Share

5 โจรราคะ

last update Last Updated: 2024-12-02 17:12:43

สิ่งที่เขากระซิบข้างหูม่านซือซือ ทำให้นางร้อนวูบวาบในร่มผ้า หญิงสาวหน้าแดงจัด มือนางเหมือนจะอ่อนแรงลง จวบจนเขาจับมือข้างหนึ่งของนางไปวางแปะตรงเป้าพองๆ นางก็กระจ่างแจ้งในสิ่งที่เอี๊ยะถังอยากให้ช่วยเหลือ

อึดใจต่อมา ภาพที่ปรากฏต่อหน้านางคือแท่งเนื้อ แท่งเนื้อสีเข้มที่ปลายหยักของมันวาววามเป็นสีคล้ำจัดจากการใช้งานอย่างโชกโชน ตลอดทั้งลำมีเส้นเลือดปูดโปนราวกับหัวมัน และไม่งามอย่างที่นางจินตนาการถึง ทว่าแท่งเนื้ออันอุ่นร้อนก็เชิญชวนให้นางสัมผัสลูบไล้ และปรนเปรอความสวาทให้แก่เอี๊ยะถัง

“ขะ ข้าทำไม่ได้หรอก” เมื่อคลำหาเสียงตนเองพบนางจึงปฏิเสธ นางกลัว... ใช่ มันคือความรู้สึกที่ไม่อาจเป็นอื่นได้ 

เมื่อก่อนนางเคยอ่านพบเรื่องราวลึกลับของบุรุษในหนังสือมามิน้อย ได้เห็นภาพวาดการอุ่นเตียงจากหนังสือชุนกง ภาพเหล่านั้นและการบรรยายท่วงท่ากับลีลาอันโลดโผนนางยังระลึกถึงอยู่เสมอ ส่วนแท่งเนื้อของจริงเพิ่งจะเคยเห็นด้วยสองตาตนเองอย่างใกล้ชิด ยกเว้นยามที่นางหลับฝันถึงชายปริศนา

เอี๊ยะถังมองหญิงสาวชั่วแวบหนึ่ง ก่อนหยิบถุงหอมจากอกเสื้อและส่งให้นางดม

เขาไม่ได้ต้องการทำเรื่องชั่วช้าข่มเหงน้ำใจม่านซือซือ ทว่าหากไม่เร่งรัดนาง เกรงว่าเขาคงนอนปวดน้องชายไปทั้งคืนแน่ๆ

ชั่วเพียงเวลาชาพองตัว หัวใจสาวพลันเต้นโครมคราม ความรู้สึกตอนนี้คือลำคอแห้งผากราวกับกระหายน้ำอย่างหนัก และในร่มผ้านางร้อนชื้น จู่ๆ นางก็เป็นหญิงหน้าด้านไร้ยางอาย เกิดความคิดอยากสนองตัณหาให้เอี๊ยะถัง

ม่านซือซืออยากดูด ต้องการโลมเลียมังกรของเขาเหลือ เกินผิดแต่นางถูกสอนให้รักนวลสงวนตัว ถึงจะชอบเอี๊ยะถัง และแน่นอนนางย่อมอยากเป็นผู้หญิงของเขา ทว่านางยังไม่ได้สวมชุดเจ้าสาว หากกระทำในสิ่งที่ร่างกายเรียกร้อง นางยังจะมีเกียรติหลงเหลือได้อย่างไร

“เริ่มที่มือของเจ้าเป็นอย่างไร ซือซือ”

เอี๊ยะถังเอ่ยเสียงกระเส่า มือหยาบกร้านคว้าจับสองมือนุ่มนิ่มของนางมาช่วยชักแท่งเนื้อร้อนให้คลายพิษสีข้นๆ ออกมา

“คือ ข้า...”

ม่านซือซือไม่อาจเอ่ยถ้อยคำใดได้อีก นางอาย สับสนและตื่นเต้น

“ดีๆ เจ้าทำได้ดี”

เมื่อเขาเอ่ยอย่างพึงใจ นางจึงรู้ว่าตนเผลอใจเสียแล้ว สองมือนางจับท่อนเนื้อเขาชักรูด ส่วนเขาก็โน้มตัวมาจูบซอกคอนาง จูบสลับนวดเฟ้นหน้าอกอวบใหญ่ และส่งเสียงครางทุ้มต่ำ

“อ่าส์ ซือซือ ถ่างขากว้างๆ สิ ให้พี่ได้ชมเนื้ออุ่นของเจ้าบ้าง”

สมองนางขาวโพลน ใจอยากทำให้ถึงใจเอี๊ยะถังแต่นางยังมีสติถึงมันเกือบเตลิดไปไกลจนกู่ไม่กลับ

เมื่อนางชักช้าไม่ทำอย่างที่เขาบอก เอี๊ยะถังจึงเป็นคนจับขานางถ่างจนกว้าง เขาถกกระโปรงให้สูงเผยให้เห็นโคนขาขาวผ่องนวลเนียน เขาอยากกระชากกางเกงขาสั้นที่ปิดเนินเนื้ออวบอูมของนางทิ้งเสีย แต่นางกลับเขินอายเลยหุบขาฉับ พลางส่ายหน้าไม่ยินยอมให้เขาล่วงเกิน 

“ซือซือ ไม่รักพี่หรือ” เขาถาม คำถามนั้นคล้ายมีพลังมหาศาลทำให้นางพยักหน้ารับ

“คะ คือข้า...อี้ๆๆ” นางเสียวซ่าน ร่างกายอ่อนระทวยลง

“พี่ไม่ทำให้เจ้าเจ็บหรอก” เอี๊ยะถังเอ่ยจบจึงบดริมฝีปากบนกลีบปากอิ่มสวย เขาจูบ ใช้ปากดึงรั้งดูดดุนความหวานจากกลีบปากนางจนช้ำและบวมเจ่อ

ม่านซือซือตกใจมาก ทว่านางกลับไม่ขัดขืน ราวกับตกอยู่ในอำนาจของเอี๊ยะถัง

“ผ่อนคลายนะซือซือ เจ้าเป็นของพี่แต่เพียงผู้เดียวรู้หรือไม่”

เมื่อได้ยินคำพูดเขา ใจนางก็คัดค้าน ทว่านางทำอย่างที่ใจต้องการไม่ได้ จวบจนเอี๊ยะถังแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ม่านซือซือจึงตัวเบาหวิว ร่างกายไร้การขัดขืน สุดท้ายก็นอนลงบนพื้น ถ่างขากว้างอวดความสาวให้เขาเชยชม 

