แชร์

บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (1/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 22:03:44

3

ความในใจของซีซวน

            เฮือก...เขาฝันร้ายอีกแล้ว นี่นับเป็นครั้งที่เท่าใดไม่ทราบที่เขาฝันถึงเรื่องราวในครั้งนั้น เขาไปช่วยนางไม่ทัน

            ภาพของสตรีที่นอนหมดลมหายใจอยู่บนพื้นคุกใต้ดินทำให้เขาแทบคลั่ง มือที่กำกระบี่สั่นสะท้านอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ หากในตอนนั้นเขาเลือกที่จะเชื่อหัวใจตนเอง นางก็คงไม่ต้องมีจุดจบเช่นนี้

            เพราะยึดมั่นเกี่ยวกับเรื่องราวในหนหลัง เขาจึงเลือกที่จะตอบแทนผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือชีวิตของเขาด้วยการขอหมั้นหมาย ชีวิตนางคล้ายจะลำบากเขาจึงปรารถนาอยากให้นางได้มีชีวิตที่ดี แต่แล้วในวันหนึ่งที่ได้เจอสหายของคู่หมั้น เขากลับจิตใจสั่นไหว รอยยิ้มของนางทำให้ใจดวงน้อยของเขาเต้นระรัว

            ‘คารวะคุณชายซวนเจ้าค่ะ’ นางทักทายและส่งยิ้มให้เขา ในยามนั้นแม้จะรู้สึกคุ้นเคยกับรอยยิ้มตรงหน้า แต่เขาก็เลือกที่จะปัดความรู้สึกนั้นทิ้ง เพราะอย่างไรนางก็เป็นสหายของคู่หมั้น และที่สำคัญคือนางกำลังจะกราบไหว้ฟ้าดินกับบุรุษผู้หนึ่ง

            หลังจากนั้นเขาก็ได้สนทนากับนางอีกหลายครั้งยามบังเอิญเจอกันที่ตลาด นางส่งยิ้มจริงใจและไม่เคยมองเขาอย่างหวาดกลัวเมื่อสวมใส่หน้ากากนี้ ต่างจากคู่หมั้นของเขาที่มักจะมีประกายไม่พอใจปะปนกับหวาดกลัวพาดผ่านยามที่นางคิดว่าเขาพลั้งเผลอไม่สนใจมอง

            แต่แล้วอย่างไร ในเมื่อคู่หมั้นของเขานางก็ไม่ได้ทำผิดอันใด ทั้งนางยังเป็นสตรีใจดีที่ยื่นมือช่วยเหลือเขาในยามที่เขาเกือบก้าวเท้าเข้าสู่ประตูนรก นางเป็นผู้ยื้อชีวิตเขาไว้ เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวงเขาจึงรีบให้ผู้อาวุโสที่เคารพพาแม่สื่อไปขอหมั้นหมายทันที

            แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ต้อนรับนักฆ่าที่ถูกว่าจ้างโดยคู่หมั้นตน หลังจากสังหารคนเหล่านั้นแล้ว แม้จะเสียใจแต่ทว่าพอตั้งสติได้แล้วเขาจึงให้คนตามสืบจนทราบว่าแท้จริงคู่หมั้นตนกับสามีของคุณหนูซู ลักลอบได้เสียกันนานแล้วและทั้งคู่ได้วางแผนฆ่าเจ้ากรมอาญาโดยทำให้คล้ายกับเกิดอุบัติเหตุ

            เมื่อได้ยินถึงการกระทำไร้คุณธรรมของคู่หมั้นตน เขาจึงเกิดความสงสัยจึงให้คนสืบสาวเรื่องราวย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน

            เรื่องราวที่ทำให้เขาเข่าแทบทรุดก็คือแท้จริงเขาเข้าใจผิดมาโดยตลอด คนที่ดึงเขากลับมาจากประตูนรกแท้จริงคือคุณหนูซู สตรีที่ทำให้เขาอยากเห็นรอยยิ้มนางบ่อยครั้งถึงขั้นแสร้งบังเอิญไปเจอ และเรื่องราวที่ทำให้เขาแทบคลั่งก็คือ ชายหญิงชั่วช้าคู่นั้นจับนางไปขังไว้ในคุกใต้ดิน

            เขาไม่รอช้าขอคนของบิดารีบไปช่วยเหลือนาง แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน เขาเสียใจจนควบคุมตนเองไม่อยู่ สังหารคนของบุรุษผู้นั้นเกือบหมด

            แต่แค้นอย่างไรก็ต้องชำระ เขาโอบอุ้มร่างไร้วิญญาณของนางออกจากคุกใต้ดิน โดยสั่งคนมัดบุรุษสตรีชั่วช้าทั้งสองเอาไว้กับศพที่ถูกคนของเขาฆ่าตาย ตราบใดที่เขาไม่อนุญาตให้ตาย คนทั้งสองก็ตายไม่ได้

            เมื่อถูกขังไว้กับศพจำนวนมาก ต้องมองจนศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น คนที่รังเกียจและไม่เคยคลุกคลีอยู่กับศพอย่างหม่าลี่อินจึงเริ่มสติแตก

            แต่นั่นยังไม่สาแก่ใจ เพราะหลังจากเขาอาบน้ำแต่งตัวให้กับร่างของซูหนิงเซียนเพื่อให้นางได้มีสภาพที่งดงามที่สุดยามคืนสู่ผืนดิน เขาเห็นทั้งบาดแผล รอยฟกช้ำรวมทั้งยาพิษที่ทำให้นางสิ้นลม นางต้องทรมานเพียงใดกว่าจะหลุดพ้น

            เมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่นางถูกกระทำ คนโง่ที่หลงเชื่อเพียงเพราะผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวจึงคืนสนองสิ่งที่พวกมันทำกับนางทั้งหมดให้ กวางเหลียงอี้ถูกตัดลิ้นและแล่เนื้อออกมาทีละชิ้น หากเจ็บปวดจนใกล้สิ้นลม ก็จะถูกช่วยชีวิตเอาไว้ด้วยฝีมือหมอเทวดา เนื้อที่แหว่งเพราะถูกเฉือนออกไปไม่ได้รับการรักษาทั้งยังปล่อยให้หนูมาแทะกินเช่นนั้น ส่วนหม่าลี่อินถูกเหล็กร้อนทาบลงบนใบหน้าก่อนจะลามไปทุกส่วนของร่างกายทำให้ร่างกายพุพองจนบุรุษที่กล่าวว่าจะรักกันจนวันตายยังเบือนหน้าหนีกลิ่นเน่าเหม็นของเนื้อหนังที่ไหม้จนกลายเป็นหนอง

            เมื่อทรมานคนพวกนั้นจนสาแก่ใจซึ่งใช้เวลานานนับเดือน เขาที่ไว้ทุกข์ให้นางครบตามกำหนดแล้ว จึงปลิดชีพคนพวกนั้นให้ตายตกตามนาง เขาจัดพิธีกราบไหว้ฟ้าดินป้ายวิญญาณของนางอย่างสมเกียรติและใช้ชีวิตโดดเดี่ยวจนวาระสุดท้าย ซึ่งโชคดีที่มาถึงเร็ว เพราะเขาอาสาไปรบกับชนเผ่าแทนพี่ชาย ก่อนตายเขาระลึกถึงนางและพร่ำขอโอกาสจากสวรรค์ ให้เขาได้พบเจอนางอีกสักครั้ง

            แต่ใครจะคิดว่าสุดท้ายเขาจะได้รับโอกาสแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดจริงๆ

            เขาหวนกลับมาก่อนหน้าที่จะถูกนักฆ่าจากฝั่งเถ้าแก่ซ่งที่ไม่พอใจเนื่องจากร้านขายเครื่องประดับของเขาที่เพิ่งจะมาเปิดในเมืองซานโจวขายดีกว่าทั้งยังแย่งลูกค้าของอีกฝ่ายเกือบหมดสิ้น

            เมื่อได้รับโอกาสเขาจึงสามารถจัดการพวกนั้นได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ แต่อย่างไรหากไม่มีเหตุการณ์ที่เขาถูกทำร้ายจนไปนอนเกยตื้นที่ริมแม่น้ำแห่งนั้น เขาก็จะไม่ได้พบนาง เขาจึงใช้กระบี่จัดการสร้างบาดแผลด้วยตัวเอง แล้วไปนอนตัวเปียกโชกเกยตื้นอยู่บริเวณนั้น แน่นอนว่าลูกน้องของเขาเกือบยี่สิบคนก็ต้องติดตามและไปซุ่มดูอยู่บริเวณนั้นด้วย

            ในขณะที่กำลังนอนเล่นให้น้ำสาดซัด สตรีตัวน้อยท่าทางน่าสงสารก็เดินเข้ามา เพื่อเรียกร้องความสนใจเนื่องจากตอนนี้เขาหนาวมาก จึงส่งเสียงร้อง แต่นางก็ยังนิ่งเฉย ท่าทางครุ่นคิดนั่นน่ารักเสียจนเขาอยากเป็นฝ่ายลุกไปหานางเอง

            แม้จะสงสารและไม่อยากให้นางเหน็ดเหนื่อย แต่เขาก็จำใจต้องให้นางประคองเขาไปที่ถ้ำอย่างทุลักทุเล

            ด้วยความเจ็บปวดของบาดแผลและการเปียกน้ำเป็นเวลานานสุดท้ายเขาก็ป่วยจริงๆ แม้เขาจะพยายามฝืนตนเอาไว้ไม่ให้หลับเพราะกลัวนางจะหายไปดั่งเช่นกาลก่อน แต่ทว่าก็ไม่อาจทำได้

            ในฝันที่เจ็บปวดเขารู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่าง เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่านางกำลังโอบกอดเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เขา เมื่อเห็นเช่นนั้นมุมปากหยักพลันมีรอยยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายโอบกอดให้ความอบอุ่นแก่นางแล้วหลับไป

            ตื่นมาอีกครามิคาดว่านางจะหายไป เขาจึงตะโกนเรียกผู้ติดตามของตนซึ่งน่าจะเฝ้าดูอยู่ด้านนอกด้วยความเดือดดาล

            “ฮูหยินของข้า นางหายไปไหน”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า    บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (2/4)

