แชร์

บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (3/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 22:09:35

           บุรุษตัวโตปล่อยให้แม่นางน้อยตรงหน้าดึงรั้งตามใจ ตรงซอกหินที่นางพาเข้าไปหลบช่างดีเหลือเกิน มันทำให้เขาได้แนบชิดกับนาง เสียงหัวใจเต้นระรัวของนางเกือบทำให้เขาเผลอจ้องมองนางด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยอย่างพยายามล่อล่วงนาง

            ‘คุณชายขอรับ คุณชาย’

            “คนพวกนั้นใช่คนของท่านหรือไม่”

            “ข้าไม่ทราบ” เขาทำหน้าใสซื่อพลางส่ายหน้า

            ‘นี่มันอาภรณ์ของคุณชาย คุณชายต้องอยู่แถวนี้แน่นอน พวกเจ้าแยกย้ายกันไปหาคุณชาย เจียวมิ่งเจ้ารีบไปนำตัวท่านหมอเทวดามาที่นี่ มีคราบเลือดจางๆ บนอาภรณ์ เกรงว่าตอนนี้คุณชายอาจจะกำลังได้รับบาดเจ็บ’

            ‘ขอรับ’ เสียงเจ้าของชื่อตอบรับก่อนที่นางจะได้ยินเสียงคนอื่นค้นหาต่อ

            “คนพวกนั้นน่าจะเป็นคนของท่าน เราออกไป...” นางยังกล่าวไม่ทันจบมือใหญ่ก็รั้งศีรษะนางแล้วกดใบหน้านางลงบนอกแกร่ง เพื่อไม่ให้นางเห็นดวงตาของเขาวาวโรจน์หลังจากคิดบางอย่างได้

            บัดซบ! นางสวมอาภรณ์แค่ตัวใน คนพวกนั้นต้องจ้องมองฮูหยินของเขาเป็นแน่

            “คุณชายท่านอยู่ที่นี่เอง” ชายชุดดำส่งเสียง แต่เขาส่งสายตาดุคนพวกนั้นให้หันหน้าไปทางอื่น ก่อนจะถอดอาภรณ์ตัวนอกของนางที่คลุมตัวเขาอยู่ คลุมลงบนตัวนาง

            ‘กลับไปข้าจะลงโทษพวกเจ้าที่มองฮูหยินของข้า’

            บรรดาคนแซ่จางทั้งหมดได้แต่ทอดถอนใจกับความหวงแหนอย่างไร้เหตุผลของผู้เป็นนาย

            ‘ถ้าไม่ให้พวกข้าจ้องมองฮูหยิน แล้วหากนางหายตัวไปพวกข้าก็ต้องโดนคุณชายลงโทษอยู่ดี’ นี่คือเสียงคร่ำครวญจากบรรดาบุรุษชุดดำ

            หลังจากนั้นบุรุษแซ่เจียวทั้งหมดก็ต้องร่วมเล่นงิ้วไปกับคุณชายของตนเพื่อล่อลวงฮูหยินตัวน้อย

           โฉมสะคราญกวาดสายตามองความกว้างขวางและสะดวกสบายภายในรถม้า พลันเกิดความสงสัยว่าบุรุษผู้นี้แท้จริงเป็นใคร เหตุใดถึงได้ร่ำรวยเช่นนี้

           “ฮูหยิน เจ้าหิวหรือไม่ กินขนมจิบชาเสียหน่อยเถิด” เขากล่าวพลางเลื่อนจานขนมไปใกล้นาง

           “ขอบคุณเจ้าค่ะ แล้วท่านกินยาที่พวกพี่ๆ ชุดดำนำมาให้แล้วหรือยังเจ้าคะ”

           “กินแล้ว” คำกล่าวของบุรุษที่อยู่ในรถม้าทำให้คนบังคับรถม้าแทบจะหยุดรถม้ากะทันหันด้วยความตกใจ

           ‘กินยาอันใดกัน ผีหลอกกลางวันแสกๆ แล้ว’ คุณชายของพวกเขากินยายากจะตาย 

           “เอ๊ะ! ท่านจะทำอันใดเจ้าค่ะ” นางพยายามหดข้อเท้าที่ถูกพันผ้าเอาไว้ เมื่อเห็นเขาเอื้อมมือมาใกล้คล้ายจะจับ

           “พี่อยากดูข้อเท้าของเจ้า พี่ไม่น่าเป็นภาระให้เจ้า มิเช่นนั้นเจ้าก็คงไม่ต้องเจ็บหนักเช่นนี้” สีหน้าและท่าทางรู้สึกผิดของเขาทำให้นางนึกเอ็นดู

          “ท่านอย่าได้คิดมากเลยเจ้าค่ะ ท่านหมอบอกแล้วมิใช่หรือว่าข้าไม่ได้เป็นอันใดมาก”

          “หากเจ้าไม่อยากให้พี่คิดมาก เจ้าต้องยอมให้พี่ดูแลเจ้า พี่จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดมากถึงเพียงนี้”