นางเป็นหญิงร่านสวาทแล้วรึ คำถามดังกล่าวดังอยู่ในใจ

พอรู้ตัวอีกที ริมฝีปากนางก็ถูกแท่งเนื้อที่ปลายหัวหยักใหญ่โตราวดอกเห็ดจ่อเข้ามาใกล้ๆ ก่อนที่เอี๊ยะถังจะบีบปากนางเพื่อให้มันอ้ากว้าง กว้างพอที่จะกลายเป็นช่องทางรักให้เขาเสือกความแข็งขันเข้าไป

หญิงสาวน้ำตาไหลพราก เขาคงคิดว่านางเป็นโสเภณีหรือหญิงเริงเมืองที่จะย่ำยีอย่างไรก็ได้

ม่านซือซือดึงตนเองออกจากวังวนราคะ ถึงพลังกายและสติที่มีเหลืออยู่จะน้อยนิด หากนางก็กัดฟันรวบรวมมันกลับคืนมา

นางดิ้นสุดแรงเกิด แต่ร่างกายชายหนุ่มมีกำลังมากกว่า อีกทั้งเขาเป็นวรยุทธ์จึงลงมือกับนางอย่างหนัก

“พี่ถัง!”

นางหลุดเสียงร้องประท้วง ในหัวคิดหาทางหนีจากเขาแต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย กระทั่งกำหนัดเขาพุ่งสูง ความหน้ามืดตามัวเข้าครอบงำ เอี๊ยะถังเลยตบนางเพื่อสั่งสอน และเขาตบนางด้วยแท่งเนื้อนั่นเอง

มันฟาดเข้าที่แก้มนางหลายหนจนม่านซือซือมึนงง สมองว่างเปล่า กว่าจะรู้ตัวอีกที เสื้อผ้านางก็ไม่อยู่บนเรือนร่าง

“ไม่! พี่ถัง ท่านเสียสติแล้วรึ”

เขาไม่ตอบ คงเพราะอยากทำรักกับนางจนสติกู่ไม่กลับ

ม่านซือซือรวบรวมแรงที่มีอยู่ นางถอยหนีสุดชีวิต เป็นช่วงเวลานั้นที่มือจับปิ่นปักผมไม้ของตนได้จึงใช้มันเป็นอาวุธ นางไม่คิดทำร้ายเขาแต่ต้องรักตัวเอง ปิ่นไม้ในมือจึงจ้วงแทงออกไปส่งๆ มันปักเข้าที่ขาของชายหนุ่มสร้างบาดแผลทันที กลิ่นคาวจากเลือดลอยฟุ้ง ซึ่งมันทำให้ทั้งนางและเขาจ้องมองกันเขม็ง

“โอ๊ย... เจ้าหวังให้พี่ตายรึ ซือซือ”

หญิงสาวสั่นเทาไปทั้งร่าง นางไม่คิดว่าจะทำให้คนรักมีแผลและเสียเลือด ทว่านางไม่อาจย้อนเวลากลับคืน อีกทั้งเขาคิดข่มเหงนาง บุรุษเช่นนี้สมควรรักหรือ!

“พี่ถัง... ขะ ข้าขออภัย แต่พี่จะทำกับข้าเช่นนางโลมไม่ได้”

“แต่พี่ต้องการเจ้า ปรารถนาให้เจ้าเป็นคนรัก เป็นฮูหยิน และอุ้มท้องเจ้าก้อนแป้งของพี่”

คำพูดหวานหู แต่ท่าทางเขากลับตรงกันข้าม โดยเฉพาะแก่นกายที่ผงาดง้ำ หัวมันบานเบ่ง ยามนี้แสงจันทร์สว่างมากจึงเห็นร่างกายเขาชัดเจน ทั้งกำยำ สง่างาม แต่เป็นภัยร้ายต่อนาง

“มาเป็นเมียของพี่เสีย แล้วพี่จะไม่ถือโทษเจ้า”

“ข้าทำไม่ได้”

“อย่าให้พี่ต้องบังคับหรือขืนใจ!”

ม่านซือซือส่ายหน้าหวือ ให้ตายเป็นผีนางก็ไม่อาจนอนแผ่ลงไปบนพื้นให้เขากลืนกินร่างกาย และแทงแท่งหยกอวบใหญ่เข้าสู่กลีบบุปผา

“ข้าต้องกลับเรือน ขอให้พี่ถังเข้าใจด้วย”

ใบหน้าเอี๊ยะถังเครียดขึ้ง เขาไม่ตอบ หากโถมร่างพร้อมแรงรักเข้าหาม่านซือซือราวต้องการทำสิ่งที่ค้างไว้ให้สำเร็จ

“มะ ไม่... พี่ถังจะทำเช่นนี้ต่อข้าไม่ได้!”

นางแผดร้องเสียงดังและยกมือปัดป้องตนเอง ยามนั้นหน้าอกอวบสวยเด้งไหวไปมา เรือนร่างงดงามที่เปลือยเปล่าทำให้เอี๊ยะถังหื่นกระหายอย่างบ้าคลั่ง

ม่านซือซือจึงยกมือปิดสองเต้าไว้แล้วถดถอยหนีสุดชีวิต กระทั่งนางลื่นไถลไปตามทางลาด

“ซือซือ...”

เอี๊ยะถังเรียกหานาง ทว่าหญิงสาวกลับเงียบ เงียบจนน่าเป็นห่วง จากนั้นก็มีทหารยามออกมาเดินลาดตระเวน พร้อมกลุ่มมือปราบที่ส่งเสียงดังขึ้นว่า

“โจร... โจรราคะ จับตัวมันให้ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เอี๊ยะถังจึงไม่อาจเสียเวลาอันใด เขารีบแต่งตัวและเข้าไปรวมกลุ่มกับมือปราบคนอื่น แม้ใจนึกห่วงโฉมงามม่านซือซือ แต่เขาจะให้ผู้ใดพบเห็นว่าออกมาทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติที่สวนแปะก๊วยไม่ได้

ม่านซือซือพลัดตกลงไปในแม่น้ำ ร่างนางลอยไปเรื่อยๆ สติหญิงสาวหลับๆ ตื่นๆ นางพยายามรวบรวมแรงเพื่อยื้อชีวิตของตน สองมือไขว่คว้าไปข้างหน้า กระทั่งพบความแข็งอย่างหนึ่งเข้านางจึงยึดเอาไว้

“รอดแล้ว ข้าไม่ตายแล้ว!”

