แชร์

อยากมีเมีย

ผู้แต่ง: ต๋อง น่ะ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-20 18:37:22

           เมื่อยิวพาสองพ่อลูกขึ้นมายังบนเรือน ทั้งสามก็นั่งลงกับพื้นด้วยใจที่ระทึก ซึ่งในช่วงเวลานี้ต้องจัดการทุกอย่าง เขาจึงอึดสู้พูดเพื่อในสิ่งที่เขารับปากไว้แล้วว่าจะทำ ตามที่สองพ่อลูกต้องการในช่วงที่ผ่านมา

            “ลุง เอ่อ”ยิวอ้ำอึ่ง

            “ไม่ต้องเรียกลุงเรียกว่าพ่อกับแม่ได้แล้วโสภี เอ็งนี่กะไรไม่รู้ควมเลยรึ”อำมาตย์ใช้สายตาตักเตือนยิว

            “คือย่างนี้ค่ะพ่อ จอมเนี่ยไปน้องชายของหนู แบบว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน คือ น้องหนูอยากเป็นทหาร หนูก็เลยอยากฝากเนื้อฝากตัวให้น้องด้วย”

            “ว่าไงวิศรุฒ”อำมาตย์วิษณุหันมามองบุตรชายของเขา

            “หน่วยก้านใช้ได้ เหมาะสำหรับเป็นทหาร ว่าแต่เอ็งมีฝีมือการต่อสู้อะไรบ้าง”

            “ข้า ต่อยมวยได้ ฟันดาบ ยิงธนู ขี่ม้า”จอมเอ่ยขึ้น

            “ลูกของข้าทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่มีโอกาสได้เข้ามารับใช้บ้านเมืองขอรับ”หัวหน้านำขบวนเอ่ยขึ้น

            “ดี ดีมาก”อำมาตย์วิษณุพูดเสียงหนักแน่น

            “ถ้าอย่างนั้นวันนี้เอ็งพร้อมไหม ข้าจะพาเอ็งเข้าไปในวังด้วย”

            “พร้อมขอรับ”จอมรับปากทันที

            “ดี มันต้องให้ได้อย่างนี้ถึงจะเป็นชายชาติทหาร”อำมาตย์วิษณุรู้สึกถูกชะตากับจอมอย่างมาก เช่นเดียวกับแม่ทัพวิศรุมก็พึ่งพอใจในตัวของจอม

            หลังจากสอบถามเรื่องราวต่างๆจบสิ้น แม่ทัพวิศรุฒและอำมาตย์วิษณุก็พาจอมเข้าไปในวัง ส่วนพ่อของจอมก็ได้กลับไปยังที่พักของตัวเองด้วยใจที่สุขยิ่ง ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นยิวก็ต้องอยู่กับแม่แม้นแม่ของวิศรุฒเพียงลำพังในเรือนหลังใหญ่โต

            ยิวนั่งอยู่เงียบๆคนเดียวจนเริ่มหวั่นกลัวแม่แม้นขึ้นมาทันที เพราะสายตาและท่าทีของนางไม่สบอารมณ์ต่อตัวของเขาอย่างมาก ยิวจึงพยายามหาทางหลบหลีกให้พ้นจากที่นี่

“หนูขอตัวเข้าไปในห้องก่อนนะคะ”ยิวยกมือไหว้เพื่อเป็นการลา

“เดี๋ยวก่อน”เสียงห้วนๆดังขึ้น

“มีอะไรเหรอคะแม่”

“อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดายปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น”แม่แม้นเสียงพูดที่ดูเย็นชา

“หนูปั้นไม่เป็นหรอกค่ะวัวควาย แต่หนูก็ไม่ได้อยู่เฉยๆนะคะ แต่หนูก็จะทำการบ้านให้ท่านแม่ทัพอยู่แล้วนี่คะ”

“การบ้านอะไร หรือว่าเป็นงานเรือน อันนั้นมันหน้าที่ของบ่าวไพร่ แต่เมื่อหล่อนเข้ามาในเรือนนี้ ในฐานะลูกสะไภ้ก็ควรทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยไม่ใช่รึ”

“ค่ะ แม่จะให้ทำอะไรก็บอกมาซิคะ”ยิวรู้สึกขบขันที่แม่แม้นไม่เข้าใจในความหมายทำการบ้าน

“เอาล่ะ อย่างแรกเลยคือ”แม้แม้นยังพูดไม่จบก็ได้ยินเสียงหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันดังขึ้น

“คุณพี่ วันนี้น้องพาสุจิตรามาหาคุณพี่ค่ะ”ปราณีเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อขึ้นมาถึงบนเรือนชานแล้วนั่งลงข้างๆแม้แม้น

“สวัสดีค่ะคุณป้า”สุจิตราคู่หมั้นคู่หมายท่านแม่ทัพวิศรุฒยกมือไว้แม่แม้นอย่างนอบน้อม ซึ่งเธอเป็นลูกสาวท่านอำมาตย์ไชยา

“ถ้างั้นหนูขอตัวเข้าไปในห้องก่อนนะคะ”ยิวกำลังจะยกมือไหว้แม่แม้น

“ใครเหรอคะหน้าไม่คุ้นเลยคุณพี่”ปราณีปาดสายตามองยิวอย่างมีเลศนัย

“ก็ เอ่อ”แม่แม้นอ้ำอึ่ง

“หนูเป็นเมียท่านแม่ทัพวิศรุฒค่ะ”ยิวอดรนทนไม่ไหว เพราะสายตาสองแม่ลูกนั้นดูถูกเขาอย่างมาก

“โสภี เข้าไปข้างในได้แล้ว”นางแม้นตวาดขึ้นทันที

“ก็เมื่อกี้ยังไม่ให้เข้านิคะ”

“ตอนนี้ข้าให้เอ็งเข้าไป  ถ้าไม่เข้าไปข้าจะให้บ่าวผู้ชายเฆี่ยนเองให้หลังลายเลย”

“ก็ได้ค่ะ หวัดดี”ยิวยกมือขึ้นไหว้เหนือหัว

“เด็กคนนี้ไร้มารยาทจริงๆแม่แม้นบ่นพึมพำ

“เมียท่านแม่ทัพจริงๆด้วย ที่ข่าวลือก็เป็นความจริงสินะ”แม่ปราณีเอ่ยขึ้น

“อย่าไปสนใจเลยก็เด็กชาวป่าชาวเขา จะมาสู้อะไรกับแม่สุจิตราได้ล่ะ งามทั้งหน้าตาและกิริยา ซึ่งคู่ควรเป็นเมียเอกท่านแม่ทัพลูกของพี่”

