แชร์

บทที่ 10. เริ่มงานวันแรก

ผู้เขียน: นรินทร์ลดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-31 03:58:02

               ราวกับโชคชะตาเล่นตลกเมื่อเดินไปคุยไปกับพนักงานหน้าล็อบบี้สาวชื่อว่า ซันนี่ ถึงได้รับรู้รายละเอียดของบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่นั้นเป็นบริษัทที่ผลิตอาหาร และอุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยง ทั้งที่ท่าทางของซีอีโอนั้นดูจะเลี้ยงสัตว์ไม่เป็นเอาเสียเลย จากการที่จับแมวอาบน้ำ ด้วยเป้าหมายที่เธอจะเข้ามาสืบหาจอมปีศาจในบริษัทแห่งนี้จึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นใด

               “ถึงแล้วค่ะ ฉันคงเข้าไปด้วยไม่ได้นะคะคุณนิล...ดีใจมากเลยค่ะที่คุณนิลช่วยฉันเมื่อครู่และยังยอมเป็นเพื่อนกับฉันอีก”

               “ใครเป็นเพื่อนคุณ ฉันแค่....”

               “ยังไงก็เถอะค่ะ ไม่ว่าคุณนิลอาจจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันแต่ฉันอยากเป็นเพื่อนกับคุณนิลจริงๆค่ะ” ซันนี่เอ่ยพลางรวบมือเรียวทั้งสองข้างขึ้นมาจับกุมไว้ ออร่าของความจริงใจแผ่ออกมาจนนิลมณีรู้สึกขนลุกเกลียวราวกับโดนไฟช็อตอย่างไรอย่างนั้น

               “เฮ้อ...ฉันไม่ใช่คนใจดี ไม่ใช่คนดีหรอกนะ”

               “ไม่หรอกค่ะ ถึงคุณนิล...เอ่อ..จะทำให้ฉันรู้สึกขนลุกแปลกๆก็เถอะ แต่ว่าคุณคงไม่ใช่คนร้ายลึกแบบนั้น” ซันนี่เอ่ยต่อ

               “อย่ารู้ดี เธอไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ ขอตัว” นิลมณีเลือกที่จะปฏิเสธ ดึงมือตัวเองกลับแล้วก้าวฉับๆไปหยุดหน้าประตูห้องๆหนึ่งที่เขียนป้ายติดไว้ด้านหน้าว่า CEO MR.DANUWAT แล้วเอื้อมมือไปเคาะประตูเบาๆ

               ก๊อกๆ

               “เชิญครับ” คนในห้องขานรับราวกับกำลังรออยู่

               ประตูถูกเปิดเข้าไปภายในห้องถูกประดับอย่างเรียบหรูและเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำขาว แม้แต่โซฟากลางห้องทำงานที่เอาไว้ใช้รับแขกยังเป็นสีดำครึ่งขาวครึ่งเลย ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาใส่แส่นตาใสไร้ขอบเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าชะโงกหน้ามองผู้ที่เข้ามาเยือนก่อนจะละจากคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ประสานมือใหญ่วางไว้หน้าโต๊ะทำงาน สายตาจ้องมองหญิงสาวพลางยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ

               “สวัสดีครับคุณนิลมณี...ว่าแต่คุณพัชรินทร์ไม่ได้มาส่ง?” ดีนเลื่อนสายตามองไปยังด้านหลังของหญิงสาวที่เดินเข้ามาหาเขาพร้อมเอกสารในมือของตัวเอง ท่าทางสะโอดสะองค์เดินนวยนาดเข้ามาชวนมอง แม้ใบหน้าของหญิงสาวจะเรียบนิ่งแต่ทว่าการเดินบุคลิกภาพที่เย้ายวนอย่างเป็นธรรมชาตินั้นมันช่างน่าหลงใหลจนละสายตาไม่ได้

               “นี่ค่ะ เอกสาร”

               “เอ่อ...แล้ว...”

               “คุณพัชรินทร์งานยุ่งน่ะค่ะ” เธอเอ่ย

               “แต่ที่ผมได้ยินมาไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ไม่รู้ว่าคุณไปวางอำนาจยังไงเธอถึง...”

               “ชอบฟังคนขี้ฟ้องพูดเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูด” นิลมณีตัดบทอย่างไม่ใส่ใจ ดีนเงยหน้ามองหญิงสาวที่ยินจังก้าดอกอกอยู่ตรงหน้าไม่ยอมนั่งลงหรือไม่แม้แต่มีความเกรงกลัวเขาที่เป็นหัวหน้าของเธอ ช่างดูหยิ่งเสียจริง ไม่ต่างจากวันแรกที่เจอกันที่ร้านอาหารเลย...

               “ยังไงกฎของบริษัทคุณก็ต้องทำตาม ถ้าทำไม่ได้คุณก็ต้องยอมรับผล” ชายหนุ่มเอ่ย

               “งั้นหรือคะ?” ตอบอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก

               “เอาล่ะครับ ถือว่าครั้งนี้ผมยอมให้ก่อนเพราะมันครั้งแรก” ดีนพูดพลางหลบเลี่ยงสายตาเฉี่ยวคมของเธอก้มลงมองเอกสารที่เธอวางเอาไว้ ตรวจสอบมันอย่างละเอียดว่าตรงกับที่ส่งมาในอีเมล์หรือเปล่า เห็นทีแรกก็นึกชอบใจหลงใหลในเสน่ห์ของเธออยู่หรอก แต่ถ้าดื้อด้านเขาเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน

               “โต๊ะทำงานของฉันอยู่ไหนล่ะคะ จะได้เริ่มงานสักที...หน้าห้องหรือเปล่า?”

