Share

บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (3/4)

last update Last Updated: 2024-12-04 14:48:35

“ฮูหยิน เจ้าอดทนเห็นหน้าบุรุษที่รูปงามน้อยกว่าพี่เพียงครู่เดียวอีก ไม่นานเราก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว” เขากล่าวพลางรินชาใส่จอกให้นางอย่างเอาใจ

            ‘สหายผู้นี้ปากไม่ดี มันน่าเปิดโปงความลับเสียจริง’ ทำตัวราวกับเด็กน้อยกลัวผู้อื่นมาแย่งความรักความสนใจจากมารดา

            “ท่านอย่าได้กล่าววาจาไม่ดีต่อท่านหมอเช่นนั้น”

            “...” เขาเม้มริมฝีปากราวกับอัดอั้นตันใจ ก่อนจะก้มหน้าลง

            “ข้าต้องขออภัยท่านหมอด้วยนะเจ้าคะ เขาสติฟั่นเฟือนอาจกล่าววาจาไม่เหมาะสมไปบ้าง” นางหันไปกล่าวกับท่านหมอ ถึงไม่ได้เห็นเบื้องหลังสีหน้าของบุรุษมากเล่ห์

            ‘ดู...สหายข้าสำนึกที่ใด แสร้งทำเป็นน่าสงสารให้นางเห็นใจ แต่แท้จริงมากเล่ห์กลับกลอก’ ด้วยความเป็นหมอ เขาจึงสามารถรักษาสีหน้าให้นิ่งเรียบเอาไว้ได้ เมื่อเห็นสหายทำหน้าตาล้อเลียนอยู่เบื้องหลังนางราวกับเด็กน้อย แต่พอนางหันกลับไปมองก็ก้มหน้าลงท่าทางเศร้าสร้อยเช่นเดิม

            ได้เปิดหูเปิดตากับนิสัยของคุณชายเล็กตระกูลหยางก็คราวนี้

            หวิ้ว...เสียงอะไรบางอย่างทำให้สีหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

            “คอแห้งหรือไม่ จิบชาเถิด” เขากล่าวพลางเลื่อนชาให้นางกิน

            “ท่านหมอ จิบชาเจ้าค่ะ” แทนที่นางจะยกขึ้นจิบ นางกลับเลื่อนจอกชาให้กับลู่จื้อ

            “มิเป็นไรแม่นาง ท่านจิบเถิด ประเดี๋ยวสามีของท่านจะน้อยใจ เขาตั้งใจชงให้แม่นางกิน” หากเขากินชาจอกนี้เข้าไปเขาคงต้องตายอยู่ในรถม้าคันนี้เป็นแน่

            “ฮูหยิน เจ้าโกรธพี่อีกแล้วใช่หรือไม่ แม้แต่ชาที่พี่ชงให้ก็ไม่ยอมกิน”

            “ข้าไม่ได้โกรธอันใดเจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ ข้ากินชาที่ท่านชงแล้ว” นางกล่าวจบก็รีบยกชาจอกนั้นจนหมดในคราวเดียวก่อนจะคว่ำจอกชาให้เขาดู

            “ชาที่พี่ชงถูกปากเจ้าหรือไม่”

            “ถูกปากเจ้าค่ะ”

            “หากเข้าเมืองหลวงแล้ว เราไปพักที่จวนของท่านพ่อตากันก่อนดีหรือไม่”

            “เจ้าค่ะ”

            “แล้วค่อยไปจวนของพี่”

            “ท่านจำจวนในเมืองหลวงได้หรือเจ้าคะ” แม้จะเอ่ยถามเรื่องราวของคนผู้นี้จากผู้ติดตามแซ่เจียวทั้งหมด แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า คุณชายของพวกตนเป็นคหบดีจากเมืองหลวงที่ไปเปิดกิจการที่เมืองซานโจว ในระหว่างที่กำลังจะเดินทางกลับเมืองหลวงรถม้าถูกโจมตีโดยคนกลุ่มหนึ่งที่เสียผลประโยชน์จากการที่กิจการของคุณชายหยางรุ่งเรือง แต่พอจะถามเรื่องส่วนตัว บรรดาผู้ติดตามก็มีอันต้องขอตัวไปจัดการหน้าที่ของตนอยู่ร่ำไป จนนางอดคิดไม่ได้ว่าหรือแท้จริงแล้วคุณชายหยางผู้นี้จะเป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่

            หยางซีซวนเช่นนั้นหรือ นางไม่คุ้นหูกับชื่อนี้เลย แต่หากจะกล่าวว่าในเมืองหลวงมีตระกูลหยางหรือไม่ นางสามารถตอบได้ทันทีว่ามี และมีคนแซ่หยางมากมายอาจจะแตกต่างกันตามอักษรที่ใช้ หากกล่าวถึงตระกูลใหญ่เห็นจะเป็นตระกูลหยาง ที่เป็นตระกูลของฮองเฮา และส่งต่อตำแหน่งแม่ทัพจากรุ่นสู่รุ่น

