Home / วาย / นิยายรักสองภาพ / ค่ำคืนแสนสุข

Share

ค่ำคืนแสนสุข

last update Last Updated: 2024-11-17 17:23:21

ตอนที่19 ค่ำคืนแสนสุข

            ยิวนั่งกินข้าวจนอย่างเอร็ดอร่อยถึงแม้รสชาติจะไม่ถูกคอ ด้วยความหิวโหยเขาจึงกินไม่มีเหลือแม้แต่อย่างเดียว จนสร้างความประหลาดใจแกแม่ทัพวิศรุฒอย่างมาก

            “เอ็งอดอยากมาจากไหน ถึงกินซะไม่มีเหลือแม้แต่ข้าวเม็ดเดียว”แม่ทัพวิศรุฒจ้องมองยิวด้วยตาไม่กระพริบแม้แต่ทีเดียว

            “ใช่ เราไม่ค่อยได้กินเลย กินวันละมื้อเอง แถมเป็นมื้อที่นิดหน่อยเท่านั้น”

            “ดูท่าจะจริง เพราะไม่มีน้ำมีนวลเหมือนอย่างแต่ก่อน”

            “จะมีได้ไง อยู่กลางป่ากลางเขากินอดกินอยากทุกวัน”

            “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็กินซะให้อิ่มแล้วค่อยไปอาบน้ำ หลังจากนั้นค่อยมาคุยกัน”

            เมื่อยิวได้กินข้าวจนอิ่ม เขาก็ลงไปอาบน้ำในอ่าง แล้วก็เข้ามาในห้องแม่ทัพวิศรุฒตามเดิม

            “เอ็งมาหาข้าได้อย่างไรกัน”แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าที่สงสัยยิ่งนัก

            “หลังจากเราโดนเสือเข้มจับตัวไป พอมีโอกาสเราก็หนีเสือเข้มมา แล้วก็หยิบถุงย่ามของเสือเข้มติดมาด้วยอย่างที่นายเห็นนั่นแหละ”

            เช่นนั้น ข้าของถามอีกครั้ง เอ็งมาหาข้าที่นี่ได้อย่างไรกัน”

            “พอเราหนีเสือเข้มมานะ  ก็เจอขบวนอพยพเราก็เลยติดมาด้วย”

            “ช่างเก่งนักเอ็งนิ แต่ข้าไม่สนใจตรงนี้เท่าไร เพราะคนเจ้าเล่หเพทุบายอย่างเอ็ง สามารถเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แต่ที่ข้าสงสัยทำไมต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงมาหาข้า เอ็งรู้ไหมมันทำให้ข้าลำบากยิ่งนัก”

            “ลำบากอย่างไงเราไม่เข้าใจ”

            “ก็เอ็งเป็นผู้ชาย ตอนนี้พ่อแม่ของข้าเข้าใจว่าเอ็งเป็นผู้หญิง ต่อไปนี้จะทำอย่างไรกัน”

            “จริงด้วย”ยิวเริ่มหวั่นกลัวขึ้นมาทันที เพราะต่อไปนี้จะเป็นเรื่องที่เขาต้องแก้ไข

            “ต่อไปเอ็งจะทำอย่างไร ในวันพรุ่งจะออกไปพบปะผู้คนในสภาพไหน”

            “จะสภาพไหนล่ะ ก็ต้องสภาพนี้แหละตอนนี้ข้าก็ผมยาวแล้ว ก็เหมือนผู้หญิงอยู่นะ”ยิวอมยิ้มจับผมม้วนเล่น

            “เอ็งไม่มีหน้าอก จะปลอมตัวได้นานแค่ไหนกันเชียว”

            “เอาน่า เรามาอยู่ไม่นานหรอก เดี๋ยวเราก็แกล้งหายตัวไปแล้วกลับมาอีกทีเป็นผู้ชายก็ได้”

            “ทำไมเอ็งถึงไม่บอกเหล่าทหารว่าเป็นผู้ชายแล้วมาหาข้าก็ได้”

            “บอกไปใครจะเชื่อ ถ้าบอกว่าเป็นเมียค่อยน่าเชื่อหน่อย ไม่งั้นเราก็คงไม่ได้เจอกันหรอก”

            “เอ็งนี่สร้างความเดือดร้อนให้ข้าอยู่ร่ำไป”

            “ไม่ต้องห่วงเดี่ยวเราจะแก้ปัญหานี้เอง แต่ตอนนี้ข้าง่วงนอนมากเลย เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเรานอนกลางดินกินกลางทรายตลอด”

            “เอ็งลำบากขนาดนั้นเชียว”

            “ใช่ ลำบากมากแต่มันก็ผ่านมาแล้วเราขอนอนก่อนนะ ก่อนนอนหาชุดผู้หญิงมาให้เราใส่ด้วยนะ”

            “ข้าจะไปหาที่ไหนล่ะ”

            “เราไม่รู้เป็นหน้าที่นาย เราขอนอนก่อนนะไม่ไหวแล้ว”

