แชร์

บทที่8 ตามหาศพ

ผู้เขียน: zuey
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 06:54:05

ผู้ดูแลเฉินเดินออกไปด้านหลังของเริ่นโส่วถัง ทะลุสนามหญ้าข้ามไปอีกฝั่งที่มีประตูบานใหญ่สีแดง ด้านในเป็นเรือนสี่ประสาน สวนตรงกลางถูกตกเเต่งอย่างสวยงาม

ผู้ดูแลเฉินเดินเข้าไปในเรือนที่มีห้องหลักอยู่ตรงกลาง กระซิบบอกองครักษ์ร่างใหญ่ที่ยืนเฝ้าหน้าประตู ไม่นานองครักษ์ก็มาตามเขาให้เข้าไปข้างใน ผู้ดูแลเฉินเดินเข้าไปในห้องหลักจากนั้นเขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าชายหนุ่มผู้หนึ่งที่นั่งอยู่บนพื้นมีเบาะนุ่มรองอยู่เขาเอนกายชันเข่าพิงหมอนใบใหญ่ด้วยท่าทางเกียจคร้าน

ผมยาวดำขลับคล้ายกับสีดวงตาที่ทั้งดำและดูลึกลับราวกับยามรัตติกาลไร้ที่สิ้นสุด ถูกรวบเอาไว้ด้านหลังอย่างหลวมๆ ดวงตาคมใต้เรียวคิ้วเข้มหนาที่โก่งรับกับจมูกโด่งเป็นสันสะกดสายตา ใบหน้า คมเข้มด้านข้างมองเห็นสันกรามได้อย่างชัดเจน ริมฝีปากบางที่เม้นน้อยๆ แลดูเอาแต่ใจ ไรหนวดที่ขึ้นเขียวบางๆ ทำให้ใบหน้าดูหล่อเหลาและยั่วยวนในเวลาเดียวกัน

ลำคอยาวรับกับลูกกระเดือกที่ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะอย่างพอดี ผิวขาวผ่องดูเรียบลื่นของหน้าอกเลยลงไปถึงหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเป็นลอนอย่างสวยงามไม่มากไม่น้อยโผล่พ้นชุดดำที่เปิดอ้าออกคล้ายตั้งใจยั่วยวนผู้ที่ได้พบเห็น

มือเรียวยาวที่โผล่พ้นชุดมองเห็นข้อนิ้วอย่างชัดเจนกำลังถือจอกเหล้าคลึงไปมา มืออีกข้างลูบขนเงางามที่ถูกดูแลอย่างดีของเจ้าสัตว์ร้ายตัวมหึมานัยน์ตาสีเหลืองอำพันที่นอนหมอบอยู่ข้างเจ้านายของมันอย่างสงบนิ่ง

ผู้ดูแลเฉินกลืนน้ำลายเล็กน้อย เหงื่อเม็ดโตผุดพรายบนใบหน้าอย่างยากจะควบคุม

ปีศาจ นี่มันปีศาจจอมล่อลวงชัดๆ ในโลกใบนี้ยังจะมีใครดูดีได้ถึงเพียงนี้อีกแล้วหรือไม่ ช่างเกิดมาให้นรกริษยาเทวดารังเกียจจริงๆ

เสียงทุ้มนุ่ม ดั่งเครื่องดีดโบราณชั้นดีที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกใบนี้ ดังเอื่อยเฉื่อยขึ้น

“มองพอแล้วหรือยัง” ผู้ดูแลเฉินถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกจับได้ว่าแอบมองนายเหนือหัวของตน

“มีอะไรก็พูดมาแล้วก็เลิกทำท่าทางเขินอายเหมือนดั่งสาวน้อยริเริ่มรักเช่นนี้” ผู้ดูแลเฉินสะดุ้งอีกครั้ง

แม้แต่ฝีปากก็เหนือกว่าผู้คนในใต้หล้า เขาบ่นในใจคนเดียว

“คือ..... มีชาวบ้านมาขายโสมภูเขาขอรับ”

“ทำไม......แค่มีคนมาขายโสมเจ้าก็ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ถ้าอย่างนั้นข้าจะเก็บเจ้าเอาไว้ให้เปลืองอาหารของข้าทำไม”

“มะ ไม่ใช่ขอรับ คนที่มาขายโสมเป็นชายชราสามีภรรยาและหลานสาว แต่หลานสาวของพวกเขา.....”

