แชร์

บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (4/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 22:11:39

           

           “มิต้อง เป็นฮูหยินของพี่ เจ้าต้องพักห้องเดียวกับพี่ พี่จะให้เจ้าจ่ายได้อย่างไร”

            “ข้าเจ็บข้อเท้าเช่นนี้ หากต้องนอนเบียดกับท่านที่บาดเจ็บเช่นกัน ข้าเกรงว่าจะไม่สะดวก อย่างไรเราพักกันคนละห้องดีหรือไม่เจ้าคะ” แค่ต้องแสร้งเป็นฮูหยินให้เขา นางก็เสียหายมากพอแล้ว หากมีใครทราบว่านอนห้องเดียวกันอีก นางมิต้องแต่งให้เขาจริงๆ เลยหรือ

            “พี่เข้าใจแล้ว เจ้าคงยังโกรธเคืองพี่ เช่นนั้นพี่จะให้เวลาเจ้าทบทวน” เขาตอบรับด้วยสีหน้าท่าทางเศร้าสร้อยราวกับเด็กน้อยถูกปฏิเสธไม่ให้กินถังหู่ลู่

            ‘ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นเจ้าค่ะ ข้าไม่ใจอ่อนหรอก’ บุรุษรูปงามเช่นท่านคงมีฮูหยินและอนุเต็มเรือนแล้ว

            “นี่เป็นค่าห้องของข้าเจ้าค่ะ” นางยื่นตำลึงให้เขา แต่แทนที่เขาจะรับมันไว้ เขากลับเข้ามาโอบอุ้มนางเพื่อพาลงจากรถม้า

            “ท่านปล่อยข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าเดินเองได้” มีคนมองมากมายเช่นนี้ นางรู้สึกอับอายยิ่งนัก

            “ท่านหมอกล่าวว่าไม่ให้เจ้าเดินเหินจนกว่าจะหายมิใช่หรือ” ในกาลก่อนแม้จะได้สนทนากันหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยทราบว่าสตรีผู้นี้ดื้อรั้นยิ่งนัก

            ดวงหน้าหวานที่ยุ่งเหยิงราวกับเด็กน้อยถูกขัดใจช่างน่ารักน่าหยิกยิ่งนัก

            อา...รู้สึกเหมือนเขากำลังหลงใหลนางเพิ่มมากขึ้น

            แม้จะทราบดีว่าการกระทำของตนในตอนนี้คล้ายกับไม่ให้เกียรตินาง แต่แล้วอย่างไรในเมื่อตอนนี้นางเป็นฮูหยินของเขา ส่วนเขาเป็นเพียงชายสติฟั่นเฟือน หากมัวแต่ยึดถือธรรมเนียมชายหญิงไม่ถูกเนื้อต้องตัว แล้วนางจะเชื่อได้อย่างไรว่าเขามองว่านางเป็นฮูหยินของตนจริงๆ

            “แต่คนมองมากมายเช่นนี้ ข้า...”

            “เจ้าอย่าได้สนใจผู้อื่นเลย พี่ดูแลฮูหยินของตนเช่นนี้ มิผิดอันใดไม่ใช่หรือ ประเดี๋ยวเราจะนั่งกินข้าวด้านล่างก่อน”

            “ให้เสี่ยวเอ้อร์ยกไปให้ที่ห้องไม่ได้หรือเจ้าคะ” มีสายตาผู้อื่นจับจ้องมากมายเช่นนี้นางไม่คุ้นชินเอาเสียเลย

            “นั่งกินข้าวด้านล่างก่อน เจ้าจะได้ชื่นชมวิถีชีวิตคนเมืองนี้ไปด้วย” เขากล่าวพลางวางตัวนางให้นั่งบนเก้าอี้

            ‘ถามข้าแล้วหรือ ข้าอยากชื่นชมวิถีชีวิตผู้อื่นหรือไม่’ สุดท้ายนางก็ไม่ได้กล่าวอันใดอีก

            ดูแล้วบุรุษผู้นี้คงเป็นคุณชายที่มาจากตระกูลขุนนางชั้นสูงหรือไม่ก็คหบดีที่ร่ำรวยเอามากๆ ถึงได้เอาแต่ใจคล้ายกับถูกตามใจมาโดยตลอด

            แต่เขาจะเป็นใครก็ช่างเถิด พอถึงเมืองหลวงแล้วเขากับนางก็จะกลายเป็นเพียงคนเคยรู้จักกัน

            “เจ้าอยากกินอันใดก็สั่งมาเถิด สั่งเผื่อพี่ด้วย”