            ยิวไม่สามารถที่จะพูดคุยกับท่านแม่ทัพวิศรุฒได้อีกต่อไป เพราะเขาอ่อนเพลียและหมดเรี่ยวแรงหมดปัญญาที่จะสู้ความเหนื่อย  ยิวจึงขึ้นไปบนเตียงนอนอย่างอ่อนแรง เขาล้มตัวลงนอนในทันทีไม่นานมากยิวก็หลับไปในที่สุด

            เมื่อยิวหลับแม่ทัพวิศรุฒจึงออกไปนอกห้อง และให้บ่าวหนุ่มไปตามทันมาหา เพราะจะปรึกษาเรื่องเสื้อผ้าผู้หญิง ไม่นานทันก็มาหาและได้เสนอว่าจะเอาเสื้อผ้าของเมียมาให้ แม่ทัพวิศรุฒรออยูเรือนชานพักใหญ่ ทันก็นำเสื้อผ้าอาภรณ์ของเมียเขามาให้ท่านแม่ทัพวิศรุฒ

            “ขอบใจเอ็งมากนะ”

            “เรื่องมันจะบานปลายไปใหญ่นะขอรับ เพราะโสพลไม่ใช้ผู้หญิงมันจะยุ่งเหยิงนะขอรับ”ทันเอ่ยขึ้น

            “ค่อยแก้ๆไป เอาล่ะเอ็งกลับไปได้แล้ว”

            “ไล่ข้าน้อยกลับเลย จะทำอะไรกันเหรอ”

            “ไอ้ทันมึงวอนหาเรื่องโดนเตะแล้วนะมึง”

            “พูดเล่นข้านี้ก็โกรธ ข้าน้อยไปก้ได้ขอรับ”

            เมื่อทันได้กลับเรือนตัวเองไปแล้ว แม่ทัพวิศรุฒจึงเข้าไปในห้องนำเสื้อผ้าไปเก็บไว้ หลังจากนั้นก็เดินมายังเตียงนอน และแม่ทัพวิศรุฒก็นั่งลงมองหน้ายิวที่ดูอ่อนเยาว์ ยิ่งมองนานเท่าไรเขายิ่งหวั่นไหว แม่ทัพวิศรุฒพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดเช่นนั้น เพราะเขามองว่ามันผิดครรลองครองธรรม แม่ทัพวิศรุฒจึงล้มตัวลงนอนข้างๆยิว จนถึงรุ่งอรุณเบิกฟ้า ซึ่งเขาก็ได้ตื่นนอนก่อนยิวทุกคราที่ได้นอนเคียงกายกัน เมื่อตื่นขึ้นมาเขาจึงรีบปลุกยิวทันที

            “โสพล โสพล”ตื่นได้แล้ว”แม่ทัพวิศรุฒเขย่าร่างของยิว

            ดวงตาของยิวได้เบิกกว้างขึ้นและได้เห็นหน้าแม่ทัพวิศรุฒ เขาถึงกับตกใจรีบลุกขึ้นนั่งทันที

            “เช้าแล้วเหรอนี่”ยิวบิดแขนสองข้างไปมา

            “เช้าแล้ว เอ็งรีบแต่งตัวจะออกไปหาพ่อกับแม่ของข้า”

            “ได้ชุดผู้หญิงมาแล้วเหรอไปเอามาจากไหน”

            “ข้าให้ไอ้ทันไปเอาของเมียมันมา”

            “อุ๊ย”ยิวหัวเราะออกมานิดหน่อย

            “เอ็งไม่ต้องมาหัวเราะข้าเลย รีบแต่งตัวเถอะป่านนี้พ่อแม่ของข้ารอเอ็งอยู่”

            ยิวหยิบเสื้อผ้าถุงมาดูแล้วเขาก็มึนงง สับสนว่าจะใส่อย่างไรดี เขาจับพลิกไปพลิกมาดูหลายตลบ

            “คือว่า เอ่อ อ่า เอ่อ”

            “เป็นอะไรอีกเอ็งนี่เรื่องมากจริงๆเลย”แม่ทัพวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่

            “เราใส่ไม่เป็น นายใช่เป็นไหม สอนเราใส่หน่อย”ยิวอมยิ้มนิดๆเขินหน่อยๆด้วยความอาย

            “ข้าจะไปใส่เป็นได้อย่างไรกัน”

            “ก็ได้ นุ่งๆไปเหอะไม่ให้ผ้าถุงหลุดเป็นพอ”ยิวไม่รอช้าหยิบผ้าถุงมาสวมใส่และใช้เข็มขัดรัดไว้จนแน่น ส่วนเสื้อก็ยังดีหน่อยใส่ง่าย แต่ติดปัญหาตรงที่ไม่มีหน้าอก ยิวจึงเอาผ้ามาพันรอบอกไว้แล้วยัดผ้าเข้าไปข้างให้ดูนูนเป็นอก หลังจากนั้นเขาจึงสวมใส่เสื้อ

