แชร์

บทที่10 ฝันถึงนาง

ผู้เขียน: zuey
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-29 10:12:50

ร่างเล็กในอ้อมแขนของเซียวอี้เหิงขยับเล็กน้อยและค่อยๆ ลืมตาตื่น เขากลัวว่านางจะจับได้ว่าเขาแอบมองนางตอนหลับ จึงหลับตาลงแกล้งหลับต่อไป เสี่ยวหลันจื่อขยับตัวบิดไปมาด้วยความเมื่อยขบ ตอนแรกนางถูกเขานอนกอดอยู่จึงพยายามแกะเขาออกแต่ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน เสี่ยวหลันจื่อเห็นว่าเขาคลายอ้อมกอดแล้วจึงค่อยๆ ลุกขึ้นและย่องออกไปกลัวว่าเขาจะตื่น

“ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนป่านนี้ตากับยายคงเป็นห่วงแย่แล้ว”

ทันทีที่เสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูออกมาก็พบเข้ากับองครักษ์ที่เฝ้าประตูสองคน แต่ไม่พบผู้ช่วยเฉิน

“ผู้ดูแลเฉินล่ะ” เสี่ยวหลันจื่อมองซ้ายมองขวาเพื่อหาเขา แต่ไม่พบมีเพียงองครักษ์สองคนที่ยืนนิ่งหน้าตายอยู่หน้าประตู

“ผู้ดูแลเฉินฝากมาบอกแม่นางว่าไม่ต้องเป็นห่วงตากับยายของท่านเขาจะดูแลให้เอง ถ้าหากว่าท่านออกมาจากห้องแล้วให้ไปพบเขาที่เริ่นโส่วถัง”

องครักษ์รูปร่างสูงใหญ่ตอบนางด้วยเสียงเรียบนิ่ง สายตาไม่วอกแวกเหมือนหุ่นยนต์ เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้าแล้วเดินจากไป

หลังจากเสี่ยวหลันจื่อ เดินออกจากห้องไป เซียวอี้เหิงก็ลืมตาขึ้นดวงตาสีดำนิลเป็นประกายคมกล้ามองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ฉีอู่” เซียวอี้เหิงเอ่ยเรียกเบาๆ ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำทมิฬโผล่เข้ามาในห้องทันทีอย่างรวดเร็วราวกับเล่นกล เขาคุกเข่าลงรอรับคำสั่ง

“ไปสืบมา ว่านางอาศัยอยู่กับใครที่ไหนหลังจากที่นางถูกทิ้งไว้ที่สุสานร้าง”

” พ่ะย่ะค่ะ” ฉีอู่รับคำก่อนอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย

เสี่ยวหลันจื่อหลังจากที่ออกจากห้องของเซียวอี้เหิงก็เดินตรงดิ่งไปที่เริ่นโส่วถังทันที และถามหาตากับยายของตนผู้ดูแลเฉินที่รู้ว่าเสี่ยวหลันจื่อออกมาแล้ว ก็รีบมาต้อนรับทันที

“แม่นางอวี้” ยังไม่ทันที่ผู้ดูแลเฉินจะได้พูดอะไร เสี่ยวหลันจื่อก็ถามหาตายายของนางทันที

“ท่านตากับท่านยายของข้าล่ะผู้ดูแลเฉิน”

“แม่นางโปรดตามมา” ผู้ดูแลเฉินพาเสี่ยวหลันจื่อไปห้องรับรองอีกฝั่งของเริ่นโส่วถังเมื่อเปิดประตูเข้าไปจึงพบผู้เฒ่าหลิวกับแม่เฒ่าสวีกำลังนั่งคุยกันอยู่

“จื่อเอ๋อ” แม่เฒ่าสวีที่นั่งกังวลมาตลอดว่าจะเกิดเรื่องกับหลานสาวที่ตนพึ่งจะได้มาจึงรีบดินเข้าไปจับตัวนางหมุนไปหมุนมาเพื่อสำรวจดูว่านางเป็นอะไรหรือไม่

“ท่านยายท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าไม่เป็นอะไร ข้าสายดี พวกท่าทั้งสองล่ะ” เสี่ยวหลันจื่อถามออกไป

“เราสองคนจะเป็นอะไรได้นอกจากกินกับนอนแล้วก็นับเงิน นี่มาดูนี่สิจื่อเอ๋อ” แม่เฒ่าสวีดึงมือเสี่ยวหลันจื่อมาดูตั๋วเงินที่ตนได้รับมาจากการขายสมุนไพรและโสมภูเขาด้วยความตื่นเต้น

“ทั้งชีวิตนี้ของข้าไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนถือว่าเกิดมาไม่เสียชาติเกิดแล้ว” ผู้เฒ่าหลิวเอ่ยออกมาอย่างเลื่อนลอยเมื่อมองไปที่ตั๋วเงิน

“นี่แน่ะตาแก่ นี่มันเงินที่จื่อเอ๋อหามานะ ไม่ใช่ของแกซะหน่อย” แม่เฒ่าสวีเอื้อมมือไปตีแขนสามีคู่ยากของตนแรงๆ

“โถ่ยายแก่นี่ ขอข้าฝันหวานอีกสักหน่อยก็ไม่ได้” ผู้เฒ่าหลิวบ่นกะปอดกะแปดแต่ก็ยอมให้แม่เฒ่าสวีตีอย่างโดยดี เสี่ยวหลันจื่อหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นางรู้สึกมีความสุขยามมองสองผู้เฒ่าทะเลาะกันทำให้นึกถึงตายายในโลกก่อน

ช่างเป็นการแสดงความรักของคนสองคนที่แปลกประหลาด ถึงแม้จะทะเลาะกันทุกวัน แต่เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายก็จะถามหาทันที ถึงจะทะเลาะกันทุกวันแต่ก็อยากให้อีกฝ่ายอยู่ในสายตาตลอดเวลา ทั้งยามกินและยามนอน

นี่น่าจะเรียกว่าอยู่ด้วยกันทั้งยามทุกข์และยามสุขหรือไม่นะ แล้วตัวนางล่ะจะมีวาสนาได้มีคนที่อยู่ด้วยกันทั้งยามทุกข์และยามสุขไหม

ผู้ดูแลเฉินหลังจากที่มาส่งเสี่ยวหลันจื่อและผู้เฒ่าทั้งสองกลับไปเขาก็กลับไปที่เรื่อนของเซียวอี้เหิงอีกครั้ง เพื่อรายงาน

“พวกเขากลับไปแล้วขอรับ”

