ในวันนี้กัสต้องอยู่ในมหาวิทยาลัย เพื่อซ้อมบทละครสองฉากสำคัญ ซึ่งซ้อมเฉพาะฉากของกัสกับพีคแค่นั้น ส่วนเขื่อนได้ซ้อมไปทุกฉากแล้วที่เข้าคู่กับพีค
“น้องกัสวันนี้เป็นซ้อมใหญ่ฉากของนิวและมีนไหวไหม”เจนนี่ผู้กำกับละครเวทีพูดขึ้นด้วยความมั่นใจในความสามารถของกัส
“ไหวครับ”
“พีคล่ะ ไหวไหมซ้อมหนักทุกวัน”เจนนี่อมยิ้มนิดๆให้กับพีคเพื่อนหนุ่ม
“โอ๊ย สบายมากยิ่งได้เล่นกับกัสเข้าขากันดี”
กัสฟังคำพูดของพีคแล้วรู้สึกทะแม่งในใจ เพราะเขาและพีคไม่ได้สนิทกันเลย แค่ไปส่งที่ห้องเช่าอย่างเดียว ไม่เคยไปไหนมาไหนกับพีคเหมือนเขื่อน
“เอาล่ะ เริ่มเลยนะ เอาตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเลย”
“ครับกัสรับคำ”
นิวนักศึกษาหนุ่มกำลังเดินตามหาวินที่คณะ เขาจึงไม่ได้มองทางเดินเท่าไรนัก เพราะใจของเขาอยากจะไปเจอเพื่อนไวๆ นิวจึงไม่ทันระวังจนไปชนนักศึกษาหนุ่ม จนร่างของขาเซล้มลงกับพื้น
“โอ๊ย”นิวร้องด้วยตกใจและเจ็บก้นกบ
“ผมขอโทษไม่ได้ตั้งใจ”มีนนักศึกษาหนุ่มนั่งยองๆยื่นมือให้นิว
เพียงนิวเงยหน้ามองมีนเขาถึงกับตาค้าง เพราะนักศึกษาหนุ่มผู้นี้หล่อมาก หุ่นดีสูงขาวตี๋ซึ่งตรงสเปคของเขา ถึงแม้จะเจอกันครั้งแรก แต่ความหล่อก็ทำให้นิวนั้นได้หวั่นไหวอย่างมาก
“เป็นอะไรหรือเปล่า”มีนพูดขึ้นทันทีเพราะเขาไม่เห็นท่าทีของนิวจะจับมือของเขา
“อ่อ”
นิวไม่ยอมจับมือของมีนเขาพยายามลุกขึ้นด้วยตัวเองจนสำเร็จ หลังจากนั้นเขาก็รีบเดินไปยังคณะของวิน
“เดี๋ยวก่อน”พีคเรียกขานอยู่ด้านหลังของนิว
“อะไร”นิวหันหน้ามามองมีน
“คือ นายอยู่ปีหนี่งเหมือนกันใช่ไหม”
“ใช่ แล้วทำไมมีอะไรเหรอ”
“เราก็ปีหนึ่งเหมือนกันเรียนคณะบริหารธุรกิจนายล่ะ”
“นิเทศศาสตร์”
“เราชื่อมีน นายชื่ออะไร ไหนๆเราสองคนก็เดินชนกัน น่าจะทำความรู้จักกันไว้ก็ดีนะ อยู่ปีหนึ่งเหมือนกันด้วย”
“เราชื่อนิว แต่เรามีธุรนะต้องไปล่ะ”
“แค่รู้จักชื่อและคณะที่เรียนแค่นี้เราก็โอคแล้ว เผื่อวันหลังได้เจอกันอีกเราจะได้ทักไง”
“อือ”
ความจริงนิวอยากจะอยู่คุยกับมีนต่อ แต่เขาต้องไปหาวินเพื่อนรัก เพราะมีนัดกันไว้ว่าจะไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า
“เก่งมากกัส”เจนนี่สั่งหยุด
“ต่อไปนะเป็นอีกฉากที่ทั้งสองเจอกันโดยบังเอิญอีกครั้ง”
ช่วงเวลานี้กัสแยกไม่ออกระหว่างพีคกับมีน แต่นั่นกับเป็นผลดีต่อการแสดงของกัส เพราะเขาได้แอบหลงรักพีค จึงทำให้สายตาของเขามองพีคตอนแสดงมาจากข้างในจริงๆ
“เอาล่ะกัส พีค เล่นต่อไปอีกฉากเลย”
ในระหว่างที่กัสกำลังจะกลับบ้านคนเดียวเพียงลำพัง เพราะเลิกเรียนไวส่วนวินยังต้องเรียนอีกหนึ่งวิชา
“นิว”เสียงผู้ชายตะโกนจากด้านหลังของนิว
เมื่อนิวได้ยินเสียงนั้นเขาจึงรีบหันไปมอง ซึ่งก็เป็นมีนนักศึกหนุ่มที่เดินชนกับวินเมื่อวาน วินจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมมีนจึงวิ่งตามเขามา
“มีอะไรเหรอ”
“เมื่อวานเราลืมขอเบอร์และไลน์นายน่ะ”
“เอาไปทำไม”
“ก็ เป็นเพื่อนกันแล้วนี่ ยังไม่มีเบอร์หรือไลน์กันมันก็ดูแปลกๆนะ หรือว่านายไม่อยากเป็นเพื่อนกับเรา ถ้าอย่างงั้นเราไปแล้วไม่รบกวนนายหรอก”
“เรายังไม่ได้พูดอะไรเลย”นิวพยายาฝืนที่จะไม่ยิ้มออกมา
“เราก็ใจร้อนไปได้หนอ”
“อือ”นิวอมยิ้มนิดๆ
นิวจึงบอกเบอร์มือถือให้มีน สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เพราะมีนรีบโทรเข้าเครื่องทันที
“ขอบใจมากนะ แล้วจะไปไหนเห็นเดินอย่างเร็วเลย”
“กลับห้อง”
“อ่อ ถ้างั้นเราไปส่งไหม เราเอารถมาด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก”
“ไม่เป็นไรได้ไง เพราะเป็นเพื่อนกันแล้ว เราก็กำลังจะกลับบ้านเหมือนกัน”
