Share

บทที่4 ผลสะท้อนจากการกระทำของนาง

Author: zuey
last update Last Updated: 2024-12-25 06:46:43

          “ใครก็ได้ มาลากสตรีผู้นี้ออกไปขังไว้ในคุกใต้ดิน ข้าให้นางได้ขึ้นสวรรค์แล้วจากนี้ข้าจะให้นางได้รู้ว่านรกเป็นอย่างไร"

เซียวอี้เหิงแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว จึงสั่งให้คนไปตรวจสอบ นางไม่มีทางทำคนเดียวได้แน่จะต้องมีคนให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นนางจะรู้ได้ยังไงว่าเขาอาบน้ำเวลาไหน ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยามบ่าวรับใช้ชายที่ทำหน้าที่ชงชาและคนเฝ้าประตูเรือนก็ถูกลากตัวออกมา ทั้งสองสารภาพว่ารับเงินมาจากอวี้ซูเหยาเพื่อวางยาและบอกเวลาอาบน้ำของท่านอ๋อง

“ดียิ่งนัก กินข้าวในจวนของข้าแล้วยังร่วมมือกันคนอื่นมาลอบทำร้ายข้าใจกล้าไม่เบา เอาตัวสองคนนี้ไปตัดแขนและตัดลิ้น จากนั้นส่งพวกมันไปที่เรือนไผ่งาม” เสียงร้องขอความเมตตาจากทั้งสองคนดังระงมไปทั้งจวน ใครไม่รู้บ้างว่าเรื่อนไผ่งานที่มีชื่อไพเราะนี้คือหอโคมเขียวสำหรับบุรุษ ข้ารับใช้ในจวนต่างพากันหัวหดเพราะหวาดกลัวในความอำมหิตของชินอ๋องผู้นี้

เซียวอี้เหิง เมื่อนึกถึงตรีน่าตายที่อยู่ในคุกใต้ดินแล้วยิ่งมีใบหน้าถมึงทึงไม่น่ามอง เหล่าองครักษ์ ไม่เคยเห็นท่านอ๋องของพวกเขาโกรธมากขนาดนี้มาก่อน

“เวรกรรม” เสี่ยวหลันจื่อพึมพำออกมาเบาๆ นี่เราคงไม่ได้จะถูกทรมานจนตายอีกรอบหรอกนะ

เสี่ยวหลันจื่อที่กำลังจะร้องขอความเมตตา ก็ถูกแส้เฆี่ยนหลังอย่างแรง เธอเป็นคนที่มาจากโลกที่มนุษย์เท่าเทียมกันไหนเลยจะเคยเจอการทรมานแบบนี้

“ถอดเล็บเท้านางออกให้หมด” เสี่ยวหลันจื่อถึงกับขนลุกไปทั้งตัว เสียงเกรี้ยวกราดนี้เหมือนกับเสียงที่มาจากนรกขุมที่ลึกที่สุดที่เหมือนกำลังจะกระชากวิญญาณของเธอ

“ไม่นะ ระบบช่วยฉันด้วย” เสี่ยวหลันจื่อตะโกนออกไปสุดแรงเกิดที่นางมี แต่สิ่งที่คนอื่นได้ยินคือเสียงพึมพำเบาๆ

“นางกำลังพูดอะไร ตาแก่มาฟังซิ” หญิงชราขยับออกจากเตียงเล็กเพื่อเปิดทางให้สามีเข้ามาฟังว่าเด็กสาวที่นอนสลบไม่ได้สติกว่าสิบวันคนนี้พูดอะไร ก่อนที่ชายชรากำลังจะก้มลงฟังเสียงพึมพำจับใจความไม่ได้ เสียวหลันจื่อก็ลืมตาโพลงขึ้น ทำให้ชายชราตกใจจนผงะถอยหลังไป

“โอ้ ฟื้นแล้วหรือแม่หนู ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้าง ตาแก่รีบไปตามท่านหมอซูมาเร็ว บอกว่านางฟื้นแล้ว”

ชายชรารีบออกไปตามคำสังของฮูหยินเฒ่าของตน เสี่ยวหลันจื่อมองไปรอบๆ ห้องเล็กที่ตนเองกำลังนอนอยู่จึงได้รู้ว่าสิ่งที่ตนเห็นว่ากำลังถูกทรมานมันคือความฝัน ช่างเป็นความฝันที่เหมือนจริงมากอะไรอย่างนี้ น่ากลัวจริงๆ

“ที่นี่ที่ไหน......หรือเจ้าคะ” เสี่ยวหลันจื่อใช้เสียงที่แหบแห้งของตนเองถามหญิงชราข้างเตียง เพราะไม่ค่อยคุ้นเคยกับวิธีการพูดของคนยุคนี้จึงฟังแล้วค่อนข้างตะกุกตะกัก

“ที่นี่คือบ้านของข้าเอง หมู่บ้านเถาฮวาข้ากับตาแก่ขี่เกวียนผ่านมาเห็นเจ้าล้มฟุบอยู่ข้างทางจึงช่วยมาไม่นึกว่าจะบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ เจ้าสลบไปถึงสิบวัน ตอนแรกหมอซูบอกว่า ไม่มีหวังแล้ว ข้าคิดว่าไหน ๆ ก็ช่วยมาแล้วก็ช่วยให้ถึงที่สุดแล้วกัน”

“มาแล้วๆ ท่านหมอซูมาแล้วยายเฒ่า” ชายชรารีบเข้ามาในห้องพร้อมกับ ชายวันกลางคนอายุราวสี่สิบกว่าปี สะพายกล่องยาไว้ที่หัวไหล่ บ่งบอกว่าเขาคือหมอซูที่ชายชราพูดถึง

“ข้าขอตรวจชีพจรของเจ้าหน่อย” หมอซูนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง ไม่พูดพร่ำให้เสียเวลา เพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหญิงสาวคนนี้รอดมาได้อย่างไร ก็ในเมื่อตอนแรกชีพจรของนางอ่อนแรงรวมทั้งอาการบาดเจ็บสาหัสจนแทบจะเหมือนคนตาย