               “ไม่ โต๊ะของคุณอยู่ในห้องทำงานของผม...”

               “คะ? มันดูผิดปกติหรือเปล่าคะ? เลขาต้องอยู่หน้าห้อง....”

               “ผมต้องการดูการทำงานของคุณ และอีกอย่างผมจะได้จับตาดูคุณได้ด้วย เลขาแทบจะมีอำนาจพอๆกับผม เพราะหากผมสั่งการอะไรไปคุณก็จะต้องเอาไปสื่อสารต่อ” ดีนเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบนิ่งปราดสายตาของเธอครู่หนึ่ง นิลมณีได้แต่ยืนกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวดมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจนัก เพราะจากคำพูดของดีนเหมือนกับว่าเขาไม่ไว้วางใจเธอเลยแม้แต่น้อย

               “ทำไม? คุณคิดว่าผมต้องการจะจีบคุณอย่างนั้นเหรอ?”

               “จากที่เจอกันวันแรกที่ร้านอาหารก็มีทีท่าว่าอย่างนั้นนี่คะ” ตอบแทบจะทันควัน

               “นั่นก็เพราะคุณจะเข้ามาทำงานเป็นเลขาผม แค่ต้องการจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตอนที่เจอกันครั้งแรก”

               “แต่บทสนทนาของคุณดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นนะคะ”

               “หึ...ดูคุณจะมั่นใจในตัวเองน่าดูเลยนะครับ”

               “ก็พอสมควร”

               พูดอย่างมั่นใจก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาโต๊ะทำงานของตัวเอง ก็เห็นมันตั้งอยู่ทางขวามือของเขาถัดจากโซฟารับแขกกลางห้องและค่อนข้างที่จะใกล้โต๊ะของเขา เธอจึงเดินสะบัดบั้นท้ายไปยังโต๊ะนั้นพร้อมเอามือเรียวเท้าวางไว้ ใบหน้าสวยหันมองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง

               “นี่ใช่ไหมคะ? โต๊ะทำงานของฉัน”

               ดีนมองเธอแต่ไม่ทันได้ตอบอะไร นิลมณีก็พาตัวเองไปหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะนั้นอย่างมั่นใจ และมันก็ไม่ผิดเพราะนั่นคือโต๊ะที่เขาเตรียมเอาไว้ให้เธอ

               “ผมยังไม่ได้บอกให้คุณเริ่มงานเลย” ดีนเอ่ย แต่ดูท่านิลมณีไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเท่าไหร่เพราะเธอมองว่าไร้สาระ เธอเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเอกสารที่กองกันอยู่หน้าโต๊ะทำงานขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดและทำความเข้าใจกับงานที่เธอต้องรับผิดชอบ อย่างน้อยการทำงานจนเขาไว้วางใจจนตัวติดกับเขาได้ก็อาจจะรู้ว่าเขาไปเจอใครมาบ้างแล้วต้นตอของไอจอมปีศาจนั้นคืออะไร

               การอยู่ใกล้เขามันจะอันตรายเพราะกลิ่นไอแห่งบาปในเรื่องกามาราคะของเขาค่อนข้างแรง ราวกับเป็นมนต์ดึงดูดเพศตรงข้ามไม่เว้นแม้แต่เพศเดียวกันหรือที่เรียกว่ามีเสน่ห์ยาแฝดติดตัวมาก็ว่าได้และมันก็น่าแปลก เหมือนกับว่ามีใครมาฝากมนต์แห่งบาปราคะนี้เอาไว้ให้เขาอย่างไรอย่างนั้น

               ดีนเห็นว่านิลมณีตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่วางอยู่บนโต๊ะเขาจึงวางเอกสารประวัติของเธอลงแล้วหันไปสนงานของตัวเองต่อ เป็นอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงแบบใหม่ที่ฝ่ายออกแบบส่งมาให้ซึ่งเขายังไม่ได้ตัดสินใจสั่งทำอุปกรณ์นี้ สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดพลางนึกถึงสัตว์เลี้ยงในห้องของตัวเองเป็นหลัก

แต่เพราะเขาไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนจึงเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจที่จะสั่งทำอุปกรณ์อาบน้ำสำหรับแมว อ่างอาบน้ำกันแมวข่วนขณะอาบน้ำให้นั้นเขาคิดอยู่ว่ามันอาจจะมีเรื่องดีและหมดปัญหาที่แมวจะข่วนเจ้าของเหมือนที่เจ้าสีนิลข่วนเขา

“คุณนิลมณี”

“เรียกนิลก็ได้ค่ะ”

“คุณนิล คุณช่วยดูอุปกรณ์นี้หน่อย ผมว่าจะอนุมัติ แต่ผมอยากได้ความคิดเห็นของคุณ"

“ค่ะ” ตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะหันไปเปิดโน้ตบุ๊คที่ตั้งอยู่บนโต๊ะของตัวเองเข้าเช็คอีเมล์ที่เธอเคยกรอกไว้ในใบสมัคร เพราะตอนอยู่ในโลกของปีศาจเธอก็ต้องเรียนรู้การเป็นอยู่ของใช้ต่างๆของโลกมนุษย์ตามยุคตามสมัยเช่นกัน อย่างเช่นในยุคนี้ค่อนข้างที่ทันสมัยไฮเทคเหล่าปีศาจล้วนมีเหมือนกับที่มนุษย์มีไม่เว้นแม้แต่โทรศัพท์หรือสื่อออนไลน์ การเข้าไปสิงสู่แล้วเรียนรู้มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เสื้อผ้าก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่เธออยากใส่และอยากซื้อเหมือนมนุษย์บ้างก็เท่านั้นจะได้ดูกลมกลืน

“อ่างอาบน้ำแมว?”