          ‘ข้าสิเจ้าคะที่ต้องรู้สึกผิดต่อฮูหยินของท่าน’ มาทำดีและอ่อนโยนกับนางเช่นนี้หากฮูหยินตัวจริงของเขามาเห็นเข้า จวนมิแตกเลยหรือ

          เพียงแค่อยากเดินทางเข้าเมืองหลวงอย่างปลอดภัย นางถึงต้องตกลงแสร้งเป็นฮูหยินของเขา

         “ท่านอย่าได้รู้สึกผิดต่อข้าเลยเจ้าค่ะ ท่านดื่มยาแล้วก็นอนพักเถิดเจ้าค่ะ ท่านจะได้หายดีในเร็ววัน”

         “เจ้าก็นอนพร้อมพี่เถิด”

         “ข้ายังไม่ง่วงเจ้าค่ะ ท่านนอนเถิด“

         “แต่พี่คงนอนไม่หลับหากต้องนอนโดยไร้เจ้า” 

        “ท่านยังไม่หายดี หากข้านอนดิ้นแล้วไปโดนแผลท่านจะทำอย่างไร ท่านนอนเถิดเจ้าค่ะ”

        “หากพี่ตื่นมาเจ้าจะไม่หายไปใช่หรือไม่ พี่กลัวเจ้ายังโกรธพี่แล้วหนีไป”

        ‘ข้าจะหายไปได้อย่างไรเจ้าคะ ในเมื่อข้าต้องให้ท่านและคนของท่านปกป้อง’ อย่างน้อยก็จนกว่าจะพ้นประตูเมืองทางเข้าเมืองหลวง

       “ข้าไม่หายไปไหนแน่นอนเจ้าค่ะ ท่านนอนพักเถิด” เมื่อคิดว่ายังต้องใช้ประโยชน์จากเขา นางจึงกล่าวด้วยเสียงอ่อนหวาน

      “อืม พี่เชื่อฟังเจ้า ฮูหยินของพี่” เขาตอบรับพลางเอนตัวลงนอน

        ดูเหมือนซูหนิงเซียนในชาตินี้จะมีเล่ห์กลแตกต่างจากในชาติก่อนที่จิตใจดีมากเกินไป จนสุดท้ายต้องกลายเป็นหมากให้กับสหายรัก แต่แล้วอย่างไรเขาก็ยังต้องการให้นางมาเป็นฮูหยินของเขาอยู่ดี

            แม้จะบอกว่าไม่อยากนอนพักแต่ทว่ายาของท่านหมอผสมยาสงบใจหรืออย่างไร นางถึงได้เข้าสู่ห้วงนิทราหลังจากเขาหลับไปไม่นาน

            “ฮูหยิน คืนนี้เราจะพักที่โรงเตี๊ยม” เขาที่เดินกลับออกมาจากโรงเตี๊ยมกลางเก่ากลางใหม่กล่าว

            “เจ้าค่ะ ค่าห้องของข้าประเดี๋ยวข้าจะจ่ายเอง” นางพอจะมีเงินก้อนติดตัวบ้างเล็กน้อย น่าจะพอจ่ายค่าห้องไหว

            “มิต้อง เป็นฮูหยินของพี่ เจ้าต้องพักห้องเดียวกับพี่ พี่จะให้เจ้าจ่ายได้อย่างไร”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (4/4)

    “มิต้อง เป็นฮูหยินของพี่ เจ้าต้องพักห้องเดียวกับพี่ พี่จะให้เจ้าจ่ายได้อย่างไร” “ข้าเจ็บข้อเท้าเช่นนี้ หากต้องนอนเบียดกับท่านที่บาดเจ็บเช่นกัน ข้าเกรงว่าจะไม่สะดวก อย่างไรเราพักกันคนละห้องดีหรือไม่เจ้าคะ” แค่ต้องแสร้งเป็นฮูหยินให้เขา นางก็เสียหายมากพอแล้ว หากมีใครทราบว่านอนห้องเดียวกันอีก นางมิต้องแต่งให้เขาจริงๆ เลยหรือ “พี่เข้าใจแล้ว เจ้าคงยังโกรธเคืองพี่ เช่นนั้นพี่จะให้เวลาเจ้าทบทวน” เขาตอบรับด้วยสีหน้าท่าทางเศร้าสร้อยราวกับเด็กน้อยถูกปฏิเสธไม่ให้กินถังหู่ลู่ ‘ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นเจ้าค่ะ ข้าไม่ใจอ่อนหรอก’ บุรุษรูปงามเช่นท่านคงมีฮูหยินและอนุเต็มเรือนแล้ว “นี่เป็นค่าห้องของข้าเจ้าค่ะ” นางยื่นตำลึงให้เขา แต่แทนที่เขาจะรับมันไว้ เขากลับเข้ามาโอบอุ้มนางเพื่อพาลงจากรถม้า “ท่านปล่อยข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าเดินเองได้” มีคนมองมากมายเช่นนี้ นางรู้สึกอับอายยิ่งนัก “ท่านหมอกล่าวว่าไม่ให้เจ้าเดินเหินจนกว่าจะหายมิใช่หรือ” ในกาลก่อนแม้จะได้สนทนากันหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยทราบว่าสตรีผู้นี้ดื้อรั้นยิ่งนัก ดวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (1/4)