หมอซูหลับตาจับชีพจรของเสี่ยวหลันจื่อครู่หนึ่ง ก็โพล่งขึ้นว่า “ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ชีพจรของเจ้าเต้นไม่ต่างจากคนปกติทั่วไปเลย ทั้งๆ ที่บาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น ยังรอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์”

เสี่ยวหลันจื่อมองหมอซูที มองหญิงชราที “ข้าหายแล้วยังงั้นหรือ แล้วแผลที่หลังละ” เสี่ยวหลันจื่อเอื้อมมือไปสัมผัสที่หลังของตัวเองกลับพบว่ามันไม่เจ็บเลยสักนิดคลายกับว่าแผ่นหลังของนางไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน

“อืม .....คงจะหายจริงๆ ข้าไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ท่านหมอท่านเก่งมาก”

เสี่ยวหลันจื่อยิ้มพร้อมกับชมในฝีมือการรักษาของหมอซู หมอซูพยักหน้าพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ให้นางหนึ่งทีเพราะเขาไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพียงแค่รักษาตามอาการ ตอนที่เห็นบาดแผลครั้งแรกเขาตกใจแทบเป็นลม แผ่นหลังของนางถูกเฆี่ยนจนแตกยับเนื้อหนังเปื่อยยุ่ยออกมา แทบจะมองไม่ออกว่าเคยเป็นแผ่นหลังของมนุษย์

“เดี่ยวข้าจะเขียนเทียบยาบำรุงให้นางสักหน่อย ต้มให้นางกินอีกสักสิบวันนางก็หายเป็นปกติ” หลังจากเขียนเทียบยาเสร็จหมอซูก็จากไป

      “เจ้าสลบไปหลายวันคงจะหิวเดี๋ยวข้าเอาโจ๊กมาให้เจ้า กินสักหน่อยจะได้มีแรง” หญิงชรามองเสี่ยวหลันจื่อเล็กน้อยเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ผ่านไปหนึ่งเดือนเสี่ยวหลันจื่อยังคงพักอยู่กับสองสามีภรรยาผู้เฒ่าสกุลหลิว ชายชรามีชื่อเต็มว่าหลิวฝูไห่ และภรรยามีชื่อว่าสวีเหมยฮวา ทั้งสองมีอาชีพทำนา เมื่อก่อนผู้เฒ่าหลิวมีอาชีพล่าสัตว์ขายแต่หลังจากผู้เฒ่าหลิวถูกหมูป่าทำร้ายหญิงชราจึงขอร้องอ้อนวอนให้สามีของตนเลิกเข้าป่าล่าสัตว์ แล้วหันมาทำนาแทน ทั้งสองพอมีเงินเก็บอยู่บ้างจึงไม่ลำบากอะไร สองสามีภรรยาไม่มีลูกด้วยกันแต่ทั้งสองก็ยังอยู่ด้วยกันด้วยความรัก แม่เฒ่าสวีเคยคิดรับเลี้ยงเด็กสักคนแต่หลิวฝูไห่ผู้เป็นสามีบอกว่าอยู่ด้วยกันแค่สองคนก็ไม่เป็นไร เขาจะเป็นคนดูแลนางเอง แล้วทั้งสองก็อยู่ด้วยกันมากว่าสี่สิบปีแล้ว

      เสี่ยวหลันจื่อยังได้เล่าสาเหตุที่ตนเองถูกทำร้ายแบบบิดเบือนเล็กน้อย ให้แก่แม่เฒ่าสวีฟังว่าตนเคยเป็นสาวใช้ในจวนขุนนางแต่เพราะความงามของตนทำให้ถูกรังแกและถูกทำร้ายจนแทบเอาชีวิตไม่รอด หญิงชราก็เชื่อเสี่ยวหลันจื่อจนหมดใจ เพราะอวี้ซูเหยาร่างเดิมคนนี้มีใบหน้าและรูปร่างที่งดงามเป็นอย่างมาก ดวงตากลมโตดำขลับขนตางอนยาวเป็นแพราวปีกผีเสื้อ จมูกโด่งเชิดรั้นเล็กน้อย ใบหน้าเล็กเรียวรูปไข่ ผมดำยาวสยายนุ่มราวกับไหมชั้นดี รวมกับผิวขาวราวหิมะ รูปร่างอรชรอกอวบเอวเล็กคอด โดยรวมแล้วรูปร่างหน้าตาของอวี้ซูเหยา งดงามแบบฉบับที่สาวๆ แทบทั้งโลกใฝ่ฝันที่จะมี

ถึงแม้ใบหน้าจะซีดเซียวไปบ้างเพราะอาการบาดเจ็บแต่กลับไม่สามารถลดทอนความงามของนางได้เลย เสี่ยวหลันจื่อเห็นหน้าตัวเองในกระจกทองแดงครั้งแรกยังรู้สึกตกใจ ไม่แปลกใจเลยที่นางจะมีความมั่นใจในตัวเองว่านางจะสามารถมัดใจท่านอ๋องได้ แต่นางคำนวณผิดไปนิดเพราะอ๋องคนนี้ไม่เหมือนใคร ช่างเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจแถมยังอำมหิตอีกด้วย ถ้าหากว่าเป็นผู้ชายคนอื่นไม่แน่อาจจะวิ่งตามนางจนเบียดผู้หญิงคนอื่นจนตกขอบไปเลย ดูท่าว่าข่าวลือที่ท่านอ๋องเป็นพวกตัดแขนเสื้อจะเป็นเรื่องจริง

ตอนนี้นางคือเสี่ยวหลันจื่อไม่ใช่อวี้ซูเหยาอีกต่อไป จากนี้คงต้องวางแผนชีวิตให้ดีถึงเจ้าระบบจะบอกว่าให้เปลี่ยนเนื้อเรื่องให้สนุกและน่าสนใจขึ้นกว่าเดิมแต่นางเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ จะไปมีความสามรถอะไร ไม่มีทั้งอำนาจและเงินทอง อีกอย่างคงอาศัยสองสามีภรรยาผู้เฒ่าให้เลี้ยงดูนางตลอดไปไม่ได้ ต้องหาทางหาเงินก่อนเป็นอันดับแรก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่5 ขึ้นเขา

