Home / รักโบราณ / ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต / บทที่15 เหตุผลที่ต้องนอนด้วยกันคืออะไร

Share

บทที่15 เหตุผลที่ต้องนอนด้วยกันคืออะไร

Author: zuey
last update Last Updated: 2024-12-31 17:50:43

เรื่องที่เสี่ยวหลันจื่อพนันกับหญิงสาวในหมู่บ้าน บุรุษสามคนที่กำลังถอนหญ้าอยู่ในทุ่งนาล้วนได้ยินกันทั้งหมด

“นางทำเช่นนี้ได้อย่างไรนายท่านให้ข้าจัดการกับนางดีหรือไม่ขอรับ”

ฉีเยี่ยนพูดขึ้นมาอย่างฮึดฮัด

“เจ้าคิดว่าข้าจะแพ้หรือ”

เซียวอี้เหิง ปรายตามองเขาเรียบๆ

“ย่อมต้องไม่เเพ้อยู่แล้วขอรับนายท่านเป็นถึงชินอ๋องจะแพ้ได้อย่างไร ข้าแค่ไม่ชอบที่นางลบหลู่เกียรติของท่าน”

ฉีเหลย อยากจะฟาดกบาลเจ้าโง่นี่จริงๆ

“ถ้าหากนางอยากจะเล่นพนันนักย่อมได้แต่ว่าข้าก็ต้องได้ได้รับผลประโยชน์เช่นกัน”

เซียวอี้เหิง ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

จากนั้นจึงเดินมาทางที่หญิงสาวในหมู่บ้านยืนชุมนุมกัน เซียวอี้เหิงเดินผ่านเสี่ยวหลันจื่อโดยไม่มองหน้านางเลยสักนิดแล้วไปหยุดยืนตรงหน้าหลิวหลี บุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน

“เจ้าก็งดงามไม่น้อย”

เซี่ยวอี้เหิงใช้มือที่เปื้อนโคลนสัมผัสใบหน้าของหลิวหลี หญิงสาวในหมู่บ้านหลายคนถึงกับเอียงอายกับท่าทางที่เขากระทำกับหลิวหลี

“ขะ….ข้า จะช่วยท่านถอนหญ้าเอง”

พูดจบหลิวหลีก็รีบวิ่งไปที่ผู้เฒ่าหลิวกำลังถอนหญ้าอยู่ ด้วยใบหน้าเขินอาย

“ท่านตาหลิวข้ามาช่วยท่านแล้ว”

หลิวหลีลงมือถอนหญ้าด้วยความขมักเขม้น ตลอดมาไหนเลยนางจะเคยทำงานหนักในนา ถอนหญ้าเพียงไม่นานมือของนางก็แตกจนเลือดซิบ หญิงสาวในหมู่บ้านเมื่อเห็นหลิวหลีลงไปถอนหญ้าพวกนางก็ทำตามรีบถอดรองเท้าลงไปในนาของผู้เฒ่าหลิว ช่วยกันถอนหญ้าอย่างขมักเขม้น

“ข้าไม่เคยรู้เลยว่าท่านจะเจ้าเล่ห์เพียงนี้” เสี่ยวหลันจื่แแซวเขาเบาๆ

เซียวอี้เหิงไม่สนใจนาง เดินกลับไปที่บ้านสกุลหลิวทิ้งหญิงสาวมากมายในหมู่บ้าน ที่กำลังถอนหญ้าในนาไว้ข้างหลัง

“เชอะ ทำเป็นหยิ่ง"

เสี่ยวหลันจื่อ แลบลิ้นตามหลังเขาไป

เพียงไม่นานที่นาสิบหมู่ก็ถูกถอนหญ้าออกจนหมด หญิงสาวชาวบ้านที่คิดว่าจะมาช่วยถอนหญ้าเอาใจเซียวอี้เหิง ก็กลับมา พวกนางต่างมองหาว่าเซียวอี้เหิงหายไปไหน

“สามีของเจ้าเล่าหายไปไหนแล้ว”

เสี่ยวหลันจื่อ ยังไหล่ส่ายหัว

“ไม่รู้สิคงจะกลับบ้านไปแล้วมั้ง” นางยกมือขึ้นบีบจมูก ทำท่าทางรังเกียจหญิงสาวเหล่านั้น

"พวกเจ้าอยากไปหาเขาก็กลับบ้านไปอาบน้ำซะก่อนเถอะกลิ่นโคลนที่ตัวพวกเจ้าแรงมากเลย"

เสี่ยวหลันจื่อ ทำท่าทางรังเกียจแล้วขยับออกห่างจากพวกนาง สาวชาวบ้านเหล่านั้นต่างรีบกลับบ้านอาบน้ำเพื่อจะไปหาเซียวอี้เหิงเสี่ยวหลันจื่อหัวเราะไล่หลังพวกนางไป

"ท่าทางของเจ้ากำลังสนุกเชียว เหตุใดต้องแกล้งพวกนางด้วย"

จางเสวี่ยมองเสี่ยวหลันจื่ออย่างไม่เข้าใจ

"ข้าแกล้งพวกนางที่ไหนกันเป็นพวกนางต่างหากที่ต้องการเช่นนี้ ข้าแค่หยิบยื่นโอกาสให้พวกนาง จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ขึ้นอยู่กับพวกนางทั้งนั้นเกี่ยวอันใดกับข้า ไปเถอะวันนี้ว่าง ไม่มีอะไรทำเราไปเดินเล่นบนเขากัน"

เสี่ยวหลันจื่อคล้องเเขนจางเสวี่ยอย่างสนิทสนม เสี่ยวหงที่เกาะอยู่บนไหล่โยกตัวไปมาท่าทางคึกคักเพราะมันจะได้ขึ้นเขาอีกแล้ว

"กระรอกดินของเจ้าท่าทางแปลกนักข้าไม่เคยเห็นกระรอกดินสีแดงเช่นนี้มาก่อนแถมมันยังมีเท้าปุกปุยไม่เหมือนของกระรอกดินเลย"

จางเสวี่ยจ้องมองเสี่ยวหงด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นตัวอะไรเห็นอยู่ในป่ามันน่ารักดีก็เลยพามันกลับมาด้วย"

เสี่ยวหลันจื่อกับจางเสวี่ยและเสี่ยวหงกลับมาในตอนบ่ายเพราะพวกเขาขึ้นเขาโดยที่ไม่ได้เอาอะไรไปด้วยจึงเก็บเห็ดกับผักป่ามาด้วยนิดหน่อย เสี่ยวหลันจื่อคิดว่าเย็นนี้จะเอาเห็ดมาทำอะไรกินดี เมื่อวานนางตุ๋นเครื่องในหมูกับหมูสามชั้นเอาไว้ ต้องอาหารแก้เลี่ยนสักหน่อย