            “เขาไม่เคยแพ้อาหารอะไรใช่หรือไม่” นางหันไปถามบุรุษชุดดำที่นั่งโต๊ะด้านหลัง

            ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะจำนวนผู้ติดตามที่มากหรือเป็นเพราะโรงเตี๊ยมแห่งนี้เล็กเกินไป ตอนนี้ในโรงเตี๊ยมจึงเต็มไปด้วยคนของเขา

            “ไม่มีขอรับ” เจียวโจวตอบกลับฮูหยินของคุณชายอย่างนอบน้อม

            เมื่อได้คำตอบจากผู้ติดตามของเขา นางจึงจัดการสั่งอาหารจำนวนสี่ห้าอย่าง แต่พอละสายตาจากเสี่ยวเอ้อร์ นางก็พบเข้ากับแววตาหวานซึ้งของบุรุษที่ตอนนี้กล่าวว่าเป็นสามีของตน

            “ฮูหยินเจ้าช่างรู้ใจพี่”

            ‘กล่าวเช่นนี้ ข้าคงไม่ได้สั่งอาหารที่เขาชอบมาทั้งหมดหรอกนะ’ นางคิดพลางยกชาขึ้นจิบ

            “ฮูหยินหากเจ้าหายโกรธพี่เมื่อใด เจ้ามีบุตรให้พี่...” เขายังกล่าวไม่ทันจบนางก็สำลักน้ำชาจนหน้าดำหน้าแดง

            “แค่ก แค่ก” ซูหนิงเซียนยกมือตบอกตนเองพลางไอออกมา

            “ค่อยๆ จิบน้ำชาอย่าได้เร่งรีบ”

            ‘เป็นท่านมิใช่หรือที่ทำให้ข้าเป็นเช่นนี้’ นางคิดพลางไอออกมา

            “ขอบคุณเจ้าค่ะ” นางรับผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากพลางไออีกครั้ง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (1/4)

    4ต่างคนต่างพึ่งพากัน หลังจากนั้นนางก็ได้แต่นั่งฟังเขากล่าววาจาวาดฝันเรื่องราวที่เขาอยากทำกับฮูหยินของเขา ซึ่งนั่นไม่ใช่นางแน่นอน “อิ่มแล้วหรือ” เขากล่าวพลางมองอาหารที่ตนคีบให้นางจนพูนชาม นางช่างกินน้อยเสียจริง... “เจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็กินยา” เขากล่าวพลางรับชามยามา “เจ้าค่ะ” นางตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะยกชามยาขึ้นกินจนหมด “เก่งมาก” แววตาของเขามีประกายเอ็นดูพาดผ่าน “ข้ากินยาแล้ว ท่านล่ะเจ้าคะ” “พี่กินแล้ว” “กินตอนไหนเจ้าคะ” นัยน์ตาดอกท้อที่จับจ้องราวกับผู้ใหญ่กำลังจับโกหกเด็กทำให้เขายิ้ม “พี่กินก่อนที่จะพาเจ้าลงจากรถม้า” คำโกหกของเขาทำให้บรรดาผู้ติดตามลอบยิ้ม ไม่ว่าคุณชายจะเก่งกาจเพียงใดแต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับฮูหยินน้อย “บังเอิญจริงเชียวที่เจอพวกเจ้า” บุรุษในอาภรณ์สีขาวเดินเข้ามาทักทาย “คารวะท่านหมอเจ้าค่ะ” นางลุกยืนทักทายท่านหมอ “อย่ายืนเช่นนั้น ประเดี๋ยวจะเจ็บข้อเท้าเอา” เขาใช้โอกาสนี้รั้งตัวนางให้นั่งลงบนต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (2/4)

    “พี่อยากปรนนิบัติฮูหยินของพี่” ‘แต่ข้าไม่ใช่ฮูหยินของท่าน’ นิสัยใจคอเป็นอย่างไร จวนอยู่ที่ใด นางยังไม่ทราบเลย เป็นเพียงแค่คนบังเอิญผ่านมาเจอกัน และต่างฝ่ายต่างพึ่งพากันเพียงเท่านั้น “เท้าเป็นของต่ำ บุรุษมิควรลดตัวมาจับเท้าสตรีเช่นนี้” คุณหนูซูพยายามหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยง ให้บุรุษเห็นเท้าเปล่าว่าผิดจารีตแล้ว หากให้เขาจับอีก นางมิต้องเอาตนเองใส่ตะกร้าล้างน้ำเลยหรือ “ฮูหยิน เจ้าอย่าได้ยึดถือธรรมเนียมเก่าแก่เหล่านั้นให้มาก สามีเพียงอยากปรนนิบัติเจ้า” กล่าวจบเขาก็ยึดเท้าข้างที่นางไม่ได้เจ็บเอาไว้แน่นแล้วถอดรองเท้าให้ ‘ต่อจากนี้ข้าคงหาบุรุษมาแต่งงานด้วยไม่ได้’ แต่ก็ช่างเถิด หลังจากได้หวนคืนมาสิ่งที่นางให้ความสำคัญที่สุดมิใช่เป็นการเลือกแต่งกับบุรุษดีๆ สักคน แต่เป็นการแก้แค้นเอาคืนคนพวกนั้นต่างหาก “หากเจ็บให้บอกพี่” หยางซีซวนกล่าวพลางค่อยๆ แกะผ้าที่พันไว้ออก นัยน์ตาดำมีประกายเจ็บปวดพาดผ่านชั่วครู่เมื่อเห็นรอยฟกช้ำ ภาพในคืนนั้นที่เขาเห็นร่างไร้วิญญาณของนางย้อนกลับเข้ามาในหัว มือใหญ่สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อยยามเขาควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (3/4)