            เมื่อยิวแต่งตัวเสร็จเขาก็เงยหน้าขึ้นและได้เห็นแม่ทัพวิศรุฒยืนมองเขาไม่คาดสายตา จนทำให้ยิวเขินอายนิดหน่อยเพราะสายตาแม่ทัพวิศรุฒ ได้จ้องเขาอย่างหยดย้อยหวานฉ่ำ

            “มองอะไร”

            “ข้าก็มองเอ็งนั่นแหละ พอแต่เป็นผู้หญิงก็สวย แต่น่าเสียดายที่เอ็งเป็นผู้ชาย”

            “ไม่ต้องมาเสียดงเสียดายหรอก”

            “อือ ข้าลืมบอกเอ็งวันมะรืนข้าจะไปทำศึกที่ชายแดน”

            “อ้าว เอ่อ ถ้างั้นเราไปด้วยได้ไหม”

            “ไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าเอ็งก็อยู่นี่ไปก่อนจนกว่าข้าจะกลับมา หลังจากนั้นค่อยมาคุยกันเรื่องของเรา”

            “โอ๊ย นึกว่าจะหมดเรื่องยุ่งยาก ดันมีเรื่องใหม่เข้ามาอีก”

            “ไปเหอะ ป่านนี้พ่อแม่ของข้ารอเราสองคนอยู่ที่หน้าเรือนชาน”

            “อือ”ยิวพยักหน้าและเดินตามแม่ทัพวิศรุฒไปเรื่อยๆจนถึงหน้าเรือนชาน

            สายตาของยิวได้มองไปยังอำมาตย์วิษณุและแม้นผู้เป็นแม่ของวิศรุฒ ซึ่งได้หันมาประจัญหน้ากันพอดี จนทำให้ยิวต้องหลบตาต่ำลงด้วยความกลัว

            “เป็นสาวเป็นนางตื่นสายตะวันโด่งขนาดนี้ ใครได้เป็นเมียถือว่ามีกรรมมาก”แม่แม้นเอ่ยวาจาขึ้นด้วยท่าทีเย้ยหยัน

            “ก็ลูกคุณป้าไงได้รับกรรม”ยิวพูดโดยไม่ทันได้คิด

            “เด็กนี้พูดจาไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่ ไม่มีมารยาทไร้สกุลสิ้นดี”

            “นามสกุลหนูสืบเชื้อสายมาหลายชั่วอายุคนด้วยนคะ”

            “เถียงคำไม่ตกฟาก คนอย่างนี้ข้าไม่สามารถที่จะรับมาเป็นลูกสะใภ้ได้ อย่างมากที่สุดก็เป็นได้นางบำเรอ”

            “ไม่เกี่ยวกับป้าเลยมันเรื่องของคนสองคน”

            “พอได้แล้ว”แม่ทัพวิศรุฒจับแขนของยิวไว้แล้วเขย่า

            ยิวรู้สึกไม่ค่อยพอใจแม่ของแม่ทัพวิศรุฒที่พูดจาดูถูกเขาอยูตลอดเวลา แต่เมื่อแม่ทัพวิศรุฒเขย่าแขนจึงทำให้เขาได้สติขึ้นมา ยิวจึงยืนเงียบลง

            “พอกันทั้งคู่ ทะเลาะเป็นเด็กไปได้ เอาอย่างนี้แม่แม้นก็อบรมบ่มนิสัยสิ เดี๋ยวข้ากับลูกต้องเข้าไปในวังประชุมเรื่องทำสงคราม เพราะพรุ่งนี้ลูกของเราต้องไปสนามรบแล้ว”อำมาตย์วิษณุเอ่ยขึ้น

            “อะไรกันเล่า พึ่งกลับมาได้ไม่นานจะไปอีกแล้ว”

            “ลูกเราเป็นชายนักรบ เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องไปออกปกป้องบ้านเมือง วิศรุฒก็หาลูกสะใต้มาอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่ แม่แม้นจะกลัวเหงาไปใย”

            ความรู้สึกของยิวตอนนี้ใจของเขาหายรู้สึกหวั่นไหว ถ้าแม่ทัพจากไปสนามรบเขาจะอยู่กับแม่ของวิศรุฒได้อย่างไรกัน ในส่วนผู้เป็นพ่อเท่าที่ยิวดูเขาก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนแต่อย่างใด ในระหว่างที่ยิวกำลังคิดเรื่องราวนี้อยู่ ก็ได้มีบ่าวคนหนึ่งมาบอกกล่าวว่ามีคนมาหา

            “ท่านอำมาตย์ มีพ่อลูกคู่หนึ่งมาหา เอ่อ คนชื่อ โสพล เขาก็บอกว่ามาอยู่ตั้งแต่เมื่อวานนี่ขอรับ”

            ยิวสลัดความคิดในตอนนี้ทิ้งไปทันที เพราะมีเรื่องใหม่ที่น่ากังวลกำลังจะเกิดขึ้น  เพราะทุกสายตาจ้องมาทีเขาเป็นทางเดียวกัน

            “เอ่อ น้องชายเราเอง เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”ยิวพูดขึ้นมาใกล้ๆหูของแม่ทัพวิศรุฒ