“นางคนนี้ คุณพี่จะให้อยู่ในฐานะอะไรล่ะคะ”

“เมียบ่าว คุณน้องไม่ต้องวิตกกังวลแต่อย่างใดหรอก”

“จะไม่ให้วิตกได้อย่างไรกันล่ะคุณพี่ ดูท่าทางนางน่าจะเอาเรื่องอยู่”

“เอาแบบนี้ พรุ่งนี้แม่ทัพวิศรุฒจะไปออกทัพ เราค่อยจัดการนางก็ไม่สายเกินไป”

“คุณพี่หมายความว่าอย่างไงน้องไม่เข้าใจ”

“ก็เฉกหัวมันออกไป”

“ไม่ดีหรอก เฉกหัวออกไป เดี๋ยวมันกลับมาได้อีก น้องมีวิธีการที่ไม่ให้มันได้กลับ คุณพี่สนใจหรือเปล่า”

“อย่าถึงกับฆ่าแกล้งกันนะ ถึงอย่างไงนางก็เป็นเมียบ่าวลูกวิศรุฒของพี่”แม่แม้นรู้สึกใจหาย

“ไม่ใช่อย่างคุณพี่คิดหรอก เราก็แค่หาผัวให้นางใหม่แค่นั้น เพราะท่านแม่ทัพวิศรุฒคงไปออกศึกหลายเดือนอยู่นี่”

“อือ เข้าท่าอยู่นะความคิดของน้องพี่ ตกลงเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พี่ให้น้องปราณีเป็นคนจัดการเรื่องนี้”

“ได้เลยค่ะ คุณพี่”

ทั้งสามคนเมื่อพูดเรื่องของยิวจบเสร็จสิ้น ก็พูดคุยเรื่องราวทั่วๆไปตามภาษาผู้หญิงที่เขาคุยกัน อย่างสนุกสนามและมีความสุข โดยปล่อยให้ยิวนั้นได้อยู่ลำพังเพียงคนเดียวในห้องนอนที่แสนเงียบสงัด

ยิวเดี๋ยวนั่งเดี๋ยวนอนจนเบื่อหน่าย เพราะไม่มีอะไรให้ทำแม้แต่อย่างเดียว ถึงใจจะอยากออกไปข้างนอกห้องสักเพียงใด ด้วยความกลัวและไม่คุ้นเคยเขาจึงไม่สามารถทำใจออกไปพบปะผู้คนได้ในช่วงเวลานี้ เขาจึงได้แต่นอนนิ่งๆนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยด้วยความกลัดกลุ้มอย่างไม่มีวันคลายทุกข์ได้

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ยิวสงบได้ นั่นคือคิดถึงในที่จากมา ถ้าไม่ได้เข้ามาในนิยายเรื่องนี้ป่านนี้คงจะสนุกกับเพื่อนที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ แล้วไหนจะพ่อแม่พี่น้องอีกเขายิ่งคิดหดหู่ใจยิ่งนัก ยิวจึงล้มตัวลงนอนคิดฝันหวานเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา จนถึงเวลากินข้าวเขาก็ไม่ออกไปกินข้างนอก จนบ่าวรับใช้นำอาหารมาให้กินถึงห้องตามคำสั่งของแม่แม้น ถึงเธอจะไม่ชอบยิวสักเพียงใด แต่เธอก็ไม่ใจดำพอที่จะปล่อยให้ยิวอดหาร และอีกอย่างเธอกลัวท่านอำมาตย์กับวิศรุฒลูกชายสุดที่รักว่าให้ได้

เมื่อยิวกินข้าวเสร็จก็มืดค่ำพอดี เขาจึงนั่งรอการกลับมาของแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งยิวก็รออยู่พักใหญ่กว่าจะได้พบเจอ

“ทำไมมาช้าจัง”ยิวเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อแม่ทัพวิศรุฒมาถึงที่ห้อง

“มีเลี้ยงฉลองก่อนไปทำสงครามจากคนในวัง ข้าเลยกลับมาช้าเอ็งมีอะไรรึ”แม่ทัพวิศรุฒนั่งลงใกล้ๆยิว

“เปล่า ไม่กลับมาซะทีก็อดเป็นห่วงไม่ได้”

“เอ็งเป็นห่วงข้าด้วยรึ”

“อ้าว พูดแปลก”

“ข้ากับเอ็งไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”

“ก็เมียท่านแม่ทัพไง ใครๆเขาก็รู้กันไปทั่วแล้ว”

“เป็นแค่ในนาม แต่ข้ายังไม่เคยได้เอ็งเป็นเมียเลย นี่ก็น่าจะถึงเวลาที่เอ็งจะต้องบอกว่าซะที วเอ่อ”แม่ทัพวิศรุฒหยุดพูดทันที เพราะเขาไม่กล้าเอ่ยคำนี้ออกมา

“อะไรพูดมาสิ”

“ก็เองบอกว่าบ้านเมืองของเอ็งผู้ชายกับผู้ชายอยู่เป็นผัวเมียกัน ข้าก็อยากรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”

“เอ่อ อ่า”ยิวไม่รู้จะพูดอย่างไรดี และเขาคิดว่าคงจะปฏิเสธไม่ได้อย่างแน่นอนในคืนนี้

“เราจะเป็นผัวเมียกันซะที ก่อนออกไปสนามรบข้าก็อยากมีความสัมพันธ์กับเอ็ง”

“เหรอ”

ยิวคิดหนักอยู่พอสมควร ถึงแม้เขาจะไม่ได้ถือตัวอะไรมากมาย และก็เคยมีความสัมพันธ์แบบนี้มาก่อน แต่ในเมื่อต้องมามีความสัมพันธ์ทางกายกับแม่ทัพวิศรุฒ ใจของเขาก็สับสนว่าจะทำอย่างไรดี แต่เท่าที่ดูยิวก็พอคาดเดาได้ว่าคงไม่พ้นคืนนี้อย่างแน่นอน

“อยากลองเหรอ”

“อือ ต้องทำอย่างไร”

“นอนลงได้เลย”ยิวตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะมอบความสุขให้แก่ท่านแม่ทัพวิศรุฒ เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆที่มอบให้ ถึงแม้ในตอนนี้เขายังจะไม่ได้รู้สึกชอบท่านแม่ทัพวิศรุฒสักเท่าไร