นิวยืนนิ่งครุ่นคิดชั่วครู่ เพราะพี่งรู้จักกันแค่สองวัน ถึงเขาจะรู้สึกถูกชะตากับมีนก็ตาม แต่นิวยังไม่ค่อยไว้ใจเท่าไรนัก ถึงแม้หน้าตาจะดีมีรถหรู
“ไม่ต้องคิดมากเราไม่ทำอะไรนายหรอก”มีนอมยิ้มนิดๆ
“เปล่าเราไม่ได้กลัว แต่แปลกใจแค่นั้นว่านายทำไมถึง เอ่อ”
“เอ่อ อะไร หรือคิดว่าทำไมเราถึงตามนายใช่ไหม ถ้านายคิดอย่างที่เราพูด เราบอกให้ก็ได้ เพราะเราถูกชะตากับนายไง”
“เหรอ ไปก็ได้”
“ต้องให้ได้อย่างนี้สิเพื่อนรัก”
นิวยืนยิ้มนิดๆให้มีน เพราะในสิ่งที่มีนพูดออกมานั้นตรงใจเขาทุกอย่าง และรู้สึกดีมากๆที่มีนพูดออกมาอย่างนี้
“คัท โอค เก่งมากทั้งพีคและกัสเลย”เจนนี่ผู้กำกับสาวเอ่ยขึ้นมา
“กัสสุดยอดมาก พี่แท่บจะไม่ได้สอนอะไรกัสเลย ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนพี่ยังคิดว่ากัสชอบพีคจริงๆ”เกรซแอคติ้งโค้ชประจำชมรม พูดทีเล่นทีจริง
กัสไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเขารู้สึกเขินในคำพูดของเกรซ จนทำให้เขาไม่กล้าสบตาพีคที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขา
“ใช่ กัสเก่งมากเลย”พีคมองนิวด้วยสายตาเอ็นดู
“เอาล่ะไม่ต้องมัวมาชมกัน วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้กัสมาซ้อมต่อนะ”เจนนี่พูดขึ้น
“ครับ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ เอ๊ะ ในละครรุ่นเดียวกันแต่ในชีวิตจริงเป็นรุ่นพี่ แสดงว่าพี่หน้าเด็กใช่ไหม”พีคจ้องไปที่ใบหน้าของกัส
“น่าจะใช่ครับ”
“ไปถามน้องอะไรอย่างนั้น หลงตัวเองอีกแล้วนะพีค”เกรซแอคติ้งโค้ชปาดสายตามองพีค
“มันก็ต้องมีบ้าง แต่ไม่คุยด้วยแล้วไปส่งกัสดีกว่าคุยกับพวกเธอเป็นไหนๆ เราไปกันดีกว่ากัสปล่อยให้สาวๆเขาอยู่ที่นี่แหละ”
กัสไม่ได้พูดตอบโต้อะไร เขาจึงไปหยิบหนังสือที่วางไว้ แล้วค่อยๆเดินออกไปจากห้องชมรมการละคร โดยมีพีคที่เดินตามมาติดๆจนเดินคู่กัน
“กลับห้องเลยใช่ไหมหรือว่าจะไปไหนต่อหรือเปล่า”พีคเอ่ยขึ้น
“อือ เอ่อ”กัสอ่ำอึ้งเพราะเขายังไม่อยากกลับ ยังอยากอยู่กับพีคต่อแต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
อือ เอ่อ อะไร มีอะไรบอกพี่มาเลยก็ได้”
“ไม่มีอะไรครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรถ้างั้นก็กลับห้องก็แล้วกัน”
“ครับพี่”
กัสรู้สึกผิดหวังที่พีคไม่ชวนไปไหนต่อ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอยากจะเป็นฝ่ายเอ่ยชวนด้วยซ้ำ แต่ใจของกัสก็ไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น
“เป็นอะไรดูเงียบๆไป”พีคมีสีหน้าที่สงสัย
“เปล่าครับพี่”
“ถ้าไม่มีอะไรก็ไปกันเลย”พีคพูดโดยไม่ได้สนใจอะไรเท่าไรนัก
อารมณ์ของกัสตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปไหนต่อกับพีค อีกใจหนึ่งก็ยังพอชื้นใจอยู่บ้างที่พีคขับรถมาส่งเขาที่ห้องเช่า
“ช่วงนี้กัสเรียนเป็นไงบ้าง”พีคพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“ก็ไม่มีอะไรครับ”
“ดีแล้ว พี่ว่ากัสนี่เรียนเก่งนะ ไม่ค่อยมีปัญหาการเรียนเท่าไร ไม่เหมือนเขื่อนรายนั้น เดี๋ยวไอ้นั่นไอ้นี่วุ่นวายไปหมด ไหนจะต้องไปทำงานพาร์ทไทม์หาเงินเรียนอีก”
คำพูดคำชมหรือแม้แต่คำติที่เกี่ยวกับเขื่อน นิวนั้นไม่อยากฟังอยากได้ยินอีกต่อไป ถึงแม้เมื่อก่อนเขาจะสนใจเรื่องราวของเขื่อน เพราะว่าเขื่อนได้เป็นเพื่อนสนิทของเขา แต่ในตอนนี้กัสรู้สึกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนกับเขื่อนเท่าไรนัก
“เขื่อนเขาขยันเรียน เก่งอยู่ เขื่อนเขาพูดไปอย่างนั้นแหละ”
“พี่ว่าไม่น่าใช่มากกว่า แต่ก็เป็นเสน่หอย่างหนึ่งนะ”
“ใช่ เขื่อนเป็นคนมีเสน่ห อยู่ใกล้ใครคนนั้นก็หลงรัก”กัสอดใจไม่ไหวพูดประชดในคราบความเป็นจริง