            “เอ็งมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไร”แม่ทัพมองหน้าของยิวด้วยสายตาใคร่รู้และหวาดระแวง

            “ถ้างั้นก็พาเข้ามาได้เลย”อำมาตย์วิษณุเอ่ยขึ้น

            “มาคนเดียวไม่พอกะจะมาอาศัยที่นี่ทั้งบ้านเลยกระมั้ง”

            “เอาน่า เขาอาจมีธุระต้องคุยกันก็ได้”ท่านอำมาตย์กล่าวขึ้น

            “ใช้ น้องของหนูเขาอยากเป็นทหารน่ะ คุณลุงกับท่านแม่ทัพจะรับไว้ไหม”ยิวมองหน้าของท่านอำมาตย์วิษณุและท่านแม่ทัพ

            “เอ่อ น่าสนใจดีนะ เอ็งยังขาดคนสนิทอยู่เลยวิศรุฒ เพราะไอ้ทันมันมีเมียแล้วจะไปไหนต่อไหนก็ไม่สะดวกเหมือนแต่ก่อน ถ้าได้น้องของโสพล เอ๊ะ มันชื่อผู้ชายนี่”อำมาตย์วิษณุมีท่าทีสงสัย

            “ชื่อ โสภี พี่คนนั้นคงเรียกผิด”ยิวรีบแก้ต่างทันที

            “อือ โอ้ โน้นมาแล้ว”ท่านอำมาตย์เอ่ยขึ้น

            “ถ้างั้นเดี๋ยวหนูลงไปหาสองคนนั่นก่อน”

            ยิวไม่รอได้รับคำอนุญาตเขาเดินลงบันได้ไปหาทั้งสองทันที ซึ่งเมื่อลงบันไดไปถึงสองคนนั่นก็มีท่าทีตกใจอย่างมาก

            “ลุง กับ จอม อย่าพูดอะไรไปนะ”

            “ทำไมเอ็งแต่งเป็นผู้หญิง”ลุงนำขบวนพูดขึ้นด้วยทาทีสงสัย

            “แต่พี่โสพลแต่งเช่นนี้ก็เหมือนผู้หญิงนะขอรับ แถมสวยด้วยกระผมว่าสวยกว่าผู้หญิงอีก”จอมมองตาค้าง

            “อย่าพูดแบบนี้ พี่บอกเราว่าเป็นน้อง คือ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จอมต้องเรียกว่าพี่ แทนตัวเองว่าน้องเข้าใจไหม”

            “ขอรับพี่โสพล”

            “บอกแล้วไงพูดครับ ไม่ต้องขอรับ เข้าใจไหม และอีกอย่างพี่ชื่อโสภี”

            “เข้าใจครับ”

            “ดีมากหัวไวนะเราน่ะ”

            “ทำไม่เอ็งแต่งผู้หญิง แล้วมาอยู่ในฐานะอะไร”

            “เมียท่านแม่ทัพ”

            “ฮ่ะ”ทั้งสองพูดเสียงพร้อมกันด้วยความแปลกใจ และตกใจอย่างหนักกับคำพูดของยิว

            “ท่านแม่ทัพไม่รู้ว่าเอ็งเป็นผู้หญิงเหรอ”ลุงนำขบวนพูดค่อยๆ

            “รู้ แต่ลุงอย่าพึ่งรู้เลยขึ้นไปข้างบนก่อนดีกว่า”

            หลังจากที่ยิวจัดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเสร็จ เขาก็พาสองพ่อลูกขึ้นมาข้างบนเรือนชาน ซึ่งพ่อแม่ลูกที่รออยู่ข้างบน ต่างมองจอมเป็นตาเดียว

           

           

           

Related chapters

  • นิยายรักสองภาพ   อยากมีเมีย

    เมื่อยิวพาสองพ่อลูกขึ้นมายังบนเรือน ทั้งสามก็นั่งลงกับพื้นด้วยใจที่ระทึก ซึ่งในช่วงเวลานี้ต้องจัดการทุกอย่าง เขาจึงอึดสู้พูดเพื่อในสิ่งที่เขารับปากไว้แล้วว่าจะทำ ตามที่สองพ่อลูกต้องการในช่วงที่ผ่านมา “ลุง เอ่อ”ยิวอ้ำอึ่ง “ไม่ต้องเรียกลุงเรียกว่าพ่อกับแม่ได้แล้วโสภี เอ็งนี่กะไรไม่รู้ควมเลยรึ”อำมาตย์ใช้สายตาตักเตือนยิว “คือย่างนี้ค่ะพ่อ จอมเนี่ยไปน้องชายของหนู แบบว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คือ น้องหนูอยากเป็นทหาร หนูก็เลยอยากฝากเนื้อฝากตัวให้น้องด้วย” “ว่าไงวิศรุฒ”อำมาตย์วิษณุหันมามองบุตรชายของเขา “หน่วยก้านใช้ได้ เหมาะสำหรับเป็นทหาร ว่าแต่เอ็งมีฝีมือการต่อสู้อะไรบ้าง” “ข้า ต่อยมวยได้ ฟันดาบ ยิงธนู ขี่ม้า”จอมเอ่ยขึ้น “ลูกของข้าทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามารับใช้บ้านเมืองขอรับ”หัวหน้านำขบวนเอ่ยขึ้น “ดี ดีมาก”อำมาตย์วิษณุพูดเสียงหนักแน่น “ถ้าอย่างนั้นวันนี้เอ็งพร้อมไหม ข้าจะพาเอ็งเข้าไปในวังด้วย” “พร้อมขอรับ”จอมรับปากทันที “ดี มันต้องให้ได้อย่า