    เสี่ยวหลันจื่อตื่นแต่เช้ามาช่วยแม่เฒ่าสวีทำงานบ้านอย่างคล่องแคล่วคล้ายกับทำอย่างนี้จนเคยชินแล้ว เพราะชาติก่อนนางอาศัยอยู่กับตายยายในหมู่บ้านชนบท ต้องตื่นแต่เช้ามาช่วยงานบ้านก่อนไปเรียนเพราะยายของนางต้องเปิดร้านขายของจึงทำให้เสี่ยวหลันจื่อช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็กหลังจากทั้งสามทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้วเสี่ยวหลันจื่อ จึงบอกจุดประสงค์ของตนเองแก่แม่เฒ่าสวีว่าจะขึ้นเขาไปดูสักหน่อยว่าสามารถหาอะไรไปขายได้บ้าน ถ้าอิงจากนิยายแนวทะลุมิติหลายๆ เรื่องนางเอกส่วนมากก็เริ่มต้นจากการเข้าป่าหาสมุนไพรหรือไม่ก็ทำอาหารขายแต่เสี่ยวหลันจื่อรู้ว่าทำอาหารยังไง แต่ไม่ได้อร่อยจนต้องร้องว้าวขนาดนั้น ดังนั้นเรื่องการทำอาหารขายจึงถูกปัดตกไปเสี่ยวหลันจื่อลืมไปเรื่องหนึ่งคือตัวเองไม่ได้ทะลุมิติมาเป็นนางเอก และนางพึ่งจะถูกพระเอกของเรื่องฆ่าตายเมื่อเดือนที่แล้ว“เฮ่อ.....ยังไงก็ลองขึ้นไปดูสักหน่อยได้ไม่ได้ค่อยว่ากันทีหลัง”เสี่ยวหลันจื่อแบกตะกร้าสะพายหลังที่เห็นกันบ่อยๆ ในซีรี่ส์ย้อนยุคของจีนพร้อมด้วยมีดพกขนาดเหมาะมือที่เฒ่าหลิวเคยพกขึ้นเขาประจำและจอบอันเล็กเอาไว้ขุดผักป่าซึ่งเสี่ยวหลันจื่อยังไม่รู้เลยว่าผักป

    Last Updated : 2024-12-25
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่6 เจ้าเป็นตัวอะไร

    “ออกมานะ” เงียบ..... เจ้าร่างเล็กๆ สีแดงไม่ขยับนางจ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง จึงแอบย่องไปอีกด้านของต้นไม้เพื่อดูว่าเจ้าตัวเล็กนี่คือตัวอะไรทำไมถึงเดินตามนางมาทันทีที่เดินไปถึงสิ่งที่ปรากฏในสายตาของเสี่ยวหลันจื่อคือร่างเล็กกลมป้อมเท่ากำปั้นกำลังใช้ขาหน้าที่ปุกปุยปิดหัวเล็กๆ ของมันอยู่ นางมองด้วยความงงงันปนสงสัยว่า เจ้าตัวเล็กนี่กำลังทำอะไรดูเหมือนมันจะสัมผัสได้ว่ากำลังมีคนมองตัวเองอยู่จึงได้โผล่หัวเล็กๆ ที่มีดวงตาสีแดงกลมโตออกมา สี่ตามองสบประสานชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็หดหัวเข้าไปในอุ้งเท้าหน้าของตนอีกครั้งด้วยท่าทางเขินอายบิดก้นน้อยๆ ไปมาแต่ก็มิวายแอบมองนางเสี่ยวหลันจื่อนั่งลงยอง ๆ ใช้นิ้วจิ้มๆ เจ้าตัวเล็กที่มีลักษณะคล้าย กระรอกดินแต่กลับมีหางยาวเป็นพวงมีอุ้งเท้าปุกปุยเหมือนแมว“แกใช่ไหมที่ตามข้ามา เจ้าตัวเล็ก” เสี่ยวหลันจื่อยังคงใช้นิ้วจิ้มมันอยู่อย่างนั้น เจ้าสัตว์ตัวเล็กที่แสนประหลาด ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเสี่ยวหลันจื่อจึงเลิกสนใจมันแล้วลุกขึ้นเดินออกมา เพราะนางยังมีเป้าหมายคือการหาเงิน จะมาเสียเวลากับสัตว์เล็กๆ อยู่อย่างนี้ไม่ได้เจ้าสัตว์ตัวเล็กเหมือนรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวข

    Last Updated : 2024-12-25
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่7 ขายสมุนไพร

    เสี่ยวหลันจื่อลงมาจากภูเขาในตอนบ่ายแก่ๆ แล้ว ด้านหลังมีตะกร้าสมุนไพรที่เก็บมา ในอ้อมแขนยังอุ้มเจ้าสัตว์ตัวเล็กสีแดงเพลิงที่นางพึ่งจะตั้งชื่อให้มันว่าเสี่ยวหง เพราะขนมันสีแดงทั้งตัวแม้กระทั่งตาของมันก็มีสีแดงเสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูเดินเข้าไปในลานบ้านวางตะกร้าลงแม่เฒ่าสวีที่รอนางกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ ก็รีบเดินมาจับตัวนางหมุนไปหมุนมาเพื่อดูว่านางบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่“ท่านยาย ข้าไม่มีที่ไหนในร่างกายที่บาดเจ็บหรอกนะเจ้าคะ ท่านจับข้าหมุนไปหมุนมาจนเวียนหัวไปหมดแล้ว”“เจ้าเด็กคนนี้นี่ ก็ยายเป็นห่วงเจ้าไม่ใช่หรือไงถึงได้ทำแบบนี้ เอาล่ะ กลับมาเหนื่อยๆ พักผ่อนซะหน่อย หิวหรือไม่ให้ยาย ทำอะไรให้กินสักหน่อยไหม”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าไม่เหนื่อย อีกอย่างข้ากินซาลาเปาที่ท่านยายให้ข้าไปแล้ว” เสี่ยวหลันจื่อบอกแม่เฒ่าสวีแล้วยิ้มอย่างประจบเอาใจ“มาดูสมุนไพรที่ข้าเก็บมาดีกว่าเจ้าค่ะว่าสามารถขายได้หรือไม่” เสี่ยวหลันจื่อหยิบสมุนไพรหลายชนิดออกมาจากตะกร้า อาศัยช่วงที่แม่เฒ่าสวี มัวแต่ดูสมุนไพรหยิบเอาโสมออกมาจากไอเทมบ๊อกของนาง เสียงคุยกันของสองสตรี ดังไปถึงหลังบ้าน เฒ่าหลิวที่กำลังสานตะกร้าไม้ไผ่อยู่ถึงกับเดิน

