Home / โรแมนติก / ทาสราคะองค์ชายใบ้ / 4 ได้โปรดยั้งมือ (2)

Share

4 ได้โปรดยั้งมือ (2)

last update Last Updated: 2024-12-02 17:12:37

“หรือเป็นเพราะเจ้ารังเกียจที่พี่ต่ำต้อย” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ยอย่างตัดพ้อ เขารู้ว่าม่านซือซือจิตใจเมตตาและมีหัวก้าว หน้า นางจึงไม่อาจทนฟังคำพูดเช่นนี้จากเขา

“ขะ ข้าเปล่า ใครจะกล้ากระทำเยี่ยงนั้น พี่ถังคือชายที่ข้าปรารถนาครองคู่กันไปจนแก่เฒ่า” นางเอ่ยจบจึงอายม้วน

เอี๊ยะถังยิ้มพึงใจ ซึ่งเขาไม่อาจปล่อยให้สตรีที่ลักลอบมาพบกันที่สวนแปะก๊วยรอดพ้นมือไปได้ คืนนี้เขาเตรียมการไว้แล้ว นางต้องตกเป็นเมียเขาเท่านั้น!

น่องเรียวขาวนวลถูกมือใหญ่หยาบกร้านลูบไล้ ก่อนเคลื่อนสัมผัสต้นขานางอย่างรวดเร็ว ความอุ่นซ่านเหมือนจะร้อนลวกมือเขา ร่างกายนางสั่นระริก ดวงตาดอกท้อมองเขาด้วยความสงสัยแกมอยากรู้ อีกทั้งริมฝีปากอิ่มสวยเผยออ้า ส่งลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รดเรือนกายแกร่ง

นางงามเช่นนี้ เขายิ่งหลงใหลจนอยากร่วมรักให้เร็วขึ้น เขาอยากกอด อยากทิ่มแทงนางด้วยท่อนเนื้อร้อนที่มีพิษร้ายกาจ

“พี่ถัง ทะ ท่าน...หยุดมือก่อน”

ชายหนุ่มดึงสติตนกลับ กระนั้นมือของเขาก็เจียนแตะลงบนกลีบสวาทที่อยู่ใต้ร่มผ้าของนาง ซึ่งเขาคะเนว่าพื้นที่ของนางคงอวบอูมและงดงามเหนือสตรีนางอื่น

“เจ้าไม่ต้องการพี่รึ” เขาถามเสียงทุ้มๆ จงใจออดอ้อนนาง

“ข้าเพียงแต่อยากให้มันถูกต้อง หากท่านพ่อรู้ข้าคงถูกตีตาย ไม่ก็คงถูกขายออกไปเป็นสาวใช้แน่แท้”

เอี๊ยะถังนึกขำที่นางกลัวเรื่องพรรค์นี้อย่างไม่เข้าท่า ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยว่า “เยี่ยงนั้น เรามาไหว้ฟ้าดินด้วยกัน พี่เตรียมเหล้ามงคลไว้ด้วย ดื่มแล้วเราก็เป็นสามีภรรยากัน”

เขาบอกแล้วก็ตั้งท่าจะทำจริงอย่างที่กล่าว เอี๊ยะถังเตรียมสุรามาจริงๆ จึงเทใส่จอกส่งให้นาง

ม่านซือซือถือจอกเหล้าเอาไว้ และนางลังเล ไม่กล้าทำตามที่เขาบอก อีกทั้งสังหรณ์ใจในทางร้าย นางมองเหล้าในจอก มองแล้วก็ไม่พบความผิดปกติ ทว่ากลิ่นของมันคล้ายถูกผสมสมุนไพรที่ช่วยเรื่องอุ่นเตียงลงไป นางศึกษาเรื่องนี้มาบ้าง ถึงยังไม่ล่วงรู้ทั้งหมด แต่นางก็ต้องระวังตัว

“ดื่มเหล้าจอกนี้แล้ว เราก็เป็นสามีภรรยากัน และครองรักหวานชื่น ผมขาวไม่ทอดทิ้ง”

ถึงคำพูดที่เขาเกี้ยวนางฟังแล้วหัวใจก็พองโต ทว่ามันมีบางสิ่งไม่ถูกต้อง นางควรให้เกียรติตนและบิดา ที่สำคัญม่านซือซือไม่ใช่สตรีโง่เขลา หรือใจง่ายถึงขั้นร่านสวาทให้เอี๊ยะถังข่มเหงนางกลางสวนต้นแปะก๊วยถึงอย่างนั้นใจนางกลับเต้นโครมคราม ร่างกายผะผ่าวร้อน แน่ละ...นางอยากเป็นของเขา อยากกอด อยากลูบไล้กายแกร่ง ทว่าสิ่งที่แม่นมสั่งสอน หรือคำเหยียดหยามจากฮูหยินใหญ่ภรรยาของม่านเจิ้นก็ลอยเข้ามาในหัวพอดี

“โถๆ ให้ลูกอนุแสนเกียจคร้านอย่างมันเรียนหนังสือเพื่อการใด นับวันงานเย็บปักไม่สนใจ แต่คิดอยากเป็นหมอหญิงในสำนักการแพทย์ ลูกสาวเช่นนี้เกิดมาเพื่อให้คนดูถูก คงอยากจับมือถือแขนผู้ชายไปทั่ว นางก็เป็นส้วมหน้าบ้านดีๆ นี่เอง”

“ฮูหยินใหญ่ ข้าเพียงแต่ตรวจคนไข้ มันเป็นวิธีการเดียวที่จะรู้ถึงอาการป่วยของเขา” นางบอกกับม่านฮูหยิน

“ฮึ ต่อไป เจ้าคงขวัญกล้า ขอตรวจของลับผู้ชายด้วยกระมัง ถึงจะรู้ว่าเขามีน้ำยาทำให้สตรีตั้งครรภ์หรือไม่” ม่านฮูหยินต่อว่านางอย่างรุนแรงและไม่ไว้หน้า

“ฮูหยินใหญ่เข้าใจผิด ข้าเพียงแต่อยากรักษาผู้คน เพื่อให้คนหายป่วย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน”

“ประเสริฐแท้ คุณหนูห้าแห่งสกุลม่านอยากเป็นโสเภณีจนตัวสั่น แต่แสร้งเล่นสวมชุดหมอหญิง น้ำหน้าอย่างเจ้าคงไม่ต่างจากมารดา”

ม่านฮูหยินเอ่ยแล้วก็หัวเราะใส่หน้าม่านซือซือ อีกฝ่ายเกลียดนางหญิงสาวพอเข้าใจ แต่การพยายามให้ร้ายมารดาม่านซือซือที่ล่วงลับมันเป็นการกระทำที่สร้างแผลในใจต่อหญิงสาวตลอดมา