            เขาคงไม่ใช่บุตรชายแม่ทัพใหญ่ตระกูลหยางหรอกกระมัง เท่าที่นางได้ยินมา ตระกูลหยางมีบุตรชายสามคน คุณชายใหญ่และคุณชายรองนางก็เคยพบเจออยู่บ้างตามงานเลี้ยง แต่คุณชายเล็กนั้นได้ยินว่ามีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอจึงถูกส่งตัวไปรักษาที่ต่างเมืองตั้งแต่ก่อนสวมกวาน ทว่าดูจากบุรุษตรงหน้า เขาไม่ใกล้เคียงกับคำว่าร่างกายอ่อนแอ นางจึงคิดว่าเขาอาจจะเป็นเพียงคุณชายของตระกูลคหบดี  

            “แท้จริงพี่จำไม่ได้หรอก แต่เจียวโจวกล่าวว่าจวนพี่ในเมืองหลวงใหญ่โตพอที่จะมีที่วิ่งเล่นให้ลูกของเราได้”

            “แค่ก แค่กๆ” นางที่กำลังยกน้ำชาที่เขารินใส่จอกให้อย่างเอาใจขึ้นดื่ม พลันสำลักไอจนหน้าดำหน้าแดง

            “ค่อยๆ จิบ อย่ารีบร้อน”

            ‘ข้าสำลักเพราะท่านไม่รู้ตัวหรืออย่างไร’ แม้ความจำจะสับสน ท่านก็ยังคิดกลืนกินสตรีผู้นั้นที่ตนปรารถนา ช่างเป็นความรักที่ล้ำลึกฝังใจ

            “เป็นอย่างไรบ้าง”

            “แค่กๆ” นางปิดปากไออยู่ชั่วครู่ก่อนจะอาการดีขึ้น

            “คราวหน้าต้องค่อยๆ จิบชา อย่าได้รีบร้อน” เขากล่าวพลางช่วยลูบหลังให้นาง

            “ขอบคุณเจ้าค่ะ แค่กๆ” นางไออีกครั้งก่อนจะจับมือเขาให้หยุดลูบหลัง ใกล้ถึงเมืองหลวงแล้วนางต้องรักษาระยะห่างจากเขา อีกไม่นานความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันก็จะจบลงแล้ว แม้จะเสียดายบุรุษที่อ่อนโยนและใจดี เอ่อ...นางหมายถึงได้พานพบถือเป็นวาสนา แต่นางกับเขามีวาสนาต่อกันเพียงเท่านี้ อีกไม่นานหากเขาหายดี เขาก็ต้องไปหาสตรีในดวงใจ นางก็มีความแค้นที่จะต้องสะสาง หากแยกย้ายกันทันทีที่ถึงเมืองหลวงมันคือเรื่องที่เหมาะสมแล้ว

            “...” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความไม่ชอบใจท่าทีราวกับจงใจหลบเลี่ยงของนาง

            “ข้าหายดีแล้ว” กล่าวจบนางก็ยกมือขึ้นปิดปากหาว

            “หากเจ้าง่วงก็นอนเถิด ผ่านเข้าประตูเมืองหลวงเมื่อใดพี่จะรีบปลุกเจ้า” สีหน้าของเขากลับมาอ่อนโยนดังเดิม

            “ข้าง่วงเพียงเล็กน้อยเท่า...” นางกล่าวยังไม่ทันจบก็หลับไปเสียอย่างนั้น จนบุรุษที่ห่วงใยเกือบคว้าตัวมากอดเอาไว้ไม่ทัน

            “ยานิทราของข้าออกฤทธิ์รวดเร็วหรือไม่”

            “อย่าเพิ่งโอ้อวด พาตนเองให้รอดจากการโจมตีก่อนเถิด” เพราะไม่อยากให้นางตื่นกลัวกับการถูกลอบโจมตี เขาจึงผสมยานิทราลงในชาจอกนั้นให้นางดื่ม

Related chapters

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (4/4)

    “อย่าเพิ่งโอ้อวด พาตนเองให้รอดจากการโจมตีก่อนเถิด” เพราะไม่อยากให้นางตื่นกลัวกับการถูกลอบโจมตี เขาจึงผสมยานิทราลงในชาจอกนั้นให้นางดื่ม ฮี้ ม้าของผู้ติดตามที่วิ่งนำหน้าส่งเสียงร้องเมื่อมีบางอย่างขวางทาง สองขายกขึ้นตะกุยอากาศจนทำให้บุรุษชุดดำที่อยู่บนหลังม้าเกือบตกลงไป ‘พวกเจ้าท่าทางมีเงินไม่น้อย หากอยากผ่านทางเข้าเมืองหลวงอย่างราบรื่น ก็ทิ้งเงินและสตรีเอาไว้ที่นี่เสีย’ ท่าทางกักขฬะของพวกนักเลงทำให้บุรุษชุดดำยิ้มมุมปาก “รีบลงมือเสีย ข้าจะรีบไปดูจวนใหม่ของข้า” สิ้นเสียงของท่านหมอเทวดาที่อยู่ในรถม้า ผู้ติดตามแซ่เจียวทั้งสิบเจ็ดคนก็พุ่งเข้าไปจัดการนักเลงที่มีมากถึงสามสิบคน ด้านคุณชายหยางที่พาฮูหยินของตนแยก

