Share

บทที่ 4 . วางแผน

last update Last Updated: 2025-03-16 13:00:17

               เพราะกลิ่นไอปีศาจที่ติดตัวเขามาเมื่อวานทำให้เธอต้องวางแผนที่จะเข้าไปที่ทำงานของทาสผู้เลี้ยงดูเธอในร่างแมวเหมียว เช้านี้เป็นอีกวันของการทำงานเพราะอย่างนั้นดีนจึงออกไปทำงานตามปกติ เมื่อเขาออกไปจากห้องเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นางปีศาจแมวในร่างแมวเหมียวก็แปลงกายเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง แอบดมกลิ่นลอบตามเขาไปจนถึงบริษัทใหญ่

               หญิงสาวเงยหน้ามองตึกสูงราวสามสิบชั้นนั้นอย่างเชิดๆ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ล็อบบี้ของบริษัทนั้นด้วยท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม โลกมนุษย์นี้ใช่ว่าเธอจะไม่เคยมาท่องเที่ยวและเรียนรู้มัน เธอในชุดเสื้อเชิ้ตรัดรูปพอดิบพอดีไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไปคู่กับกระโปรงทรงเอสีดำ ด้วยรูปร่างของเธอไร้ที่ติและยั่วยวนนั้นไม่ว่าจะหญิงหรือชายต่างหันมามองเธอเป็นตาเดียว

               “ขอโทษค่ะ...พอดีว่าจะมาสมัครงาน”

               “เอ่อ...ค่ะ...ตำแหน่งอะไรคะ? ตอนนี้เหลือตำแหน่งว่างอยู่ตำแหน่งเดียวคือเลขาของคุณดนุวัศ”

               “ค่ะ ตำแหน่งเลขานั่นแหละค่ะ”

               นิลมณีพูดขึ้นด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนก็ได้ทั้งนั้นขอแค่ได้เข้าทำงานในบริษัทนี้เสียก่อน พนักงานหน้าล็อบบี้ยื่นใบสมัครงานให้เธอพร้อมกับบอกว่าให้นั่งกรอกใบสมัครตรงโซฟาด้านหน้าแล้วนำมาส่งที่กลับที่ล็อบบี้เหมือนเช่นเดิม

               เธอนั่งอ่านใบสมัครนั้นพร้อมทำท่าเหมือนขีดเขียนลงไปแต่เพียงเธอวาดมือเหนือใบสมัครนั้นประวัติที่แสนเพอร์เฟคของเธอก็ปรากฏในใบสมัครโดยไม่ต้องขีดเขียน ในเมื่อเธอเป็นราชาปีศาจก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยากนี่รวมถึงการรับเข้าทำงานด้วยเช่นกัน

               “นี่ค่ะ ใบสมัครพร้อมเอกสาร” เพียงไม่นานนิลมณีก็ยื่นใบสมัครส่งกลับที่หน้าล็อบบี้พร้อมเอกสารประจำตัวทั้งหมด ทำเอาพนักงานหน้าล็อบบี้ทั้งอึ้งทั้งงงไปตามๆกัน ก็เห็นๆอยู่ว่าเธอไม่ได้ถือกระเป๋าหรืออะไรมาเลย เธอแทบจะเดินตัวเปล่าตัวปลิวเข้ามาเสียด้วยซ้ำ พนักงานหน้าล็อบบี้เช็คเอกสารของเจ้าหล่อนก่อนจะพยักหน้าหงึก ๆ ยังคงไม่หายอึ้ง

               “ต้องรอการตอบรับกี่วัน?”

               “ไม่เกินอาทิตย์นึงค่ะ”

               “ฉันต้องการวันนี้ ไปส่งใบสมัครให้ฉันเดี๋ยวนี้” คำสั่งที่ปะปนไปด้วยมนตราส่งผลให้พนักงานคนนั้นพยักหน้ารับแล้วถือเอกสารของเธออย่างเหม่อลอย เดินไปขึ้นลิฟท์พร้อมกับกดชั้นที่ดนุวัศทำงานอยู่เพื่อเอาเอกสารของนิลมณีไปส่งให้ถึงมือ แม้ว่าเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงล็อบบี้จะพากันทำหน้างงงงวยกับท่าทีของเพื่อนร่วมงานก็ตามแต่ก็ไม่มีใครกล้าเรียกหรือเอ่ยถาม

               นิลมณีเดินนวยนาดไปนั่งตรงโซฟาที่เดิมอย่างใจเย็น แม้ว่าภายในจะร้อนรุ่มอย่างรีบๆสมัครงานให้มันจบๆ เธอจะได้หากลิ่นไอของจอมปีศาจนั้นว่าคือใครและเขาจะได้ปลดปล่อยพลังให้เธอกลับคืนสู่ตำแหน่งราชาได้ และยังได้ผู้ที่จะช่วยกำจัดนางจิ้งจอกที่เข้ามายืดเขตแดนของเธอ เพียงแค่คนที่ชื่อดนุวิศได้เห็นรูปถ่ายร่ายมนตราของเธอเขาก็จะรีบร้อนใจรับเธอเข้าทำงานทันที

               รอแล้วรอเล่าจนพนักงานสาวคนนั้นเดินกลับลงมานั่งที่หน้าล็อบบี้ดังเดิมก็ยังไม่มีการติดต่อมากจากคนที่ชื่อดนุวัศเลย นิลมณีแทบจะรอไม่ไหวนั่งมองนาฬิกาข้อมือซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่มีวี่แววที่โทรศัพท์เครื่องหรูที่เธอพึ่งซื้อมาใหม่จะดังขึ้นเลย จนเธออดใจรอไม่ไหวอีกต่อไปตัดสินใจลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากบริษัทไป แต่ทว่า...

