คนทั่วไปรู้แต่เพียงว่า จ้าวเล่อซี คือคุณชายใบ้ผู้มีจิตใจวิปริตบิดเบี้ยว เขาปกปิดใบหน้าตนด้วยหน้ากากสีขาว และคลั่งไคล้การอุ่นเตียง ชายหนุ่มครอบครองคฤหาสน์สัตตบงกชอันกว้างใหญ่ราวกับวังหลวง ด้านในมีเรือนไม้หลังงามสิบสองหลัง แต่ละหลังมีสตรีที่โชคชะตาลิขิตให้ต้องตาย ทว่าพวกนางถูกยื้อชีวิตเอาไว้ และได้รับโอกาสเกิดใหม่ อีกครั้งก็เพื่อเป็นสาวใช้ของจ้าวเล่อซี แล้วถูกฝึกปรือเพื่อทำภารกิจลับให้เขา
View Moreกุ้ยเฟยปีศาจกุ้ยเฟยฟ่านจิงผู้มีตราหงส์ในมือ เดินสำรวจพื้นที่สำคัญในวังหลัง ก่อนที่นางจะหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นว่าตำหนักของมเหสีอี้เหอมีหญ้าและวัชพืชหนาตา ดอกไม้ก็เหี่ยวเฉาแต่เดิมนางไม่ได้อยากเหยียบย่างเข้าไปด้วยซ้ำ แต่ได้ข่าวว่าคนที่อยู่ข้างในกำลังหาทางให้สกุลหลิวกระทำเรื่องชั่วบางอย่างเพื่อป้ายความผิดให้แก่นาง และดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเห็นชอบสิ่งนี้ด้วยน่าหัวร่อนัก คนพวกนี้ชอบกลับขาวให้เป็นดำ ทำเรื่องถูกให้เป็นผิด เช่นนี้นางยิ่งนึกสนุก ด้วยหลิวฟ่านหาใช่คนเดิม นางพร้อมที่จะชโลมทุกอย่างด้วยเลือด!“วางแผนสังหารบิดางั้นรึ...”อาเฟยพยักหน้าน้อยๆ เขาไม่อยากให้หลิวฟ่านสร้างกรรมใดอีก นางได้เป็นถึงกุ้ยเฟยในวันนี้ก็มีอำนาจพอแล้ว นอกจากนั้นควรสะสางเรื่องต่างๆ แต่พองาม มิใช่ระรานคนอื่นไปทั่ว“อย่าได้ทำสิ่งที่ร้ายแรงกว่านี้ รวมถึงเรื่องที่เจ้ากำลังคิดอยู่ในใจ”“อี้เหอเป็นหนามทิ่มใจซือฝุมิใช่หรือ”“เคยเป็น แต่ตอนนี้นางหมดสิ้นเขี้ยวเล็บ ก็มิต่างจากหญิงชราที่หน้าตาไร้ความสวยงาม อยู่ไปก็เหมือนซากสัตว์ที่เน่าเหม็น เช่นนั้นข้ายังจะต้องทำสิ่งใดให้เปรอะเปื้อนมืออีก”“แต่ข้าไม่เห็นด้วย นางทำให้สตรีห
ม่านซือซือตื่นขึ้นในช่วงรุ่งสาง นางไอติดกันหลายครั้ง และพบว่าคนที่ยกจอกน้ำชาให้นางคือสามี แต่หลังจากหายคอแห้ง นางต้องตกใจเป็นอย่างมาก จ้าวเล่อซีได้แผลหลายที่ และนางเห็นว่าเขาบาดเจ็บหนัก แต่ยังทนฝืนนั่งเฝ้านางข้างเตียงไม่ห่างไปไหน“ท่านพี่... ภรรยาช่างเป็นสตรีที่นำแต่เรื่องเลวร้ายมาให้ท่านอยู่เสมอ”จ้าวเล่อซีไม่ได้เอ่ยคำใด เขาจุมพิตที่หลังมือนาง ก่อนนำมาวางไว้ที่หน้าอกของตน“ข้าจะไม่อ่อนแอและร้องไห้อีก” ม่านซือซือบอกกับชายหนุ่ม และนางตั้งใจทำเช่นนั้นจริงๆ ทว่าความตั้งใจของนางคงต้องออกแรงมากอยู่สักหน่อย เพราะหลังจากนั้นอาการของจ้าวเล่อซีก็หนักขึ้นมากเขายิ้มให้ผู้เป็นภรรยาและพยายามบังคับเสียงอันประหลาดแสนน่ากลัวของตน และเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก“คลอดบุตรชายให้ข้า ชาตินี้บุรุษแซ่จ้าวก็ตายตาหลับแล้ว”ม่านซือซือสั่นผวาทั้งร่าง นางไม่รู้ว่าจ้าวเล่อซีคิดอย่างไรถึงได้เอ่ยเรื่องน่าหวาดหวั่นเช่นนั้น แต่มันก็เป็นความจริง พอนางลุกเดินได้ตามปกติ กลับกลายเป็นว่าจ้าวเล่อซีไม่ได้ลุกขึ้นมาจากที่นอนอีกเลยสามวันผ่านไป ม่านซือซือก็ซูบผอมลง นางนั่งไม่ติด เดินวนไปมาในเรือนหลังเล็กแห่งนั้น กระทั่งเห็นหน้าข
ม่านซือซือไม่ได้มองสิ่งรอบกายเนื่องจากต้องซ่อนตัว และถูกพาหลบเพื่อขึ้นรถม้าคันใหม่ซึ่งมีหน่วยคุ้มกันที่เข้มแข็ง ทว่าถึงจะมีกำลังเตรียมพร้อม แต่คนของสกุลเตียวก็มีกลุ่มที่เข้ามาเสริมไม่ขาด อีกทั้งฝ่ายนั้นมิใช่มือสังหารหากเป็นทหารที่ออกรบเป็นประจำ มีกลยุทธ์ที่แยบยล คนพวกนั้นคือทหารของถานปิง!เอี๊ยะถังหนาวจับไปถึงขั้วหัวใจ เขาไม่กลัวพวกหมาหมู่ แต่กลัวที่สุดคือพวกที่ฉลาดมีไหวพริบ และทหารสกุลถานก็เป็นพวกที่มีฝีมือยากหาใครเทียบได้เสียงแตรเขาสัตว์ดังต่อๆ กันพร้อมธนูที่พุ่งมาราวกับห่าฝนมือปราบหนุ่มใช้ดาบในมือกวัดแกว่งพร้อมออกคำสั่งให้รถม้าเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด สุดท้ายแทนที่จะช่วยเหลือม่านซือซือได้สมใจ กลายเป็นว่าเขาติดกับดักอยู่ตรงกลางกลุ่มของคนสกุลเตียวและทหารของถานปิง “วางอาวุธเสีย พวกเราไม่ได้ต้องการชีวิตเจ้า” เสียงผู้ที่อำพรางตัวเอ่ยขึ้น“ฮ่าๆๆ พวกหมาหมู่ คิดชั่วกับผู้อื่นอย่างหน้าไม่อาย หากข้ายังมีลมหายใจอยู่ อย่างไรก็ชิงตัวจ้าวฮูหยินไปไม่ได้”“กล่าวเช่นนั้น เจ้าก็ไม่สมควรมีลมหายใจแล้ว”“ฮ่าๆๆ หากแน่จริงก็ข้ามศพข้าไปก่อน”คนที่ซ่อนตัวอยู่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม
ม่านซือซือสะลึมสะลือตั้งแต่ถูกจับขึ้นรถม้า พอการเคลื่อนไหวรอบตัวหยุดลง นางจึงนั่งนิ่งคอยฟังเสียงรอบตัวด้านนอก และคนตั้งครรภ์ใจชื้นขึ้นเมื่อนางเป่าปาก เสียงเห่าของสุนัขก็ดังขรม นางมั่นใจว่าสุนัขสองตัวที่นางดูแลไว้กำลังตามนางมา ทว่าพวกมันเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน เหตุใดจะรับมือมนุษย์ได้ อีกทั้งตัวหนึ่งยังได้รับบาดเจ็บ“อย่าให้นางกับพวกเดรัจฉานหนีรอด”เสียงดังกล่าวดังเข้ามาในรถม้า ม่านซือซือไม่ได้มีวิทยายุทธ์ย่อมต้องกลัวตายเป็นธรรมดาและการต่อสู้ยังดุเดือดมาก ม่านซือซือไม่รู้ว่าผู้ใดมาช่วยนาง แต่ภาวนาขอให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด กระทั่งคนของสกุลเตียวเปิดประตูรถม้าเข้ามา คราแรกนางไม่ได้ตกใจสักเท่าใด แต่หลังจากนั้นผู้ที่หัวเราะด้วยเสียงบ้าคลั่งก็เผยตัว เขาคือมู่จิ้น!“ข้านึกไม่ถึงว่าจะได้พบเจ้าอีก โอกาสดีๆ เช่นนี้ต้องยอมรับว่าคุณหนูเตียวทำให้ข้าได้เล่นสนุกกับจ้าวฮูหยินอย่างถูกเวลา”“องค์ชาย ท่านเป็นคนบัดซบโดยแท้ ทำเรื่องชั่วช้าได้ตลอดเวลา คิดหรือว่าจะทำให้ข้ากลัว”“ฮ่าๆๆ เจ้าอาจเป็นสตรีเก่งกล้า แต่จ้าวเล่อซีมันขี้ขลาดโดยเฉพาะยามเห็นเมียของมันถูกข้ารังแก!”“อย่าคิดว่าท่านจะหักหาญใช้กำลังข่มเหงน