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 6 เร่งเร้าความริษยาของสหาย (1/4)

    6เร่งเร้าความริษยาของสหาย เสียงนกร้องและเสียงผู้คนสนทนาดังแว่วเข้ามาในหูปลุกซูหนิงเซียนให้ตื่นขึ้น ร่างระหงลุกขึ้นนั่งพลางบิดขี้เกียจก่อนจะนิ่งค้างเช่นนั้นเมื่อดวงตาดอกท้อสบเข้ากับนัยน์ตาดำที่ฉายแววหวานซึ้ง “ขออภัยเจ้าค่ะ” “มิเป็นไร ในสายตาพี่ เจ้างดงามเสมอ ต่อให้แคะขี้มูกพี่ก็ยังมองว่าน่าเอ็นดู” ‘ปากหวานเสียจนทำให้ข้าพาลกินข้าวไม่ลง’ แม้เขาจะดูคล้ายบุรุษเจ้าสำราญ ปากหวานกับนาง แต่พอได้อยู่ร่วมกันหลายวัน นางก็ได้เห็นว่าแท้จริงเขาเป็นเช่นนี้กับนางเพียงคนเดียว จนบางครั้งทำให้นางรู้สึกอิจฉาสตรีผู้นั้นที่เขารักปักใจ

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 6 เร่งเร้าความริษยาของสหาย (2/4)

    ‘คุณชายของข้าช่างเกี้ยวพาสตรีได้ไม่เหมือนผู้อื่น’ คบหาดูใจไม่คิดจะทำ แต่กลับคิดรวบหัวรวบหางนางเป็นฮูหยินราวกับกลัวจะมีคนแย่งนางไป แต่เมื่อลงมาถึงด้านล่างของโรงเตี๊ยมหยางซีซวนก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถม้าที่มีตราสัญลักษณ์ตระกูลหยางจอดอยู่ด้านหน้า มีสตรีผู้งดงาม ดวงหน้าแลดูอ่อนเยาว์ยืนอยู่ด้านข้าง “ท่านแม่?” “ยังจำได้อยู่หรือว่าข้าเป็นแม่เจ้า” เฟยเจียงหงเอ่ยถามพลางส่งยิ้มหวานให้กับบุตรชาย แม้สตรีผู้นี้จะเลยวัยสาวมานานพอสมควร แต่ทว่าก็ยังมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หันมามองพลางขวยเขินเมื่อเห็นสตรีงามล่มเมืองแย้มยิ้ม “ท่านมาได้อย่างไร ท่านพ่อไม่ว่าหรือขอรับ” ด้วยความงามของมารดา บิดาจึงหวงแหนจนแทบไม่อยากให้ออกจากจวน หากมีงานเลี้ยงจวนใด

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 6 เร่งเร้าความริษยาของสหาย (3/4)

    “ประเดี๋ยวก่อน แม่หนูลี่อินน่ะหรือ ส่งจดหมายแจ้งเจ้าว่าพ่อป่วยหนัก” “เจ้าค่ะ เสียดายข้าทำจดหมายนั่นหายไปแล้ว จึงไม่อาจนำมายืนยันได้” กล่าวจบก็จ้องมองบิดาด้วยความคิดถึง คิดถึงท่านพ่อยิ่งนัก ดีเหลือเกินที่นางได้รับโอกาสให้หวนคืนกลับมา “แต่พ่อไม่ได้เป็นอันใด ป่วยหนักสุดก็เห็นจะเป็นหวัดเมื่อสามวันก่อนเพียงเท่านั้น” “แล้วเหตุใดลี่อินถึงโกหกข้าเช่นนั้น ด้วยความร้อนใจและเป็นห่วงท่านพ่อ ข้ารีบเร่งเดินทางไม่หยุดพักจนถึงเมืองหลวงเลยนะเจ้าคะ” ละเว้นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ร่วมทางไปสักเล็กน้อยคงจะดีกว่า อย่างไรท่านพ่อก็ควรสงสัยเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลของบุตรสาว

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 6 เร่งเร้าความริษยาของสหาย (4/4)

