กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น
“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว “ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด “ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่าย กัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย “อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ “จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งกัสจับพวงสวรรค์เล่นกับสร้างความหฤหรรษ์อย่างถึงใจ ไม่นานริมฝีปากของกัสก็ปลดปล่อยท่อนเอ็น เปลื่ยนมาสัมผัสพวงสวรรค์ทั้งอมและดูดพร้อมเลียอย่างต่อเนื่อง แท่บไม่ให้เป็กมีเวลาหายใจลดความเสียวซ่าน ยิ่งใช้มือจับท่อนเอ็นรูดขึ้นรูดลงสร้างความเสียวทั่วเรือนร่าง จนเป็กกลัวจะเสร็จก่อนเวลาอันควร “พอก่อน” เป็กรีบลุกขึ้นนั่งและถอดเสื้อของกัสออกพร้อมผลักร่างให้นอนหงาย ทันใดนั้นประกบริมฝีปากทันทีใช้ปลายลิ้นดุนเข้าไป ตวัดพัลวัลพันกันอย่างสุดอารมณ์ ไม่นานเป็กเลื่อนจากริมฝีปากมาไซร้ซอกคออันขาวใสนวลเนียน ซุกไซร้ต่อหนวดทิ่มแทงจนกัสยิวสะท้านไปทั่วเรือนร่าง “อืม อ่า อ่า” ความรู้สึกเป็กในตอนนี้ดีอย่างมาก เมื่อได้ยินเสียงครางของคนที่เขารัก เพราะนั่นแสดงว่ากำลังมีความสุขกระสันร่วมกัน เป็กไม่รอช้าอีกต่อไปไล้ลงมาตรงหัวนมชมพูเล็กๆ รีบใช้ริมฝีปากขบเบาๆ พร้อมดูดนิดๆ ส่วนอีกมือบี้ขย้ำฝั่งตรงข้ามอย่างนิ่มนวล “โอ๊ย อืม อ่า” กัสบิดตัวไปมาด้วยความสยิวไปทั่วเรือนร่าง มือที่บี้ขย้ำนมชมพูดได้หยุดและผลัดเปลื่ยนข้างกัน แต่ความเสียวยังได้รับเหมือนเดิมไม่เปลื่ยนแปลงแต่อย่างใด เป็กไม่รออะไรอีกต่อไปเขาลุกขึ้นนั่งและถอดกางเกงของกัสออก พร้อมผลักร่างให้พลิกคว่ำ หลังจากนั้นเขาดึงเอวให้กัสอยู่ในท่าคุกเข่า สองมือของเป็กจับก้นสองข้างแบะออกห่าง จนเผยเห็นช่องทางรักอันคับแคบ เขาจึงอยากขยายให้กว้างขึ้น ก่อนทำสิ่งนั้นต้องมอบความสุขให้กัสก่อน จึงก้มหน้าซุกซอกบั้นท้ายและใช้ปลายลิ้นสัมผัสร่องสวาท พร้อมกับตวัดไปมาอย่างช้าๆ และเริ่มเร่งความเร็วขึ้น จนกัสครางออกมาอีกจนได้ เพราะเสียวเกินห้ามใจและถึงอารมณ์ในสิ่งที่เป็กทำให้ ปลายลิ้นได้ออกห่างจากร่างสวาท เปลื่ยนมาเป็นนิ้วชี้ค่อยๆ ยัดเข้าไปในช่องทางรักจนถึงโคนนิ้ว หลังจากนั้นดึงเข้าดึงออกอย่างช้าๆ และเพิ่มเป็นสองนิ้วกระทำเช่นเดิมไม่เปลื่ยนแปลง จนช่องทางรักขยายมากขึ้น ประจวบเหมาะกับเป็กอยากจะมอบความรักจากท่อนเอ็นของเขาเอง จึงดึงสองนิ้วนั้นออกมา พร้อมกับจับท่อนเอ็นสาวขึ้นลงให้แข็งกว่าดิม เมื่อทุกอย่างพร้อมท่อนเอ็นนั้นได้จ่อที่ช่องทางรัก และค่อยๆ เข้าไปทีละนิดทีละน้อยจนเข้าไปถึงกลางลำ เป็กจึงหยุดไว้แค่นั้นเพราะได้ยินเสียงร้องของกัสขึ้นมานิดหน่อย “โอ๊ย” เสียงของกัสได้จางหายเป็กจึงค่อยๆ ดันเข้าไปจนถึงสุดโคน ซึ่งครั้งนี้ก็ใช้เวลาไม่นานนัก