หน้าหลัก / วาย / นิยายรักสองภาพ / ยอมจำนนฟ้าลิขิต

แชร์

ยอมจำนนฟ้าลิขิต

ผู้เขียน: ต๋อง น่ะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-18 23:42:10

กัสเดินเข้ามาในตำหนักว่างเปล่าที่มีผู้คนคอยรับใช้อย่างมากมาย ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าต่อไปนี้ไม่น่าจะลำบากกาย แต่อันตรายนั้นน่าจะอยู่รอบตัวเขาอย่างแน่นอน กัสจึงหวั่นผวากลัวอยู่เนืองๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอนกจากทนและจำยอมมาในที่แห่งนี้ พร้อมกับเสือเข้มผู้องอาจ และท่านอำมาตย์มงคลผู้มีแผนการอันแยบยล

“เอ็งจำไว้นะว่าชื่อเมธี เป็นรัชทายาทแห่งเมืองเมฆาบุรี เป็นพระราชโอรสของอดีตราชาเมษากับราชินีสีวิกา” อำมาตย์มงคลพูดจบก็หันไปมองกัสที่นั่งนิ่งๆ สีหน้าราบเรียบ

“ส่วนองค์ชายตัวจริง กระหม่อมต้องขออภัยด้วยที่ต้องเรียกว่าองครักษ์เข้ม”

“ไม่เป็นไรหรอกข้าแค่อยากมาแก้แค้นให้เสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้าเท่านั้น”

“ดีมากพระองค์ แต่พระองค์ต้องลำบากลำบนเป็นโจรก็เพราะราชาเมฆาที่พึ่งสิ้นพระชนม์ไปนี่พระเจ้าค่ะ”

“ท่านอำมาตย์ลืมไปแล้วเหรอว่าข้าเป็นองครักษ์เข้ม ท่านอย่าพูดกับข้าเป็นองค์ชายอย่างนั้น องค์ชายตัวจริงอยู่โน่น” เสือเข้มโบ้ยปากไปทางกัสที่กำลังนั่งนิ่งๆ

“เอ่อ ขอโทษข้าลืมไป ถ้าอย่างขอตัวก่อนก็แล้วกัน เอาไปว่าคืนนี้คุยกันดีๆ และเตรียมตัวอย่างที่เราตกลงกันไว้” เมื่ออำมาตย์มงคลพูดจบเขาก็เดินจากไปในทันที

กัสครุ่นคิดและกลัดกลุ้มพร้อมเสียใจอย่างหนักกับพล็อตนิยายที่ทำให้สลับซับซ้อน ซึ่งส่งผลต่อเขาที่ต้องเผชิญหน้าอันตรายที่กำลังจะก่อเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อจากนี้

“ทำไมนายถึงไม่เป็นองค์ชายเอง เอาข้ามาเป็นทำไมข้าไม่มีฝีมือในการสู้รบเลยแม้แต่น้อย” กัสลองเชิงเสือเข้มว่าจะเป็นแบบในนิยายที่เขาร่างไว้หรือไม่

“มึงก็ดูสารรูปกูสิว่าเหมือนองค์ชายไหม และอีกอย่างถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกูจะไม่ได้เดือดร้อน”

“นายเห็นแก่ตัวอย่างมาก เอาเราเป็นโล่กำบัง แต่ก็ช่างมันเถอะ สมมุติถ้าแผนการยึดเมืองคืนได้สำเร็จนายจะทำอย่างไง”

“มึงก็เป็นราชาต่อไป ส่วนกูก็เป็นแม่ทัพอย่างที่กูต้องการ”

“มันมีประโยชน์อะไรเสี่ยงอันตรายจะตาย”

“กูไม่เหมาะที่จะมาบริหารบ้านเมือง มีแต่พวกเสือสิงห์กระทิงแรด กูรำคาญถ้ากูได้เป็นฆ่าทิ้งหมดนั่นแหละ”

“นายเป็นแค่แม่ทัพอำนาจมันไม่เยอะเหมือนเป็นราชาไม่ใช่เหรอ”

“ทำไม มึงคิดจะทรยศกูเหรอ เตือนไว้ก่อนนะไอ้โสภณถ้ามึงคิดหักหลังกู มึงจะตายอย่างทรมาน ที่กูเอามึงเป็นตัวแทนกูก็เพราะว่าเผื่อมีใครคิดจะฆ่าองค์ชายเมธี มึงจะได้ตายแทนกูไง แต่มึงไม่ต้องกลัวไปหรอกมีกูอยู่ข้างๆ คอยปกป้องมึง” เสือเข้มหัวเราะดังลั่น