ผู้ดูแลเฉินเงียบไปไม่กล้าพูดออกมา เพราะผู้ใต้บัญชาของชายหนุ่มผู้นี้ต่างรู้ว่าในระยะนี้ที่นายท่านของพวกเขาอารมณ์ไม่ดีหน้าดำคล่ำเครียดหงุดหงิดตลอดเวลาเพราะเรื่องอะไร

“พูด” เสียงเด็ดขาดตวาดก้องดังขึ้น แม้กระทั่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูยังสะดุ้งตาม

“น.....นางดูคล้ายกับคนที่เรากำลังตามหาขอรับ แต่ข้าน้อยไม่แน่ใจ” ร่างสูงลุกขึ้นยืนทันที

เจ้าเสือดำที่นอนสงบนิ่งผงกหัวอันใหญ่โตขึ้นส่ายไปมาพ่นลมหายใจฟืดฟาดคล้ายกับมันรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเจ้านายของมันที่กำลังพลุ่งพล่าน

“นางอยู่ที่ไหน” เซียวอี้เหิง ที่ยืนจังก้าส่งสายตาคมกริบประหนึ่งรัตติกาลกำลังมาเยือนไปยังผู้ดูแลเฉิน ผู้ดูแลเฉินที่ตอนนี้เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มหน้าจนเปียกโชกไปทั้งกาย ความรู้สึกของเขาตอนนี้เหมือนถูกเข็มนับหมื่นเล่มทิ่มแทงไปทั่วร่าง

“นางอยู่ที่ห้องรับรองของเริ่นโส่วถังขอรับ” ในที่สุดผู้ช่วยเฉินก็หาเสียงตนเองจนพบและเปล่งออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“ดี ไปพาตัวนางมาให้ข้า”

ผู้ดูแลเฉินรีบออกไปจากห้องอย่างลนลาน ลืมแม้กระทั่งทำความเคารพก่อนจากไป

เมื่อเขาออกมาจากห้องหลักที่เหมือนกับขุมนรกนั้นแล้วก็ได้แต่ลูบอกยกมือปาดเหงื่ออย่างหวาดกลัว

องครักษ์ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องหลักมองผู้ดูเเลเฉินอย่างเห็นใจ

หนึ่งเดือนมานี้ไม่ว่าใครก็เข้าหน้าท่านอ๋องไม่ติดแม้แต่ฮ่องเต้หยวนหมิงที่เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเขายังถูกชินอ๋องผู้นี้ชักสีหน้าใส่ สาเหตุที่ท่านอ๋องมีอาการเช่นนี้

ทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน หลังจากที่เซียวอี้เหิงสั่งให้คนเฆี่ยนอวี้ซูเหยาจนตาย จากนั้นในตอนที่เขาเข้านอนได้ฝันไปว่าอวี้ซูเหยากลับมาและนางได้หลับนอนกับเขา ตัวเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้ แม้ในใจของเขาจะปฏิเสธมันแค่ไหนก็ตามแต่ในช่วงสุท้ายก่อนที่นางจะจากไปร่างกายเปลือยเปล่าของนางเต็มไปด้วยรอยแส้ที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด เสียงร้องไห้ของนางดังก้องในโสตประสาทของเขา จากนั้นเซียวอวี้เหิงจึงได้สติตื่นขี้นมาและพบว่าตนเองนอนอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน

เขาเรียกองครักษ์ที่เฝ้าประตูมาสอบถามว่าใครเป็นคนพาเขามานอนที่นี่และได้ความว่า ท่านอ๋องเดินมาที่บ่อน้ำพุร้อนด้วยตัวเอง เซียวอี้เหิงแย้งว่าเป็นไปไม่ได้ องครักษ์ทั้งสองมองหน้ากัน จึงตอบว่าพวกเขาทำความเคารพและท่านอ๋องยังพยักหน้าให้ก่อนเดินเข้าไปด้านใน

หลังจากคืนนั้น เหตุการณ์ที่บ่อน้ำพุร้อนก็เกิดขึ้นซ้ำๆ จนกระทั่งผ่านไปสิบวันเซียวอี้เหิงแทบจะไม่ได้นอนเพราะทุกครั้งที่เขาหลับตาภาพของเขาที่ร่วมหลับนอนกับอวี้ซูเหยาจะผุดขึ้นมาในหัวตลอดอย่างไม่สามารถควบคุมได้