    4ต่างคนต่างพึ่งพากัน หลังจากนั้นนางก็ได้แต่นั่งฟังเขากล่าววาจาวาดฝันเรื่องราวที่เขาอยากทำกับฮูหยินของเขา ซึ่งนั่นไม่ใช่นางแน่นอน “อิ่มแล้วหรือ” เขากล่าวพลางมองอาหารที่ตนคีบให้นางจนพูนชาม นางช่างกินน้อยเสียจริง... “เจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็กินยา” เขากล่าวพลางรับชามยามา “เจ้าค่ะ” นางตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะยกชามยาขึ้นกินจนหมด “เก่งมาก” แววตาของเขามีประกายเอ็นดูพาดผ่าน “ข้ากินยาแล้ว ท่านล่ะเจ้าคะ” “พี่กินแล้ว” “กินตอนไหนเจ้าคะ” นัยน์ตาดอกท้อที่จับจ้องราวกับผู้ใหญ่กำลังจับโกหกเด็กทำให้เขายิ้ม “พี่กินก่อนที่จะพาเจ้าลงจากรถม้า” คำโกหกของเขาทำให้บรรดาผู้ติดตามลอบยิ้ม ไม่ว่าคุณชายจะเก่งกาจเพียงใดแต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับฮูหยินน้อย “บังเอิญจริงเชียวที่เจอพวกเจ้า” บุรุษในอาภรณ์สีขาวเดินเข้ามาทักทาย “คารวะท่านหมอเจ้าค่ะ” นางลุกยืนทักทายท่านหมอ “อย่ายืนเช่นนั้น ประเดี๋ยวจะเจ็บข้อเท้าเอา” เขาใช้โอกาสนี้รั้งตัวนางให้นั่งลงบนต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (2/4)

    “พี่อยากปรนนิบัติฮูหยินของพี่” ‘แต่ข้าไม่ใช่ฮูหยินของท่าน’ นิสัยใจคอเป็นอย่างไร จวนอยู่ที่ใด นางยังไม่ทราบเลย เป็นเพียงแค่คนบังเอิญผ่านมาเจอกัน และต่างฝ่ายต่างพึ่งพากันเพียงเท่านั้น “เท้าเป็นของต่ำ บุรุษมิควรลดตัวมาจับเท้าสตรีเช่นนี้” คุณหนูซูพยายามหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยง ให้บุรุษเห็นเท้าเปล่าว่าผิดจารีตแล้ว หากให้เขาจับอีก นางมิต้องเอาตนเองใส่ตะกร้าล้างน้ำเลยหรือ “ฮูหยิน เจ้าอย่าได้ยึดถือธรรมเนียมเก่าแก่เหล่านั้นให้มาก สามีเพียงอยากปรนนิบัติเจ้า” กล่าวจบเขาก็ยึดเท้าข้างที่นางไม่ได้เจ็บเอาไว้แน่นแล้วถอดรองเท้าให้ ‘ต่อจากนี้ข้าคงหาบุรุษมาแต่งงานด้วยไม่ได้’ แต่ก็ช่างเถิด หลังจากได้หวนคืนมาสิ่งที่นางให้ความสำคัญที่สุดมิใช่เป็นการเลือกแต่งกับบุรุษดีๆ สักคน แต่เป็นการแก้แค้นเอาคืนคนพวกนั้นต่างหาก “หากเจ็บให้บอกพี่” หยางซีซวนกล่าวพลางค่อยๆ แกะผ้าที่พันไว้ออก นัยน์ตาดำมีประกายเจ็บปวดพาดผ่านชั่วครู่เมื่อเห็นรอยฟกช้ำ ภาพในคืนนั้นที่เขาเห็นร่างไร้วิญญาณของนางย้อนกลับเข้ามาในหัว มือใหญ่สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อยยามเขาควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (3/4)