“คงอย่างงั้น เพราะพี่อยู่ใกล้เขื่อนก็มีความรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกันนะ”
นิวแอบมองใบหน้าของพีคที่มีรอยยิ้มอันสดใส ยิ่งใบหน้าของพีคขาวใสออกแนวตี๋ เมื่อรวมกับอาการลักษณะนี้ทำให้พีคพี่เสน่หมากยิ่งขึ้น แต่กัสกับไม่ชอบรอยยิ้มอันนี้ เพราะบ่งบอกได้อย่างดีว่าพีคแอบมีใจให้เขื่อน
“พี่คงชอบเขื่อนมั้ง”กัสเอ่ยขึ้น
“ไม่รู้สิ กัสว่าไงบ้างล่ะ”
“ว่าอะไร”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก”พีคตัดบททันที
กัสรอคำตอบนั้นแต่ก็ไม่ได้รับรู้สิ่งที่พีคอยากจะบอก ถึงอย่างไรเขาก็รู้ได้จากใบหน้าและคำพูดของพีคที่แสดงออกมาชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้จิตใจของกัสแสนจะเคว้งคว้างและดิ่งลงอย่างมาก
กัสผิดหวังพอสมควรที่พีคไม่ได้ชวนเขาไปเที่ยวไหน ตอนอยู่บนรถพีคก็ชวนกัสคุยตลอดทาง เป็นการคุยที่ไม่ใช่คนรักกันหรือแอบชอบแต่อย่างใด จึงสร้างความผิดหวังให้แก่กัสอย่างมาก เมื่อเขามาถึงห้องจึงรีบเขียนนิยายต่อทันที เช้าวันใหม่ยิวได้เห็นสภาพของจันที่หนาวจนตัวสั่น เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับจันในช่วงเวลานี้ เขาจึงเดินไปหาผู้คนมากมายที่อยู่ในขบวนเพื่อขอยา ก็ยังพอมีคนที่มีน้ำใจให้มาซึ่งยิวไม่รู้ว่ายานั้นจะได้ผลหรือไม่ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่ปั้นเป็นยาลูกกลอน แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกยิวจึงรีบเอามาให้จันได้กินเดี๋ยวนั้นทันที “กินยาซะ” “ขอบคุณพี่มากเลย” “ไม่เป็นไรหรอกเราเป็นพี่น้องกัน เดี๋ยวตอนเย็นถึงเมืองศิลานครแล้ว พี่รับรองท่านแม่ทัพจะหาหมอเก่งๆมารักษาจันอย่างแน่นอน “ข้าจะรอ” ยิวมองจันกินยาอย่างยากเย็นเพราะเม็ดค่อนข้างใหญ่พอสมควร เมื่อจันได้กินยาเสร็จก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังเมืองศิลานคร เพราะหัวหน้าขบวนได้ตะโกนบอกทุกคนให้ได้รับรู้ และเตรียมตัวเพื่อที่จะเดินทางต่อไป ความรู้สึกนึกคิดของยิวตอนนี้เขาไม่มั่นใจเล
กัสหยุดนิ่งไปยอมเขียนต่อ เพราะช่วงนี้จิตใจของเขายังว้าวุ่นอยู่มาก กัสจึงหยิบบทละครมาอ่านและทบทวน เพื่อจะได้เล่นให้ดีเป็นที่พึ่งพอใจแกพีค คนที่เขาแอบรักและฝันใฝ่หาอยู่ตลอดเวลาทุกเช้าบ่าย กัสจึงเริ่มอ่านตอนต่อจากเมื่อวานที่ได้ทำการซ้อมกัน นิวได้ตอบรับคำชวนของมีนไปดูหนังในค่ำคืนนี้ ทีแรกเขาก็ไม่กล้าไปแต่ในเมื่อใจของเขาต้องการจึงไม่ยากที่จะปฏิเสธความต้องการของตัวเองได้ ซึ่งในส่วนตัวของนิวก็ไม่ได้ชอบดูหนังเท่าไร แต่เมื่อได้ไปดูกับคนที่แอบปลื้มนั้น ชอบหรือไม่ชอบก็ไม่ได้มีความหมายอีกต่อไป เป็นครั้งแรกที่นิวต้องมาดูหนังสยองขวัญในช่วงเวลากลางคืน เขามีความกลัวอยู่บ้างแต่อย่างน้อยยังมีคนข้างกายเป็นชายหนุ่มที่เขามีความรู้สึกดีๆให้ นิวจึงคลายความหวาดกลัวไปได้พอสมควร “ปิดหน้าทำไม”มีนเอ่ยถามเมื่อหันมาเห็นวินปิดหน้าเพราะกลัวฉากหวาดเสียว “กลัวนิดหน่อย” “อยู่ใกล้ๆผมไม่ต้องกลัวหรอก” มีนดึงมือของนิวมาจับไว้บนต้นขาของเขา เพื่อเพิ่มความอุ่นใจและไว้ใจว่าไม่ต้องกลัวสิ่งใดทั้งนั้นในช่วงเวลานี้ มืออันใหญ่หยาบเล็กน้อยที่ได้สัมผัสมื