    Last Updated : 2024-12-25
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่8 ตามหาศพ

    ผู้ดูแลเฉินเดินออกไปด้านหลังของเริ่นโส่วถัง ทะลุสนามหญ้าข้ามไปอีกฝั่งที่มีประตูบานใหญ่สีแดง ด้านในเป็นเรือนสี่ประสาน สวนตรงกลางถูกตกเเต่งอย่างสวยงามผู้ดูแลเฉินเดินเข้าไปในเรือนที่มีห้องหลักอยู่ตรงกลาง กระซิบบอกองครักษ์ร่างใหญ่ที่ยืนเฝ้าหน้าประตู ไม่นานองครักษ์ก็มาตามเขาให้เข้าไปข้างใน ผู้ดูแลเฉินเดินเข้าไปในห้องหลักจากนั้นเขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าชายหนุ่มผู้หนึ่งที่นั่งอยู่บนพื้นมีเบาะนุ่มรองอยู่เขาเอนกายชันเข่าพิงหมอนใบใหญ่ด้วยท่าทางเกียจคร้านผมยาวดำขลับคล้ายกับสีดวงตาที่ทั้งดำและดูลึกลับราวกับยามรัตติกาลไร้ที่สิ้นสุด ถูกรวบเอาไว้ด้านหลังอย่างหลวมๆ ดวงตาคมใต้เรียวคิ้วเข้มหนาที่โก่งรับกับจมูกโด่งเป็นสันสะกดสายตา ใบหน้า คมเข้มด้านข้างมองเห็นสันกรามได้อย่างชัดเจน ริมฝีปากบางที่เม้นน้อยๆ แลดูเอาแต่ใจ ไรหนวดที่ขึ้นเขียวบางๆ ทำให้ใบหน้าดูหล่อเหลาและยั่วยวนในเวลาเดียวกันลำคอยาวรับกับลูกกระเดือกที่ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะอย่างพอดี ผิวขาวผ่องดูเรียบลื่นของหน้าอกเลยลงไปถึงหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเป็นลอนอย่างสวยงามไม่มากไม่น้อยโผล่พ้นชุดดำที่เปิดอ้าออกคล้ายตั้งใจยั่วยวนผู้ที่ได้พบเห็นมือเรียวยาวที่โผล

    Last Updated : 2024-12-25
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่9 พบพระเอกในนิยาย

    ผู้ดูแลเฉินนำทางเสี่ยวหลันจื่อมาที่เรื่อนที่เซียวอี้เหิงพักอยู่หลังจากที่รายงานองครักษ์แล้วนางก็ยืนรอให้เจ้าของห้องอนุญาตให้เข้าพบ“ลึกลับจริงๆ” เสี่ยวหลันจื่อบ่นคนเดียวเบาๆ แต่ผู้ดูแลเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยังได้ยินเขาได้แต่หันมายิ้มแหยๆ ให้นางองครักษ์ที่เข้าไปรายงานออกมาบอกให้เสี่ยวหลันจื่อเข้าไป“ท่านไม่เข้าไปด้วยหรือ” เสี่ยวหลันจื่อหันมาถามผู้ดูแลเฉิน“นายท่านให้เชิญแม่นางเข้าไปคนเดียว ผู้ดูแลเฉินให้รอข้างนอก” องครักษ์เฝ้าหน้าประตูตอบ เสี่ยวหลันจื่อมีท่าทางลังเลเล็กน้อย“แม่นางเจ้าเข้าไปเถอะอย่าให้นายท่านต้องรอนาน ข้าจะรอยู่ข้างนอกนี่แหละ” เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้าจากนั้นก็เข้าประตูไปเสี่ยวหลันจื่อเดินเข้าไปในห้องใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างปรานีตงดงาม คิดในใจว่าคนๆ นี้จะต้องร่ำรวยขนาดไหนนะ ของที่ตกแต่งภายในห้องล้วนดูราคาแพง แค่ห้องนี้ห้องเดียวก็ใหญ่กว่าบ้านที่นางอยู่ถึงสามเท่าเสียงเคลื่อนไหวด้านในทำให้ เสี่ยวหลันจื่อหลุดจากความสนใจที่จะสำรวจห้องอันวิจิตรนี้ ด้านหน้าของนางมีฉากกั้นขนาดใหญ่วางอยู่ทำให้ไม่สามารถมองเห็นคนที่อยู่ข้างใน“แค่มาขายโสมเหตุใดต้องทำให้วุ่นวายขนาดนี้” เสี่ยวหลันจื่อพ

    Last Updated : 2024-12-25
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่10 ฝันถึงนาง

    ร่างเล็กในอ้อมแขนของเซียวอี้เหิงขยับเล็กน้อยและค่อยๆ ลืมตาตื่น เขากลัวว่านางจะจับได้ว่าเขาแอบมองนางตอนหลับ จึงหลับตาลงแกล้งหลับต่อไป เสี่ยวหลันจื่อขยับตัวบิดไปมาด้วยความเมื่อยขบ ตอนแรกนางถูกเขานอนกอดอยู่จึงพยายามแกะเขาออกแต่ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน เสี่ยวหลันจื่อเห็นว่าเขาคลายอ้อมกอดแล้วจึงค่อยๆ ลุกขึ้นและย่องออกไปกลัวว่าเขาจะตื่น“ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนป่านนี้ตากับยายคงเป็นห่วงแย่แล้ว”ทันทีที่เสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูออกมาก็พบเข้ากับองครักษ์ที่เฝ้าประตูสองคน แต่ไม่พบผู้ช่วยเฉิน“ผู้ดูแลเฉินล่ะ” เสี่ยวหลันจื่อมองซ้ายมองขวาเพื่อหาเขา แต่ไม่พบมีเพียงองครักษ์สองคนที่ยืนนิ่งหน้าตายอยู่หน้าประตู“ผู้ดูแลเฉินฝากมาบอกแม่นางว่าไม่ต้องเป็นห่วงตากับยายของท่านเขาจะดูแลให้เอง ถ้าหากว่าท่านออกมาจากห้องแล้วให้ไปพบเขาที่เริ่นโส่วถัง”องครักษ์รูปร่างสูงใหญ่ตอบนางด้วยเสียงเรียบนิ่ง สายตาไม่วอกแวกเหมือนหุ่นยนต์ เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้าแล้วเดินจากไปหลังจากเสี่ยวหลันจื่อ เดินออกจากห้องไป เซียวอี้เหิงก็ลืมตาขึ้นดวงตาสีดำนิลเป็นประกายคมกล้ามองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ฉีอู่” เซียวอี้เหิงเอ่ยเรียกเบาๆ ร