               ติ้ง!

                    ยินดีด้วย คุณนิลมณี จันทร์แรม คุณได้รับเลือกเข้าทำงานในบริษัท HD จำกัด ให้คุณเริ่มงานในวันที่ 18/03/68 เวลาเข้างาน 8.30 น. ขอบคุณที่เข้ามาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน

               นิลมณีอ่านข้อความที่ถูกส่งมาทางอีเมล์ก่อนจะยกยิ้มขึ้น ในที่สุดเธอก็ได้เข้าทำงานในบริษัทแห่งนี้เพียงเพื่อเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือการกลับไปยังโลกปีศาจดังเดิม เมื่อใดที่เธอได้กลับไปยังโลกปีศาจไม่ว่าคนที่รู้จักเธอ รู้ชื่อเธอ หรือแม้แต่มิตรภาพในโลกมนุษย์นี่ก็จะถูกลบลืมเลือนไปราวกับเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

               เมื่อเห็นว่าแผนแรกเธอทำมันได้สำเร็จ นิลมณีก็เดินออกจากบริษัทอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับมองหาร้านสเต็กดีๆสักร้าน เนื่องจากเธอไม่ได้ทานอะไรมาหลายวันเพราะเจ้ามนุษย์นั่นเอาแต่เทอาหารเม็ดกับอาหารเปียกให้ คิดๆแล้วก็น่าหงุดหงิด แต่ห้องของเขาเป็นที่เดียวที่เธอจะอยู่ได้และต้องอยู่ กลิ่นไอปีศาจมาจากตัวของเขาก็จำเป็นต้องอยู่อย่างนั้นไปก่อนจนกว่าจะหาต้นตอของกลิ่นไอนั้นเจอ

               หลังจากเดินมาได้สักพักก็เจอร้านสเต็กที่ไม่ไกลจากบริษัทนั้นนัก เธอเดินเข้าไปอย่างเชิดๆ พนักงานต่างเข้ามาต้อนรับและพาเธอไปนั่งยังโต๊ะที่ติดกระจก ก่อนที่พนักงานจะวางเมนูลงบนโต๊ะของเธอ นิลมณีดูเมนูครู่หนึ่งก่อนจะสั่งอาหารตามที่เธออยากจะทาน เมนูที่เธอสั่งล้วนแต่เป็นเมนูเนื้อที่ไม่สุกดีนักทั้งนั้น

               “เอาแค่นี้ค่ะ...ว่าแต่ห้องน้ำไปทางไหนหรือคะ?”

               “ทางด้านนั้นเลยค่ะ” พนักงานผายมือไปทางป้ายห้องน้ำด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเก็บเมนูแล้วเดินจากไปพร้อมกับนิลมณีที่กำลังลุกขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ด้วยความที่เธอไม่ทันได้มองรอบๆ และไม่ทันระวังจึงเดินตัดหน้าไปชนกับชายคนหนึ่งเข้า

               “อุ๊ย!” เธอเซจะล้มแต่ชายคนนั้นกลับรับเธอเอาไว้ทัน เธอจึงอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเขาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายคนนั้น และเขาก็ก้มมองเธอเช่นกัน

               “ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”

               …ดีน!!... นิลมณีแอบตกใจแต่ก็ยังพยายามทำหน้าให้นิ่งที่สุด รีบหยัดตัวยืนให้มั่นคงและพยายามหลบหน้าเขาอย่าลืมตัว ในหัวคิดเพียงว่ากลัวเขาจะจำเธอได้

               “ค่ะ ไม่เป็นไร...”

               “คุณ...หน้าคุ้นๆนะครับ” อยู่ๆชายหนุ่มก็ชี้นิ้วมายังเธอพลางทำสีหน้าครุ่นคิด นิลมณีหันไปมองเขาดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ สีหน้าของเธอจ้องมองเขาอย่างรอคำพูดที่เขากำลังพูดอย่างลุ้นๆ ไม่ใช่ว่าเขาจะจำเธอได้หรอกหรือ

               “คะ?..จะคุ้นได้ยังไง? เราพึ่งเคยเจอกันนะคะ มุกจีบสาวแบบนี้มันเชยแล้วนะคุณ” นิลมณีพูดแทรกขึ้น

               “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ...เอ่อ...อ๋อ! คุณคือคุณนิลมณีที่สมัครเป็นเลขาของผม ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมหน้าคุ้นๆ เห็นรูปถ่ายและประวัติทางอีเมล์น่ะครับ”

               “คะ? คุณน่ะหรือคะ...ดนุวัศ?” นิลมณีแทบไม่อยากเชื่อ เธอทำหน้าสงสัยพร้อมหรี่ตามองเขาอย่างพิจารณา