“ได้สิ”

ยิวนั่งมองแม่ทัพวิศรุฒล้มตัวลงนอนบนเตียง แล้วใจของเขาก็หวั่นไหวอยู่พอสมควร ด้วยรูปร่างที่กำยำล่ำสันสมชายชาตรี ยิวจึงขยับตัวเข้าไปใกล้ๆแม่ทัพวิศรุฒ พร้อมเอื่อมมือไปจับท่อนเอ็นของเขา

“หยุดนะ”แม่ทัพวิศรุฒลุกขึ้นนั่งทันที

“อะไร”ยิวมีท่าทีตกใจเมื่อได้ยินเสียงห้วนๆและดังขึ้น

“เอ็งจะทำอะไร”

“ก็ทำแบบผัวเมียทำกันไง นายอยากได้แบบนี้ไม่ใช่เหรอ”

“คือ ข้า”

แม่ทัพวิศรุฒอยากจะลองแต่ใจยังไม่กล้าพอ ถึงแม้ยิวจะหน้าตาคล้ายผู้หญิง ผิวพรรรณขาวนวลดั่งอิสตรี แต่เขาก็ยังทำใจไม่ได้ที่จะมีความสัมพันธ์ทางกายกับยิว ถึงแม้เขาจะรู้สึกชอบยิวขึ้นมาบ้างอย่างไม่รู้ตัว

“อะไรพูดมาสิ”

“เอ็งมานอนข้างๆข้าดีกว่า คืนนี้ข้าเมาอย่างหนัก ข้าง่วงนอนแล้ว”

“ใช่ พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”

“ใช่”

“ถ้างั้นแค่นอนกอดกันก็พอ”

ยิวล้มตัวลงนอนข้างๆแม่ทัพวิศรุฒ พร้อมกับนอนตะแครงแล้วใช้มือโอบกอดอกให้ผ่ายผึงของแม่ทัพวิศรุฒ ที่เขาสัมผัสได้หัวใจนั้นเต้นแรงอยู่พอสมควร

“พรุ่งนี้ข้าต้องไปชายแดน เอ็งอยู่คนเดียวได้ไหม”

“ได้ ไม่มีปัญหา”

“ดีมาก ข้าขอร้อยอย่าสร้างความลำบากใจให้พ่อกับแม่ข้า”

“แน่นอน ข้าสัญญา”

“สัญญากับข้าอีกอย่างได้ไหม”

“อะไร”

“อย่าหนีข้าไปไหนอีก”

“โอ๊ย ข้าจะไปไหนได้อีกล่ะ ก็ต้องอยู่กับนายนั่นแหละ นายก็ด้วยเหมือนกันต้องรบให้ชนะ แล้วกลับมาอย่างปลอดภัย”คำพูดนี้ของยิวทำให้เขารู้สึกใจพอสมควร

“ถ้าข้ากลับมาพร้อมชัยชนะ เอ็งจะมีอะไรให้ข้าบ้าง”

“นายอยากได้อะไรเราให้ทุกอย่างเลย”

“ถ้าอย่างงั้นข้าจะเอาเอ็งเป็นเมียหลังจากกลับมาจากชายแดน”

“ตกลง”ยิวตกลงไปอย่างงั้น เพราะเขาคิดว่าจะต้องหาทางกลับไปยังที่เขาจากมาให้ได้

“ถ้างั้นนอนเถอะพรุ่งนี้ข้าต้องไปแต่เช้าตรู่”แม่ทัพวิศรุฒหลับตาทันทีเมื่อพูดจบ

ยิวนอนมองหน้าแม่ทัพวิศรุฒพร้อมกับคิดถึงเหตุการณ์วันข้างหน้า เพราะเขากลัวจะมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับเขาอีกจนไม่เคยพบเจอกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นิยายรักสองภาพ   มันไม่ใช่ความรัก

    การซ้อมละครได้หยุดพักหนึ่งอาทิตย์ เพื่อที่จะให้เขื่อนและกัสได้หยุดสงบอารมณ์ไม่ให้เข้าถึงอารมณ์ไปมากกว่านี้ และอีกอย่างหนึ่งใกล้เวลาสอบแล้วด้วย ทางชมรมจึงถือโอกาสให้ทั้งสองได้มีเวลาในการเตรียมตัว ในส่วนของกัสก็หยุดการเขียนนิยายไปชั่วขณะ เพื่อที่จะได้มานั่งอ่านหนังสือเหมือนเดิม ซึ่งแตกต่างจากเขื่อนยังคงไปทำงานตามเดิมไม่เปลื่ยนแปลง เพราะทางบ้านค่อนข้างขัดสนกว่ากัส เขาจึงจำเป็นต้องหารายได้พิเศษมาใช้ในการเรียน ยิ่งเมื่อสอบเสร็จภาระจะมาอีกมากมายโดยเฉพาะค่าเทอม กัสกำลังนั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่ในห้องอย่างเคร่งเครียด และเขื่อนก็เดินเข้ามาพอดี ซึ่งก็เป็นเวลาที่ดึกพอสมควร “ทำไมยังไม่นอนอีกเหรอกัส นี่ก็ดึกมากแล้วนะ” “นายก็เหมือนกันเขื่อน น่าจะเอาเวลามาอ่านหนังสือบ้าง มัวแต่ทำงานอยู่นั่นแหละ” “ไมได้หรอก ถ้าเราหยุดก็คงต้องหางานใหม่อีกนั่นแหละ ทนๆเอา เราจะอ่านตอนว่างๆหลังจากทำงาน” “มันจะมีสมาธิอะไรล่ะ” “เอาน่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ว่าแต่นายเถอะออกจากบทละครหรือยัง”เขื่อนถามด้วยความเป็นห