    “ข้าก็จะแต่งนางเป็นฮูหยินจริงๆ” “ที่ข้าถามคือเมื่อใดเจ้าจะเลิกแสร้งสติฟั่นเฟือน” อย่างไรวันหนึ่งก็ควรจะอาการดีขึ้น “เรื่องนี้ข้ายังตอบไม่ได้” “สร้างเรื่องโกหกเช่นนี้ ตอนลงหาทางลงดีๆ ด้วยล่ะ มิเช่นนั้นแทนที่จะได้แต่งฮูหยิน นางอาจจะโกรธเกลียดเจ้าจนไม่อยากพบหน้าเลยก็เป็นได้” “...” ในตอนนั้นเขาไม่ทันคิดถึงผลที่ตามมาจริงๆ เขาใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้ชั่วครู่ยามสบตากับนาง ก่อนที่ปากจะเอื้อนเอ่ยเรียกนางเช่นนั้นออกมา “ชักอยากจะเห็นวันที่นางโกรธเจ้าแล้วสิ” กล่าวจบก็ลูบหัวเสี่ยวอ้ายที่เลื้อยออกมาจากแขนเสื้อ ‘ปากดีต่อหน้าแม่นางผู้นั้นไปเถิด วันใดที่โดนนางเมินเฉยข้าจะหัวเราะให้ฟันร่วง’ ลู่จื้อคิดพลางส่งยิ้มอ่อนโยนให้งูสีเหลืองของตน เสี่ยวอ้ายของเขาน่าเอ็นดูที่สุด “หากนางโกรธข้าเช่นที่เจ้ากล่าวเมื่อใด ข้าจะให้เสี่ยวช่างมาจิกเสี่ยวอ้ายของเจ้า” เสี่ยวช่างเป็นเหยี่ยวตัวใหญ่ที่เขาเลี้ยงไว้ “หยุดความคิดของเจ้าไปเลย” ท่านหมอเทวดารีบเก็บสัตว์เลี้ยงของตนเข้าในแขนเสื้อ “เจียวมิ่ง เจ้าพาคนล่วงหน้าไปยัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (4/4)

    เพียงแค่นางเรียกขานว่า ‘สามี’ ก็ทำหูตั้งหางส่ายไปมาราวกับเจ้าเสี่ยวโก่ว “เขาไม่ยอมกินยาเจ้าค่ะ ท่านช่วยใช้วิธีผ่าหัวเพื่อรักษาให้เขาหายจากสติฟั่นเฟือนได้หรือไม่เจ้าคะ” “คงมิได้หรอกแม่นาง ข้ายังไม่เคยผ่าหัวใครเลยสักครั้ง” “เช่นนั้นใช้เขาลองเถิดเจ้าค่ะ” นางคอยถามไถ่เรื่องกินยาด้วยความเป็นห่วงอยู่หลายวัน แต่เขากลับโกหกนาง มันน่าโมโหหรือไม่ “ฮูหยิน...” “บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า” นางเฝ้าดูแลเขามาหลายวัน แต่เขากลับไม่กินยา เช่นนี้เมื่อใดจะหายกันเล่า “ฮูหยินไม่เอา ไม่กล่าวเช่นนั้น พี่ขอโทษเจ้าหายโกรธพี่ได้หรือไม่” “ข้าไม่ได้โกรธเจ้าค่ะ ” แค่หงุดหงิดเพียงเท่านั้น “หากเจ้าไม่ได้โกรธพี่แล้วเจ้ากำลังจะเดินไปที่ใด ท่านหมอห้ามเจ้าเดินเหินมิใช่หรือ” เขากล่าวเสียงอ่อนพลางทำท่าจะลุกเดินตามนาง “ข้าหายแล้วเจ้าค่ะ และท่านหยุดเท้าอยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ข้าขออยู่คนเดียวเงียบๆ” ขอนางสงบสติอารมณ์ชั่วครู่ เขาไม่ได้เป็นสามีนางจริงๆ เสียหน่อย นางไม่ควรต้องห่วงใยเขามากถึงเพียงนี้ “เช่นนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (1/4)

    5ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย หลังจากปรนนิบัติและส่งฮูหยินเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ท่านหมอเทวดาก็ถูกสหายลากเข้าห้องของผู้ติดตามซึ่งอยู่ไกลจากห้องของนางไม่มากนักเพื่อสอบถาม “นางสนทนาเรื่องอันใดกับเจ้า” “นางแค่สงสัยอาการเจ็บป่วยของเจ้า” “สงสัยเรื่องอันใด รีบเล่าให้ข้าฟังบัดเดี๋ยวนี้” ท่าทางร้อนรนราวกับคนร้อนตัวทำให้ท่านหมอเทวดาอมยิ้ม ดูเหมือนคุณหนูผู้นั้นจะมีความสำคัญไม่น้อย สหายของตนถึงได้ร้อนรนถึงเพียงนี้ “นางก็แค่สงสัยว่าหากเจ้าไม่เคยมีฮูหยินหรือสตรีในเรือนหลังมาก่อน แต่เหตุใดพอสติฟั่นเฟือนถึงได้เอาแต่เรียกนางว่าฮูหยิน” “แล้วเจ้าตอบว่าอย่างไร” “เลิกข่มขู่ว่าจะทำร้ายเสี่ยวอ้ายของข้าก่อน แล้วข้าจะบอก” “เจ้ากล้าต่อรอง” “ข้าเป็นหมอเทวดานะ ไม่ใช้บุตรชายของเจ้า” “ก็ได้ สหายรัก ข้าจะเอ็นดูเสี่ยวอ้ายของเจ้า” ช่างเป็นรอยยิ้มที่แผ่ไปไม่ถึงดวงตา “ข้าก็แค่บอกว่าบางทีเจ้าที่ปักใจรักและวาดฝันจะกราบไหว้ฟ้าดินกับสตรีผู้หนึ่ง อาจจะกำลังสับสนระหว่างความจริงกับความฝัน”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (2/4)