    Last Updated : 2024-12-29
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่11 ชายหนุ่มรูปงาม

    เซียวอี้เหิงพร้อมด้วยองครักษ์ทั้งสองฉีเหลยและฉีเยี่ยนยืนเด่นเป็นสง่าท่ามกลางหมู่ชาวบ้าน เสี่ยวหลันจื่อถึงกับกุมขมับด้วยความปวดหัวชาวบ้านในหุบเขาเหล่านี้ไหนเลยจะเคยเห็นชายหนุ่มรูปงามปานเทพเซียนเช่นนี้ สาวน้อยสาวใหญ่ต่างชำเลืองมองพวกเขาด้วยใบหน้าแดงซ่านระคนเขินอายแต่ก็ยังมิวายส่งสายตาเชิญชวนให้ชายหนุ่มหน้าตายสามคนที่เหมือนหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกพวกเขาคงยังไม่รู้ว่ามันคือความงดงามที่มาจากนรก เสี่ยวหลันจื่อเดินไปหาตายายของตนที่ยืนรวมกลุ่มอยู่กับเหล่าชาวบ้าน หาได้สนใจชายหนุ่มสามคนที่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ให้เหล่าชาวบ้านรุมล้อมอยู่“ตายาย พวกท่านมายืนทำอะไรที่นี่ ไปกินข้าวเถอะข้าหิวแล้ว" เสี่ยวหลันจื่อดึงแขนสองผู้เฒ่าเข้าบ้านโดยไม่สนใจว่ามีอีกคนที่มองตามนางตลอดด้วยสายตาเย็นเยียบ แต่เป็นแม่เฒ่าสวีที่สังเกตเห็น“จื่อเอ๋อ เหมือนพ่อหนุ่มรูปงาน คนนั้นจะมองเจ้าอยู่นะ” เสี่ยวหลันจื่อไม่หันไปมองเขาสักนิด “อยากมองก็มองไปสิ ไม่เมื่อยสายตาก็มองไปเลย”เสี่ยวหลันจื่อดึงตายายเข้าบ้านแล้วปิดประตูดังปัง ปิดกั้นทุกอย่างไว้ข้างนอก แต่ไหนเลยที่ประตูไม้แค่นั้นจะสามารถกั้นคนทั้งสามได้ เซียวอี้เหิงและองครักษ์ทั้งสอ

    Last Updated : 2024-12-29
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่12 หลานเขยผู้หล่อเหลา

    หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วเสี่ยวหลันจื่อจึงเดินเข้าบ้าน ตั้งแต่ตื่นมานางยังไม่ได้กินอะไรเลย หิวจนสามารถกินหมูเข้าไปทั้งตัวได้แล้ว“ท่านยายวันนี้มีอะไรกินบ้าง” แม่เฒ่าสวีที่ก่อนหน้านี้พาสามีไปแอบดูทั้งสองคนคุยกัน เพราะเป็นห่วงกลัวเขาจะทะเลาะกันรีบยิ้มเอาใจเสี่ยวหลันจื่อทันที“จื่อเอ๋อวันนี้ยายทำแต่ของโปรดเจ้าทั้งนั้นเลยนะ มาๆ นั่งลงเดี๋ยวยายตักข้าวให้”เสี่ยวหลันจื่อนั่งลงแต่โดยดี เมื่อลงมือกินข้าวเสี่ยวหลันจื่อเหลือบมองเซียวอี้เหิงที่นั่งหลังตรงท่าทางองอาจดั่งผู้สูงศักดิ์นั่งรับประทานอาหารในโรงเตี๊ยมชั้นสูง นางก็ถอนหายใจเบาๆ คนดูดีแม้แต่ตอนที่นั่งกินข้าวในสถานที่ซอมซ่อเช่นนี้ก็ยังเหมือนอยู่ในสถานที่ชั้นสูง“ต้องขออภัยท่านอ๋อง ที่ต้องให้มานั่งรับประทานอาหารในบ้านหลังเล็กซอมซ่อเช่นนี้ อาหารพื้นๆ ธรรมดาคงจะไม่ถูกปากท่านเท่าใดกระมัง” เสี่ยวหลันจื่อพูดจาเหน็บแนมเขาแต่เซียวอี้เหิงไม่ได้ตอบนาง เขาได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กเวลากินจะไม่พูด และกิริยาท่าทางของเขานั้นแสดงออกมาโดยธรรมชาติเพราะความสูงศักดิ์ของเขามันฝังลึกอยู่ในสายเลือดฮึ เสี่ยวหลันจื่อหมดอารมณ์ที่จะกิน นางวางตะเกียบทันทีแล้วยกช