แม้จะให้องครักษ์เฝ้าหน้าห้องของเขาหรือแม้กระทั่งมัดตัวเองติดกับเตียงแต่ความฝันนั้นก็ยังตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ดี

“ท่านอ๋อง ข้ารู้จักซินแสอยู่ท่านหนึ่งเราลองเชิญให้เขามาปัดเป่าวิญญาณที่จวนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

เซียวอี้เหิงที่ไม่เคยเชื่อเรื่องภูตผีวิญญาณ เหลือบตามองฉีเยี่ยนปราดหนึ่ง “อืม” เขาตอบเสียงเนือยๆ ออกมา

ความจริงฉีเยี่ยนคิดว่าท่านอ๋องจะต้องปฏิเสธแน่ๆ แต่ไม่นึกว่าจะยอมทำตามคำแนะนำของเขา ฉีเยี่ยน องครักษ์คนสนิทที่อยู่ข้างกายเซียวอี้เหิงมาตั้งแต่เด็ก รีบจัดการตามคำสั่งของเซียวอี้เหิงทันที

แต่ถึงจะหาซินแสมากี่คนสุดท้ายก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี เพราะเขายังคงฝันถึงอวี้ซูเหยาซ้ำไปซ้ำมา แล้วเรื่องที่จวนชินอ๋องเชิญซินแสมาทำการปัดรังควานก็แพร่กระจายออกไป จนไปถึงหูไทเฮา ไม่นานไทเฮาก็สั่งให้ขันทีข้างกายตามเซียวอี้เหิงเข้าวังไปสอบถามซึ่งเขาก็ตอบไปตามความจริง

“ตายแล้วก็ตายไปเหตุใดนางจึงยังมารังควานเจ้าอีก”

“ลูกไม่ทราบ” เซียวอี้เหิงตอบพระมารดาของตนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะเขาไม่ได้นอนมาหลายวัน ใต้ตาดำคล้ำ แม้แต่หนวดเคราก็ขึ้นมาจนเขียวครึ้มเพราะเขาไม่ใส่ใจจะดูแลมัน ไทเฮารู้สึกปวดใจไม่น้อยที่เห็นบุตรชายคนเล็กได้รับความทรมานเช่นนี้

เซียวอี้เหิงเป็นบุตรชายคนเล็กของนางที่มีตอนอายุมากแล้วก่อนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนจะสวรรคตจากไปนางจึงรักเขามาก

หลังจากเซียวอี้เหิงออกจากวังไปไทเฮาก็มีรับสั่งให้จางเต๋อฉวน ขันทีคนสนิท ไปเชิญไต้ซือเสวียนคงเจ้าวาสวัดสือซานที่ไทเฮานับถือ และวัดสือซานเป็นวัดที่ไทเฮาไปขอพรให้มีลูกชาย พระนางจึงเลื่อมใสและไปปฏิบัติธรรมที่วัดนี้ทุกปี ขันทีจางเมื่อรับคำสังจากไทเฮาก็นั่งรถม้าออกจากวังหลวงไปทันที โดยไม่รอช้า และเรียนเชิญไต้ซือเสวียนคงมาที่จวนชินอ๋อง

เซียวอี้เหิงที่หมดหวังเรื่องการใช้ไสยศาสตร์มาแก้ปัญหาแล้วจึงไม่ได้สนใจไต้ซือเสวียนคงนักไต้ซือเสวียนคงไม่ถือสาเขาแม้แต่น้อยใบหน้ายังคงยิ้มน้อยๆ เป็นปกติของตน

“ท่านอ๋องอาตมาขอคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่” เซียวอี้เหิงมองไต้ซือเสวียนคงนิ่งอย่างต้องการอ่านความคิด ว่าพระชรารูปนี้ต้องการทำอะไร จากนั้นเขาก็พยักหน้า และโบกมือให้องครักษ์ออกไป เมื่อในห้องที่เหลือเพียงสองคน เซียวอี้เหิงและไต้ซือเสวียนคงแล้ว ไต้ซือเสวียนคงก็เอ่ยขึ้นว่า

“นางไม่ยินยอมจากไป นางยึดมั่นในตัวท่าน มีทางเดียวคือต้องทำให้นางสมปารถนา แต่ท่านจะบังคับนางไม่ได้ ต้องให้นางเต็มใจด้วนตนเอง” เซียวอี้เหิงไม่เข้าใจคำพูดปริศนาที่พระชรารูปนี้เอ่ยกับเขา แต่ก็ยังพอเข้าใจได้ว่านางที่ไต้ซือเสวียนคงเอ่ยถึง คืออวี้ซูเหยา