นางเอ่ยพร้อมกอดสิ่งแข็งแรงเอาไว้เป็นหลักยึด ก่อนจะต้องขวัญผวาด้วยสิ่งที่นางไขว่คว้านั้นไม่ใช่ท่อนไม้ หรือโขดหิน หากเป็นร่างของบุรุษ และเป็นบุรุษที่มีไอเย็น และผิวเขาขาว ขาวจัดราวกับหิมะ!

Related chapters

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้    6 เปลื้องผ้า

    ณ ลานกว้างหน้าเรือนทานตะวัน ม่านซือซือยังไม่ทันหายตกใจหลังจากถูกต้อนลงจากรถม้าคันใหญ่ นางไม่รู้เหนือรู้ใต้อันใด ก่อนหน้านี้ก็ถูกต้อนให้ขึ้นรถม้าอีกคันที่ใหญ่กว่าเดิม แล้วถูกมัดมือปิดตาและได้ยินแต่เสียงอื้ออึงรอบกาย จึงทำให้เครียดจนแทบคลั่งระหว่างเดินทางยังมีเสียงครางแปลกๆ ของชายหญิง ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่น กลิ่นคาวที่นางไม่อาจล่วงรู้ว่าเกิดจากสิ่งใดกระทั่งลงมายืนที่พื้นดิน นางก็ถูกสั่งให้เดินตามก้นสตรีนางอื่น กระทั่งเข้ามาถึงส่วนด้านในของคฤหาสน์อันใหญ่โต และมันถูกแบ่งเป็นเรือนหลังเล็กๆ หลายหลัง ดูจากหมายเลขของเรือน คงมีราวๆ 10-12 หลัง “เข้าไปรอที่ลานหน้าเรือนทานตะวัน” คำสั่งของแม่นมเอ่ยเสียงดังเฉียบขาด เมื่อดูท่าทางนางก็คาดว่าไม่ได้สูงวัยสักเท่าไหร่ แต่ด้วยไร้รอยยิ้มและการยืนหลังตรงราวกับสตรีที่ถูกฝึกมาอย่างดี อีกทั้งมีสาวใช้เดินตามนางเป็นพรวน ทำให้นางรวมถึงสตรีที่ถูกขายมาต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน“เหตุใดถึงได้มีเรื่องบัดซบเช่นนี้เกิดขึ้นกับข้าได้ ข้ารู้เพียงแต่ว่าต้องออกมาไหว้พระที่อารามศักดิ์สิทธิ์ ไฉนถึงตกเป็นสาวใช้ต่ำต้อยที่ต้องมาปรนนิบัติชายวิปริต!” สตรีนางหนึ่งที่แต่งตัวงดงามมิน

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   7 แท่งหยกและกลีบบุปผา

    ม่านซือซือกอดหน้าอกตนเองไว้แน่น สองขาเบียดชิดกัน นางอายอีกทั้งรู้สึกอดสู การแก้ผ้าให้ผู้อื่นตรวจสอบประหนึ่งเป็นสินค้าเป็นเรื่องที่เกินจะรับไหว“เอามือลง แล้วยืนให้ตัวตรงๆ” เหม่ยหลานเอ่ยจบจึงสำรวจเรือนร่างของม่านซือซือ เริ่มจากใบหน้า ลำคอ เต้าอวบสวยที่ปลายยอดถันกำลังชูชัน และนางเหมือนต้องการรู้บางสิ่ง เลยใช้แท่งลึงค์ไม้หัวหยักในมือเขี่ยยอดถันสีชมพูซึ่งตอนนี้เข้มจัดดูเย้ายวนไม่น้อยม่านซือซือเม้มริมฝีปากแน่น นางกลัวเสียงน่าขายหน้าหลุดลอดออกไปแต่ก็ไร้ผล เพราะเหม่ยหลานใช้ไม้ลึงค์สะกิดไม่พอ นางยังบีบหน้าอกของม่านซือซืออย่างไม่ถนอมสักนิด“เจ้าคือลูกสาวของหัวหน้ากองอักษร ม่านเจิ้นสินะ”ริมฝีปากของม่านซือซือขยับจะตอบ แต่กลายเป็นการครางเสียงแผ่วๆ อย่างน่าละอาย“เจ้าเป็นสตรีที่ไวต่อความรู้สึกมิน้อย...แต่ข้าต้องตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมอยู่เรือนหลังใดและทำงานส่วนไหน หากเลือกคนผิดอาจทำให้คุณชายกริ้ว ซึ่งคนที่ต้องไร้ลมหายใจคงไม่พ้นเจ้า แม่นางซือซือ”ม่านซือซือพยักหน้ารับ ตอนนั้นมือข้างหนึ่งของนางหยิกที่สีข้างตน นางอยากรู้สึกเจ็บปวด ด้วยมันคงดีกว่าถูกปลุกให้ความสิเน่หาติดไฟ“ต่อไปนี้จะเป็นการคัด

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   8 แท่งหยกและกลีบบุปผา (2)

    หัวใจม่านซือซือเต้นระรัวแรง และนางปฏิเสธที่จะมองเหตุการณ์เบื้องหน้า ทว่ากลับมีคำสั่งของเหม่ยหลาน ซึ่งนางให้ทาสหญิงสองคนเข้ามาหาม่านซือซือ แล้วบังคับถ่างตานางเพื่อมองการร่วมรักอย่างเร่าร้อน“ดู... เจ้าต้องดูให้เต็มตา นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องปรนนิบัติคุณชายจ้าว”เหม่ยหลานออกคำสั่ง ม่านซือซือแม้จะรังเกียจอย่างไร แต่นางต้องฝืนดูภาพพิศวาสนั้นสามบุรุษกับสองสตรีระเริงรักบนพื้นไม้อย่างชวนให้ตกตะลึง และพวกเขายังถูกสาดน้ำมันหอมระเหยใส่ร่างท่อนเนื้อร้อนบุกทะลวงทั้งทางปากและแอ่งเนื้อนิ่ม พลอยให้ม่านซือซือถึงกับทนไม่ไหว นางเกือบพุ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเขา ทว่าเมื่อคิดถึงคืนลอยโคมไฟนางก็อดหวาดผวาไม่ได้ เอี๊ยะถังคิดข่มเหงนาง ความเศร้าใจก่อเกิดขึ้นมา กระนั้นในซอกหลืบลึกๆ นางยังโหยหาเขา หากย้อนเวลากลับไปได้ นางคงยอมที่จะตกเป็นของอีกฝ่าย เพราะนางอาจไม่ต้องโชคร้ายถูกบิดาขายมายังคฤหาสน์วิปริตแห่งนี้หลิวฟ่านนั่งทับแก่นกายยักษ์ นางถูกจับให้นอนตะแคง จากนั้นนางจึงถูกบุรุษทั้งสามคนรุมนัวเนีย ชายคนหนึ่งเสือกแท่งหยกเข้ากลีบบุปผา ชายอีกคนแทงแก่นกายเข้าประตูหลัง ส่วนอีกหนึ่งบุรุษใช้แท่งหยกของเขาตบตีริมฝีปากบวมเจ่