    “ขอบคุณที่เข้าใจเจ้าค่ะ” นางกล่าวพลางมองออกไปนอกหน้าต่างรถม้า จึงไม่ได้เห็นสายตาลุ่มลึกยากจะคาดเดาของเขา ยามค่ำคืนหยางซีซวนนั่งจิบชาราวกับเฝ้ารอคอยเรื่องบางอย่าง ใบหน้าที่มักจะส่งยิ้มออดอ้อนฮูหยินของตนบัดนี้เรียบเฉยไร้ท่าทางหยอกเย้าเช่นทุกครั้ง แต่ในสายตาของผู้ติดตามแซ่เจียวทั้งหมด ทุกคนย่อมทราบดีว่านี่เป็นนิสัยปกติของผู้เป็นนาย ยามอยู่กับฮูหยินต่างหากที่คุณชายของพวกตนดูไม่ใคร่ปกตินัก พรึ่บ! บุรุษชุดดำสองคนเข้ามาทางหน้าต่างก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าผู้เป็นนาย “ว่ามา” คุณชายหยางกล่าวพลางหมุนจอกชาเล่น “คุณหนูหม่าลอบพบคุณชายกวางอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก ข้าน้อยจึงสืบต่อจนพบว่าทั้งสองแท้จริงเป็นเหมยเขียว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (3/4)

    “ฮูหยิน เจ้าอดทนเห็นหน้าบุรุษที่รูปงามน้อยกว่าพี่เพียงครู่เดียวอีก ไม่นานเราก็จะถึงเมืองหลวงแล้ว” เขากล่าวพลางรินชาใส่จอกให้นางอย่างเอาใจ ‘สหายผู้นี้ปากไม่ดี มันน่าเปิดโปงความลับเสียจริง’ ทำตัวราวกับเด็กน้อยกลัวผู้อื่นมาแย่งความรักความสนใจจากมารดา “ท่านอย่าได้กล่าววาจาไม่ดีต่อท่านหมอเช่นนั้น” “...” เขาเม้มริมฝีปากราวกับอัดอั้นตันใจ ก่อนจะก้มหน้าลง “ข้าต้องขออภัยท่านหมอด้วยนะเจ้าคะ เขาสติฟั่นเฟือนอาจกล่าววาจาไม่เหมาะสมไปบ้าง” นางหันไปกล่าวกับท่านหมอ ถึงไม่ได้เห็นเบื้องหลังสีหน้าของบุรุษมากเล่ห์ ‘ดู...สหายข้าสำนึกที่ใด แสร้งทำเป็นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (4/4)

    “สบายดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านเจ๋อคุน” “ข้าสบายดีขอรับ” “ได้ความว่าอย่างไร” “คือว่า...” เมื่อผู้ติดตามของสหายทำท่าจะเอ่ยปากรายงาน นางที่ไม่อยากเป็นคนรู้เยอะจึงรีบกล่าวคำอำลา “เจ้าคงมีเรื่องที่ต้องทำ ข้าเองก็เช่นกัน อีกสองวันข้าจะไปหาเจ้าที่จวน อย่าลืมเตรียมขนมไว้รอข้าด้วย” ซูหนิงเซียนกล่าวด้วยใบหน้าที่แต่งแต้มรอยยิ้ม นางไปอยู่เมืองซานโจวได้เพียงสามวันก็ได้ช่วยเหลืออ้ายช่างที่กำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ สุดท้ายได้นางช่วยเหลือ จึงกลายเป็นสหายกัน แม้จะคบหากันได้เพียงสี่เดือนแต่ทว่ายิ่งสนทนากลับยิ่งคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานหลายปี “ได้! ข้าจะรอเจ้า” เมื่อบอกลาสหายเสร็จเรียบร้อยนางจึงรีบเดินไปที่รถม้า แต่เมื่อถึงรถม้ากลับพบว่าหยางซีซวนยืนรออยู่แล้ว “ขออภัยเจ้าค่ะที่ข้ามาช้า ท่านมารอนานแล้วหรือ” “มินาน พี่มาถึงก่อนเจ้าเพียงชั่วครู่” คำกล่าวของคุณชายทำให้เจียวมิ่งที่แฝงกายอยู่ไม่ไกลอมยิ้ม ส่วนเจียวเจี๋ยที่กลับมาเร้นกายอยู่ข้างๆ รีบสะกิดเตือนไม่ให้พี่น้องร่วมสาบานหัวเราะออกมา

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (3/4)