               “ครับ ผมดนุวัศ...ประธานบริษัท HD” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองอย่างภาคภูมิใจ รอยยิ้มหวานปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อที่เห็นเธออึ้งจนแทบจะอ้าปากค้าง นิลมณีแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเองว่าเจ้ามนุษย์ที่เลี้ยงดูเธอในคอนโดเล็กๆนั่นจะเป็นประธานบริษัท

               “ไหนๆก็เจอกันแล้ว...ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอเลี้ยงข้าวมื้อนี้แล้วกันนะครับ” ดีนพูดพร้อมกับรอยยิ้มหวานเชื่อมดวงตาเป็นประกาย ซึ่งมองดูก็รู้ว่าเขาน่ะเจ้าชู้แค่ไหน...แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นคนเลี้ยงเธออยู่แล้วนี่ ให้เขาเลี้ยงอาหารคนสักมื้อคงไม่เสียหายหนักหรอก

               “ยินดีค่ะถ้าคุณ...ดนุวัศ...อยากจะเลี้ยง” นิลมณีตอบออกไปด้วยรอยยิ้มมิตรภาพ เธอแทบจะลืมไปว่ายังไงเขาก็จำเธอไม่ได้เพราะเธอเป็นแมวที่อยู่ในร่างแมวเหมียวสีดำในบ้านเขาไม่ใช่ร่างของหญิงสาวอย่างที่เขาเห็นตอนนี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องพยายามทำตัวให้รู้จักเขาน้อยที่สุด ไม่อย่างนั้นคงน่าสงสัย...หากเขาทำอะไรแผลงๆกับเธอในร่างเจ้าเหมียวเธอได้เอาคืนเขาอย่างสาสมแน่ๆ   

               “คุณตัวเล็กแค่นี้...ผมเลี้ยงไหวอยู่แล้วครับ” ดีนพูดไปพลางยักคิ้วไป นิลมณีเห็นท่าทางเจ้าชู้ของเขาก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่ก็ได้แค่แสร้งยิ้มตอบรับเขาไปก่อนที่เธอจะไม่ทันได้เข้าทำงานถ้าหากวีนเขาตอนนี้

...ถึงบ้านเมื่อไหร่แม่จะรอข่วนให้แขนลายเลย อยากเป็นเสือมีลายเยอะดีนักก็จะจัดให้....

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 5. ทำไมต้องบอกแมว

    หลังจากทานอาหารมื้อนั้นเรียบร้อยนิลมณีก็แยกกลับบ้าน แม้ว่าเขาจะขอไปส่งแต่เธอเลือกที่จะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อไย จะให้ไปส่งได้อย่างไรในเมื่อบ้านที่เธอต้องกลับคือห้องของเขา เธอจึงเดินเชิดๆสะบัดผมสีดำสนิทออกมาโดยไม่หันหลังกลับไปมองเขาอีก ปล่อยให้ดีนมองตามตาละห้อยอยู่อย่างนั้น ถึงแม้เขาจะเป็นคนเจ้าชู้เพล์บอย แต่เขาก็ถือว่าเป็นคนที่ปากจัดจ้านอยู่ดี นิลมณีเดินเข้าตรอกซอยมืดๆหลังจากที่เดินมาได้สักพัก เธอมองหน้ามองหลังก่อนจะค่อยๆกลายเป็นเจ้าแมวน้อยสีดำเหมือนเช่นเดิม ก่อนจะกระโดดปีนกำแพงและเดินนวยนาดต่อไปเรื่อยๆเพื่อกลับไปยังคอนโดของเขา ระยะทางที่เดินไปคอนโดนั้นการแปลงเป็นแมวจะปลอดภัยกว่าเป็นหญิงสาว ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเย้ายวนใจพร้อมด้วยพลังของปีศาจที่ทำให้ผู้คนลุ่มหลงนั้นมันไม่เป็นผลดีกับเธอเท่าไหร่นัก นิลมณีกลับมายังห้องคอนโดอย่างปลอดภัย พอถึงคอนโดเธอก็กลับกลายร่างเป็นหญิงสาวเดินเข้าคอนโดมาสวยๆ ประตูที่รักษาความปลอดภัยนั้นใช้ไม่ได้กับปีศาจแบบเธอ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะกลับเข้าห้องมาได้สบายๆ เธอเดินไปเดินมาในห้องของเขาในร่างเจ้าแมวเหมียว เพราะร่างเจ้าแม

    Last Updated : 2025-03-17
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 6. วุ่นวายแต่กับแมว

    นิลมณีตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพอุจาดตาสำหรับแมวที่เธอไม่อยากจะเห็น เจ้าตัวตนแท่งยักษ์เด่นผงาดตั้งชันขึ้นจนเป็นลำปูดนูนผ่านกางเกงนอนของเขาเด่นตระง่านต่อหน้าต่อตาแม้ว่าเจ้าของมันจะหลับอยู่ เธอร้องเสียงหลงในเสียงของแมวจนขนลุกชันไปทั่วสันหลัง โก่งสี่เท้าขึ้นราวกับขู่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ ...เจ้ามนุษย์บ้ากามนี่!!... เสียงขู่บ่งบอกสิ่งที่เธออยากจะพูดด่าคนที่งัวเงียตื่นขึ้นด้วยเสียงแมวๆ ดีนขยี้ตาเล็กน้อยผะโงกหน้าขึ้นมองเจ้าแมวเหมียวของเขาเล็กน้อย สะโพกของเขาขยับไปมาตามสัญชาตญานที่ตื่นขึ้นตามนิสัยของผู้ชายแม้จะยังไม่ได้สติดีเท่าไหร่ก็ตาม “หืม? เป็นอะไรไปเจ้าสีนิล” ดีนเอ่ยเสียงงัวเงียในลำคอแต่ดูเหมือนเจ้าแมวของเขาจะยังขู่ไม่หยุดราวกับกำลังบ่นอะไรบางอย่าง เขาจึงคว้าร่างของมันเข้ามากอดอีกครั้งแล้วหลับตาลง

    Last Updated : 2025-03-26
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 7. หงุดหงิด

    ...หมอ...หม๊ออออออ... เงี๊ยววววว!!! “เจ็บแป๊บเดียวน่าเจ้าเหมียว” สัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เจ้าแมวสีดำตรงหน้าร้องขู่เขาและดีดดิ้นไม่หยุดหลังที่เห็นเข็มฉีดยาในมือของเขา ผู้ช่วยก็จับล็อกเจ้าเหมียวแมวไว้แน่นจนเท้าหน้าเล็กๆของมันไม่สามารถขยับได้ เท้าหลังได้แต่เพียงกุยกายอยู่บนเขียงหรือเคาน์เตอร์สแตนเลสสำหรับการรักษา ...เจ็บนะ!!!... เข็มแหลมๆทิ่มแทงเข้าไปยังเนื้อหนังแก้มก้นเจ้าแมวสีนิล ขนสีดำของมันลุกชันขึ้นพลางร้องเสียงแมวสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ในใจแอบนึกแค้นเคืองเจ้ามนุษย์ที่พาเธอมาฉีดยาแบบนี้ “เรียบร้อยแล้ว เด็กดีมากเจ้าเหมียว” สัตวแพทย์หนุ่มพูดพลางเอามือลูบหัวมันเบาๆ ก่อนที่ผู้ช่วยจะรีบพามันเข้ากระเป๋าเป้พกพาแมวเพราะกลัวว่ามันจะหันมาข่วนอีกครั้ง แล้วรีบนำมันออกไปคืนเจ้าของ “เรียบร้อยแล้วนะคะ” ผู้ช่วยสาวเดินเอากระเป๋าเป้พกพาแมวไปให้ดีนเองกับมือพลางยิ้มหวานส่งให้ ดีนที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นแล้วรีบลุกขึ้นรับกระเป๋าเป้นั้นด้วยรอยยิ้มบางๆตามมารยาท “ขอบคุณครับ ชำระเง

    Last Updated : 2025-03-27
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 8. เกรงใจแมว

    สีนิล หรือ นิลมณีในร่างแมวร้องเหมียวๆมองเจ้าของของมันและหญิงสาวที่เธอคุ้นหน้าจากโรงพยาบาลสัตว์เมื่อตอนกลางวัน ด้วยความที่มีแมวมองจ้องการกระทำของพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นพร้อมปัดหางไปมาทั้งที่คอตั้ง หูตั้ง ตาตั้ง ตัวอยู่นั่นที่เดิมราวกับรูปปั้นสฟริงค์ เป็นเหตุให้คนทั้งสองต้องหยุดชะงักการกระทำลงแล้วหันไปมองเจ้าแมวสีดำนั้น ความรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีแมวมอง แมวที่เป็นแมวจริงๆ ดีนยกยิ้มขึ้นก่อนจะหยัดตัวขึ้นนั่งแอบกลั้นขำเอาไว้ แม้แต่หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่า นา ยังรู้สึกเขินจนได้แต่ยิ้มเจื่อน “แมวคุณนี่...บางที่ก็น่าขนลุกเหมือนกันนะคะ ให้ความรู้สึกแปลกๆ” หญิงสาวเอ่ย “คุณหนูนาคิดอย่างนั้นหรือครับ? แล้วมันให้ความรู้สึกแปลกๆยังไงล่ะครับ?” “เหมือนคนเลยค่ะ นาว่ามันค่อนข้างที่จะนิสัยเหมือนคนแบบเราๆเลยค่ะ” เขาเงียบก่อนจะหันไปขมวดคิ้วเล็กน้อย ริมฝีปากยกยิ้ม สีหน้าดูครุ่นคิดกับสิ่งที่หญิงสาวพูด จะว่าไปเจ้าสีนิลก็เหมือนคนจริงๆจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในการเลี้ยงมันล้วนไม่ใช่วิสัยแมว แต่คงคิดมากไป

    Last Updated : 2025-03-28
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 1. รับเลี้ยง