    “ฮูหยินของข้า นางหายไปไหน” “ฮูหยินไปเก็บผลท้อแล้วเดินไปทางลำธารขอรับ” “มีใครตามนางไปหรือไม่” “เจียวหวงติดตามฮูหยินไปแล้วขอรับ” “อืม ดูเหมือนนางจะเจ็บข้อเท้า ส่งคนไปรับลู่จื้อมาด้วย” “ขอรับ” “หากนางกลับมาหาข้าแล้วพวกเจ้าแสร้งทำเป็นมาตามหาข้าแล้วสั่งคนไปพาหมอมา บอกลู่จื้อให้เออออตามข้าอย่าได้ขัดแย้งมิเช่นนั้นข้าจะให้เสี่ยวช่างไปกินเสี่ยวอ้ายของเขา” คำขู่ของผู้เป็นนายทำให้เจียวโจวซึ่งเป็นพี่ใหญ่ในบรรดาลูกน้องแซ่เจียวทั้งหมดอยากยกมือปาดเหงื่อ หากได้ยินคำข่มขู่เช่นนี้ท่านหมอเทวดาคงจะเดือดดาลจนสาดยาพิษใส่พวกเขาเป็นแน่ ในหมู่พวกเขาใครบ้างจะไม่ทราบว่าเสี่ยวอ้ายคืองูสีเหลืองที่ท่านหมอลู่จื้อรักดุจดวงใจ หวิ้ว เสียงสัญญาณที่ใช้กันในหมู่ผู้ติดตามของเขาดังแว่วมา บ่งบอกว่ากำลังมีคนมา เขาจึงพยักหน้าสั่งให้ผู้ติดตามนับสิบไปซ่อนตัว เมื่ออยู่ตามลำพัง เขาที่ยังคลุมเสื้อตัวนอกของนางอยู่ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่แสนคุ้นเคยทำให้นัยน์ตาดำหม่นแสงลง ในครานั้นหากเขาเชื่อความรู้สึกของตนเอง ทุกอย่างคงไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (3/4)

    บุรุษตัวโตปล่อยให้แม่นางน้อยตรงหน้าดึงรั้งตามใจ ตรงซอกหินที่นางพาเข้าไปหลบช่างดีเหลือเกิน มันทำให้เขาได้แนบชิดกับนาง เสียงหัวใจเต้นระรัวของนางเกือบทำให้เขาเผลอจ้องมองนางด้วยแววตาลึกซึ้ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยอย่างพยายามล่อล่วงนาง ‘คุณชายขอรับ คุณชาย’ “คนพวกนั้นใช่คนของท่านหรือไม่” “ข้าไม่ทราบ” เขาทำหน้าใสซื่อพลางส่ายหน้า ‘นี่มันอาภรณ์ของคุณชาย คุณชายต้องอยู่แถวนี้แน่นอน พวกเจ้าแยกย้ายกันไปหาคุณชาย เจียวมิ่งเจ้ารีบไปนำตัวท่านหมอเทวดามาที่นี่ มีคราบเลือดจางๆ บนอาภรณ์ เกรงว่าตอนนี้คุณชายอาจจะกำลังได้รับบาดเจ็บ’ ‘ขอรับ’ เสียงเจ้าของชื่อตอบรับก่อนที่นางจะได้ยินเสียงคนอื่นค้นหาต่อ “คนพวกนั้นน่าจะเป็นคนของท่าน เราออกไป...” นางยังกล่าวไม่ทันจบมือใหญ่ก็รั้งศีรษะนางแล้วกดใบหน้านางลงบนอกแกร่ง เพื่อไม่ให้นางเห็นดวงตาของเขาวาวโรจน์หลังจากคิดบางอย่างได้ บัดซบ! นางสวมอาภรณ์แค่ตัวใน คนพวกนั้นต้องจ้องมองฮูหยินของเขาเป็นแน่ “คุณชายท่านอยู่ที่นี่เอง” ชายชุดดำส่งเสียง แต่เขาส่งสายตาดุคนพวกนั้นให้หันหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 3 ความในใจของซีซวน (4/4)

    “มิต้อง เป็นฮูหยินของพี่ เจ้าต้องพักห้องเดียวกับพี่ พี่จะให้เจ้าจ่ายได้อย่างไร” “ข้าเจ็บข้อเท้าเช่นนี้ หากต้องนอนเบียดกับท่านที่บาดเจ็บเช่นกัน ข้าเกรงว่าจะไม่สะดวก อย่างไรเราพักกันคนละห้องดีหรือไม่เจ้าคะ” แค่ต้องแสร้งเป็นฮูหยินให้เขา นางก็เสียหายมากพอแล้ว หากมีใครทราบว่านอนห้องเดียวกันอีก นางมิต้องแต่งให้เขาจริงๆ เลยหรือ “พี่เข้าใจแล้ว เจ้าคงยังโกรธเคืองพี่ เช่นนั้นพี่จะให้เวลาเจ้าทบทวน” เขาตอบรับด้วยสีหน้าท่าทางเศร้าสร้อยราวกับเด็กน้อยถูกปฏิเสธไม่ให้กินถังหู่ลู่ ‘ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นเจ้าค่ะ ข้าไม่ใจอ่อนหรอก’ บุรุษรูปงามเช่นท่านคงมีฮูหยินและอนุเต็มเรือนแล้ว “นี่เป็นค่าห้องของข้าเจ้าค่ะ” นางยื่นตำลึงให้เขา แต่แทนที่เขาจะรับมันไว้ เขากลับเข้ามาโอบอุ้มนางเพื่อพาลงจากรถม้า “ท่านปล่อยข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าเดินเองได้” มีคนมองมากมายเช่นนี้ นางรู้สึกอับอายยิ่งนัก “ท่านหมอกล่าวว่าไม่ให้เจ้าเดินเหินจนกว่าจะหายมิใช่หรือ” ในกาลก่อนแม้จะได้สนทนากันหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยทราบว่าสตรีผู้นี้ดื้อรั้นยิ่งนัก ดวง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (1/4)