เล่ห์ร้ายสตรีเรือนโอสถม่านซือซือถูกคุมตัวขึ้นรถม้า นางห่วงทั้งเหม่ยหลานและฝูเอ๋อร์ ไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนเป็นตายร้ายดีอย่างไร ข้างในรถม้ามีเพียงนางคนเดียว ถึงไม่ได้ถูกมัดมือหรือปิดปากแต่นางไม่อาจหลบหนี ด้วยมีทหารจากกรมการปกครองและคนสกุลเตียวคุมอยู่ อีกทั้งคำพูดของเตียวจื่อก่อนส่งนางขึ้นรถม้าแจ้งชัดว่าม่านซือซือตกที่นั่งลำบากแล้ว“ระวังตัวเอาไว้ ความผิดที่เจ้าก่อมิอาจหนีพ้น ตอนนี้บิดาเจ้าสารภาพหมดเปลือก ได้รับโทษถูกส่งตัวไปยังเมืองทางใต้ ไปเป็นนักโทษสร้างกำแพงเมืองที่นั่น แต่น่าเสียดาย ระหว่างทางมีโจรร้ายดักปล้นขบวน พวกมันส่งม่านเจิ้นไปรอที่ประตูนรกแล้ว ส่วนเจ้าก่อนที่จะตายตามเขาข้าคิดว่าคงต้องทรมานทั้งร่างกายและจิตใจอย่างสาหัส เริ่มจากถูกผ่าท้องควักลูกน้อยออกมาดูโลกก่อนดีหรือไม่ โอ้... แต่ช้าก่อน ข้าลืมเสียสนิทเจ้าเป็นมนุษย์โอสถ เช่นนั้นต้องจับยัดใส่แจกันยักษ์หรือไหเหล้า ขุนจนอ้วนให้น่าเกลียด จากนั้นจึงกรีดเลือดควักหัวใจให้รัชทายาทกิน!”ม่านซือซือตัวแข็งทื่อ นางหวาดผวากับคำพูดอีกฝ่าย หากเตียวจื่อรู้หลายสิ่งเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าคำพูดนางอาจมีเค้าความจริง“คุณหนูเตียว ทะ ท่านกำลังสร
ทาสสวาทอสรพิษ ณ ป่าช้าไร้ญาติทางทิศใต้ของเมืองหลวง ร่างของสตรีนางหนึ่งถูกใส่ไว้ในโลงไม้ สีหน้านางซีดเผือดริมฝีปากเป็นสีคล้ำ บริเวณลำคอมีรอยเชือกซึ่งนางผูกคอตนกับขื่อของเรือนในคราแรกนั้น เหล่าคนงานที่จัดการศพอยากเร่งฝังศพเพื่อจะได้เสร็จงานให้ไวแล้วรีบไปรับเงินส่วนที่เหลือ แต่ทหารที่คุมคนงานมาที่นี่รวมถึงสัปเหร่อต่างซุบซิบกันว่า หญิงคิดสั้นนางนี้เป็นสาวงามต่างแคว้น มีศักดิ์เป็นถึงลูกสาวของจักรพรรดินี อีกทั้งร่างกายยังบริสุทธิ์ไร้ราคี เมื่อรู้เช่นนี้ใครเล่าอยากจะทิ้งเนื้อหงส์ไว้ในโลงไม้ อย่างน้อยได้เพลินด้วยตาและลิ้มรสสักนิดก็ยังดี“คุณหนูของเจ้ากรมการปกครองบอกว่านางทำเสน่ห์และเล่นคุณไสยฯ เช่นนี้ข้าเลยอยากลองแทรกหนอนเข้าไปข้างในกลีบคับๆ นั่น อยากรู้จริงว่านางจะเด็ดดวงหรือไม่”“เจ้าไม่กลัวรึ ร่างของนางอาจมีตะขาบหรือพิษแทรกซึมอยู่ก็ได้ และยังเป็นศพตายโหงด้วย!”“ฮ่าๆๆ ยิ่งดี ยิ่งเฮี้ยน ยิ่งน่ากลัว ข้ายิ่งพึงใจ”“ช่างวิปริตโดยแท้พี่ชาย”เมื่อมีคนหนึ่งเอ่ยเช่นนั้นแล้วโลงศพจึงไม่ได้ถูกนำลงฝัง มันถูกเปิดออกจึงเผยให้เห็นร่างของเสี่ยวเหยาที่นอนนิ่งๆ มองเผินๆ ดูราวกับสตรีที่หลับใหลเพียงเท่านั้น