    “เจ้าเหมียวขี้เรื้อนนี่...น่าเวทนาเสียจริง” เสียงหนึ่งดังขึ้นพาให้นิลมณีเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก แต่ในสายตาคมของชายหนุ่มกลับมองว่าแมวดำตัวน้อยนี้ทำหน้าน่าสงสารน่าเอ็นดูเสียจริง เขาค่อยๆนั่งลงด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะอุ้มเจ้าเหมียวน้อยสีดำนั้นขึ้นมา ...ไอ้มนุษย์โสโครกนี่!! ปล่อยข้านะ!!... เสียงที่เอื้อนเอ่ยของเธอในตอนนี้กลายเป็นเพียงเสียงร้องเหมียวๆ สายตาดุดันน่าเกรงขามกลับกลายเป็นสายตาออดอ้อนซึ่งชายหนุ่มมองว่าแมวตัวน้อยนี้คงกำลังดีใจที่เขาจะเก็บมันกลับไปเลี้ยง “รู้ว่าดีใจ ช่วยเลิกร้องได้ไหมเจ้าเหมียว คอนโดฉันห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์ แต่เห็นว่าแกน่าเวทนาหรอกนะ” ...ใครอยากให้มาเวทนากันยะ!!....เฮ้ย!!... ไม่ทันที่จะได้ร้องเหมียวเถียงชายหนุ่มต่อ เขาก็จัดการจับเธอยัดใส่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาก่อนจะรีบวิ่งกลับคอนโดทันที ชายหนุ่มรีบเข้าห้องของตัวเองก่อนจะนำกระเป๋าที่ใส่ลูกแมวตัวสีดำสนิทนั้นไปวางไปบนโซฟา ก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วอุ้มเจ้าลูกแมวออกมาที่ตอนนี้มันคอพับไปแล้ว เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็ตกใจสุดขี

    Last Updated : 2025-03-08
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 2. โลกมิติที่ทับซ้อน

    ในโลกนี้มีความเชื่ออยู่หลายความเชื่อ ไสยศาสตร์ ต่างๆมากมายและแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ไม่มีใครรู้ว่าโลกอีกโลกหนึ่งที่ผู้คนเรียกว่าขุมนรก สรวงสรรค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือแม้แต่ภูตผีปีศาจมีอยู่จริงหรือไม่ ยิ่งยุคสมัยเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ความเชื่อเรื่องเล่านี้ก็ยิ่งลดน้อยลง บนโลกนี้มีอีกมิติหนึ่งที่ทับซ้อนและอาศัยอยู่กับมนุษย์ วิญญาณ ปีศาจ บางกลุ่มที่ยังไม่ถูกพิพากษาจากผู้คุมวิญญาณหรือกำลังหลบหนีอยู่ต่างใช้ชีวิตล่องลอยแทรกแซงอยู่กับมนุษย์ทั่วทุกมุมโลก ปีศาจที่ผู้คนมักมองไม่เห็นและหลบซ่อนในป่าลึกกลางหุบเขาต่างๆ แบ่งกันเป็นเหล่าเป็นกอของแต่ละพื้นที่ และแน่นอนว่าเมื่อมีเหล่าปีศาจมากมายเป็นสังคมก็ต้องมีผู้ที่อยู่เหนือปีศาจเหล่านั้น ราชาปีศาจของสยามประเทศในยุคนี้นั้นเป็นปีศาจสาวที่ฝึกฝนมาหลายพันปี ผ่านความยากลำบากมาเหลือคณานับเป็นพันปีตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความที่เธอไม่ได้เกิดเป็นปีศาจที่น่าเกรงขามอย่างเสือสาง เธอเป็นแค่แมวดำต่ำต้อยแต่ก็สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นราชาแห่งภูตผีปีศาจได้ในปัจจุบัน “ปีศาจจิ้งจอกแห่งเอเชียตอนเหนือเริ่มฝ่าเข้าเขตแ

    Last Updated : 2025-03-11
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 3. รักษาตัว

    นิลมณีในร่างแมวสีดำขนเงางามที่ถูกชายหนุ่มคนหนึ่งเก็บมาเลี้ยงหลังจากที่เขาไปเจอเธอที่ข้างถนน ดีนก็พาเจ้าแมวตัวน้อยตาใสแจ๋วนั้นไปที่คลินิกหลังจากที่ดูอ่อนแอมาหลายวัน ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้โดนทำร้ายร่างกายมาอย่างหนักยิ่งทำให้ความรู้สึกสงสารเพิ่มขึ้นมาในใจของเขาและคอยดูแลเจ้าแมวน้อยอย่างดี ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นผลกระทบจากการต่อสู้ในโลกปีศาจมิติคู่ขนานของเธอก็เท่านั้น แม้เขาจะมีใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่ก็คอยสังเกตเจ้าแมวน้อยตลอด พร้อมทั้งศึกษาวิธีการเลี้ยงแมวตัวนี้เป็นอย่างดี แต่ที่น่าแปลกก็คือเจ้าแมวตัวสีดำนั้นกลับไม่ค่อยเข้าไปอ้อนหรือคลอเคลียเขาเหมือนแมวตัวอื่นๆเสียเท่าไหร่ มันจะนอนอยู่นิ่งๆบนโซฟาเสมอ เวลาที่เขาเดินเข้าไปนั่งตรงโซฟามันก็ลุกขึ้นแล้วเดินเชิดหน้าไปนอนตรงที่อื่นแทน ด้วยความที่ดีนยังต้องทำงานจึงได้ปล่อยให้เจ้าแมวน้อยอยู่เงียบๆตัวเดียวในห้อง ซึ่งมันเป็นเวลาดีที่นิลมณีจะทำการรักษาด้วยพลังที่มีอยู่ จนตอนนี้ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วเธอก็เริ่มที่จะฟื้นฟูพลังได้บ้างแล้วแต่ไม่ทั้งหมด หากจะให้มันง่ายหน่อยก็คงต้องหาจอมปีศาจอาว