“อืม” ซียวอี้เหิงรับคำเบาๆ เขาไม่ได้สนใจนางอีกต่อไป เพราะคิดว่าความฝันที่ตามหลอกหลอนตนนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว เขาโบกมือเบาๆ เป็นการบอกว่าให้ผู้ดูแลเฉินออกไป หลังจากได้นอนหลับจนเต็มอิ่มเซียวอี้เหิงก็มีใบหน้าสดชื่นและอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด

เขากลับไปที่จวนอ๋องอีกครั้งหลังจากออกจากเมืองหลวงเพื่อตามหาอวี้ซูเหยา เหล่าข้ารับใช้ที่ใช้ชีวิตในจวนอ๋องอย่างระวังเนื้อระวังตัวไม่กล้าแม้แต่จะผายลม ก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที ที่ได้เห็นนายเหนือหัวของพวกเขากลับมามีใบหน้าที่แจ่มใสอีกครั้งหลังจากอาละวาดแทบจะกวาดล้างทั้งจวนให้พังพินาศเพราะโรคไม่สามารถนอนหลับได้ซึ่งมีเพียงองครักษ์คนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องราวที่แท้จริง

เซียวอี้เหิงที่พึ่งกลับมาก็อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัดถึงแม้เขาจะไม่ได้ยิ้มหรือหัวเราะออกมาแต่บรรยากาศรอบตัวของเขากลับดูเปลี่ยนไปจากเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว ไม่อึมครึมอีกต่อไปวันนี้เซียวอี้เหิงเข้าร่วมการประชุมราชสำนักอย่างเห็นได้ยาก

แม้เขาจะนั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดการประชุม แต่ทุกคนก็มองออกว่าเขาอารมณ์ดี แม้กระทั่งฮ่องเต้หมิงหยวนยังสงสัยว่าเขาไปทำอะไรมา หลังจากกการประชุมจึงมีรับสั่งให้เซียวชินอ๋องเข้าเฝ้าในห้องทรงงาน

“ดูเหมือนวันนี้เจ้าจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ”

“พ่ะย่ะค่ะ” เซียวอี้เหิงตอบเสียงเรียบนั่งคลึงจอกชาไปมาก่อนจะยกขึ้นจิบนี่เป็นนิสัยส่วนตัวของเขาไม่ว่าจะดื่มเหล้าหรือดื่มชาเขามักจะหมุนคลึงไปมาก่อนดื่มเข้าไป

“เราได้ยินมาว่าครึ่งเดือนก่อนเสด็จแม่ให้ขันทีจางไปเชิญท่านเจ้าอาวาสเสวียนคงมาที่จวนของเจ้า”

“พ่ะย่ะค่ะ” เซียวอี้เหิงยังคงตอบเสียงเรียบเช่นเดิม ฮ่องเต้หมิงหยวนถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เจ้าเด็กคนนี้ตั้งแต่ถูกสั่งให้กลับมาจากสนามรบก็ไม่เคยสนใจงานราชการ เอาแต่เตร็ดเตร่ไปมามอบหมายให้ทำอะไรก็ไม่เคยสนใจ

“อาเหิงเจ้ายังโกรธเราอยู่หรือ ที่สั่งให้เจ้ากลับมาเมืองหลวง” ฮ่องเต้สังเกตใบหน้าที่เหมือนกับเขาตอนยังหนุ่มถึงเจ็ดส่วน

“เจ้าก็อายุยี่สิบห้าแล้วควรแต่งงานมีครอบครัว เสด็จแม่เป็นห่วงเจ้ามากนะ”

เซียวอี้เหิงยังคงนั่งนิ่ง ฮ่องเต้หมิงหยวนถอนหายใจอีกครั้ง จากนั้นจึงบอกให้น้องชายคนเล็กที่แสนเย็นชาและดื้อรั้นของเขาออกไป

คืนนั้น เมื่อเซียวอี้เหิงหลับไปความฝันนั้นก็กลับมาอีกครั้งและดูเหมือนจะรุนแรงยิ่งกว่าเดิม อวี้ซูเหยาที่ร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นโครงกระดูกสีแดงที่ชุ่มไปด้วยเลือดกำลังกอดเกี่ยวร่างกายของเขา ทุกส่วนที่นางสัมผัสล้วนเกิดรอยแผลความเจ็บปวดทำให้เซียวอี้เหิงตื่นขึ้น

จึงพบว่าตอนี้สว่างแล้วร่างกายของเขาเปียกชุ่มไปหมดเขาเรียกองครักษ์ข้างกายเข้ามา ฉีเยี่ยนรีบเปิดประตูเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นนาย ภาพที่เห็นทำให้เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

“ท่านอ๋องเกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ” ฉีเยี่ยนรีบเข้ามาดูเซียวอี้เหิง แม้เขาจะใส่ชุดนอนสีดำแต่ร่องรอยรอบเตียงเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด และที่เขาคิดว่าร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อนั้นมันคือเลือดของเขาเอง ฉีเยี่ยนรีบเรียกหมอให้เข้ามารักษาและสั่งการองครักษ์ตรวจสอบกลัวว่าจะมีคนร้ายลอบเข้ามาทำร้ายท่านอ๋อง

“ท่านอ๋องเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนมีคนร้ายลอบเข้ามทำร้ายท่านหรือพ่ะย่ะค่ะ” ฉี่เยี่ยนร้อนใจรีบถามออกไป

เซียวอี้เหิงส่ายหัว “เปล่า”

“แล้วเหตุใดท่านถึงได้บาดเจ็บหนักเช่นนี้”

เซียวอี้เหิงถอนหายใจ โบกมือไล่หมอที่มารักษาแผลออกไป

“นางกลับมาอีกแล้ว”

“นางหรือพ่ะย่ะค่ะ ไม่ใช่ว่ารักษาหายแล้วหรือ เหตุใดคราวนี้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม”

เซียวอี้เหิงส่ายหัวด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ข้าก็ไม่รู้”

เสี่ยวหลันจื่อที่กลับมามีชีวิตปกติสุขอีกครั้งผ่านไปหนึ่งวันแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นดูเหมือนว่าชินอ๋องผู้นี้จะไม่ติดใจเอาความนางแล้ว

ถึงเวลาที่นางต้องเสวยสุขกับความร่ำรวย เสี่ยวหลันจื่อนำเงินหนึ่งร้อยตำลึงแลกเป็นตั๋วเงินสิบตำลึงสิบใบให้ตายายเก็บไว้ใช้ในบ้าน ส่วนอีกหนึ่งพันตำลึงนางให้ตานำไปฝากไว้ที่ร้านแลกเงิน ตัวนางถือเอาไว้สี่ร้อยตำลึง