“นายมันบ้าเห็นแก่ตัว แต่เอาเถอะเราจะรักษาชีวิตของเราไว้ นายก็เหมือนกันระวังตัวด้วยนะ อย่าคิดว่าเป็นแม่ทัพแล้วจะรอดปลอดภัย นายอาจจะปลอดภัยจากศึกใน แต่ศึกนอกหวังว่านายคงเอาตัวรอดได้อยู่นะ”

“ปากดีนะมึงไอ้โสภณ”

น้ำเสียงห้วนและดุดันของเสือเข้มทำให้กัสเงียบลง เพราะเขายังจำเหตุการณ์ในค่ายกองโจรที่เสือเข้มพาเขาเข้าไปได้ไม่เคยลืม ทั้งที่ๆ กัสเขียนให้ดูเบาๆ แต่พอเข้าไปมันช่างน่ากลัวกว่าในสิ่งที่เขาคิดและเขียนไว้อีก

“เงียบทำไมเมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย” เสือเข้มเดินเข้ามาใกล้ๆ พร้อมบีบปากของกัสไว้แน่น

“มึงจำไว้นะไอ้โสภณมึงคือองค์ชายเมธี ที่ถูกพวกกบฏชิงบัลลังก์ไป มันฆ่าเสด็จพ่อเสด็จแม่ของกูอย่างโหดเหื้ยม เพื่อบัลลังก์นี้เมื่อพวกมันทำสำเร็จ แม้แต่ชีวิตเด็กแรกเกิดไม่ถึงวันมันยังไม่ยอมปล่อย”

“เราเข้าใจนายข้อนี้ดี” กัสได้แต่ถอนหายใจเพราะเขาเป็นคนเขียนโครงร่างไว้เอง

“แต่เขาว่าเวรกรรมมีจริงมันทำกับครอบครัวกู ซึ่งตอนนี้มันก็ได้รับผลกรรมแล้วตายอย่างทรมาน”

กัสเข้าใจดีทุกอย่างเพราะเขาเป็นคนร่างมากับมือในความคิดตัวเอง ยิ่งเขาคิดย้อนกลับไปรู้สึกผิดที่ตัวเองเขียนตัวละครในนิยายโหดร้ายเกินไป ซึ่งเมื่อมีเหตุบังเอิญให้เขาได้เข้ามาอยู่ในนิยาย จึงทำให้กัสต้องตกอยู่ในความขัดแย้ง เขาจึงคิดย้อนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมีเสือเข้ม

ในเมืองเมรีนครซึ่งเป็นชื่อเดิมของเมืองเมฆาบุรี เมืองแห่งนี้มีราชาเมษาเป็นผู้ครองนคร และมีราชินีสีวิกาผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ช่วยกันบริหารบ้านเมืองจนแพรขยายอำนาจไปไกล โดยมีอนุชาเมฆาเป็นมือขวาที่ออกรบทำศึกทุกคราได้รับชัยชนะตลอดทุกครั้ง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อนชาเมฆาไม่ค่อยพอพระทัยราชาเมษา ที่อยู่บนบัลลังก์ทั้งที่ไม่ได้ออกศึกทำสงครามแต่อย่างใด

ด้วยความเป็นพระเชษฐาราชาเมษาจึงไว้ใจอนุชาเมฆาทุกอย่าง ถึงแม้ราชินีสีวิกาจะทัดทานก็ไม่เป็นผล ราชาเมษามอบอำนาจทางทหารให้อนุชาเมฆาได้ดูแลเพียงผู้เดียว ซี่งตรงนี้ทำให้อนุชาเมฆาเหิมเกริมอยากครองบัลลังก์ จึงวางแผนชั่วร้ายก่อกบฏขึ้นในวันครบกำหนดคลอดของราชินีสีวิกา

ในห้องบรรทมของราชินีสีวิกาที่กำลังร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เพราะเด็กในครรภ์กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่ช้า โดยมีราชาเมษาเฝ้าอยู่หน้าห้องไม่ห่างกาย

“เบ่งอีกนิดนะเพคะพระมเหสี” หมอตำแยเอ่ยขึ้นด้วยใจระทึก

เสียงนี้ราชาเมษาได้ยินจากภายในออกมาสู่ภายนอก เขารู้สึกดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และหวังว่าจะได้พระโอรสสมใจ ในระหว่างที่กำลังลุ้นระทึกอยู่นั้น ราชาเมษาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่นอกตำหนัก เขาหวั่นผวากลัวเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งที่เขาคาดคิดไว้ก็เป็นความจริงขึ้นมา เมื่อมีทหารคนสนิทเข้ามาในตำหนักอย่างหอบเหนื่อยและตื่นกลัว