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   9 เรือนโอสถ

    ม่านซือซือนั่งอยู่ในห้องโล่งๆ ที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยและกลิ่นธูปลอยกำจายไปทั่ว ห้องนี้มีตั่งไม้กว้างปูรองด้วยฟูกและผ้าสีขาวสะอาดตา เครื่องเรือนล้วนย้อมด้วยสีดำขับให้บรรยากาศนิ่งสงบ หากแต่ไม่เศร้า น่ากลัว หรือวังเวง กลับให้ความรู้สึกน่าหลงใหล ลึกลับ แฝงความเย้ายวนนอกจากนั้นยังประดับด้วยภาพวาดและฉากกั้น เป็นผ้าไหมเนื้อดีปักลายสัตว์ป่าลงมากินน้ำ ดูแล้วเพลินตาไม่น้อยป้ายด้านหน้าเรือนเขียนไว้ว่า ‘9 เรือนโอสถ’ และทั้งที่เขียนอย่างนั้นแต่กลับไม่มีกลิ่นของยาแม้แต่น้อย ความสงสัยทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งม่านซือซือได้ยินเสียงฝีเท้าที่มั่นคงเดินเข้ามาในเรือน ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงน้ำหนัก แต่ความเงียบสงบของที่นี่ทำให้นางขนลุกซู่ประตูด้านหน้าเปิดอย่างแผ่วเบา ภาพต่อมาคือร่างสูงใหญ่ของบุรุษในอาภรณ์โปร่งบางสีขาวหญิงสาวพบชายสง่างามมามิน้อย แต่ชายที่สะกดให้นางหายใจไม่สะดวก ก่อนจะกลายเป็นความลุ่มหลง ประหนึ่งตกอยู่ในอำนาจ คงเป็นชายที่สวมหน้ากากสีขาวผู้นี้ม่านซือซือแปลกใจ เขาช่างคล้ายคนที่นางรู้จัก อีกทั้งดวงตาคมใต้หน้ากากมองนางอย่างแฝงความนัย และความเงียบของเขากระตุ้นกลีบสวาทนางให้ผะผ

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   10 สาวใช้หรือนางมาร (1)

    จ้าวเล่อซีพิศโฉมสตรีตรงหน้า ในที่สุดเขาก็ได้ตัวนางมาครอบครอง นับจากนี้นางจะอยู่เคียงข้างเขา คอยส่งเสียงหวานเร่าร้อนให้เขาฟังทุกเช้าค่ำความจริงในระยะเวลาที่ผ่านมา เขาจะใช้กำลังหรืออำนาจบีบบังคับขุนนางตัวเล็กๆ อย่างม่านเจิ้นให้ส่งตัวลูกสาวคนที่ห้ามาบำเรอสวาทเขาก็ทำได้อย่างง่ายดาย แต่จ้าวเล่อซีคิดว่ากระทำเช่นนั้นช่างไม่สมกับเป็นเขาเสียเลย จึงปล่อยให้นางใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ และเขาเพียงแค่วางกับดักล่อเอาไว้อย่างแนบเนียนกระทั่งคืนเทศกาลโคมไฟมาถึง เอี๊ยะถังคิดข่มเหงหญิงงามของเขา ชายหนุ่มจึงโกรธมาก แต่ยังปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อไปเพื่อลองใจนาง กระทั่งเขาแจ้งชัดในใจว่าม่านซือซือไม่ยอมให้เอี๊ยะถังข่มเหงเป็นแน่แท้จ้าวเล่อซีจึงยื่นมือช่วยนางเอาไว้และสตรีอย่างม่านซือซือคือคนที่เขาอยากร่วมรัก และมอบรสสวาทให้เขาสุขสม‘เจ้ายินยอมให้ข้าทำรักด้วยหรือไม่’ จ้าวเล่อซีถาม แต่เสียงดังก้องอยู่เพียงในอกเขาเมื่อไม่อาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดให้นางเข้าใจ เขาจึงต้องใช้ภาษากายแทนชายหนุ่มจูบนาง จูบอย่างใจปรารถนา และแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ดูดดื่มความบริสุทธิ์ของม่านซือซือเรียวลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัด

    Last Updated : 2024-12-10
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   11 สาวใช้หรือนางมาร (2)

    เขาดูดติ่งเนื้อนิ่ม ดูดราวกับอยากให้นางปล่อยน้ำหวานรสเลิศ เพื่อเขาจะได้สุขสมกับการปรนเปรอนางด้วยปาก แต่ม่านซือซือเป็นสตรีที่อดกลั้นดีเลิศ นางเสียวซ่านปานนี้ หากยังไม่หลั่งความสาวให้เขาชิม ทว่าแอ่งเนื้อนางแฉะชื้นและเต้นตุบๆ ตอบรับการทำรักของเขา“อ่าส์... คุณชาย... ข้าทรมานเหลือเกิน ท่านไม่ปรารถนาเข้ามาในตัวข้าหรืออย่างไร”ม่านซือซือขอร้องจ้าวเล่อซี หาใช่การออกคำสั่ง‘ปีศาจน้อย เจ้าช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า คิดจะกลืนกินมังกรของจักรพรรดิเล่อซีเลยรึ’ จ้าวเล่อซีเอ่ยจบก็หัวเราะหึๆแน่นอน เขาต้องก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิในอีกไม่ช้า เขาจะกลับเมืองหลวงพร้อมยกทัพออกไปสังหารคนชั่วเพื่อล้างแค้นให้บิดา จากนั้นก็ครองอาณาจักรอันกว้างใหญ่ของแคว้นชิง เรื่องเหล่านี้ผิงเสียนผู้เป็นมารดาพูดกรอกหูให้เขาได้ยินตลอดก่อนที่นางจะจากไปด้วยความแค้นหลังจากนั้นเขาถูกเลี้ยงดูด้วยท่านตาผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ รวมถึงลุงกับป้าที่รักเขายิ่งกว่าลูกตน แต่ทุกคนมีนิสัยบิดเบี้ยว เขาจึงได้รับสืบทอดความอำมหิตและนิยมเรื่องอุ่นเตียงวิปริตมาสู่จิตใจ กระทั่งเขาถูกส่งตัวมาที่นี่ ใช้ชีวิตในคฤหาสน์สัตตบงกชเพื่อรอเวลาที่จะกลับเมืองหลวง แน่นอนเขาม