กลับมาถึงเรือนสกลุหลิวเสี่ยวหลันจื่อถึงกับตกใจกับข้าวของมากมายทั้งผัก ไข่ ไก่ มันเทศ ยังมีเนื้อหมูอีก นางเดินไปถามเเม่เฒ่าสวีทันที

"ท่านยายของเยอะแยะมากมายเหล่านี้มาจากที่ไหน"

"จะที่ไหนซะอีกล่ะ ก็หญิงสาวในหมู่บ้านน่ะสิ หอบของพวกนี้มาบอกว่าให้เอาไว้บำรุง พวกเขาสามคน เจ้าตัวดีเจ้าไปทำอะไรไว้"

เเม่เฒ่าสวีส่งสายตาคาดโทษไปที่เสี่ยวหลันจื่อ ถ้าหากไม่ใช่หลานสาวคนงามของนางจะเป็นใครได้อีกเพราะเจ้าหนุ่มสามคนนี้ไม่มีทางสุงสิงกับชาวบ้านอย่างแน่นอน

"ข้าเปล่านะท่านยายข้าไม่ได้ทำอะไรเลยพวกนางเต็มใจเองต่างหาก"

เสี่ยวหลันจื่อ ปฏิเสธหน้าตาย

"คอยดูเถอะถ้าหากว่าพ่อแม่หญิงสาวเหล่านั้นมาหาเรื่องที่นี่ยายจะไม่ช่วยเจ้า"

เเม่เฒ่าสวีหันหลังให้นางแสร้งโกรธเคือง

"โธ่ท่านยาย ข้าไม่ได้ทำอะไรจริงๆ นะหลิวหลีเป็นคนบอกว่าอยากได้เซียวอี้เหิง ข้าก็เเค่ไม่ได้ขัดขวาง เเต่ถ้าหากเซียวอี้เหิงชอบนางข้าก็ยินดียกให้"

เสี่ยวหลันจื่อลอยหน้าลอยตาพูด

"เจ้าเด็กคนนี้ทำอะไรแผลงๆ เล่นอะไรไม่รู้ขอบเขต คนทั้งคนจะยกให้คนโน้นคนนี้ได้อย่างไร"

เสี่ยวหลันจื่อยักไหล่เดินเข้าบ้านไป เพราะไม่อยากทะเลาะกับแม่เฒ่าสวี ตอนเย็นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เสี่ยวหลันจื่อที่กำลังอาบน้ำมองหน้าประตูอย่างครุ่นคิด จะทำยังไงไม่ให้เจ้าอ๋องหน้าหนานั่นเข้ามาในห้องของนางได้

ประตูผุเช่นนี้คงไม่สามารถป้องกันอะไรได้ ทำไมเขาต้องอยากมานอนห้องเดียวกับนางทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้สึกชอบพอหรือรักใคร่ในตัวนางจะต้องมีอะไรแน่ๆ

หลังจากอาบน้ำเสร็จเสี่ยวหลันจื่อเดินมาหาเซียวอี้เหิง ที่นั่งอยู่ในศาลาใต้ต้นอู๋ถงหน้าบ้าน

"เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เสี่ยวหลันจื่อมองสององครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างกายเขา

เซียวอี้เหิงพยักหน้าฉีเหลยกับฉีเยี่ยน เดินเลี่ยงออกไปอีกด้าน เสี่ยวหลันจื่อเดินมานั่งลงตรงข้ามเขากลิ่นหอมของครีมอาบน้ำที่เสี่ยวหลันจื่อใช้ กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมาเพราะนางเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เซียวอี้เหิงอดที่จะสูดดมเข้าไปไม่ได้  แม้แต่กลิ่นหอมของนางก็แตกต่างจากผู้อื่น หลิ่นหอมของนางไม่มีกลิ่นฉุน เหมือนกลิ่นแป้งชาดที่สตรีในเมืองหลวงเหล่านั้นใช้

"ท่านมีอะไรอยากจะบอกกับข้าหรือไม่"

เซียวอี้เหิงเลิกคิ้วขึ้นมองนาง

"ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการอยากจะคุยกับข้าหรือ"

เซียวอี้เหิงยกชาขึ้นดื่ม เสี่ยวหลันจื่อกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยแล้วใช้ความกล้าถามเค้าออกไป

"มีเหตุผลอะไรที่ ท่านจะต้องนอนห้องเดียวกันกับข้าให้ได้ ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้มีความรักใคร่หรือรู้สึกเสน่หาต่อข้าแม้แต่น้อยแต่ท่านกลับลงทุนมาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาเช่นนี้เพื่อที่จะนอนห้องเดียวกับข้าท่านจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่"

เสี่ยวหลันจื่อ พูดในสิ่งที่ตนเองสงสัยมาตลอดสองวันรวมถึงวันแรกที่พวกเขาเจอกัน

เซียวอี้เหิงยกยิ้มมุมปาก

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะฉลาดกว่าที่ข้าคิด"เซียวอี้เหิงเงียบไปเล็กน้อย

"ถูกต้อง ข้าย่อมมีเหตุผลบางอย่างที่จำเป็นจะต้องนอนห้องเดียวกันกับเจ้า"

"เหตุผลคืออะไร" เสี่ยวหลันจื่อ ถามสวนออกไปทันที

"เหตุผลนั้นข้าไม่อาจบอกเจ้าได้ เจ้ารู้เพียงว่าเจ้าต้องนอนกับข้า แค่นั้น"

"แล้วข้าจะต้องนอนกับท่านอีกนานแค่ไหน"

เสี่ยวหลันจื่อโมโหเล็กน้อย นางถามหาเหตุผลถึงขนาดนี้เขายังจะปิดบังมันอีก

"จนกว่าข้าจะบอก"

เสี่ยวอี้เหิง ไม่สนใจใบหน้าที่กำลังโมโหจนแดงก่ำของนาง

"ถ้าหากท่านไม่บอกให้หยุด ข้ามิต้องนอนกับท่านตลอดไปหรือแล้วอย่างนี้ข้าจะแต่งงานได้ยังไง"

เซียวอี้เหิงหันขวับไปหานางทันที

"เจ้ายังคิดว่าตนเองจะแต่งงานได้อีกหรือ ไม่ใช่ว่าเจ้า…." เซียวอี้เหิงหยุดคำพูดสุดท้ายเอาไว้

นั่นสิอวี้ซูเหยานอนกับเขาไปเเล้วนี่ เสี่ยวหลันจื่อคิด

"ต่อให้ข้าไม่ได้แต่งงานข้าก็ไม่อยากอยู่กับท่าน"