ตอนแรกผู้เฒ่าทั้งสองปฏิเสธเพราะนี่เป็นเงินของเสี่ยวหลันจื่อ พูดยังไงก็ไม่ยอมรับท่าเดียวจนนางต้องงัดวิชาการแสดงร้องห่มร้องไห้ที่เคยเห็นในละครออกมาใช้ ผู้เฒ่าทั้งสองจึงได้ยอมรับเงินไว้เเต่โดยดี และบอกนางว่าต้องการใช้เงินเมื่อไหร่ให้บอกพวกเขาทันที

พวกเขาซื้อของมากมายเข้าบ้านแต่ เสี่ยวหลันจื่อไหนเลยจะสนใจของพวกนั้น เพราะสิ่งที่นางสนใจคือร้านค้าออนไลน์ต่างหาก เสี่ยวหลันจื่อดวงตาเปล่งประกายด้วยความสุขอดทนรอให้ถึงกลางคืนไม่ไหวแล้ว

เปิดระบบ ร้านค้าออนไลน์ เสี่ยวหลันจื่อคลิกเลือกหัวข้อร้านอาหาร เมื่อเห็นราคานางแทบจะเป็นลม นี่มันขี้โกงชัดๆ ปกติเงินที่นี่ก็ค่อนข้างหายากแล้วนี่ยังคิดใช้ระบบมาขูดรีดกันอีกหรือ สี่ร้อยตำลึงที่ได้มา ดูแล้วไม่น่าจะพอ นางจึงเลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นก่อน ถ้าหากนางไปขอเงินเพิ่มตายายจะต้องสงสัยแน่ว่านางเอาเงินไปใช้ทำอะไรเสี่ยวหลันจื่อทอดถอนใจในโชคชะตาของตัวเอง

เสี่ยวหลันจื่อซื้อหลายอย่างเช่น พวกแชมพู ครีมอาบน้ำ ครีมล้างหน้า ครีมทาหน้า ทิชชู่เอาไว้ใช้ตอนเข้าห้องน้ำ ผ้าอนามัย อุปกรณ์รักษาบาดแผล ยาจำเป็นต่างๆ และชุดชั้นใน เสี่ยวหลันจื่อมองของกองเล็กๆ ตรงหน้าแล้วอยากน้ำตาไหล น้อยจริงๆ เมื่อเทียบกับเงินสามร้อยห้าสิบตำลึง

หลังจากยัดสิ่งของใส่ในไอเทมบ๊อกเสร็จแล้วนางก็รีบเข้านอน พรุ่งนี้นางจะต้องหาเงินให้มากกว่าเดิมเสี่ยวหลันจื่อดึงเสี่ยวหงเข้ามากอดแล้วหลับไป

เสียงดังจอแจของชาวบ้านตอนเช้าปลุกให้เสี่ยวหลันจื่อตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย เมื่อคืนนางนอนดึกวันนี้จึงตื่นสาย เสียวหลันจื่อขยี้ตาเดินออกมาดูว่าเหตุใดชาวบ้านจึงมาชุมนุมหน้าบ้านของตน สิ่งที่เห็นทำให้นางตะลึง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่11 ชายหนุ่มรูปงาม

    เซียวอี้เหิงพร้อมด้วยองครักษ์ทั้งสองฉีเหลยและฉีเยี่ยนยืนเด่นเป็นสง่าท่ามกลางหมู่ชาวบ้าน เสี่ยวหลันจื่อถึงกับกุมขมับด้วยความปวดหัวชาวบ้านในหุบเขาเหล่านี้ไหนเลยจะเคยเห็นชายหนุ่มรูปงามปานเทพเซียนเช่นนี้ สาวน้อยสาวใหญ่ต่างชำเลืองมองพวกเขาด้วยใบหน้าแดงซ่านระคนเขินอายแต่ก็ยังมิวายส่งสายตาเชิญชวนให้ชายหนุ่มหน้าตายสามคนที่เหมือนหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกพวกเขาคงยังไม่รู้ว่ามันคือความงดงามที่มาจากนรก เสี่ยวหลันจื่อเดินไปหาตายายของตนที่ยืนรวมกลุ่มอยู่กับเหล่าชาวบ้าน หาได้สนใจชายหนุ่มสามคนที่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ให้เหล่าชาวบ้านรุมล้อมอยู่“ตายาย พวกท่านมายืนทำอะไรที่นี่ ไปกินข้าวเถอะข้าหิวแล้ว" เสี่ยวหลันจื่อดึงแขนสองผู้เฒ่าเข้าบ้านโดยไม่สนใจว่ามีอีกคนที่มองตามนางตลอดด้วยสายตาเย็นเยียบ แต่เป็นแม่เฒ่าสวีที่สังเกตเห็น“จื่อเอ๋อ เหมือนพ่อหนุ่มรูปงาน คนนั้นจะมองเจ้าอยู่นะ” เสี่ยวหลันจื่อไม่หันไปมองเขาสักนิด “อยากมองก็มองไปสิ ไม่เมื่อยสายตาก็มองไปเลย”เสี่ยวหลันจื่อดึงตายายเข้าบ้านแล้วปิดประตูดังปัง ปิดกั้นทุกอย่างไว้ข้างนอก แต่ไหนเลยที่ประตูไม้แค่นั้นจะสามารถกั้นคนทั้งสามได้ เซียวอี้เหิงและองครักษ์ทั้งสอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่12 หลานเขยผู้หล่อเหลา

    หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วเสี่ยวหลันจื่อจึงเดินเข้าบ้าน ตั้งแต่ตื่นมานางยังไม่ได้กินอะไรเลย หิวจนสามารถกินหมูเข้าไปทั้งตัวได้แล้ว“ท่านยายวันนี้มีอะไรกินบ้าง” แม่เฒ่าสวีที่ก่อนหน้านี้พาสามีไปแอบดูทั้งสองคนคุยกัน เพราะเป็นห่วงกลัวเขาจะทะเลาะกันรีบยิ้มเอาใจเสี่ยวหลันจื่อทันที“จื่อเอ๋อวันนี้ยายทำแต่ของโปรดเจ้าทั้งนั้นเลยนะ มาๆ นั่งลงเดี๋ยวยายตักข้าวให้”เสี่ยวหลันจื่อนั่งลงแต่โดยดี เมื่อลงมือกินข้าวเสี่ยวหลันจื่อเหลือบมองเซียวอี้เหิงที่นั่งหลังตรงท่าทางองอาจดั่งผู้สูงศักดิ์นั่งรับประทานอาหารในโรงเตี๊ยมชั้นสูง นางก็ถอนหายใจเบาๆ คนดูดีแม้แต่ตอนที่นั่งกินข้าวในสถานที่ซอมซ่อเช่นนี้ก็ยังเหมือนอยู่ในสถานที่ชั้นสูง“ต้องขออภัยท่านอ๋อง ที่ต้องให้มานั่งรับประทานอาหารในบ้านหลังเล็กซอมซ่อเช่นนี้ อาหารพื้นๆ ธรรมดาคงจะไม่ถูกปากท่านเท่าใดกระมัง” เสี่ยวหลันจื่อพูดจาเหน็บแนมเขาแต่เซียวอี้เหิงไม่ได้ตอบนาง เขาได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กเวลากินจะไม่พูด และกิริยาท่าทางของเขานั้นแสดงออกมาโดยธรรมชาติเพราะความสูงศักดิ์ของเขามันฝังลึกอยู่ในสายเลือดฮึ เสี่ยวหลันจื่อหมดอารมณ์ที่จะกิน นางวางตะเกียบทันทีแล้วยกช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่13 เรามากินหม้อไฟกัน