    Last Updated : 2024-12-29

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ตอนพิเศษ2

    ตอนพิเศษ2“คิดจะพาลูกของข้าหนีไปที่ใด เจ้าตัวแสบ”เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากทางหน้าเรือนเสี่ยวหลันจื่อก็หันขวับไปทันที นางเห็นร่างสูงโปร่งที่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าเรือน บุรุษที่ เหล่อเหลาที่สุดของนางบุรุษที่นางคิดถึงอยู่ทุกวันแม้ในยามหลับฝัน บุรุษของนางกลับมาแล้ว เสี่ยวหลันจื่อวิ่งเข้าสู่อ้อมแขนที่กำลังยกขึ้นเพื่อรอรับนาง“ยินดีต้อนรับท่านอ๋องของข้า”เสี่ยวหลันจื่อยิ้มทั้งน้ำตา ในที่สุดเขาก็กลับมาอย่างปลอดภัย“ข้าคิดถึงท่านยิ่งนัก ทำไมท่านไม่ส่งจดหมายกลับมาหาข้าบ้างเลย”เซียวอี้เหิงลูบผมยาวนุ่มสลวยของนางอย่างแสนคิดถึง“ข้าได้อ่านจดหมายของเจ้าทุกฉบับ แต่ที่ข้าไม่ได้ตอบกลับมาก็เพราะข้าอยากมาตอบเจ้าด้วยตนเอง” เซียวอี้เหิงก้มลงจูบปากอวบอิ่มของสตรีที่เขารักประหนึ่งดวงใจ เนิ่นนานกว่าเขาจะปล่อยนางเป็นอิสระ“ข้ากลับมาแล้วชายารัก ข้าก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน”เสี่ยวหลันจื่อโผเข้ากอดร่างสูงอีกครั้งอย่างมีความสุข หลังจากที่ทุกคนกลับมาก็ได้รับข่าวดีว่าเสี่ยวหลันจื่อตั้งครรภ์ แม้แต่ผู้ปกครองทั้งวังหน้าและวังหลังก็ยังส่งของมาร่วมยินดีกับว่าที่บิดามารดามือใหม่ที่จวนอ๋อง แต่เจ้าของจวนทั้งสองกลับไม่มีใครอ

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ.......เซียวอี้เหิงได้รับสามรลับมาจากชายแดนว่าแคว้นฉู่ได้ยกทัพมาประชิดชายแดนเมืองชิงโจวแล้ว สี่ยวหลันจื่อที่รู้เข้าก็ตกใจอดีต รัชทายาทถูกจับกุมแล้วตระกูลกู้ก็ถูกประหารแล้วเหตุใดสงครามยังมีอยู่อีก แสดงว่านางไม่สามารถเปลี่ยนเนื้อเรื่องทั้งหมดได้ เสี่ยวหลัน จื่อเดินวนไปวนมานางกำลังกังวลเรื่องสงคราม แต่เซียวอี้เหิงกลับมีท่าทีสบายๆ“ท่านไม่กังวลใจเลยหรือ สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนะเหตุใดท่านจึงยังสบายอกสบายใจได้อยู่อีก”เสี่ยวหลันจื่อเอ็ดเซียวอี้เหิงเสียงเขียว นางกังวลใจจะตายอยู่แล้วเจ้าตัวที่ต้องนำทหารออกรบกลับยังทำหน้าระรื่นอยู่อีก“จื่อเอ๋อเจ้าจะกังวลไปใย การลงสนามรบของข้าก็เป็นเพียงการคืนสู่เหย้าเท่านั้น ฉู่หมิงเทียนจะทำอันใดได้ ดูท่าจะยังไม่รู้เรื่องที่พันธมิตรของเขาล่มไปแล้ว ข่าวสารแคว้นฉู่ช่างล่าช้าเสียจริง”ความจริงเซียวอี้เหิงให้คนของเขาสกัดสายลับของแคว้นฉู่เอาไว้ไม่ให้ส่งข่าวไปที่รัชทายาทฉู่หมิงเซียว เขาอยากจะใช้สงครามครั้งนี้กำหราบเจ้าโง่ที่ชอบอวดตัวว่าตนเองแข็งแกร่งทั้งที่รู้เรื่องการรบแค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น ทั้งยังเอาแต่ยั่วยุทหารของเขาที่ชิงโจวแต่กลับไม่กล้าสู้กันซึ่ง

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายเซียวอี้เหิงพาเสี่ยวหลันจื่อกลับไปที่จวน เขาขังนางเอาไว้ในห้องกับตนเองถึงห้าวันเพื่อเป็นการลงโทษเสี่ยวหลันจื่อขอร้องเขาอย่างไรเซียวอี้เหิงก็ไม่ใจอ่อน แม้นางจะบีบน้ำตาก็ตาม จะไม่ให้เสี่ยวหลันจื่ออ้อนวอนเขาได้อย่างไรการลงโทษของเซียวอี้เหิงนั้นช่างวาบหวิวน่าอายนัก เจ้าคนเย็นชานี่ไม่นึกเลยว่าเมื่อได้ลองเรื่องนี้แล้วจะติดใจจนแทบไม่ปล่อยนางลงจากเตียง ไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรียวแรงมากที่ใดเคี่ยวกรำเสี่ยวหลันจื่อทั้งวันทั้งคืนนจนนางระบบไปหมดแล้วเขาคิดว่าตนเองแค่เล็กๆ อย่างนั้นหรือ“ท่านอ๋องข้าขอร้อง ข้ารับไม่ไหวแล้วส่วนล่างของข้าระบมไปหมดแล้ว” เสี่ยวหลันจื่อโอดครวญเสียงหวาน“ข้าเคยได้ยินท่านหมอบอกว่าเมื่อเราเป็นแผลที่ใดให้ใช้น้ำลายแตะก็จะหายเร็ว มาเถอะชายารักข้าจะใช้น้ำลายช่วยรักษาให้เจ้าเอง”เซียวอี้เหิงจับขาทั้งสองข้างของเสี่ยวหลันจื่อชันขึ้นแล้วเขาก็ก้มตัวลงไปละเลงลิ้นบนความชุ่มฉ่ำของนางรียกเสียงครางหวานออกมาจากริมฝีปากแดงช้ำเพราะถูกจูบเซียวอี้เหิงจูบจนนางแทบสำลักลมหายใจเสี่ยวหลันจื่อตอนนี้ในหัวของนางขาวโพลน ไม่รู้ว่าเซียวอี้เหิงวางยาอะไรนางแต่ตอนนี้นางต้องการเขาให้เติมเต็มส่วนล่า