เสี่ยวหลันจื่อพูดจบก็เดินเข้าเรือนไป เซียวอี้เหิงมองตามร่างบางที่เดินหายลับไปในเรื่อนด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ออก

ผ่าน ไปหลายวันหญิงสาวในหมู่บ้าน ที่มาเฝ้า เซียวอี้เหิงก็เริ่มลดลง พวกนางเริ่มถอดใจเพราะคุณชายคนนี้ช่าง เย็นชายิ่งนัก อย่าว่าแต่คุยด้วยเลยแค่เข้าใกล้ยังไม่ได้

เเต่หลิวหลี บุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นยังไม่ถอดและใจวันนี้เสี่ยวหลันจื่อจะไปขาย สมุนไพรเพราะเมื่อวานนางเก็บมาได้ไม่น้อย

"เสี่ยวหงวันนี้เราไปหาอะไรอร่อยๆ กินในอำเภอกัน" เสี่ยวหงคึกคักเป็พิเศษเมื่อได้ยินคำว่าของอร่อย อาหารทุกอย่างที่เสี่ยวหลันจื่อทำ ล้วนอร่อยทั้งนั้นตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าสาวหงจะดูอ้วนกว่าเดิมแม้ว่าตัวจะยังสั้นเท่าเดิมก็ตาม

เสี่ยวหลันจื่อให้ฉีเหลย เอาเกวียนวัวออกมา นางไม่อยากใช้ฉีเยี่ยน เพราะนางรู้ว่าฉีเยี่ยนไม่ชอบนาง และนางก็ไม่ใช้ให้เซียวอี้เหิง ขับเกวียนให้นาง

วันนี้เจ้าเข้าไปในอำเภอกับข้า  มีหลายอย่างที่ต้องซื้อเจ้าจะได้ช่วยข้าแบกของ

ฉีเหลย พยักหน้ารับ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มรับคำสั่งของนางด้วยความเคยชิน

ตอนที่ฉีเหลย จะเข้าประจำที่คนขับเซียวอี้เหิง ก็ใช้ความเร็วที่เร็วกว่าแทรกเข้าไปนั่งที่คนขับแทน

"เจ้าไม่ต้องไปรออยู่ที่นี่แหละ"

ฉีเหลย ชะงักไปเล็กน้อยจากนั้นก็พยักหน้ารับ

เสี่ยวหลันจื่อ ปีนขึ้นท้ายเกวียน

"ไปได้เลยฉีเหลย"

เสี่ยวหลันจื่อสั่ง โดยที่ไม่รู้ว่าสารถีได้ถูกเปลี่ยนตัวเรียบร้อยแล้ว

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่16 พบคุณหนูหลู่อีกครั้ง

    เมื่อเกวียนวัวของเสี่ยวหลันจื่อไปถึงอำเภอนางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"ทำไมเป็นท่านล่ะ เเล้วฉีเหลยไปไหน"เสี่ยวหลันจื่อมองหาฉีเหลย"ทำไมถึงจะเป็นข้าไม่ได้ "เซี่ยวอี้เหิงปรายตามองเสี่ยวหลันจื่อเรียบๆ"ก็ไม่ทำไม ข้าเพียงคิดว่าฉีเหลยจะมาด้วยเพราะ ข้าจะให้เขาช่วยถือของที่ข้าจะซื้อวันนี้""ข้าก็ถือได้" เซียวอี้เหิงพูดจบก็เดินนำหน้านางไปเสี่ยวหลันจื่อเกาหัว ไม่เข้าใจอารมณ์และความคิดของเขาเอาซะเลยหลังจากขายสมุนไพรแล้วเสี่ยวหลันจื่อก็ไปที่ร้านจี้ชิงหรูอีกครั้ง คราวที่แล้วนางไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้พวกเขาทั้งสามคนวันนี้จึงคิดว่าจะซื้อให้พวกเขาซะหน่อย จะปล่อยให้ใส่เเต่ชุดหรูหราเดินลอยไปลอยมาในหมู่บ้านมันรู้สึกทิมแทง สายตานางยังไงไม่รู้"โอ้ ดูซินั่นใครมาเสี่ยวหลันจื่อขอเราไมใช่หรือ สร้างเรื่องเอาไว้ใหญ่โตแล้ว หนีหายไปเลยนะ"เจียงฉงเหนียง ผู้ดูแลจี้ชิงหรูรีบออกมาคล้องเเขนนาง อย่างสนิทสนมที่หน้าร้าน"เจ้าคิดมากไปแล้วข้าสร้างเรื่องที่ได้กันเป็นเขาต่างหาก"เสี่ยวหลันจื่อชี้ไปที่เซียวอี้เหิงที่ยืนใบหน้าเรียบเฉยอยู่ข้างๆ นาง"เจ้าไม่รู้อะไรหลังจากที่เจ้ากลับไปสตรีทั้งหลายในอำเภอต่างพากันมาที่นี่เพื่อสอบถาม

    Last Updated : 2025-01-02
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่17 ความรู้สึกที่ไม่ชัดเจน

    เสี่ยวหลันจื่อที่นั่งอยู่ท้ายเกวียนวัวกระโดดลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคงแล้วจึงยกเอาตะกร้าที่ใส่ของลงมาด้วย หน้าบ้านสกุลหลิวมีหญิงสาวหลายคนยืนอยู่หนึ่งในนั้นมีหลิวหลีรวมอยู่ด้วย"พวกเจ้ากลับมาแล้ว "หลิวหลีส่งยิ้มอ่อนหวานไปให้เซียวอี้เหิง ก่อนที่มันจะเจือนลง เมื่อมีหญิงงามแต่งตัวหรูหรางดงามเหมือนกับคุณหนูที่มาจากในเมือง“นางเป็นใครเหตุใดนางถึงมากับพวกเจ้า”หลิวหลีหันมาถามเสี่ยวหลันจื่อ“ข้าคือหลู่หลิงเซียน บุตรสาวคหบดีหลู่แห่งอำเภอหยู่ปิง” พูดจบนางก็เดินเดินเชิดหน้ามายืนเซียวอี้เหิง“แล้วคุณหนูหลู่ ผู้สูงส่งมาทำอะไรที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้” หลิวหลีถามเสียงประชดประชัน“ข้ามาทำอะไรที่นี่เกี่ยวอันใดกับเจ้าแล้วนี่เจ้าเป็นใคร” หลู่หลิงเซียนเมินหลิวหลี ไปโดยปริยาย มองประตู เรือนที่ดูผุพังเหมือนถูกสร้างมาแล้วหลายสิบปี“ที่นี่คือบ้านของเจ้าหรือ” หลู่หลิงเซียงถามเสี่ยวหลันจื่อ“ใช่แล้วที่นี่คือบ้านของข้า”“เข้าบ้านเถอะ” เซียวอี้เหิง จูงมือเสี่ยวหลันจื่อเดินผ่านหญิงสาวหลายคนที่มายืนรุมล้อมอยู่หน้าบ้านสกุลหลิวหลู่หลิงเซียนที่ถูกเมินก็ถอนหายใจหนักๆ อย่างไม่พอใจนักเมื่อเข้ามาถึงในเรือน หลู่หลิงเซีย

    Last Updated : 2025-01-02
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่18 หลบหน้า

    เสี่ยวหลันจื่อตื่นมาด้วยอาการงัวเงียนางรู้สึกอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก เมื่อวานตอนเที่ยงกับตอนเย็นไม่ได้ทานข้าวทำให้นางรู้สึกไร้กำลัง เสี่ยวหงที่นอนอยู่ข้างๆ นางเอาหัวเล็กๆ มาคลอเคลียข้างแก้มออดอ้อน เมื่อวานมันเห็นนางร้องไห้มันก็รู้สึกเศร้าไปกับนางด้วยวันนี้จึงอยากทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง“ยังเป็นเจ้าที่ดีกับข้าที่สุดนะเสี่ยวหง” เสี่ยวหลันจื่อกอดมันจากนั้นก็ลุกออกไปล้างหน้าล้างตา ท่านยายที่เห็นหลานสาวตื่นแล้วก็รีบเข้ามาดูทันที“เป็นอย่างไรบ้างจื่อเอ๋อดีขึ้นบ้างหรือยัง”แม่เฒ่าสวียกมือขึ้นอังหน้าผากของนาง“ข้าสบายดีเจ้าค่ะท่านยาย ไม่ต้องห่วงข้าไม่เป็นอะไร”เสี่ยวหลันจื่อ ยิ้มให้นางจากนั้นจึงเดินเข้าไปตักโจ๊กมากินเล็กน้อย“เหตุใดถึงเงียบขนาดนี้ ไปไหนกันหมดเจ้าคะ”เสี่ยวหลันจื่อถามออกไปรวมๆ ไม่ได้เจาะจงว่าถามหาใครแม่เฒ่าสวีจึงไขความกระจ่างว่า“เมื่อวานตอนเย็น คุณหนูหลู่ทะเลาะกับหลิวหลีบุตรสาวหัวหน้าหมู่บ้านจึงมาขอให้พ่อหนุ่มช่วย พ่อหนุ่มเลยส่งนางกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”เสี่ยวหลันจื่อที่ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป ภาพที่นางเห็นตรงเชิงเขาเมื่อวาน ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำข

    Last Updated : 2025-01-03
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่19 ใกล้ชิด

    เสี่ยวหลันจื่อและเซียวอี้เหิงหันขวับไปในทันที เสี่ยงที่ตะโกนมาจากทางด้านหลังของพวกเขาคือเสียงของ หลิวหลีบุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน“พวกเจ้ากำลังเรื่องบัดสีอะไรกัน” เสี่ยวหลันจื่อที่เห็นนางพูดจาใส่ร้ายตนก็ขมวดคิ้วทันที“เจ้าต่างหากพูดจาน่าเกลียดอะไรกัน ข้ากับเขาเป็นสามีภรรยาที่นอนร่วมห้องกัน จะทำสิ่งใดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย เป็นเจ้าต่างหากที่แส่ไม่เข้าเรื่องเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือนก็เที่ยววิ่งตามบุรุษที่มีภรรยาแล้ว หากว่าพ่อของเจ้ารู้ว่าเจ้าคิดหวังแย่งชิงสามีคนอื่น พ่อเจ้าจะทำหน้ายังไงแล้วในอนาคตหากข่าวลือแพร่ออกไปเจ้ายังจะแต่งให้ใครได้อีก “เสี่ยวหลันจื่อพูดรวดเดียวจบ นางรำคาญเรื่องวุ่นวายพวกนี้แล้วยิ่งนางหลบเลี่ยงก็ดูเหมือนเรื่องวุ่นวายจะยิ่งวิ่งเข้ามาหานาง“จ้า เจ้า “ หลิวหลีพูดไม่ออกสักคำ นางได้แต่ติดอ่างอยู่อย่างนั้น เรื่องข่าวลือเสียหายเป็นเรื่องใหญ่ของผู้หญิงโบราณ และเสี่ยวหลันจื่อก็จี้ได้ตรงจุดยิ่งนัก หลิวหลีที่หวาดกลัวว่าหากมีข่างลือแพร่ออกไปว่านางคิดแย่งสามีคนอื่น นางจะต้องถูกท่านพ่อที่รักหน้าตายิ่งกว่าชีวิตฆ่าตายแน่ไหนจะตาเฒ่าหลิวนั่นอีก เมื่อก่อนใครๆ ต่างเล่าว่าเขาโหด

    Last Updated : 2025-01-03
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่20 หวานไม่แผ่ว

    ​เสี่ยวหลันจื่อขยับตัวเล็กน้อยเพราะนางนั่งเกร็งเป็นเวลานาน เซียวอี้เหิงผละออกจากซอกคอของนางใช้มือเรียวยาวเชยคางมนขึ้นมาให้สบตากับเขา"ทีนี้เจ้าเข้าใจแล้วหรือไม่" เสี่ยวหลันจื่อหลบตาเขา“มองตาข้า มองเข้าไปในดวงตาของข้า เท่าที่เจ้ารู้มาข้าเคยทำเช่นนี้กับสตรีใดหรือไม่”เสี่ยวหลันจื่อหน้าแดงก่ำด้วยความอาย นางมุดหลบเข้าไปในอกเขาอีกรอบเหมือนที่เสี่ยวหงชอบทำตอนที่อยู่กับนาง เสียงหัวเราะทุ้มต่ำที่ดังขึ้นข้างหูของนาง ยิ่งทำให้นางอับอายยิ่งกว่าเดิม“จื่อเอ๋อ หากเจ้ายังทำเช่นนี้ต่อไปข้าจะไม่ทนอีกแล้วนะ”เสี่ยวหลันจื่อสะดุ้งทันทีเขาหัวเราะท่าทางขี้ขลาดของนางจนอกกระเพื่อมขึ้นลง“ท่านแกล้งข้า” นางตีที่หน้าอกเขาอย่างไม่แรงนักหนึ่งที“เอาล่ะข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว” เซียวอี้เหิงยกตัวนางขึ้นเหมือนท่าอุ้มเด็ก เสี่ยวหลันจื่อตกใจจนต้องรีบคว้าคอของเขาเอาไว้“เราจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้วนะ เจ้าก็ห้ามทดสอบข้าเหมือนกันหากมีคราหน้าข้าจะทำให้เจ้าท้องป่องจนไม่กล้าออกไปก่อเรื่องข้างนอกอีก” เสี่ยวหลันจื่ออายจนต้องก้มหน้าซุกที่ซอกคอเขาเสี่ยวหลันจื่อเซียวอี้เหิงและเสี่ยวหง เก็บสมุนไพรจนกระทั่งบ่ายคล้อยจึงพากันกลับไปที่เ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่21 อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป

    “ท่านอ๋อง หยุดก่อน” เสี่ยวหลันจื่อใช้มือสองข้างดันคางของเขาที่กำลังซุกซบอยู่ตรงซอกคอของนาง“จื่อเอ๋อข้าทนไม่ไหวแล้ว อย่าห้ามข้าเลย”เซียวอี้เหิงยังคงพยายามก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอของนาง มือสองข้างก็ไม่อยู่นิ่งทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม คอยเคล้นคลึงอกอวบ ส่วนมืออีกข้างบีบบั้นท้ายกลมกลึงของนางอย่างเมามัน เสี่ยวหลันจื่อเริ่มโมโหจึงกัดใบหูของเขาอย่างแรงคราวนี้ได้ผลทันที เซียวอี้เหิงร้องเสียงหลงออกมาเพราะความเจ็บ ฉีเหลยกับฉีเยี่ยนที่นอนอยู่ห้องข้างๆ รีบพังประตูเข้ามาทันที เพราะคิดว่ามีนักฆ่ามาลอบทำร้ายท่านอ๋อง โชคดีที่มีมุ้งโปร่งบางบังร่างทั้งสองคนเอาไว้และเสี่ยวหลันจื่อที่ตัวเล็กจึงถูกร่างของเขาบังจนมิด“ท่านอ๋องเกิดอะไรขึ้น มีนักฆ่าหรือพ่ะย่ะค่ะ”เป็นฉีเยี่ยนที่บุกเข้ามาในห้องก่อนแต่ฉีเหลยที่หลบอยู่นอกห้องเพราะเขารู้สึกสะกิดใจว่าหากมีนักฆ่ากลางดึกท่านอ๋องคงไม่ร้องเสียงดังเพียงนี้คงจะฆ่าพวกมันเงียบๆ แล้วทำลายศพไม่เหลือซากไปแล้ว เซียวอี้เหิงที่โมโหคนที่มาขัดจังหวะเขาจึงใช้ลมปราณซัดฉีเยี่ยนออกไปนอกห้องทันที“ฉีเยี่ยนคืนนี้เจ้าคงจะยังไม่ง่วงนอน ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นเขาไปฝึกจนถึงเช้า”ฉีเยี่

    Last Updated : 2025-01-03
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่22 เดินทางไปเมืองหลวง

    เสี่ยวหลันจื่อนั่งนึกถึงเนื้อเรื่องในนิยายระหว่างที่นั่งรถม้าไปเมืองหลวงนางเอกแต่งกับพระเอก องค์ชายสามสมคบแคว้นฉู่ก่อกบฏแต่ล้มเหลวจึงถูกปลดเป็นสามัญชนแล้วเนรเทศไปชายแดนทางภาคเหนือ ที่รกร้างและมีหิมะตกถึงแปดเดือนในหนึ่งปีขุนนางที่เข้าร่วมการกบฏในครั้งนี้ถูกประหารเก้าชั่วโคตรลำเอียงเห็นๆ ฮ่องเต้ไม่กล้าฆ่าลูกตัวเองแต่ครอบครัวคนอื่นกลับฆ่าได้อยางง่ายดายจะประหารองค์ชายสามเก้าชั่วโคตรได้ยังไงล่ะ มิใช่ต้องประหารตัวเองไปด้วยหรือ แบบนั้นสกุลเซียวได้สิ้นเผ่าพันธุ์แน่ๆออกมาจากอำเภอหยู่เปิงมาได้สักพัก เสี่ยวหลันจื่อสังเกตเห็นว่าเริ่มมีผู้คนเดินเท้ามากขึ้น มีรถม้าบนถนนมากขึ้น นางจึงถามสารถีเพราะเขาประจำอยู่ในอำเภอหยู่เปิงเขาอาจจะรู้อะไรมาบ้าง“สารถีเหตุใดมีผู้คนมากมายเพียงนี้” เสี่ยวหลันจื่อตะโกนถามออกไป“แม่นางตอนนี้ทางใต้กำลังมีสงครามผู้คนเหล่านี้น่าจะอพยพมาจากทางใต้เพื่อหนีสงครามแน่นอน ข้าได้ยินมาว่า ท่านอ๋องของแคว้นเราเป็นผู้นำทัพออกต่อสู้พวกแคว้นฉู่ด้วยตัวเองทั้งยังมีแม่ทัพกู้ร่วมออกเดินทางไปรบครั้งนี้ด้วย”กู้ห้าวเหวินงั้นหรือ แม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินพ่อขอกู้รั่วอวิ๋น นางเอกของเรื่อง“พวกเข

    Last Updated : 2025-01-03
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่23 พบกันอีกครั้ง

    ​เช้าวันถัดมาทุกคนต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินทางเสี่ยวหลันจื่อรู้สึกอ่อนเพลียจากเมื่อวานที่ต้องเดินทั้งวันแล้วยังต้องแบกเจ้าชุดเกราะหนักหลายชั่งอีก นางแทบไม่มีแรงเหลือแล้วแต่ก็ต้องฝืนเดินต่อไป เสี่ยวหลันจื่อไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิดแต่ก็ต้องฝืนกิน กองทัพออกเดินอีกครั้งเสี่ยวหลันจื่อไม่รู้ว่าตันเองเดินมานานแค่ไหน ตอนนี้นางแทบไม่รู้สึกถึงขาของตนเองแล้ว นางอยากจะนั่งลงเอาเท้ายันพื้นแล้วร้องไห้งอแงเหมือนที่เด็กๆ ทำ อยากตะโกนว่าเหนื่อยโว้ย อยากด่าเซียวอี้เหิงที่ไม่ยอมพาพวกเขาพักสักทีแต่นางทำไม่ได้เสี่ยวหลันจื่อที่อัดอั้นตันใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้จึงได้แต่อดทน อดทนจนกว่าจะทนไม่ไหวและก่อนที่ความอดทนของนางจะหมดลง กองทัพก็ถูกสั่งให้หยุดพัก นางเกือบจะร้องไชโยออกมาดังๆวันที่สามเสี่ยวหลันจื่อรู้สึกตัวรุมๆ เหมือนจะเป็นไข้ นางรู้ว่าตัวเองกำลังท้องแต่นางจะป่วยตอนนี้ไม่ได้ดังนั้นจึงกินยาแก้ไข้กันเอาไว้ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ช่วยอะไรเลยช่วงที่กองทัพพักเที่ยงเสี่ยวหลันจื่อกินอาหารไปเล็กน้อยจึงนั่งพิงเกวียนที่ใช้ขนอาวุธหลับไป นางฝันอีกครั้งนางฝันว่ากองทัพได้เดินผ่านช่องเขาแคบๆ ระหว่างที่พวกเขาเดินผ