    “เสร็จแล้ว ก่อนกลับแวะดูเครื่องประดับติดมือกลับจวนสักชิ้นหรือไม่” “อย่าเพิ่งดีกว่าเจ้าค่ะ ไปดูตอนนี้ข้าจะได้กลับเพียงแค่ชิ้นเดียว แต่หากพาท่านกลับจวนไปเป็นสามี เกรงว่าข้าก็จะได้เครื่องประดับทั้งหมด ความคุ้มค่าช่างแตกต่างกันนัก” “ขออภัยฮูหยิน เป็นพี่ไม่รอบคอบ เช่นนั้นพาพี่กลับจวนไปเป็นสามีตอนนี้เลยดีหรือไม่ พี่ยินดีมอบร้านฝากเงินและโรงเตี๊ยมให้เจ้าอย่างไม่อิดออด ” “หลังส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าแล้ว หากข้าไม่อนุญาต ห้ามท่านไปอวดร่ำอวดรวยให้สตรีที่ไหนฟังเช่นนี้เข้าใจหรือไม่เจ้าคะ ข้ามิอยากปวดหัวเรื่องสตรีในเรือนหลัง” “มิต้องห่วง ต่อจากนี้กิจการร้านค้าทุกอย่างของพี่มอบให้เจ้าดีหรือไม่ ให้เจ้าเป็นเถ้าแก่เนี้ย ส่วนพี่จะเป็นลูกจ้างทำงานให้เจ้ากับลูกแทนดีหรือไม่” “ใจป้ำยิ่งนัก หยุดหยอกเย้าข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าอยากกลับจวนแล้ว” “พี่นั่งหลังขดหลังแข็งตั้งใจตรวจบัญชีอยู่นาน เจ้ามิคิดจะมอบรางวัลให้พี่บ้างหรือ” เขากล่าวพลางลุกขึ้นแล้วเดินมาใกล้นาง “อยากได้อันใดเจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง บุรุษที่ติดใจรางวัลในคืนนี้ ใช้

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (2/4)

    “ได้โปรดใจเย็นเจ้าค่ะ ให้ข้าได้แก้แค้นสองคนนั้นก่อนได้หรือไม่” “หนิงเซียน หากเจ้าแต่งกับพี่แล้ว เจ้ายังสามารถแก้แค้นคนพวกนั้นได้ พี่บอกแล้วอย่างไร ว่ายินดีจะสนับสนุนและช่วยเก็บกวาดให้เจ้า” เขารักและหวงแหนนางเหลือเกิน “หากข้าแต่งงานกับท่าน ลี่อินนางก็จะไม่มุ่งมั่นอยากแย่งชิงข้า...ซีซวน ข้าคิดออกแล้ว ท่านส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าเถิด” ซูหนิงเซียนตั้งใจจะปฏิเสธเช่นทุกครั้ง แต่ภาพที่สหายพยายามจะโผเข้าหาบุรุษรูปงามผู้นี้ทำให้นางคิดเรื่องบางอย่างออก “ฮูหยินของพี่ ที่เจ้ากล่าวมาเป็นเรื่องจริงหรือ” เขาที่ยังกุมมือนางเอาไว้รีบคุกเข่าลงบนพื้น นัยน์ตาดำที่จับจ้องนางฉายแววดีใจ “จริงเจ้าค่ะ ข้ายินดีจะแต่งกับท่าน เพียงแต่ท่านจะว่าอันใดหรือไม่หากข้าจะใช้เรื่องนี้ช่วยปิดบัญชีแค้นระหว่างข้ากับหม่าลี่อินและกวางเหลียงอี้” “ไม่ว่าๆ ขอเพียงเจ้ายอมแต่งกับพี่ พี่ยอมทั้งนั้น” สีหน้าที่บ่งบอกว่าดีใจของเขาทำให้นางเริ่มรู้สึกผิดจึงคิดจะเปลี่ยนใจ “แต่...” “ไม่มีแต่ พี่ยินดีร่วมมือกับเจ้า ขอเพียงการแต่งงานครั้งนี้มันกลายเป็น

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (1/4)

    17คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี หลังจากหยางซีซวนพานางออกจากที่ตรงนั้นแล้ว เขาพานางไปที่ร้านเป่าปินซึ่งเป็นร้านขายเครื่องประดับล้ำค่าราคาแพง โดยในกาลก่อนนางมักจะถูกสหายชักชวนให้มาเลือกซื้อเครื่องประดับที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่ายามที่หม่าลี่อินเลือกให้นางก็ต้องจ่ายตำลึงเพื่อซื้อปิ่นล้ำค่าให้สหายที่ตนคิดว่าแสนดี “คารวะคุณชาย คารวะคุณหนูขอรับ” หลงจู๊ของร้านรีบตรงเข้ามาทักทายด้วยท่าทีนอบน้อม “เตรียมขนมและน้ำชาให้คุณหนูซูด้วย” “ขอรับคุณชาย” ชายวัยกลางคนตอบรับก่อนจะเดินแยกไป “เข้าไปด้านในกันเถิด” เขากล่าวพลางจับมือนางที่กำลังมีสีหน้างุนงงให้เดินตาม ยามที่เดินผ่านคนงานของร้าน ทุกคนก็จะหยุดนิ่งก่อนจะแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม กว่านางจะจับต้นชนปลายถูก เขาก็พานางมาถึงห้องทำงานที่อยู่ด้านบนซึ่งเป็นเขตหวงห้าม “เจ้านั่งรอพี่ตรงนั้นก่อน” ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยเมื่อครู่เลือนหาย หลังที่ยืดตรงสง่าผ่าเผยเมื่อครู่งองุ้มลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาแลดูโศกเศร้า ท่าทางคลับคล้ายคลับคลากับเสี่ยวโก่วยามถูกเจ้านายทอดทิ้งทำให