    ริษยาข้าให้มากจะได้รีบลงมือเร็วๆ นางจะได้รีบจบเรื่องแล้วพาบิดาย้ายไปอยู่เมืองซานโจว ‘เจ้าควรรู้ไว้ว่า เพียงแค่ฐานะจวนซูมันไม่ได้ทำให้ข้ามีเงินทองใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากมาย’ การเป็นหลานสาวของคหบดีจากเมืองซานโจวต่างหากที่ทำให้นางร่ำรวยมีเงินทองเหลือใช้ ท่านลุงก็ยังหาเงินเก่ง ท่านป้าก็ใจดีและเอ็นดูนาง ไปเมืองซานโจวเมื่อใดนางมักจะได้ตั๋วเงินกลับมาด้วย และเคยได้มากถึงหนึ่งพันตำลึงทอง “เจ้าช่างใจดี แต่ก็ดีแล้วที่เดินทางปลอดภัย” ‘คงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันที่แผนการพลาด’ “วันนี้เจ้าว่างหรือไม่ อยากจะชวนเจ้าออกไปซื้อเครื่องประดับเสียหน่อย” อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่จวนหยาง เพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่คุณชายรองจวนหยางได้รั

    Last Updated : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 7 คารวะท่านพ่อตา (1/4)

    7คารวะท่านพ่อตา “ซูหนิงเซียน เหตุใดกลับมาเมืองหลวงแล้วไม่ให้คนไปแจ้งข้า” เสียงทุ้มของบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น ทำให้บทสนทนาที่นางไม่อยากจะตอบจบลงในทันที “หมิงอี้เฉิน เจ้ามาได้อย่างไร” คุณหนูซูเอ่ยถามบุรุษผู้มาเยือนพลางปรายตามองดวงตาที่ฉายแววโทสะของสตรีที่นั่งด้านข้าง “ถามได้ ข้าก็เดินมาสิ ไปซานโจวได้ไม่นาน ลืมแล้วหรือจวนข้าอยู่ที่ใด” คุณชายหมิง เป็นบุตรชายของเจ้ากรมยุติธรรมสหายของบิดา จวนของเขาอยู่ตรงข้ามจวนนางทำให้ในวัยเด็กนางสนิทกับบุรุษผู้นี้ และด้วยความที่นางช่างเจรจากว่านางจึงกลายเป็นที่รักของจวนหมิงมากกว่าบุตรชายของตระกูล “ไม่ได้พบเจอกันนานมิคาดคิดว่าเจ้ายังปากคอเราะร้าย[1] ระวังจะหาสตรีมาแต่งด้วยไม่ได้” “หากข้าหาสตรีมาแต่งด้วยไม่ได้ ข้าจะแต่งกับเจ้านี่แหละ ชอบสาปแช่งข้าดีนัก” ซือเย่แห่งสำนักศึกษาไท่เสวียนกล่าวพลางทรุดตัวนั่ง มือใหญ่หงายจอกชาแล้วรินใส่เองโดยไม่ต้องมีคนเชิญ “อย่าเลยเจ้าค่ะคุณชายหมิง หากข้าแต่งกับเจ้า มีหวังเจ้าคงโดนท่านลุงกับท่านป้าไล่ออกจากจวนเพราะเอาแต่รังแกข้า” “เจ้ามันจิ้งจอกห่มหน

    Last Updated : 2024-12-09
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 7 คารวะท่านพ่อตา (2/4)

    “เจ้าบอกข้าก่อน ว่านางทำเช่นไรกับเจ้า เจ้าถึงได้รังเกียจนางมากเช่นนี้” “หากข้าบอก เจ้าอย่าได้เอามาล้อเลียนข้าเข้าใจหรือไม่” “อืม ข้าจะไม่ล้อเลียนเจ้า เล่ามาเถิด” “จำตอนนั้นที่จวนข้ามีงานเลี้ยงแล้วข้าทำร้ายนางจนบิดามารดาข้าต้องไปขอโทษเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพถึงจวนได้หรือไม่” “อืม” “ตอนนั้นแท้จริงหม่าลี่อินเข้ามากอดข้าพยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าข้า ทั้งยังบอกว่าชื่นชอบข้าอยากเป็นฮูหยินของข้า แต่ข้าที่ตัวใหญ่กว่าไม่ยินยอมจึงผลักนางให้ออกห่างสุดท้ายนางล้มลง พอดีกับมีคนเข้ามาเห็นพอดี ข้าจึงกระจ่างแจ้งในใจว่าแท้จริงทั้งหมดเป็นเล่ห์กลชั่วร้ายของหม่าลี่อิน” “เรื่องใหญ่เพียงนี้เหตุใดถึงไม่คิดบอกกล่าวข้า” “ตอนนั้นเจ้ายังมองข้าด้วยแววตาผิดหวังอยู่มิใช่หรือ” ท่าทางแง่งอนของซือเย่แห่งสำนักศึกษาทำให้นางยกยิ้ม “ข้าขอโทษ เจ้าให้อภัยข้าได้หรือไม่” นางกล่าวพลางออดอ้อนสหาย ดวงหน้าหวานคลอเคลียถูไถบริเวณต้นแขนแกร่ง “ได้ แต่ต้องแลกกับการไปงานเลี้ยงจวนหยางเป็นเพื่อนข้า” ออกงานกับสหายผู้งดงาม จะได้เกิ

    Last Updated : 2024-12-09
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 7 คารวะท่านพ่อตา (3/4)