    Last Updated : 2025-01-03

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ชิงตัวนักโทษ

    เซียวอี้เหิงเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นคนตัดสินโทษกบฏของตระกูลกู้ วันนี้เขาจึงต้องมาเป็นพยานที่ลานประหารในใจเขาคิดว่ายังไงกู้รั่วอวิ๋นจะต้องมาชิงตัวนักโทษแน่ คนของตระกูลกู้ร้อยกว่าชีวิตถูกทหารคุมตัวเดินออกมานั่งคุกเข่าที่ลานประหาร ด้านหน้าของพวกเขาคือกู้เฟิงพี่ชายของกู้รั่วอวิ๋นและกู้ห้าวเหวินอดีตแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินที่ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่สภาพของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากซากศพเท่าใดนักชาวเมืองนับพันที่มาดูการประหารตระกูลกู้ที่ยิ่งใหญ่และเป็นตระกูลที่สืบเชื้อสายยาวนานมานับร้อยปี ทั้งสตรีและเด็กของตระกูลกู้ต่างร่ำไห้ขอความเป็นธรรมมีเพียงกู้เฟิงที่ยังคงมีสายตาแข็งกร้าวเซียวอี้เหิงมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา เขากำลังรออยู่ รอเวลาที่กู้รั่วอวิ๋นจะปรากฏตัว กู้รั่วอวิ๋นที่แฝงตัวมากับชาวเมืองมองไปที่บิดาและพี่ชายของนางด้วยดวงตาแดงก่ำ นางไม่รู้ว่าจะมีโอกาสช่วยเหลือบิดาและพี่ชายของนางมากเท่าใด แต่ที่แน่ๆ เซียวอี้เหิงจะต้องวางกับดักไว้รอนางแล้วอย่างแน่นอน เป็นนางที่จะยอมกระโดดลงไปในกับดักนั่นหรือไม่การประหารเริ่มต้นขึ้นนายทหารที่ทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตกว่ายี่สิบคนเดินตรงมาที่สมาชิกของสกุลกู้ พวกเขาต่าง

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   กลับหมู่บ้านเถาฮวา

    ก่อนการประหารสกุลกู้ในข้อหาก่อกบฏเสี่ยวหลันจื่อ ที่ออดอ้อนขอให้เซียวอี้เหิง พานางและทุกคนออกไปเดินเที่ยวตลาดของเมืองหลวง เซียวอี้เหิงที่ทนการรบเร้าของนางไม่ได้จึงให้ฉีเหลยเป็นองครักษ์พร้อมด้วยฉีอิงกับฉีหลิงเขายังไม่วางใจเรื่องของกู้รั่วอวิ๋น เขาเกรงว่าข่าวที่ได้มาว่านางอยู่ที่แคว้นฉู่จะกลายเป็นข่าวลวง บางทีนางอาจอยู่ที่นี่แล้วก็ได้เซียวอี้เหิงให้คนของเขาตามหาทั้งในที่ลับและที่แจ้งติดประกาศไปทั่วเมืองวางเงินรางวัลนำจับสูงลิ่วเพื่อกดดันให้นางออกมา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่อยากให้เสี่ยวหลันจื่อออกไปนอกจวน เพราะเขาเกรงว่านางจะถูกคนของกู้รั่วอวิ๋นทำร้าย“ท่านไม่ต้องเป็นห่วงรับรองว่าข้าจะไม่ดื้อเด็ดขาดออกไปแค่เพียงไม่นานข้าจะรีบกลับมาแล้วจะซื้อขนมมาฝากท่านนะ”เสี่ยวหลันจื่อทำเสียงออดอ้อน เซียวอี้เหิงนั้นรู้สึกหนักใจแต่ทำอย่างไรได้นางไม่ใช่สัตว์แต่นางเป็นมนุษย์ จะขังนางเอาไว้แต่ภายในจวนอย่างเดียวก็คงไม่ได้ มันไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา ทางที่ดีคือเขาต้องจับตัวกู้รั่วอวิ๋นให้ได้เขาจึงจะรู้สึกวางใจที่เสี่ยวหลันจื่ออยากออกมาเที่ยวข้างนอกในวันนี้ก็เป็นเพราะหลิวหลี เมื่อวานนางมาหาเสี่

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ที่ข้าทำไปทั้งหมดก็เพื่อเจ้า

    เมื่อข้ารับใช้ในเรือนมารวมตัวกันที่เรือนหลักของเซียวอี้เหิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เหิงประคองเสี่ยวหลันจื่อเดินมานั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าทุกคนนางเงยหน้ามองเซียวอี้เหิงว่าเขากำลังจะทำอะไร ทุกคนในจวนชินอ๋องต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าของเสี่ยวหลันจื่อชัดๆ นางคือนางกำนัลที่ถูกส่งมาโดยไทเฮานั่นเองพวกเขาต่างทำสีหน้าหวาดกลัว มิใช่ว่านางถูกท่านอ๋องฆ่าไปแล้วหรือในตอนนั้น นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แถมตอนนี้นางยังตั้งครรภ์อยู่ เสียงวิจารณ์ของเหล่าข้ารับใช้เริ่มดังขึ้น“พวกเจ้าคงจะสงสัยว่าเหตุใดพระชายาของข้าถึงมีใบหน้าเหมือนกับอวี้ซูเหยาใช่หรือไม่ ถึงแม้นางจะมีใบหน้าที่เหมือนกันมากเช่นไรแต่นางคือคนละคน ที่นั่งอยู่ต่อหน้าของพวกเจ้าคือพระชายาเพียงคนเดียวของข้า นามของนางคืออวี้หลันจื่อ ข้าขอห้ามทุกคนพูดเรื่องของอวี้ซูเหยาอีกไม่ว่ากรณีใดก็ตามถ้าหากว่ามีใครที่ไม่ทำตามคิดต่อต้านคำสั่งของข้า จะต้องถูกลงโทษขั้นสูงสุดตามกฏของจวนชินอ๋อง”เมื่อได้ยินเช่นนั้นข้ารับใช้ต่างหวาดกลัวไม่มีใครกล้าปริปากแม้แต่คนเดียวใครเล่าจะกล้าเหิมเกริมต่อต้านคำสั่งของท่านอ๋อง“อีกอย่างหากมีใครคิดไม่ซื่อกับข้าเหมือนที่อวี้ซูเหยาท