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (5/5)

    เพียะ มือเรียวของหม่าลี่อินยกขึ้นตบใบหน้าตนเอง แม้ไม่แรงมากแต่ก็สามารถดึงความสนใจของคนรอบข้างให้หันมาสนใจได้ “ข้ามันปากไม่ดี กล่าวว่าสหายเช่นเจ้า ข้าทราบว่าเจ้ามิได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงแต่น้อยใจที่คู่หมั้นของตนคล้ายจะสนใจเจ้ามากกว่าข้า ให้อภัยข้าเถิดนะหนิงเซียน” “ข้าไม่เคยโกรธอันใดเจ้า อย่าได้ลงโทษตนเองเช่นนั้น ที่ข้าเปลี่ยนใจไม่ไปชมดอกไม้กับเจ้าแล้วก็เพราะข้าคิดว่าการปล่อยให้เจ้าและคู่หมั้นจิบน้ำชาชมดอกไม้กันเพียงลำพังจะได้ถือโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามก่อนแต่งงาน จะว่าไปฤกษ์แต่งงานของเจ้ากับมือปราบกวางคือเมื่อใดหรือ เหตุใดเจ้ายังไม่บอกกล่าวข้า” “อย่างไรข้าก็อยากให้เจ้าไปชมดอกไม้ด้วยกัน ส่วนเรื่องฤกษ์นั้นเป็นของผู้ใหญ่หากถึงเวลาเมื่อใดข้าจะบอกเจ้าเอง” จะมีฤกษ์ได้อย่างไรในเมื่อแท้จริงนางและกวางเหลียงอี้ต่างมีเป้าหมายที่ตนต้องการ “เซียนเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้ขัดขวางยวนยาง ไปเที่ยวเล่นกับพี่ดีกว่า ไม่ได้เจอเจ้านาน พี่คิดถึงยิ่งนัก” หากไม่ติดว่าต้องเล่นบทงิ้วต่อหน้าสหายชั่ว นางคงกลอกตาไปมาหลายรอบ ไม่ได้เจอกันนานอย่างไร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (4/5)

    ‘ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนางมีจิตใจที่ดีมิใช่หรือ’ คำกล่าวของบุรุษผู้นั้นทำให้สตรีที่ถูกกล่าวถึงกำมือเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ “ลี่อิน เจ้าเป็นอันใดหรือไม่ เหตุใดถึงได้หน้าแดงถึงเพียงนั้น” “คงร้อนอบอ้าว เรารีบเดินกันเถิด” พวกปากไม่มีหูรูดเอาแต่ติฉินนินทาเรื่องของผู้อื่น สนใจเรื่องของตนบ้างเถิด สวนที่พวกนางจะไปชมดอกไม้คลายร้อนกันนั้นอยู่ไม่ห่างจากโรงเตี๊ยมเลี่ยงจินเท่าใดนัก หม่าลี่อินเลือกที่จะเดินผ่านมาทางนี้ทั้งที่อีกทางต้องเดินใกล้กว่าคงคาดหวังที่จะได้พบเจอใครบางคน เรื่องราวการพาตัวบุตรชายกลับบ้านของหยางฮูหยินในวันนั้นไม่ได้มีการถูกปิดเป็นความลับแต่อย่างใด จึงไม่แปลกที่สหายชั่วของนางจะคาดหวังว่าจะได้เจอเขาเมื่อผ่านมาที่แห่งนี้ หากทราบว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นของเขา หม่าลี่อินคงแทบจะถอดอาภรณ์วิ่งเข้าใส่ บุรุษที่นอกจากจะร่ำรวยด้วยตนเองแล้วยังมีอำนาจของตระกูลหนุนหลัง สตรีใดบ้างจะไม่ปรารถนา “เซียนเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ” แม้ท่าทางจะสง่างามแต่ทว่านางกลับเห็นเหงื่อที่ผุดพรายบริเวณไรผมของเขา ‘คงร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (3/5)