    4ต่างคนต่างพึ่งพากัน หลังจากนั้นนางก็ได้แต่นั่งฟังเขากล่าววาจาวาดฝันเรื่องราวที่เขาอยากทำกับฮูหยินของเขา ซึ่งนั่นไม่ใช่นางแน่นอน “อิ่มแล้วหรือ” เขากล่าวพลางมองอาหารที่ตนคีบให้นางจนพูนชาม นางช่างกินน้อยเสียจริง... “เจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็กินยา” เขากล่าวพลางรับชามยามา “เจ้าค่ะ” นางตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะยกชามยาขึ้นกินจนหมด “เก่งมาก” แววตาของเขามีประกายเอ็นดูพาดผ่าน “ข้ากินยาแล้ว ท่านล่ะเจ้าคะ” “พี่กินแล้ว” “กินตอนไหนเจ้าคะ” นัยน์ตาดอกท้อที่จับจ้องราวกับผู้ใหญ่กำลังจับโกหกเด็กทำให้เขายิ้ม “พี่กินก่อนที่จะพาเจ้าลงจากรถม้า” คำโกหกของเขาทำให้บรรดาผู้ติดตามลอบยิ้ม ไม่ว่าคุณชายจะเก่งกาจเพียงใดแต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับฮูหยินน้อย “บังเอิญจริงเชียวที่เจอพวกเจ้า” บุรุษในอาภรณ์สีขาวเดินเข้ามาทักทาย “คารวะท่านหมอเจ้าค่ะ” นางลุกยืนทักทายท่านหมอ “อย่ายืนเช่นนั้น ประเดี๋ยวจะเจ็บข้อเท้าเอา” เขาใช้โอกาสนี้รั้งตัวนางให้นั่งลงบนต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (2/4)

    “พี่อยากปรนนิบัติฮูหยินของพี่” ‘แต่ข้าไม่ใช่ฮูหยินของท่าน’ นิสัยใจคอเป็นอย่างไร จวนอยู่ที่ใด นางยังไม่ทราบเลย เป็นเพียงแค่คนบังเอิญผ่านมาเจอกัน และต่างฝ่ายต่างพึ่งพากันเพียงเท่านั้น “เท้าเป็นของต่ำ บุรุษมิควรลดตัวมาจับเท้าสตรีเช่นนี้” คุณหนูซูพยายามหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยง ให้บุรุษเห็นเท้าเปล่าว่าผิดจารีตแล้ว หากให้เขาจับอีก นางมิต้องเอาตนเองใส่ตะกร้าล้างน้ำเลยหรือ “ฮูหยิน เจ้าอย่าได้ยึดถือธรรมเนียมเก่าแก่เหล่านั้นให้มาก สามีเพียงอยากปรนนิบัติเจ้า” กล่าวจบเขาก็ยึดเท้าข้างที่นางไม่ได้เจ็บเอาไว้แน่นแล้วถอดรองเท้าให้ ‘ต่อจากนี้ข้าคงหาบุรุษมาแต่งงานด้วยไม่ได้’ แต่ก็ช่างเถิด หลังจากได้หวนคืนมาสิ่งที่นางให้ความสำคัญที่สุดมิใช่เป็นการเลือกแต่งกับบุรุษดีๆ สักคน แต่เป็นการแก้แค้นเอาคืนคนพวกนั้นต่างหาก “หากเจ็บให้บอกพี่” หยางซีซวนกล่าวพลางค่อยๆ แกะผ้าที่พันไว้ออก นัยน์ตาดำมีประกายเจ็บปวดพาดผ่านชั่วครู่เมื่อเห็นรอยฟกช้ำ ภาพในคืนนั้นที่เขาเห็นร่างไร้วิญญาณของนางย้อนกลับเข้ามาในหัว มือใหญ่สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อยยามเขาควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (3/4)

    “ข้าก็จะแต่งนางเป็นฮูหยินจริงๆ” “ที่ข้าถามคือเมื่อใดเจ้าจะเลิกแสร้งสติฟั่นเฟือน” อย่างไรวันหนึ่งก็ควรจะอาการดีขึ้น “เรื่องนี้ข้ายังตอบไม่ได้” “สร้างเรื่องโกหกเช่นนี้ ตอนลงหาทางลงดีๆ ด้วยล่ะ มิเช่นนั้นแทนที่จะได้แต่งฮูหยิน นางอาจจะโกรธเกลียดเจ้าจนไม่อยากพบหน้าเลยก็เป็นได้” “...” ในตอนนั้นเขาไม่ทันคิดถึงผลที่ตามมาจริงๆ เขาใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้ชั่วครู่ยามสบตากับนาง ก่อนที่ปากจะเอื้อนเอ่ยเรียกนางเช่นนั้นออกมา “ชักอยากจะเห็นวันที่นางโกรธเจ้าแล้วสิ” กล่าวจบก็ลูบหัวเสี่ยวอ้ายที่เลื้อยออกมาจากแขนเสื้อ ‘ปากดีต่อหน้าแม่นางผู้นั้นไปเถิด วันใดที่โดนนางเมินเฉยข้าจะหัวเราะให้ฟันร่วง’ ลู่จื้อคิดพลางส่งยิ้มอ่อนโยนให้งูสีเหลืองของตน เสี่ยวอ้ายของเขาน่าเอ็นดูที่สุด “หากนางโกรธข้าเช่นที่เจ้ากล่าวเมื่อใด ข้าจะให้เสี่ยวช่างมาจิกเสี่ยวอ้ายของเจ้า” เสี่ยวช่างเป็นเหยี่ยวตัวใหญ่ที่เขาเลี้ยงไว้ “หยุดความคิดของเจ้าไปเลย” ท่านหมอเทวดารีบเก็บสัตว์เลี้ยงของตนเข้าในแขนเสื้อ “เจียวมิ่ง เจ้าพาคนล่วงหน้าไปยัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (4/4)