    “ข้าก็จะแต่งนางเป็นฮูหยินจริงๆ” “ที่ข้าถามคือเมื่อใดเจ้าจะเลิกแสร้งสติฟั่นเฟือน” อย่างไรวันหนึ่งก็ควรจะอาการดีขึ้น “เรื่องนี้ข้ายังตอบไม่ได้” “สร้างเรื่องโกหกเช่นนี้ ตอนลงหาทางลงดีๆ ด้วยล่ะ มิเช่นนั้นแทนที่จะได้แต่งฮูหยิน นางอาจจะโกรธเกลียดเจ้าจนไม่อยากพบหน้าเลยก็เป็นได้” “...” ในตอนนั้นเขาไม่ทันคิดถึงผลที่ตามมาจริงๆ เขาใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้ชั่วครู่ยามสบตากับนาง ก่อนที่ปากจะเอื้อนเอ่ยเรียกนางเช่นนั้นออกมา “ชักอยากจะเห็นวันที่นางโกรธเจ้าแล้วสิ” กล่าวจบก็ลูบหัวเสี่ยวอ้ายที่เลื้อยออกมาจากแขนเสื้อ ‘ปากดีต่อหน้าแม่นางผู้นั้นไปเถิด วันใดที่โดนนางเมินเฉยข้าจะหัวเราะให้ฟันร่วง’ ลู่จื้อคิดพลางส่งยิ้มอ่อนโยนให้งูสีเหลืองของตน เสี่ยวอ้ายของเขาน่าเอ็นดูที่สุด “หากนางโกรธข้าเช่นที่เจ้ากล่าวเมื่อใด ข้าจะให้เสี่ยวช่างมาจิกเสี่ยวอ้ายของเจ้า” เสี่ยวช่างเป็นเหยี่ยวตัวใหญ่ที่เขาเลี้ยงไว้ “หยุดความคิดของเจ้าไปเลย” ท่านหมอเทวดารีบเก็บสัตว์เลี้ยงของตนเข้าในแขนเสื้อ “เจียวมิ่ง เจ้าพาคนล่วงหน้าไปยัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (4/4)

    เพียงแค่นางเรียกขานว่า ‘สามี’ ก็ทำหูตั้งหางส่ายไปมาราวกับเจ้าเสี่ยวโก่ว “เขาไม่ยอมกินยาเจ้าค่ะ ท่านช่วยใช้วิธีผ่าหัวเพื่อรักษาให้เขาหายจากสติฟั่นเฟือนได้หรือไม่เจ้าคะ” “คงมิได้หรอกแม่นาง ข้ายังไม่เคยผ่าหัวใครเลยสักครั้ง” “เช่นนั้นใช้เขาลองเถิดเจ้าค่ะ” นางคอยถามไถ่เรื่องกินยาด้วยความเป็นห่วงอยู่หลายวัน แต่เขากลับโกหกนาง มันน่าโมโหหรือไม่ “ฮูหยิน...” “บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า” นางเฝ้าดูแลเขามาหลายวัน แต่เขากลับไม่กินยา เช่นนี้เมื่อใดจะหายกันเล่า “ฮูหยินไม่เอา ไม่กล่าวเช่นนั้น พี่ขอโทษเจ้าหายโกรธพี่ได้หรือไม่” “ข้าไม่ได้โกรธเจ้าค่ะ ” แค่หงุดหงิดเพียงเท่านั้น “หากเจ้าไม่ได้โกรธพี่แล้วเจ้ากำลังจะเดินไปที่ใด ท่านหมอห้ามเจ้าเดินเหินมิใช่หรือ” เขากล่าวเสียงอ่อนพลางทำท่าจะลุกเดินตามนาง “ข้าหายแล้วเจ้าค่ะ และท่านหยุดเท้าอยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ข้าขออยู่คนเดียวเงียบๆ” ขอนางสงบสติอารมณ์ชั่วครู่ เขาไม่ได้เป็นสามีนางจริงๆ เสียหน่อย นางไม่ควรต้องห่วงใยเขามากถึงเพียงนี้ “เช่นนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (1/4)