บ่ายนี้อีกฉากหนึ่งซึ่งจะมีเลิฟซีนระหว่างนิวกับมีน จึงทำให้กัสตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่เข้าจะได้ใกล้ชิดพีคแบบถึงเนื้อโดนตัว นิวนั่งรอการมาของมีนในห้องเพียงลำพัง เพราะวินได้กลับบ้านไปในช่วงวันหยุดทีแรกนิวไม่อยากให้มีนมา แต่โดยลูกตื้อของมีนไม่ไหวเขาจึงจำใจให้มีนเข้ามาในห้องของเขา เมื่อถึงเวลาที่นัดหมายมีนได้มาถึงไม่ขาดไม่เกินเวลาพอดีประจวบเหมาะ “รอนานไหม”สายตาดุจพญาเสือของมีนพุ่งมุ่งไปยังร่างของนิว พร้อมยืนองอาจอยู่หน้าของนิว ซึ่งในขณะนี้นิวนั่งอยู่บนเก้าพลาสติกสีขาว “ไม่รู้นะ เพราะว่าเราอยู่ในห้องเป็นปกติ”นิวหลบตาต่ำมองพื้นห้องด้วยแพ้สายตาของมีน “อือ เราว่านิวจัดห้องได้สวยมากเลยนะ แล้วเพื่อนของนิวไปไหนล่ะ เราก็กะว่าจะได้มาเจอกันที่นี่” “กลับบ้านมาน่าจะมาพรุ่งนี้” “ดีเลย”รอยยิ้มของมีนจัดจ้านดั่งพริกหลายสิบเม็ด “ดีอะไร”แววตาของนิวเคลือบแคลงสงสัยในคำพูดของมีน “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่จะไม่ชวนให้เรานั่งซักหน่อยเหรอ” “นั่งสิ เดี๋ยวเราเอาน้ำมาให้”นิวลุกขึ้นยืนพร้อมก้า
ตอนที่16 ซ่อนรักเมียลับๆ ยิวเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวสูงวัยพร้อมกับยกมือไหว้ แต่เขาไม่ได้ก้มกราบแต่อย่างใด ยิ่งสายตาของหญิงสาวสูงวัยมองอย่างไม่กระพริบตาแม้แต่วินาทีเดียว ใจของยิวสั่นระรัวกลัวความร้ายจะเข้าตัวในไม่ช้า “เอ็งชื่ออะไรมาจากไหนบอกข้ามาซิ”หญิงสาวปาดสายตามองตั้งแต่ศีรษะยันปลายเท้าไม่เว้นแม้แต่ส่วนเดียว “คือ เอ่อ อ่า คือ”ยิวไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดอะไรดี “หรือว่าเอ็งเป็นหญิงสาวชาวป่าชาวเขา” “ไม่ใช่นะ คือ อ่า คือ หนูเป็น เอ่อ อ่า อู” “ภาษาอะไรของเอ็ง อู อ่า อ่า อู อยู่นั่นแหละ เมื่อไรข้าจะทราบว่าเอ็งชื่ออะไร” “หนูชื่อโสภี อ่า”ยิวคิดไม่ออกว่าจะบอกมาจากที่ไหนดี ตอนแรกกะจะบอกว่ามาจากเมืองโสรยา แต่ก็กลัวจะมองดูไม่ดีเพราะเป็นเมืองศัตรูของศิลานคร “เอ็งมาจากที่ไหนลูกเต้าเหล่าใคร” “หนูมาจากเมือง อะไรล่ะ” “เอ๊ะ ข้าถามเอ็งนะว่ามาจากไหน ยังมีหน้ามาย้อนข้าอีก” “อ่อ หนูมาจากเมือง เอ่อ”ยิวพยายามคิดถึงชื่อเมืองที่เขาดูในละครตอนเด็กๆ “เอ้าบอกมาเร็วๆข้าอยากรู้ว่
ฉากสำคัญของละครเวทีเรื่องนี้ได้เริ่มต้นขึ้น ก่อนเล่นจริงมีการซ้อมคร่าวๆอยู่หลายครั้ง ซึ่งเป็นเวลาที่สำคัญมากสำหรับกัสและเขื่อนรวมทั้งพีคด้วย “ให้เรารีบกลับมาห้องมีธุระอะไรเหรอหรือว่าจะเซอร์ไพร์สอะไรเรา”วินมาถึงเขาก็นั่งลงข้างๆนิวทันที “ก็นายอยากรู้จักแฟนเราไม่ใช่เหรอ”นิวอายนิดๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ตอบรับรักมีนเท่าไร เพราะตั้งแต่วันที่มีนไปหาถึงห้องแล้วได้มีอะไรกัน นิวจึงยอมรับรักและมอบใจให้มีนอย่างสุดหัวใจ “ใช่ มาหรือยังเราก็อยากจะรู้จักเหมือนกัน แล้วชื่ออะไรเราคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนกับแฟนเราอย่างแน่นอน ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอแฟนเราด้วย เพราะเรากลับบ้านบ่อย แม้แต่นายเรายังไม่ค่อยได้เจอเท่าไรเลย เราก็เลยลืมๆไปบ้าง” “ไม่เป็นไรหรอกวันนี้นายก็จะเจอแล้วค่อยแนะนำทีเดียวจบเลยดีกว่า” “อือ” ทั้งสองนั่งอย่างระทึกด้วยความอยากรู้ว่าแฟนคนแรกของนิวเป็นใคร ส่วนวินก็อยากรู้ว่าแฟนของนิวเป็นเพื่อนกับแฟนของเขาหรือเปล่า “มาแล้ว”นิวเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู นิวจึงรีบไปเปิดประตูห้องแล้วพามีนเดิ
ตอนที่18 ความรักที่เกิดขึ้น nc25 นิวนั่งนิ่งๆสงบสติอารมณ์และควบคุมความรู้สึกที่ปวดร้าวภายในจิตใจ กัสพยายามแสดงออกมาจากภายใน รวมทั้งความรู้สึกส่วนตัวที่เขาแอบเห็นเขื่อนและพีค ที่ออกจากฉากไปแล้วกำลังจ้องมองเขาด้วยสีหน้าลุ้นให้ผ่านซีนนี้ไปให้ได้ ยิ่งกัสเห็นเขื่อนกับพีคใกล้ชิดกันเขาต้องเก็บความริษยาไว้ภายในใจอย่างสุดยั้ง “คัท เก่งมากน้องกัส”เจนนี่ผู้กำกับสาวปรบมือด้วยความยินดี หลังจากนั้นก็มีเสียงปรบมือคนอื่นตามมา กัสยังไม่สามารถที่จะออกจากความรู้สึกนี้ได้ เขายังนั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม จนหลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ โดยเฉพาะเจนนี่และเกรซต้องวิ่งเข้ามาหากัส “กัส กัส กัส”เจนนี่เขย่าตัวของกัสอย่างแรง “กัส”เกรซอีกคนที่มาเขย่าตัวของกัสด้วยความเป็นห่วงเช่นเดียวกัน ด้วยแรงและเสียงจึงทำให้กัสได้สติขึ้นมา หลังจากดำดิ่งอยู่พักใหญ่ เมื่อกัสได้สติเขาจึงมองไปรอบๆซึ่งมีแต่คนมองเขาเป็นตาเดียว “เป็นอะไรมากหรือเปล่า”เกรซเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไรหรอกครับ”กัสพยายามสลัดความรู้สึกที่ไม่อยากได้รับรู้นั้นทิ้งไป “กัสไห
ตอนที่19 ค่ำคืนแสนสุข ยิวนั่งกินข้าวจนอย่างเอร็ดอร่อยถึงแม้รสชาติจะไม่ถูกคอ ด้วยความหิวโหยเขาจึงกินไม่มีเหลือแม้แต่อย่างเดียว จนสร้างความประหลาดใจแกแม่ทัพวิศรุฒอย่างมาก “เอ็งอดอยากมาจากไหน ถึงกินซะไม่มีเหลือแม้แต่ข้าวเม็ดเดียว”แม่ทัพวิศรุฒจ้องมองยิวด้วยตาไม่กระพริบแม้แต่ทีเดียว “ใช่ เราไม่ค่อยได้กินเลย กินวันละมื้อเอง แถมเป็นมื้อที่นิดหน่อยเท่านั้น” “ดูท่าจะจริง เพราะไม่มีน้ำมีนวลเหมือนอย่างแต่ก่อน” “จะมีได้ไง อยู่กลางป่ากลางเขากินอดกินอยากทุกวัน” “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็กินซะให้อิ่มแล้วค่อยไปอาบน้ำ หลังจากนั้นค่อยมาคุยกัน” เมื่อยิวได้กินข้าวจนอิ่ม เขาก็ลงไปอาบน้ำในอ่าง แล้วก็เข้ามาในห้องแม่ทัพวิศรุฒตามเดิม “เอ็งมาหาข้าได้อย่างไรกัน”แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าที่สงสัยยิ่งนัก “หลังจากเราโดนเสือเข้มจับตัวไป พอมีโอกาสเราก็หนีเสือเข้มมา แล้วก็หยิบถุงย่ามของเสือเข้มติดมาด้วยอย่างที่นายเห็นนั่นแหละ” เช่นนั้น ข้าของถามอีกครั้ง เอ็งมาหาข้าที่นี่ได้อย่างไรกัน” “พอเราหนีเสือเข้
เมื่อยิวพาสองพ่อลูกขึ้นมายังบนเรือน ทั้งสามก็นั่งลงกับพื้นด้วยใจที่ระทึก ซึ่งในช่วงเวลานี้ต้องจัดการทุกอย่าง เขาจึงอึดสู้พูดเพื่อในสิ่งที่เขารับปากไว้แล้วว่าจะทำ ตามที่สองพ่อลูกต้องการในช่วงที่ผ่านมา “ลุง เอ่อ”ยิวอ้ำอึ่ง “ไม่ต้องเรียกลุงเรียกว่าพ่อกับแม่ได้แล้วโสภี เอ็งนี่กะไรไม่รู้ควมเลยรึ”อำมาตย์ใช้สายตาตักเตือนยิว “คือย่างนี้ค่ะพ่อ จอมเนี่ยไปน้องชายของหนู แบบว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คือ น้องหนูอยากเป็นทหาร หนูก็เลยอยากฝากเนื้อฝากตัวให้น้องด้วย” “ว่าไงวิศรุฒ”อำมาตย์วิษณุหันมามองบุตรชายของเขา “หน่วยก้านใช้ได้ เหมาะสำหรับเป็นทหาร ว่าแต่เอ็งมีฝีมือการต่อสู้อะไรบ้าง” “ข้า ต่อยมวยได้ ฟันดาบ ยิงธนู ขี่ม้า”จอมเอ่ยขึ้น “ลูกของข้าทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามารับใช้บ้านเมืองขอรับ”หัวหน้านำขบวนเอ่ยขึ้น “ดี ดีมาก”อำมาตย์วิษณุพูดเสียงหนักแน่น “ถ้าอย่างนั้นวันนี้เอ็งพร้อมไหม ข้าจะพาเอ็งเข้าไปในวังด้วย” “พร้อมขอรับ”จอมรับปากทันที “ดี มันต้องให้ได้อย่า
เป็กผู้ช่ำชองในยามราตรี เขาไม่เคยพลาดแม้แต่ศุกร์เสาร์ทุกค่ำคืน เป็นนักเที่ยวตัวยงที่ใครเห็นก็ต้องจำได้ นอกจากพ่อรวยรูปหล่อสายเปย์อีกต่างหาก จึงมีหลายคนเข้ามาพัวพันไม่ขาดสาย เมื่อเป็กพายิวมาเที่ยว จึงมีสายตาหลายคู่จ้องมองด้วยความอิจฉา แต่ยิวหาสนใจไม่ถึงแม้จะไม่ค่อยคุ้นชินในโลกปัจจุบันเท่าไรนัก แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่นอะไรทั้งสิ้น“เป็นไงบ้างมาเปิดหูเปิดตา” เป็กยื่นแก้วเพื่อชน“ก็โอเคนะ เป็นครั้งแรกที่เราได้มา รู้สึกว่าน่าสนใจกว่าเมืองโบราณอีก” ยิวเผลอคำพูดที่ไม่พึงประสงค์ออกมา“เมืองโบราณอะไร” เป็กมีสีหน้าที่มึนงง“อ่อ เปล่า สนุกดีเราไปเต้นกันไหม”“อะไรนะ เราไม่อยากเชื่อเลยนายจะชวนเราไปเต้น นายเปลื่ยนไปหรือว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของนายว่ะ” เป็กหัวเราะ“ไม่ได้เปลื่ยนนี่แหละตัวจริง ที่เห็นก่อนหน้านี้ตัวปลอม แอ๊บไว้ไงแต่ไม่เห็นมีใครชอบเลย เป็นตัวของตัวเองดีกว่า” ยิวเสแสร้งแกล้งพูดเพราะในความจริงเป็นร่างของคนอื่น เพียงแต่เขาแค่มาอาศัยอยู่ในร่างนี้เท่านั้น“ร้ายนะ แกล้งเงียบถ้ารู้ว่านายเป็นแบบนี้เราจีบตั้งนานแล้ว”“อะไรนะ” ยิวรู้สึกมึนงงและสับสนกับคำพูดของเป็ก“ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วยล่ะ เ