  • นิยายรักสองภาพ   วันที่ต้องจากลา

    กัสอยากสัมผัสเรือนร่างของพีค แต่เขาก็หักห้ามใจตัวเองไว้ได้ เพราะรู้สึกไม่ดีถ้าลวนลามพีคในช่วงเวลาที่เขาหลับอยู่ กัสจึงตัดสินใจให้พีคนอนอย่างสงบ ส่วนตัวเขาก็เดินมายังโต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อเขียนนิยายอันเป็นที่รักต่อ ตะวันสาดส่องประตูเมืองอันกว้างใหญ่ ซึ่งมีหลายครอบครัวยืนเรียงรายกันส่งเหล่าบรรดาทหารกล้า หนึ่งในนั้นก็มีอำมาตย์วิษณุและแม่แม้น รวมทั้งอำมาตย์ไชยาและสุนันทาผู้เป็นภรรยา ซึ่งได้พาสุจิตราลูกสาวสุดที่รักมาด้วย และที่ขาดไม่ได้คือยิวซึ่งเป็นเมียท่านแม่ทัพ ยิวรู้สึกใจหายเป็นอย่างมาก ที่เขาต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ก่อนที่เขาจะมาท่านแม่ทัพวิศรุฒุบอกให้เขาได้รอ ในห้องนอนของท่านแม่ทัพวิศรุฒ ซึ่งกำลังจะออกจากห้องเขาได้สั่งลาก่อน เพื่อไม่อยากให้ใครได้รับรู้เมื่อออกไปจากห้องนี้แล้ว “โสพล เมื่อเช้าข้าตื่นรู้สึกใจคอไม่ดี กลัวกลับมาจะไม่เจอเอ็ง” “เราก็เหมือนกันนั่นแหละ”ยิวก็รู้สึกเช่นนั้นไม่ต่างกันสักเท่าไร “เมื่อคืนข้าใคร่คราญแล้ว ความรู้สึกของข้าที่มีต่อเองนั้นมันมีความ

  • นิยายรักสองภาพ   ความสัมพันธ์ร้าวฉาน

    เมื่อเขียนนิยายได้หนึ่งตอนกัสจึงรู้สึกง่วงอย่างมาก จึงหยุดเขียนและนั่งอ่านซ้ำจนเกือบจะจบตอน จูจู่เขาก็ได้ยินเสียงจากด้านหลัง “กัสพีคมานอนนี่ได้อย่างไง” กัสได้ยินเสียงห้วนและดังมาก เขาจึงหันหน้ามองด้วยความตกใจ กัสทำอะไรไม่ถูกถึงแม้สิ่งที่เขาทำก้ำกึ่งไม่ตั้งใจก็ตาม “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะเขื่อน” “ไม่ใช่แล้วพี่พีคมานอนอยู่ที่ห้องได้ไง” “ก็พี่พีคเขาเมาตามหานายไม่เจอ เขาก็มานอนรอนายอยู่นี่ไม่เห็นเหรอนะ” “ทำไมต้องถอดเสื้อผ้านอนด้วย”เขื่อนจ้องหน้ากัสเขม็ง “เหล้ามันหกเปื้อนเสื้อผ้าเขา โน้น เสื้อกางเกงของพีคเราซักตากไว้ให้”กัสชี้ไปยังที่ตากเสื้อกางเกงของพีค “เราไม่เชื่อหรอกนายสองคนต้องมีอะไรกัน” “ไม่เชื่อก็ถามพี่พีคสิ” “พี่พีค”เขื่อนตะโกนอย่างดัง พีคตกใจตื่นด้วยเสียงอันดังของเขื่อน เมื่อเขาลืมตาขึ้นและหันมามองตามเสียง ภาพที่ได้เห็นคือเขื่อนยืนนิ่งๆมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ พีครู้สึกแปลกใจเขาจึงลุกขึ้นแล้วลงมาจากเตียง “มีอะไรเหรอเรียกพ

  • นิยายรักสองภาพ   ตัวเราลิขิตเอง

    ตอนที่24 ตัวเราลิขิตเอง น้ำกระเด็นทั่วเรือนร่างและโดนหนักตรงบริเวณใบหน้า จึงทำให้กัสได้สติเขาค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อย และภาพตรงหน้าที่เขาได้พบเห็น เป็นชายหนุ่มสูงใหญ่มีหนาวดเคราหนาจนกัสรู้สึกหวั่นกลัวอย่างหนัก เขาจึงรีบลุกขึ้นนั่งทันทีพร้อมกับมองไปรอบๆบริเวณ ซึ่งมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่และหญ้าสูงเคียงเอว “มึงเป็นบ้าอะไรใส่ชุดใหญ่ผู้หญิงไอ้ยิว”เสือเข้มผู้ช่วยชีวิตกัสเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าขมึงตึง “เราไม่ได้ชื่อยิวเราชื่อกัส”เมื่อกัสได้ยินชื่อยิวเขาก็ใคร่สงสัยและครุ่นคิดอย่างหนัก ยิ่งเห็นสภาพแวดล้อมแบบนี้ด้วย ทำให้กัสถึงกับพอจะรู้อะไรบ้างแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร “มึงพูดดีๆว่ามึงชื่ออะไร” กัสมองไปรอบๆอีกครั้งและหยิกตัวเองซึ่งเขาก็รู้สึกเจ็บพอสมควร ในช่วงเวลานี้เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ เท่าที่เขาจำได้ก่อนหน้านี้กำลังทะเลาะอยู่กับเขื่อน และก็โดนผลักจนล้มลงบนโน๊ตบุ๊ค หลังจากนั้นกัสไม่สามารถที่จะจำอะไรได้อีกเลย “ที่นี่ที่ไหน”กัสพูดด้วยความมึนงง “ศิลานคร” “แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

  • นิยายรักสองภาพ   ความสัมสนอลหม่าน

    ยิวนั่งมองเขื่อนขนของย้ายห้องออกไปอย่างไม่ใคร่สนใจ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกสนิทด้วยแต่อย่างใด ยิวจึงมีแต่ความเย็นชาใส่เขื่อน เมื่อเขื่อนขนของเสร็จเขาไม่ได้ยินแม้แต่คำลาสักคำ เช่นเดียวกับตัวเขาที่ไม่พูดอะไรออกมาให้เขื่อนได้อย่างยินเช่นกัน พออยู่คนเดียวภาวะจิตใจของยิวนั้นเริ่มว้าวุ่นคิดวนมาวนไปอยู่หลายครั้ง เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรียนอยู่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ พอกับจากมหาวิทยาลัยเขาก็นอนอ่านนิยายแล้วหลับไปตื่นมาอีกทีก็อยู่ในเหตุการณ์นิยายเรื่องนักรักบันลือโลกไปแล้ว นักเขียนไม่ได้ใส่รายละเอียดตัวเขาให้มากพอ ยิวจึงมีความทรงจำในยุคปัจจุบันอยู่แค่นี้ แต่เรื่องราวต่างๆในโลกปัจจุบันยิวกับรู้ทำได้ทุกอย่างได้หมด เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ยิวเริ่มค้นห้องและตรวจสอบทุกอย่างในความเป็นตัวกัส เขาจึงรู้ว่ากัสเป็นนักศึกษานิเทศศาสตร์ซึ่งคนละคณะกับเขาเลย เพราะยิวเรียนคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ยิวยิ่งคิดยิ่งกลัดกลุ้มเขาไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปอย่างไรกับชีวิตที่อยู่ในร่างกัส แต่เขาคิดว่ายังดีกว่าไปอยู่นิยายเมืองโบราณที่ไม่มีความทันสมัย ซึ่งเขาได้พบความอยากลำบากมาแล้ว ยิวจึง