    “เป็นข้าเองขอรับท่านพ่อตา” บุรุษรูปงามเดินเข้าจวนผู้อื่นอย่างถือวิสาสะกล่าวก่อนจะรีบสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้นางที่ตกตะลึงอยู่ ‘ข้าไม่เคยบอกชื่อแซ่แก่เขา แล้วเขาทราบได้อย่างไรว่าข้าคือซูหนิงเซียน’ พลันสายตานางก็สบเข้ากับสายตาขอโทษขอโพยของพี่ใหญ่แซ่เจียว ซึ่งน่าจะเป็นคนพาคุณชายของตนมาที่นี่ พอเข้าใจอยู่หรอกว่าความสามารถของคนพวกนี้ไม่ธรรมดา สามารถสืบเสาะหานางได้ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ แต่มันก็ไม่ควรจะรวดเร็วถึงเพียงนี้ นางกลับจวนได้เพียงสามวันเขาก็ตามนางมาถึงจวน แล้วคราวนี้นางจะหลบเลี่ยงอย่างไรต่อ ตอนเดินทางที่ต้องรับสมอ้างเป็นฮูหยินของเขาก็เพราะนางต้องพึ่งพาให้เขาพานางเข้าเมืองอย่างปลอดภัย แต่บัดนี้ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว เหตุใดนางจะต้องรับสมอ้างเป็นฮูหยินของเขาให้ตนหวั่นไหวอีกเล่า “เจ้าเป็นใครเหตุใดถึงมาเรียกข้าว่าพ่อตา” “นางเป็นฮูหยินของข้า ท่านเป็นบิดาของนางก็ต้องเป็นพ่อตาของข้าสิขอรับ” เขากล่าวจบก็ปรายตามองบุรุษที่นั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับสองพ่อลูกชั่วครู่ ‘บุรุษผู้นี้ คงเป็นหมิงอี้เฉินสินะ’ ในกาลก่อนไม่ได้เคยร

    Last Updated : 2024-12-11

Latest chapter

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (3/3)

    “เรื่องนั้นท่านอย่าได้ห่วงเลยเจ้าค่ะ พี่เหลียงอี้ เขาไปลาดตระเวนตรวจตราที่บริเวณจวนของนางอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นนางปลอดภัยไม่มีอันตรายแน่นอน” ‘สตรีโง่ ข้าอยากจะบอกเจ้าเหลือเกินว่า คู่หมั้นข้านางผู้นั้นมีของล้ำค่ามากกว่าปิ่นที่เจ้าจะซื้อให้อีก’ ยิ่งได้เห็นความใสซื่อของซูหนิงเซียน ความสนใจในตัวคู่หมั้นก็เริ่มลดลง หากไม่ติดที่ว่ามีบุญคุณช่วยชีวิตเขาก็คงไม่คิดสนใจไยดีแล้ว น่าแปลกที่เขาเชื่อวาจาที่ซูหนิงเซียนบอกกล่าวออกมามากกว่าที่ได้รับฟังจากหม่าลี่อิน “ข้าเลือกชิ้นนี้เจ้าค่ะ ลี่อินนางชอบไข่มุก ข้าว่านางต้องดีใจมากแน่นอนเจ้าค่ะที่ได้ปิ่นนี้” “อืม” รอยยิ้มจริงใจของคุณหนูซูทำให้เขาเอ่ยวาจาไม่ออก “คุณหนูซูท่านช่างโชคดีเหลือเกินขอรับ วันนี้นายท่านของร้านเราใจดี สั่งลดราคาเครื่องประดับให้กับลูกค้าคนที่สิบเก้า ซึ่งคือท่าน” “ลดราคาเช่นนั้นหรือเจ้าคะ” “ใช่ขอรับ เพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่ม้าตัวโปรดของนายท่านคลอดลูกม้า นายท่านสั่งลดราคาเครื่องประดับให้ลูกค้าคนที่สิบเก้าครึ่งราคา นั่นเท่ากับว่าวันนี้คุณหน

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (2/3)

    ดวงหน้าหวานที่โผล่ออกมาจากรถม้าทำให้ใจของเขาสั่นไหว เมื่อนางเผยรอยยิ้มเขาแทบจะกระโดดลงจากชั้นสองของโรงเตี๊ยมเพื่อไปหานาง “แม่นางหนิงเซียน” เสียงทุ้มของบุรุษที่ดังขึ้นดึงความสนใจของซูหนิงเซียนให้หันไปมอง “คารวะคุณชายซวนเจ้าค่ะ” ยามเห็นหน้ากากจึงจดจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นของสหาย “ท่านมาคนเดียวหรือ” “เจ้าค่ะ วันนี้ข้าจะมาหาซื้อผ้าไปตัดชุดให้สาวใช้คนสนิท จึงตั้งใจมาด้วยตัวเองไม่ได้ชวนลี่อินมาด้วย” นางเข้าใจว่าเขาถามหาสตรีในดวงใจ “ข้ามีความรู้เรื่องผ้าไม่น้อย ให้ข้าช่วยเลือกดีหรือไม่ ไม่แน่เจ้าอาจจะได้ผ้าเนื้อดีที่ราคาถูก” “หากมิรบกวนคุณชายซวนเกินไป…” ซูหนิงเซียนยังกล่าวไม่ทันจบเขาก็รีบเอ่ยแทรกขึ้นก่อน “เรื่องนี้มิได้เหลือบ่ากว่าแรง จะถือว่ารบกวนข้าได้อย่างไร” “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ” นางตอบรับแล้วยกยิ้มเล็กน้อย บุรุษสวมหน้ากากช่วยนางเลือกผ้าได้หลายพับ แต่เมื่อจ่ายเงินนางกลับพบว่านางได้ของดีแต่ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ “ท่านหลงจู๊ ลองคิดเงินใหม่อีกครั้งดีหรือไม่