“มารดาข้าทำสิ่งใดให้ท่านโกรธแค้นนัก ถึงได้พูดจาให้ร้ายนางไม่หยุด”

ม่านฮูหยินวางสีหน้าราวกับสตรีร้ายกาจ นางสมเพชลูกอนุคนนี้อยู่บ้าง แต่สวรรค์ก็เข้าข้างม่านฮูหยินมาตลอดเพื่อนางจะได้ดูแลสกุลนี้ให้คงอยู่ อีกทั้งเป็นนางที่บีบบังคับให้อนุของสามีฆ่าตัวตาย มิอย่างนั้นภัยคงมาถึงครอบครัวนี้ ทุกคนควรยกย่องนางที่ช่วยให้สกุลม่านพ้นภัย

“ฮึ สิ่งที่นางผู้หญิงชั้นต่ำผู้เป็นเชลยศึกทำนั้น ข้าไม่อาจกล่าวถึงด้วยถือเป็นเสนียดปาก แต่ก็ดีแล้วที่นางฆ่าตัวตายไปเสีย มิเช่นนั้นคงทำให้ท่านพี่ต้องมัวหมองไปด้วย”

สุดท้าย ม่านซือซือก็ไม่อาจรู้เรื่องราวของมารดานอก จากคำดูหมิ่นของม่านฮูหยิน แต่นางยังเชื่อมั่นอยู่ลึกๆ ว่า สตรีที่ให้กำเนิดนางย่อมเป็นคนที่วิเศษหาหญิงใดเทียบได้ในแผ่นดินไม่

“ซือซือเจ้ามัวแต่คิดสิ่งใด ดื่มสิ” เอี๊ยะถังคะยั้นคะยอนางและแย่งจอกเหล้าไป เขานำไปจ่อที่ริมฝีปากอิ่มสวยที่แต้มสีชาดแดงยั่วใจ

“ข้าจะยอมพี่ถังทุกอย่าง เพียงแต่เราควรเข้าหอกันอย่างถูกต้อง เช่นนี้นับว่าประเสริฐที่สุด”

นางตัดสินใจเอ่ยออกไป และอดเสียดายอยู่ลึกๆ ไม่ได้ ทั้งยังกลัว กลัวเอี๊ยะถังจะไม่ชอบใจที่นางปฏิเสธเขา

ดวงตาของเอี๊ยะถังมีประกายวาบขึ้น และมีเสียงหายใจแรงๆ พ่นออกมา จากนั้นเขาก็ดื่มเหล้าจอกนั้นรวดเดียวหมด ราวกับทำเพื่อประชดนาง

“พี่ถัง...”

“ข้าทำเพื่อเจ้าทุกอย่าง!” ชายหนุ่มกลายเป็นเด็กน้อยเอาแต่ใจ

“ข้าสำนึกผิดแล้ว เพียงแต่ข้าก็ยึดมั่นสิ่งที่ถูกต้องมิต่างจากพี่ถัง  ได้โปรดเข้าใจซือซือ”

เอี๊ยะถังรู้สึกว่าตนคงหักหาญน้ำใจนางเกินไปจึงนิ่งขรึมลงแต่ความต้องการของเขายังมากล้น อีกทั้งสุราจอกเมื่อครู่ที่ดื่มได้เพิ่มกำหนัดของเขาอย่างมหาศาล

“หากเจ้าประสงค์เช่นนั้น พี่ก็ไม่อาจฝืนใจ เพียงแต่พี่ขอให้เจ้าเมตตาสักหน่อยเถิด ขอพี่ชิมปากเจ้าและโอบกอดสักเล็กน้อย เพื่อส่งไออุ่นถึงกันได้หรือไม่”

ม่านซือซือมองเอี๊ยะถังด้วยสายตาฉ่ำปรือ ไฉนนางจะกล้าขัดใจเขาอีก เขาเคยจับมือนางมาแล้ว ได้หอมแก้มบ้าง ดังนั้นแค่ชิมริมฝีปากและกอดเพื่อให้คลายความหนาว เหตุใดนางจะให้ชายที่นางพึงใจกระทำไม่ได้

“แค่กินปากและกอด ข้ายินดี แต่หากมากกว่านี้ ข้าจะโกรธพี่จริงๆ ด้วย”

สิ้นคำนั้น มือใหญ่จึงจับปลายคางของนางเชิดขึ้น และทาบริมฝีปากร้อนลวกลงไป

จุมพิตของเอี๊ยะถังอ่อนหวาน หากไม่ได้เร่าร้อนอย่างที่หญิงสาวคาดคิด ซึ่งน่าประหลาดใจมิน้อย นางเคยฝันว่าถูกร่างกายอุ่นซ่านของบุรุษล่วงล้ำความบริสุทธิ์ ทั้งทางปาก กลีบบุปผา ปลายลิ้นร้อนๆ แทรกผ่านเข้ามาในโพรงปาก ตวัดรัดเย้าหยอกกัน นางถูกกินปากบ่อยครั้งในฝันพอตื่นเช้าความรู้สึกแสนหวานล้ำก็ไม่ได้จางหายไป อีกทั้งบางครานางรับรู้ได้ว่า แอ่งเนื้อนางถูกกระตุ้นอย่างหนักด้วยลิ้นและนิ้วมือใหญ่ๆ

ในภาพฝัน นางมีความต้องการไม่สิ้นสุด อยากโอบกอด อยากสนองทุกสิ่งเพื่อชายคนนั้น ทว่าห้วงเวลานี้ ทั้งที่ถูกเอี๊ยะถังคนที่นางพึงใจจูบ แต่นางกลับรู้สึกว่างเปล่า

ม่านซือซือได้แต่นิ่งค้าง กระทั่งเขาพยายามเปิดปากนางด้วยการแทรกลิ้นใหญ่ๆ เข้าไป หญิงสาวจึงต่อต้าน

“พะ พี่ถัง...ยะ อย่า” นางส่งเสียงร้องบอกเขา และไม่ยินยอมที่ถูกล่วงเกิน

“พี่ถัง อ่าส์!”