  • นิยายรักสองภาพ   ยอมจำนนฟ้าลิขิต

    กัสเดินเข้ามาในตำหนักว่างเปล่าที่มีผู้คนคอยรับใช้อย่างมากมาย ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าต่อไปนี้ไม่น่าจะลำบากกาย แต่อันตรายนั้นน่าจะอยู่รอบตัวเขาอย่างแน่นอน กัสจึงหวั่นผวากลัวอยู่เนืองๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอนกจากทนและจำยอมมาในที่แห่งนี้ พร้อมกับเสือเข้มผู้องอาจ และท่านอำมาตย์มงคลผู้มีแผนการอันแยบยล“เอ็งจำไว้นะว่าชื่อเมธี เป็นรัชทายาทแห่งเมืองเมฆาบุรี เป็นพระราชโอรสของอดีตราชาเมษากับราชินีสีวิกา” อำมาตย์มงคลพูดจบก็หันไปมองกัสที่นั่งนิ่งๆ สีหน้าราบเรียบ“ส่วนองค์ชายตัวจริง กระหม่อมต้องขออภัยด้วยที่ต้องเรียกว่าองครักษ์เข้ม”“ไม่เป็นไรหรอกข้าแค่อยากมาแก้แค้นให้เสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้าเท่านั้น”“ดีมากพระองค์ แต่พระองค์ต้องลำบากลำบนเป็นโจรก็เพราะราชาเมฆาที่พึ่งสิ้นพระชนม์ไปนี่พระเจ้าค่ะ”“ท่านอำมาตย์ลืมไปแล้วเหรอว่าข้าเป็นองครักษ์เข้ม ท่านอย่าพูดกับข้าเป็นองค์ชายอย่างนั้น องค์ชายตัวจริงอยู่โน่น” เสือเข้มโบ้ยปากไปทางกัสที่กำลังนั่งนิ่งๆ“เอ่อ ขอโทษข้าลืมไป ถ้าอย่างขอตัวก่อนก็แล้วกัน เอาไปว่าคืนนี้คุยกันดีๆ และเตรียมตัวอย่างที่เราตกลงกันไว้” เมื่ออำมาตย์มงคลพูดจบเขาก็เดินจากไปในทันทีกัสครุ่นคิด

  • นิยายรักสองภาพ   ตัวตนที่แท้จริง

    หนึ่งหนุ่มกับสาวอีกคนนั่งมองหน้ากันในห้องชมรมละคร หลังจากนักศึกษาในชมรมนี้ออกไปไปหมดแล้ว เจนนี่ผู้กำกับสาวนั่งนิ่งมองหน้ายิวอยู่พักหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่มองอยู่นั้น ได้เห็นแววตาอันเปลื่ยนแปลงไป เพราะมีความสู้คนและเปิดเผยออกมาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด“วันนี้น้องกัสเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมการแสดงของน้องแปลกไป และไม่เข้ากับบมที่ได้รับ”“เปล่าครับ ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง”“พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องนะ แต่พี่อยากบอกว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับการแสดงให้มาก คือเมื่อก่อนกัสอินกับละครจนไม่สามารถที่จะออกจากบทนั้นได้ แต่ทำไมตอนนี้กัสไม่อินเหมือนเดิมกลับกันเป็นคนละคนเลย”ยิวอยากจะเถียงแต่เขาก็ต้องเก็บกลั้นอามรมณ์นั้นไว้ เพราะในตอนนี้เขาได้เขามาอยู่ในร่างของกัน ซึ่งจากการคาดคะเนของยิวนั้น กัสน่าจะมีนิสัยที่แตกต่างจากเขาอย่างมาก“ครับ” ยิวรับคำแต่โดยดีและไม่พูดสิ่งใดออกมา“ดีแล้ว พี่จะให้กัสพักสองวันนะเพื่อลองทบทวนอะไรบางอย่าง กลับได้แล้วเดี๋ยวมืดค่ำจะอันตราย”“ขอบคุณพี่มากครับ” ยิวยกมือไหว้พร้อมกับศีรษะให้เจนนี่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว และไม่หันหรือหยุถเดินแต่อย

  • นิยายรักสองภาพ   ต้นกำเนิดเสือเข้ม

    นางกำนัลสาลินีได้นำพาพระโอรสของราชาเมษากับราชินีสีวิกา เดินลัดเลาะหลบมุมตลอดทาง จนมาถึงข้างๆ ตำหนักของชายามาริสา เธอรออยู่พักหนึ่งมันฑนานางกำนัลร่วมรุ่นมาพร้อมพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสา“ข้ารอตั้งนานนึกว่าเอ็งไม่มาแล้ว ยังดีที่พระโอรสไม่ร้องเลย” นางกำนัลสาลินีเอ่ยขึ้นด้วยใจระทึกมองซ้ายมองขวา แล้วมององค์ชายแสนอาภัพที่เธออุ้มมา“เอาน่าอย่าพูดมากเลยเอาเด็กมาสลับกัน” นางกำนัลนำพระโอรสที่ซ่อนมาในตะกร้าผ้าออกมานางกำนัลสาลินีและนางกำนัลมัฑนาต่างสลับพระโอรสกันตรงนั้น แต่สายตาทั้งสองก็ไมวายมองรอบๆ บริเวณ ด้วยความกลัวใครจะมาพบเห็น“เอ่อ เอ็งออกมาได้อย่างไงไม่มีทหารเหรอ” นางกำนันสาลินีถาม“มี แต่ทหารที่เฝ้ารู้จักกันก็เลยพอเอาออกมาได้”“เอ้านี่ คือแหวนที่มเหสีสีวิกามอบไว้ให้องค์ชาย”“อือ”มัณฑรับแหวนไว้แล้วรีบพาองค์ชายเข้าไปในพระตำหนักอย่างทันท่วงที ส่วนสาลินีไม่รอช้ารีบน้ำองค์ชายที่สลับเปลื่ยนไปยังตำหนักราชินีสีวิกาเช่นเดียวกัน ซึ่งกว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องหลบเหล่าทหารที่กำลังออกตระเวนเมื่อสาลินีมาถึงยังตำหนักของราชินีสาลินี เธอรีบน้ำพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสาวางไว้ข