“นางตายไปแล้ว ข้าไม่สามารถทำให้นางสมปรารถนาได้” เซียวอวี้เหิงคิดว่าพระชรารูปนี้จะต้องเป็นพวกสิบแปดมงกุฎเหมือนซินแสพวกนั้นแน่นอน ไต้ซือเสวียนคงยังคงยิ้มน้อยๆ ในใบหน้าไม่สนใจสายตาดูแคลนของเซียวอี้เหิง และยังคงพูดต่อไป

“ทั้งตายแล้วและยังไม่ตาย มีเพียงนางคนเดียวที่สามารถทำให้ท่านหยุดฝันถึงเรื่องนั้นได้”

พระชราพูดจบก็ลุกจากเก้าอี้เดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจสายตามที่มีแต่คำถามของเซียวอี้เหิง เมื่อพระชรากลับไปพร้อมขันทีจางแล้วเซียวอี้เหิงก็เรียกองครักษ์คนสนิทมาถามว่าใครเล่าเรื่องความฝันของเขาให้ไต้ซือเสวียนคงฟัง

“อาจจะเป็นขันทีจางก็ได้นะพะยะค่ะ” ฉีเยี่ยนตอบ

“ไม่ใช่ เรื่องนี้เราเล่าให้เพียงเสด็จแม่ฟังเท่านั้น อีกอย่างเรื่องที่จะทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียเกียรติ เสด็จแม่ไม่มีทางทำแน่”

เซียวอี้เหิงยังคงสงสัย แต่ก็ให้ฉีเหลยองครักษ์คนสนิทอีกคนของเขาไปตรวจดูศพที่สุสานร้างนอกเมือง เพราะติดใจคำพูดพระชราที่บอกว่าทั้งตายและไม่ตาย

ไม่นานฉีเหลยกลับมาพร้อมเสื่อที่ใช้ห่อศพของอวี้ซูเหยา แต่ไม่มีศพกลับมา

“ศพนางหายไปแล้วพะยะค่ะ อาจเป็นสัตว์ป่าที่คาบศพไปกินเพราะนี่ก็ผ่านมาสิบกว่าวันแล้วที่นำศพนางไปทิ้งไว้ที่นั่น”

เซียวอี้เหิงกอดอกลูบริมฝีปากบางที่เย้ายวนของตนแล้วเดินไปมา อย่างครุ่นคิด

“ถ้าหากศพของนางถูกสัตว์ป่าคาบไปก็ต้องเหลือร่องรอยไว้ที่เสื่อผืนนี้ ให้คนตรวจสอบอีกที บางที......” เซียวอี้เหิงหยุดคำพูดของตนเองไว้เพียงเท่านั้น นางอาจจะยังไม่ตาย

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เซียวชินอ๋องสั่งคนของเขาทั้งหมดออกตามหาหญิงสาวที่ถูกระบุจากหมอที่เก่งกาจที่สุดของเขาว่าตายไปแล้ว

ไม่ว่าเจ้าจะตายจริงๆ หรือแกล้งตายข้าจะต้องตามหาเจ้าให้พบ ขอเอาเกียรติของชินอ๋องเป็นประกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่9 พบพระเอกในนิยาย