“เอ็งมีอะไรรึวิ่งหน้าตื่นมาทีเดียว”

“คือพระอนุชาเมฆาก่อกบฏพระเจ้าค่ะ” ทหารนายนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือ

“ไม่จริงอนุชาข้าไม่ทำอย่างงั้นหรอก” ราชาเมษาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ทหารนายนั้นพูดจริงq

“จริงพระเจ้าค่ะ กระหม่อมจะทูลเท็จทำไมพระเจ้าค่ะ”

ราชาเมษาครุ่นคิดและฉุกคิดได้ว่าอำนาจทั้งหมดอยู่ที่อนุชาเมฆา เขาจึงประหวั่นกลัวเกรงและต้องรีบหาทางแก้ไข

“ตามข้ามา” ราชาเมฆารีบออกจากตำหนักของราชินีสีวิกาทันที

ห้องบรรทมยังเต็มไปด้วยเสียงวีดร้องของราชินีสีวิกาอย่างเจ็บปวด ในท้ายที่สุดเสียงความเจ็บปวดก็ได้จางหายไป เหลือเพียงแต่เสียงหอบเหนื่อยแต่ยังมีลมหายใจและสติอยู่เหมือนเดิม และอีกเสียงหนึ่งนั่นคือเสียงเด็กร้อง

“พระมเหสีพระองค์ได้พระโอรสเพคะ”

“ดีมาก แล้วเสด็จพี่ไปไหนทำไมไม่เข้ามาหาข้า” เสียงมเหสีสีวิกาโรยรินเหมือนคนกำลังจะสิ้นใจ

“เอ่อ อ่า” สาลินีนางกำนัลคู่ใจอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดอะไรต่อ

“เอ็งมีอะไรบอกข้ามาตรงๆ”

“คืออนุชาเมฆาก่อกบฏเพคะ”

“ข้าว่าแล้ว” ราชินีสีวิกาไม่ได้มีความรู้สึกแปลกใจอะไรเลยแม้แต่ เพราะเธอคิดไว้อยู่แล้ว แต่ไม่สามารถที่จะล้างความคิดความไว้ใจของราชาเมษาได้

“เราจะทำอย่างไงกันต่อดีเพคะ” นางกำนัลสาลินีเอ่ยขึ้น

“ลูกของมาริสาคลอดหรือยัง” ราชินีสีวิกาเอ่ยขึ้นถึงพระชายาของอนุชาเมฆา ที่ครบกำหนดคลอดพร้อมกัน

“เท่าที่รู้กำลังจะคลอดเหมือนกันเพคะ แต่หม่อมฉันยังไม่รู้ว่าคลอดหรือยัง ถ้าคลอดมันฑนาคงจะพามาที่นี่อย่างแน่นอนเพคะ” สาลินีอดกังวลใจไม่ได้ว่ามันฑนานางกำนัลที่สนิทรุ่นเดียวกันจะพามาสำเร็จหรือไม่

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเองเอาลูกข้าไปสลับกับลูกของมาริสา เอาไปตอนนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์”

ราชินีสีวิกาพยายามพยุงตัวลุกขึ้นมองพระโอรสของตัวเอง พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกดั่งสายน้ำที่ไหลลงธารา เธอหลับตากลั้นใจความรู้สึกที่ปวดร้าวยิ่งนัก

“เอ็งเอาลูกข้าไปเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชินีสีวิกาล้มตัวลงนอนด้วยความปวดร้าวยวดยิ่งนัก

นางกำนัลสาลินีรีบอุ้มโอรสของราชินีสีวิกาไปสลับเปลื่ยนตัวทันที โดยปล่อยราชินีสีวิกากับหมอตำแยอยู่กันเพียงลำพัง

“ขอบใจเอ็งนะหมอ เอ็งรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวจะได้รับอันตราย”

“เพคะ”

“ข้าเตรียมอัฐไว้ให้เอ็งแล้ว”

“เพคะ”

เมื่อหมอตำแยออกไปจากห้องบรรมทมของราชินีสีวิกาแล้ว ความเศร้าความหวั่นวิตกกลัวได้เข้ามาครอบงำเธออย่างเหลือล้น ใจของเธอลุ้นระทึกว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น แต่เธอก็พร้อมที่จะรับมันไว้เพียงแต่ขอให้โอรสของเธอนั้นปลอดภัย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นิยายรักสองภาพ   ตัวตนที่แท้จริง