    5ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย หลังจากปรนนิบัติและส่งฮูหยินเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ท่านหมอเทวดาก็ถูกสหายลากเข้าห้องของผู้ติดตามซึ่งอยู่ไกลจากห้องของนางไม่มากนักเพื่อสอบถาม “นางสนทนาเรื่องอันใดกับเจ้า” “นางแค่สงสัยอาการเจ็บป่วยของเจ้า” “สงสัยเรื่องอันใด รีบเล่าให้ข้าฟังบัดเดี๋ยวนี้” ท่าทางร้อนรนราวกับคนร้อนตัวทำให้ท่านหมอเทวดาอมยิ้ม ดูเหมือนคุณหนูผู้นั้นจะมีความสำคัญไม่น้อย สหายของตนถึงได้ร้อนรนถึงเพียงนี้ “นางก็แค่สงสัยว่าหากเจ้าไม่เคยมีฮูหยินหรือสตรีในเรือนหลังมาก่อน แต่เหตุใดพอสติฟั่นเฟือนถึงได้เอาแต่เรียกนางว่าฮูหยิน” “แล้วเจ้าตอบว่าอย่างไร” “เลิกข่มขู่ว่าจะทำร้ายเสี่ยวอ้ายของข้าก่อน แล้วข้าจะบอก” “เจ้ากล้าต่อรอง” “ข้าเป็นหมอเทวดานะ ไม่ใช้บุตรชายของเจ้า” “ก็ได้ สหายรัก ข้าจะเอ็นดูเสี่ยวอ้ายของเจ้า” ช่างเป็นรอยยิ้มที่แผ่ไปไม่ถึงดวงตา “ข้าก็แค่บอกว่าบางทีเจ้าที่ปักใจรักและวาดฝันจะกราบไหว้ฟ้าดินกับสตรีผู้หนึ่ง อาจจะกำลังสับสนระหว่างความจริงกับความฝัน”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (2/4)

    “ขอบคุณที่เข้าใจเจ้าค่ะ” นางกล่าวพลางมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า จึงไม่ได้เห็นสายตาลุ่มลึกยากจะคาดเดาของเขา ยามค่ำคืนหยางซีซวนนั่งจิบชาราวกับเฝ้ารอคอยเรื่องบางอย่าง ใบหน้าที่มักจะส่งยิ้มออดอ้อนฮูหยินของตนบัดนี้เรียบเฉยไร้ท่าทางหยอกเย้าเช่นทุกครั้ง แต่ในสายตาของผู้ติดตามแซ่เจียวทั้งหมด ทุกคนย่อมทราบดีว่านี่เป็นนิสัยปกติของผู้เป็นนาย ยามอยู่กับฮูหยินต่างหากที่คุณชายของพวกตนดูไม่ใคร่ปกตินัก พรึ่บ! บุรุษชุดดำสองคนเข้ามาทางหน้าต่างก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าผู้เป็นนาย “ว่ามา” คุณชายหยางกล่าวพลางหมุนจอกชาเล่น “คุณหนูหม่าลอบพบคุณชายกวางอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก ข้าน้อยจึงสืบต่อจนพบว่าทั้งสองแท้จริงเป็นเหมยเขียว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (3/4)

    “ฮูหยิน เจ้าอดทนเห็นหน้าบุรุษที่รูปงามน้อยกว่าพี่เพียงครู่เดียวอีก ไม่นานเราก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว” เขากล่าวพลางรินชาใส่จอกให้นางอย่างเอาใจ ‘สหายผู้นี้ปากไม่ดี มันน่าเปิดโปงความลับเสียจริง’ ทำตัวราวกับเด็กน้อยกลัวผู้อื่นมาแย่งความรักความสนใจจากมารดา “ท่านอย่าได้กล่าววาจาไม่ดีต่อท่านหมอเช่นนั้น” “...” เขาเม้มริมฝีปากราวกับอัดอั้นตันใจ ก่อนจะก้มหน้าลง “ข้าต้องขออภัยท่านหมอด้วยนะเจ้าคะ เขาสติฟั่นเฟือนอาจกล่าววาจาไม่เหมาะสมไปบ้าง” นางหันไปกล่าวกับท่านหมอ ถึงไม่ได้เห็นเบื้องหลังสีหน้าของบุรุษมากเล่ห์ ‘ดู...สหายข้าสำนึกที่ใด แสร้งทำเป็นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (4/4)