    Last Updated : 2024-11-17
  • นิยายรักสองภาพ   มันไม่ใช่ความรัก

    การซ้อมละครได้หยุดพักหนึ่งอาทิตย์ เพื่อที่จะให้เขื่อนและกัสได้หยุดสงบอารมณ์ไม่ให้เข้าถึงอารมณ์ไปมากกว่านี้ และอีกอย่างหนึ่งใกล้เวลาสอบแล้วด้วย ทางชมรมจึงถือโอกาสให้ทั้งสองได้มีเวลาในการเตรียมตัว ในส่วนของกัสก็หยุดการเขียนนิยายไปชั่วขณะ เพื่อที่จะได้มานั่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม ซึ่งแตกต่างจากเขื่อนยังคงไปทำงานตามเดิมไม่เปลื่ยนแปลง เพราะทางบ้านค่อนข้างขัดสนกว่ากัส เขาจึงจำเป็นต้องหารายได้พิเศษมาใช้ในการเรียน ยิ่งเมื่อสอบเสร็จภาระจะมาอีกมากมายโดยเฉพาะค่าเทอม กัสกำลังนั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่ในห้องอย่างเคร่งเครียด และเขื่อนก็เดินเข้ามาพอดี ซึ่งก็เป็นเวลาที่ดึกพอสมควร “ทำไมยังไม่นอนอีกเหรอกัส นี่ก็ดึกมากแล้วนะ” “นายก็เหมือนกันเขื่อน น่าจะเอาเวลามาอ่านหนังสือบ้าง มัวแต่ทำงานอยู่นั่นแหละ” “ไมได้หรอก ถ้าเราหยุดก็คงต้องหางานใหม่อีกนั่นแหละ ทนๆเอา เราจะอ่านตอนว่างๆหลังจากทำงาน” “มันจะมีสมาธิอะไรล่ะ” “เอาน่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ว่าแต่นายเถอะออกจากบทละครหรือยัง”เขื่อนถามด้วยความเป็นห

    Last Updated : 2024-11-17
  • นิยายรักสองภาพ   วันที่ต้องจากลา

    กัสอยากสัมผัสเรือนร่างของพีค แต่เขาก็หักห้ามใจตัวเองไว้ได้ เพราะรู้สึกไม่ดีถ้าลวนลามพีคในช่วงเวลาที่เขาหลับอยู่ กัสจึงตัดสินใจให้พีคนอนอย่างสงบ ส่วนตัวเขาก็เดินมายังโต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อเขียนนิยายอันเป็นที่รักต่อ ตะวันสาดส่องประตูเมืองอันกว้างใหญ่ ซึ่งมีหลายครอบครัวยืนเรียงรายกันส่งเหล่าบรรดาทหารกล้า หนึ่งในนั้นก็มีอำมาตย์วิษณุและแม่แม้น รวมทั้งอำมาตย์ไชยาและสุนันทาผู้เป็นภรรยา ซึ่งได้พาสุจิตราลูกสาวสุดที่รักมาด้วย และที่ขาดไม่ได้คือยิวซึ่งเป็นเมียท่านแม่ทัพ ยิวรู้สึกใจหายเป็นอย่างมาก ที่เขาต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ก่อนที่เขาจะมาท่านแม่ทัพวิศรุฒุบอกให้เขาได้รอ ในห้องนอนของท่านแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งกำลังจะออกจากห้องเขาได้สั่งลาก่อน เพื่อไม่อยากให้ใครได้รับรู้เมื่อออกไปจากห้องนี้แล้ว “โสพล เมื่อเช้าข้าตื่นรู้สึกใจคอไม่ดี กลัวกลับมาจะไม่เจอเอ็ง” “เราก็เหมือนกันนั่นแหละ”ยิวก็รู้สึกเช่นนั้นไม่ต่างกันสักเท่าไร “เมื่อคืนข้าใคร่คราญแล้ว ความรู้สึกของข้าที่มีต่อเองนั้นมันมีความ