    หนึ่งหนุ่มกับสาวอีกคนนั่งมองหน้ากันในห้องชมรมละคร หลังจากนักศึกษาในชมรมนี้ออกไปไปหมดแล้ว เจนนี่ผู้กำกับสาวนั่งนิ่งมองหน้ายิวอยู่พักหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่มองอยู่นั้น ได้เห็นแววตาอันเปลื่ยนแปลงไป เพราะมีความสู้คนและเปิดเผยออกมาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด“วันนี้น้องกัสเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมการแสดงของน้องแปลกไป และไม่เข้ากับบมที่ได้รับ”“เปล่าครับ ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง”“พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องนะ แต่พี่อยากบอกว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับการแสดงให้มาก คือเมื่อก่อนกัสอินกับละครจนไม่สามารถที่จะออกจากบทนั้นได้ แต่ทำไมตอนนี้กัสไม่อินเหมือนเดิมกลับกันเป็นคนละคนเลย”ยิวอยากจะเถียงแต่เขาก็ต้องเก็บกลั้นอามรมณ์นั้นไว้ เพราะในตอนนี้เขาได้เขามาอยู่ในร่างของกัน ซึ่งจากการคาดคะเนของยิวนั้น กัสน่าจะมีนิสัยที่แตกต่างจากเขาอย่างมาก“ครับ” ยิวรับคำแต่โดยดีและไม่พูดสิ่งใดออกมา“ดีแล้ว พี่จะให้กัสพักสองวันนะเพื่อลองทบทวนอะไรบางอย่าง กลับได้แล้วเดี๋ยวมืดค่ำจะอันตราย”“ขอบคุณพี่มากครับ” ยิวยกมือไหว้พร้อมกับศีรษะให้เจนนี่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว และไม่หันหรือหยุถเดินแต่อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • นิยายรักสองภาพ   ต้นกำเนิดเสือเข้ม

    นางกำนัลสาลินีได้นำพาพระโอรสของราชาเมษากับราชินีสีวิกา เดินลัดเลาะหลบมุมตลอดทาง จนมาถึงข้างๆ ตำหนักของชายามาริสา เธอรออยู่พักหนึ่งมันฑนานางกำนัลร่วมรุ่นมาพร้อมพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสา“ข้ารอตั้งนานนึกว่าเอ็งไม่มาแล้ว ยังดีที่พระโอรสไม่ร้องเลย” นางกำนัลสาลินีเอ่ยขึ้นด้วยใจระทึกมองซ้ายมองขวา แล้วมององค์ชายแสนอาภัพที่เธออุ้มมา“เอาน่าอย่าพูดมากเลยเอาเด็กมาสลับกัน” นางกำนัลนำพระโอรสที่ซ่อนมาในตะกร้าผ้าออกมานางกำนัลสาลินีและนางกำนัลมัฑนาต่างสลับพระโอรสกันตรงนั้น แต่สายตาทั้งสองก็ไมวายมองรอบๆ บริเวณ ด้วยความกลัวใครจะมาพบเห็น“เอ่อ เอ็งออกมาได้อย่างไงไม่มีทหารเหรอ” นางกำนันสาลินีถาม“มี แต่ทหารที่เฝ้ารู้จักกันก็เลยพอเอาออกมาได้”“เอ้านี่ คือแหวนที่มเหสีสีวิกามอบไว้ให้องค์ชาย”“อือ”มัณฑรับแหวนไว้แล้วรีบพาองค์ชายเข้าไปในพระตำหนักอย่างทันท่วงที ส่วนสาลินีไม่รอช้ารีบน้ำองค์ชายที่สลับเปลื่ยนไปยังตำหนักราชินีสีวิกาเช่นเดียวกัน ซึ่งกว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องหลบเหล่าทหารที่กำลังออกตระเวนเมื่อสาลินีมาถึงยังตำหนักของราชินีสาลินี เธอรีบน้ำพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสาวางไว้ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • นิยายรักสองภาพ   เริ่มเห็นความน่ารัก