    “อย่าเพิ่งโอ้อวด พาตนเองให้รอดจากการโจมตีก่อนเถิด” เพราะไม่อยากให้นางตื่นกลัวกับการถูกลอบโจมตี เขาจึงผสมยานิทราลงในชาจอกนั้นให้นางดื่ม ฮี้ ม้าของผู้ติดตามที่วิ่งนำหน้าส่งเสียงร้องเมื่อมีบางอย่างขวางทาง สองขายกขึ้นตะกุยอากาศจนทำให้บุรุษชุดดำที่อยู่บนหลังม้าเกือบตกลงไป ‘พวกเจ้าท่าทางมีเงินไม่น้อย หากอยากผ่านทางเข้าเมืองหลวงอย่างราบรื่น ก็ทิ้งเงินและสตรีเอาไว้ที่นี่เสีย’ ท่าทางกักขฬะของพวกนักเลงทำให้บุรุษชุดดำยิ้มมุมปาก “รีบลงมือเสีย ข้าจะรีบไปดูจวนใหม่ของข้า” สิ้นเสียงของท่านหมอเทวดาที่อยู่ในรถม้า ผู้ติดตามแซ่เจียวทั้งสิบเจ็ดคนก็พุ่งเข้าไปจัดการนักเลงที่มีมากถึงสามสิบคน ด้านคุณชายหยางที่พาฮูหยินของตนแยก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 18 รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง (2/4)

    “หากท่านอยากปีนหน้าต่างจวนข้า คิดว่าใครจะห้ามได้หรือเจ้าคะ” “ที่เจ้ากล่าวมามันก็จริง เช่นนั้นพี่ไปล่ะ กลางวันแดดร้อนไม่น้อย เอาไว้ยามพระจันทร์ฉายแสงค่อยเจอกันอีกครั้ง” กล่าวจบเขาก็กลับไปขึ้นรถม้า ‘เช่นนั้นวันนี้ท่านก็คงมาเจอข้าไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ เพราะวันนี้เป็นคืนเดือนมืด’ มุมปากหยักของซูหนิงเซียนยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าจวนของตน เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกจากจวนซูได้ชั่วครู่แล้ว คุณชายหยางจึงบอกกล่าวผู้ติดตามก่อนจะทะยานออกจากรถม้าไป “ลมอันใดหอบเจ้ามาที่จวนของข้า” ท่านหมอเทวดาหยอกเย้าสหายที่มีสีหน้าเรียบเฉยดั่งเช่นยามปกติ วันนี้หลอมยาถอนพิษหายากได้สำเร็จ ลู่จื้อจึงอารมณ์ดียิ่งนัก นิ้วเรียวยาวดุจลำเทียนลูบหัวงูสีเหลือง ซึ่งเจ้าเสี่ยวอ้ายคล้ายจะชอบใจยามถูกเจ้านายสัมผัส มิเช่นนั้นคงมิอยู่นิ่งให้อีกฝ่ายลูบไล้เล่น “ลมของแม่นางเซียวอ้ายช่างอย่างไรเล่า เมื่อยามเซิน (15.00-16.59) เจ้าไปที่ใด ข้ามาหาเจ้าที่จวนไม่เจอ” “เสี่ยวอ้ายร่ำร้องอยากออกไปเดินเล่นชมป่าด้านหลัง ข้าจึงตามใจ” “มัวแต่สนใจเ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 18 รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง (1/4)

    18รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง เมื่ออับจนหนทาง สตรีที่พึงใจหวาดระแวงจนอยากเลื่อนการสู่ขอออกไป เขาที่รักมั่นและรอนางมานานมีหรือจะยอม สุดท้ายจำใจต้องหักหลังสหายยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟัง “ที่แท้คู่หมั้นผู้นั้นก็คือท่านหมอเองหรือเจ้าคะ แล้วท่านไปสนิทกับท่านหมอได้อย่างไร มิใช่เพิ่งเจอกันยามที่เขามารักษาอาการสติฟั่นเฟือนให้ท่านหรือเจ้าคะ” คำถามของนางทำให้รอยยิ้มบางของเขาค้างแข็ง “เซียนเอ๋อร์ พี่ยอมแล้ว พี่ขอโทษที่โกหกเจ้า” “ท่านโกหกข้าเรื่องใดเจ้าคะ เรื่องที่อ้ายช่างเป็นคู่หมั้นของท่านหมอ หรือเรื่องที่ท่านสติฟั่นเฟือน” น้ำเสียงและสีหน้าที่ราบเรียบของนางช่างดูคล้ายคลึงกับมารดายามมีโทสะ “แท้จริงแล้วพี่โกหก ในตอนนั้นพี่ไม่ได้สติฟั่นเฟือน แต่พี่เพียงอยากอยู่ใกล้เจ้า เจ้าอาจจะไม่รู้ว่าพี่ดีใจมากเพียงใดที่ได้พบเจอเจ้าอีกครั้ง” ท่าทางหูลู่หางตกคล้ายเจ้าเสี่ยวโก่วยามหวาดหวั่นทำให้นางรู้สึกหมั่นไส้ยิ่งนัก ช่างมากเล่ห์ มากมารยา หากตบแต่งกันไปนางเปิดโรงงิ้วให้เขาเลยดีหรือไม่ รายได้คงงอกเงยมิน้อย “เพราะดีใจที่ได้เจอ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (4/4)