    เสี่ยวหลันจื่อที่เอาชีวิตรอดมาจากสนามรบของสตรีมาได้ก็รู้สึกหิวเป็นอย่างมาก นางนึกถึงหม้อไฟในชาติก่อนได้ซดน้ำซุปร้อนๆ คงจะรู้สึกดี เสี่ยวหลันจื่อรีบจ้ำอ้าวไปที่แผงขายเนื้อทันที“เถ้าแก่ เอาเนื้อเเดงให้ข้าสี่จิน สามชั้นสี่จิน กระดูกซี่โครงด้วย เอาทั้งหมดเลย มีเครื่องในหรือไม่”เสี่ยวหลันจื่อร่ายยาวเป็นชุดด้วยความคล่องแคล่ว คล้ายกับทำเป็นประจำ“โอ้ ได้เลยแม่นางฟ้า เดี๋ยวข้าลดให้จินละสองอีแปะเพราะเจ้าซื้อเยอะ”เสี่ยวหลันจื่อยิ้มตาหยีให้เถ้าแก่ที่กำลังชั่งเนื้อให้กับนาง“แล้วเครื่องในเจ้าต้องการเท่าไหร่” เถ้าแก่ถามนาง“ทั้งหมดเลย” เสี่ยวหลันจื่อเหมา“ได้ๆ เจ้าจะเอาเครื่องในพวกนี้ไปทำอะไรตั้งมากมาย คนที่นี่ไม่ค่อยกินเครื่องในหมูกันหรอกนะ กลิ่นมันเหม็น” เถ้าแก่เตือนเสี่ยวหลันจื่อด้วยความหวังดี เพราะเขาเป็นคนซื่อตรงและนางซื้อเนื้อกับเขาไปเยอะทีเดียว“ถ้าข้าทำรับรองไม่เหม็น” เสี่ยวหลันจื่อยิ้มตาหยีอีกครั้ง ยิ่งทำให้ใบหน้าเล็กๆ งดงามน่ามองยิ่งขึ้นกว่าเดิม“ทั้งหมดเท่าไหร่เถ้าแก่” เสี่ยวหลันจื่อถามเขา“เนื้อหมูสี่จิน ราคาเดิมคือสิบแปดอีแปะ หมูสามชั้นยี่สิบอีแปะ ซี่โครงสิบห้าอีแปะ เครื่องในหมูสิบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่14 หนุ่มชาวนาผู้หล่อเหลา

    ตอนี่14 หนุ่มชาวนาผู้หล่อเหลาเสี่ยวหลันจื่อไม่สนใจบุรุษทั้งสามที่แย่งชิงเนื้อกัน นางเดินเข้าไปในครัวลวกบะหมี่เพิ่มอีกสามชามยกออกมาแล้ววางไว้ตรวหน้าพวกเขา“ไม่อิ่มก็เอาน้ำซุปราดลงบนบะหมี่อร่อยเหมือนกัน" พูดจบนางก็หันมาหาสองผู้เฒ่าที่ตอนนี้อิ่มจนขยับตัวไม่ไหว" ท่านตาท่านยาย กินเนื้อเยอะๆ หลังจากอิ่มแล้วพวกท่านก็เดินย่อยสักหน่อย ข้าจะต้มน้ำเอาไว้ให้ อีกครึ่งชั่วยามค่อยอาบน้ำนะ"เสี่ยวหลันจื่อพูดจบก็เดินเข้าครัวไปเซียวอี้เหิงมองดูเส้นบะหมี่ที่วางอยู่ตรงหน้าของตน แล้ว จึงหันไปมองตามหลังที่เดินหายเข้าครัวไป เขาดันถ้วยบะหมี่ให้ฉีเยี่ยนแล้วลุกขึ้น“นายท่าน อิ่มแล้วหรือขอรับ ทานอีกสักหน่อยสิ"เป็นฉีเหลยที่ดึงเขาเอาไว้อีกครั้ง“กินเสร็จแล้วเก็บกวาดให้เรียบร้อย” ก่อนเดินตามเสี่ยวหลันจื่อไปเซียวอี้เหิงหันมาสั่งชายหนุ่มทั้งสองเสี่ยวหลันจื่อที่กำลังง่วนอยู่กับการใส่ฟืนลงไปในเตาเพื่อต้มน้ำจึงไม่ได้ยินเสียง เซียวอี้เหิงที่เดินมาข้างหลัง นางลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังไปจึงทำให้ชนเข้ากับแผ่นอกแข็งแรงของเซียวอี้เหิงจนหงายหลัง ก่อนที่เสี่ยวหลันจื่อจะหงายหลังล้มลงบนเตาที่กำลังต้มน้ำอยู่ แขนแข็งแรงของเซียว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่15 เหตุผลที่ต้องนอนด้วยกันคืออะไร

    เรื่องที่เสี่ยวหลันจื่อพนันกับหญิงสาวในหมู่บ้าน บุรุษสามคนที่กำลังถอนหญ้าอยู่ในทุ่งนาล้วนได้ยินกันทั้งหมด“นางทำเช่นนี้ได้อย่างไรนายท่านให้ข้าจัดการกับนางดีหรือไม่ขอรับ”ฉีเยี่ยนพูดขึ้นมาอย่างฮึดฮัด“เจ้าคิดว่าข้าจะแพ้หรือ”เซียวอี้เหิง ปรายตามองเขาเรียบๆ“ย่อมต้องไม่เเพ้อยู่แล้วขอรับนายท่านเป็นถึงชินอ๋องจะแพ้ได้อย่างไร ข้าแค่ไม่ชอบที่นางลบหลู่เกียรติของท่าน”ฉีเหลย อยากจะฟาดกบาลเจ้าโง่นี่จริงๆ“ถ้าหากนางอยากจะเล่นพนันนักย่อมได้แต่ว่าข้าก็ต้องได้ได้รับผลประโยชน์เช่นกัน”เซียวอี้เหิง ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์จากนั้นจึงเดินมาทางที่หญิงสาวในหมู่บ้านยืนชุมนุมกัน เซียวอี้เหิงเดินผ่านเสี่ยวหลันจื่อโดยไม่มองหน้านางเลยสักนิดแล้วไปหยุดยืนตรงหน้าหลิวหลี บุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน“เจ้าก็งดงามไม่น้อย”เซี่ยวอี้เหิงใช้มือที่เปื้อนโคลนสัมผัสใบหน้าของหลิวหลี หญิงสาวในหมู่บ้านหลายคนถึงกับเอียงอายกับท่าทางที่เขากระทำกับหลิวหลี“ขะ….ข้า จะช่วยท่านถอนหญ้าเอง”พูดจบหลิวหลีก็รีบวิ่งไปที่ผู้เฒ่าหลิวกำลังถอนหญ้าอยู่ ด้วยใบหน้าเขินอาย“ท่านตาหลิวข้ามาช่วยท่านแล้ว”หลิวหลีลงมือถอนหญ้าด้วยความขมักเขม้น ตลอดม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่16 พบคุณหนูหลู่อีกครั้ง