    Last Updated : 2024-12-11
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   1 ผงหอมเจ็ดสุสาน

    วังหลวงแคว้นชิง ณ ตำหนักของสนมกุ้ยเฟยผิงเสียน ท้องฟ้าคืนนั้นน่ากลัวเหลือเกิน อีกทั้งมีฝนตกตั้งแต่เช้า กระทั่งกลางดึกฟ้ายังรั่วไม่หยุด แต่เหนืออื่นใดตำหนักกว้างใหญ่แห่งนี้มีสิ่งสำคัญยิ่งกว่าให้วิตก ด้วยครรภ์ของกุ้ยเฟยผิงเสียนกำลังก่อปัญหาใหญ่ เหล่าหมอหลวงนับสิบชีวิตจึงมีสีหน้าเครียดจัด อีกทั้งจักรพรรดิอี้คังทรงอยู่ที่กำแพงเมืองทางทิศใต้ มีข่าวไม่สู้ดีว่าเกิดกบฏจากฝีมือเกากงกง ผู้เป็นอาของเต๋อเฟยอี้ (สนมเอกลำดับที่สามของจักรพรรดิ) มิหนำซ้ำนางยังเล่นชู้กับจ้าวเทียนฉาง น้องชายองค์จักรพรรดิ!เรื่องนี้ส่งผลให้กุ้ยเฟยผิงเสียนวิตกหนัก จึงกระทบต่อการคลอดทารก แต่จะไม่ให้นางคิดมากได้อย่างไร ด้วยสามีนางผู้นั่งบัลลังก์แคว้นชิง อาจไม่มีชีวิตกลับมาดูหน้าลูกน้อยผู้ที่จะได้เป็นองค์รัชทายาท!นางกำนัลที่ใกล้ชิดกุ้ยเฟยผิงเสียน นามว่าเหม่ยหลาน พยายามพูดปลอบคนใกล้คลอด ทว่ายามนี้สตรีแสนบอบบางที่เพิ่งตั้งครรภ์เป็นครั้งแรกเอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุดและหวีดร้องเสียขวัญ ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อสามเดือนที่ผ่านมา นางเกือบสิ้นชีพเพราะลูกในท้องมาหนึ่งหน ด้วยลื่นล้มที่หอพระกลางวังหลวง สาเหตุเป็นเพราะความริษยาของเต๋อเฟยอี้

    Last Updated : 2024-12-02
  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   2 ดื่มน้ำหวาน

    เมืองกุ้ยโจว แคว้นชิงยี่สิบสองปีต่อมาปลายวสันต์บุรุษเรือนกายสูงใหญ่ที่มีผิวขาวดุจหิมะบุกรุกเข้ามาหาสตรีที่นอนอยู่บนเตียงหลังน้อยในยามวิกาล นางส่งเสียงหวานแผ่วเบา เสียงซึ่งเกิดจากการถูกริมฝีปากบางสีสดบรรจงลวกตามผิวกายสาวยอดถันงดงามของนางเย้ายวนใจเขายิ่ง มันเป็นสีชมพูเข้ม และนางมีหน้าอกอวบสวยขนาดใหญ่ มันเด้งไหวรับการนวดเฟ้นจากแรงมือของเขา ราวกับก้อนเต้าหู้เนื้อดีเขาดูดเลียขบเม้มยอดถันพอให้นางส่งเสียงหวานอย่างเผลอไผล และหลังจากเล่นกับถันคู่งามสมใจ เขาก็เลื่อนริมฝีปากลงมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงเนินสวาทที่ชวนให้ไล้ลิ้นชิมม่านซือซือเป็นหญิงที่ดูแลร่างกายได้ดีเหลือเกิน ขนซึ่งอยู่ใน ส่วนลับถูกเก็บให้เรียบร้อย มันจึงเผยให้ชายหนุ่มคลั่งหนักกว่าเดิม ด้วยเนินเนื้อนางนูนสวยอีกทั้งสั่นระริก ชวนให้เขากระแทกทั้งลิ้นและแก่นกายเข้าไปสำรวจความชุ่มชื้นข้างใน“เจ้ารอข้าอยู่ใช่หรือไม่ คงปรารถนาร่วมรักกับข้ามิต่างกัน” เขาเอ่ยจบก็หัวเราะลงลูกคอ เสียงหัวเราะที่แสนประหลาดอีกทั้งชวนให้ ครั่นคร้ามใจ ในคืนที่แสงจันทร์มีเมฆบดบังเช่นนี้ ห้องนอนของคุณหนูห้าสกุลม่านจึงมีเพียงแสงจากตะเกียงดวงน้อยที่ให้ความสว่างเพียง

    Last Updated : 2024-12-02

Latest chapter

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   11 สาวใช้หรือนางมาร (2)