    “สบายดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านเจ๋อคุน” “ข้าสบายดีขอรับ” “ได้ความว่าอย่างไร” “คือว่า...” เมื่อผู้ติดตามของสหายทำท่าจะเอ่ยปากรายงาน นางที่ไม่อยากเป็นคนรู้เยอะจึงรีบกล่าวคำอำลา “เจ้าคงมีเรื่องที่ต้องทำ ข้าเองก็เช่นกัน อีกสองวันข้าจะไปหาเจ้าที่จวน อย่าลืมเตรียมขนมไว้รอข้าด้วย” ซูหนิงเซียนกล่าวด้วยใบหน้าที่แต่งแต้มรอยยิ้ม นางไปอยู่เมืองซานโจวได้เพียงสามวันก็ได้ช่วยเหลืออ้ายช่างที่กำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ สุดท้ายได้นางช่วยเหลือ จึงกลายเป็นสหายกัน แม้จะคบหากันได้เพียงสี่เดือนแต่ทว่ายิ่งสนทนากลับยิ่งคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานหลายปี “ได้! ข้าจะรอเจ้า” เมื่อบอกลาสหายเสร็จเรียบร้อยนางจึงรีบเดินไปที่รถม้า แต่เมื่อถึงรถม้ากลับพบว่าหยางซีซวนยืนรออยู่แล้ว “ขออภัยเจ้าค่ะที่ข้ามาช้า ท่านมารอนานแล้วหรือ” “มินาน พี่มาถึงก่อนเจ้าเพียงชั่วครู่” คำกล่าวของคุณชายทำให้เจียวมิ่งที่แฝงกายอยู่ไม่ไกลอมยิ้ม ส่วนเจียวเจี๋ยที่กลับมาเร้นกายอยู่ข้างๆ รีบสะกิดเตือนไม่ให้พี่น้องร่วมสาบานหัวเราะออกมา

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (3/4)

    “เสร็จแล้ว ก่อนกลับแวะดูเครื่องประดับติดมือกลับจวนสักชิ้นหรือไม่” “อย่าเพิ่งดีกว่าเจ้าค่ะ ไปดูตอนนี้ข้าจะได้กลับเพียงแค่ชิ้นเดียว แต่หากพาท่านกลับจวนไปเป็นสามี เกรงว่าข้าก็จะได้เครื่องประดับทั้งหมด ความคุ้มค่าช่างแตกต่างกันนัก” “ขออภัยฮูหยิน เป็นพี่ไม่รอบคอบ เช่นนั้นพาพี่กลับจวนไปเป็นสามีตอนนี้เลยดีหรือไม่ พี่ยินดีมอบร้านฝากเงินและโรงเตี๊ยมให้เจ้าอย่างไม่อิดออด ” “หลังส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าแล้ว หากข้าไม่อนุญาต ห้ามท่านไปอวดร่ำอวดรวยให้สตรีที่ไหนฟังเช่นนี้เข้าใจหรือไม่เจ้าคะ ข้ามิอยากปวดหัวเรื่องสตรีในเรือนหลัง” “มิต้องห่วง ต่อจากนี้กิจการร้านค้าทุกอย่างของพี่มอบให้เจ้าดีหรือไม่ ให้เจ้าเป็นเถ้าแก่เนี้ย ส่วนพี่จะเป็นลูกจ้างทำงานให้เจ้ากับลูกแทนดีหรือไม่” “ใจป้ำยิ่งนัก หยุดหยอกเย้าข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าอยากกลับจวนแล้ว” “พี่นั่งหลังขดหลังแข็งตั้งใจตรวจบัญชีอยู่นาน เจ้ามิคิดจะมอบรางวัลให้พี่บ้างหรือ” เขากล่าวพลางลุกขึ้นแล้วเดินมาใกล้นาง “อยากได้อันใดเจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง บุรุษที่ติดใจรางวัลในคืนนี้ ใช้

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (2/4)