    เพียงแค่นางเรียกขานว่า ‘สามี’ ก็ทำหูตั้งหางส่ายไปมาราวกับเจ้าเสี่ยวโก่ว “เขาไม่ยอมกินยาเจ้าค่ะ ท่านช่วยใช้วิธีผ่าหัวเพื่อรักษาให้เขาหายจากสติฟั่นเฟือนได้หรือไม่เจ้าคะ” “คงมิได้หรอกแม่นาง ข้ายังไม่เคยผ่าหัวใครเลยสักครั้ง” “เช่นนั้นใช้เขาลองเถิดเจ้าค่ะ” นางคอยถามไถ่เรื่องกินยาด้วยความเป็นห่วงอยู่หลายวัน แต่เขากลับโกหกนาง มันน่าโมโหหรือไม่ “ฮูหยิน...” “บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า” นางเฝ้าดูแลเขามาหลายวัน แต่เขากลับไม่กินยา เช่นนี้เมื่อใดจะหายกันเล่า “ฮูหยินไม่เอา ไม่กล่าวเช่นนั้น พี่ขอโทษเจ้าหายโกรธพี่ได้หรือไม่” “ข้าไม่ได้โกรธเจ้าค่ะ ” แค่หงุดหงิดเพียงเท่านั้น “หากเจ้าไม่ได้โกรธพี่แล้วเจ้ากำลังจะเดินไปที่ใด ท่านหมอห้ามเจ้าเดินเหินมิใช่หรือ” เขากล่าวเสียงอ่อนพลางทำท่าจะลุกเดินตามนาง “ข้าหายแล้วเจ้าค่ะ และท่านหยุดเท้าอยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ข้าขออยู่คนเดียวเงียบๆ” ขอนางสงบสติอารมณ์ชั่วครู่ เขาไม่ได้เป็นสามีนางจริงๆ เสียหน่อย นางไม่ควรต้องห่วงใยเขามากถึงเพียงนี้ “เช่นนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 5 ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย (1/4)

    5ใกล้ถึงเวลาแยกย้าย หลังจากปรนนิบัติและส่งฮูหยินเข้าห้องเรียบร้อยแล้ว ท่านหมอเทวดาก็ถูกสหายลากเข้าห้องของผู้ติดตามซึ่งอยู่ไกลจากห้องของนางไม่มากนักเพื่อสอบถาม “นางสนทนาเรื่องอันใดกับเจ้า” “นางแค่สงสัยอาการเจ็บป่วยของเจ้า” “สงสัยเรื่องอันใด รีบเล่าให้ข้าฟังบัดเดี๋ยวนี้” ท่าทางร้อนรนราวกับคนร้อนตัวทำให้ท่านหมอเทวดาอมยิ้ม ดูเหมือนคุณหนูผู้นั้นจะมีความสำคัญไม่น้อย สหายของตนถึงได้ร้อนรนถึงเพียงนี้ “นางก็แค่สงสัยว่าหากเจ้าไม่เคยมีฮูหยินหรือสตรีในเรือนหลังมาก่อน แต่เหตุใดพอสติฟั่นเฟือนถึงได้เอาแต่เรียกนางว่าฮูหยิน” “แล้วเจ้าตอบว่าอย่างไร” “เลิกข่มขู่ว่าจะทำร้ายเสี่ยวอ้ายของข้าก่อน แล้วข้าจะบอก” “เจ้ากล้าต่อรอง” “ข้าเป็นหมอเทวดานะ ไม่ใช้บุตรชายของเจ้า” “ก็ได้ สหายรัก ข้าจะเอ็นดูเสี่ยวอ้ายของเจ้า” ช่างเป็นรอยยิ้มที่แผ่ไปไม่ถึงดวงตา “ข้าก็แค่บอกว่าบางทีเจ้าที่ปักใจรักและวาดฝันจะกราบไหว้ฟ้าดินกับสตรีผู้หนึ่ง อาจจะกำลังสับสนระหว่างความจริงกับความฝัน”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 18 รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง (2/4)

    “หากท่านอยากปีนหน้าต่างจวนข้า คิดว่าใครจะห้ามได้หรือเจ้าคะ” “ที่เจ้ากล่าวมามันก็จริง เช่นนั้นพี่ไปล่ะ กลางวันแดดร้อนไม่น้อย เอาไว้ยามพระจันทร์ฉายแสงค่อยเจอกันอีกครั้ง” กล่าวจบเขาก็กลับไปขึ้นรถม้า ‘เช่นนั้นวันนี้ท่านก็คงมาเจอข้าไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ เพราะวันนี้เป็นคืนเดือนมืด’ มุมปากหยักของซูหนิงเซียนยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าจวนของตน เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกจากจวนซูได้ชั่วครู่แล้ว คุณชายหยางจึงบอกกล่าวผู้ติดตามก่อนจะทะยานออกจากรถม้าไป “ลมอันใดหอบเจ้ามาที่จวนของข้า” ท่านหมอเทวดาหยอกเย้าสหายที่มีสีหน้าเรียบเฉยดั่งเช่นยามปกติ วันนี้หลอมยาถอนพิษหายากได้สำเร็จ ลู่จื้อจึงอารมณ์ดียิ่งนัก นิ้วเรียวยาวดุจลำเทียนลูบหัวงูสีเหลือง ซึ่งเจ้าเสี่ยวอ้ายคล้ายจะชอบใจยามถูกเจ้านายสัมผัส มิเช่นนั้นคงมิอยู่นิ่งให้อีกฝ่ายลูบไล้เล่น “ลมของแม่นางเซียวอ้ายช่างอย่างไรเล่า เมื่อยามเซิน (15.00-16.59) เจ้าไปที่ใด ข้ามาหาเจ้าที่จวนไม่เจอ” “เสี่ยวอ้ายร่ำร้องอยากออกไปเดินเล่นชมป่าด้านหลัง ข้าจึงตามใจ” “มัวแต่สนใจเ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 18 รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง (1/4)

