดข้าจะบอกเจ้าเอง” จะมีฤกษ์ได้อย่างไรในเมื่อแท้จริงนางและกวางเหลียงอี้ต่างมีเป้าหมายที่ตนต้องการ “เซียนเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้ขัดขวางยวนยาง ไปเที่ยวเล่นกับพี่ดีกว่า ไม่ได้เจอเจ้านาน พี่คิดถึงยิ่งนัก” หากไม่ติดว่าต้องเล่นบทงิ้วต่อหน้าสหายชั่ว นางคงกลอกตาไปมาหลายรอบ ไม่ได้เจอกันนานอย่างไร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (4/5)

    ‘ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนางมีจิตใจที่ดีมิใช่หรือ’ คำกล่าวของบุรุษผู้นั้นทำให้สตรีที่ถูกกล่าวถึงกำมือเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ “ลี่อิน เจ้าเป็นอันใดหรือไม่ เหตุใดถึงได้หน้าแดงถึงเพียงนั้น” “คงร้อนอบอ้าว เรารีบเดินกันเถิด” พวกปากไม่มีหูรูดเอาแต่ติฉินนินทาเรื่องของผู้อื่น สนใจเรื่องของตนบ้างเถิด สวนที่พวกนางจะไปชมดอกไม้คลายร้อนกันนั้นอยู่ไม่ห่างจากโรงเตี๊ยมเลี่ยงจินเท่าใดนัก หม่าลี่อินเลือกที่จะเดินผ่านมาทางนี้ทั้งที่อีกทางต้องเดินใกล้กว่าคงคาดหวังที่จะได้พบเจอใครบางคน เรื่องราวการพาตัวบุตรชายกลับบ้านของหยางฮูหยินในวันนั้นไม่ได้มีการถูกปิดเป็นความลับแต่อย่างใด จึงไม่แปลกที่สหายชั่วของนางจะคาดหวังว่าจะได้เจอเขาเมื่อผ่านมาที่แห่งนี้ หากทราบว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นของเขา หม่าลี่อินคงแทบจะถอดอาภรณ์วิ่งเข้าใส่ บุรุษที่นอกจากจะร่ำรวยด้วยตนเองแล้วยังมีอำนาจของตระกูลหนุนหลัง สตรีใดบ้างจะไม่ปรารถนา “เซียนเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ” แม้ท่าทางจะสง่างามแต่ทว่านางกลับเห็นเหงื่อที่ผุดพรายบริเวณไรผมของเขา ‘คงร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (3/5)

    “พี่เหลียงอี้ ท่านมาทำอันใดแถวนี้เจ้าคะ” คำกล่าวคล้ายจะเป็นความบังเอิญ แต่นางที่รู้จักคนทั้งสองมาถึงสองชาติเหตุใดจะมองแผนการตื้นเขินนี้ไม่ออก “พี่มาเดินตรวจแถวนี้ เจ้ากับคุณหนูซูจะไปที่ใดกันหรือ” “หนิงเซียนจะพาข้าไปร้านขายอาภรณ์เจ้าค่ะ ท่านไปช่วยพวกข้าเลือกอาภรณ์ได้หรือไม่” คำกล่าวของสหายชั่วทำให้นางก้มหน้าซ่อนแววตาเย้ยหยัน ‘ข้าบอกเจ้าว่าจะมาเดินเล่นนอกจวนมิใช่หรือ ร้านอาภรณ์อันใดข้ามิเคยกล่าวถึง’ “ได้สิ พี่ยินดี” กล่าวจบมือปราบหนุ่มก็จ้องมองคุณหนูซูอย่างไม่วางตา จนหม่าลี่อินชักสีหน้าไม่พอใจ ต่อให้ตนไม่คิดแต่งกับบุรุษฐานะต่ำต้อยอย่างกวางเหลียงอี้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้สตรีอื่นได้ใจเขาไป “ลี่อิน เจ้าได้พบเจอคู่หมั้นแล้ว หากเจ้าอยากไปร้านอาภรณ์ให้มือปราบกวางพาไปดีหรือไม่” “แต่ข้าอยากให้เจ้าไปด้วย” เขาหรือจะสามารถจ่ายตำลึงซื้ออาภรณ์ล้ำค่าให้ตนได้ “ลี่อิน คุณหนูซูอาจจะไม่อยากไปร้านขายอาภรณ์ เจ้าอย่าได้เอาแต่ใจให้มากนัก” กล่าวจบก็หันมาจ้องมองนางด้วยแววตาหวานซึ้ง หวานซึ้งอันใดกัน ข

DMCA.com Protection Status