กัสนั่งนิ่งๆ ก่อนที่จะไปท้องพระโรง เขาคิดย้อนเหตุการณ์เมื่อเสือเข้มพามาถึงยังหมู่บ้านกองโจร ซึ่งคนละที่กับซุ้มเสือเข้ม เพียงแค่เข้าไปถึงแม้จะไม่ประหลาดใจ แต่ก็ต้องอึ้งกับผู้คนในที่แห่งนี้ ที่มีหลากหลายอายุคละกันไป และมีการฝีกปรือฝีดาบอย่างขะมักเขม้น แต่เขาก็พยายามมองผ่านและเดินตามเสือเข้าไปข้างใน“แม่นมข้ากลับมาแล้ว” เสือเข้มวิ่งเข้าไปกราบแท่บเท้าของ มัณฑนานางกำนัลเก่าแห่งเมืองเมฆาบุรี“หายไปนายมากเลยนะ แม่อดคิดถึงเอ็งไม่ได้เลย เอ้า แล้วพาใครมาด้วยล่ะนะ” มัณฑนามองมายังกัสที่ยืนนิ่ง แต่แล้วเมื่อเห็นสายตาของมัณฑนาเขาก็ต้องนั่งลงแต่โดยดี“เพื่อนข้าเอง” เสือเข้มอมยิ้ม“เพื่อนเอ็งเป็นใครกัน ทำไมผิวพรรณยังกับคนในรั้วในวัง รูปร่างก็บอบบางยังกับอิสตรี เอ็งไปรู้จักกับเขาได้อย่างไรกัน”“ข้าเจอโดยบังเอิญชื่อโสภณ เป็นโอรสลับๆ ของสนมแห่งเมืองโสรยานคร”กัสรู้สึกประดักประเด่อพอสมควร เพราะเขากับเสือเข้มได้ตกลงตอนเดินทางมาที่แห่งนี้ ความคิดเช่นเดิมได้เกิดครั้งแรกที่เขาได้เจอแม่ทัพวิศรุฒ แต่ได้ปดมดเท็จว่าเป็นองค์ชายโสภณ กัสจึงทำตามเช่นเคยซึ่งเสือเข้มก็เห็นพ้องไม่ทัดทาน“อ่อ องค์ชายตกยาก คงจะเป็นคนองค์ชา
ยิวหยิบโน้ตบุ๊คมาเปิดดูแต่เป็นที่น่าเสียดาย มันสามารถที่จะติดได้เนื่องจากวันนั้นล้มกระแทกจนเสียหาย ยิวถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะเขาต้องทำงานส่งอาจารย์ และอีกอย่างหนึ่งด้วยความอยากรู้ว่ากัสได้บันทึกหรือทำอะไรไว้ในนี้บ้างยิวจึงพับโน๊ดบุ๊คไว้ตามเดิม และกะว่าช่วงเย็นจะเอาไปซ่อม แต่ติดปัญหาคือเขาไม่มีเงินพอที่จะนำไปซ่อม เขาจึงหยิบโทรศัท์มือถือของกัสมาเปิดดู ซึ่งได้ล็อครหัสไว้จึงทำให้ไม่สามารถเปิดได้ มีเพียงรับสายอย่างเดียวแค่นั้น ยิวจึงลองนำวันเดือนปีเกิดของกัสมาใส่ ซึ่งก็ได้ผลทันทีมือถือเครื่องนี้ปลดรหัสได้ แต่นั่นไม่เท่ากับภาพหน้าปกเป็นรูปของพีค ยิวจึงเกิดความอยากรู้ต่อไปเขาจึงเปิดดูในแกเลอรี่ ซึ่งในนั้นมีแต่ภาพพีคเต็มไปหมดดวงตาอันกลมโตของยิวได้หลับลง พร้อมจินตนาการเรื่องราวของกัสว่าเป็นอย่างไรบ้างก่อนหน้านี้ ซึ่งในหัวของเขาก็เห็นแต่หน้าพีคอยู่เพียงผู้เดียว พอเขาลืมตาขึ้นมาก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น เขารีบดูทันทีซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นพีคนั่นเอง“อยู่ห้องไหมน้องกัส”“อยู่พี่พีคมีอะไรหรือเปล่า”“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่โทรถามเฉยๆ ถ้าอยู่พี่จะไปหา”“พี่มีธุระอะไรเหรอ”“จะไปหาต้องมีธุระด้วยใช่ไหม”“เป
นางกำนัลสาลินีได้นำพาพระโอรสของราชาเมษากับราชินีสีวิกา เดินลัดเลาะหลบมุมตลอดทาง จนมาถึงข้างๆ ตำหนักของชายามาริสา เธอรออยู่พักหนึ่งมันฑนานางกำนัลร่วมรุ่นมาพร้อมพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสา“ข้ารอตั้งนานนึกว่าเอ็งไม่มาแล้ว ยังดีที่พระโอรสไม่ร้องเลย” นางกำนัลสาลินีเอ่ยขึ้นด้วยใจระทึกมองซ้ายมองขวา แล้วมององค์ชายแสนอาภัพที่เธออุ้มมา“เอาน่าอย่าพูดมากเลยเอาเด็กมาสลับกัน” นางกำนัลนำพระโอรสที่ซ่อนมาในตะกร้าผ้าออกมานางกำนัลสาลินีและนางกำนัลมัฑนาต่างสลับพระโอรสกันตรงนั้น