บทล่าสุด

  • นิยายรักสองภาพ   หลงระเริงในโลกความจริง

    เป็กผู้ช่ำชองในยามราตรี เขาไม่เคยพลาดแม้แต่ศุกร์เสาร์ทุกค่ำคืน เป็นนักเที่ยวตัวยงที่ใครเห็นก็ต้องจำได้ นอกจากพ่อรวยรูปหล่อสายเปย์อีกต่างหาก จึงมีหลายคนเข้ามาพัวพันไม่ขาดสาย เมื่อเป็กพายิวมาเที่ยว จึงมีสายตาหลายคู่จ้องมองด้วยความอิจฉา แต่ยิวหาสนใจไม่ถึงแม้จะไม่ค่อยคุ้นชินในโลกปัจจุบันเท่าไรนัก แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่นอะไรทั้งสิ้น“เป็นไงบ้างมาเปิดหูเปิดตา” เป็กยื่นแก้วเพื่อชน“ก็โอเคนะ เป็นครั้งแรกที่เราได้มา รู้สึกว่าน่าสนใจกว่าเมืองโบราณอีก” ยิวเผลอคำพูดที่ไม่พึงประสงค์ออกมา“เมืองโบราณอะไร” เป็กมีสีหน้าที่มึนงง“อ่อ เปล่า สนุกดีเราไปเต้นกันไหม”“อะไรนะ เราไม่อยากเชื่อเลยนายจะชวนเราไปเต้น นายเปลื่ยนไปหรือว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของนายว่ะ” เป็กหัวเราะ“ไม่ได้เปลื่ยนนี่แหละตัวจริง ที่เห็นก่อนหน้านี้ตัวปลอม แอ๊บไว้ไงแต่ไม่เห็นมีใครชอบเลย เป็นตัวของตัวเองดีกว่า” ยิวเสแสร้งแกล้งพูดเพราะในความจริงเป็นร่างของคนอื่น เพียงแต่เขาแค่มาอาศัยอยู่ในร่างนี้เท่านั้น“ร้ายนะ แกล้งเงียบถ้ารู้ว่านายเป็นแบบนี้เราจีบตั้งนานแล้ว”“อะไรนะ” ยิวรู้สึกมึนงงและสับสนกับคำพูดของเป็ก“ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วยล่ะ เ

  • นิยายรักสองภาพ   เผชิญหน้ากับความจริง

    กัสนั่งนิ่งๆ ก่อนที่จะไปท้องพระโรง เขาคิดย้อนเหตุการณ์เมื่อเสือเข้มพามาถึงยังหมู่บ้านกองโจร ซึ่งคนละที่กับซุ้มเสือเข้ม เพียงแค่เข้าไปถึงแม้จะไม่ประหลาดใจ แต่ก็ต้องอึ้งกับผู้คนในที่แห่งนี้ ที่มีหลากหลายอายุคละกันไป และมีการฝีกปรือฝีดาบอย่างขะมักเขม้น แต่เขาก็พยายามมองผ่านและเดินตามเสือเข้าไปข้างใน“แม่นมข้ากลับมาแล้ว” เสือเข้มวิ่งเข้าไปกราบแท่บเท้าของ มัณฑนานางกำนัลเก่าแห่งเมืองเมฆาบุรี“หายไปนายมากเลยนะ แม่อดคิดถึงเอ็งไม่ได้เลย เอ้า แล้วพาใครมาด้วยล่ะนะ” มัณฑนามองมายังกัสที่ยืนนิ่ง แต่แล้วเมื่อเห็นสายตาของมัณฑนาเขาก็ต้องนั่งลงแต่โดยดี“เพื่อนข้าเอง” เสือเข้มอมยิ้ม“เพื่อนเอ็งเป็นใครกัน ทำไมผิวพรรณยังกับคนในรั้วในวัง รูปร่างก็บอบบางยังกับอิสตรี เอ็งไปรู้จักกับเขาได้อย่างไรกัน”“ข้าเจอโดยบังเอิญชื่อโสภณ เป็นโอรสลับๆ ของสนมแห่งเมืองโสรยานคร”กัสรู้สึกประดักประเด่อพอสมควร เพราะเขากับเสือเข้มได้ตกลงตอนเดินทางมาที่แห่งนี้ ความคิดเช่นเดิมได้เกิดครั้งแรกที่เขาได้เจอแม่ทัพวิศรุฒ แต่ได้ปดมดเท็จว่าเป็นองค์ชายโสภณ กัสจึงทำตามเช่นเคยซึ่งเสือเข้มก็เห็นพ้องไม่ทัดทาน“อ่อ องค์ชายตกยาก คงจะเป็นคนองค์ชา

  • นิยายรักสองภาพ   เริ่มเห็นความน่ารัก

    ยิวหยิบโน้ตบุ๊คมาเปิดดูแต่เป็นที่น่าเสียดาย มันสามารถที่จะติดได้เนื่องจากวันนั้นล้มกระแทกจนเสียหาย ยิวถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะเขาต้องทำงานส่งอาจารย์ และอีกอย่างหนึ่งด้วยความอยากรู้ว่ากัสได้บันทึกหรือทำอะไรไว้ในนี้บ้างยิวจึงพับโน๊ดบุ๊คไว้ตามเดิม และกะว่าช่วงเย็นจะเอาไปซ่อม แต่ติดปัญหาคือเขาไม่มีเงินพอที่จะนำไปซ่อม เขาจึงหยิบโทรศัท์มือถือของกัสมาเปิดดู ซึ่งได้ล็อครหัสไว้จึงทำให้ไม่สามารถเปิดได้ มีเพียงรับสายอย่างเดียวแค่นั้น ยิวจึงลองนำวันเดือนปีเกิดของกัสมาใส่ ซึ่งก็ได้ผลทันทีมือถือเครื่องนี้ปลดรหัสได้ แต่นั่นไม่เท่ากับภาพหน้าปกเป็นรูปของพีค ยิวจึงเกิดความอยากรู้ต่อไปเขาจึงเปิดดูในแกเลอรี่ ซึ่งในนั้นมีแต่ภาพพีคเต็มไปหมดดวงตาอันกลมโตของยิวได้หลับลง พร้อมจินตนาการเรื่องราวของกัสว่าเป็นอย่างไรบ้างก่อนหน้านี้ ซึ่งในหัวของเขาก็เห็นแต่หน้าพีคอยู่เพียงผู้เดียว พอเขาลืมตาขึ้นมาก็ได้ยินเสียงมือถือดังขึ้น เขารีบดูทันทีซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นพีคนั่นเอง“อยู่ห้องไหมน้องกัส”“อยู่พี่พีคมีอะไรหรือเปล่า”“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่โทรถามเฉยๆ ถ้าอยู่พี่จะไปหา”“พี่มีธุระอะไรเหรอ”“จะไปหาต้องมีธุระด้วยใช่ไหม”“เป