    Last Updated : 2025-03-14

Latest chapter

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 8. เกรงใจแมว

    สีนิล หรือ นิลมณีในร่างแมวร้องเหมียวๆมองเจ้าของของมันและหญิงสาวที่เธอคุ้นหน้าจากโรงพยาบาลสัตว์เมื่อตอนกลางวัน ด้วยความที่มีแมวมองจ้องการกระทำของพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นพร้อมปัดหางไปมาทั้งที่คอตั้ง หูตั้ง ตาตั้ง ตัวอยู่นั่นที่เดิมราวกับรูปปั้นสฟริงค์ เป็นเหตุให้คนทั้งสองต้องหยุดชะงักการกระทำลงแล้วหันไปมองเจ้าแมวสีดำนั้น ความรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีแมวมอง แมวที่เป็นแมวจริงๆ ดีนยกยิ้มขึ้นก่อนจะหยัดตัวขึ้นนั่งแอบกลั้นขำเอาไว้ แม้แต่หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่า นา ยังรู้สึกเขินจนได้แต่ยิ้มเจื่อน “แมวคุณนี่...บางที่ก็น่าขนลุกเหมือนกันนะคะ ให้ความรู้สึกแปลกๆ” หญิงสาวเอ่ย “คุณหนูนาคิดอย่างนั้นหรือครับ? แล้วมันให้ความรู้สึกแปลกๆยังไงล่ะครับ?” “เหมือนคนเลยค่ะ นาว่ามันค่อนข้างที่จะนิสัยเหมือนคนแบบเราๆเลยค่ะ” เขาเงียบก่อนจะหันไปขมวดคิ้วเล็กน้อย ริมฝีปากยกยิ้ม สีหน้าดูครุ่นคิดกับสิ่งที่หญิงสาวพูด จะว่าไปเจ้าสีนิลก็เหมือนคนจริงๆจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในการเลี้ยงมันล้วนไม่ใช่วิสัยแมว แต่คงคิดมากไป

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 7. หงุดหงิด

    ...หมอ...หม๊ออออออ... เงี๊ยววววว!!! “เจ็บแป๊บเดียวน่าเจ้าเหมียว” สัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เจ้าแมวสีดำตรงหน้าร้องขู่เขาและดีดดิ้นไม่หยุดหลังที่เห็นเข็มฉีดยาในมือของเขา ผู้ช่วยก็จับล็อกเจ้าเหมียวแมวไว้แน่นจนเท้าหน้าเล็กๆของมันไม่สามารถขยับได้ เท้าหลังได้แต่เพียงกุยกายอยู่บนเขียงหรือเคาน์เตอร์สแตนเลสสำหรับการรักษา ...เจ็บนะ!!!... เข็มแหลมๆทิ่มแทงเข้าไปยังเนื้อหนังแก้มก้นเจ้าแมวสีนิล ขนสีดำของมันลุกชันขึ้นพลางร้องเสียงแมวสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ในใจแอบนึกแค้นเคืองเจ้ามนุษย์ที่พาเธอมาฉีดยาแบบนี้ “เรียบร้อยแล้ว เด็กดีมากเจ้าเหมียว” สัตวแพทย์หนุ่มพูดพลางเอามือลูบหัวมันเบาๆ ก่อนที่ผู้ช่วยจะรีบพามันเข้ากระเป๋าเป้พกพาแมวเพราะกลัวว่ามันจะหันมาข่วนอีกครั้ง แล้วรีบนำมันออกไปคืนเจ้าของ “เรียบร้อยแล้วนะคะ” ผู้ช่วยสาวเดินเอากระเป๋าเป้พกพาแมวไปให้ดีนเองกับมือพลางยิ้มหวานส่งให้ ดีนที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นแล้วรีบลุกขึ้นรับกระเป๋าเป้นั้นด้วยรอยยิ้มบางๆตามมารยาท “ขอบคุณครับ ชำระเง