    เขาดูดติ่งเนื้อนิ่ม ดูดราวกับอยากให้นางปล่อยน้ำหวานรสเลิศ เพื่อเขาจะได้สุขสมกับการปรนเปรอนางด้วยปาก แต่ม่านซือซือเป็นสตรีที่อดกลั้นดีเลิศ นางเสียวซ่านปานนี้ หากยังไม่หลั่งความสาวให้เขาชิม ทว่าแอ่งเนื้อนางแฉะชื้นและเต้นตุบๆ ตอบรับการทำรักของเขา“อ่าส์... คุณชาย... ข้าทรมานเหลือเกิน ท่านไม่ปรารถนาเข้ามาในตัวข้าหรืออย่างไร”ม่านซือซือขอร้องจ้าวเล่อซี หาใช่การออกคำสั่ง‘ปีศาจน้อย เจ้าช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า คิดจะกลืนกินมังกรของจักรพรรดิเล่อซีเลยรึ’ จ้าวเล่อซีเอ่ยจบก็หัวเราะหึๆแน่นอน เขาต้องก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิในอีกไม่ช้า เขาจะกลับเมืองหลวงพร้อมยกทัพออกไปสังหารคนชั่วเพื่อล้างแค้นให้บิดา จากนั้นก็ครองอาณาจักรอันกว้างใหญ่ของแคว้นชิง เรื่องเหล่านี้ผิงเสียนผู้เป็นมารดาพูดกรอกหูให้เขาได้ยินตลอดก่อนที่นางจะจากไปด้วยความแค้นหลังจากนั้นเขาถูกเลี้ยงดูด้วยท่านตาผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ รวมถึงลุงกับป้าที่รักเขายิ่งกว่าลูกตน แต่ทุกคนมีนิสัยบิดเบี้ยว เขาจึงได้รับสืบทอดความอำมหิตและนิยมเรื่องอุ่นเตียงวิปริตมาสู่จิตใจ กระทั่งเขาถูกส่งตัวมาที่นี่ ใช้ชีวิตในคฤหาสน์สัตตบงกชเพื่อรอเวลาที่จะกลับเมืองหลวง แน่นอนเขาม

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   10 สาวใช้หรือนางมาร (1)

    จ้าวเล่อซีพิศโฉมสตรีตรงหน้า ในที่สุดเขาก็ได้ตัวนางมาครอบครอง นับจากนี้นางจะอยู่เคียงข้างเขา คอยส่งเสียงหวานเร่าร้อนให้เขาฟังทุกเช้าค่ำความจริงในระยะเวลาที่ผ่านมา เขาจะใช้กำลังหรืออำนาจบีบบังคับขุนนางตัวเล็กๆ อย่างม่านเจิ้นให้ส่งตัวลูกสาวคนที่ห้ามาบำเรอสวาทเขาก็ทำได้อย่างง่ายดาย แต่จ้าวเล่อซีคิดว่ากระทำเช่นนั้นช่างไม่สมกับเป็นเขาเสียเลย จึงปล่อยให้นางใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ และเขาเพียงแค่วางกับดักล่อเอาไว้อย่างแนบเนียนกระทั่งคืนเทศกาลโคมไฟมาถึง เอี๊ยะถังคิดข่มเหงหญิงงามของเขา ชายหนุ่มจึงโกรธมาก แต่ยังปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นต่อไปเพื่อลองใจนาง กระทั่งเขาแจ้งชัดในใจว่าม่านซือซือไม่ยอมให้เอี๊ยะถังข่มเหงเป็นแน่แท้จ้าวเล่อซีจึงยื่นมือช่วยนางเอาไว้และสตรีอย่างม่านซือซือคือคนที่เขาอยากร่วมรัก และมอบรสสวาทให้เขาสุขสม‘เจ้ายินยอมให้ข้าทำรักด้วยหรือไม่’ จ้าวเล่อซีถาม แต่เสียงดังก้องอยู่เพียงในอกเขาเมื่อไม่อาจเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดให้นางเข้าใจ เขาจึงต้องใช้ภาษากายแทนชายหนุ่มจูบนาง จูบอย่างใจปรารถนา และแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ดูดดื่มความบริสุทธิ์ของม่านซือซือเรียวลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัด

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   9 เรือนโอสถ

    ม่านซือซือนั่งอยู่ในห้องโล่งๆ ที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยและกลิ่นธูปลอยกำจายไปทั่ว ห้องนี้มีตั่งไม้กว้างปูรองด้วยฟูกและผ้าสีขาวสะอาดตา เครื่องเรือนล้วนย้อมด้วยสีดำขับให้บรรยากาศนิ่งสงบ หากแต่ไม่เศร้า น่ากลัว หรือวังเวง กลับให้ความรู้สึกน่าหลงใหล ลึกลับ แฝงความเย้ายวนนอกจากนั้นยังประดับด้วยภาพวาดและฉากกั้น เป็นผ้าไหมเนื้อดีปักลายสัตว์ป่าลงมากินน้ำ ดูแล้วเพลินตาไม่น้อยป้ายด้านหน้าเรือนเขียนไว้ว่า ‘9 เรือนโอสถ’ และทั้งที่เขียนอย่างนั้นแต่กลับไม่มีกลิ่นของยาแม้แต่น้อย ความสงสัยทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งม่านซือซือได้ยินเสียงฝีเท้าที่มั่นคงเดินเข้ามาในเรือน ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ลงน้ำหนัก แต่ความเงียบสงบของที่นี่ทำให้นางขนลุกซู่ประตูด้านหน้าเปิดอย่างแผ่วเบา ภาพต่อมาคือร่างสูงใหญ่ของบุรุษในอาภรณ์โปร่งบางสีขาวหญิงสาวพบชายสง่างามมามิน้อย แต่ชายที่สะกดให้นางหายใจไม่สะดวก ก่อนจะกลายเป็นความลุ่มหลง ประหนึ่งตกอยู่ในอำนาจ คงเป็นชายที่สวมหน้ากากสีขาวผู้นี้ม่านซือซือแปลกใจ เขาช่างคล้ายคนที่นางรู้จัก อีกทั้งดวงตาคมใต้หน้ากากมองนางอย่างแฝงความนัย และความเงียบของเขากระตุ้นกลีบสวาทนางให้ผะผ

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   8 แท่งหยกและกลีบบุปผา (2)