ม่านซือซือไม่ได้ซาบซ่านต่อรสสวาทของเอี๊ยะถัง นางกลัวและตื่นตระหนกมากกว่า

กระนั้นมือใหญ่อีกข้างของเอี๊ยะถังก็รุกนางไม่หยุด เขาลูบคลำเอวคอดก่อนเลื่อนสูงขึ้น และหมายจะนวดเฟ้นและเคล้นคลึงหน้าอกอวบสวยซึ่งเขาถวิลหามานาน

หัวใจหญิงสาวเต้นระทึก นางอยากยุติโมงยามนี้ แต่ก็กลัวเอี๊ยะถังจะขัดเคืองใจ จึงฝืนอดกลั้นความรู้สึกกระอักกระอ่วนเอาไว้ ปล่อยให้เขากระทำในสิ่งที่ปรารถนา

กระทั่งเขาถอนจูบและส่งสายตาสานสบกับดวงตานาง ความโล่งใจจึงทำให้นางยิ้มออก

“พี่ถัง ข้าอยากกลับเรือน” นางบอกเขาตรงๆ

เอี๊ยะถังนิ่งเงียบ สีหน้าเขาเหมือนดำคล้ำขึ้นถึงสามส่วน และเอ่ยเสียงเข้มราวกับต้องการสั่งนาง

“ยอดรักของพี่ เจ้าช่วยคลายกำหนัดให้พี่ได้หรือไม่”

ม่านซือซือไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เอี๊ยะถังกล่าวทั้งหมด แต่นางยังมีความคิดโง่เขลาอยากเอาใจเขา บุรุษผู้นี้ช่วยเหลือนางมาตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน และเขามุ่งหวังอยากให้นางไปเป็นฮูหยินที่เรือน เลี้ยงดูบุตรชายหญิงของเขาด้วย หญิงสาวบีบมือตนเอง ถึงนางใจกล้าบ้าบิ่นอยู่มาก แต่เรื่องเร้นลับระหว่างชายหญิงกลับทำให้นางเหงื่อตก

“ข้าเกรงว่ายังไม่ถึงเวลาเหมาะสม” นางบอกทั้งเขาและตนเอง

“แต่พี่ปวดเหลือเกิน ทรมานมานานแล้ว เจ้าไม่รักพี่เลยหรือไร ช่วยพี่สักคราแล้วพี่จะไม่กวนใจเจ้าอีกกระทั่งเราเข้าหอด้วยกัน”

ม่านซือซืออ่านตำรามาบ้าง นางรู้ว่าชายหญิงไม่จำเป็น ต้องร่วมรักกันอย่างเนื้อแนบเนื้อเสมอไป หากการทำให้ฝ่ายชายหลั่งข้างนอกก็เป็นอภิรมย์ที่กระทำได้ไม่ยาก

“พี่ถังอยากให้ซือซือช่วยเยี่ยงไร” นางถามเสียงตื่นเต้นอยู่สักหน่อย ชายหนุ่มจึงยิ้มตอบด้วยดวงตาพราวระยับ

จากนั้นเอี๊ยะถังก็หัวเราะอย่างครึ้มอกครึ้มใจ เขากล่าวอย่างขัดเขินสักหน่อยว่า “ด้วยริมฝีปากเจ้าและสองมือนุ่มนิ่มนี้ พี่คงหลั่งน้ำวิสุทธิ์จนแทบหมดตัว”

Related chapters

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   5 โจรราคะ

    สิ่งที่เขากระซิบข้างหูม่านซือซือ ทำให้นางร้อนวูบวาบในร่มผ้า หญิงสาวหน้าแดงจัด มือนางเหมือนจะอ่อนแรงลง จวบจนเขาจับมือข้างหนึ่งของนางไปวางแปะตรงเป้าพองๆ นางก็กระจ่างแจ้งในสิ่งที่เอี๊ยะถังอยากให้ช่วยเหลืออึดใจต่อมา ภาพที่ปรากฏต่อหน้านางคือแท่งเนื้อ แท่งเนื้อสีเข้มที่ปลายหยักของมันวาววามเป็นสีคล้ำจัดจากการใช้งานอย่างโชกโชน ตลอดทั้งลำมีเส้นเลือดปูดโปนราวกับหัวมัน และไม่งามอย่างที่นางจินตนาการถึง ทว่าแท่งเนื้ออันอุ่นร้อนก็เชิญชวนให้นางสัมผัสลูบไล้ และปรนเปรอความสวาทให้แก่เอี๊ยะถัง“ขะ ข้าทำไม่ได้หรอก” เมื่อคลำหาเสียงตนเองพบนางจึงปฏิเสธ นางกลัว... ใช่ มันคือความรู้สึกที่ไม่อาจเป็นอื่นได้ เมื่อก่อนนางเคยอ่านพบเรื่องราวลึกลับของบุรุษในหนังสือมามิน้อย ได้เห็นภาพวาดการอุ่นเตียงจากหนังสือชุนกง ภาพเหล่านั้นและการบรรยายท่วงท่ากับลีลาอันโลดโผนนางยังระลึกถึงอยู่เสมอ ส่วนแท่งเนื้อของจริงเพิ่งจะเคยเห็นด้วยสองตาตนเองอย่างใกล้ชิด ยกเว้นยามที่นางหลับฝันถึงชายปริศนาเอี๊ยะถังมองหญิงสาวชั่วแวบหนึ่ง ก่อนหยิบถุงหอมจากอกเสื้อและส่งให้นางดมเขาไม่ได้ต้องการทำเรื่องชั่วช้าข่มเหงน้ำใจม่านซือซือ ทว่าหากไม่เร่งรั

    Last Updated : 2024-12-02
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้    6 เปลื้องผ้า

    ณ ลานกว้างหน้าเรือนทานตะวัน ม่านซือซือยังไม่ทันหายตกใจหลังจากถูกต้อนลงจากรถม้าคันใหญ่ นางไม่รู้เหนือรู้ใต้อันใด ก่อนหน้านี้ก็ถูกต้อนให้ขึ้นรถม้าอีกคันที่ใหญ่กว่าเดิม แล้วถูกมัดมือปิดตาและได้ยินแต่เสียงอื้ออึงรอบกาย จึงทำให้เครียดจนแทบคลั่งระหว่างเดินทางยังมีเสียงครางแปลกๆ ของชายหญิง ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่น กลิ่นคาวที่นางไม่อาจล่วงรู้ว่าเกิดจากสิ่งใดกระทั่งลงมายืนที่พื้นดิน นางก็ถูกสั่งให้เดินตามก้นสตรีนางอื่น กระทั่งเข้ามาถึงส่วนด้านในของคฤหาสน์อันใหญ่โต และมันถูกแบ่งเป็นเรือนหลังเล็กๆ หลายหลัง ดูจากหมายเลขของเรือน คงมีราวๆ 10-12 หลัง “เข้าไปรอที่ลานหน้าเรือนทานตะวัน” คำสั่งของแม่นมเอ่ยเสียงดังเฉียบขาด เมื่อดูท่าทางนางก็คาดว่าไม่ได้สูงวัยสักเท่าไหร่ แต่ด้วยไร้รอยยิ้มและการยืนหลังตรงราวกับสตรีที่ถูกฝึกมาอย่างดี อีกทั้งมีสาวใช้เดินตามนางเป็นพรวน ทำให้นางรวมถึงสตรีที่ถูกขายมาต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน“เหตุใดถึงได้มีเรื่องบัดซบเช่นนี้เกิดขึ้นกับข้าได้ ข้ารู้เพียงแต่ว่าต้องออกมาไหว้พระที่อารามศักดิ์สิทธิ์ ไฉนถึงตกเป็นสาวใช้ต่ำต้อยที่ต้องมาปรนนิบัติชายวิปริต!” สตรีนางหนึ่งที่แต่งตัวงดงามมิน