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้าได้ยินเสียงสตรี

    หลังจากที่พูดคุยกับหลิวหลีและปลอบใจนางเล็กน้อยเสี่ยวหลันจื่อก็กลับมาที่เรือนของนาง เมื่อฉีหลิงเปิดประตูเรือนทั้งสองก็เห็นเซียวอี้เหิงที่ยืนใบหน้าถมึงทึงอยู่ที่ลานบ้าน“ไปไหนมาอีกแล้วเจ้าตัวดี ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าให้ระวังอย่าเที่ยวออกไปเดินสุ่มสี่สุ่มห้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจ้าข้าจะทำอย่างไร เหตุใดถึงได้ดื้อดึงเหมือนเด็กเล็กเช่นนี้”เซียวอี้เหิงดุเสี่ยวหลันจื่อเสียงอ่อน เขาไม่รู้แล้วว่าจะรับมือกับนางอย่างไรดี ดุก็ไม่ได้ตีก็ไม่ได้ หากทำให้นางร้องไห้ก็เป็นเขาซะเองที่เจ็บปวด เสี่ยวหลันจื่อยืนก้มหน้าท่าทางหูลู่หางตกเหมือนเสี่ยวหงตอนที่โดนดุ ดูน่าสงสารยิ่งนักเซียวอี้เหิงถอนหายใจ ท่าทางเช่นนี้มีหรือเขาจะใจแข็งกับนางได้“ช่างเถอะๆ ข้าไม่ดุเจ้าแล้วเลิกทำท่างทางเหมือนเสี่ยวหงเสียที มานี่มาข้างนอกอากาศยังหนาวเย็นอยู่เข้าไปในเรือนเถอะอย่าอยู่ตรงนี้เลยเดี๋ยวจะไม่สบาย”เสี่ยวหลันจื่อเดินก้มหน้าไปหาเซียวอี้เหิงเกาะแขนเขาทำท่าทางเหมือนยังเศร้าอยู่ แต่ดวงตากลมโตที่ซ่อนอยู่ภายใต้แพขนตาหนาของนางกลับเปล่งประกายซุกซน ตอนที่เดินตามเซียวอี้เหิงไปเสี่ยวหลันจื่อยังหันมายักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉีหลิง ท่าทางทั้งหม

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   หลี่เอ้อกัง

    อาหารมื้อเย็นผ่านไป เสี่ยวหลันจื่อรั้งผู้เฒ่าทั้งสองเอาไว้เพื่อคุยเรื่องที่นางจะกลับไปที่จวนชินอ๋อง และเสี่ยวหลันจื่อต้องการให้ท่านตากับท่านยายไปอยู่ที่นั่นกับนางด้วย“ท่านตาท่านยายเจ้าคะข้ามีเรื่องจะปรึกษากับกับท่านทั้งสอง ตอนนี้ครรภ์ของข้าก็เกือบจะแปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะคลอดเด็กสองคนนี้ ท่านอ๋องอยากให้ข้าไปคลอดที่เมืองหลวงเพราะที่นั่นมีหมอตำแยและยังมีหมอหลวงที่เก่งกว่าที่นี่ อีกทั้งเพราะข้าต้องคลอดทีเดียวถึงสองคนเขาจึงรู้สึกไม่วางใจ แต่ข้าไม่อยากไปอยู่ที่นั่นคนเดียวข้ากลัวว่าตัวเองจะเหงาและตอนที่ข้าคลอดข้าอยากให้ท่านทั้งสองอยู่เคียงข้างข้า จะทำให้ข้ารู้สึกสบายใจ ท่านทั้งสองไปกับข้านะเจ้าคะ”เสี่ยวหลันจื่อใช้เสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์ นางกลัวว่าผู้เฒ่าทั้งสองจะตัดใจทิ้งบ้านเกิดของตนเพื่อไปกับนางไม่ได้“ได้สิ เจ้าเป็นหลานเพียงคนเดียวของข้า ต่อให้เจ้าไม่ขอร้องข้ากับตาแก่นี่ก็จะต้องตามเจ้าไปแน่นอน จื่อเอ๋อเจ้าสบายใจได้และคลอดเด็กทั้งสองคนออกมาอย่างปลอดภัยเถอะ”เสี่ยวหลันจื่อโน้มตัวไปกอดแม่เฒ่าสวีเเละใช้ใบหน้าถูไถที่ไหล่ของนางอย่างที่ชอบทำประจำ แต่เซียวอี้เหิงดึงนางออกมาแล้วอุ้มนางเข้าห้องไ

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะ

    เซียวอี้เหิงวางเสี่ยวหลันจื่อเอาไว้ที่เก้าอี้ในห้องโถงของเรือน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เพราะท่านตากับท่านยายไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านตั้งแต่เช้าแล้ว น่าจะเป็นเรื่องการแต่งงานของหลิวหลี ถ้าจะให้พูดคือหัวหน้าหมู่บ้านเป็นลูกชายของพี่ชายผู้เฒ่าหลิวดังนั้นหลิวหลีจึงนับเป็นญาติของผู้เฒ่าหลิวเช่นกัน“ฉีหลิงตอนนี่เจ้าอายุเท่าไหร่” เสี่ยวหลันจื่อที่นั่งเรียบร้อยแล้วหันมาซักทันทีที่ฉีหลิงเดินตามเข้ามาในเรือน“อายุสิบเจ็ดเจ้าค่ะ” ฉีหลิงตอบทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่“เจ้ายืนคุยกับข้าได้หรือไม่ คุกเข่าเช่นนี้ข้าจะคุยกับเจ้าได้สะดวกได้อย่างไร” เสี่ยวหลันจื่อสั่งนาง ฉีหลิงมีท่าทีลังเล มองไปที่เซียวอี้เหิงอย่างหวาดๆ นางรู้ว่าพระชายานั้นใจดีขนาดไหน แต่กับนายเหนือหัวของพวกเขาแล้วต่างไม่กล้าล่วงเกิน“เจ้าทำตามที่นางบอกเถอะ ต่อไปนี้ทุกเรื่องของเจ้าสองพี่น้องข้าจะยกให้พระชายาเป็นคนดูแล นางสั่งอะไรเจ้าก็ทำตาม” เซียวอี้เหิงสั่งเสียงเรียบ“เพคะ” ฉีหลิงลุกขึ้นยืนแต่ยังคงก้มหน้า พวกเขาถูกสั่งสอนมาตั้งแต่ที่เริ่มเข้าฝึกเป็นองครักษ์เงาว่าห้ามมองหน้าเจ้านายเมื่ออยู่ต่อหน้า“ฉีหลิงตั้งแต่นี้ไปเจ้าสองพี่น้องมาเป็นคนของข้าเจ้าย