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ภาพจำสุดท้าย

    เสี่ยวหลันจื่อร้อนใจเป็นอย่างมากรีบพาเซียวอี้เหิงกับองครักษ์หลายนายตรงไปที่เรือนหลังหนึ่งทางทิศใต้ของเมืองหลวง เรือนหลังนี้ไม่โดดเด่นนักเหมือนกับเรือนหลังอื่นในระแวกนี้ แต่ครั้งก่อนที่นั่นมีทางลับที่องค์ชายสามทำเอาไว้ เขาไม่มีโอกาสได้ใช้แต่เป็นกู้รั่วอวิ๋นต่างหากเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนยังไม่มีผู้ใดเข้ามาที่นี่ เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ถ้ามีคนมาที่นี่จะต้องมีรอยเท้าอย่างแน่นอน“นางยังมาไม่ถึงที่นี่ อาจเพราะมีทหารออกค้นหาทั่วเมืองจึงทำให้นางไม่สะดวกประกฏตัว” เซียวอี้เหิงวิเคราะห์“จื่อเอ๋อ เจ้ากลับไปรอฟังข่าวที่จวนดีหรือไม่ที่นี่อันตรายนัก หากกู้รั่วอวิ๋นกับพวกของนางมาที่นี่จะต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นแน่”เสี่ยวหลันจื่อทำท่าไม่ยินยอม นางอยากเห็นกับตาว่ากู้รั่วอวิ๋นถูกจับไม่อย่างนั้นนางไม่สบายใจ“ท่านอ๋องคนของเรามากเพียงนี้ยังต้องกลัวนางอีกหรือ ท่านให้ข้าอยู่ที่นี่เถอะ ข้ารับรองจะอยู่ด้านหลังตลอดไม่ทำตัวเป็นฮีโร่แน่”เซียวอี้เหิงถอนหายใจอย่างจนใจกับความดื้อดึงของเสี่ยวหลันจื่อแม้เขาจะไม่รู้ว่าฮีโร่คือสิ่งใดเเต่เขาก็ยอมตามใจนาง “เช่นนั้นเจ้าอย่าออก

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   จับกุม

    “ท่านยาย”ประโยคแรกที่เสี่ยวหลันจื่อเอ่ยขึ้นหลังจากที่นางได้สติ เสี่ยวหลันจื่อโผเข้าหาแม่เฒ่าสวีทันทีกอดนางร้องไห้ออกมาเสียงดังจนทุกคนในเรือนตกใจ พวกเขาสงสัยว่านางเป็นอะไรหลังจากที่ตื่นเหตุใดจึงได้ร้องไห้คร่ำครวญเพียงนั้น แม่เฒ่าสวีทำอะไรไม่ถูก็ได้แต่กอดปลอบนาง เซียวอี้เหิงสังเกตทุกอิริยาบทของเสี่ยวหลันจื่อ ตอนแรกเขาคิดว่านางกำลังละเมอแต่ว่าไม่ใช่“แม่นางเจ้า.....รู้จักข้าหรือ” เม่เฒ่าสวีถามเสี่ยวหลันจื่ออย่างไม่เเน่ใจหลังจากที่นางตั้งสติได้แล้ว เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้าให้แม่เฒ่าสวีอย่างจริงจัง“ไม่เพียงแต่ท่านที่ข้ารู้จัก ข้ารู้ยังจักทุกคนเกินครึ่งหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าท่านไม่เชื่อข้าสามารถบอกชื่อพวกเขาให้ท่านฟังได้นะ”เเล้วเสี่ยวหลันจื่อก็เอ่ยชื่อของชาวบ้านที่นางรู้จักบางคนแม้กระทั่งว่าบ้านของพวกเขาตั้งอยู่ตรงไหนของหมู่บ้านนางก็สามารถบอกได้ถูก แม่เฒ่าสวีรู้สึกอัศจรรย์ยิ่งนัก แม้แต่เซียวอี้เหิงที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ยังคล้อยตาม“ข้าดีใจจริงๆ ที่พวกท่านทั้งหมดยังอยู่ ข้าสัญญาว่าจะต้องปกป้องท่านเอาไว้ให้ได้” แม้แม่เฒ่าสวีจะยังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มให้กับท่าทางที่น่

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้ากลับมาแล้ว

    เมื่อเสี่ยวหลันจื่อหลับไป ภายในความฝันร่างของนางค่อยๆ ล่องลอยไปไกล จนถึงสถานที่แห่งหนึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาตอนนี้นางกำลังยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่นางรู้สึกคุ้นเคยเสี่ยวหลันจื่อไม่รู้ว่านั่นเป็นบ้านของใครแต่นางกลับรู้สึกคิดถึงที่นี่มาก คล้ายกับว่าตนเองเคยอยู่เมื่อนานมาแล้ว นางผลักบานประตูที่ทำจากไม้เนื้อแข็งดูเก่าเหมือนจะถูกสร้างมานานหลายปีแล้วแต่ยังดูเเข็งเเรงเมื่อเดินเข้าไปในบ้านเสี่ยวหลันจื่อเห็นต้นอู๋ถงที่ล้านหน้าบ้านออกดออกบานสะพรั่งสวยงาม นางเดินไปเก็บดอกที่หล่นบนพื้นขึ้นมาดม เสียงพูดคุยภายในเรื่อนหลังน้อยแต่ดูอบอุ่นเรียกความสนใจของเสี่ยวหลันจื่อให้หันไป นางเดินตามเสียงนั้นผ่านห้องโถงเลยไปจนถึงห้องครัวนางพบสองผู้เฒ่าวัยชราที่กำลังถกเถียงกันอยู่เหมือนสองผู้เฒ่าจะรู้การมาของนางทั้งสองหันมายิ้มให้เสี่ยวหลันจื่อและพูดกับนางบางอย่าง แต่เสี่ยวหลันจื่อไม่ได้ยิน นางพยายามที่จะฟังแต่เหมือนเสียงนั้นจะค่อยๆ ห่างไกลออกไปนางรู้สึกเหมือนจะขาดใจเสี่ยวหลันจื่อร้องไห้ออกมาพร้อมทั้งตะโกนเรียกทั้งสองคนเสียงดัง“จื่อเอ๋อ! จื่อเอ๋อ! ตื่นร็วเกิดอะไรขึ้น” เป็นเซียวอี้เหิงที่เขย่าตัวปลุก