    Last Updated : 2024-11-17
  • นิยายรักสองภาพ   ความสัมพันธ์ร้าวฉาน

    เมื่อเขียนนิยายได้หนึ่งตอนกัสจึงรู้สึกง่วงอย่างมาก จึงหยุดเขียนและนั่งอ่านซ้ำจนเกือบจะจบตอน จูจู่เขาก็ได้ยินเสียงจากด้านหลัง “กัสพีคมานอนนี่ได้อย่างไง” กัสได้ยินเสียงห้วนและดังมาก เขาจึงหันหน้ามองด้วยความตกใจ กัสทำอะไรไม่ถูกถึงแม้สิ่งที่เขาทำก้ำกึ่งไม่ตั้งใจก็ตาม “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะเขื่อน” “ไม่ใช่แล้วพี่พีคมานอนอยู่ที่ห้องได้ไง” “ก็พี่พีคเขาเมาตามหานายไม่เจอ เขาก็มานอนรอนายอยู่นี่ไม่เห็นเหรอนะ” “ทำไมต้องถอดเสื้อผ้านอนด้วย”เขื่อนจ้องหน้ากัสเขม็ง “เหล้ามันหกเปื้อนเสื้อผ้าเขา โน้น เสื้อกางเกงของพีคเราซักตากไว้ให้”กัสชี้ไปยังที่ตากเสื้อกางเกงของพีค “เราไม่เชื่อหรอกนายสองคนต้องมีอะไรกัน” “ไม่เชื่อก็ถามพี่พีคสิ” “พี่พีค”เขื่อนตะโกนอย่างดัง พีคตกใจตื่นด้วยเสียงอันดังของเขื่อน เมื่อเขาลืมตาขึ้นและหันมามองตามเสียง ภาพที่ได้เห็นคือเขื่อนยืนนิ่งๆมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ พีครู้สึกแปลกใจเขาจึงลุกขึ้นแล้วลงมาจากเตียง “มีอะไรเหรอเรียกพ

    Last Updated : 2024-11-17
  • นิยายรักสองภาพ   ตัวเราลิขิตเอง

    ตอนที่24 ตัวเราลิขิตเอง น้ำกระเด็นทั่วเรือนร่างและโดนหนักตรงบริเวณใบหน้า จึงทำให้กัสได้สติเขาค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อย และภาพตรงหน้าที่เขาได้พบเห็น เป็นชายหนุ่มสูงใหญ่มีหนาวดเคราหนาจนกัสรู้สึกหวั่นกลัวอย่างหนัก เขาจึงรีบลุกขึ้นนั่งทันทีพร้อมกับมองไปรอบๆบริเวณ ซึ่งมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่และหญ้าสูงเคียงเอว “มึงเป็นบ้าอะไรใส่ชุดใหญ่ผู้หญิงไอ้ยิว”เสือเข้มผู้ช่วยชีวิตกัสเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าขมึงตึง “เราไม่ได้ชื่อยิวเราชื่อกัส”เมื่อกัสได้ยินชื่อยิวเขาก็ใคร่สงสัยและครุ่นคิดอย่างหนัก ยิ่งเห็นสภาพแวดล้อมแบบนี้ด้วย ทำให้กัสถึงกับพอจะรู้อะไรบ้างแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร “มึงพูดดีๆว่ามึงชื่ออะไร” กัสมองไปรอบๆอีกครั้งและหยิกตัวเองซึ่งเขาก็รู้สึกเจ็บพอสมควร ในช่วงเวลานี้เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ เท่าที่เขาจำได้ก่อนหน้านี้กำลังทะเลาะอยู่กับเขื่อน และก็โดนผลักจนล้มลงบนโน๊ตบุ๊ค หลังจากนั้นกัสไม่สามารถที่จะจำอะไรได้อีกเลย “ที่นี่ที่ไหน”กัสพูดด้วยความมึนงง “ศิลานคร” “แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

    Last Updated : 2024-11-17
  • นิยายรักสองภาพ   ความสัมสนอลหม่าน

    ยิวนั่งมองเขื่อนขนของย้ายห้องออกไปอย่างไม่ใคร่สนใจ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกสนิทด้วยแต่อย่างใด ยิวจึงมีแต่ความเย็นชาใส่เขื่อน เมื่อเขื่อนขนของเสร็จเขาไม่ได้ยินแม้แต่คำลาสักคำ เช่นเดียวกับตัวเขาที่ไม่พูดอะไรออกมาให้เขื่อนได้อย่างยินเช่นกัน พออยู่คนเดียวภาวะจิตใจของยิวนั้นเริ่มว้าวุ่นคิดวนมาวนไปอยู่หลายครั้ง เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรียนอยู่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ พอกับจากมหาวิทยาลัยเขาก็นอนอ่านนิยายแล้วหลับไปตื่นมาอีกทีก็อยู่ในเหตุการณ์นิยายเรื่องนักรักบันลือโลกไปแล้ว นักเขียนไม่ได้ใส่รายละเอียดตัวเขาให้มากพอ ยิวจึงมีความทรงจำในยุคปัจจุบันอยู่แค่นี้ แต่เรื่องราวต่างๆในโลกปัจจุบันยิวกับรู้ทำได้ทุกอย่างได้หมด เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ยิวเริ่มค้นห้องและตรวจสอบทุกอย่างในความเป็นตัวกัส เขาจึงรู้ว่ากัสเป็นนักศึกษานิเทศศาสตร์ซึ่งคนละคณะกับเขาเลย เพราะยิวเรียนคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ยิวยิ่งคิดยิ่งกลัดกลุ้มเขาไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปอย่างไรกับชีวิตที่อยู่ในร่างกัส แต่เขาคิดว่ายังดีกว่าไปอยู่นิยายเมืองโบราณที่ไม่มีความทันสมัย ซึ่งเขาได้พบความอยากลำบากมาแล้ว ยิวจึง