    ผู้ดูแลเฉินนำทางเสี่ยวหลันจื่อมาที่เรื่อนที่เซียวอี้เหิงพักอยู่หลังจากที่รายงานองครักษ์แล้วนางก็ยืนรอให้เจ้าของห้องอนุญาตให้เข้าพบ“ลึกลับจริงๆ” เสี่ยวหลันจื่อบ่นคนเดียวเบาๆ แต่ผู้ดูแลเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยังได้ยินเขาได้แต่หันมายิ้มแหยๆ ให้นางองครักษ์ที่เข้าไปรายงานออกมาบอกให้เสี่ยวหลันจื่อเข้าไป“ท่านไม่เข้าไปด้วยหรือ” เสี่ยวหลันจื่อหันมาถามผู้ดูแลเฉิน“นายท่านให้เชิญแม่นางเข้าไปคนเดียว ผู้ดูแลเฉินให้รอข้างนอก” องครักษ์เฝ้าหน้าประตูตอบ เสี่ยวหลันจื่อมีท่าทางลังเลเล็กน้อย“แม่นางเจ้าเข้าไปเถอะอย่าให้นายท่านต้องรอนาน ข้าจะรอยู่ข้างนอกนี่แหละ” เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้าจากนั้นก็เข้าประตูไปเสี่ยวหลันจื่อเดินเข้าไปในห้องใหญ่ที่ถูกตกแต่งอย่างปรานีตงดงาม คิดในใจว่าคนๆ นี้จะต้องร่ำรวยขนาดไหนนะ ของที่ตกแต่งภายในห้องล้วนดูราคาแพง แค่ห้องนี้ห้องเดียวก็ใหญ่กว่าบ้านที่นางอยู่ถึงสามเท่าเสียงเคลื่อนไหวด้านในทำให้ เสี่ยวหลันจื่อหลุดจากความสนใจที่จะสำรวจห้องอันวิจิตรนี้ ด้านหน้าของนางมีฉากกั้นขนาดใหญ่วางอยู่ทำให้ไม่สามารถมองเห็นคนที่อยู่ข้างใน“แค่มาขายโสมเหตุใดต้องทำให้วุ่นวายขนาดนี้” เสี่ยวหลันจื่อพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่10 ฝันถึงนาง

    ร่างเล็กในอ้อมแขนของเซียวอี้เหิงขยับเล็กน้อยและค่อยๆ ลืมตาตื่น เขากลัวว่านางจะจับได้ว่าเขาแอบมองนางตอนหลับ จึงหลับตาลงแกล้งหลับต่อไป เสี่ยวหลันจื่อขยับตัวบิดไปมาด้วยความเมื่อยขบ ตอนแรกนางถูกเขานอนกอดอยู่จึงพยายามแกะเขาออกแต่ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน เสี่ยวหลันจื่อเห็นว่าเขาคลายอ้อมกอดแล้วจึงค่อยๆ ลุกขึ้นและย่องออกไปกลัวว่าเขาจะตื่น“ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนป่านนี้ตากับยายคงเป็นห่วงแย่แล้ว”ทันทีที่เสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูออกมาก็พบเข้ากับองครักษ์ที่เฝ้าประตูสองคน แต่ไม่พบผู้ช่วยเฉิน“ผู้ดูแลเฉินล่ะ” เสี่ยวหลันจื่อมองซ้ายมองขวาเพื่อหาเขา แต่ไม่พบมีเพียงองครักษ์สองคนที่ยืนนิ่งหน้าตายอยู่หน้าประตู“ผู้ดูแลเฉินฝากมาบอกแม่นางว่าไม่ต้องเป็นห่วงตากับยายของท่านเขาจะดูแลให้เอง ถ้าหากว่าท่านออกมาจากห้องแล้วให้ไปพบเขาที่เริ่นโส่วถัง”องครักษ์รูปร่างสูงใหญ่ตอบนางด้วยเสียงเรียบนิ่ง สายตาไม่วอกแวกเหมือนหุ่นยนต์ เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้าแล้วเดินจากไปหลังจากเสี่ยวหลันจื่อ เดินออกจากห้องไป เซียวอี้เหิงก็ลืมตาขึ้นดวงตาสีดำนิลเป็นประกายคมกล้ามองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ฉีอู่” เซียวอี้เหิงเอ่ยเรียกเบาๆ ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่11 ชายหนุ่มรูปงาม