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   7 แท่งหยกและกลีบบุปผา

    ม่านซือซือกอดหน้าอกตนเองไว้แน่น สองขาเบียดชิดกัน นางอายอีกทั้งรู้สึกอดสู การแก้ผ้าให้ผู้อื่นตรวจสอบประหนึ่งเป็นสินค้าเป็นเรื่องที่เกินจะรับไหว“เอามือลง แล้วยืนให้ตัวตรงๆ” เหม่ยหลานเอ่ยจบจึงสำรวจเรือนร่างของม่านซือซือ เริ่มจากใบหน้า ลำคอ เต้าอวบสวยที่ปลายยอดถันกำลังชูชัน และนางเหมือนต้องการรู้บางสิ่ง เลยใช้แท่งลึงค์ไม้หัวหยักในมือเขี่ยยอดถันสีชมพูซึ่งตอนนี้เข้มจัดดูเย้ายวนไม่น้อยม่านซือซือเม้มริมฝีปากแน่น นางกลัวเสียงน่าขายหน้าหลุดลอดออกไปแต่ก็ไร้ผล เพราะเหม่ยหลานใช้ไม้ลึงค์สะกิดไม่พอ นางยังบีบหน้าอกของม่านซือซืออย่างไม่ถนอมสักนิด“เจ้าคือลูกสาวของหัวหน้ากองอักษร ม่านเจิ้นสินะ”ริมฝีปากของม่านซือซือขยับจะตอบ แต่กลายเป็นการครางเสียงแผ่วๆ อย่างน่าละอาย“เจ้าเป็นสตรีที่ไวต่อความรู้สึกมิน้อย...แต่ข้าต้องตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมอยู่เรือนหลังใดและทำงานส่วนไหน หากเลือกคนผิดอาจทำให้คุณชายกริ้ว ซึ่งคนที่ต้องไร้ลมหายใจคงไม่พ้นเจ้า แม่นางซือซือ”ม่านซือซือพยักหน้ารับ ตอนนั้นมือข้างหนึ่งของนางหยิกที่สีข้างตน นางอยากรู้สึกเจ็บปวด ด้วยมันคงดีกว่าถูกปลุกให้ความสิเน่หาติดไฟ“ต่อไปนี้จะเป็นการคัด

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   8 แท่งหยกและกลีบบุปผา (2)

    หัวใจม่านซือซือเต้นระรัวแรง และนางปฏิเสธที่จะมองเหตุการณ์เบื้องหน้า ทว่ากลับมีคำสั่งของเหม่ยหลาน ซึ่งนางให้ทาสหญิงสองคนเข้ามาหาม่านซือซือ แล้วบังคับถ่างตานางเพื่อมองการร่วมรักอย่างเร่าร้อน“ดู... เจ้าต้องดูให้เต็มตา นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องปรนนิบัติคุณชายจ้าว”เหม่ยหลานออกคำสั่ง ม่านซือซือแม้จะรังเกียจอย่างไร แต่นางต้องฝืนดูภาพพิศวาสนั้นสามบุรุษกับสองสตรีระเริงรักบนพื้นไม้อย่างชวนให้ตกตะลึง และพวกเขายังถูกสาดน้ำมันหอมระเหยใส่ร่างท่อนเนื้อร้อนบุกทะลวงทั้งทางปากและแอ่งเนื้อนิ่ม พลอยให้ม่านซือซือถึงกับทนไม่ไหว นางเกือบพุ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเขา ทว่าเมื่อคิดถึงคืนลอยโคมไฟนางก็อดหวาดผวาไม่ได้ เอี๊ยะถังคิดข่มเหงนาง ความเศร้าใจก่อเกิดขึ้นมา กระนั้นในซอกหลืบลึกๆ นางยังโหยหาเขา หากย้อนเวลากลับไปได้ นางคงยอมที่จะตกเป็นของอีกฝ่าย เพราะนางอาจไม่ต้องโชคร้ายถูกบิดาขายมายังคฤหาสน์วิปริตแห่งนี้หลิวฟ่านนั่งทับแก่นกายยักษ์ นางถูกจับให้นอนตะแคง จากนั้นนางจึงถูกบุรุษทั้งสามคนรุมนัวเนีย ชายคนหนึ่งเสือกแท่งหยกเข้ากลีบบุปผา ชายอีกคนแทงแก่นกายเข้าประตูหลัง ส่วนอีกหนึ่งบุรุษใช้แท่งหยกของเขาตบตีริมฝีปากบวมเจ่

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   9 เรือนโอสถ

    ม่านซือซือนั่งอยู่ในห้องโล่งๆ ที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยและกลิ่นธูปลอยกำจายไปทั่ว ห้องนี้มีตั่งไม้กว้างปูรองด้วยฟูกและผ้าสีขาวสะอาดตา เครื่องเรือนล้วนย้อมด้วยสีดำขับให้บรรยากาศนิ่งสงบ หากแต่ไม่เศร้า น่ากลัว หรือวังเวง กลับให้ความรู้สึกน่าหลงใหล ลึกลับ แฝงความเย้ายวนนอกจากนั้นยังประดับด้วยภาพวาดและฉากกั้น เป็นผ้าไหมเนื้อดีปักลายสัตว์ป่าลงมากินน้ำ ดูแล้วเพลินตาไม่น้อยป้ายด้านหน้าเรือนเขียนไว้ว่า ‘9 เรือนโอสถ’ และทั้งที่เขียนอย่างนั้นแต่กลับไม่มีกลิ่นของยาแม้แต่น้อย ความสงสัยทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งม่านซือซือได้ยินเสียงฝีเท้าที่มั่นคงเดินเข้ามาในเรือน ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงน้ำหนัก แต่ความเงียบสงบของที่นี่ทำให้นางขนลุกซู่ประตูด้านหน้าเปิดอย่างแผ่วเบา ภาพต่อมาคือร่างสูงใหญ่ของบุรุษในอาภรณ์โปร่งบางสีขาวหญิงสาวพบชายสง่างามมามิน้อย แต่ชายที่สะกดให้นางหายใจไม่สะดวก ก่อนจะกลายเป็นความลุ่มหลง ประหนึ่งตกอยู่ในอำนาจ คงเป็นชายที่สวมหน้ากากสีขาวผู้นี้ม่านซือซือแปลกใจ เขาช่างคล้ายคนที่นางรู้จัก อีกทั้งดวงตาคมใต้หน้ากากมองนางอย่างแฝงความนัย และความเงียบของเขากระตุ้นกลีบสวาทนางให้ผะผ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   10 สาวใช้หรือนางมาร (1)