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (1/3)

    ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า บริเวณชั้นบนของโรงเตี๊ยมเลี่ยงจิน บุรุษสวมหน้ากากจ้องมองคู่หมั้นของตนที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน ดวงหน้าหวานแต่งแต้มรอยยิ้มสดใสพาลทำให้บุรุษรอบตัวต่างหันมามอง แต่เขากลับถูกสตรีนางหนึ่งดึงดูดสายตาให้จ้องมอง สตรีนางนั้นคล้ายจะเป็นสหายของคุณหนูหม่า แม้ดวงหน้านางจะแต่งแต้มรอยยิ้มบาง แต่ทว่ากลับดึงดูดเขาได้อย่างน่าประหลาด และดูเหมือนว่าแท้จริงบุรุษเหล่านั้นจะจ้องมองนางเสียมากกว่า พลันในอกรู้สึกไม่ชอบใจอย่างประหลาด ความรู้สึกหวงแหนก่อตัวขึ้นในใจของเขาอย่างไม่รู้ตัว เหตุใดกับคู่หมั้นตน เขาถึงไม่รู้สึกเช่นนี้ พรึ่บ ไวกว่าความคิดร่างสูงโปร่งของบุรุษรูปงามก็ปรากฏตัวด้านหลังสตรีทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยทักทาย “ลี่อินเจ้ามาเดินเที่ยวเล่นหรือ” เขาทราบว่ามันเป็นคำถามที่ดูโง่งม แต่เขาไม่รู้จะเอ่ยถามอันใดออกไป “คารวะคุณชายซวนเจ๋อเจ้าค่ะ” สายตาที่มีประกายรังเกียจพาดผ่านทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คู่หมั้นจะแสดงความเคารพเขา หลายครั้งที่นางมองเขาเช่นนี้ คงเพราะหวาดกลัวหน้ากากที่ปกปิดบนใบหน้าเขา การเป

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (2/2)

    “คนของเจ้าสืบได้ละเอียดถึงเพียงนั้น” หมิงอี้เฉินหรี่ตามองอย่างจับผิด “เรื่องที่คิดกำจัดนางกับท่านพ่อตา คนของข้าได้ยินหม่าลี่อินวาดฝันกับกวางเหลียงอี้ เมื่อเห็นว่าเป็นภัยต่อนาง คนของข้าจึงนำมารายงานข้าด้วย” “...” “เบื้องต้นข้ามีหลักฐานที่กลุ่มนักเลงพวกนั้นสารภาพ เจ้าอยากดูหรือไม่” “อืม” เขายกชามสุราขึ้นจิบก่อนจะตอบรับ “นี่คือจดหมายรับสารภาพของนักเลงที่ดักปล้นรถม้าแต่ถูกข้าซ้อนแผนจับเป็นทั้งหมด ก่อนจะนำมาทรมานเพื่อเค้นความจริง” หยางซีซวนยื่นจดหมายที่เพิ่งนำออกมาจากอกเสื้อให้เขา “หม่าลี่อินชั่วช้ายิ่งนัก คิดจะให้พวกนักเลงข่มเหงนาง” จากคำสารภาพของนักเลง กวางเหลียงอี้เพียงแต่ตั้งใจทำให้นางตกใจ แต่หม่าลี่อินกลับซ้อนแผนให้นักเลงพวกนั้นข่มเหงนางก่อนที่กวางเหลียงอี้จะไปช่วย คงกลัวว่าหากเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของตนได้พบเจอนางจะเปลี่ยนใจ จึงสร้างมลทินให้ซูหนิงเซียน “เพราะเหตุนี้ข้าจึงแสร้งสติฟั่นเฟือนเพื่อจะได้อยู่ในจวนตระกูลซูต่อไป เพื่อจะได้ปกป้องนางและบิดาด้วยตนเอง” “เรื่องนี้เจ้าสามารถใช้ผ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (1/2)