    18รักวุ่นวายของสหายทั้งสอง เมื่ออับจนหนทาง สตรีที่พึงใจหวาดระแวงจนอยากเลื่อนการสู่ขอออกไป เขาที่รักมั่นและรอนางมานานมีหรือจะยอม สุดท้ายจำใจต้องหักหลังสหายยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟัง “ที่แท้คู่หมั้นผู้นั้นก็คือท่านหมอเองหรือเจ้าคะ แล้วท่านไปสนิทกับท่านหมอได้อย่างไร มิใช่เพิ่งเจอกันยามที่เขามารักษาอาการสติฟั่นเฟือนให้ท่านหรือเจ้าคะ” คำถามของนางทำให้รอยยิ้มบางของเขาค้างแข็ง “เซียนเอ๋อร์ พี่ยอมแล้ว พี่ขอโทษที่โกหกเจ้า” “ท่านโกหกข้าเรื่องใดเจ้าคะ เรื่องที่อ้ายช่างเป็นคู่หมั้นของท่านหมอ หรือเรื่องที่ท่านสติฟั่นเฟือน” น้ำเสียงและสีหน้าที่ราบเรียบของนางช่างดูคล้ายคลึงกับมารดายามมีโทสะ “แท้จริงแล้วพี่โกหก ในตอนนั้นพี่ไม่ได้สติฟั่นเฟือน แต่พี่เพียงอยากอยู่ใกล้เจ้า เจ้าอาจจะไม่รู้ว่าพี่ดีใจมากเพียงใดที่ได้พบเจอเจ้าอีกครั้ง” ท่าทางหูลู่หางตกคล้ายเจ้าเสี่ยวโก่วยามหวาดหวั่นทำให้นางรู้สึกหมั่นไส้ยิ่งนัก ช่างมากเล่ห์ มากมารยา หากตบแต่งกันไปนางเปิดโรงงิ้วให้เขาเลยดีหรือไม่ รายได้คงงอกเงยมิน้อย “เพราะดีใจที่ได้เจอ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (4/4)

    “สบายดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านเจ๋อคุน” “ข้าสบายดีขอรับ” “ได้ความว่าอย่างไร” “คือว่า...” เมื่อผู้ติดตามของสหายทำท่าจะเอ่ยปากรายงาน นางที่ไม่อยากเป็นคนรู้เยอะจึงรีบกล่าวคำอำลา “เจ้าคงมีเรื่องที่ต้องทำ ข้าเองก็เช่นกัน อีกสองวันข้าจะไปหาเจ้าที่จวน อย่าลืมเตรียมขนมไว้รอข้าด้วย” ซูหนิงเซียนกล่าวด้วยใบหน้าที่แต่งแต้มรอยยิ้ม นางไปอยู่เมืองซานโจวได้เพียงสามวันก็ได้ช่วยเหลืออ้ายช่างที่กำลังถูกเอารัดเอาเปรียบ สุดท้ายได้นางช่วยเหลือ จึงกลายเป็นสหายกัน แม้จะคบหากันได้เพียงสี่เดือนแต่ทว่ายิ่งสนทนากลับยิ่งคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานหลายปี “ได้! ข้าจะรอเจ้า” เมื่อบอกลาสหายเสร็จเรียบร้อยนางจึงรีบเดินไปที่รถม้า แต่เมื่อถึงรถม้ากลับพบว่าหยางซีซวนยืนรออยู่แล้ว “ขออภัยเจ้าค่ะที่ข้ามาช้า ท่านมารอนานแล้วหรือ” “มินาน พี่มาถึงก่อนเจ้าเพียงชั่วครู่” คำกล่าวของคุณชายทำให้เจียวมิ่งที่แฝงกายอยู่ไม่ไกลอมยิ้ม ส่วนเจียวเจี๋ยที่กลับมาเร้นกายอยู่ข้างๆ รีบสะกิดเตือนไม่ให้พี่น้องร่วมสาบานหัวเราะออกมา

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (3/4)