ภรรยาอยู่บน ท่านพี่อยู่ข้างล่าง ม่านซือซือมีความสุขยิ่งนัก เมื่อรู้ว่าจักรพรรดิเทียนฉางแต่งตั้งกุ้ยเฟยคนใหม่ นางจึงสั่งให้ห้องครัวทำอาหารเลี้ยงคนทั้งตำหนัก ทุกอย่างล้วนเป็นของดี มีสุราและการขับร้องเพลงด้วย“นางได้รับตำแหน่งกุ้ยเฟยฟ่านจิง!” เหม่ยหลานเอ่ยถึงหลิวฟ่าน ยามนี้นางได้ถือตราหงส์ในวังหลัง มีอำนาจเหนือมเหสีอี้เหอขั้นหนึ่ง“โอ้ ชื่อนี้เหมาะสมกับหลิวฟ่านเหลือเกิน”“นางเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิเทียนฉาง อีกทั้งอาเฟยก็อยู่รับใช้ที่ตำหนักในด้วย”ได้ยินเหม่ยหลานกล่าวเช่นนั้น ม่านซือซืออดหน้าแดงไม่ได้ด้วยรู้ความหมายของประโยคดังกล่าวดี“สามคน...เฮ้อ ข้าอยากเตือนอยู่หรอก แต่สุดท้ายทั้งหลิวฟ่านและอาเฟยต่างเป็นผู้เลือกชีวิตของตน”“แล้วรัชทายาทเล่า ไม่ได้ออกความเห็นใดหรือ”เหม่ยหลานมองม่านซือซือ ก่อนหัวเราะอย่างขบขัน“ฮูหยิน นี่ท่านไม่รู้หรอกหรือ คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดย่อมต้องเป็นรัชทายาทเล่อซี!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น คนตั้งท้องจึงหัวเราะตามแม่นมหลาน สามีนางช่างเป็นจอมบงการทุกสิ่งโดยแท้ กระทั่งเรื่องจับคู่ หรือใครจะอยู่บนอยู่ล่าง แม้แต่...แทรกระหว่างกลางในยามอุ่นเตียง องค์ชาย
นางจิ้งจอกเริงสวาท จ้าวเทียนฉางมองพรมขนจิ้งจอก ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องบรรทมของตน คราแรกเขาประหลาดใจเมื่อเหล่าขันทีซึ่งดูแลตำหนักนี้บอกว่าเป็นของขวัญจากคณะทูตต่างแดนที่มาค้าขายกับแคว้นชิง และขุนนางในกองคลังมีความประสงค์อยากถวายพรมเลอค่านี้กับเขา ทั้งที่เมื่อก่อนพวกมันล้วนมองข้ามหัวเขาไปเสียหมดกระนั้นเรื่องสำคัญไม่ได้เกี่ยวกับที่มาของพรม หากเป็นสตรีที่ซ่อนกายอยู่ข้างในมากกว่าเมื่อพรมถูกคลี่ออก สตรีรูปร่างสมส่วนจึงปรากฏให้เขาเห็น นางมิใช่หญิงงามหากเทียบกับเหล่านางสนมที่เขาเคยพบ ทว่าหญิงผู้นี้โดดเด่น ท่าทางปราดเปรียว อีกทั้งยังซ่อนความลึกลับเย้ายวนอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้จากสนมนางใดสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจจนไม่อาจไล่ตะเพิดนางออกจากห้อง เพราะเมื่อเผยกายออกจากพรมหนังแกะหนานุ่มนั้น สตรีนางนี้ไม่ได้ไว้ผมยาวสลวย เมื่อเปิดผ้าคลุมศีรษะเขาเห็นว่านางโกนผมจนเกลี้ยงประหนึ่งนักพรตหญิง หรือนางชีจากสำนักบนภูเขาสูง“หลิวฟ่าน...”เขาจดจำนางได้ นางผู้นี้รับใช้อยู่ในตำหนักของเขาเมื่อสองสามเดือนก่อน จู่ๆ นางหายตัวไป เขาเคยอยากตามหานาง แต่เป็นเพราะช่วงเวลาดังกล่าวอาเฟยมักลอบเข้ามาหาเขาและสร้างเรื่องมากมา