    คุณชายหมิงอี้เฉิน เมื่อได้รับข่าวว่าสหายในวัยเด็กเดินทางกลับมาจากเมืองซานโจวแล้ว เขาจึงรีบไปหา แต่ใครจะคิดเล่าว่าการพบเจอครั้งนี้จะพ่วงบุรุษผู้นั้นมาด้วย ชายที่มองอย่างไรก็ไม่คล้ายคนสติฟั่นเฟือน ท่าทางออดอ้อนนั้นแลดูเหมือนบุรุษเจ้ามารยาเสียมากกว่า คุณชายหมิงเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืน แล้วยืนนิ่งราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง “คุณชายขอรับ นี่ก็เป็นปลายยามไฮ่ (21.00-22.59) แล้ว น้ำค้างก็ลงมากแล้วอย่างไร...” บ่าวรับใช้คนสนิทยังกล่าวไม่ทันจบ คุณชายเจ้าของจวนก็เอ่ยวาจาแทรกขึ้นก่อน “เจ้าไปนอนก่อนเถิด ข้าจะยืนชมดาวอีกสักหน่อยก็จะไปนอนแล้ว” “ขอรับ” เมื่อคุณชายกล่าวเช่นนั้น บ่าวรับใช้คนสนิทก็ได้แต่เดินจากไป พรึ่บ บุรุษชุดดำกระโดดลงมาตรงหน้าเขาหลังจากบ่าวรับใช้เดินหายไปไม่นาน “มาแล้วหรือ” คุณชายหมิงเอ่ยวาจาทักทายผู้มาเยือน “เจ้าอยากพบข้าด้วยเหตุใด” หากบุรุษผู้นี้ไม่ค้นพบการมีตัวตนของผู้ติดตาม เขาก็คงคิดว่า ซือเย่ผู้นี้เป็นเพียงบัณฑิตอ่อนปวกเปียกที่ไม่กล้าฆ่าแม้แต่ไก่ “ท่านควรแจ้งถึงจุดประสงค์ในก

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ท่านแม่กำลังไปตามหาน้องให้ (3/3)

    “พี่ไม่ได้รังแกเจ้า พี่มอบความโปรดปรานให้เจ้า” “หน้าอกท่านแน่นเสียจริง” “หากเจ้าอยากลูบไล้ยามไร้อาภรณ์ ก็จงรีบกลับจวนกับพี่” “ไม่เอา ข้ายังไม่อยากกลับ กว่าจะได้ออกมาเที่ยวเช่นนี้ไม่ง่ายเลย ต้องขอบคุณท่านแม่นะเจ้าคะ ที่เมตตาข้า” “มิเป็นไรๆ เจ้าอยู่สนุกกับเหล่าชายงามต่อเถิด แม่ต้องกลับไปรับโทษ...ไม่ใช่ แม่ต้องรีบกลับแล้ว” กล่าวจบหยางฮูหยินก็หันไปมองใบหน้าบึ้งตึงของสามี ‘ครั้งนี้นางคงหยอกเย้าบุตรชายมากเกินไป จึงทำให้ฟูจวิน ของนางโกรธขึ้นมาจริงๆ’ ต่อจากนี้คงต้องทนปวดเอวเพื่อง้อท่านแม่ทัพใหญ่หลายคืนอีกแล้ว “ได้เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะสนุกกับพี่ชายคนงามแทนท่านแม่เองเจ้าค่ะ” นางกล่าวพลางลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินโซซัดโซเซไปหากลุ่มชายงาม แต่กลับโดนสามีโอบรั้งเอวคอดกิ่วเอาไว้ “พี่ชายคนงามพวกนี้ อยากกลับไปพักผ่อนแล้ว เจ้าอย่าได้รบกวนพวกเขาเลย” น้ำเสียงที่เอ่ยกับฮูหยินตนช่างอ่อนโยนยิ่งนัก ต่างจากสายตาที่จ้องมองคล้ายจะเข้าขย้ำเหยื่อตรงหน้าของราชสีห์ “จริงหรือเจ้าคะพี่ชาย” “จริงขอรับ”

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ท่านแม่กำลังไปตามหาน้องให้ (2/3)

    “ท่านพ่อ คราวนี้ท่านแม่ทำเกินไปขอรับ” เขารีบฟ้องบิดาในทันที มารดาพาฮูหยินของเขามาเที่ยวหอชายงามเช่นนี้ เกิดนางติดใจเข้าจะทำเช่นไร “อย่าได้ห่วง พ่อจะจัดการลงโทษนางตามกฎของพ่อ เข้าไปด้านในกันเถิด” เพียงแค่คิดถึงบทลงโทษที่จะได้ใช้กับฮูหยินตนแล้ว ท่านแม่ทัพใหญ่ก็คล้ายจะอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอจะก้าวเท้าเข้าหอชายงาม ผู้ติดตามที่ถูกสั่งให้กีดกันคุณชายก็โผล่ออกมาขัดขวางตามคำสั่งของหยางฮูหยิน “พวกเจ้ากล้าขัดขวางข้าหรือ” น้ำเสียงที่ไม่คล้ายจะพอใจทำให้ผู้ติดตามของหยางฮูหยินรีบคุกเข่า “มิได้ขอรับ แต่พวกข้าน้อยถูกสั่งให้ขัดขวางคุณชายไม่ให้เข้าไปในที่แห่งนี้ขอรับ” กลิ่นอายสังหารของท่านแม่ทัพใหญ่ทำให้บุรุษชุดดำทั้งหมดหวั่นเกรงยิ่งนัก “พวกเจ้ากล้าขัดขวางบุตรชายข้าหรือ นายที่แท้จริงของพวกเจ้าคือใครจำได้หรือไม่” “ท่านแม่ทัพขอรับ” บรรดาผู้ติดตามพร้อมใจกันตอบรับ หากเทียบกันแล้วหยางฮูหยินนั้นรับมือง่ายกว่าท่านแม่ทัพมากนัก ‘ต้องขออภัยฮูหยินแล้วขอรับที่พวกข้าต้องเลือกฝั่งท่านแม่ทัพใหญ่’ บรรดาผู้ติดตามได้แต่แสร้