    เมื่อเกวียนวัวของเสี่ยวหลันจื่อไปถึงอำเภอนางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"ทำไมเป็นท่านล่ะ เเล้วฉีเหลยไปไหน"เสี่ยวหลันจื่อมองหาฉีเหลย"ทำไมถึงจะเป็นข้าไม่ได้ "เซี่ยวอี้เหิงปรายตามองเสี่ยวหลันจื่อเรียบๆ"ก็ไม่ทำไม ข้าเพียงคิดว่าฉีเหลยจะมาด้วยเพราะ ข้าจะให้เขาช่วยถือของที่ข้าจะซื้อวันนี้""ข้าก็ถือได้" เซียวอี้เหิงพูดจบก็เดินนำหน้านางไปเสี่ยวหลันจื่อเกาหัว ไม่เข้าใจอารมณ์และความคิดของเขาเอาซะเลยหลังจากขายสมุนไพรแล้วเสี่ยวหลันจื่อก็ไปที่ร้านจี้ชิงหรูอีกครั้ง คราวที่แล้วนางไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้พวกเขาทั้งสามคนวันนี้จึงคิดว่าจะซื้อให้พวกเขาซะหน่อย จะปล่อยให้ใส่เเต่ชุดหรูหราเดินลอยไปลอยมาในหมู่บ้านมันรู้สึกทิมแทง สายตานางยังไงไม่รู้"โอ้ ดูซินั่นใครมาเสี่ยวหลันจื่อขอเราไมใช่หรือ สร้างเรื่องเอาไว้ใหญ่โตแล้ว หนีหายไปเลยนะ"เจียงฉงเหนียง ผู้ดูแลจี้ชิงหรูรีบออกมาคล้องเเขนนาง อย่างสนิทสนมที่หน้าร้าน"เจ้าคิดมากไปแล้วข้าสร้างเรื่องที่ได้กันเป็นเขาต่างหาก"เสี่ยวหลันจื่อชี้ไปที่เซียวอี้เหิงที่ยืนใบหน้าเรียบเฉยอยู่ข้างๆ นาง"เจ้าไม่รู้อะไรหลังจากที่เจ้ากลับไปสตรีทั้งหลายในอำเภอต่างพากันมาที่นี่เพื่อสอบถาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่17 ความรู้สึกที่ไม่ชัดเจน

    เสี่ยวหลันจื่อที่นั่งอยู่ท้ายเกวียนวัวกระโดดลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคงแล้วจึงยกเอาตะกร้าที่ใส่ของลงมาด้วย หน้าบ้านสกุลหลิวมีหญิงสาวหลายคนยืนอยู่หนึ่งในนั้นมีหลิวหลีรวมอยู่ด้วย"พวกเจ้ากลับมาแล้ว "หลิวหลีส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้เซียวอี้เหิง ก่อนที่มันจะเจือนลง เมื่อมีหญิงงามแต่งตัวหรูหรางดงามเหมือนกับคุณหนูที่มาจากในเมือง“นางเป็นใครเหตุใดนางถึงมากับพวกเจ้า”หลิวหลีหันมาถามเสี่ยวหลันจื่อ“ข้าคือหลู่หลิงเซียน บุตรสาวคหบดีหลู่แห่งอำเภอหยู่ปิง” พูดจบนางก็เดินเดินเชิดหน้ามายืนเซียวอี้เหิง“แล้วคุณหนูหลู่ ผู้สูงส่งมาทำอะไรที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้” หลิวหลีถามเสียงประชดประชัน“ข้ามาทำอะไรที่นี่เกี่ยวอันใดกับเจ้าแล้วนี่เจ้าเป็นใคร” หลู่หลิงเซียนเมินหลิวหลี ไปโดยปริยาย มองประตู เรือนที่ดูผุพังเหมือนถูกสร้างมาแล้วหลายสิบปี“ที่นี่คือบ้านของเจ้าหรือ” หลู่หลิงเซียงถามเสี่ยวหลันจื่อ“ใช่แล้วที่นี่คือบ้านของข้า”“เข้าบ้านเถอะ” เซียวอี้เหิง จูงมือเสี่ยวหลันจื่อเดินผ่านหญิงสาวหลายคนที่มายืนรุมล้อมอยู่หน้าบ้านสกุลหลิวหลู่หลิงเซียนที่ถูกเมินก็ถอนหายใจหนักๆ อย่างไม่พอใจนักเมื่อเข้ามาถึงในเรือน หลู่หลิงเซีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่18 หลบหน้า

    เสี่ยวหลันจื่อตื่นมาด้วยอาการงัวเงียนางรู้สึกอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เมื่อวานตอนเที่ยงกับตอนเย็นไม่ได้ทานข้าวทำให้นางรู้สึกไร้กำลัง เสี่ยวหงที่นอนอยู่ข้างๆ นางเอาหัวเล็กๆ มาคลอเคลียข้างแก้มออดอ้อน เมื่อวานมันเห็นนางร้องไห้มันก็รู้สึกเศร้าไปกับนางด้วยวันนี้จึงอยากทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง“ยังเป็นเจ้าที่ดีกับข้าที่สุดนะเสี่ยวหง” เสี่ยวหลันจื่อกอดมันจากนั้นก็ลุกออกไปล้างหน้าล้างตา ท่านยายที่เห็นหลานสาวตื่นแล้วก็รีบเข้ามาดูทันที“เป็นอย่างไรบ้างจื่อเอ๋อดีขึ้นบ้างหรือยัง”แม่เฒ่าสวียกมือขึ้นอังหน้าผากของนาง“ข้าสบายดีเจ้าค่ะท่านยาย ไม่ต้องห่วงข้าไม่เป็นอะไร”เสี่ยวหลันจื่อ ยิ้มให้นางจากนั้นจึงเดินเข้าไปตักโจ๊กมากินเล็กน้อย“เหตุใดถึงเงียบขนาดนี้ ไปไหนกันหมดเจ้าคะ”เสี่ยวหลันจื่อถามออกไปรวมๆ ไม่ได้เจาะจงว่าถามหาใครแม่เฒ่าสวีจึงไขความกระจ่างว่า“เมื่อวานตอนเย็น คุณหนูหลู่ทะเลาะกับหลิวหลีบุตรสาวหัวหน้าหมู่บ้านจึงมาขอให้พ่อหนุ่มช่วย พ่อหนุ่มเลยส่งนางกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”เสี่ยวหลันจื่อที่ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป ภาพที่นางเห็นตรงเชิงเขาเมื่อวาน ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ชิงตัวนักโทษ