    หัวใจม่านซือซือเต้นระรัวแรง และนางปฏิเสธที่จะมองเหตุการณ์เบื้องหน้า ทว่ากลับมีคำสั่งของเหม่ยหลาน ซึ่งนางให้ทาสหญิงสองคนเข้ามาหาม่านซือซือ แล้วบังคับถ่างตานางเพื่อมองการร่วมรักอย่างเร่าร้อน“ดู... เจ้าต้องดูให้เต็มตา นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องปรนนิบัติคุณชายจ้าว”เหม่ยหลานออกคำสั่ง ม่านซือซือแม้จะรังเกียจอย่างไร แต่นางต้องฝืนดูภาพพิศวาสนั้นสามบุรุษกับสองสตรีระเริงรักบนพื้นไม้อย่างชวนให้ตกตะลึง และพวกเขายังถูกสาดน้ำมันหอมระเหยใส่ร่างท่อนเนื้อร้อนบุกทะลวงทั้งทางปากและแอ่งเนื้อนิ่ม พลอยให้ม่านซือซือถึงกับทนไม่ไหว นางเกือบพุ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเขา ทว่าเมื่อคิดถึงคืนลอยโคมไฟนางก็อดหวาดผวาไม่ได้ เอี๊ยะถังคิดข่มเหงนาง ความเศร้าใจก่อเกิดขึ้นมา กระนั้นในซอกหลืบลึกๆ นางยังโหยหาเขา หากย้อนเวลากลับไปได้ นางคงยอมที่จะตกเป็นของอีกฝ่าย เพราะนางอาจไม่ต้องโชคร้ายถูกบิดาขายมายังคฤหาสน์วิปริตแห่งนี้หลิวฟ่านนั่งทับแก่นกายยักษ์ นางถูกจับให้นอนตะแคง จากนั้นนางจึงถูกบุรุษทั้งสามคนรุมนัวเนีย ชายคนหนึ่งเสือกแท่งหยกเข้ากลีบบุปผา ชายอีกคนแทงแก่นกายเข้าประตูหลัง ส่วนอีกหนึ่งบุรุษใช้แท่งหยกของเขาตบตีริมฝีปากบวมเจ่

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   7 แท่งหยกและกลีบบุปผา

    ม่านซือซือกอดหน้าอกตนเองไว้แน่น สองขาเบียดชิดกัน นางอายอีกทั้งรู้สึกอดสู การแก้ผ้าให้ผู้อื่นตรวจสอบประหนึ่งเป็นสินค้าเป็นเรื่องที่เกินจะรับไหว“เอามือลง แล้วยืนให้ตัวตรงๆ” เหม่ยหลานเอ่ยจบจึงสำรวจเรือนร่างของม่านซือซือ เริ่มจากใบหน้า ลำคอ เต้าอวบสวยที่ปลายยอดถันกำลังชูชัน และนางเหมือนต้องการรู้บางสิ่ง เลยใช้แท่งลึงค์ไม้หัวหยักในมือเขี่ยยอดถันสีชมพูซึ่งตอนนี้เข้มจัดดูเย้ายวนไม่น้อยม่านซือซือเม้มริมฝีปากแน่น นางกลัวเสียงน่าขายหน้าหลุดลอดออกไปแต่ก็ไร้ผล เพราะเหม่ยหลานใช้ไม้ลึงค์สะกิดไม่พอ นางยังบีบหน้าอกของม่านซือซืออย่างไม่ถนอมสักนิด“เจ้าคือลูกสาวของหัวหน้ากองอักษร ม่านเจิ้นสินะ”ริมฝีปากของม่านซือซือขยับจะตอบ แต่กลายเป็นการครางเสียงแผ่วๆ อย่างน่าละอาย“เจ้าเป็นสตรีที่ไวต่อความรู้สึกมิน้อย...แต่ข้าต้องตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมอยู่เรือนหลังใดและทำงานส่วนไหน หากเลือกคนผิดอาจทำให้คุณชายกริ้ว ซึ่งคนที่ต้องไร้ลมหายใจคงไม่พ้นเจ้า แม่นางซือซือ”ม่านซือซือพยักหน้ารับ ตอนนั้นมือข้างหนึ่งของนางหยิกที่สีข้างตน นางอยากรู้สึกเจ็บปวด ด้วยมันคงดีกว่าถูกปลุกให้ความสิเน่หาติดไฟ“ต่อไปนี้จะเป็นการคัด

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้    6 เปลื้องผ้า

    ณ ลานกว้างหน้าเรือนทานตะวัน ม่านซือซือยังไม่ทันหายตกใจหลังจากถูกต้อนลงจากรถม้าคันใหญ่ นางไม่รู้เหนือรู้ใต้อันใด ก่อนหน้านี้ก็ถูกต้อนให้ขึ้นรถม้าอีกคันที่ใหญ่กว่าเดิม แล้วถูกมัดมือปิดตาและได้ยินแต่เสียงอื้ออึงรอบกาย จึงทำให้เครียดจนแทบคลั่งระหว่างเดินทางยังมีเสียงครางแปลกๆ ของชายหญิง ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่น กลิ่นคาวที่นางไม่อาจล่วงรู้ว่าเกิดจากสิ่งใดกระทั่งลงมายืนที่พื้นดิน นางก็ถูกสั่งให้เดินตามก้นสตรีนางอื่น กระทั่งเข้ามาถึงส่วนด้านในของคฤหาสน์อันใหญ่โต และมันถูกแบ่งเป็นเรือนหลังเล็กๆ หลายหลัง ดูจากหมายเลขของเรือน คงมีราวๆ 10-12 หลัง “เข้าไปรอที่ลานหน้าเรือนทานตะวัน” คำสั่งของแม่นมเอ่ยเสียงดังเฉียบขาด เมื่อดูท่าทางนางก็คาดว่าไม่ได้สูงวัยสักเท่าไหร่ แต่ด้วยไร้รอยยิ้มและการยืนหลังตรงราวกับสตรีที่ถูกฝึกมาอย่างดี อีกทั้งมีสาวใช้เดินตามนางเป็นพรวน ทำให้นางรวมถึงสตรีที่ถูกขายมาต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน“เหตุใดถึงได้มีเรื่องบัดซบเช่นนี้เกิดขึ้นกับข้าได้ ข้ารู้เพียงแต่ว่าต้องออกมาไหว้พระที่อารามศักดิ์สิทธิ์ ไฉนถึงตกเป็นสาวใช้ต่ำต้อยที่ต้องมาปรนนิบัติชายวิปริต!” สตรีนางหนึ่งที่แต่งตัวงดงามมิน