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ท่านแม่กำลังไปตามหาน้องให้ (1/3)

    ท่านแม่กำลังไปตามหาน้องให้ สิ่งแรกที่เขามักจะมองหาเมื่อกลับถึงจวนคือฮูหยินของเขาที่มักจะมายืนส่งยิ้มให้ แต่วันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นัยน์ตาดำกวาดมองไปทั่วบริเวณ จึงพบเด็กชายตัวน้อยกำลังนั่งเล่นตัวต่อไม้โดยมีแม่นมและสาวใช้คอยดูแลอยู่ ไร้เงาของผู้เป็นมารดา “หนิงเฉิง กำลังเล่นอันใดอยู่หรือลูก” เขาโบกมือไล่แม่นมและสาวใช้ออกไป ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงสนทนากับบุตรชายวัยสามขวบที่คล้ายฉลาดเกินวัย “ตัวต่อไม้ขอรับท่านพ่อ” “นี่คืออันใด” หยางซีซวนชี้ไปยังตัวต่อที่ถูกต่อขึ้นมาคล้ายเรือนหลังเล็ก “เรือนของน้องชายขอรับ” “เรือนของหนิงเฉินหรือ น่าอยู่ไม่น้อย” เพราะบุตรชายคนเล็กอายุเพียงเจ็ดเดือน จึงต้องอยู่กับแม่นมไม่สามารถมาเล่นกับพี่ชายได้ “อืม...หรือเก็บไว้ให้น้องสาวดี” เด็กน้อยทำท่าครุ่นคิด “จะน้องชายหรือน้องสาว ก็เป็นน้องของเจ้าทั้งนั้น อย่าได้ลำเอียง เข้าใจหรือไม่” “ขอรับท่านพ่อ” “ท่านแม่ของเจ้าไปไหน เหตุใดพ่อจึงไม่เห็น” “ทะ ท่านแม่หรือขะ ขอรับ น่าจะนอนอยู่ระ เรือนนะขอรั

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : เรื่องราวของท่านหมอ 2 (จบ) HAPPY(5/5)

    ยามอยู่ในงานเลี้ยงองค์ชายห้าเกาะติดนางไม่ห่าง ทำให้นางรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก “เจ้ากินเซาปิ่งมากถึงเพียงนี้ ระวังจะกินอาหารเลิศรสจานอื่นไม่ได้” “เซาปิ่งของจวนเสิ่นอร่อยถูกปากข้ามากเลยเจ้าค่ะ” ท่าทางกินของนางทำให้มุมปากหยักของเขายกยิ้มอย่างเอ็นดู “พี่ไม่แย่งเจ้าหรอก ค่อยๆ กินประเดี๋ยวติดคอ” “ข้า...” เซาปิ่งที่เซียวอ้ายช่างจับอยู่ตกลงบนพื้น สองมือของนางกุมอกเอาไว้ ท่าทางคล้ายจะขาดใจตายของนางทำให้เขาร้อนรน “อ้ายช่าง อ้ายช่างเจ้าเป็นอันใด เซาปิ่งติดคอใช่หรือไม่” หวงหลี่จื้อช่วยตบหลังให้นาง “ลี่จึ...ในเซาปิ่งมี อึกๆ” ท่าทางทุรนทุรายของคุณหนูเซียวและสีหน้าตื่นตระหนกขององค์ชายห้า ทำให้ผู้นำตระกูลเสิ่นรีบเข้ามาดูนางพร้อมกับเสิ่นฮูหยิน “เจ้าพยายามกินยานี้เข้าไปเร็วเข้า” “อึกๆ อึก” เพราะหายใจไม่ออก นางจึงดิ้นทุรนทุราย หวงหลี่จื้อเห็นท่าไม่ดี จึงเอายาใส่ปากแล้วป้อนให้นางด้วยปาก เขาบังคับให้นางกลืนยาลงไป การกระทำขององค์ชายคล้ายจะทำให้เกิดเสียงฮือฮา แต่มีหรือเขาจะสนใจ การช่วยช

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status