    “เสร็จแล้ว ก่อนกลับแวะดูเครื่องประดับติดมือกลับจวนสักชิ้นหรือไม่” “อย่าเพิ่งดีกว่าเจ้าค่ะ ไปดูตอนนี้ข้าจะได้กลับเพียงแค่ชิ้นเดียว แต่หากพาท่านกลับจวนไปเป็นสามี เกรงว่าข้าก็จะได้เครื่องประดับทั้งหมด ความคุ้มค่าช่างแตกต่างกันนัก” “ขออภัยฮูหยิน เป็นพี่ไม่รอบคอบ เช่นนั้นพาพี่กลับจวนไปเป็นสามีตอนนี้เลยดีหรือไม่ พี่ยินดีมอบร้านฝากเงินและโรงเตี๊ยมให้เจ้าอย่างไม่อิดออด ” “หลังส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าแล้ว หากข้าไม่อนุญาต ห้ามท่านไปอวดร่ำอวดรวยให้สตรีที่ไหนฟังเช่นนี้เข้าใจหรือไม่เจ้าคะ ข้ามิอยากปวดหัวเรื่องสตรีในเรือนหลัง” “มิต้องห่วง ต่อจากนี้กิจการร้านค้าทุกอย่างของพี่มอบให้เจ้าดีหรือไม่ ให้เจ้าเป็นเถ้าแก่เนี้ย ส่วนพี่จะเป็นลูกจ้างทำงานให้เจ้ากับลูกแทนดีหรือไม่” “ใจป้ำยิ่งนัก หยุดหยอกเย้าข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าอยากกลับจวนแล้ว” “พี่นั่งหลังขดหลังแข็งตั้งใจตรวจบัญชีอยู่นาน เจ้ามิคิดจะมอบรางวัลให้พี่บ้างหรือ” เขากล่าวพลางลุกขึ้นแล้วเดินมาใกล้นาง “อยากได้อันใดเจ้าคะ” สิ้นเสียงนาง บุรุษที่ติดใจรางวัลในคืนนี้ ใช้

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (2/4)

    “ได้โปรดใจเย็นเจ้าค่ะ ให้ข้าได้แก้แค้นสองคนนั้นก่อนได้หรือไม่” “หนิงเซียน หากเจ้าแต่งกับพี่แล้ว เจ้ายังสามารถแก้แค้นคนพวกนั้นได้ พี่บอกแล้วอย่างไร ว่ายินดีจะสนับสนุนและช่วยเก็บกวาดให้เจ้า” เขารักและหวงแหนนางเหลือเกิน “หากข้าแต่งงานกับท่าน ลี่อินนางก็จะไม่มุ่งมั่นอยากแย่งชิงข้า...ซีซวน ข้าคิดออกแล้ว ท่านส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้าเถิด” ซูหนิงเซียนตั้งใจจะปฏิเสธเช่นทุกครั้ง แต่ภาพที่สหายพยายามจะโผเข้าหาบุรุษรูปงามผู้นี้ทำให้นางคิดเรื่องบางอย่างออก “ฮูหยินของพี่ ที่เจ้ากล่าวมาเป็นเรื่องจริงหรือ” เขาที่ยังกุมมือนางเอาไว้รีบคุกเข่าลงบนพื้น นัยน์ตาดำที่จับจ้องนางฉายแววดีใจ “จริงเจ้าค่ะ ข้ายินดีจะแต่งกับท่าน เพียงแต่ท่านจะว่าอันใดหรือไม่หากข้าจะใช้เรื่องนี้ช่วยปิดบัญชีแค้นระหว่างข้ากับหม่าลี่อินและกวางเหลียงอี้” “ไม่ว่าๆ ขอเพียงเจ้ายอมแต่งกับพี่ พี่ยอมทั้งนั้น” สีหน้าที่บ่งบอกว่าดีใจของเขาทำให้นางเริ่มรู้สึกผิดจึงคิดจะเปลี่ยนใจ “แต่...” “ไม่มีแต่ พี่ยินดีร่วมมือกับเจ้า ขอเพียงการแต่งงานครั้งนี้มันกลายเป็น

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 17 คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี (1/4)

    17คุณหนูซูคือสตรีที่โชคดี หลังจากหยางซีซวนพานางออกจากที่ตรงนั้นแล้ว เขาพานางไปที่ร้านเป่าปินซึ่งเป็นร้านขายเครื่องประดับล้ำค่าราคาแพง โดยในกาลก่อนนางมักจะถูกสหายชักชวนให้มาเลือกซื้อเครื่องประดับที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่ายามที่หม่าลี่อินเลือกให้นางก็ต้องจ่ายตำลึงเพื่อซื้อปิ่นล้ำค่าให้สหายที่ตนคิดว่าแสนดี “คารวะคุณชาย คารวะคุณหนูขอรับ” หลงจู๊ของร้านรีบตรงเข้ามาทักทายด้วยท่าทีนอบน้อม “เตรียมขนมและน้ำชาให้คุณหนูซูด้วย” “ขอรับคุณชาย” ชายวัยกลางคนตอบรับก่อนจะเดินแยกไป “เข้าไปด้านในกันเถิด” เขากล่าวพลางจับมือนางที่กำลังมีสีหน้างุนงงให้เดินตาม ยามที่เดินผ่านคนงานของร้าน ทุกคนก็จะหยุดนิ่งก่อนจะแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม กว่านางจะจับต้นชนปลายถูก เขาก็พานางมาถึงห้องทำงานที่อยู่ด้านบนซึ่งเป็นเขตหวงห้าม “เจ้านั่งรอพี่ตรงนั้นก่อน” ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยเมื่อครู่เลือนหาย หลังที่ยืดตรงสง่าผ่าเผยเมื่อครู่งองุ้มลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาแลดูโศกเศร้า ท่าทางคลับคล้ายคลับคลากับเสี่ยวโก่วยามถูกเจ้านายทอดทิ้งทำให

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (5/5)