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 6. วุ่นวายแต่กับแมว

    นิลมณีตื่นขึ้นมาพร้อมกับภาพอุจาดตาสำหรับแมวที่เธอไม่อยากจะเห็น เจ้าตัวตนแท่งยักษ์เด่นผงาดตั้งชันขึ้นจนเป็นลำปูดนูนผ่านกางเกงนอนของเขาเด่นตระง่านต่อหน้าต่อตาแม้ว่าเจ้าของมันจะหลับอยู่ เธอร้องเสียงหลงในเสียงของแมวจนขนลุกชันไปทั่วสันหลัง โก่งสี่เท้าขึ้นราวกับขู่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ ...เจ้ามนุษย์บ้ากามนี่!!... เสียงขู่บ่งบอกสิ่งที่เธออยากจะพูดด่าคนที่งัวเงียตื่นขึ้นด้วยเสียงแมวๆ ดีนขยี้ตาเล็กน้อยผะโงกหน้าขึ้นมองเจ้าแมวเหมียวของเขาเล็กน้อย สะโพกของเขาขยับไปมาตามสัญชาตญานที่ตื่นขึ้นตามนิสัยของผู้ชายแม้จะยังไม่ได้สติดีเท่าไหร่ก็ตาม “หืม? เป็นอะไรไปเจ้าสีนิล” ดีนเอ่ยเสียงงัวเงียในลำคอแต่ดูเหมือนเจ้าแมวของเขาจะยังขู่ไม่หยุดราวกับกำลังบ่นอะไรบางอย่าง เขาจึงคว้าร่างของมันเข้ามากอดอีกครั้งแล้วหลับตาลง

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 5. ทำไมต้องบอกแมว

    หลังจากทานอาหารมื้อนั้นเรียบร้อยนิลมณีก็แยกกลับบ้าน แม้ว่าเขาจะขอไปส่งแต่เธอเลือกที่จะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อไย จะให้ไปส่งได้อย่างไรในเมื่อบ้านที่เธอต้องกลับคือห้องของเขา เธอจึงเดินเชิดๆสะบัดผมสีดำสนิทออกมาโดยไม่หันหลังกลับไปมองเขาอีก ปล่อยให้ดีนมองตามตาละห้อยอยู่อย่างนั้น ถึงแม้เขาจะเป็นคนเจ้าชู้เพล์บอย แต่เขาก็ถือว่าเป็นคนที่ปากจัดจ้านอยู่ดี นิลมณีเดินเข้าตรอกซอยมืดๆหลังจากที่เดินมาได้สักพัก เธอมองหน้ามองหลังก่อนจะค่อยๆกลายเป็นเจ้าแมวน้อยสีดำเหมือนเช่นเดิม ก่อนจะกระโดดปีนกำแพงและเดินนวยนาดต่อไปเรื่อยๆเพื่อกลับไปยังคอนโดของเขา ระยะทางที่เดินไปคอนโดนั้นการแปลงเป็นแมวจะปลอดภัยกว่าเป็นหญิงสาว ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเย้ายวนใจพร้อมด้วยพลังของปีศาจที่ทำให้ผู้คนลุ่มหลงนั้นมันไม่เป็นผลดีกับเธอเท่าไหร่นัก นิลมณีกลับมายังห้องคอนโดอย่างปลอดภัย พอถึงคอนโดเธอก็กลับกลายร่างเป็นหญิงสาวเดินเข้าคอนโดมาสวยๆ ประตูที่รักษาความปลอดภัยนั้นใช้ไม่ได้กับปีศาจแบบเธอ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะกลับเข้าห้องมาได้สบายๆ เธอเดินไปเดินมาในห้องของเขาในร่างเจ้าแมวเหมียว เพราะร่างเจ้าแม

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 4 . วางแผน

    เพราะกลิ่นไอปีศาจที่ติดตัวเขามาเมื่อวานทำให้เธอต้องวางแผนที่จะเข้าไปที่ทำงานของทาสผู้เลี้ยงดูเธอในร่างแมวเหมียว เช้านี้เป็นอีกวันของการทำงานเพราะอย่างนั้นดีนจึงออกไปทำงานตามปกติ เมื่อเขาออกไปจากห้องเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นางปีศาจแมวในร่างแมวเหมียวก็แปลงกายเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง แอบดมกลิ่นลอบตามเขาไปจนถึงบริษัทใหญ่ หญิงสาวเงยหน้ามองตึกสูงราวสามสิบชั้นนั้นอย่างเชิดๆ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ล็อบบี้ของบริษัทนั้นด้วยท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยม โลกมนุษย์นี้ใช่ว่าเธอจะไม่เคยมาท่องเที่ยวและเรียนรู้มัน เธอในชุดเสื้อเชิ้ตรัดรูปพอดิบพอดีไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไปคู่กับกระโปรงทรงเอสีดำ ด้วยรูปร่างของเธอไร้ที่ติและยั่วยวนนั้นไม่ว่าจะหญิงหรือชายต่างหันมามองเธอเป็นตาเดียว “ขอโทษค่ะ...พอดีว่าจะมาสมัครงาน”