“เธอเลี้ยงแมวไหม?”

“ก็...เคยเลี้ยงค่ะ หลายตัวเลยล่ะ..” นั่นหมายถึงเหล่าบริวารแมวผีของเธอทั้งนั้น

“แล้วเธอคิดว่าไง?”

“คุณไม่เคยเลี้ยงเหรอคะ?” นิลมณีจงใจถามด้วยความอยากรู้และยังจำขึ้นใจที่เขาจับเธออาบน้ำใจตอนนั้น คำถามที่ดูปกติแต่น้ำเสียงกลับดูเหมือนประชดประชันเขา

“ก็เลี้ยงอยู่ตัวนึงนะตอนนี้ แมวสีดำ...ถึงจะชอบหมามากกว่าแต่เพราะมันน่าสงสารเลยเก็บมาเลี้ยง” ตอบไปตามความจริงแต่คำตอบของเขาทำเธอหงุดหงิด กับคำว่าสงสารนั้นมันแสดงชัดเจนแล้วว่าไม่ได้อยากเลี้ยง

“แล้วจะเก็บมันมาทำไม? แมวมันเป็นสัตว์ที่เอาชีวิตรอดได้อยู่แล้ว ไม่เคยได้ยินเหรอคะว่าแมวเก้าชีวิต น่าจะปล่อยๆมันไปนะคะ”

“เธอนี่ใจร้ายจริงๆ เธอเห็นมันขี้เรื้อนนอนเจ็บปางตายอยู่จะเดินผ่านมันไปเฉยๆเลย?”

“ขี้เรื้อนเหรอ?!! นี่คุณ!....” นิลมณีถึงกลับลุกพรวดขึ้นมือสองข้างตบโต๊ะ ใบหน้าสวยแสดงถึงความหงุดหงิดจนเขาสะดุ้งมองเธอด้วยสีหน้างุนงง นิลมณีสูดลมหายใจเข้าลึกระงับอารมณ์ตัวเองที่ลืมตัวไปก่อนจะหันไปพูดกับเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งดังเดิมราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“คุณไม่ควรพูดว่าเจ้าแมวตัวน้อยน่ารักแบบนั้นนะคะ พวกเขาเข้าใจในสิ่งที่เราพูดแต่แค่ไม่สามารถโต้ตอบเป็นภาษาคนได้ ถ้าแมวตัวนั้นได้คงจะหงุดหงิดจนอยากข่วนหน้าคนที่มารับเลี้ยงเลยล่ะค่ะ” พูดก่อนจะนั่งลงที่เดิม

“ดูจะรักแมวมากสินะ”

“........”

“แล้วอ่างอาบน้ำ...”

“แมวไม่ชอบน้ำ! รู้เอาไว้ด้วย!! เป็นเรื่องพื้นฐานที่คนเลี้ยงแมวควรรู้! ไม่อนุมัติค่ะ!” ตอบพร้อมใส่อารมณ์

“ไม่เห็นต้องทำเสียงดุขนาดนั้น...แล้วไอ้ที่ว่าไม่อนุมัตินี่ควรเป็นฉันหรือเปล่าที่ต้องพูดน่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 11. พักกลางวัน

    ตั้งหน้าตั้งทำงานพร้อมกับถกเถียงเรื่องแมวไม่ชอบอาบน้ำกับซีอีโอของบริษัทหน้าตั้ง เวลาตอนนี้ก็บ่งบอกถึงช่วงเวลาพักกลางวันของพนักงาน หลังจากที่บรรยากาศในห้องทำงานเงียบอยู่นาน ดีนละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เหลือบตามองนิลมณีที่ยังทำงานไม่สนใจเวลา “ไม่ไปทานข้าวเหรอครับ? นี่พักกลางวันแล้วนะ...ทางบริษัทไม่มีนโยบายทำงานล่วงเวลากลางวันนะครับ” ดีนเอ่ยขึ้นเมื่อยังเห็นว่านิลมณีไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน เธอหันไปปรายตามองเขาก่อนจะถอดถอนหายใจ “ค่ะ” ตอบเพียงสั้นๆ “ถ้าคุณไม่ไปแล้วคนเป็นหัวหน้าอย่างผมจะไปพักได้ยังไง” &ldqu

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-01
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 12. กลิ่นไอเจือจาง

    นั่งรถ Lexus คันหรูภายใต้ความเงียบอยู่นาน มีเพียงซันนี่ที่พยายามพูดเจื้อยแจ้วชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แม้นิลมณีจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่ซันนี่พูดเท่าไหร่แต่ก็ยังพอ เออ ออห่อหมกไปบ้างแล้วเบือนหน้าออกไปนอกรถแทน ทุกการกระทำของนิลมณีนั้นอยู่ในสายตาของดีน เพราะเธอรู้ว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ถึงไม่ค่อยอยากหันไป “ไหนว่าเป็นเพื่อน ดูไม่ค่อยจะสนใจเพื่อนที่กำลังคุยด้วยเท่าไหร่เลยนะครับคุณเลขา” อยู่ๆเขาก็พูดออกมาโต้งๆเสียอย่างนั้น นิลมณีปรายสายตาไปทางต้นเสียง เม้มริมฝีปากบางสวยไว้แน่นก่อนจะหันไปทางซันนี่ที่ทำหน้างงกับคำพูดของดีน “คุณซันนี่...ไม่สิ ซันนี่ ฉันต้องขอโทษด้วยนะถ้าท่าทีของฉันดูเหมือนไม่สนใจ แต่ฉันเป็นคนแบบนี้...ความจริงแล้วฉันฟังที่เธอพูดอยู่” นิลมณีหันไปจับมือของซันนี่เอาไว้ด้วยสีหน้ารู้สึกผิดถึงแม้จะแสร้งทำก็ตามที ซันนี่ยิ้มตอบรับพร้อมกับจับมือของนิลมณีเอาไว้แน่นสีหน้าดูดีใจที่นิลมณีห่วงความรู้สึกของเธอ “ไม่เป็นไร ฉันพอรู้ว่าคุณ...เอ่อ นิลน่าจะเป็นคนเงียบๆ เพื่อนกันต้องรับนิสัยกันได้อยู่แล้ว ฉันรู้ว่านิลไม่ใช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-02
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 13. เจ้านายจอมกวน