    “พี่เหลียงอี้ ท่านมาทำอันใดแถวนี้เจ้าคะ” คำกล่าวคล้ายจะเป็นความบังเอิญ แต่นางที่รู้จักคนทั้งสองมาถึงสองชาติเหตุใดจะมองแผนการตื้นเขินนี้ไม่ออก “พี่มาเดินตรวจแถวนี้ เจ้ากับคุณหนูซูจะไปที่ใดกันหรือ” “หนิงเซียนจะพาข้าไปร้านขายอาภรณ์เจ้าค่ะ ท่านไปช่วยพวกข้าเลือกอาภรณ์ได้หรือไม่” คำกล่าวของสหายชั่วทำให้นางก้มหน้าซ่อนแววตาเย้ยหยัน ‘ข้าบอกเจ้าว่าจะมาเดินเล่นนอกจวนมิใช่หรือ ร้านอาภรณ์อันใดข้ามิเคยกล่าวถึง’ “ได้สิ พี่ยินดี” กล่าวจบมือปราบหนุ่มก็จ้องมองคุณหนูซูอย่างไม่วางตา จนหม่าลี่อินชักสีหน้าไม่พอใจ ต่อให้ตนไม่คิดแต่งกับบุรุษฐานะต่ำต้อยอย่างกวางเหลียงอี้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้สตรีอื่นได้ใจเขาไป “ลี่อิน เจ้าได้พบเจอคู่หมั้นแล้ว หากเจ้าอยากไปร้านอาภรณ์ให้มือปราบกวางพาไปดีหรือไม่” “แต่ข้าอยากให้เจ้าไปด้วย” เขาหรือจะสามารถจ่ายตำลึงซื้ออาภรณ์ล้ำค่าให้ตนได้ “ลี่อิน คุณหนูซูอาจจะไม่อยากไปร้านขายอาภรณ์ เจ้าอย่าได้เอาแต่ใจให้มากนัก” กล่าวจบก็หันมาจ้องมองนางด้วยแววตาหวานซึ้ง หวานซึ้งอันใดกัน ข

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (2/5)

    มิได้! คนเช่นหม่าลี่อินจะไม่ยอมถูกบุรุษเมินเด็ดขาด นางต้องโดดเด่นเหนือซูหนิงเซียน “แต่ข้าว่ามันจืดชืด” “เจ้าไม่ชอบโดดเด่นจนสะดุดตาผู้อื่นมิใช่หรือ” “เจ้ากล่าวถูกแล้ว แต่ข้ารับปากกับท่านพ่อไว้ว่ายามออกไปนอกจวนจะต้องแต่งกายให้ดี มิเช่นนั้นจะขายหน้าท่านพ่อ อย่างไรข้าขอไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้เพียงครู่เดียว” “อืม” หม่าลี่อินรับคำพลางเก็บสีหน้าไม่ชอบใจ ซูหนิงเซียนหายไปไม่นานก็เดินกลับมาหาอดีตสหาย นางยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นประกายริษยาพาดผ่านในดวงตาของสหาย ‘ริษยาข้ามากหรือไม่’ อาภรณ์ชุดนี้บุรุษมากเล่ห์ให้คนนำมาส่งให้นางตั้งแต่ปลายยามเหม่า (05.00-07.00) กล่าวว่านางต้องงดงามยามสวมใส่ “เจ้าได้อาภรณ์ชุดนี้มาตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดข้าถึงไม่ทราบ” “คุณชายหยางมอบให้ข้ายามที่เขาเกี้ยวพาข้า เห็นว่าเป็นอาภรณ์ที่ตัดจากผ้าเนื้อดี สีของอาภรณ์จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่นหากวันนี้อากาศเย็น อาภรณ์ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้า แต่หากวันนี้อากาศร้อนมันจะกลายเป็นสีเหลืองกึ่งส้ม แต่หากวันไหนอากาศสบายม

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (1/5)

    16เจ้ามารยา หลายวันมานี้แม้จะรู้สึกรำคาญใจแต่ทว่านางก็ต้องแสร้งยิ้มตอบรับและนั่งสนทนากับหม่าลี่อินที่มาหาถึงจวนทุกวัน “เจ้าอยู่แต่ในจวนเช่นนี้ ไม่เบื่อหน่ายบ้างหรือไร” คำกล่าวของหม่าลี่อินทำให้มุมปากนางยกยิ้มเล็กน้อย “ข้าจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อมีเจ้า อยู่สนทนาด้วยทุกวัน” แท้จริงหากสตรีผู้นี้ไม่มารบกวนทุกวัน นางคงนั่งอ่านตำราที่หมิงอี้เฉินนำมาให้ยืมมากมาย ช่างเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไม่น้อย “ช่วงนี้เจ้าได้เจอคุณชายเล็ก ตระกูลหยางบ้างหรือไม่” “เขาคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับกิจการที่มีมากมายทั่วแคว้น ในบางคราข้ายังอดสงสัยไม่ได้ว่าจวนหยางไม่ได้มอบเบี้ยหวัดรายเดือนให้กับเขาหรืออย่างไร เหตุใดเขาถึงได้เปิดร้านค้ามากมายเพียงนั้น” กล่าวจบนางก็ปรายตามองอดีตสหาย และก็ไม่ผิดหวังเมื่อนางได้เห็นประกายยินดีพาดผ่านในดวงตาคู่นั้นยามได้ยินนางกล่าวถึงความร่ำรวยของหยางซีซวน “เจ้าอยากรู้ เหตุใดถึงไม่เอ่ยปากถามเขา” “เรื่องเช่นนี้ข้าจะกล้าถามได้อย่างไร ยังไม่ได้คบหาดูใจกัน เรื่องเงินๆ ทองๆ ของเขาข้าไม่อยากก้าว

DMCA.com Protection Status