    ยิวหยิบโน้ตบุ๊คมาเปิดดูแต่เป็นที่น่าเสียดาย มันสามารถที่จะติดได้เนื่องจากวันนั้นล้มกระแทกจนเสียหาย ยิวถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะเขาต้องทำงานส่งอาจารย์ และอีกอย่างหนึ่งด้วยความอยากรู้ว่ากัสได้บันทึกหรือทำอะไรไว้ในนี้บ้างยิวจึงพับโน๊ดบุ๊คไว้ตามเดิม และกะว่าช่วงเย็นจะเอาไปซ่อม แต่ติดปัญหาคือเขาไม่มีเงินพอที่จะนำไปซ่อม เขาจึงหยิบโทรศัท์มือถือของกัสมาเปิดดู ซึ่งได้ล็อครหัสไว้จึงทำให้ไม่สามารถเปิดได้ มีเพียงรับสายอย่างเดียวแค่นั้น ยิวจึงลองนำวันเดือนปีเกิดของกัสมาใส่ ซึ่งก็ได้ผลทันทีมือถือเครื่องนี้ปลดรหัสได้ แต่นั่นไม่เท่ากับภาพหน้าปกเป็นรูปของพีค ยิวจึงเกิดความอยากรู้ต่อไปเขาจึงเปิดดูในแกเลอรี่ ซึ่งในนั้นมีแต่ภาพพีคเต็มไปหมดดวงตาอันกลมโตของยิวได้หลับลง พร้อมจินตนาการเรื่องราวของกัสว่าเป็นอย่างไรบ้างก่อนหน้านี้ ซึ่งในหัวของเขาก็เห็นแต่หน้าพีคอยู่เพียงผู้เดียว พอเขาลืมตาขึ้นมาก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น เขารีบดูทันทีซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นพีคนั่นเอง“อยู่ห้องไหมน้องกัส”“อยู่พี่พีคมีอะไรหรือเปล่า”“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่โทรถามเฉยๆ ถ้าอยู่พี่จะไปหา”“พี่มีธุระอะไรเหรอ”“จะไปหาต้องมีธุระด้วยใช่ไหม”“เป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • นิยายรักสองภาพ   เผชิญหน้ากับความจริง

    กัสนั่งนิ่งๆ ก่อนที่จะไปท้องพระโรง เขาคิดย้อนเหตุการณ์เมื่อเสือเข้มพามาถึงยังหมู่บ้านกองโจร ซึ่งคนละที่กับซุ้มเสือเข้ม เพียงแค่เข้าไปถึงแม้จะไม่ประหลาดใจ แต่ก็ต้องอึ้งกับผู้คนในที่แห่งนี้ ที่มีหลากหลายอายุคละกันไป และมีการฝีกปรือฝีดาบอย่างขะมักเขม้น แต่เขาก็พยายามมองผ่านและเดินตามเสือเข้าไปข้างใน“แม่นมข้ากลับมาแล้ว” เสือเข้มวิ่งเข้าไปกราบแท่บเท้าของ มัณฑนานางกำนัลเก่าแห่งเมืองเมฆาบุรี“หายไปนายมากเลยนะ แม่อดคิดถึงเอ็งไม่ได้เลย เอ้า แล้วพาใครมาด้วยล่ะนะ” มัณฑนามองมายังกัสที่ยืนนิ่ง แต่แล้วเมื่อเห็นสายตาของมัณฑนาเขาก็ต้องนั่งลงแต่โดยดี“เพื่อนข้าเอง” เสือเข้มอมยิ้ม“เพื่อนเอ็งเป็นใครกัน ทำไมผิวพรรณยังกับคนในรั้วในวัง รูปร่างก็บอบบางยังกับอิสตรี เอ็งไปรู้จักกับเขาได้อย่างไรกัน”“ข้าเจอโดยบังเอิญชื่อโสภณ เป็นโอรสลับๆ ของสนมแห่งเมืองโสรยานคร”กัสรู้สึกประดักประเด่อพอสมควร เพราะเขากับเสือเข้มได้ตกลงตอนเดินทางมาที่แห่งนี้ ความคิดเช่นเดิมได้เกิดครั้งแรกที่เขาได้เจอแม่ทัพวิศรุฒ แต่ได้ปดมดเท็จว่าเป็นองค์ชายโสภณ กัสจึงทำตามเช่นเคยซึ่งเสือเข้มก็เห็นพ้องไม่ทัดทาน“อ่อ องค์ชายตกยาก คงจะเป็นคนองค์ชา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • นิยายรักสองภาพ   หลงระเริงในโลกความจริง