เพราะได้กระทำบ่อยเกือบทุกวัน แต่ถึงกระนั้นเป็กก็หยุดนิ่งแช่ไว้เพื่อให้คลายความเจ็บนิดหน่อยของกัส “พร้อมหรือยัง” เป็กเอ่ยขึ้น “อืม” เป็กไม่รอช้าเมื่อได้คำตอบจึงค่อยๆ ดึงท่อนเอ็นออก และดันเข้าไปใหม่อย่างช้าๆ และต่อเนื่อง ทีแรกกัสรู้สึกคับแน่นพอสมควรพอนานอีกหน่อยก็เฉยๆ ไม่เจ็บ เมื่อเป็กเริ่มเร่งความเร็วขึ้นกลายเป็นความเสียวซ่านเข้ามาแทน “โอ๊ย อ่า อูว์ ซี๊ด อูว์” กัสครางออกมาด้วยความกระสันอยาก ยิ่งบั้นท้ายของเป็กกระแทกท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง ซอยถี่ๆ ไม่ยั้ง ย้ำๆ เน้นๆ ให้หนักหน่วงและตรงจุดกระสัน เพียงแค่นี้กัสร้องไม่เป็นภาษาคนสักเท่าไร ด้วยโดนต่อมสวาทอย่างจังทุกช่วงที่กระแทกแทงท่อนเอ็น “อืม อืม อืม” เป็กก็ไม่ต่างกันครางออกมาอย่างต่อเนื่อง เรือนกายเริ่มมีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย แขนและแผ่นอกเกร็งจนเห็นกล้ามเนื้อและเส้นเลือดชัดเจน ด้วยเป็กยังอยากคงความเสียวไว้อีก เพราะถ้ายังอยู่ในท่าเดิมอาจเสร็จในเร็วนี้ เขาจึงดึงท่อนเอ็นออก จนกัสรู้สึกเสียดายแต่ก็ไม่นานนัก “นอนหงาย” กัสทำตามอย่างว่าง่ายพลิกร่างนอนหงาย เพียงแค่นั้นเป็กจับขาทั้งสองข้างยกขึ้นกลางอากาศ จนเผยเห็นช่องทางรักที่ขยายกว้างมากขึ้น เขาจึงรีบจับท่อนเอ็นยัดทีเดียวพรวดเข้าไปในช่องทางรักอย่างง่ายดาย และกัสก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด มีแต่ความเสียวกระสันใคร่อยากให้เป็กทำต่อให้เสร็จสิ้น ขาสองข้างของกัสโน้มไปข้างหน้า แขนสองข้างคร่อมไว้พร้อมกระดกก้นทันที กระแทกแทงอย่างไวและให้ลึกเท่าที่ทำได้ โหมกระหน่ำใส่สุดๆ ซอยยิกๆ กระดกก้นถี่ๆ เข้าให้ลึกและไวอย่างต่อเนื่อง “อ่า อ่า อ่า” เป็กเริ่มหายใจหอบถี่ด้วยความเสียวกระสันและออกแรงกระหน่ำใส่ไม่หยุดไม่ยั้งโหมกระแทกอย่างหนักหน่วง สองแขนสองมือเปลื่ยนจากยันพื้น มาเป็นข้อศอกแทนส่วนริมฝีปากได้ลงไปสัมผัสนมชมพูดอย่างใคร่กระหาย ใช้ปลายลิ้นไล้เลียดูดอมกัดเบาๆ โอ๊ย อ่า อูว์ ซี๊ด” กัสครางออกมาด้วยความเสียวกระสันใคร่อยาก บั้นท้ายของเป็กยังไม่หยุดกระดกต่ออย่างสุดๆ จนกัสไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขาจึงอยากเปลื่ยนเป็นคนกระทำบ้าง กัสจึงกอดร่างของเป็กให้แนบกับเรือนกายของตัวเอง และพลิกร่างให้เป็กนอนด้านล่าง ส่วนตัวเขาเมื่ออยู่ด้านบนจึงลุกขึ้นนั่งคร่อมร่างของเป็ก “ต้องให้ได้อย่างนี้สิ” เป็กนอนหงายยกแขนอยู่เหนือศีรษะ พร้อมแยกขาให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนสายตามองกัสด้วยความรักใคร่กระหายอยาก กัสไม่รอช้าขย่มท่อนเอ็นทันที ไม่รอรีใช้ความเร็วอย่างต่อเนื่อง ยกบั้นท้ายขึ้นจนท่อนเอ็นเกือบหลุดและดันลงมาจนถึงสุดโคน จนเสียงดังสนั่นลั่นห้อง “ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ” ท่อนเอ็นของเป็กผลุบๆ โผล่ๆ ด้วยแรงยกและกระแทกของกัส จนทำให้ความเสียวกระสันของเป็กมากขึ้น เขาหลับตาพริ้มด้วยความสุขอย่างที่เคยได้รับประจำ แต่วันนี้สุขมากเพราะโดนกัสขย่มอย่างถึงใจ ยิ่งกัสขย่มหนักขึ้นเขายิ่งเสียวมากจนแท่บจะไม่ไหวอีกต่อไป เมื่อกัสดันบั้นท้ายลงมาเป็กอ้าขากว้างมากขึ้นและงอเข่า พร้อมเสยเท่อนเอ็นขึ้นบนอย่างแรง “โอ๊ย” กัสสะดุ้งเพราะโดนต่อมสวาทอย่างจัง เขาจึงหยุดให้เป็กไปฝ่ายกระทำ กัสจึงโน้มตัวกอดร่างของเป็กไว้ ถึงเวลาที่เป็กจะต้องปล่อยความสุขออกมา เขาจึงโหมเสยท่อนเอ็นขึ้นบน กระแทกขึ้นถี่เสยไม่ยั้งไม่หยุดดันขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าทนต่อไปอีกไม่ไหวอย่างแน่นอน “ปั๊บ ปั๊บ ปั๊บ” “โอ๊ย อ่า ซี๊ด โอ๊ย” เป็กครางออกมาอย่างดัง เป็กเสยรัวๆ ไม่กี่ครั้งน้ำกายก็ออกมาใส่ช่องทางรัก แต่เขายังไม่หยุดอยู่แค่นั้นเสยอย่างต่อเนื่อง จนทนไม่ไหวเพราะเสียวเกินไปจึงค่อยหยุดๆ พร้อมกับกอดร่างของกัสไว้แน่น หลับตาพริ้มเผยอปากเล็กน้อย พักชั่วครู่ให้คลายเสียว หลังจากนั้นเขาพลิกร่างตัวเองและกัส เพื่อให้กัสได้นอนหงาย และดึงท่อนเอ็นออกพร้อมก้มลงใช้ปลายลิ้นสัมผัสนมชมพู ส่วนมือก็จับท่อนเอ็นของกัสรูดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลานี้กัสเริ่มเสียวกระสันท่อนเอ็น ถึงกับหายใจถี่ด้วยความอยากจะปลดปล่อยน้ำในกาย เหมือนเป็กจะรู้ความรู้สึกของกัสได้ เขาจึงเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่องและหนักหน่วงขึ้น จนกระทั่งกัสทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงปล่อยน้ำในกายออกมากระจายทั่วบริเวณหน้าท้อง “อ่า อ่า อ่า ซี๊ด” กัสครางออกมาด้วยความเสียวขั้นสุดยอด เมื่อเสร็จสุขสมทั้งฝ่าย ต่างคนต่างกอดรัดฟัดเหวี่ยงและหยุดนิ่ง ด้วยความเหนื่อยและอ่อนแรงจนทำให้ผล่อยหลับไปในช่วงเวลาไม่นานเวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ
กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา
ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่
ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี
ค่ำคืนอันดึกดื่นกัสนักศึกษาหนุ่มผู้มีความฝัน อยากมีนิยายสักเรื่องหนึ่งที่เขาจินตนาการไว้ และอยากหาเงินจากการเขียนนิยายเพื่อยังชีพ เขาตั้งสมาธิอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะลงมือเขียน แต่ยังไม่ทันได้เขียน เขื่อนเพื่อนร่วมห้องตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำ และยังเห็นกัสนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คเขาจึงอดถามไถ่ไม่ได้ “กัสมัวทำอะไรอยู่ถึงยังไม่นอนสักที” “เรากำลังจะเขียนนิยายตอนแรก” “เอาแน่ใช่ไหม เห็นว่าจะเขียนหลายรอบแล้ว” “ครั้งนี้แน่นอน” “เอาใจช่วยนะ แต่เราขอตัวนอนต่อ นายก็อย่าโหมเขียนยันแจ้งล่ะ ถ้าง่วงก็นอน แต่เราของตัวนอนก่อนก็แล้วกัน”เขื่อนล้มตัวลงนอนและหลับไปในทันที ส่วนกัสก็ไม่รอรีอีกต่อไป เขากดแป้นพิมพ์ ตามจินตนาการที่วางไว้ เพื่อหวังว่าสักวันเขาจะประสบความสำเร็จทางด้านนี้ กัสจึงเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก นักรักบันลือโลก ท่ามกลางแคว้นโสรยาที่กำลังเกิดศึกสงคราม โดยมีแม่ทัพวิศรุฒแห่งแคว้นศิลานคร ได้นำทัพมาตีเมืองโสรยาที่อ่อนแอ ไร้ผู้นำที่เข้มแข็งจึงเป็นจุดอ่อนที่ทำให้แม่ทัพวิศรุฒ ตีเมืองโสรยาจนพ่ายเมืองแตก บรรดาเจ้าเมืองและองค์ชายที่หลบหนีไม่ทัน แม่ทัพวิศรุฒผู้เหี้ยมโหด ฆ่าฟันไม่มีเหลือซาก เพื่อป้องกัน
ผลคัดเลือกเข้าชมรมละครเวทีต้องรอวันพรุ่งนี้ พีคหัวหน้าชมรมจึงให้นักศึกษาที่มาสมัครคัดเลือกกลับกันไปก่อน ในส่วนของกัสและเขื่อนหลังจากออกมาจากชมรมละครเวที กัสรีบกลับห้องทันที เพื่อที่จะไปเขียนนิยายต่อ ส่วนเขื่อนต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ห้างสรรพสินค้า เมื่อกัสมาถึงที่ห้องเขาจึงรีบทำธุระส่วนตัวทุกอย่างให้เสร็จสิ้น นั่งครุ่นคิดชั่วครู่และลงมือเขียนนิยายต่อจากเมื่อวาน ในห้องบรรทมของเจ้าเมืองโสรยาองค์เก่า ที่ได้เสียชีวิตจากน้ำมือของแม่ทัพวิศรุฒผู้เหี้ยมโหด ในช่วงเวลานี้มีเพียงสองคนต่างภพได้ร่วมอยู่ห้องเดียวกัน หลังจากเหล่าบรรดาทหารกล้าออกไปจนหมด ตามคำสั่งของท่านแม่ทัพวิศรุฒ ยิวรู้สึกประหม่าและหวาดหวั่นมิใช่น้อย เมื่อเขาต้องยืนอยู่ใกล้หนุ่มร่างใหญ่กำยำบึกบึน ยิ่งสายตามองไปที่แผ่นอกลายรอยสักเสือสองตัว ยิวต้องเบี่ยงหน้าหนีไปทางอื่น เพราะเป็นรอยสักที่น่ากลัวสำหรับเขา “ข้าจะให้องค์เดินทางไปกับข้าด้วย” “จะไปก็ไปจะมาพูดย้ำทำไมอีก”“ที่ข้าพูดอีกครั้งก็เพราะว่า ถ้าข้าให้เดินทางไปในฐานะองค์ชายมันคงดูไม่เหมาะ” “แล้วจะให้เร
สองหนุ่มเพื่อนชี้ได้นั่งอ่านบทละครในห้องที่แสนอบอุ่น สองบทละครถูกเขื่อนและกัสอ่านจนหมดแต่ไม่จบเรื่อง “กัสชอบตัวละครไหน”เขื่อนเงยหน้าขึ้นปาดสายตามองกัส “ชอบทั้งสองบทเลยนะ บทแรกนี่ตรงข้ามกับเรามากเลย เป็นคนที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ตรงมาตรงไป ส่วนบทที่สองบทนิ่งๆเฉยๆเรียบๆนี่เราเลยนะ” “เราว่าบทที่สองเหมาะกับกัสนะ” “ใช่ เหมาะกับเรา แต่บทแรกก็เหมาะกับเขื่อนเหมือนกัน” “พวกเราจะเลือกบทที่เหมาะกับตัวเองหรือที่แตกต่างดีล่ะ” “เราว่าเลือกบทที่เหมาะกับตัวเองดีกว่า”กัสสบตาเขื่อนเพื่อนรัก “ถ้ากัสคิดว่าอย่างนั้น เราก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ” “ตกลงตามนี่ก็แล้วกัน แต่พี่เกรซให้บทละครมาแค่หนึ่งส่วนสี่ของเรื่องเอง เรายังไม่รู้เลยว่าตัวละครจะไปทิศทางไหน” “ใช่ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเล่นไปตามบทเรื่อยๆ เราคิดว่าพวกพี่ๆอยากได้การแสดงแบบดิบๆมากกว่า เลยไม่อยากให้รู้การดำเนินเรื่องเป็นอย่างไร” “ฮือ ถ้าจะจริง แต่เราก็อยากรู้ว่าบทไหนจะร้ายหนอ” “ไม่อยากเล่นบทร้ายเหรอ”เขื่อนเอ่ยขึ้น