    จ้าวเล่อซีพิศโฉมสตรีตรงหน้า ในที่สุดเขาก็ได้ตัวนางมาครอบครอง นับจากนี้นางจะอยู่เคียงข้างเขา คอยส่งเสียงหวานเร่าร้อนให้เขาฟังทุกเช้าค่ำความจริงในระยะเวลาที่ผ่านมา เขาจะใช้กำลังหรืออำนาจบีบบังคับขุนนางตัวเล็กๆ อย่างม่านเจิ้นให้ส่งตัวลูกสาวคนที่ห้ามาบำเรอสวาทเขาก็ทำได้อย่างง่ายดาย แต่จ้าวเล่อซีคิดว่ากระทำเช่นนั้นช่างไม่สมกับเป็นเขาเสียเลย จึงปล่อยให้นางใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ และเขาเพียงแค่วางกับดักล่อเอาไว้อย่างแนบเนียนกระทั่งคืนเทศกาลโคมไฟมาถึง เอี๊ยะถังคิดข่มเหงหญิงงามของเขา ชายหนุ่มจึงโกรธมาก แต่ยังปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อไปเพื่อลองใจนาง กระทั่งเขาแจ้งชัดในใจว่าม่านซือซือไม่ยอมให้เอี๊ยะถังข่มเหงเป็นแน่แท้จ้าวเล่อซีจึงยื่นมือช่วยนางเอาไว้และสตรีอย่างม่านซือซือคือคนที่เขาอยากร่วมรัก และมอบรสสวาทให้เขาสุขสม‘เจ้ายินยอมให้ข้าทำรักด้วยหรือไม่’ จ้าวเล่อซีถาม แต่เสียงดังก้องอยู่เพียงในอกเขาเมื่อไม่อาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดให้นางเข้าใจ เขาจึงต้องใช้ภาษากายแทนชายหนุ่มจูบนาง จูบอย่างใจปรารถนา และแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ดูดดื่มความบริสุทธิ์ของม่านซือซือเรียวลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัด

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   11 สาวใช้หรือนางมาร (2)

    เขาดูดติ่งเนื้อนิ่ม ดูดราวกับอยากให้นางปล่อยน้ำหวานรสเลิศ เพื่อเขาจะได้สุขสมกับการปรนเปรอนางด้วยปาก แต่ม่านซือซือเป็นสตรีที่อดกลั้นดีเลิศ นางเสียวซ่านปานนี้ หากยังไม่หลั่งความสาวให้เขาชิม ทว่าแอ่งเนื้อนางแฉะชื้นและเต้นตุบๆ ตอบรับการทำรักของเขา“อ่าส์... คุณชาย... ข้าทรมานเหลือเกิน ท่านไม่ปรารถนาเข้ามาในตัวข้าหรืออย่างไร”ม่านซือซือขอร้องจ้าวเล่อซี หาใช่การออกคำสั่ง‘ปีศาจน้อย เจ้าช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า คิดจะกลืนกินมังกรของจักรพรรดิเล่อซีเลยรึ’ จ้าวเล่อซีเอ่ยจบก็หัวเราะหึๆแน่นอน เขาต้องก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิในอีกไม่ช้า เขาจะกลับเมืองหลวงพร้อมยกทัพออกไปสังหารคนชั่วเพื่อล้างแค้นให้บิดา จากนั้นก็ครองอาณาจักรอันกว้างใหญ่ของแคว้นชิง เรื่องเหล่านี้ผิงเสียนผู้เป็นมารดาพูดกรอกหูให้เขาได้ยินตลอดก่อนที่นางจะจากไปด้วยความแค้นหลังจากนั้นเขาถูกเลี้ยงดูด้วยท่านตาผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ รวมถึงลุงกับป้าที่รักเขายิ่งกว่าลูกตน แต่ทุกคนมีนิสัยบิดเบี้ยว เขาจึงได้รับสืบทอดความอำมหิตและนิยมเรื่องอุ่นเตียงวิปริตมาสู่จิตใจ กระทั่งเขาถูกส่งตัวมาที่นี่ ใช้ชีวิตในคฤหาสน์สัตตบงกชเพื่อรอเวลาที่จะกลับเมืองหลวง แน่นอนเขาม

    Last Updated : 2024-12-11
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   1 ผงหอมเจ็ดสุสาน

    วังหลวงแคว้นชิง ณ ตำหนักของสนมกุ้ยเฟยผิงเสียน ท้องฟ้าคืนนั้นน่ากลัวเหลือเกิน อีกทั้งมีฝนตกตั้งแต่เช้า กระทั่งกลางดึกฟ้ายังรั่วไม่หยุด แต่เหนืออื่นใดตำหนักกว้างใหญ่แห่งนี้มีสิ่งสำคัญยิ่งกว่าให้วิตก ด้วยครรภ์ของกุ้ยเฟยผิงเสียนกำลังก่อปัญหาใหญ่ เหล่าหมอหลวงนับสิบชีวิตจึงมีสีหน้าเครียดจัด อีกทั้งจักรพรรดิอี้คังทรงอยู่ที่กำแพงเมืองทางทิศใต้ มีข่าวไม่สู้ดีว่าเกิดกบฏจากฝีมือเกากงกง ผู้เป็นอาของเต๋อเฟยอี้ (สนมเอกลำดับที่สามของจักรพรรดิ) มิหนำซ้ำนางยังเล่นชู้กับจ้าวเทียนฉาง น้องชายองค์จักรพรรดิ!เรื่องนี้ส่งผลให้กุ้ยเฟยผิงเสียนวิตกหนัก จึงกระทบต่อการคลอดทารก แต่จะไม่ให้นางคิดมากได้อย่างไร ด้วยสามีนางผู้นั่งบัลลังก์แคว้นชิง อาจไม่มีชีวิตกลับมาดูหน้าลูกน้อยผู้ที่จะได้เป็นองค์รัชทายาท!นางกำนัลที่ใกล้ชิดกุ้ยเฟยผิงเสียน นามว่าเหม่ยหลาน พยายามพูดปลอบคนใกล้คลอด ทว่ายามนี้สตรีแสนบอบบางที่เพิ่งตั้งครรภ์เป็นครั้งแรกเอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุดและหวีดร้องเสียขวัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อสามเดือนที่ผ่านมา นางเกือบสิ้นชีพเพราะลูกในท้องมาหนึ่งหน ด้วยลื่นล้มที่หอพระกลางวังหลวง สาเหตุเป็นเพราะความริษยาของเต๋อเฟยอี้