    ไม่ว่าจะทานมื้อกลางวันหรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ทำงานวันนี้ช่างเป็นวันที่หนักหนาสำหรับนิลมณีเสียจริง มีทั้งเพื่อนใหม่ที่ไม่ได้คิดจะมี แถมยังถูกนินทาตอนเดินกลับเข้ามาที่บริษัทหลังจากไปทานมื้อกลางวันกับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าซีอีโอ ราวกับตอกย้ำข่าวลือระหว่างเธอกับเขาอีก “ดูคุณจะฮอตน่าดูเลยนะครับ” อยู่คนที่นั่งทำงานอยู่ก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่นานจวนจะเลิกงานอยู่แล้วพึ่งปริปากพูดกับเธอ “เห็นนั่งจ้องฉันอยู่ตั้งนาน นี่เหรอคะที่จะพูด” นิลมณีพูดไปพลางพิมพ์คีย์บอร์ดไป สายตาของเธอไม่ละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เลยแม้แต่น้อยในขณะที่ตอบคำถามของเขา “ผมแค่สงสัยน่ะครับ ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงหยิ่งๆแบบคุณงั้นเหรอ? คงชอบผู้หญิงนิสัยแปลกๆ” “ผู้ชายที่ว่านี่หมายถึงคุณด้วยหรือเปล่าคะ?” นิลมณีละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หันไปมองเขาด้วยแววตาเฉยชาอย่างที่ชอบทำ และเขาเองก็ทำสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย ดีนได้แค่มองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้น “ทำไมเหรอครับ? ถ้ารวมผมด้วยคุณจะตอบรับผมดีกว่าผู้ชายเมื่อกลางวันหรือเปล่า?”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-03
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 14. แกล้ง

    นิลมณีในชุดเดรสแขนยาวสีขาวที่เธอไม่ชอบ แต่ต้องสวมใส่มันเพราะผู้เป็นเจ้านายต้องการให้ดูสุภาพที่สุด ถึงแม้จะเป็นขายาวแต่มันกลับเป็นแขนยาวลายลูกไม้บางๆ ลำคอระหงส์ถูกประดับด้วยสร้อยคอผ้าลายลูกไม้เช่นกัน เครื่องประดุบต่างหู ข้อมือล้วนแต่เป็นเพชรแท้ที่ดีนซื้อให้ ความสั้นของกระโปรงชุดเดรสเหนือเข่าขึ้นมาอยู่พอสมควรกระเป๋าแบรนด์เนมใบหรูสีขาวเข้ากับชุดที่เธอใส่ ใบหน้าถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามแต่สีหน้าของนิลมณีกลับบึ้งตึงตลอดการนั่งรถไปกับเขา เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสีขาว ทั้งที่เธอบอกเขาไปแล้วว่าเธอชอบสีดำมันดูดีกว่าแต่เขากลับตอบเธอมาว่า ‘เราไปพบลูกค้า ไม่ได้ไปงานศพลูกค้า’ ใครๆเขาก็ใส่สีดำกันทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยไปทำไม...ถึงแม้ว่าชุดที่เธอเลือกจะดำสนิททั้งแต่หัวจรดเท้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-04
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 15. อัคคี

    อัคคีรู้ได้ทันทีว่านิลมณีนั้นเป็นพวกประเภทเดียวกับเขา นิลมณีเองก็ไม่ต่างกันเพียงแต่ว่ากลิ่นไอของอัคคีไม่ใช่กลิ่นไอที่เธอตามหา เพื่อนของดีนจ้องมองเธอแล้วยกยิ้มขึ้นแต่นิลมณีกลับมีสีหน้านิ่งเฉย ดีนที่มองทั้งคู่มองหน้ากันไปก็มีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก เขาถอนหายใจพลางเบือนหน้าไปทางอื่นแทน และแน่นอนว่าเพื่อนของเขานั้นสังเกตุเห็น “ผมว่าเราไปหาไรทานกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวมื้อนี่ผมเลี้ยงแล้วกันถือว่าให้เกียรติที่คุณแต่งตัวสวยมาในวันนี้” แม้จะเป็นการพูดเอ่ยชมก็ตามแต่ทว่ามันกลับตอกย้ำนิลมณีจนเธอหันไปมองขวางตัวการที่เลือกชุดให้เธอ แม้ว่าเธอจะปฏิเสธแต่เขาก็ใช้อำนาจของคำว่าเจ้านายมาขู่จนเธอต้องรับ ดีนเห็นสายตาของนิลมณีก็เบือนหน้าหนี ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หน้าตาเฉยก่อนจะเดินตามอัคคีเพื่อนของตนไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุด อัคคีเองก็พอเป็นสุภาพบุรุษเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งอย่างสุภาพ “ขอบคุณค่ะ” เธอหันไปยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณเขาตามารยาท “ร้านมึงนี่เงียบเป็นป่าช้าเหมือนเดิมเลยนะ” “แต่ร้านขายอาหารหมาขายดีนะ มึงเทสเองเหรอถึงได้ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-06
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 16. ดูแมวที่ห้องผมไหม