    เซียวอี้เหิงเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นคนตัดสินโทษกบฏของตระกูลกู้ วันนี้เขาจึงต้องมาเป็นพยานที่ลานประหารในใจเขาคิดว่ายังไงกู้รั่วอวิ๋นจะต้องมาชิงตัวนักโทษแน่ คนของตระกูลกู้ร้อยกว่าชีวิตถูกทหารคุมตัวเดินออกมานั่งคุกเข่าที่ลานประหาร ด้านหน้าของพวกเขาคือกู้เฟิงพี่ชายของกู้รั่วอวิ๋นและกู้ห้าวเหวินอดีตแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินที่ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่สภาพของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากซากศพเท่าใดนักชาวเมืองนับพันที่มาดูการประหารตระกูลกู้ที่ยิ่งใหญ่และเป็นตระกูลที่สืบเชื้อสายยาวนานมานับร้อยปี ทั้งสตรีและเด็กของตระกูลกู้ต่างร่ำไห้ขอความเป็นธรรมมีเพียงกู้เฟิงที่ยังคงมีสายตาแข็งกร้าวเซียวอี้เหิงมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา เขากำลังรออยู่ รอเวลาที่กู้รั่วอวิ๋นจะปรากฏตัว กู้รั่วอวิ๋นที่แฝงตัวมากับชาวเมืองมองไปที่บิดาและพี่ชายของนางด้วยดวงตาแดงก่ำ นางไม่รู้ว่าจะมีโอกาสช่วยเหลือบิดาและพี่ชายของนางมากเท่าใด แต่ที่แน่ๆ เซียวอี้เหิงจะต้องวางกับดักไว้รอนางแล้วอย่างแน่นอน เป็นนางที่จะยอมกระโดดลงไปในกับดักนั่นหรือไม่การประหารเริ่มต้นขึ้นนายทหารที่ทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตกว่ายี่สิบคนเดินตรงมาที่สมาชิกของสกุลกู้ พวกเขาต่าง

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   กลับหมู่บ้านเถาฮวา

    ก่อนการประหารสกุลกู้ในข้อหาก่อกบฏเสี่ยวหลันจื่อ ที่ออดอ้อนขอให้เซียวอี้เหิง พานางและทุกคนออกไปเดินเที่ยวตลาดของเมืองหลวง เซียวอี้เหิงที่ทนการรบเร้าของนางไม่ได้จึงให้ฉีเหลยเป็นองครักษ์พร้อมด้วยฉีอิงกับฉีหลิงเขายังไม่วางใจเรื่องของกู้รั่วอวิ๋น เขาเกรงว่าข่าวที่ได้มาว่านางอยู่ที่แคว้นฉู่จะกลายเป็นข่าวลวง บางทีนางอาจอยู่ที่นี่แล้วก็ได้เซียวอี้เหิงให้คนของเขาตามหาทั้งในที่ลับและที่แจ้งติดประกาศไปทั่วเมืองวางเงินรางวัลนำจับสูงลิ่วเพื่อกดดันให้นางออกมา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่อยากให้เสี่ยวหลันจื่อออกไปนอกจวน เพราะเขาเกรงว่านางจะถูกคนของกู้รั่วอวิ๋นทำร้าย“ท่านไม่ต้องเป็นห่วงรับรองว่าข้าจะไม่ดื้อเด็ดขาดออกไปแค่เพียงไม่นานข้าจะรีบกลับมาแล้วจะซื้อขนมมาฝากท่านนะ”เสี่ยวหลันจื่อทำเสียงออดอ้อน เซียวอี้เหิงนั้นรู้สึกหนักใจแต่ทำอย่างไรได้นางไม่ใช่สัตว์แต่นางเป็นมนุษย์ จะขังนางเอาไว้แต่ภายในจวนอย่างเดียวก็คงไม่ได้ มันไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา ทางที่ดีคือเขาต้องจับตัวกู้รั่วอวิ๋นให้ได้เขาจึงจะรู้สึกวางใจที่เสี่ยวหลันจื่ออยากออกมาเที่ยวข้างนอกในวันนี้ก็เป็นเพราะหลิวหลี เมื่อวานนางมาหาเสี่

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ที่ข้าทำไปทั้งหมดก็เพื่อเจ้า

    เมื่อข้ารับใช้ในเรือนมารวมตัวกันที่เรือนหลักของเซียวอี้เหิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เหิงประคองเสี่ยวหลันจื่อเดินมานั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าทุกคนนางเงยหน้ามองเซียวอี้เหิงว่าเขากำลังจะทำอะไร ทุกคนในจวนชินอ๋องต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าของเสี่ยวหลันจื่อชัดๆ นางคือนางกำนัลที่ถูกส่งมาโดยไทเฮานั่นเองพวกเขาต่างทำสีหน้าหวาดกลัว มิใช่ว่านางถูกท่านอ๋องฆ่าไปแล้วหรือในตอนนั้น นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แถมตอนนี้นางยังตั้งครรภ์อยู่ เสียงวิจารณ์ของเหล่าข้ารับใช้เริ่มดังขึ้น“พวกเจ้าคงจะสงสัยว่าเหตุใดพระชายาของข้าถึงมีใบหน้าเหมือนกับอวี้ซูเหยาใช่หรือไม่ ถึงแม้นางจะมีใบหน้าที่เหมือนกันมากเช่นไรแต่นางคือคนละคน ที่นั่งอยู่ต่อหน้าของพวกเจ้าคือพระชายาเพียงคนเดียวของข้า นามของนางคืออวี้หลันจื่อ ข้าขอห้ามทุกคนพูดเรื่องของอวี้ซูเหยาอีกไม่ว่ากรณีใดก็ตามถ้าหากว่ามีใครที่ไม่ทำตามคิดต่อต้านคำสั่งของข้า จะต้องถูกลงโทษขั้นสูงสุดตามกฏของจวนชินอ๋อง”เมื่อได้ยินเช่นนั้นข้ารับใช้ต่างหวาดกลัวไม่มีใครกล้าปริปากแม้แต่คนเดียวใครเล่าจะกล้าเหิมเกริมต่อต้านคำสั่งของท่านอ๋อง“อีกอย่างหากมีใครคิดไม่ซื่อกับข้าเหมือนที่อวี้ซูเหยาท