    เซียวอี้เหิงพร้อมด้วยองครักษ์ทั้งสองฉีเหลยและฉีเยี่ยนยืนเด่นเป็นสง่าท่ามกลางหมู่ชาวบ้าน เสี่ยวหลันจื่อถึงกับกุมขมับด้วยความปวดหัวชาวบ้านในหุบเขาเหล่านี้ไหนเลยจะเคยเห็นชายหนุ่มรูปงามปานเทพเซียนเช่นนี้ สาวน้อยสาวใหญ่ต่างชำเลืองมองพวกเขาด้วยใบหน้าแดงซ่านระคนเขินอายแต่ก็ยังมิวายส่งสายตาเชิญชวนให้ชายหนุ่มหน้าตายสามคนที่เหมือนหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกพวกเขาคงยังไม่รู้ว่ามันคือความงดงามที่มาจากนรก เสี่ยวหลันจื่อเดินไปหาตายายของตนที่ยืนรวมกลุ่มอยู่กับเหล่าชาวบ้าน หาได้สนใจชายหนุ่มสามคนที่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ให้เหล่าชาวบ้านรุมล้อมอยู่“ตายาย พวกท่านมายืนทำอะไรที่นี่ ไปกินข้าวเถอะข้าหิวแล้ว" เสี่ยวหลันจื่อดึงแขนสองผู้เฒ่าเข้าบ้านโดยไม่สนใจว่ามีอีกคนที่มองตามนางตลอดด้วยสายตาเย็นเยียบ แต่เป็นแม่เฒ่าสวีที่สังเกตเห็น“จื่อเอ๋อ เหมือนพ่อหนุ่มรูปงาน คนนั้นจะมองเจ้าอยู่นะ” เสี่ยวหลันจื่อไม่หันไปมองเขาสักนิด “อยากมองก็มองไปสิ ไม่เมื่อยสายตาก็มองไปเลย”เสี่ยวหลันจื่อดึงตายายเข้าบ้านแล้วปิดประตูดังปัง ปิดกั้นทุกอย่างไว้ข้างนอก แต่ไหนเลยที่ประตูไม้แค่นั้นจะสามารถกั้นคนทั้งสามได้ เซียวอี้เหิงและองครักษ์ทั้งสอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่12 หลานเขยผู้หล่อเหลา

    หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้วเสี่ยวหลันจื่อจึงเดินเข้าบ้าน ตั้งแต่ตื่นมานางยังไม่ได้กินอะไรเลย หิวจนสามารถกินหมูเข้าไปทั้งตัวได้แล้ว“ท่านยายวันนี้มีอะไรกินบ้าง” แม่เฒ่าสวีที่ก่อนหน้านี้พาสามีไปแอบดูทั้งสองคนคุยกัน เพราะเป็นห่วงกลัวเขาจะทะเลาะกันรีบยิ้มเอาใจเสี่ยวหลันจื่อทันที“จื่อเอ๋อวันนี้ยายทำแต่ของโปรดเจ้าทั้งนั้นเลยนะ มาๆ นั่งลงเดี๋ยวยายตักข้าวให้”เสี่ยวหลันจื่อนั่งลงแต่โดยดี เมื่อลงมือกินข้าวเสี่ยวหลันจื่อเหลือบมองเซียวอี้เหิงที่นั่งหลังตรงท่าทางองอาจดั่งผู้สูงศักดิ์นั่งรับประทานอาหารในโรงเตี๊ยมชั้นสูง นางก็ถอนหายใจเบาๆ คนดูดีแม้แต่ตอนที่นั่งกินข้าวในสถานที่ซอมซ่อเช่นนี้ก็ยังเหมือนอยู่ในสถานที่ชั้นสูง“ต้องขออภัยท่านอ๋อง ที่ต้องให้มานั่งรับประทานอาหารในบ้านหลังเล็กซอมซ่อเช่นนี้ อาหารพื้นๆ ธรรมดาคงจะไม่ถูกปากท่านเท่าใดกระมัง” เสี่ยวหลันจื่อพูดจาเหน็บแนมเขาแต่เซียวอี้เหิงไม่ได้ตอบนาง เขาได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กเวลากินจะไม่พูด และกิริยาท่าทางของเขานั้นแสดงออกมาโดยธรรมชาติเพราะความสูงศักดิ์ของเขามันฝังลึกอยู่ในสายเลือดฮึ เสี่ยวหลันจื่อหมดอารมณ์ที่จะกิน นางวางตะเกียบทันทีแล้วยกช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่13 เรามากินหม้อไฟกัน