  • นิยายรักสองภาพ   ต้นกำเนิดเสือเข้ม

    นางกำนัลสาลินีได้นำพาพระโอรสของราชาเมษากับราชินีสีวิกา เดินลัดเลาะหลบมุมตลอดทาง จนมาถึงข้างๆ ตำหนักของชายามาริสา เธอรออยู่พักหนึ่งมันฑนานางกำนัลร่วมรุ่นมาพร้อมพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสา“ข้ารอตั้งนานนึกว่าเอ็งไม่มาแล้ว ยังดีที่พระโอรสไม่ร้องเลย” นางกำนัลสาลินีเอ่ยขึ้นด้วยใจระทึกมองซ้ายมองขวา แล้วมององค์ชายแสนอาภัพที่เธออุ้มมา“เอาน่าอย่าพูดมากเลยเอาเด็กมาสลับกัน” นางกำนัลนำพระโอรสที่ซ่อนมาในตะกร้าผ้าออกมานางกำนัลสาลินีและนางกำนัลมัฑนาต่างสลับพระโอรสกันตรงนั้น แต่สายตาทั้งสองก็ไมวายมองรอบๆ บริเวณ ด้วยความกลัวใครจะมาพบเห็น“เอ่อ เอ็งออกมาได้อย่างไงไม่มีทหารเหรอ” นางกำนันสาลินีถาม“มี แต่ทหารที่เฝ้ารู้จักกันก็เลยพอเอาออกมาได้”“เอ้านี่ คือแหวนที่มเหสีสีวิกามอบไว้ให้องค์ชาย”“อือ”มัณฑรับแหวนไว้แล้วรีบพาองค์ชายเข้าไปในพระตำหนักอย่างทันท่วงที ส่วนสาลินีไม่รอช้ารีบน้ำองค์ชายที่สลับเปลื่ยนไปยังตำหนักราชินีสีวิกาเช่นเดียวกัน ซึ่งกว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องหลบเหล่าทหารที่กำลังออกตระเวนเมื่อสาลินีมาถึงยังตำหนักของราชินีสาลินี เธอรีบน้ำพระโอรสของอนุชาเมฆากับชายามาริสาวางไว้ข

  • นิยายรักสองภาพ   ตัวตนที่แท้จริง

    หนึ่งหนุ่มกับสาวอีกคนนั่งมองหน้ากันในห้องชมรมละคร หลังจากนักศึกษาในชมรมนี้ออกไปไปหมดแล้ว เจนนี่ผู้กำกับสาวนั่งนิ่งมองหน้ายิวอยู่พักหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่มองอยู่นั้น ได้เห็นแววตาอันเปลื่ยนแปลงไป เพราะมีความสู้คนและเปิดเผยออกมาอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด“วันนี้น้องกัสเป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมการแสดงของน้องแปลกไป และไม่เข้ากับบมที่ได้รับ”“เปล่าครับ ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง”“พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องนะ แต่พี่อยากบอกว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับการแสดงให้มาก คือเมื่อก่อนกัสอินกับละครจนไม่สามารถที่จะออกจากบทนั้นได้ แต่ทำไมตอนนี้กัสไม่อินเหมือนเดิมกลับกันเป็นคนละคนเลย”ยิวอยากจะเถียงแต่เขาก็ต้องเก็บกลั้นอามรมณ์นั้นไว้ เพราะในตอนนี้เขาได้เขามาอยู่ในร่างของกัน ซึ่งจากการคาดคะเนของยิวนั้น กัสน่าจะมีนิสัยที่แตกต่างจากเขาอย่างมาก“ครับ” ยิวรับคำแต่โดยดีและไม่พูดสิ่งใดออกมา“ดีแล้ว พี่จะให้กัสพักสองวันนะเพื่อลองทบทวนอะไรบางอย่าง กลับได้แล้วเดี๋ยวมืดค่ำจะอันตราย”“ขอบคุณพี่มากครับ” ยิวยกมือไหว้พร้อมกับศีรษะให้เจนนี่ หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว และไม่หันหรือหยุถเดินแต่อย

  • นิยายรักสองภาพ   ยอมจำนนฟ้าลิขิต

    กัสเดินเข้ามาในตำหนักว่างเปล่าที่มีผู้คนคอยรับใช้อย่างมากมาย ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าต่อไปนี้ไม่น่าจะลำบากกาย แต่อันตรายนั้นน่าจะอยู่รอบตัวเขาอย่างแน่นอน กัสจึงหวั่นผวากลัวอยู่เนืองๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอนกจากทนและจำยอมมาในที่แห่งนี้ พร้อมกับเสือเข้มผู้องอาจ และท่านอำมาตย์มงคลผู้มีแผนการอันแยบยล“เอ็งจำไว้นะว่าชื่อเมธี เป็นรัชทายาทแห่งเมืองเมฆาบุรี เป็นพระราชโอรสของอดีตราชาเมษากับราชินีสีวิกา” อำมาตย์มงคลพูดจบก็หันไปมองกัสที่นั่งนิ่งๆ สีหน้าราบเรียบ“ส่วนองค์ชายตัวจริง กระหม่อมต้องขออภัยด้วยที่ต้องเรียกว่าองครักษ์เข้ม”“ไม่เป็นไรหรอกข้าแค่อยากมาแก้แค้นให้เสด็จพ่อเสด็จแม่ของข้าเท่านั้น”“ดีมากพระองค์ แต่พระองค์ต้องลำบากลำบนเป็นโจรก็เพราะราชาเมฆาที่พึ่งสิ้นพระชนม์ไปนี่พระเจ้าค่ะ”“ท่านอำมาตย์ลืมไปแล้วเหรอว่าข้าเป็นองครักษ์เข้ม ท่านอย่าพูดกับข้าเป็นองค์ชายอย่างนั้น องค์ชายตัวจริงอยู่โน่น” เสือเข้มโบ้ยปากไปทางกัสที่กำลังนั่งนิ่งๆ“เอ่อ ขอโทษข้าลืมไป ถ้าอย่างขอตัวก่อนก็แล้วกัน เอาไปว่าคืนนี้คุยกันดีๆ และเตรียมตัวอย่างที่เราตกลงกันไว้” เมื่ออำมาตย์มงคลพูดจบเขาก็เดินจากไปในทันทีกัสครุ่นคิด