ช่วงเวลาดีๆของกัสกับเขื่อนก็มาถึง ทั้งสองได้มาที่ห้องประชุมชมรมละครเวที ซึ่งทุกคนต่างรอคอยว่าสองคนนี้จะเลือกบทละครตัวไหนกัน “น้องกัสกับน้องเขื่อนตกลงกันได้หรือยังครับ ว่าใครจะเล่นบทอะไร”พีคมองหน้าทั้งกัสและเขื่อนด้วยความอยากรู้ “เราสองคนตกลงกันได้แล้วครับ เขื่อนจะเล่นบทของวิน ส่วนกัสจะเล่นบทของนิว ครับ”เขื่อนเป็นคนพูดส่วนกัสนั่งเฉยๆ ตามนิสัยที่เงียบนิ่งไม่ค่อยพูดเท่าไร “พี่ก็นึกไว้แบบนี้เหมือนกัน เพราะบทของวินจะเด็ดเดี่ยวเป็นคนตรงมาตรงไป ซึ่งก็เหมาะกับเขื่อน ส่วนบทของนิวจะนิ่งๆลึกน่าจะเหมาะกับกัส เอาล่ะซึ่งเป็นอะไรที่ลงตัวมากเลย ต่อไปให้พี่จีน่ากับพี่เกรซอธิบายบทละครให้ฟังนะ”พีคเอ่ยขึ้น “บทละครที่พี่ให้ไปนั้นเป็นแค่บางส่วน น้องๆก็จะรู้เรื่องราวแค่เบื้องต้นเท่านั้น ส่วนเนื้อเรื่องต่อจากนั้น ทั้งวินและนิวจะแตกหักกัน เพราะรักผู้ชายคนเดียวกัน หลังจากนั้นทั้งสองคนก็จะร้ายใส่กัน มันจะเริ่มสนุกกันตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่เกรซพูดต่อก็แล้วกัน” “คือบทของวินนั้นจะร้ายตรงๆ ส่วนบทของนิวจะร้ายลึก เบื้องหน้าจะดูเป็นคนดี ถูกกระทำ แต่
ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี
ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่
กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา
เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ
กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง
ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว
ค่ำคืนที่หาบทละครเวที พีคกำลังขะมักเขม้นทำอย่างจริงใจ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันพีคได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เมื่อดูชื่อที่ปรากฏเป็นกัส พีคจึงรีบรับทันทีเพราะปกติไม่เคยโทรมาแต่อย่างใด “ฮัลโหล น้องกัสมีอะไรหรือเปล่า” “มี แต่ กัสไม่อยากบอกพี่เลยครับ” “เรื่องอะไร บอกมาเลยถ้าไม่บอกพี่โกรธจริงๆนะ” “ก็เรื่องของเขื่อนไงครับ คือ ว่า เอ่อ อ่า อืม” “พูดมาเลยว่าเรื่องอะไร” “คือ เรื่องเด็กคนนั้นน่ะของเขื่อน เท่าที่กัสสังเกตหน้าจะมีอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน” “พี่ก็สงสัยแต่พี่ไม่มีหลักฐานอะไร” “คือ คืนนี้พี่ลองไปหาเขื่อนที่ห้องพักแบบไม่ให้รู้ตัวสิครับ” “น้องกัสรู้อะไรมาเหรอ” “อืม กัสไม่พูดดีกว่าพี่พีคไปดูเองเถอะ” “อืม ก็ได้ ขอบใจกัสมากนะ” “ไม่เป็นไรครับ” เมื่อพีคกดวางโทรศัพท์มือถือ ก็ขับรถไปหาเขื่อนในทันที โดยไม่บอกกล่าวอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ค่อนข้างให้ความเชื่อใจกัสมากกว่าเขื่อนเสียอีก พีคขับรถไปอย่างกระวนกระวายยิ่งนัก ด