    เสี่ยวหลันจื่อที่เอาชีวิตรอดมาจากสนามรบของสตรีมาได้ก็รู้สึกหิวเป็นอย่างมาก นางนึกถึงหม้อไฟในชาติก่อนได้ซดน้ำซุปร้อนๆ คงจะรู้สึกดี เสี่ยวหลันจื่อรีบจ้ำอ้าวไปที่แผงขายเนื้อทันที“เถ้าแก่ เอาเนื้อเเดงให้ข้าสี่จิน สามชั้นสี่จิน กระดูกซี่โครงด้วย เอาทั้งหมดเลย มีเครื่องในหรือไม่”เสี่ยวหลันจื่อร่ายยาวเป็นชุดด้วยความคล่องแคล่ว คล้ายกับทำเป็นประจำ“โอ้ ได้เลยแม่นางฟ้า เดี๋ยวข้าลดให้จินละสองอีแปะเพราะเจ้าซื้อเยอะ”เสี่ยวหลันจื่อยิ้มตาหยีให้เถ้าแก่ที่กำลังชั่งเนื้อให้กับนาง“แล้วเครื่องในเจ้าต้องการเท่าไหร่” เถ้าแก่ถามนาง“ทั้งหมดเลย” เสี่ยวหลันจื่อเหมา“ได้ๆ เจ้าจะเอาเครื่องในพวกนี้ไปทำอะไรตั้งมากมาย คนที่นี่ไม่ค่อยกินเครื่องในหมูกันหรอกนะ กลิ่นมันเหม็น” เถ้าแก่เตือนเสี่ยวหลันจื่อด้วยความหวังดี เพราะเขาเป็นคนซื่อตรงและนางซื้อเนื้อกับเขาไปเยอะทีเดียว“ถ้าข้าทำรับรองไม่เหม็น” เสี่ยวหลันจื่อยิ้มตาหยีอีกครั้ง ยิ่งทำให้ใบหน้าเล็กๆ งดงามน่ามองยิ่งขึ้นกว่าเดิม“ทั้งหมดเท่าไหร่เถ้าแก่” เสี่ยวหลันจื่อถามเขา“เนื้อหมูสี่จิน ราคาเดิมคือสิบแปดอีแปะ หมูสามชั้นยี่สิบอีแปะ ซี่โครงสิบห้าอีแปะ เครื่องในหมูสิบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่14 หนุ่มชาวนาผู้หล่อเหลา

    ตอนี่14 หนุ่มชาวนาผู้หล่อเหลาเสี่ยวหลันจื่อไม่สนใจบุรุษทั้งสามที่แย่งชิงเนื้อกัน นางเดินเข้าไปในครัวลวกบะหมี่เพิ่มอีกสามชามยกออกมาแล้ววางไว้ตรวหน้าพวกเขา“ไม่อิ่มก็เอาน้ำซุปราดลงบนบะหมี่อร่อยเหมือนกัน" พูดจบนางก็หันมาหาสองผู้เฒ่าที่ตอนนี้อิ่มจนขยับตัวไม่ไหว" ท่านตาท่านยาย กินเนื้อเยอะๆ หลังจากอิ่มแล้วพวกท่านก็เดินย่อยสักหน่อย ข้าจะต้มน้ำเอาไว้ให้ อีกครึ่งชั่วยามค่อยอาบน้ำนะ"เสี่ยวหลันจื่อพูดจบก็เดินเข้าครัวไปเซียวอี้เหิงมองดูเส้นบะหมี่ที่วางอยู่ตรงหน้าของตน แล้ว จึงหันไปมองตามหลังที่เดินหายเข้าครัวไป เขาดันถ้วยบะหมี่ให้ฉีเยี่ยนแล้วลุกขึ้น“นายท่าน อิ่มแล้วหรือขอรับ ทานอีกสักหน่อยสิ"เป็นฉีเหลยที่ดึงเขาเอาไว้อีกครั้ง“กินเสร็จแล้วเก็บกวาดให้เรียบร้อย” ก่อนเดินตามเสี่ยวหลันจื่อไปเซียวอี้เหิงหันมาสั่งชายหนุ่มทั้งสองเสี่ยวหลันจื่อที่กำลังง่วนอยู่กับการใส่ฟืนลงไปในเตาเพื่อต้มน้ำจึงไม่ได้ยินเสียง เซียวอี้เหิงที่เดินมาข้างหลัง นางลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังไปจึงทำให้ชนเข้ากับแผ่นอกแข็งแรงของเซียวอี้เหิงจนหงายหลัง ก่อนที่เสี่ยวหลันจื่อจะหงายหลังล้มลงบนเตาที่กำลังต้มน้ำอยู่ แขนแข็งแรงของเซียว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่15 เหตุผลที่ต้องนอนด้วยกันคืออะไร