    “เฮ้ยๆ ใจเย็นก่อนเพื่อน..” อัคคีถึงกับเอ่ยห้องห้ามเพื่อนของเขาหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น แน่นอนว่าผู้ชายด้วยกันย่อมรู้ดี ถึงเขาจะไม่ใช่มนุษย์แต่เขาก็พอที่ตามยุคตามสมัยอยู่บ้าง ดีนหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าที่ตัวเองพูดนั้นเป็นเรื่องปกติ “บอสคะ...จะชวนผู้หญิงทุกคนไปดูแมวที่ห้องแบบนี้มันใช้ได้เหรอคะ?” นิลมณีเอ่ยพลางหันไปขมวดคิ้วใส่เขา โลกปีศาจมันก็คือโลกคู่ขนาน ยุคสมัยไปทางไหนโลกคู่ขนานก็ไปทางนั้นไม่มีอะไรแปลกแยกออกจากกัน “ถ้าอย่างนั้นผมเอาแมวมาให้คุณดูดีไหม? ช่วงนี้มันดูดุและดูอารมณ์ไม่ดีบ่อย คุณชอบแมวน่าจะเคยศึกษาพฤติกรรมมันมาบ้าง” ดีนเอ่ยต่อ ทำเอาทุกคนถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่รู้ว่าเขากวนประสาทหรือว่าเขาไม่รู้ความหมายของการชวนผู้หญิงไปดูแมวที่ห้องกันแน่ แต่สำหรับนิลมณีนั้นเชื่อความคิดแรกเสียมากกว่า เพราะเธอเคยเห็นเขาชวนผู้หญิงไปดูแมวที่ห้อง! “ขอโทษทีนะคะ ฉันเป็นเลขาไม่ใช่สัตวแพทย์” เธอเอ่ยเสียงเรียบ “ก็จริงอย่างที่เธอพูดนะเว้ยไอ้ดีน แมวมึงเป็นอะไรก็พาไปหาหมอสิวะ” อัคคีพูดพร้อมหัวเราะ สายตามองดีนเพื่อนข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-23
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 17. ประชด

    ตั้งแต่ทานข้าวกับอัคคีเพื่อนของเขาจนนั่งรถกลับดีนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ นั่งเท้าคางกับหน้าต่างรถมองออกไปข้างด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แม้ว่านิลมณีไม่ได้อยากจะสนใจเท่าไหร่แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้อยู่ เธอนั่งไขว้ห้างจ้องมองดีนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนที่สายตาคมของเขาจะปราดปรายมองไปยังเธอ “มีคำถามอะไรจะถามอีกหรือเปล่า?” ดีนเอ่ยถามขึ้น “ไม่มีค่ะ” “แล้วมองหน้าทำไม?” “จะบอกว่าไปส่งที่บริษัทด้วยค่ะ” คำพูดเฉยชาของเธอทำให้เขาเงียบนิ่งไป ก่อนจะหันหน้าตรงกลับมามองเธอ สีหน้าที่เรียบเฉยของเขาในตอนแรกเปลี่ยนเป็นไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ นิลมณีเห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “บอสต่างหากมีคำถามอะไรหรือเปล่า?” “หน้าฉันเหมือนมีปัญหาหรือไง?” “ค่ะ” อึ้งกับคำตอบสั้นๆของหญิงสาวตรงหน้า ดึงสายตาคมกลับไปมองนอกรถอย่างหัวเสียก่อนจะปราดสายตามองเธออีกครั้งที่ยังคงทำหน้าตายเหมือนเดิม “ทำไมต้องรับคำเชิญของอัคคี?” “เขาก็เป็นลูกค้าคนสำคัญของบอสไม่ใช่หรือคะ?”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-24
  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 1. รับเลี้ยง

    “เจ้าเหมียวขี้เรื้อนนี่...น่าเวทนาเสียจริง” เสียงหนึ่งดังขึ้นพาให้นิลมณีเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก แต่ในสายตาคมของชายหนุ่มกลับมองว่าแมวดำตัวน้อยนี้ทำหน้าน่าสงสารน่าเอ็นดูเสียจริง เขาค่อยๆนั่งลงด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะอุ้มเจ้าเหมียวน้อยสีดำนั้นขึ้นมา ...ไอ้มนุษย์โสโครกนี่!! ปล่อยข้านะ!!... เสียงที่เอื้อนเอ่ยของเธอในตอนนี้กลายเป็นเพียงเสียงร้องเหมียวๆ สายตาดุดันน่าเกรงขามกลับกลายเป็นสายตาออดอ้อนซึ่งชายหนุ่มมองว่าแมวตัวน้อยนี้คงกำลังดีใจที่เขาจะเก็บมันกลับไปเลี้ยง “รู้ว่าดีใจ ช่วยเลิกร้องได้ไหมเจ้าเหมียว คอนโดฉันห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์ แต่เห็นว่าแกน่าเวทนาหรอกนะ” ...ใครอยากให้มาเวทนากันยะ!!....เฮ้ย!!... ไม่ทันที่จะได้ร้องเหมียวเถียงชายหนุ่มต่อ เขาก็จัดการจับเธอยัดใส่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาก่อนจะรีบวิ่งกลับคอนโดทันที ชายหนุ่มรีบเข้าห้องของตัวเองก่อนจะนำกระเป๋าที่ใส่ลูกแมวตัวสีดำสนิทนั้นไปวางไปบนโซฟา ก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วอุ้มเจ้าลูกแมวออกมาที่ตอนนี้มันคอพับไปแล้ว เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาก็ตกใจสุดขี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08