    Last Updated : 2024-12-02

Latest chapter

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   11 สาวใช้หรือนางมาร (2)

    เขาดูดติ่งเนื้อนิ่ม ดูดราวกับอยากให้นางปล่อยน้ำหวานรสเลิศ เพื่อเขาจะได้สุขสมกับการปรนเปรอนางด้วยปาก แต่ม่านซือซือเป็นสตรีที่อดกลั้นดีเลิศ นางเสียวซ่านปานนี้ หากยังไม่หลั่งความสาวให้เขาชิม ทว่าแอ่งเนื้อนางแฉะชื้นและเต้นตุบๆ ตอบรับการทำรักของเขา“อ่าส์... คุณชาย... ข้าทรมานเหลือเกิน ท่านไม่ปรารถนาเข้ามาในตัวข้าหรืออย่างไร”ม่านซือซือขอร้องจ้าวเล่อซี หาใช่การออกคำสั่ง‘ปีศาจน้อย เจ้าช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า คิดจะกลืนกินมังกรของจักรพรรดิเล่อซีเลยรึ’ จ้าวเล่อซีเอ่ยจบก็หัวเราะหึๆแน่นอน เขาต้องก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิในอีกไม่ช้า เขาจะกลับเมืองหลวงพร้อมยกทัพออกไปสังหารคนชั่วเพื่อล้างแค้นให้บิดา จากนั้นก็ครองอาณาจักรอันกว้างใหญ่ของแคว้นชิง เรื่องเหล่านี้ผิงเสียนผู้เป็นมารดาพูดกรอกหูให้เขาได้ยินตลอดก่อนที่นางจะจากไปด้วยความแค้นหลังจากนั้นเขาถูกเลี้ยงดูด้วยท่านตาผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ รวมถึงลุงกับป้าที่รักเขายิ่งกว่าลูกตน แต่ทุกคนมีนิสัยบิดเบี้ยว เขาจึงได้รับสืบทอดความอำมหิตและนิยมเรื่องอุ่นเตียงวิปริตมาสู่จิตใจ กระทั่งเขาถูกส่งตัวมาที่นี่ ใช้ชีวิตในคฤหาสน์สัตตบงกชเพื่อรอเวลาที่จะกลับเมืองหลวง แน่นอนเขาม

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   10 สาวใช้หรือนางมาร (1)

    จ้าวเล่อซีพิศโฉมสตรีตรงหน้า ในที่สุดเขาก็ได้ตัวนางมาครอบครอง นับจากนี้นางจะอยู่เคียงข้างเขา คอยส่งเสียงหวานเร่าร้อนให้เขาฟังทุกเช้าค่ำความจริงในระยะเวลาที่ผ่านมา เขาจะใช้กำลังหรืออำนาจบีบบังคับขุนนางตัวเล็กๆ อย่างม่านเจิ้นให้ส่งตัวลูกสาวคนที่ห้ามาบำเรอสวาทเขาก็ทำได้อย่างง่ายดาย แต่จ้าวเล่อซีคิดว่ากระทำเช่นนั้นช่างไม่สมกับเป็นเขาเสียเลย จึงปล่อยให้นางใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ และเขาเพียงแค่วางกับดักล่อเอาไว้อย่างแนบเนียนกระทั่งคืนเทศกาลโคมไฟมาถึง เอี๊ยะถังคิดข่มเหงหญิงงามของเขา ชายหนุ่มจึงโกรธมาก แต่ยังปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อไปเพื่อลองใจนาง กระทั่งเขาแจ้งชัดในใจว่าม่านซือซือไม่ยอมให้เอี๊ยะถังข่มเหงเป็นแน่แท้จ้าวเล่อซีจึงยื่นมือช่วยนางเอาไว้และสตรีอย่างม่านซือซือคือคนที่เขาอยากร่วมรัก และมอบรสสวาทให้เขาสุขสม‘เจ้ายินยอมให้ข้าทำรักด้วยหรือไม่’ จ้าวเล่อซีถาม แต่เสียงดังก้องอยู่เพียงในอกเขาเมื่อไม่อาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดให้นางเข้าใจ เขาจึงต้องใช้ภาษากายแทนชายหนุ่มจูบนาง จูบอย่างใจปรารถนา และแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ดูดดื่มความบริสุทธิ์ของม่านซือซือเรียวลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัด

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   9 เรือนโอสถ

    ม่านซือซือนั่งอยู่ในห้องโล่งๆ ที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยและกลิ่นธูปลอยกำจายไปทั่ว ห้องนี้มีตั่งไม้กว้างปูรองด้วยฟูกและผ้าสีขาวสะอาดตา เครื่องเรือนล้วนย้อมด้วยสีดำขับให้บรรยากาศนิ่งสงบ หากแต่ไม่เศร้า น่ากลัว หรือวังเวง กลับให้ความรู้สึกน่าหลงใหล ลึกลับ แฝงความเย้ายวนนอกจากนั้นยังประดับด้วยภาพวาดและฉากกั้น เป็นผ้าไหมเนื้อดีปักลายสัตว์ป่าลงมากินน้ำ ดูแล้วเพลินตาไม่น้อยป้ายด้านหน้าเรือนเขียนไว้ว่า ‘9 เรือนโอสถ’ และทั้งที่เขียนอย่างนั้นแต่กลับไม่มีกลิ่นของยาแม้แต่น้อย ความสงสัยทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งม่านซือซือได้ยินเสียงฝีเท้าที่มั่นคงเดินเข้ามาในเรือน ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงน้ำหนัก แต่ความเงียบสงบของที่นี่ทำให้นางขนลุกซู่ประตูด้านหน้าเปิดอย่างแผ่วเบา ภาพต่อมาคือร่างสูงใหญ่ของบุรุษในอาภรณ์โปร่งบางสีขาวหญิงสาวพบชายสง่างามมามิน้อย แต่ชายที่สะกดให้นางหายใจไม่สะดวก ก่อนจะกลายเป็นความลุ่มหลง ประหนึ่งตกอยู่ในอำนาจ คงเป็นชายที่สวมหน้ากากสีขาวผู้นี้ม่านซือซือแปลกใจ เขาช่างคล้ายคนที่นางรู้จัก อีกทั้งดวงตาคมใต้หน้ากากมองนางอย่างแฝงความนัย และความเงียบของเขากระตุ้นกลีบสวาทนางให้ผะผ