อารมณ์ขันร้ายกาจของจ้าวเล่อซีใครต่างรู้ดี โดยเฉพาะอาเฟยที่อยู่ใกล้ชิดมาตั้งแต่เขาแบเบาะ “ม่านเจิ้นถูกภรรยาที่มาจากสกุลใหญ่โขกสับและวาง อำนาจอยู่เหนือเขาเสมอ แต่เขาก็รักฮูหยินมิน้อยทั้งที่รู้ว่านางไม่ใช่ธิดาของตน แต่การที่เขาตั้งใจผลักไสนางให้เอี๊ยะถังและสร้างข่าวให้ฮูหยินมัวหมองจนนางไม่อาจเข้าคัดเลือกเป็นนางกำนัล ก็ดูเหมือนมีสิ่งที่น่าสงสัยมิน้อย”คราวนี้หลิวฟ่านเป็นผู้เอ่ย นางรู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องนี้เพราะเคยเห็นม่านซือซือมาซื้อของที่ร้านขายยานางอยู่บ้าง และหลายครั้งอีกฝ่ายมีเงินไม่พอก็เป็นนางที่สั่งให้คนในร้านจัดหาให้ กระทั่งม่านซือซือเริ่มคบหาเอี๊ยะถังอย่างลับๆ หลิวฟ่านก็รู้ว่าม่านซือซือคงต้องการผู้ชายสักคนเป็นหลักยึด เพื่อให้นางไม่ต้องถูกแม่ใหญ่ส่งตัวไปเป็นอนุของตาเฒ่าหื่นกามที่ไหน‘เจ้าคิดว่าใครบีบบังคับให้เขาทำเรื่องนี้’ จ้าวเล่อซีหันไปทางหลิวฟ่าน“ตามที่หม่อมฉันตรองดูแล้ว ม่านเจิ้นมิได้ถูกใครบังคับ เขาเพียงแค่เซ่อซ่าและเชื่อคนง่ายไปสักหน่อย กล่องไม้ของเซี่ยอี๋ได้ถูกสับเปลี่ยนก่อนมอบให้ฮูหยินโดยที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้า เขาก็คงได้ยินกิตติศัพท์ของมเหสีอี้เหอว่าเ
วังหลวงแคว้นชิง ณ ตำหนักของสนมกุ้ยเฟยผิงเสียน ท้องฟ้าคืนนั้นน่ากลัวเหลือเกิน อีกทั้งมีฝนตกตั้งแต่เช้า กระทั่งกลางดึกฟ้ายังรั่วไม่หยุด แต่เหนืออื่นใดตำหนักกว้างใหญ่แห่งนี้มีสิ่งสำคัญยิ่งกว่าให้วิตก ด้วยครรภ์ของกุ้ยเฟยผิงเสียนกำลังก่อปัญหาใหญ่ เหล่าหมอหลวงนับสิบชีวิตจึงมีสีหน้าเครียดจัด อีกทั้งจักรพรรดิอี้คังทรงอยู่ที่กำแพงเมืองทางทิศใต้ มีข่าวไม่สู้ดีว่าเกิดกบฏจากฝีมือเกากงกง ผู้เป็นอาของเต๋อเฟยอี้ (สนมเอกลำดับที่สามของจักรพรรดิ) มิหนำซ้ำนางยังเล่นชู้กับจ้าวเทียนฉาง น้องชายองค์จักรพรรดิ!เรื่องนี้ส่งผลให้กุ้ยเฟยผิงเสียนวิตกหนัก จึงกระทบต่อการคลอดทารก แต่จะไม่ให้นางคิดมากได้อย่างไร ด้วยสามีนางผู้นั่งบัลลังก์แคว้นชิง อาจไม่มีชีวิตกลับมาดูหน้าลูกน้อยผู้ที่จะได้เป็นองค์รัชทายาท!นางกำนัลที่ใกล้ชิดกุ้ยเฟยผิงเสียน นามว่าเหม่ยหลาน พยายามพูดปลอบคนใกล้คลอด ทว่ายามนี้สตรีแสนบอบบางที่เพิ่งตั้งครรภ์เป็นครั้งแรกเอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุดและหวีดร้องเสียขวัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อสามเดือนที่ผ่านมา นางเกือบสิ้นชีพเพราะลูกในท้องมาหนึ่งหน ด้วยลื่นล้มที่หอพระกลางวังหลวง สาเหตุเป็นเพราะความริษยาของเต๋อเฟยอี้...
Comments