บทล่าสุด

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 17. ประชด

    ตั้งแต่ทานข้าวกับอัคคีเพื่อนของเขาจนนั่งรถกลับดีนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ นั่งเท้าคางกับหน้าต่างรถมองออกไปข้างด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แม้ว่านิลมณีไม่ได้อยากจะสนใจเท่าไหร่แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้อยู่ เธอนั่งไขว้ห้างจ้องมองดีนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก่อนที่สายตาคมของเขาจะปราดปรายมองไปยังเธอ “มีคำถามอะไรจะถามอีกหรือเปล่า?” ดีนเอ่ยถามขึ้น “ไม่มีค่ะ” “แล้วมองหน้าทำไม?” “จะบอกว่าไปส่งที่บริษัทด้วยค่ะ” คำพูดเฉยชาของเธอทำให้เขาเงียบนิ่งไป ก่อนจะหันหน้าตรงกลับมามองเธอ สีหน้าที่เรียบเฉยของเขาในตอนแรกเปลี่ยนเป็นไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ นิลมณีเห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “บอสต่างหากมีคำถามอะไรหรือเปล่า?” “หน้าฉันเหมือนมีปัญหาหรือไง?” “ค่ะ” อึ้งกับคำตอบสั้นๆของหญิงสาวตรงหน้า ดึงสายตาคมกลับไปมองนอกรถอย่างหัวเสียก่อนจะปราดสายตามองเธออีกครั้งที่ยังคงทำหน้าตายเหมือนเดิม “ทำไมต้องรับคำเชิญของอัคคี?” “เขาก็เป็นลูกค้าคนสำคัญของบอสไม่ใช่หรือคะ?”

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 16. ดูแมวที่ห้องผมไหม

    “เฮ้ยๆ ใจเย็นก่อนเพื่อน..” อัคคีถึงกับเอ่ยห้องห้ามเพื่อนของเขาหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น แน่นอนว่าผู้ชายด้วยกันย่อมรู้ดี ถึงเขาจะไม่ใช่มนุษย์แต่เขาก็พอที่ตามยุคตามสมัยอยู่บ้าง ดีนหันไปมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าที่ตัวเองพูดนั้นเป็นเรื่องปกติ “บอสคะ...จะชวนผู้หญิงทุกคนไปดูแมวที่ห้องแบบนี้มันใช้ได้เหรอคะ?” นิลมณีเอ่ยพลางหันไปขมวดคิ้วใส่เขา โลกปีศาจมันก็คือโลกคู่ขนาน ยุคสมัยไปทางไหนโลกคู่ขนานก็ไปทางนั้นไม่มีอะไรแปลกแยกออกจากกัน “ถ้าอย่างนั้นผมเอาแมวมาให้คุณดูดีไหม? ช่วงนี้มันดูดุและดูอารมณ์ไม่ดีบ่อย คุณชอบแมวน่าจะเคยศึกษาพฤติกรรมมันมาบ้าง” ดีนเอ่ยต่อ ทำเอาทุกคนถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่รู้ว่าเขากวนประสาทหรือว่าเขาไม่รู้ความหมายของการชวนผู้หญิงไปดูแมวที่ห้องกันแน่ แต่สำหรับนิลมณีนั้นเชื่อความคิดแรกเสียมากกว่า เพราะเธอเคยเห็นเขาชวนผู้หญิงไปดูแมวที่ห้อง! “ขอโทษทีนะคะ ฉันเป็นเลขาไม่ใช่สัตวแพทย์” เธอเอ่ยเสียงเรียบ “ก็จริงอย่างที่เธอพูดนะเว้ยไอ้ดีน แมวมึงเป็นอะไรก็พาไปหาหมอสิวะ” อัคคีพูดพร้อมหัวเราะ สายตามองดีนเพื่อนข

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 15. อัคคี

    อัคคีรู้ได้ทันทีว่านิลมณีนั้นเป็นพวกประเภทเดียวกับเขา นิลมณีเองก็ไม่ต่างกันเพียงแต่ว่ากลิ่นไอของอัคคีไม่ใช่กลิ่นไอที่เธอตามหา เพื่อนของดีนจ้องมองเธอแล้วยกยิ้มขึ้นแต่นิลมณีกลับมีสีหน้านิ่งเฉย ดีนที่มองทั้งคู่มองหน้ากันไปก็มีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก เขาถอนหายใจพลางเบือนหน้าไปทางอื่นแทน และแน่นอนว่าเพื่อนของเขานั้นสังเกตุเห็น “ผมว่าเราไปหาไรทานกันดีกว่านะครับ เดี๋ยวมื้อนี่ผมเลี้ยงแล้วกันถือว่าให้เกียรติที่คุณแต่งตัวสวยมาในวันนี้” แม้จะเป็นการพูดเอ่ยชมก็ตามแต่ทว่ามันกลับตอกย้ำนิลมณีจนเธอหันไปมองขวางตัวการที่เลือกชุดให้เธอ แม้ว่าเธอจะปฏิเสธแต่เขาก็ใช้อำนาจของคำว่าเจ้านายมาขู่จนเธอต้องรับ ดีนเห็นสายตาของนิลมณีก็เบือนหน้าหนี ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หน้าตาเฉยก่อนจะเดินตามอัคคีเพื่อนของตนไปนั่งที่โต๊ะด้านในสุด อัคคีเองก็พอเป็นสุภาพบุรุษเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งอย่างสุภาพ “ขอบคุณค่ะ” เธอหันไปยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณเขาตามารยาท “ร้านมึงนี่เงียบเป็นป่าช้าเหมือนเดิมเลยนะ” “แต่ร้านขายอาหารหมาขายดีนะ มึงเทสเองเหรอถึงได้ร