    เป็กผู้ช่ำชองในยามราตรี เขาไม่เคยพลาดแม้แต่ศุกร์เสาร์ทุกค่ำคืน เป็นนักเที่ยวตัวยงที่ใครเห็นก็ต้องจำได้ นอกจากพ่อรวยรูปหล่อสายเปย์อีกต่างหาก จึงมีหลายคนเข้ามาพัวพันไม่ขาดสาย เมื่อเป็กพายิวมาเที่ยว จึงมีสายตาหลายคู่จ้องมองด้วยความอิจฉา แต่ยิวหาสนใจไม่ถึงแม้จะไม่ค่อยคุ้นชินในโลกปัจจุบันเท่าไรนัก แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่นอะไรทั้งสิ้น“เป็นไงบ้างมาเปิดหูเปิดตา” เป็กยื่นแก้วเพื่อชน“ก็โอเคนะ เป็นครั้งแรกที่เราได้มา รู้สึกว่าน่าสนใจกว่าเมืองโบราณอีก” ยิวเผลอคำพูดที่ไม่พึงประสงค์ออกมา“เมืองโบราณอะไร” เป็กมีสีหน้าที่มึนงง“อ่อ เปล่า สนุกดีเราไปเต้นกันไหม”“อะไรนะ เราไม่อยากเชื่อเลยนายจะชวนเราไปเต้น นายเปลื่ยนไปหรือว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของนายว่ะ” เป็กหัวเราะ“ไม่ได้เปลื่ยนนี่แหละตัวจริง ที่เห็นก่อนหน้านี้ตัวปลอม แอ๊บไว้ไงแต่ไม่เห็นมีใครชอบเลย เป็นตัวของตัวเองดีกว่า” ยิวเสแสร้งแกล้งพูดเพราะในความจริงเป็นร่างของคนอื่น เพียงแต่เขาแค่มาอาศัยอยู่ในร่างนี้เท่านั้น“ร้ายนะ แกล้งเงียบถ้ารู้ว่านายเป็นแบบนี้เราจีบตั้งนานแล้ว”“อะไรนะ” ยิวรู้สึกมึนงงและสับสนกับคำพูดของเป็ก“ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วยล่ะ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-21
  • นิยายรักสองภาพ   ความเป็นมาของท่านแม่ทัพ

    เมื่อแม่ทัพมาถึงชายแดนเมืองเมฆาบุรี ก็เริ่มตั้งค่ายทันทีโดยมีจอมผู้เชี่ยวเป็นคนออกแบบ และวางผังทุกอย่างตามท่านแม่ทัพวิศรุฒออกคำสั่งมาก่อนหน้านี้ โดยหาไม้ไผ่มาทำเป็นที่หลับนอน และกิ่งไม่ขนาดใหญ่เป็นรั้วรอบบริเวณ กว่าจะเสร็จจนเกือบมืดค่ำแต่เพราะเป็นความร่วมมือร่วมใจเขาของเหล่าบรรดาทหาร ทุกอย่างจึงผ่านไปด้วยดีไม่มีข้อตกบกพร่องแต่อย่างใดแม่ทัพวิศรุฒยืนมองพระจันทร์คืนเต็มดวง สายตาของเขาได้มองพระจันทร์แต่ความคิดนั้นมีหลากหลายกว่านั้น การมาครั้งนี้มีแผนใจอีกอย่างหนึ่ง ด้วยความเป็นมาของแม่ทัพหนุ่มนั้นคลุมเครือ ขนาดพ่อแม่บุญธรรมอย่างอำมาตย์วิษณุกับนางแม้นยังไม่ทราบที่มาเลยมืออันหยาบกร้านหยิบแหวนทองอันล่ำค่า ที่สลักชื่อเมษาไว้ในวงแหวน ทำให้แม่ทัพวิศรุฒสงสัยว่าตัวเองเป็นลูกใครกัน เท่าที่จำความได้ ก็โตมาในครอบครัวของท่านอำมาตย์วิษณุ เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น แม่ทัพวิศรุฒไม่มีทางรู้ได้เลยว่าตัวเองเป็นใครความเศร้าความเหงาเริ่มเข้ามาเกาะกินใจ เพราะแม่ทัพวิศรุฒอดคิดถึงโสภณชายหนุ่มที่เขาอยากได้เป็นเมีย แต่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มีเพียงความคิดเท่านั้น นี่เป็นอีกเรื่องที่ต้องแก้ไข แต่ยังไม่หนักเท่ากับยกท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • นิยายรักสองภาพ   ความสำคัญที่มองข้าม