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้าอยากอยู่กับเจ้าตลอดไป

    ​ในตอนสายสองผู้เฒ่ากลับมาที่เรือนเห็นฉีเหลยนั่งอยู่ที่ห้องโถงก็รีบเข้าไปทักทายทันที“เจ้าหนุ่มเหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้าพึ่งไปชายแดนเมื่อเดือนก่อนหรือเหตุใดกลับมาที่นี่อีกแล้วเล่า เจ้านี่ช่างทุ่มเทให้กับงานเหลือเกินคราวนี้มาด้วยเรื่องอะไรล่ะ หรือว่ามีความลับอะไรที่ต้องมาบอกพวกเราอีกหรือ ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทถูกคุมขังไปแล้วหรืออย่างไร”ผู้เฒ่าหลิวซักฉีเหลยยาวเหยียดอย่างอยากรู้อยากเห็น ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนสายลับเข้าไปทุกที ตอนนั้นเขายังเคยรู้เรื่องที่เป็นความลับระดับแคว้นเชียวนะ ช่างน่าปลาบปลื้มใจเสียจริงเหมือนกับว่าเขาเป็นคนสำคัญอย่างไรอย่างนั้นผู้เฒ่าหลิวทำท่าทางฝันเคลิ้มอยู่ในภวังค์คนดียว แม่เฒ่าสวีมองสามีของนางอย่างหมั่นไส้ สักวันตาเฒ่านี่คงได้ตายเพราะชอบสอดรู้เรื่องชาวบ้านเป็นแน่ แม่เฒ่าสวีไม่สนใจคู่ยากของตนหันมาหาฉีเหลยมองอย่างจับผิดนางกลัวว่าครั้งนี้จะมีเรื่องอีกฉีเหลยทำหน้าเหมือนกลืนหวงเหลียนเข้าไป จะทำอย่างไรได้พอเขาไปถึงที่ชายแดน ท่านอ๋องก็สั่งให้เขาติดตามกลับมาที่เมืองหลวงอีกครั้งเกิดเป็นฉีเหลยช่างทรมานยิ่งนัก ก้นของเขาด้านหมดแล้วเพราะขี่ม้ากลับไปกลับมาไม่ได้หย

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   อยู่พร้อมหน้า

    เสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูออกไปพบว่าคนที่มาเคาะประตูคือหลู่หลิงเซียน“คุณหนูหลู่ ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ” เสี่ยวหลันจื่อคิดว่าตั้งแต่วันนั้นนางน่าจะเลิกราไปเล้วไม่คิดว่าจะยังมาที่นี่อีก“เจ้าไม่คิดจะเชิญข้าเข้าไปข้างในหน่อยหรือ”เสี่ยวหลันจื่อเบี่ยงตัวหลบให้นางเข้ามาด้านใน เมื่อเข้ามานั่งที่ห้องโถงเรียบร้อยแล้ว หลู่หลิงเซียนเป็นคนกล่าวขึ้นก่อน“ที่ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้าบางอย่าง”หลู่หลิงเซียนเหมือนจะรู้ว่าเสี่ยวหลันจื่อคิดอะไร จึงชิงออกตัวก่อน“ดูเหมือนเราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันจนสามารถไปมาหาสู่ ข้าเองก็เป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้นจะช่วยอะไรคุณหนูหลู่ได้กัน”หลู่หลิงเซียนขยับตัวอย่างอึดอัด“ความจริงข้ากำลังจะแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รัก และมีเรื่องบางอย่างที่ข้ายังติดใจอยู่ สามีของเจ้าผู้นั้นเป็นใครกันแน่”เสี่ยวหลันจื่อมองหลู่หลิงเซียนอย่างครุ่นคิด“เจ้ารู้อะไรมา” เสี่ยวหลันจื่อถามนาง“ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน การค้าของตระกูลหลู่เหมือนจะเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น เดิมทีตอนแรกข้าคิดว่าเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้นแต่นึกไม่ถึงว่าถึงขั้น ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องล้มป่วยลง ตระกูลห

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ปลดตำแหน่งรัชทายาท

    เซียวเทียนฉีเดินตรงมาที่หน้าโต๊ะทรงงานของหยวนหมิงฮ่องเต้เพื่อคุกเข่าคารวะ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำความเคารพแท่นฝนหมึกก็ลอยมาที่หัวของเซียวเทียนฉีอย่างแม่นยำ เลืออาบหน้าของเขาทันที ขันทีหลีที่เห็นดังนั้นถึงกับตกใจ ฝ่าบาทตีองค์ชายที่ตนเองรักที่สุด เขาได้เห็นในสิ่งทีไม่ควรเห็นเข้าเสียแล้ว“สำนึกผิดหรือยัง เจ้าลูกอกตัญญู” หยวนหมิงฮ่องเต้ตะโกนด่าเขาลั่นห้อง“ไม่ทราบว่าลูกทำสิ่งใดผิดพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อโปรดบอกลูกให้เข้าใจ”หยวนหมิงฮ่องเต้ขว้างถ้วยชาที่อยู่ใกล้มือที่สุดไปที่เซียวเทียนฉีอีกครั้ง มันตกกระทบพื้นแตกกระจาย มีเศษของแก้วกระเด็นขึ้นมาบาดที่ใบหน้าของเขาจนเลือดออก“ยังจะมาทำไขสือ เรามีทั้งหลักฐานและพยานว่าเจ้าสมคบคิดกับรัชทายาทแคว้นฉู่เพื่อก่อสงครามขึ้น ไหนเจ้าลองหาเหตุผลดีๆ มาสักข้อให้เราไม่ต้องปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาทที”เซียวเทียนฉีหนังศรีษะชาวาบหลังจากที่ได้ยินหยวนหมิงฮ่องเต้พูดว่าจะปลดเขาออกจากตำแหน่งรัชทายาท“ใครเป็นคนบอกเสด็จพ่อว่าลูกสมคบคิดกับแคว้นฉู่เพื่อก่อสงคราพ่ะย่ะค่ะ หรือจะเป็นเสด็จอาชินอ๋อง เสด็จพ่อรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ใส่ความลูกหรือแท้จริงเขาอาจหวังบัลลังที่เป็น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status