    Last Updated : 2024-11-17
  • นิยายรักสองภาพ   ยอมจำนนฟ้าลิขิต

    กัสเดินเข้ามาในตำหนักว่างเปล่าที่มีผู้คนคอยรับใช้อย่างมากมาย ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าต่อไปนี้ไม่น่าจะลำบากกาย แต่อันตรายนั้นน่าจะอยู่รอบตัวเขาอย่างแน่นอน กัสจึงหวั่นผวากลัวอยู่เนืองๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอนกจากทนและจำยอมมาในที่แห่งนี้ พร้อมกับเสือเข้มผู้องอาจ และท่านอำมาตย์มงคลผู้มีแผนการอันแยบยล“เอ็งจำไว้นะว่าชื่อเมธี เป็นรัชทายาทแห่งเมืองเมฆาบุรี เป็นพระราชโอรสของอดีตราชาเมษากับราชินีสีวิกา” อำมาตย์มงคลพูดจบก็หันไปมองกัสที่นั่งนิ่งๆ สีหน้าราบเรียบ“ส่วนองค์ชายตัวจริง กระหม่อมต้องขออภัยด้วยที่ต้องเรียกว่าองครักษ์เข้ม”“ไม่เป็นไรหรอกข้าแค่อยากมาแก้แค้นให้เสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้าเท่านั้น”“ดีมากพระองค์ แต่พระองค์ต้องลำบากลำบนเป็นโจรก็เพราะราชาเมฆาที่พึ่งสิ้นพระชนม์ไปนี่พระเจ้าค่ะ”“ท่านอำมาตย์ลืมไปแล้วเหรอว่าข้าเป็นองครักษ์เข้ม ท่านอย่าพูดกับข้าเป็นองค์ชายอย่างนั้น องค์ชายตัวจริงอยู่โน่น” เสือเข้มโบ้ยปากไปทางกัสที่กำลังนั่งนิ่งๆ“เอ่อ ขอโทษข้าลืมไป ถ้าอย่างขอตัวก่อนก็แล้วกัน เอาไปว่าคืนนี้คุยกันดีๆ และเตรียมตัวอย่างที่เราตกลงกันไว้” เมื่ออำมาตย์มงคลพูดจบเขาก็เดินจากไปในทันทีกัสครุ่นคิด

    Last Updated : 2024-11-18
  • นิยายรักสองภาพ   ตัวตนที่แท้จริง

    หนึ่งหนุ่มกับสาวอีกคนนั่งมองหน้ากันในห้องชมรมละคร หลังจากนักศึกษาในชมรมนี้ออกไปไปหมดแล้ว เจนนี่ผู้กำกับสาวนั่งนิ่งมองหน้ายิวอยู่พักหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่มองอยู่นั้น ได้เห็นแววตาอันเปลื่ยนแปลงไป เพราะมีความสู้คนและเปิดเผยออกมาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด“วันนี้น้องกัสเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมการแสดงของน้องแปลกไป และไม่เข้ากับบมที่ได้รับ”“เปล่าครับ ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง”“พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องนะ แต่พี่อยากบอกว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับการแสดงให้มาก คือเมื่อก่อนกัสอินกับละครจนไม่สามารถที่จะออกจากบทนั้นได้ แต่ทำไมตอนนี้กัสไม่อินเหมือนเดิมกลับกันเป็นคนละคนเลย”ยิวอยากจะเถียงแต่เขาก็ต้องเก็บกลั้นอามรมณ์นั้นไว้ เพราะในตอนนี้เขาได้เขามาอยู่ในร่างของกัน ซึ่งจากการคาดคะเนของยิวนั้น กัสน่าจะมีนิสัยที่แตกต่างจากเขาอย่างมาก“ครับ” ยิวรับคำแต่โดยดีและไม่พูดสิ่งใดออกมา“ดีแล้ว พี่จะให้กัสพักสองวันนะเพื่อลองทบทวนอะไรบางอย่าง กลับได้แล้วเดี๋ยวมืดค่ำจะอันตราย”“ขอบคุณพี่มากครับ” ยิวยกมือไหว้พร้อมกับศีรษะให้เจนนี่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว และไม่หันหรือหยุถเดินแต่อย