    เสียงเคาะประตูดังสนั่งเพราะหลายครั้งที่ไม่มีการตอบรับ เมื่อดังมากขึ้นยิวจึงรู้สึกตัวและพยุงร่างลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู“พี่ก็เป็นห่วงเคาะเรียกตั้งนานไม่เปิดสักที กำลังจะโทรหาอยู่พอดีเลยกัสก็เปิดประตู”“พี่พีคมีอะไรเหรอ เข้ามาก่อนก็ได้” หัวยุ่งๆ หน้าบูดๆ เดินมายังเตียงนอนด้วยความมึนๆ“พี่เจนนี่ให้พี่มาหาต่อบทกับกัส เพราะวันนั้นกัสยังไม่เข้าถึงบท ทำไมเมื่อก่อนกัสเล่นดีกว่านี้มาก” พีคนั่งลงข้างๆ ที่เก้าอี้“อือ เดี่ยวยิว โอ้ ไม่ใช่ เดี๋ยวกัสไปอาบน้ำก่อนนะ” เมื่อยิวพูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังห้องน้ำยิวพยายามครุ่นคิดเรื่องราวเมื่อคืนในระหว่างอยู่ในห้องน้ำ เขาเปิดฝักบัวราดน้ำลงทั่วเรือนร่าง ยิวจำได้รางๆ ว่าเป็กมาส่งหลังจากนั้นจำอะไรไม่ได้อีกเลย มารู้สึกตัวอีกทีตอนพีคมาเรียกในเมื่อจำอะไรไม่ได้มากยิวจึงไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไป เขาจึงรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วและออกไปข้างนอก เร่งใส่เสื้อผ้าแล้วมานั่งใกล้ๆ พีคที่กำลังนั่งอ่านบทอยู่“จะต่อฉากไหนล่ะ” ยิวพูดขึ้นห้วนๆ“เรามีกันแค่สองคน ก็ต้องซ้อมฉากอยู่กันสองคนนั่นแหละ แล้วซ่อมต่อฉากจากเมื่อวานก่อนนะ”“ได้” ยิวเดินไปหยิบบทของตัวเองขึ้นมาอ่าน และพร้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • นิยายรักสองภาพ   ก่อนไปชายแดน

    ค่ำคืนอันอันครื่นเครงก่อนไปสนามรบ มีสาวงามมากหน้าหลายตามาปรนเปรอกัสหรือองค์ชายเมธีกับเสือเข้ม กัสนั้นปฏิเสธไปทำทีท่าว่าจะพักผ่อน ทีแรกเสือเข้มยังสนใจสาวงามอยู่ เมื่อจัณฑ์เข้าปากความรู้สึกนั้นจางหายไป เขาดันมองกัสว่าสวยงามยังอิสตรี จึงเป็นเหตุไล่สาวงามออกไปหมดไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว จนกัสรู้สึกใคร่สงสัยเกิดอะไรขึ้น เพราะในนิยายไม่เป็นเช่นนี้“นายเป็นอะไรเสือเข้ม” กัสถาม“ข้าจำได้ว่าเมืองของเอ็งผู้ชายกับผู้ชายมีอะไรกันได้” เสือเข้มเดินเข้ามาใกล้ๆ กัส“นายจะบ้าเหรอ เราไม่เคยพูดเลยนายคิดไปเองมากกว่ามั้ง”“อย่ามาปดข้าเลยไอ้โสภณ” เสือเข้มเข้ามานั่งใกล้ๆ กัสที่เริ่มขยับออกห่างไปทีละนิดกัสพยายามรื้อฟื้นความจำเมื่อครั้งเขียนนิยาย นึกไปได้ไม่นานเขาจำได้ทันทีได้เขียนไว้เช่นนั้นจริง แต่กับเสือเข้มไม่ได้คิดจะมีอะไรแบบนี้ เขายังจำโครงเรื่องอยู่“ข้ารู้แล้วแหละ ตอนข้าพาเอ็งมาจากแม่ทัพวิศรุฒ ข้าเห็นพวกเอ็งนอนกอดกัน ข้าอยากเป็นเช่นนั้นบ้าง เพราะหน้าตาเอ็งเหมือนอิสตรี บางทีสวยกว่าอีกเพราะผิวพรรณเอ็งงามเหลือเกิ น จึงไม่แปลกใจแม่ทัพวิศรุฒนั้นถึงรักใคร่เสนห่าเอง”“นายพูดอะไรเรื่อยเปื่อย”“ไม่เรื่อยเปื่อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

  • นิยายรักสองภาพ   ร้ายขึ้นทุกวัน

    ค่ำคืนที่หาบทละครเวที พีคกำลังขะมักเขม้นทำอย่างจริงใจ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพีคได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อดูชื่อที่ปรากฏเป็นกัส พีคจึงรีบรับทันทีเพราะปกติไม่เคยโทรมาแต่อย่างใด “ฮัลโหล น้องกัสมีอะไรหรือเปล่า” “มี แต่ กัสไม่อยากบอกพี่เลยครับ” “เรื่องอะไร บอกมาเลยถ้าไม่บอกพี่โกรธจริงๆนะ” “ก็เรื่องของเขื่อนไงครับ คือ ว่า เอ่อ อ่า อืม” “พูดมาเลยว่าเรื่องอะไร” “คือ เรื่องเด็กคนนั้นน่ะของเขื่อน เท่าที่กัสสังเกตหน้าจะมีอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน” “พี่ก็สงสัยแต่พี่ไม่มีหลักฐานอะไร” “คือ คืนนี้พี่ลองไปหาเขื่อนที่ห้องพักแบบไม่ให้รู้ตัวสิครับ” “น้องกัสรู้อะไรมาเหรอ” “อืม กัสไม่พูดดีกว่าพี่พีคไปดูเองเถอะ” “อืม ก็ได้ ขอบใจกัสมากนะ” “ไม่เป็นไรครับ” เมื่อพีคกดวางโทรศัพท์มือถือ ก็ขับรถไปหาเขื่อนในทันที โดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ค่อนข้างให้ความเชื่อใจกัสมากกว่าเขื่อนเสียอีก พีคขับรถไปอย่างกระวนกระวายยิ่งนัก ด