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 3. รักษาตัว

    นิลมณีในร่างแมวสีดำขนเงางามที่ถูกชายหนุ่มคนหนึ่งเก็บมาเลี้ยงหลังจากที่เขาไปเจอเธอที่ข้างถนน ดีนก็พาเจ้าแมวตัวน้อยตาใสแจ๋วนั้นไปที่คลินิกหลังจากที่ดูอ่อนแอมาหลายวัน ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้โดนทำร้ายร่างกายมาอย่างหนักยิ่งทำให้ความรู้สึกสงสารเพิ่มขึ้นมาในใจของเขาและคอยดูแลเจ้าแมวน้อยอย่างดี ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นผลกระทบจากการต่อสู้ในโลกปีศาจมิติคู่ขนานของเธอก็เท่านั้น แม้เขาจะมีใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่ก็คอยสังเกตเจ้าแมวน้อยตลอด พร้อมทั้งศึกษาวิธีการเลี้ยงแมวตัวนี้เป็นอย่างดี แต่ที่น่าแปลกก็คือเจ้าแมวตัวสีดำนั้นกลับไม่ค่อยเข้าไปอ้อนหรือคลอเคลียเขาเหมือนแมวตัวอื่นๆเสียเท่าไหร่ มันจะนอนอยู่นิ่งๆบนโซฟาเสมอ เวลาที่เขาเดินเข้าไปนั่งตรงโซฟามันก็ลุกขึ้นแล้วเดินเชิดหน้าไปนอนตรงที่อื่นแทน ด้วยความที่ดีนยังต้องทำงานจึงได้ปล่อยให้เจ้าแมวน้อยอยู่เงียบๆตัวเดียวในห้อง ซึ่งมันเป็นเวลาดีที่นิลมณีจะทำการรักษาด้วยพลังที่มีอยู่ จนตอนนี้ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วเธอก็เริ่มที่จะฟื้นฟูพลังได้บ้างแล้วแต่ไม่ทั้งหมด หากจะให้มันง่ายหน่อยก็คงต้องหาจอมปีศาจอาว

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 2. โลกมิติที่ทับซ้อน

    ในโลกนี้มีความเชื่ออยู่หลายความเชื่อ ไสยศาสตร์ ต่างๆมากมายและแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ไม่มีใครรู้ว่าโลกอีกโลกหนึ่งที่ผู้คนเรียกว่าขุมนรก สรวงสรรค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือแม้แต่ภูตผีปีศาจมีอยู่จริงหรือไม่ ยิ่งยุคสมัยเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ความเชื่อเรื่องเล่านี้ก็ยิ่งลดน้อยลง บนโลกนี้มีอีกมิติหนึ่งที่ทับซ้อนและอาศัยอยู่กับมนุษย์ วิญญาณ ปีศาจ บางกลุ่มที่ยังไม่ถูกพิพากษาจากผู้คุมวิญญาณหรือกำลังหลบหนีอยู่ต่างใช้ชีวิตล่องลอยแทรกแซงอยู่กับมนุษย์ทั่วทุกมุมโลก ปีศาจที่ผู้คนมักมองไม่เห็นและหลบซ่อนในป่าลึกกลางหุบเขาต่างๆ แบ่งกันเป็นเหล่าเป็นกอของแต่ละพื้นที่ และแน่นอนว่าเมื่อมีเหล่าปีศาจมากมายเป็นสังคมก็ต้องมีผู้ที่อยู่เหนือปีศาจเหล่านั้น ราชาปีศาจของสยามประเทศในยุคนี้นั้นเป็นปีศาจสาวที่ฝึกฝนมาหลายพันปี ผ่านความยากลำบากมาเหลือคณานับเป็นพันปีตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความที่เธอไม่ได้เกิดเป็นปีศาจที่น่าเกรงขามอย่างเสือสาง เธอเป็นแค่แมวดำต่ำต้อยแต่ก็สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นราชาแห่งภูตผีปีศาจได้ในปัจจุบัน “ปีศาจจิ้งจอกแห่งเอเชียตอนเหนือเริ่มฝ่าเข้าเขตแ

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 1. รับเลี้ยง

    “เจ้าเหมียวขี้เรื้อนนี่...น่าเวทนาเสียจริง” เสียงหนึ่งดังขึ้นพาให้นิลมณีเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก แต่ในสายตาคมของชายหนุ่มกลับมองว่าแมวดำตัวน้อยนี้ทำหน้าน่าสงสารน่าเอ็นดูเสียจริง เขาค่อยๆนั่งลงด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะอุ้มเจ้าเหมียวน้อยสีดำนั้นขึ้นมา ...ไอ้มนุษย์โสโครกนี่!! ปล่อยข้านะ!!... เสียงที่เอื้อนเอ่ยของเธอในตอนนี้กลายเป็นเพียงเสียงร้องเหมียวๆ สายตาดุดันน่าเกรงขามกลับกลายเป็นสายตาออดอ้อนซึ่งชายหนุ่มมองว่าแมวตัวน้อยนี้คงกำลังดีใจที่เขาจะเก็บมันกลับไปเลี้ยง “รู้ว่าดีใจ ช่วยเลิกร้องได้ไหมเจ้าเหมียว คอนโดฉันห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์ แต่เห็นว่าแกน่าเวทนาหรอกนะ” ...ใครอยากให้มาเวทนากันยะ!!....เฮ้ย!!... ไม่ทันที่จะได้ร้องเหมียวเถียงชายหนุ่มต่อ เขาก็จัดการจับเธอยัดใส่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาก่อนจะรีบวิ่งกลับคอนโดทันที ชายหนุ่มรีบเข้าห้องของตัวเองก่อนจะนำกระเป๋าที่ใส่ลูกแมวตัวสีดำสนิทนั้นไปวางไปบนโซฟา ก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วอุ้มเจ้าลูกแมวออกมาที่ตอนนี้มันคอพับไปแล้ว เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็ตกใจสุดขี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status