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 14. แกล้ง

    นิลมณีในชุดเดรสแขนยาวสีขาวที่เธอไม่ชอบ แต่ต้องสวมใส่มันเพราะผู้เป็นเจ้านายต้องการให้ดูสุภาพที่สุด ถึงแม้จะเป็นขายาวแต่มันกลับเป็นแขนยาวลายลูกไม้บางๆ ลำคอระหงส์ถูกประดับด้วยสร้อยคอผ้าลายลูกไม้เช่นกัน เครื่องประดุบต่างหู ข้อมือล้วนแต่เป็นเพชรแท้ที่ดีนซื้อให้ ความสั้นของกระโปรงชุดเดรสเหนือเข่าขึ้นมาอยู่พอสมควรกระเป๋าแบรนด์เนมใบหรูสีขาวเข้ากับชุดที่เธอใส่ ใบหน้าถูกแต่งแต้มอย่างสวยงามแต่สีหน้าของนิลมณีกลับบึ้งตึงตลอดการนั่งรถไปกับเขา เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสีขาว ทั้งที่เธอบอกเขาไปแล้วว่าเธอชอบสีดำมันดูดีกว่าแต่เขากลับตอบเธอมาว่า ‘เราไปพบลูกค้า ไม่ได้ไปงานศพลูกค้า’ ใครๆเขาก็ใส่สีดำกันทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยไปทำไม...ถึงแม้ว่าชุดที่เธอเลือกจะดำสนิททั้งแต่หัวจรดเท้

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 13. เจ้านายจอมกวน

    ไม่ว่าจะทานมื้อกลางวันหรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ทำงานวันนี้ช่างเป็นวันที่หนักหนาสำหรับนิลมณีเสียจริง มีทั้งเพื่อนใหม่ที่ไม่ได้คิดจะมี แถมยังถูกนินทาตอนเดินกลับเข้ามาที่บริษัทหลังจากไปทานมื้อกลางวันกับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าซีอีโอ ราวกับตอกย้ำข่าวลือระหว่างเธอกับเขาอีก “ดูคุณจะฮอตน่าดูเลยนะครับ” อยู่คนที่นั่งทำงานอยู่ก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่นานจวนจะเลิกงานอยู่แล้วพึ่งปริปากพูดกับเธอ “เห็นนั่งจ้องฉันอยู่ตั้งนาน นี่เหรอคะที่จะพูด” นิลมณีพูดไปพลางพิมพ์คีย์บอร์ดไป สายตาของเธอไม่ละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เลยแม้แต่น้อยในขณะที่ตอบคำถามของเขา “ผมแค่สงสัยน่ะครับ ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงหยิ่งๆแบบคุณงั้นเหรอ? คงชอบผู้หญิงนิสัยแปลกๆ” “ผู้ชายที่ว่านี่หมายถึงคุณด้วยหรือเปล่าคะ?” นิลมณีละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หันไปมองเขาด้วยแววตาเฉยชาอย่างที่ชอบทำ และเขาเองก็ทำสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย ดีนได้แค่มองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้น “ทำไมเหรอครับ? ถ้ารวมผมด้วยคุณจะตอบรับผมดีกว่าผู้ชายเมื่อกลางวันหรือเปล่า?”

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 12. กลิ่นไอเจือจาง

    นั่งรถ Lexus คันหรูภายใต้ความเงียบอยู่นาน มีเพียงซันนี่ที่พยายามพูดเจื้อยแจ้วชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แม้นิลมณีจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่ซันนี่พูดเท่าไหร่แต่ก็ยังพอ เออ ออห่อหมกไปบ้างแล้วเบือนหน้าออกไปนอกรถแทน ทุกการกระทำของนิลมณีนั้นอยู่ในสายตาของดีน เพราะเธอรู้ว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ถึงไม่ค่อยอยากหันไป “ไหนว่าเป็นเพื่อน ดูไม่ค่อยจะสนใจเพื่อนที่กำลังคุยด้วยเท่าไหร่เลยนะครับคุณเลขา” อยู่ๆเขาก็พูดออกมาโต้งๆเสียอย่างนั้น นิลมณีปรายสายตาไปทางต้นเสียง เม้มริมฝีปากบางสวยไว้แน่นก่อนจะหันไปทางซันนี่ที่ทำหน้างงกับคำพูดของดีน “คุณซันนี่...ไม่สิ ซันนี่ ฉันต้องขอโทษด้วยนะถ้าท่าทีของฉันดูเหมือนไม่สนใจ แต่ฉันเป็นคนแบบนี้...ความจริงแล้วฉันฟังที่เธอพูดอยู่” นิลมณีหันไปจับมือของซันนี่เอาไว้ด้วยสีหน้ารู้สึกผิดถึงแม้จะแสร้งทำก็ตามที ซันนี่ยิ้มตอบรับพร้อมกับจับมือของนิลมณีเอาไว้แน่นสีหน้าดูดีใจที่นิลมณีห่วงความรู้สึกของเธอ “ไม่เป็นไร ฉันพอรู้ว่าคุณ...เอ่อ นิลน่าจะเป็นคนเงียบๆ เพื่อนกันต้องรับนิสัยกันได้อยู่แล้ว ฉันรู้ว่านิลไม่ใช่