  • นิยายรักสองภาพ   ความสัมสนอลหม่าน

    ยิวนั่งมองเขื่อนขนของย้ายห้องออกไปอย่างไม่ใคร่สนใจ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกสนิทด้วยแต่อย่างใด ยิวจึงมีแต่ความเย็นชาใส่เขื่อน เมื่อเขื่อนขนของเสร็จเขาไม่ได้ยินแม้แต่คำลาสักคำ เช่นเดียวกับตัวเขาที่ไม่พูดอะไรออกมาให้เขื่อนได้อย่างยินเช่นกัน พออยู่คนเดียวภาวะจิตใจของยิวนั้นเริ่มว้าวุ่นคิดวนมาวนไปอยู่หลายครั้ง เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรียนอยู่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ พอกับจากมหาวิทยาลัยเขาก็นอนอ่านนิยายแล้วหลับไปตื่นมาอีกทีก็อยู่ในเหตุการณ์นิยายเรื่องนักรักบันลือโลกไปแล้ว นักเขียนไม่ได้ใส่รายละเอียดตัวเขาให้มากพอ ยิวจึงมีความทรงจำในยุคปัจจุบันอยู่แค่นี้ แต่เรื่องราวต่างๆในโลกปัจจุบันยิวกับรู้ทำได้ทุกอย่างได้หมด เพียงแต่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ยิวเริ่มค้นห้องและตรวจสอบทุกอย่างในความเป็นตัวกัส เขาจึงรู้ว่ากัสเป็นนักศึกษานิเทศศาสตร์ซึ่งคนละคณะกับเขาเลย เพราะยิวเรียนคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ยิวยิ่งคิดยิ่งกลัดกลุ้มเขาไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปอย่างไรกับชีวิตที่อยู่ในร่างกัส แต่เขาคิดว่ายังดีกว่าไปอยู่นิยายเมืองโบราณที่ไม่มีความทันสมัย ซึ่งเขาได้พบความอยากลำบากมาแล้ว ยิวจึง

  • นิยายรักสองภาพ   ตัวเราลิขิตเอง

    ตอนที่24 ตัวเราลิขิตเอง น้ำกระเด็นทั่วเรือนร่างและโดนหนักตรงบริเวณใบหน้า จึงทำให้กัสได้สติเขาค่อยๆลืมตาขึ้นทีละน้อย และภาพตรงหน้าที่เขาได้พบเห็น เป็นชายหนุ่มสูงใหญ่มีหนาวดเคราหนาจนกัสรู้สึกหวั่นกลัวอย่างหนัก เขาจึงรีบลุกขึ้นนั่งทันทีพร้อมกับมองไปรอบๆบริเวณ ซึ่งมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่และหญ้าสูงเคียงเอว “มึงเป็นบ้าอะไรใส่ชุดใหญ่ผู้หญิงไอ้ยิว”เสือเข้มผู้ช่วยชีวิตกัสเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าขมึงตึง “เราไม่ได้ชื่อยิวเราชื่อกัส”เมื่อกัสได้ยินชื่อยิวเขาก็ใคร่สงสัยและครุ่นคิดอย่างหนัก ยิ่งเห็นสภาพแวดล้อมแบบนี้ด้วย ทำให้กัสถึงกับพอจะรู้อะไรบ้างแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร “มึงพูดดีๆว่ามึงชื่ออะไร” กัสมองไปรอบๆอีกครั้งและหยิกตัวเองซึ่งเขาก็รู้สึกเจ็บพอสมควร ในช่วงเวลานี้เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ เท่าที่เขาจำได้ก่อนหน้านี้กำลังทะเลาะอยู่กับเขื่อน และก็โดนผลักจนล้มลงบนโน๊ตบุ๊ค หลังจากนั้นกัสไม่สามารถที่จะจำอะไรได้อีกเลย “ที่นี่ที่ไหน”กัสพูดด้วยความมึนงง “ศิลานคร” “แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

  • นิยายรักสองภาพ   ความสัมพันธ์ร้าวฉาน

    เมื่อเขียนนิยายได้หนึ่งตอนกัสจึงรู้สึกง่วงอย่างมาก จึงหยุดเขียนและนั่งอ่านซ้ำจนเกือบจะจบตอน จูจู่เขาก็ได้ยินเสียงจากด้านหลัง “กัสพีคมานอนนี่ได้อย่างไง” กัสได้ยินเสียงห้วนและดังมาก เขาจึงหันหน้ามองด้วยความตกใจ กัสทำอะไรไม่ถูกถึงแม้สิ่งที่เขาทำก้ำกึ่งไม่ตั้งใจก็ตาม “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะเขื่อน” “ไม่ใช่แล้วพี่พีคมานอนอยู่ที่ห้องได้ไง” “ก็พี่พีคเขาเมาตามหานายไม่เจอ เขาก็มานอนรอนายอยู่นี่ไม่เห็นเหรอนะ” “ทำไมต้องถอดเสื้อผ้านอนด้วย”เขื่อนจ้องหน้ากัสเขม็ง “เหล้ามันหกเปื้อนเสื้อผ้าเขา โน้น เสื้อกางเกงของพีคเราซักตากไว้ให้”กัสชี้ไปยังที่ตากเสื้อกางเกงของพีค “เราไม่เชื่อหรอกนายสองคนต้องมีอะไรกัน” “ไม่เชื่อก็ถามพี่พีคสิ” “พี่พีค”เขื่อนตะโกนอย่างดัง พีคตกใจตื่นด้วยเสียงอันดังของเขื่อน เมื่อเขาลืมตาขึ้นและหันมามองตามเสียง ภาพที่ได้เห็นคือเขื่อนยืนนิ่งๆมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ พีครู้สึกแปลกใจเขาจึงลุกขึ้นแล้วลงมาจากเตียง “มีอะไรเหรอเรียกพ

DMCA.com Protection Status