    “ได้โปรดใจเย็นเจ้าค่ะ ให้ข้าได้แก้แค้นสองคนนั้นก่อนได้หรือไม่” “หนิงเซียน หากเจ้าแต่งกับพี่แล้ว เจ้ายังสามารถแก้แค้นคนพวกนั้นได้ พี่บอกแล้วอย่างไร ว่ายินดีจะสนับสนุนและช่วยเก็บกวาดให้เจ้า” เขารักและหวงแหนนางเหลือเกิน “หากข้าแต่งงานกับท่าน ลี่อินนางก็จะไม่มุ่งมั่นอยากแย่งชิงข้า...ซีซวน ข้าคิดออกแล้ว ท่านส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าเถิด” ซูหนิงเซียนตั้งใจจะปฏิเสธเช่นทุกครั้ง แต่ภาพที่สหายพยายามจะโผเข้าหาบุรุษรูปงามผู้นี้ทำให้นางคิดเรื่องบางอย่างออก “ฮูหยินของพี่ ที่เจ้ากล่าวมาเป็นเรื่องจริงหรือ” เขาที่ยังกุมมือนางเอาไว้รีบคุกเข่าลงบนพื้น นัยน์ตาดำที่จับจ้องนางฉายแววดีใจ “จริงเจ้าค่ะ ข้ายินดีจะแต่งกับท่าน เพียงแต่ท่านจะว่าอันใดหรือไม่หากข้าจะใช้เรื่องนี้ช่วยปิดบัญชีแค้นระหว่างข้ากับหม่าลี่อินและกวางเหลียงอี้” “ไม่ว่าๆ ขอเพียงเจ้ายอมแต่งกับพี่ พี่ยอมทั้งนั้น” สีหน้าที่บ่งบอกว่าดีใจของเขาทำให้นางเริ่มรู้สึกผิดจึงคิดจะเปลี่ยนใจ “แต่...” “ไม่มีแต่ พี่ยินดีร่วมมือกับเจ้า ขอเพียงการแต่งงานครั้งนี้มันกลายเป็น

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (1/4)

    17คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี หลังจากหยางซีซวนพานางออกจากที่ตรงนั้นแล้ว เขาพานางไปที่ร้านเป่าปินซึ่งเป็นร้านขายเครื่องประดับล้ำค่าราคาแพง โดยในกาลก่อนนางมักจะถูกสหายชักชวนให้มาเลือกซื้อเครื่องประดับที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่ายามที่หม่าลี่อินเลือกให้นางก็ต้องจ่ายตำลึงเพื่อซื้อปิ่นล้ำค่าให้สหายที่ตนคิดว่าแสนดี “คารวะคุณชาย คารวะคุณหนูขอรับ” หลงจู๊ของร้านรีบตรงเข้ามาทักทายด้วยท่าทีนอบน้อม “เตรียมขนมและน้ำชาให้คุณหนูซูด้วย” “ขอรับคุณชาย” ชายวัยกลางคนตอบรับก่อนจะเดินแยกไป “เข้าไปด้านในกันเถิด” เขากล่าวพลางจับมือนางที่กำลังมีสีหน้างุนงงให้เดินตาม ยามที่เดินผ่านคนงานของร้าน ทุกคนก็จะหยุดนิ่งก่อนจะแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม กว่านางจะจับต้นชนปลายถูก เขาก็พานางมาถึงห้องทำงานที่อยู่ด้านบนซึ่งเป็นเขตหวงห้าม “เจ้านั่งรอพี่ตรงนั้นก่อน” ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยเมื่อครู่เลือนหาย หลังที่ยืดตรงสง่าผ่าเผยเมื่อครู่งองุ้มลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาแลดูโศกเศร้า ท่าทางคลับคล้ายคลับคลากับเสี่ยวโก่วยามถูกเจ้านายทอดทิ้งทำให

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (5/5)

    เพียะ มือเรียวของหม่าลี่อินยกขึ้นตบใบหน้าตนเอง แม้ไม่แรงมากแต่ก็สามารถดึงความสนใจของคนรอบข้างให้หันมาสนใจได้ “ข้ามันปากไม่ดี กล่าวว่าสหายเช่นเจ้า ข้าทราบว่าเจ้ามิได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงแต่น้อยใจที่คู่หมั้นของตนคล้ายจะสนใจเจ้ามากกว่าข้า ให้อภัยข้าเถิดนะหนิงเซียน” “ข้าไม่เคยโกรธอันใดเจ้า อย่าได้ลงโทษตนเองเช่นนั้น ที่ข้าเปลี่ยนใจไม่ไปชมดอกไม้กับเจ้าแล้วก็เพราะข้าคิดว่าการปล่อยให้เจ้าและคู่หมั้นจิบน้ำชาชมดอกไม้กันเพียงลำพังจะได้ถือโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามก่อนแต่งงาน จะว่าไปฤกษ์แต่งงานของเจ้ากับมือปราบกวางคือเมื่อใดหรือ เหตุใดเจ้ายังไม่บอกกล่าวข้า” “อย่างไรข้าก็อยากให้เจ้าไปชมดอกไม้ด้วยกัน ส่วนเรื่องฤกษ์นั้นเป็นของผู้ใหญ่หากถึงเวลาเมื่อใดข้าจะบอกเจ้าเอง” จะมีฤกษ์ได้อย่างไรในเมื่อแท้จริงนางและกวางเหลียงอี้ต่างมีเป้าหมายที่ตนต้องการ “เซียนเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้ขัดขวางยวนยาง ไปเที่ยวเล่นกับพี่ดีกว่า ไม่ได้เจอเจ้านาน พี่คิดถึงยิ่งนัก” หากไม่ติดว่าต้องเล่นบทงิ้วต่อหน้าสหายชั่ว นางคงกลอกตาไปมาหลายรอบ ไม่ได้เจอกันนานอย่างไร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (4/5)