เสือเข้มผู้โหดเหี้ยมได้มีความรักโดยอย่างไม่ตั้งใจ จากเมื่อก่อนอยากอยู่ไปเรื่อยๆแต่ในปัจจุบันความคิดนั้นได้เปลื่ยนไปอย่างมาก เพราะยิวได้สร้างห้องแห่งรักไว้ในหัวใจ จึงทำให้เสือเข้มเกิดความทะเยอะทะยานอยากได้ยิวมาครอบครองเขาจึงต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อจะทวงราชบัลลังก์คืนแกตัวเขาและยิว การรวบรวมกำลังพลในค่ายเสือ ถึงจะไม่ได้มากมายเท่ากับกองทัพแห่งเมืองเมฆาบุรี ที่ตอนนี้เปลื่ยนชื่อเป็นเมืองวิหค กว่าที่เสือเข้มจะระดมบรรดาโจรทั่วเมืองเมฆาบุรีได้ใช้เวลานานพอสมควร และได้ติดต่อจากเมืองอื่นๆอีกมากมายเพื่อมาช่วยในครั้งนี้ โดยมีผลตอบแทนพื้นที่บางส่วนให้ไว้อาศัยอยู่ และทรัพย์สินในวังอันมีค่าบางส่วน ในที่สุดวันที่เสือเข้มรอคอยก็มาถึง เขาได้บุกเข้าเมืองเมฆาบุรีแบบกองโจร ไม่ได้ปะชิดสู้ตรงๆ เพราะขืนทำอย่างนั้นไม่มีทางที่จะชนะแม่ทัพวิหคและอำมาตย์มงคลได้อย่างแน่นอน โดยการครั้งนี้เสือเข้มเป็นผู้วางแผนและสั่งการเองทุกอย่าง โดยเริ่มต้นยามค่ำคืนอันเงียบสงัดและเผลอไผลไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์อันร้ายแรงเกิดขึ้น “พี่น้องทุกคนพร้อมกันหรือยัง”เสือเข้มประกาศก้องใกล้ๆเมืองชั
เมื่อไม่ได้มีการซ้อมละครเวทีเขื่อนจนมีเวลาให้กับงานที่ทำมากขึ้น ไม่ว่าจะหลังเลิกงานหรือแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์เขื่อนทุ่มเวลานั้นอย่างเต็มที่ จนทำให้ไม่มีเวลาไปมาหาสู่กับพีคอย่างเช่นแต่ก่อน และมีอยู่อีกเหตุหนึ่งนั้นเขื่อนได้มีความใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่มากขึ้น ตอนกลับห้องหรือไปไหนหลังจากเลิกงาน ก็ไปด้วยกันตลอดเวลา จึงทำให้ความสัมพันธ์ของพีคกับเขื่อนได้จืดจางลงไปอย่างไม่ค่อยรู้ตัวหลังจากเลิกงานวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขื่อนได้กลับพร้อมกับหนุ่มรุ่นน้อง ที่ได้พึ่งได้มาทำงานได้ไม่นานแต่ความสนิทสนมกันนั้นแสนมาก“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นพี่พีคมารับพี่เขื่อนเลยครับ” เจษเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าใคร่สงสัย และมีความดีใจอยู่พอสมควร“พี่พีคไม่ค่อยว่าง เพราะตั้งแต่ไม่ได้แสดงละครด้วยกัน พี่พีคเขาต้องหาบทละครมาสร้างอีก ช่วงนี้เลยห่างๆ กันไป”“อ่อ ถึงว่าสิทำไมไม่ค่อยเห็นพี่พีค แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะถึงอย่างไงพี่เขื่อนยังมีผมอยู่เป็นเพื่อน” เจษอมยิ้มนิดๆ“อืม” เขื่อนไม่ได้พูดอะไรต่อจากนี้ ได้แต่ยืนรอรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะกลับห้อง“โชคดีนะ ที่เราสองคนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นรถสายเดียวกัน” เจษยังยืนยิ้มอยู่ไม่วาย“พ