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   5 โจรราคะ

    สิ่งที่เขากระซิบข้างหูม่านซือซือ ทำให้นางร้อนวูบวาบในร่มผ้า หญิงสาวหน้าแดงจัด มือนางเหมือนจะอ่อนแรงลง จวบจนเขาจับมือข้างหนึ่งของนางไปวางแปะตรงเป้าพองๆ นางก็กระจ่างแจ้งในสิ่งที่เอี๊ยะถังอยากให้ช่วยเหลืออึดใจต่อมา ภาพที่ปรากฏต่อหน้านางคือแท่งเนื้อ แท่งเนื้อสีเข้มที่ปลายหยักของมันวาววามเป็นสีคล้ำจัดจากการใช้งานอย่างโชกโชน ตลอดทั้งลำมีเส้นเลือดปูดโปนราวกับหัวมัน และไม่งามอย่างที่นางจินตนาการถึง ทว่าแท่งเนื้ออันอุ่นร้อนก็เชิญชวนให้นางสัมผัสลูบไล้ และปรนเปรอความสวาทให้แก่เอี๊ยะถัง“ขะ ข้าทำไม่ได้หรอก” เมื่อคลำหาเสียงตนเองพบนางจึงปฏิเสธ นางกลัว... ใช่ มันคือความรู้สึกที่ไม่อาจเป็นอื่นได้ เมื่อก่อนนางเคยอ่านพบเรื่องราวลึกลับของบุรุษในหนังสือมามิน้อย ได้เห็นภาพวาดการอุ่นเตียงจากหนังสือชุนกง ภาพเหล่านั้นและการบรรยายท่วงท่ากับลีลาอันโลดโผนนางยังระลึกถึงอยู่เสมอ ส่วนแท่งเนื้อของจริงเพิ่งจะเคยเห็นด้วยสองตาตนเองอย่างใกล้ชิด ยกเว้นยามที่นางหลับฝันถึงชายปริศนาเอี๊ยะถังมองหญิงสาวชั่วแวบหนึ่ง ก่อนหยิบถุงหอมจากอกเสื้อและส่งให้นางดมเขาไม่ได้ต้องการทำเรื่องชั่วช้าข่มเหงน้ำใจม่านซือซือ ทว่าหากไม่เร่งรั

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   4 ได้โปรดยั้งมือ (2)

    “หรือเป็นเพราะเจ้ารังเกียจที่พี่ต่ำต้อย” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ยอย่างตัดพ้อ เขารู้ว่าม่านซือซือจิตใจเมตตาและมีหัวก้าว หน้า นางจึงไม่อาจทนฟังคำพูดเช่นนี้จากเขา“ขะ ข้าเปล่า ใครจะกล้ากระทำเยี่ยงนั้น พี่ถังคือชายที่ข้าปรารถนาครองคู่กันไปจนแก่เฒ่า” นางเอ่ยจบจึงอายม้วนเอี๊ยะถังยิ้มพึงใจ ซึ่งเขาไม่อาจปล่อยให้สตรีที่ลักลอบมาพบกันที่สวนแปะก๊วยรอดพ้นมือไปได้ คืนนี้เขาเตรียมการไว้แล้ว นางต้องตกเป็นเมียเขาเท่านั้น!น่องเรียวขาวนวลถูกมือใหญ่หยาบกร้านลูบไล้ ก่อนเคลื่อนสัมผัสต้นขานางอย่างรวดเร็ว ความอุ่นซ่านเหมือนจะร้อนลวกมือเขา ร่างกายนางสั่นระริก ดวงตาดอกท้อมองเขาด้วยความสงสัยแกมอยากรู้ อีกทั้งริมฝีปากอิ่มสวยเผยออ้า ส่งลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รดเรือนกายแกร่งนางงามเช่นนี้ เขายิ่งหลงใหลจนอยากร่วมรักให้เร็วขึ้น เขาอยากกอด อยากทิ่มแทงนางด้วยท่อนเนื้อร้อนที่มีพิษร้ายกาจ“พี่ถัง ทะ ท่าน...หยุดมือก่อน”ชายหนุ่มดึงสติตนกลับ กระนั้นมือของเขาก็เจียนแตะลงบนกลีบสวาทที่อยู่ใต้ร่มผ้าของนาง ซึ่งเขาคะเนว่าพื้นที่ของนางคงอวบอูมและงดงามเหนือสตรีนางอื่น“เจ้าไม่ต้องการพี่รึ” เขาถามเสียงทุ้มๆ จงใจออดอ้อนนาง“ข้าเพียงแ

  • ทาสราคะองค์ชายใบ้   3 ได้โปรดยั้งมือ

    หลิวฟ่านหรี่ตามองม่านซือซือ ท่าทางนางเหมือนกำลังประเมินว่า อีกฝ่ายถูกจับขึ้นรถม้าคันนี้ได้อย่างไร“ตัวเจ้าเล่า เหตุใดถึงถูกจับตัวมา” หลิวฟ่านถาม“ขะ ข้า...มาเอาจดหมายให้ท่านพ่อที่หอดอกเหมย” ม่านซือซือเอ่ยจบ ก็เหมือนพึ่งพบความผิดปกติบางอย่าง ก่อนมองจดหมายในมือตน“ซือซือ เจ้าคงถูกบิดาหลอกอย่างมิต้องสงสัย ในมือเจ้าคงไม่ใช่จดหมายอันใด แต่เป็นสัญญาขายตัวเสียมากกว่า โถ... เด็กโง่เอ๋ย”“เอ จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านพ่อจะขายข้าให้ใคร!?”หลิวฟ่านไม่ได้ตอบ และนางปิดปากเงียบคล้ายถูกดึงเข้าสู่เรื่องดำมืด เป็นตอนนั้นที่ม่านซือซือคิดไม่ตก นางทบทวนหลายสิ่งตามลำพัง ก่อนค่อยๆ เปิดซองจดหมายและอ่านข้อความที่อยู่ข้างในสิ่งที่นางรับรู้ด้วยสองตาของตนมันคือความจริงเยี่ยงนั้นรึ สวรรค์ไยเล่นตลกกับนางถึงเพียงนี้ม่านเจิ้นขายนางให้กับคนอื่น เรื่องบัดซบเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร“ทะ ท่านพ่อ ขายข้าให้กับคฤหาสน์สัตตบงกช!”ม่านซือซือเอ่ยจบ นางก็เป็นลมหมดสติ ม่านซือซือสลบไปนานเท่าไหร่นางไม่แน่ใจนัก แต่ที่สะดุ้งตื่นเพราะถูกทาสหญิงตัวอ้วนกำลังป้อนยาเม็ดกลมๆ สีดำเหมือนถ่านเข้าปากนาง ทั้งที่พยายามขัดขืน แต่นางกลับสู

DMCA.com Protection Status