    Last Updated : 2024-11-20

Latest chapter

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

  • นิยายรักสองภาพ   ร้ายขึ้นทุกวัน

    ค่ำคืนที่หาบทละครเวที พีคกำลังขะมักเขม้นทำอย่างจริงใจ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพีคได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อดูชื่อที่ปรากฏเป็นกัส พีคจึงรีบรับทันทีเพราะปกติไม่เคยโทรมาแต่อย่างใด “ฮัลโหล น้องกัสมีอะไรหรือเปล่า” “มี แต่ กัสไม่อยากบอกพี่เลยครับ” “เรื่องอะไร บอกมาเลยถ้าไม่บอกพี่โกรธจริงๆนะ” “ก็เรื่องของเขื่อนไงครับ คือ ว่า เอ่อ อ่า อืม” “พูดมาเลยว่าเรื่องอะไร” “คือ เรื่องเด็กคนนั้นน่ะของเขื่อน เท่าที่กัสสังเกตหน้าจะมีอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน” “พี่ก็สงสัยแต่พี่ไม่มีหลักฐานอะไร” “คือ คืนนี้พี่ลองไปหาเขื่อนที่ห้องพักแบบไม่ให้รู้ตัวสิครับ” “น้องกัสรู้อะไรมาเหรอ” “อืม กัสไม่พูดดีกว่าพี่พีคไปดูเองเถอะ” “อืม ก็ได้ ขอบใจกัสมากนะ” “ไม่เป็นไรครับ” เมื่อพีคกดวางโทรศัพท์มือถือ ก็ขับรถไปหาเขื่อนในทันที โดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ค่อนข้างให้ความเชื่อใจกัสมากกว่าเขื่อนเสียอีก พีคขับรถไปอย่างกระวนกระวายยิ่งนัก ด

  • นิยายรักสองภาพ   ทวงบัลลังก์คืน

    เสือเข้มผู้โหดเหี้ยมได้มีความรักโดยอย่างไม่ตั้งใจ จากเมื่อก่อนอยากอยู่ไปเรื่อยๆแต่ในปัจจุบันความคิดนั้นได้เปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะยิวได้สร้างห้องแห่งรักไว้ในหัวใจ จึงทำให้เสือเข้มเกิดความทะเยอะทะยานอยากได้ยิวมาครอบครองเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจะทวงราชบัลลังก์คืนแกตัวเขาและยิว การรวบรวมกำลังพลในค่ายเสือ ถึงจะไม่ได้มากมายเท่ากับกองทัพแห่งเมืองเมฆาบุรี ที่ตอนนี้เปลื่ยนชื่อเป็นเมืองวิหค กว่าที่เสือเข้มจะระดมบรรดาโจรทั่วเมืองเมฆาบุรีได้ใช้เวลานานพอสมควร และได้ติดต่อจากเมืองอื่นๆอีกมากมายเพื่อมาช่วยในครั้งนี้ โดยมีผลตอบแทนพื้นที่บางส่วนให้ไว้อาศัยอยู่ และทรัพย์สินในวังอันมีค่าบางส่วน ในที่สุดวันที่เสือเข้มรอคอยก็มาถึง เขาได้บุกเข้าเมืองเมฆาบุรีแบบกองโจร ไม่ได้ปะชิดสู้ตรงๆ เพราะขืนทำอย่างนั้นไม่มีทางที่จะชนะแม่ทัพวิหคและอำมาตย์มงคลได้อย่างแน่นอน โดยการครั้งนี้เสือเข้มเป็นผู้วางแผนและสั่งการเองทุกอย่าง โดยเริ่มต้นยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและเผลอไผลไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์อันร้ายแรงเกิดขึ้น “พี่น้องทุกคนพร้อมกันหรือยัง”เสือเข้มประกาศก้องใกล้ๆเมืองชั

  • นิยายรักสองภาพ   ล้างแค้นสองภพ

    เมื่อไม่ได้มีการซ้อมละครเวทีเขื่อนจนมีเวลาให้กับงานที่ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะหลังเลิกงานหรือแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์เขื่อนทุ่มเวลานั้นอย่างเต็มที่ จนทำให้ไม่มีเวลาไปมาหาสู่กับพีคอย่างเช่นแต่ก่อน และมีอยู่อีกเหตุหนึ่งนั้นเขื่อนได้มีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่มากขึ้น ตอนกลับห้องหรือไปไหนหลังจากเลิกงาน ก็ไปด้วยกันตลอดเวลา จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพีคกับเขื่อนได้จืดจางลงไปอย่างไม่ค่อยรู้ตัวหลังจากเลิกงานวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขื่อนได้กลับพร้อมกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ได้พึ่งได้มาทำงานได้ไม่นานแต่ความสนิทสนมกันนั้นแสนมาก“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่พีคมารับพี่เขื่อนเลยครับ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าใคร่สงสัย และมีความดีใจอยู่พอสมควร“พี่พีคไม่ค่อยว่าง เพราะตั้งแต่ไม่ได้แสดงละครด้วยกัน พี่พีคเขาต้องหาบทละครมาสร้างอีก ช่วงนี้เลยห่างๆ กันไป”“อ่อ ถึงว่าสิทำไมไม่ค่อยเห็นพี่พีค แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะถึงอย่างไงพี่เขื่อนยังมีผมอยู่เป็นเพื่อน” เจษอมยิ้มนิดๆ“อืม” เขื่อนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ได้แต่ยืนรอรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะกลับห้อง“โชคดีนะ ที่เราสองคนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นรถสายเดียวกัน” เจษยังยืนยิ้มอยู่ไม่วาย“พ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status