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้าได้ยินเสียงสตรี

    หลังจากที่พูดคุยกับหลิวหลีและปลอบใจนางเล็กน้อยเสี่ยวหลันจื่อก็กลับมาที่เรือนของนาง เมื่อฉีหลิงเปิดประตูเรือนทั้งสองก็เห็นเซียวอี้เหิงที่ยืนใบหน้าถมึงทึงอยู่ที่ลานบ้าน“ไปไหนมาอีกแล้วเจ้าตัวดี ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าให้ระวังอย่าเที่ยวออกไปเดินสุ่มสี่สุ่มห้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจ้าข้าจะทำอย่างไร เหตุใดถึงได้ดื้อดึงเหมือนเด็กเล็กเช่นนี้”เซียวอี้เหิงดุเสี่ยวหลันจื่อเสียงอ่อน เขาไม่รู้แล้วว่าจะรับมือกับนางอย่างไรดี ดุก็ไม่ได้ตีก็ไม่ได้ หากทำให้นางร้องไห้ก็เป็นเขาซะเองที่เจ็บปวด เสี่ยวหลันจื่อยืนก้มหน้าท่าทางหูลู่หางตกเหมือนเสี่ยวหงตอนที่โดนดุ ดูน่าสงสารยิ่งนักเซียวอี้เหิงถอนหายใจ ท่าทางเช่นนี้มีหรือเขาจะใจแข็งกับนางได้“ช่างเถอะๆ ข้าไม่ดุเจ้าแล้วเลิกทำท่างทางเหมือนเสี่ยวหงเสียที มานี่มาข้างนอกอากาศยังหนาวเย็นอยู่เข้าไปในเรือนเถอะอย่าอยู่ตรงนี้เลยเดี๋ยวจะไม่สบาย”เสี่ยวหลันจื่อเดินก้มหน้าไปหาเซียวอี้เหิงเกาะแขนเขาทำท่าทางเหมือนยังเศร้าอยู่ แต่ดวงตากลมโตที่ซ่อนอยู่ภายใต้แพขนตาหนาของนางกลับเปล่งประกายซุกซน ตอนที่เดินตามเซียวอี้เหิงไปเสี่ยวหลันจื่อยังหันมายักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉีหลิง ท่าทางทั้งหม

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   หลี่เอ้อกัง

    อาหารมื้อเย็นผ่านไป เสี่ยวหลันจื่อรั้งผู้เฒ่าทั้งสองเอาไว้เพื่อคุยเรื่องที่นางจะกลับไปที่จวนชินอ๋อง และเสี่ยวหลันจื่อต้องการให้ท่านตากับท่านยายไปอยู่ที่นั่นกับนางด้วย“ท่านตาท่านยายเจ้าคะข้ามีเรื่องจะปรึกษากับกับท่านทั้งสอง ตอนนี้ครรภ์ของข้าก็เกือบจะแปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะคลอดเด็กสองคนนี้ ท่านอ๋องอยากให้ข้าไปคลอดที่เมืองหลวงเพราะที่นั่นมีหมอตำแยและยังมีหมอหลวงที่เก่งกว่าที่นี่ อีกทั้งเพราะข้าต้องคลอดทีเดียวถึงสองคนเขาจึงรู้สึกไม่วางใจ แต่ข้าไม่อยากไปอยู่ที่นั่นคนเดียวข้ากลัวว่าตัวเองจะเหงาและตอนที่ข้าคลอดข้าอยากให้ท่านทั้งสองอยู่เคียงข้างข้า จะทำให้ข้ารู้สึกสบายใจ ท่านทั้งสองไปกับข้านะเจ้าคะ”เสี่ยวหลันจื่อใช้เสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์ นางกลัวว่าผู้เฒ่าทั้งสองจะตัดใจทิ้งบ้านเกิดของตนเพื่อไปกับนางไม่ได้“ได้สิ เจ้าเป็นหลานเพียงคนเดียวของข้า ต่อให้เจ้าไม่ขอร้องข้ากับตาแก่นี่ก็จะต้องตามเจ้าไปแน่นอน จื่อเอ๋อเจ้าสบายใจได้และคลอดเด็กทั้งสองคนออกมาอย่างปลอดภัยเถอะ”เสี่ยวหลันจื่อโน้มตัวไปกอดแม่เฒ่าสวีเเละใช้ใบหน้าถูไถที่ไหล่ของนางอย่างที่ชอบทำประจำ แต่เซียวอี้เหิงดึงนางออกมาแล้วอุ้มนางเข้าห้องไ

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะ

    เซียวอี้เหิงวางเสี่ยวหลันจื่อเอาไว้ที่เก้าอี้ในห้องโถงของเรือน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เพราะท่านตากับท่านยายไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านตั้งแต่เช้าแล้ว น่าจะเป็นเรื่องการแต่งงานของหลิวหลี ถ้าจะให้พูดคือหัวหน้าหมู่บ้านเป็นลูกชายของพี่ชายผู้เฒ่าหลิวดังนั้นหลิวหลีจึงนับเป็นญาติของผู้เฒ่าหลิวเช่นกัน“ฉีหลิงตอนนี่เจ้าอายุเท่าไหร่” เสี่ยวหลันจื่อที่นั่งเรียบร้อยแล้วหันมาซักทันทีที่ฉีหลิงเดินตามเข้ามาในเรือน“อายุสิบเจ็ดเจ้าค่ะ” ฉีหลิงตอบทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่“เจ้ายืนคุยกับข้าได้หรือไม่ คุกเข่าเช่นนี้ข้าจะคุยกับเจ้าได้สะดวกได้อย่างไร” เสี่ยวหลันจื่อสั่งนาง ฉีหลิงมีท่าทีลังเล มองไปที่เซียวอี้เหิงอย่างหวาดๆ นางรู้ว่าพระชายานั้นใจดีขนาดไหน แต่กับนายเหนือหัวของพวกเขาแล้วต่างไม่กล้าล่วงเกิน“เจ้าทำตามที่นางบอกเถอะ ต่อไปนี้ทุกเรื่องของเจ้าสองพี่น้องข้าจะยกให้พระชายาเป็นคนดูแล นางสั่งอะไรเจ้าก็ทำตาม” เซียวอี้เหิงสั่งเสียงเรียบ“เพคะ” ฉีหลิงลุกขึ้นยืนแต่ยังคงก้มหน้า พวกเขาถูกสั่งสอนมาตั้งแต่ที่เริ่มเข้าฝึกเป็นองครักษ์เงาว่าห้ามมองหน้าเจ้านายเมื่ออยู่ต่อหน้า“ฉีหลิงตั้งแต่นี้ไปเจ้าสองพี่น้องมาเป็นคนของข้าเจ้าย