    เพียะ มือเรียวของหม่าลี่อินยกขึ้นตบใบหน้าตนเอง แม้ไม่แรงมากแต่ก็สามารถดึงความสนใจของคนรอบข้างให้หันมาสนใจได้ “ข้ามันปากไม่ดี กล่าวว่าสหายเช่นเจ้า ข้าทราบว่าเจ้ามิได้คิดเช่นนั้น ข้าเพียงแต่น้อยใจที่คู่หมั้นของตนคล้ายจะสนใจเจ้ามากกว่าข้า ให้อภัยข้าเถิดนะหนิงเซียน” “ข้าไม่เคยโกรธอันใดเจ้า อย่าได้ลงโทษตนเองเช่นนั้น ที่ข้าเปลี่ยนใจไม่ไปชมดอกไม้กับเจ้าแล้วก็เพราะข้าคิดว่าการปล่อยให้เจ้าและคู่หมั้นจิบน้ำชาชมดอกไม้กันเพียงลำพังจะได้ถือโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามก่อนแต่งงาน จะว่าไปฤกษ์แต่งงานของเจ้ากับมือปราบกวางคือเมื่อใดหรือ เหตุใดเจ้ายังไม่บอกกล่าวข้า” “อย่างไรข้าก็อยากให้เจ้าไปชมดอกไม้ด้วยกัน ส่วนเรื่องฤกษ์นั้นเป็นของผู้ใหญ่หากถึงเวลาเมื่อใดข้าจะบอกเจ้าเอง” จะมีฤกษ์ได้อย่างไรในเมื่อแท้จริงนางและกวางเหลียงอี้ต่างมีเป้าหมายที่ตนต้องการ “เซียนเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้ขัดขวางยวนยาง ไปเที่ยวเล่นกับพี่ดีกว่า ไม่ได้เจอเจ้านาน พี่คิดถึงยิ่งนัก” หากไม่ติดว่าต้องเล่นบทงิ้วต่อหน้าสหายชั่ว นางคงกลอกตาไปมาหลายรอบ ไม่ได้เจอกันนานอย่างไร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (4/5)

    ‘ที่เป็นเช่นนั้นเพราะนางมีจิตใจที่ดีมิใช่หรือ’ คำกล่าวของบุรุษผู้นั้นทำให้สตรีที่ถูกกล่าวถึงกำมือเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ “ลี่อิน เจ้าเป็นอันใดหรือไม่ เหตุใดถึงได้หน้าแดงถึงเพียงนั้น” “คงร้อนอบอ้าว เรารีบเดินกันเถิด” พวกปากไม่มีหูรูดเอาแต่ติฉินนินทาเรื่องของผู้อื่น สนใจเรื่องของตนบ้างเถิด สวนที่พวกนางจะไปชมดอกไม้คลายร้อนกันนั้นอยู่ไม่ห่างจากโรงเตี๊ยมเลี่ยงจินเท่าใดนัก หม่าลี่อินเลือกที่จะเดินผ่านมาทางนี้ทั้งที่อีกทางต้องเดินใกล้กว่าคงคาดหวังที่จะได้พบเจอใครบางคน เรื่องราวการพาตัวบุตรชายกลับบ้านของหยางฮูหยินในวันนั้นไม่ได้มีการถูกปิดเป็นความลับแต่อย่างใด จึงไม่แปลกที่สหายชั่วของนางจะคาดหวังว่าจะได้เจอเขาเมื่อผ่านมาที่แห่งนี้ หากทราบว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นของเขา หม่าลี่อินคงแทบจะถอดอาภรณ์วิ่งเข้าใส่ บุรุษที่นอกจากจะร่ำรวยด้วยตนเองแล้วยังมีอำนาจของตระกูลหนุนหลัง สตรีใดบ้างจะไม่ปรารถนา “เซียนเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะไปที่ใดหรือ” แม้ท่าทางจะสง่างามแต่ทว่านางกลับเห็นเหงื่อที่ผุดพรายบริเวณไรผมของเขา ‘คงร

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   บทที่ 16 เจ้ามารยา (3/5)

    “พี่เหลียงอี้ ท่านมาทำอันใดแถวนี้เจ้าคะ” คำกล่าวคล้ายจะเป็นความบังเอิญ แต่นางที่รู้จักคนทั้งสองมาถึงสองชาติเหตุใดจะมองแผนการตื้นเขินนี้ไม่ออก “พี่มาเดินตรวจแถวนี้ เจ้ากับคุณหนูซูจะไปที่ใดกันหรือ” “หนิงเซียนจะพาข้าไปร้านขายอาภรณ์เจ้าค่ะ ท่านไปช่วยพวกข้าเลือกอาภรณ์ได้หรือไม่” คำกล่าวของสหายชั่วทำให้นางก้มหน้าซ่อนแววตาเย้ยหยัน ‘ข้าบอกเจ้าว่าจะมาเดินเล่นนอกจวนมิใช่หรือ ร้านอาภรณ์อันใดข้ามิเคยกล่าวถึง’ “ได้สิ พี่ยินดี” กล่าวจบมือปราบหนุ่มก็จ้องมองคุณหนูซูอย่างไม่วางตา จนหม่าลี่อินชักสีหน้าไม่พอใจ ต่อให้ตนไม่คิดแต่งกับบุรุษฐานะต่ำต้อยอย่างกวางเหลียงอี้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้สตรีอื่นได้ใจเขาไป “ลี่อิน เจ้าได้พบเจอคู่หมั้นแล้ว หากเจ้าอยากไปร้านอาภรณ์ให้มือปราบกวางพาไปดีหรือไม่” “แต่ข้าอยากให้เจ้าไปด้วย” เขาหรือจะสามารถจ่ายตำลึงซื้ออาภรณ์ล้ำค่าให้ตนได้ “ลี่อิน คุณหนูซูอาจจะไม่อยากไปร้านขายอาภรณ์ เจ้าอย่าได้เอาแต่ใจให้มากนัก” กล่าวจบก็หันมาจ้องมองนางด้วยแววตาหวานซึ้ง หวานซึ้งอันใดกัน ข

DMCA.com Protection Status