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 11. พักกลางวัน

    ตั้งหน้าตั้งทำงานพร้อมกับถกเถียงเรื่องแมวไม่ชอบอาบน้ำกับซีอีโอของบริษัทหน้าตั้ง เวลาตอนนี้ก็บ่งบอกถึงช่วงเวลาพักกลางวันของพนักงาน หลังจากที่บรรยากาศในห้องทำงานเงียบอยู่นาน ดีนละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เหลือบตามองนิลมณีที่ยังทำงานไม่สนใจเวลา “ไม่ไปทานข้าวเหรอครับ? นี่พักกลางวันแล้วนะ...ทางบริษัทไม่มีนโยบายทำงานล่วงเวลากลางวันนะครับ” ดีนเอ่ยขึ้นเมื่อยังเห็นว่านิลมณีไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน เธอหันไปปรายตามองเขาก่อนจะถอดถอนหายใจ “ค่ะ” ตอบเพียงสั้นๆ “ถ้าคุณไม่ไปแล้วคนเป็นหัวหน้าอย่างผมจะไปพักได้ยังไง” &ldqu

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 10. เริ่มงานวันแรก

    ราวกับโชคชะตาเล่นตลกเมื่อเดินไปคุยไปกับพนักงานหน้าล็อบบี้สาวชื่อว่า ซันนี่ ถึงได้รับรู้รายละเอียดของบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่นั้นเป็นบริษัทที่ผลิตอาหาร และอุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยง ทั้งที่ท่าทางของซีอีโอนั้นดูจะเลี้ยงสัตว์ไม่เป็นเอาเสียเลย จากการที่จับแมวอาบน้ำ ด้วยเป้าหมายที่เธอจะเข้ามาสืบหาจอมปีศาจในบริษัทแห่งนี้จึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นใด “ถึงแล้วค่ะ ฉันคงเข้าไปด้วยไม่ได้นะคะคุณนิล...ดีใจมากเลยค่ะที่คุณนิลช่วยฉันเมื่อครู่และยังยอมเป็นเพื่อนกับฉันอีก” “ใครเป็นเพื่อนคุณ ฉันแค่....” “ยังไงก็เถอะค่ะ ไม่ว่าคุณนิลอาจจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันแต่ฉันอยากเป็นเพื่อนกับคุณนิลจริงๆค่ะ” ซันนี่เอ่ยพลางรวบมือเรียวทั้งสองข้างขึ้นมาจับกุมไว้ ออร่าของความจริงใจแผ่ออกมาจนนิลมณีรู้สึกขนลุกเกลียวราวกับโดนไฟช็อตอย่างไรอย่างนั้น “เฮ้อ...ฉันไม่ใช่คนใจดี ไม่ใช่คนดีหรอกนะ” “ไม่หรอกค่ะ ถึงคุณนิล...เอ่อ..จะทำให้ฉันรู้สึกขนลุกแปลกๆก็เถอะ แต่ว่าคุณคงไม่ใช่คนร้ายลึกแบบนั้น” ซันนี่เอ่ยต่อ “อย่ารู้ดี เธอไม่รู้จักฉันด้วย

  • นางแมวจอมหยิ่ง vs นายปากร้าย   บทที่ 9. เข้าทำงาน

    เช้าวันสดใสยที่ไม่สดใสเมื่อเจ้ามนุษย์หนุ่มยังนอนหลับอุตุอยู่บนเตียงโดยไม่สนเวลาเลย นิลมณีตั้งหน้าตั้งตารอให้เขาออกจากห้องเพื่อไปทำงานก่อนที่เธอจะตามไป หากแต่ว่าชายหนุ่มกลับยังไม่ยอมตื่นเลยด้วยซ้ำ ...ไม่พ้นน่าที่ข้าสินะ... คิดในใจนั่งเงยหน้ามองร่างสูงกำยำที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง พลันสายตาของเธอก็อดที่จะเบี่ยงเบนไปยังจุดเด่นชัดกลางลำตัวไม่ได้จริงๆ หลับตากัดฟันแน่นระงับอารมณ์หงุดหงิดที่ต้องทนเห็นอย่างนี้ทุกเช้า ตัดสินใจกระโดดขึ้นไปบนเตียงก่อนจะกระโดขึ้นไปบนตัวเขาร้องเสียงเหมียวๆข้างๆหู ก็ยังคงนิ่งสนิท ไม่ว่าจะเดินวนไปวนมาตรงอกเขาก็ยังคงไม่ยอมตื่น นี่หลับหรือซ้อมตายกันแน่ ไม่ทันจะได้เริ่มแผนต่อไปเจ้าตัวใหญ่ก็พลิกตัวคว้าร่างเจ้าแมวเหมียวของเขาเข้าไปกอดเหมือนตุ๊กตา เงี๊ยววว!! ...ทำอะไรของเจ้าเนี่ย!! ตื่นแล้วไปทำงานได้แล้วนุดขี้เซาเอ้ย!!... ร้องบ่นออกมาจนเป็นเสียงแมว แม้จะรู้ว่าเขาจะไม่เข้าใจแต่อย่างน้อยก็ทำให้รำคาญอยู่บ้าง เจ้าแมวสีนิลดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่ง ก่อนจะรีบดีดกระโดดตัวออกจากช่องระหว่างแขนของเขา ตั้งท่าเดินไปยังกลา

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status