แต่สายตาทั้งสองก็ไมวายมองรอบๆ บริเวณ ด้วยความกลัวใครจะมาพบเห็น“เอ่อ เอ็งออกมาได้อย่างไงไม่มีทหารเหรอ” นางกำนันสาลินีถาม“มี แต่ทหารที่เฝ้ารู้จักกันก็เลยพอเอาออกมาได้”“เอ้านี่ คือแหวนที่มเหสีสีวิกามอบไว้ให้องค์ชาย”“อือ”มัณฑรับแหวนไว้แล้วรีบพาองค์ชายเข้าไปในพระตำหนักอย่างทันท่วงที ส่วนสาลินีไม่รอช้ารีบน้ำองค์ชายที่สลับเปลื่ยนไปยังตำหนักราชินีสีวิกาเช่นเดียวกัน ซึ่งกว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องหลบเหล่าทหารที่กำลังออกตระเวนเมื่อสาลินีมาถึงยังตำหนักของราชินีสาลินี เธอรีบน้ำพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสาวางไว้ข
หนึ่งหนุ่มกับสาวอีกคนนั่งมองหน้ากันในห้องชมรมละคร หลังจากนักศึกษาในชมรมนี้ออกไปไปหมดแล้ว เจนนี่ผู้กำกับสาวนั่งนิ่งมองหน้ายิวอยู่พักหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่มองอยู่นั้น ได้เห็นแววตาอันเปลื่ยนแปลงไป เพราะมีความสู้คนและเปิดเผยออกมาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด“วันนี้น้องกัสเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมการแสดงของน้องแปลกไป และไม่เข้ากับบมที่ได้รับ”“เปล่าครับ ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง”“พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องนะ แต่พี่อยากบอกว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับการแสดงให้มาก คือเมื่อก่อนกัสอินกับละครจนไม่สามารถที่จะออกจากบทนั้นได้ แต่ทำไมตอนนี้กัสไม่อินเหมือนเดิมกลับกันเป็นคนละคนเลย”ยิวอยากจะเถียงแต่เขาก็ต้องเก็บกลั้นอามรมณ์นั้นไว้ เพราะในตอนนี้เขาได้เขามาอยู่ในร่างของกัน ซึ่งจากการคาดคะเนของยิวนั้น กัสน่าจะมีนิสัยที่แตกต่างจากเขาอย่างมาก“ครับ” ยิวรับคำแต่โดยดีและไม่พูดสิ่งใดออกมา“ดีแล้ว พี่จะให้กัสพักสองวันนะเพื่อลองทบทวนอะไรบางอย่าง กลับได้แล้วเดี๋ยวมืดค่ำจะอันตราย”“ขอบคุณพี่มากครับ” ยิวยกมือไหว้พร้อมกับศีรษะให้เจนนี่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว และไม่หันหรือหยุถเดินแต่อย
กัสเดินเข้ามาในตำหนักว่างเปล่าที่มีผู้คนคอยรับใช้อย่างมากมาย ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าต่อไปนี้ไม่น่าจะลำบากกาย แต่อันตรายนั้นน่าจะอยู่รอบตัวเขาอย่างแน่นอน กัสจึงหวั่นผวากลัวอยู่เนืองๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอนกจากทนและจำยอมมาในที่แห่งนี้ พร้อมกับเสือเข้มผู้องอาจ และท่านอำมาตย์มงคลผู้มีแผนการอันแยบยล“เอ็งจำไว้นะว่าชื่อเมธี เป็นรัชทายาทแห่งเมืองเมฆาบุรี เป็นพระราชโอรสของอดีตราชาเมษากับราชินีสีวิกา” อำมาตย์มงคลพูดจบก็หันไปมองกัสที่นั่งนิ่งๆ สีหน้าราบเรียบ“ส่วนองค์ชายตัวจริง กระหม่อมต้องขออภัยด้วยที่ต้องเรียกว่าองครักษ์เข้ม”“ไม่เป็นไรหรอกข้าแค่อยากมาแก้แค้นให้เสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้าเท่านั้น”“ดีมากพระองค์ แต่พระองค์ต้องลำบากลำบนเป็นโจรก็เพราะราชาเมฆาที่พึ่งสิ้นพระชนม์ไปนี่พระเจ้าค่ะ”“ท่านอำมาตย์ลืมไปแล้วเหรอว่าข้าเป็นองครักษ์เข้ม ท่านอย่าพูดกับข้าเป็นองค์ชายอย่างนั้น องค์ชายตัวจริงอยู่โน่น” เสือเข้มโบ้ยปากไปทางกัสที่กำลังนั่งนิ่งๆ“เอ่อ ขอโทษข้าลืมไป ถ้าอย่างขอตัวก่อนก็แล้วกัน เอาไปว่าคืนนี้คุยกันดีๆ และเตรียมตัวอย่างที่เราตกลงกันไว้” เมื่ออำมาตย์มงคลพูดจบเขาก็เดินจากไปในทันทีกัสครุ่นคิด