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   8 แท่งหยกและกลีบบุปผา (2)

    หัวใจม่านซือซือเต้นระรัวแรง และนางปฏิเสธที่จะมองเหตุการณ์เบื้องหน้า ทว่ากลับมีคำสั่งของเหม่ยหลาน ซึ่งนางให้ทาสหญิงสองคนเข้ามาหาม่านซือซือ แล้วบังคับถ่างตานางเพื่อมองการร่วมรักอย่างเร่าร้อน“ดู... เจ้าต้องดูให้เต็มตา นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องปรนนิบัติคุณชายจ้าว”เหม่ยหลานออกคำสั่ง ม่านซือซือแม้จะรังเกียจอย่างไร แต่นางต้องฝืนดูภาพพิศวาสนั้นสามบุรุษกับสองสตรีระเริงรักบนพื้นไม้อย่างชวนให้ตกตะลึง และพวกเขายังถูกสาดน้ำมันหอมระเหยใส่ร่างท่อนเนื้อร้อนบุกทะลวงทั้งทางปากและแอ่งเนื้อนิ่ม พลอยให้ม่านซือซือถึงกับทนไม่ไหว นางเกือบพุ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเขา ทว่าเมื่อคิดถึงคืนลอยโคมไฟนางก็อดหวาดผวาไม่ได้ เอี๊ยะถังคิดข่มเหงนาง ความเศร้าใจก่อเกิดขึ้นมา กระนั้นในซอกหลืบลึกๆ นางยังโหยหาเขา หากย้อนเวลากลับไปได้ นางคงยอมที่จะตกเป็นของอีกฝ่าย เพราะนางอาจไม่ต้องโชคร้ายถูกบิดาขายมายังคฤหาสน์วิปริตแห่งนี้หลิวฟ่านนั่งทับแก่นกายยักษ์ นางถูกจับให้นอนตะแคง จากนั้นนางจึงถูกบุรุษทั้งสามคนรุมนัวเนีย ชายคนหนึ่งเสือกแท่งหยกเข้ากลีบบุปผา ชายอีกคนแทงแก่นกายเข้าประตูหลัง ส่วนอีกหนึ่งบุรุษใช้แท่งหยกของเขาตบตีริมฝีปากบวมเจ่

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   7 แท่งหยกและกลีบบุปผา

    ม่านซือซือกอดหน้าอกตนเองไว้แน่น สองขาเบียดชิดกัน นางอายอีกทั้งรู้สึกอดสู การแก้ผ้าให้ผู้อื่นตรวจสอบประหนึ่งเป็นสินค้าเป็นเรื่องที่เกินจะรับไหว“เอามือลง แล้วยืนให้ตัวตรงๆ” เหม่ยหลานเอ่ยจบจึงสำรวจเรือนร่างของม่านซือซือ เริ่มจากใบหน้า ลำคอ เต้าอวบสวยที่ปลายยอดถันกำลังชูชัน และนางเหมือนต้องการรู้บางสิ่ง เลยใช้แท่งลึงค์ไม้หัวหยักในมือเขี่ยยอดถันสีชมพูซึ่งตอนนี้เข้มจัดดูเย้ายวนไม่น้อยม่านซือซือเม้มริมฝีปากแน่น นางกลัวเสียงน่าขายหน้าหลุดลอดออกไปแต่ก็ไร้ผล เพราะเหม่ยหลานใช้ไม้ลึงค์สะกิดไม่พอ นางยังบีบหน้าอกของม่านซือซืออย่างไม่ถนอมสักนิด“เจ้าคือลูกสาวของหัวหน้ากองอักษร ม่านเจิ้นสินะ”ริมฝีปากของม่านซือซือขยับจะตอบ แต่กลายเป็นการครางเสียงแผ่วๆ อย่างน่าละอาย“เจ้าเป็นสตรีที่ไวต่อความรู้สึกมิน้อย...แต่ข้าต้องตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมอยู่เรือนหลังใดและทำงานส่วนไหน หากเลือกคนผิดอาจทำให้คุณชายกริ้ว ซึ่งคนที่ต้องไร้ลมหายใจคงไม่พ้นเจ้า แม่นางซือซือ”ม่านซือซือพยักหน้ารับ ตอนนั้นมือข้างหนึ่งของนางหยิกที่สีข้างตน นางอยากรู้สึกเจ็บปวด ด้วยมันคงดีกว่าถูกปลุกให้ความสิเน่หาติดไฟ“ต่อไปนี้จะเป็นการคัด

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้    6 เปลื้องผ้า

    ณ ลานกว้างหน้าเรือนทานตะวัน ม่านซือซือยังไม่ทันหายตกใจหลังจากถูกต้อนลงจากรถม้าคันใหญ่ นางไม่รู้เหนือรู้ใต้อันใด ก่อนหน้านี้ก็ถูกต้อนให้ขึ้นรถม้าอีกคันที่ใหญ่กว่าเดิม แล้วถูกมัดมือปิดตาและได้ยินแต่เสียงอื้ออึงรอบกาย จึงทำให้เครียดจนแทบคลั่งระหว่างเดินทางยังมีเสียงครางแปลกๆ ของชายหญิง ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่น กลิ่นคาวที่นางไม่อาจล่วงรู้ว่าเกิดจากสิ่งใดกระทั่งลงมายืนที่พื้นดิน นางก็ถูกสั่งให้เดินตามก้นสตรีนางอื่น กระทั่งเข้ามาถึงส่วนด้านในของคฤหาสน์อันใหญ่โต และมันถูกแบ่งเป็นเรือนหลังเล็กๆ หลายหลัง ดูจากหมายเลขของเรือน คงมีราวๆ 10-12 หลัง “เข้าไปรอที่ลานหน้าเรือนทานตะวัน” คำสั่งของแม่นมเอ่ยเสียงดังเฉียบขาด เมื่อดูท่าทางนางก็คาดว่าไม่ได้สูงวัยสักเท่าไหร่ แต่ด้วยไร้รอยยิ้มและการยืนหลังตรงราวกับสตรีที่ถูกฝึกมาอย่างดี อีกทั้งมีสาวใช้เดินตามนางเป็นพรวน ทำให้นางรวมถึงสตรีที่ถูกขายมาต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน“เหตุใดถึงได้มีเรื่องบัดซบเช่นนี้เกิดขึ้นกับข้าได้ ข้ารู้เพียงแต่ว่าต้องออกมาไหว้พระที่อารามศักดิ์สิทธิ์ ไฉนถึงตกเป็นสาวใช้ต่ำต้อยที่ต้องมาปรนนิบัติชายวิปริต!” สตรีนางหนึ่งที่แต่งตัวงดงามมิน