  • นิยายรักสองภาพ   ทวงบัลลังก์คืน

    เสือเข้มผู้โหดเหี้ยมได้มีความรักโดยอย่างไม่ตั้งใจ จากเมื่อก่อนอยากอยู่ไปเรื่อยๆแต่ในปัจจุบันความคิดนั้นได้เปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะยิวได้สร้างห้องแห่งรักไว้ในหัวใจ จึงทำให้เสือเข้มเกิดความทะเยอะทะยานอยากได้ยิวมาครอบครองเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจะทวงราชบัลลังก์คืนแกตัวเขาและยิว การรวบรวมกำลังพลในค่ายเสือ ถึงจะไม่ได้มากมายเท่ากับกองทัพแห่งเมืองเมฆาบุรี ที่ตอนนี้เปลื่ยนชื่อเป็นเมืองวิหค กว่าที่เสือเข้มจะระดมบรรดาโจรทั่วเมืองเมฆาบุรีได้ใช้เวลานานพอสมควร และได้ติดต่อจากเมืองอื่นๆอีกมากมายเพื่อมาช่วยในครั้งนี้ โดยมีผลตอบแทนพื้นที่บางส่วนให้ไว้อาศัยอยู่ และทรัพย์สินในวังอันมีค่าบางส่วน ในที่สุดวันที่เสือเข้มรอคอยก็มาถึง เขาได้บุกเข้าเมืองเมฆาบุรีแบบกองโจร ไม่ได้ปะชิดสู้ตรงๆ เพราะขืนทำอย่างนั้นไม่มีทางที่จะชนะแม่ทัพวิหคและอำมาตย์มงคลได้อย่างแน่นอน โดยการครั้งนี้เสือเข้มเป็นผู้วางแผนและสั่งการเองทุกอย่าง โดยเริ่มต้นยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและเผลอไผลไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์อันร้ายแรงเกิดขึ้น “พี่น้องทุกคนพร้อมกันหรือยัง”เสือเข้มประกาศก้องใกล้ๆเมืองชั

  • นิยายรักสองภาพ   ล้างแค้นสองภพ

    เมื่อไม่ได้มีการซ้อมละครเวทีเขื่อนจนมีเวลาให้กับงานที่ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะหลังเลิกงานหรือแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์เขื่อนทุ่มเวลานั้นอย่างเต็มที่ จนทำให้ไม่มีเวลาไปมาหาสู่กับพีคอย่างเช่นแต่ก่อน และมีอยู่อีกเหตุหนึ่งนั้นเขื่อนได้มีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่มากขึ้น ตอนกลับห้องหรือไปไหนหลังจากเลิกงาน ก็ไปด้วยกันตลอดเวลา จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพีคกับเขื่อนได้จืดจางลงไปอย่างไม่ค่อยรู้ตัวหลังจากเลิกงานวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขื่อนได้กลับพร้อมกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ได้พึ่งได้มาทำงานได้ไม่นานแต่ความสนิทสนมกันนั้นแสนมาก“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่พีคมารับพี่เขื่อนเลยครับ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าใคร่สงสัย และมีความดีใจอยู่พอสมควร“พี่พีคไม่ค่อยว่าง เพราะตั้งแต่ไม่ได้แสดงละครด้วยกัน พี่พีคเขาต้องหาบทละครมาสร้างอีก ช่วงนี้เลยห่างๆ กันไป”“อ่อ ถึงว่าสิทำไมไม่ค่อยเห็นพี่พีค แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะถึงอย่างไงพี่เขื่อนยังมีผมอยู่เป็นเพื่อน” เจษอมยิ้มนิดๆ“อืม” เขื่อนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ได้แต่ยืนรอรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะกลับห้อง“โชคดีนะ ที่เราสองคนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นรถสายเดียวกัน” เจษยังยืนยิ้มอยู่ไม่วาย“พ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status