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้าอยากอยู่กับเจ้าตลอดไป

    ​ในตอนสายสองผู้เฒ่ากลับมาที่เรือนเห็นฉีเหลยนั่งอยู่ที่ห้องโถงก็รีบเข้าไปทักทายทันที“เจ้าหนุ่มเหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้าพึ่งไปชายแดนเมื่อเดือนก่อนหรือเหตุใดกลับมาที่นี่อีกแล้วเล่า เจ้านี่ช่างทุ่มเทให้กับงานเหลือเกินคราวนี้มาด้วยเรื่องอะไรล่ะ หรือว่ามีความลับอะไรที่ต้องมาบอกพวกเราอีกหรือ ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทถูกคุมขังไปแล้วหรืออย่างไร”ผู้เฒ่าหลิวซักฉีเหลยยาวเหยียดอย่างอยากรู้อยากเห็น ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนสายลับเข้าไปทุกที ตอนนั้นเขายังเคยรู้เรื่องที่เป็นความลับระดับแคว้นเชียวนะ ช่างน่าปลาบปลื้มใจเสียจริงเหมือนกับว่าเขาเป็นคนสำคัญอย่างไรอย่างนั้นผู้เฒ่าหลิวทำท่าทางฝันเคลิ้มอยู่ในภวังค์คนดียว แม่เฒ่าสวีมองสามีของนางอย่างหมั่นไส้ สักวันตาเฒ่านี่คงได้ตายเพราะชอบสอดรู้เรื่องชาวบ้านเป็นแน่ แม่เฒ่าสวีไม่สนใจคู่ยากของตนหันมาหาฉีเหลยมองอย่างจับผิดนางกลัวว่าครั้งนี้จะมีเรื่องอีกฉีเหลยทำหน้าเหมือนกลืนหวงเหลียนเข้าไป จะทำอย่างไรได้พอเขาไปถึงที่ชายแดน ท่านอ๋องก็สั่งให้เขาติดตามกลับมาที่เมืองหลวงอีกครั้งเกิดเป็นฉีเหลยช่างทรมานยิ่งนัก ก้นของเขาด้านหมดแล้วเพราะขี่ม้ากลับไปกลับมาไม่ได้หย

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   อยู่พร้อมหน้า

    เสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูออกไปพบว่าคนที่มาเคาะประตูคือหลู่หลิงเซียน“คุณหนูหลู่ ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ” เสี่ยวหลันจื่อคิดว่าตั้งแต่วันนั้นนางน่าจะเลิกราไปเล้วไม่คิดว่าจะยังมาที่นี่อีก“เจ้าไม่คิดจะเชิญข้าเข้าไปข้างในหน่อยหรือ”เสี่ยวหลันจื่อเบี่ยงตัวหลบให้นางเข้ามาด้านใน เมื่อเข้ามานั่งที่ห้องโถงเรียบร้อยแล้ว หลู่หลิงเซียนเป็นคนกล่าวขึ้นก่อน“ที่ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้าบางอย่าง”หลู่หลิงเซียนเหมือนจะรู้ว่าเสี่ยวหลันจื่อคิดอะไร จึงชิงออกตัวก่อน“ดูเหมือนเราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันจนสามารถไปมาหาสู่ ข้าเองก็เป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้นจะช่วยอะไรคุณหนูหลู่ได้กัน”หลู่หลิงเซียนขยับตัวอย่างอึดอัด“ความจริงข้ากำลังจะแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รัก และมีเรื่องบางอย่างที่ข้ายังติดใจอยู่ สามีของเจ้าผู้นั้นเป็นใครกันแน่”เสี่ยวหลันจื่อมองหลู่หลิงเซียนอย่างครุ่นคิด“เจ้ารู้อะไรมา” เสี่ยวหลันจื่อถามนาง“ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน การค้าของตระกูลหลู่เหมือนจะเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น เดิมทีตอนแรกข้าคิดว่าเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้นแต่นึกไม่ถึงว่าถึงขั้น ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องล้มป่วยลง ตระกูลห

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ปลดตำแหน่งรัชทายาท

    เซียวเทียนฉีเดินตรงมาที่หน้าโต๊ะทรงงานของหยวนหมิงฮ่องเต้เพื่อคุกเข่าคารวะ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำความเคารพแท่นฝนหมึกก็ลอยมาที่หัวของเซียวเทียนฉีอย่างแม่นยำ เลืออาบหน้าของเขาทันที ขันทีหลีที่เห็นดังนั้นถึงกับตกใจ ฝ่าบาทตีองค์ชายที่ตนเองรักที่สุด เขาได้เห็นในสิ่งทีไม่ควรเห็นเข้าเสียแล้ว“สำนึกผิดหรือยัง เจ้าลูกอกตัญญู” หยวนหมิงฮ่องเต้ตะโกนด่าเขาลั่นห้อง“ไม่ทราบว่าลูกทำสิ่งใดผิดพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อโปรดบอกลูกให้เข้าใจ”หยวนหมิงฮ่องเต้ขว้างถ้วยชาที่อยู่ใกล้มือที่สุดไปที่เซียวเทียนฉีอีกครั้ง มันตกกระทบพื้นแตกกระจาย มีเศษของแก้วกระเด็นขึ้นมาบาดที่ใบหน้าของเขาจนเลือดออก“ยังจะมาทำไขสือ เรามีทั้งหลักฐานและพยานว่าเจ้าสมคบคิดกับรัชทายาทแคว้นฉู่เพื่อก่อสงครามขึ้น ไหนเจ้าลองหาเหตุผลดีๆ มาสักข้อให้เราไม่ต้องปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาทที”เซียวเทียนฉีหนังศรีษะชาวาบหลังจากที่ได้ยินหยวนหมิงฮ่องเต้พูดว่าจะปลดเขาออกจากตำแหน่งรัชทายาท“ใครเป็นคนบอกเสด็จพ่อว่าลูกสมคบคิดกับแคว้นฉู่เพื่อก่อสงคราพ่ะย่ะค่ะ หรือจะเป็นเสด็จอาชินอ๋อง เสด็จพ่อรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ใส่ความลูกหรือแท้จริงเขาอาจหวังบัลลังที่เป็น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status