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   5 โจรราคะ

    สิ่งที่เขากระซิบข้างหูม่านซือซือ ทำให้นางร้อนวูบวาบในร่มผ้า หญิงสาวหน้าแดงจัด มือนางเหมือนจะอ่อนแรงลง จวบจนเขาจับมือข้างหนึ่งของนางไปวางแปะตรงเป้าพองๆ นางก็กระจ่างแจ้งในสิ่งที่เอี๊ยะถังอยากให้ช่วยเหลืออึดใจต่อมา ภาพที่ปรากฏต่อหน้านางคือแท่งเนื้อ แท่งเนื้อสีเข้มที่ปลายหยักของมันวาววามเป็นสีคล้ำจัดจากการใช้งานอย่างโชกโชน ตลอดทั้งลำมีเส้นเลือดปูดโปนราวกับหัวมัน และไม่งามอย่างที่นางจินตนาการถึง ทว่าแท่งเนื้ออันอุ่นร้อนก็เชิญชวนให้นางสัมผัสลูบไล้ และปรนเปรอความสวาทให้แก่เอี๊ยะถัง“ขะ ข้าทำไม่ได้หรอก” เมื่อคลำหาเสียงตนเองพบนางจึงปฏิเสธ นางกลัว... ใช่ มันคือความรู้สึกที่ไม่อาจเป็นอื่นได้ เมื่อก่อนนางเคยอ่านพบเรื่องราวลึกลับของบุรุษในหนังสือมามิน้อย ได้เห็นภาพวาดการอุ่นเตียงจากหนังสือชุนกง ภาพเหล่านั้นและการบรรยายท่วงท่ากับลีลาอันโลดโผนนางยังระลึกถึงอยู่เสมอ ส่วนแท่งเนื้อของจริงเพิ่งจะเคยเห็นด้วยสองตาตนเองอย่างใกล้ชิด ยกเว้นยามที่นางหลับฝันถึงชายปริศนาเอี๊ยะถังมองหญิงสาวชั่วแวบหนึ่ง ก่อนหยิบถุงหอมจากอกเสื้อและส่งให้นางดมเขาไม่ได้ต้องการทำเรื่องชั่วช้าข่มเหงน้ำใจม่านซือซือ ทว่าหากไม่เร่งรั

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   4 ได้โปรดยั้งมือ (2)

    “หรือเป็นเพราะเจ้ารังเกียจที่พี่ต่ำต้อย” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ยอย่างตัดพ้อ เขารู้ว่าม่านซือซือจิตใจเมตตาและมีหัวก้าว หน้า นางจึงไม่อาจทนฟังคำพูดเช่นนี้จากเขา“ขะ ข้าเปล่า ใครจะกล้ากระทำเยี่ยงนั้น พี่ถังคือชายที่ข้าปรารถนาครองคู่กันไปจนแก่เฒ่า” นางเอ่ยจบจึงอายม้วนเอี๊ยะถังยิ้มพึงใจ ซึ่งเขาไม่อาจปล่อยให้สตรีที่ลักลอบมาพบกันที่สวนแปะก๊วยรอดพ้นมือไปได้ คืนนี้เขาเตรียมการไว้แล้ว นางต้องตกเป็นเมียเขาเท่านั้น!น่องเรียวขาวนวลถูกมือใหญ่หยาบกร้านลูบไล้ ก่อนเคลื่อนสัมผัสต้นขานางอย่างรวดเร็ว ความอุ่นซ่านเหมือนจะร้อนลวกมือเขา ร่างกายนางสั่นระริก ดวงตาดอกท้อมองเขาด้วยความสงสัยแกมอยากรู้ อีกทั้งริมฝีปากอิ่มสวยเผยออ้า ส่งลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รดเรือนกายแกร่งนางงามเช่นนี้ เขายิ่งหลงใหลจนอยากร่วมรักให้เร็วขึ้น เขาอยากกอด อยากทิ่มแทงนางด้วยท่อนเนื้อร้อนที่มีพิษร้ายกาจ“พี่ถัง ทะ ท่าน...หยุดมือก่อน”ชายหนุ่มดึงสติตนกลับ กระนั้นมือของเขาก็เจียนแตะลงบนกลีบสวาทที่อยู่ใต้ร่มผ้าของนาง ซึ่งเขาคะเนว่าพื้นที่ของนางคงอวบอูมและงดงามเหนือสตรีนางอื่น“เจ้าไม่ต้องการพี่รึ” เขาถามเสียงทุ้มๆ จงใจออดอ้อนนาง“ข้าเพียงแ

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   3 ได้โปรดยั้งมือ

    หลิวฟ่านหรี่ตามองม่านซือซือ ท่าทางนางเหมือนกำลังประเมินว่า อีกฝ่ายถูกจับขึ้นรถม้าคันนี้ได้อย่างไร“ตัวเจ้าเล่า เหตุใดถึงถูกจับตัวมา” หลิวฟ่านถาม“ขะ ข้า...มาเอาจดหมายให้ท่านพ่อที่หอดอกเหมย” ม่านซือซือเอ่ยจบ ก็เหมือนพึ่งพบความผิดปกติบางอย่าง ก่อนมองจดหมายในมือตน“ซือซือ เจ้าคงถูกบิดาหลอกอย่างมิต้องสงสัย ในมือเจ้าคงไม่ใช่จดหมายอันใด แต่เป็นสัญญาขายตัวเสียมากกว่า โถ... เด็กโง่เอ๋ย”“เอ จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านพ่อจะขายข้าให้ใคร!?”หลิวฟ่านไม่ได้ตอบ และนางปิดปากเงียบคล้ายถูกดึงเข้าสู่เรื่องดำมืด เป็นตอนนั้นที่ม่านซือซือคิดไม่ตก นางทบทวนหลายสิ่งตามลำพัง ก่อนค่อยๆ เปิดซองจดหมายและอ่านข้อความที่อยู่ข้างในสิ่งที่นางรับรู้ด้วยสองตาของตนมันคือความจริงเยี่ยงนั้นรึ สวรรค์ไยเล่นตลกกับนางถึงเพียงนี้ม่านเจิ้นขายนางให้กับคนอื่น เรื่องบัดซบเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร“ทะ ท่านพ่อ ขายข้าให้กับคฤหาสน์สัตตบงกช!”ม่านซือซือเอ่ยจบ นางก็เป็นลมหมดสติ ม่านซือซือสลบไปนานเท่าไหร่นางไม่แน่ใจนัก แต่ที่สะดุ้งตื่นเพราะถูกทาสหญิงตัวอ้วนกำลังป้อนยาเม็ดกลมๆ สีดำเหมือนถ่านเข้าปากนาง ทั้งที่พยายามขัดขืน แต่นางกลับสู

DMCA.com Protection Status