    ‘ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนางมีจิตใจที่ดีมิใช่หรือ’ คำกล่าวของบุรุษผู้นั้นทำให้สตรีที่ถูกกล่าวถึงกำมือเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ “ลี่อิน เจ้าเป็นอันใดหรือไม่ เหตุใดถึงได้หน้าแดงถึงเพียงนั้น” “คงร้อนอบอ้าว เรารีบเดินกันเถิด” พวกปากไม่มีหูรูดเอาแต่ติฉินนินทาเรื่องของผู้อื่น สนใจเรื่องของตนบ้างเถิด สวนที่พวกนางจะไปชมดอกไม้คลายร้อนกันนั้นอยู่ไม่ห่างจากโรงเตี๊ยมเลี่ยงจินเท่าใดนัก หม่าลี่อินเลือกที่จะเดินผ่านมาทางนี้ทั้งที่อีกทางต้องเดินใกล้กว่าคงคาดหวังที่จะได้พบเจอใครบางคน เรื่องราวการพาตัวบุตรชายกลับบ้านของหยางฮูหยินในวันนั้นไม่ได้มีการถูกปิดเป็นความลับแต่อย่างใด จึงไม่แปลกที่สหายชั่วของนางจะคาดหวังว่าจะได้เจอเขาเมื่อผ่านมาที่แห่งนี้ หากทราบว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นของเขา หม่าลี่อินคงแทบจะถอดอาภรณ์วิ่งเข้าใส่ บุรุษที่นอกจากจะร่ำรวยด้วยตนเองแล้วยังมีอำนาจของตระกูลหนุนหลัง สตรีใดบ้างจะไม่ปรารถนา “เซียนเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ” แม้ท่าทางจะสง่างามแต่ทว่านางกลับเห็นเหงื่อที่ผุดพรายบริเวณไรผมของเขา ‘คงร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (3/5)

    “พี่เหลียงอี้ ท่านมาทำอันใดแถวนี้เจ้าคะ” คำกล่าวคล้ายจะเป็นความบังเอิญ แต่นางที่รู้จักคนทั้งสองมาถึงสองชาติเหตุใดจะมองแผนการตื้นเขินนี้ไม่ออก “พี่มาเดินตรวจแถวนี้ เจ้ากับคุณหนูซูจะไปที่ใดกันหรือ” “หนิงเซียนจะพาข้าไปร้านขายอาภรณ์เจ้าค่ะ ท่านไปช่วยพวกข้าเลือกอาภรณ์ได้หรือไม่” คำกล่าวของสหายชั่วทำให้นางก้มหน้าซ่อนแววตาเย้ยหยัน ‘ข้าบอกเจ้าว่าจะมาเดินเล่นนอกจวนมิใช่หรือ ร้านอาภรณ์อันใดข้ามิเคยกล่าวถึง’ “ได้สิ พี่ยินดี” กล่าวจบมือปราบหนุ่มก็จ้องมองคุณหนูซูอย่างไม่วางตา จนหม่าลี่อินชักสีหน้าไม่พอใจ ต่อให้ตนไม่คิดแต่งกับบุรุษฐานะต่ำต้อยอย่างกวางเหลียงอี้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้สตรีอื่นได้ใจเขาไป “ลี่อิน เจ้าได้พบเจอคู่หมั้นแล้ว หากเจ้าอยากไปร้านอาภรณ์ให้มือปราบกวางพาไปดีหรือไม่” “แต่ข้าอยากให้เจ้าไปด้วย” เขาหรือจะสามารถจ่ายตำลึงซื้ออาภรณ์ล้ำค่าให้ตนได้ “ลี่อิน คุณหนูซูอาจจะไม่อยากไปร้านขายอาภรณ์ เจ้าอย่าได้เอาแต่ใจให้มากนัก” กล่าวจบก็หันมาจ้องมองนางด้วยแววตาหวานซึ้ง หวานซึ้งอันใดกัน ข

DMCA.com Protection Status