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   นอนกับข้าเถอะ

    เซียวอี้เหิงลุกจากเตียงเพื่อล้างหน้าชำระกายเขายังมีเรื่องที่ต้องทำหลายอย่างในวันนี้ เเต่ยังเรียกฉีหลิงให้มาดูแลเสี่ยวหลันจื่ออีกด้วยตอนเช้าทั้งสองรับประทานอาหารร่วมกันก่อนเขาจะขี่ม้าออกจากจวนไป เสี่ยวหลันจื่ออยู่ที่จวนไม่มีอะไรให้ทำนางจึงให้ฉีหลิงพานางเดินชมรอบๆ จวนตลอดทางที่ทั้งสองเดินผ่านบรรดาข้ารับใช้ต่างทำความเคารพนาง พวกเขาได้ข่าววแล้วว่าเมื่อคืนสตรีที่ถูกส่งมาจากในวังนอนห้องเดียวกับท่านอ๋อง อีกทั้งยังเป็นท่านอ๋องที่บังคับพานางไปยังมีข่าวลืออีกอย่างว่านางร้องไห้อยากกลับไปที่วังหลวงแต่ท่านอ๋องไม่ยินยอมจึงบังคับพานางขึ้นเตียง ข้ารับใช้บางคนมองเสี่ยวหลันจื่อด้วยสายตาสงสาร ที่หญิงสาวผู้อ่อนแอต้องมาเจอความป่าเถื่อนของนายเหนือหัวของพวกเขา เรื่องข่าวลือทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจวนเซียวอี้เหิงและเสี่ยวหลันจื่อไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อยข้ารับใช้ในจวนต่างคิดว่าเสี่ยวหลันจื่อจะต้องเป็นที่โปรดปรานของท่านอ๋องเป็นอย่างมาก เพราะท่านอ๋องที่ไม่เคยเข้าใกล้สตรีถึงขั้นต้องบังคับนางขึ้นเตียงเลยทีเดียวทั้งสองเดินมาถึงห้องครัวใหญ่ที่ทำหน้าที่ส่งอาหารไปที่เรือนหลักในทุกวันเสี่ยวหลันจื่อก็นึกถึงลี่ปี้ที่

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   สาวใช้ส่วนตัว

    เซียวอี้เหิงส่ายหัวให้กับความสำออยของนางแต่ไม่รู้ทำไมเขากลับไม่โมโหนางอย่างที่ควรจะเป็น ถ้าเป็นตามปกติข้ารับใช้ที่แสดงกิริยาเช่นนี้กับเขาจะต้องถูกโบยจนหลังแตกหมดแล้ว แต่กับนางเขากลับรู้สึกว่าอยากตามใจหรือไม่ก็อยากเอาใจนางไม่อยากให้นางหงุดหงิดหรือโมโหนี่มันเป็นความรู้สึกที่บ้ามากสำหรับคนที่พึ่งเคยพบกันเพียงสองครั้ง เซียวอี้เหิงก้มตัวลงมาที่เสี่ยวหลันจื่อใช้แขนแข็งแรงช้อนร่างเล็กของนางขึ้น จากนั้นออกเดินไปอย่างเป็นธรรมชาติคล้ายกับว่าเขาเคยทำเช่นนี้ให้กับนางมานับครั้งไม่ถ้วนเสี่ยวหลันจื่อตกใจจนต้องรีบใช้แขนคล้องคอของเขาเอาไว้เพราะกลัวว่าตนเองจะตก ที่นางตกใจกว่าคือชินอ๋องผู้สง่างามกำลังอุ้มนางกำนัลตัวเล็กๆ เช่นนาง“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันเดินเองได้ปล่อยหม่อมฉันลงเถอะคนอื่นมองกันหมดแล้วนี่มันไม่ดีต่อภาพลักษณ์ของท่านนะ”ไม่ใช่ว่าคาแรคเตอร์ของท่านต้องเย็นชาโหดเหี้ยมอะไรทำนองนั้นหรือ แล้วนี่มาอุ้มกันแบบนี้ต่อไปจะอยู่ที่จวนชินอ๋องได้ยังไงนางอายจริงๆ นะ เสี่ยวหลันจื่อหัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ นี่ก็เป็นครั้งแรกของนางเหมือนกันที่ถูกผู้ชายอุ้มในท่าเจ้าหญิงเช่นนี้ไม่นับรวมคุณตาที่โลกก่อนอุ้มนางต

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   หญิงสาวริมสระบัว

    เสี่ยวหลันจื่อ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนเองยืนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวห้องเดิม“ระบบฉันกลับมาแล้วฉันพร้อมแล้วคุณจะบอกฉันได้หรือยังว่าบทลงโทษของการรีเซ็ตเรื่องราวทั้งหมด คืออะไร”เสี่ยวหลันจื่อยืนนิ่งเพื่อรอคำตอบ“ไม่ต้องร้อนใจไปเมื่อถึงเวลาคุณก็จะรู้เองทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุดเถอะแล้วพบกันใหม่”สิ้นเสียงของระบบร่างของเสี่ยวหลันจื่อ ก็ถูกดูดออกจากห้องนั้นไปทันที ในสระบัวของอุทยานภายในวังหลวงมีร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งค่อยๆ จมลงไปที่ก้นสระ เสี่ยวหลันจื่อลืมตาขึ้นพบว่าตนเองอยู่ในน้ำและกำลังจะจมลงไปเธอจึงรีบตะเกียกตะกายขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดไอ้ระบบเฮงซวยไร้หัวใจเสี่ยวหลันจื่อสาปแช่งระบบในใจ นี่ให้ฉันมาเกิดใหม่เพื่อจะฆ่าให้ตายอีกรอบใช่ไหม นางพึ่งจะถูกแทงมานะครั้งที่สองคิดจะให้จมน้ำตายหรือไง เสี่ยวหลันจื่อรีบว่ายเข้าหาฝั่งทันที เธอนั่งหอบหายใจอย่างหมดเเรงเพราะเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้มันดูรุ่มร่ามไปหมดเสี่ยวหลันจื่อหยิบหนังสือนิยายออกมาจากระบบเพื่ออ่านเนื้อเรื่อง ยังไงก็ต้องหาข้อมูลของนิยายเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เธอไม่อย่ากต้องมาโผล่ในนิยายปุ๊บแล้วตายทันทีหรอกนะ ทันทีที่มือเสี่ย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status