ยิวนั่งมองเขื่อนขนของย้ายห้องออกไปอย่างไม่ใคร่สนใจ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกสนิทด้วยแต่อย่างใด ยิวจึงมีแต่ความเย็นชาใส่เขื่อน เมื่อเขื่อนขนของเสร็จเขาไม่ได้ยินแม้แต่คำลาสักคำ เช่นเดียวกับตัวเขาที่ไม่พูดอะไรออกมาให้เขื่อนได้อย่างยินเช่นกัน พออยู่คนเดียวภาวะจิตใจของยิวนั้นเริ่มว้าวุ่นคิดวนมาวนไปอยู่หลายครั้ง เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรียนอยู่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ พอกับจากมหาวิทยาลัยเขาก็นอนอ่านนิยายแล้วหลับไปตื่นมาอีกทีก็อยู่ในเหตุการณ์นิยายเรื่องนักรักบันลือโลกไปแล้ว นักเขียนไม่ได้ใส่รายละเอียดตัวเขาให้มากพอ ยิวจึงมีความทรงจำในยุคปัจจุบันอยู่แค่นี้ แต่เรื่องราวต่างๆในโลกปัจจุบันยิวกับรู้ทำได้ทุกอย่างได้หมด เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ยิวเริ่มค้นห้องและตรวจสอบทุกอย่างในความเป็นตัวกัส เขาจึงรู้ว่ากัสเป็นนักศึกษานิเทศศาสตร์ซึ่งคนละคณะกับเขาเลย เพราะยิวเรียนคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ยิวยิ่งคิดยิ่งกลัดกลุ้มเขาไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปอย่างไรกับชีวิตที่อยู่ในร่างกัส แต่เขาคิดว่ายังดีกว่าไปอยู่นิยายเมืองโบราณที่ไม่มีความทันสมัย ซึ่งเขาได้พบความอยากลำบากมาแล้ว ยิวจึง
ตอนที่24 ตัวเราลิขิตเอง น้ำกระเด็นทั่วเรือนร่างและโดนหนักตรงบริเวณใบหน้า จึงทำให้กัสได้สติเขาค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อย และภาพตรงหน้าที่เขาได้พบเห็น เป็นชายหนุ่มสูงใหญ่มีหนาวดเคราหนาจนกัสรู้สึกหวั่นกลัวอย่างหนัก เขาจึงรีบลุกขึ้นนั่งทันทีพร้อมกับมองไปรอบๆบริเวณ ซึ่งมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่และหญ้าสูงเคียงเอว “มึงเป็นบ้าอะไรใส่ชุดใหญ่ผู้หญิงไอ้ยิว”เสือเข้มผู้ช่วยชีวิตกัสเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าขมึงตึง “เราไม่ได้ชื่อยิวเราชื่อกัส”เมื่อกัสได้ยินชื่อยิวเขาก็ใคร่สงสัยและครุ่นคิดอย่างหนัก ยิ่งเห็นสภาพแวดล้อมแบบนี้ด้วย ทำให้กัสถึงกับพอจะรู้อะไรบ้างแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร “มึงพูดดีๆว่ามึงชื่ออะไร” กัสมองไปรอบๆอีกครั้งและหยิกตัวเองซึ่งเขาก็รู้สึกเจ็บพอสมควร ในช่วงเวลานี้เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ เท่าที่เขาจำได้ก่อนหน้านี้กำลังทะเลาะอยู่กับเขื่อน และก็โดนผลักจนล้มลงบนโน๊ตบุ๊ค หลังจากนั้นกัสไม่สามารถที่จะจำอะไรได้อีกเลย “ที่นี่ที่ไหน”กัสพูดด้วยความมึนงง “ศิลานคร” “แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
เมื่อเขียนนิยายได้หนึ่งตอนกัสจึงรู้สึกง่วงอย่างมาก จึงหยุดเขียนและนั่งอ่านซ้ำจนเกือบจะจบตอน จูจู่เขาก็ได้ยินเสียงจากด้านหลัง “กัสพีคมานอนนี่ได้อย่างไง” กัสได้ยินเสียงห้วนและดังมาก เขาจึงหันหน้ามองด้วยความตกใจ กัสทำอะไรไม่ถูกถึงแม้สิ่งที่เขาทำก้ำกึ่งไม่ตั้งใจก็ตาม “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะเขื่อน” “ไม่ใช่แล้วพี่พีคมานอนอยู่ที่ห้องได้ไง” “ก็พี่พีคเขาเมาตามหานายไม่เจอ เขาก็มานอนรอนายอยู่นี่ไม่เห็นเหรอนะ” “ทำไมต้องถอดเสื้อผ้านอนด้วย”เขื่อนจ้องหน้ากัสเขม็ง “เหล้ามันหกเปื้อนเสื้อผ้าเขา โน้น เสื้อกางเกงของพีคเราซักตากไว้ให้”กัสชี้ไปยังที่ตากเสื้อกางเกงของพีค “เราไม่เชื่อหรอกนายสองคนต้องมีอะไรกัน” “ไม่เชื่อก็ถามพี่พีคสิ” “พี่พีค”เขื่อนตะโกนอย่างดัง พีคตกใจตื่นด้วยเสียงอันดังของเขื่อน เมื่อเขาลืมตาขึ้นและหันมามองตามเสียง ภาพที่ได้เห็นคือเขื่อนยืนนิ่งๆมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ พีครู้สึกแปลกใจเขาจึงลุกขึ้นแล้วลงมาจากเตียง “มีอะไรเหรอเรียกพ