    เรื่องที่เสี่ยวหลันจื่อพนันกับหญิงสาวในหมู่บ้าน บุรุษสามคนที่กำลังถอนหญ้าอยู่ในทุ่งนาล้วนได้ยินกันทั้งหมด“นางทำเช่นนี้ได้อย่างไรนายท่านให้ข้าจัดการกับนางดีหรือไม่ขอรับ”ฉีเยี่ยนพูดขึ้นมาอย่างฮึดฮัด“เจ้าคิดว่าข้าจะแพ้หรือ”เซียวอี้เหิง ปรายตามองเขาเรียบๆ“ย่อมต้องไม่เเพ้อยู่แล้วขอรับนายท่านเป็นถึงชินอ๋องจะแพ้ได้อย่างไร ข้าแค่ไม่ชอบที่นางลบหลู่เกียรติของท่าน”ฉีเหลย อยากจะฟาดกบาลเจ้าโง่นี่จริงๆ“ถ้าหากนางอยากจะเล่นพนันนักย่อมได้แต่ว่าข้าก็ต้องได้ได้รับผลประโยชน์เช่นกัน”เซียวอี้เหิง ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์จากนั้นจึงเดินมาทางที่หญิงสาวในหมู่บ้านยืนชุมนุมกัน เซียวอี้เหิงเดินผ่านเสี่ยวหลันจื่อโดยไม่มองหน้านางเลยสักนิดแล้วไปหยุดยืนตรงหน้าหลิวหลี บุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้าน“เจ้าก็งดงามไม่น้อย”เซี่ยวอี้เหิงใช้มือที่เปื้อนโคลนสัมผัสใบหน้าของหลิวหลี หญิงสาวในหมู่บ้านหลายคนถึงกับเอียงอายกับท่าทางที่เขากระทำกับหลิวหลี“ขะ….ข้า จะช่วยท่านถอนหญ้าเอง”พูดจบหลิวหลีก็รีบวิ่งไปที่ผู้เฒ่าหลิวกำลังถอนหญ้าอยู่ ด้วยใบหน้าเขินอาย“ท่านตาหลิวข้ามาช่วยท่านแล้ว”หลิวหลีลงมือถอนหญ้าด้วยความขมักเขม้น ตลอดม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทที่16 พบคุณหนูหลู่อีกครั้ง

    เมื่อเกวียนวัวของเสี่ยวหลันจื่อไปถึงอำเภอนางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย"ทำไมเป็นท่านล่ะ เเล้วฉีเหลยไปไหน"เสี่ยวหลันจื่อมองหาฉีเหลย"ทำไมถึงจะเป็นข้าไม่ได้ "เซี่ยวอี้เหิงปรายตามองเสี่ยวหลันจื่อเรียบๆ"ก็ไม่ทำไม ข้าเพียงคิดว่าฉีเหลยจะมาด้วยเพราะ ข้าจะให้เขาช่วยถือของที่ข้าจะซื้อวันนี้""ข้าก็ถือได้" เซียวอี้เหิงพูดจบก็เดินนำหน้านางไปเสี่ยวหลันจื่อเกาหัว ไม่เข้าใจอารมณ์และความคิดของเขาเอาซะเลยหลังจากขายสมุนไพรแล้วเสี่ยวหลันจื่อก็ไปที่ร้านจี้ชิงหรูอีกครั้ง คราวที่แล้วนางไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าให้พวกเขาทั้งสามคนวันนี้จึงคิดว่าจะซื้อให้พวกเขาซะหน่อย จะปล่อยให้ใส่เเต่ชุดหรูหราเดินลอยไปลอยมาในหมู่บ้านมันรู้สึกทิมแทง สายตานางยังไงไม่รู้"โอ้ ดูซินั่นใครมาเสี่ยวหลันจื่อขอเราไมใช่หรือ สร้างเรื่องเอาไว้ใหญ่โตแล้ว หนีหายไปเลยนะ"เจียงฉงเหนียง ผู้ดูแลจี้ชิงหรูรีบออกมาคล้องเเขนนาง อย่างสนิทสนมที่หน้าร้าน"เจ้าคิดมากไปแล้วข้าสร้างเรื่องที่ได้กันเป็นเขาต่างหาก"เสี่ยวหลันจื่อชี้ไปที่เซียวอี้เหิงที่ยืนใบหน้าเรียบเฉยอยู่ข้างๆ นาง"เจ้าไม่รู้อะไรหลังจากที่เจ้ากลับไปสตรีทั้งหลายในอำเภอต่างพากันมาที่นี่เพื่อสอบถาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ชิงตัวนักโทษ

    เซียวอี้เหิงเป็นผู้ทำหน้าที่เป็นคนตัดสินโทษกบฏของตระกูลกู้ วันนี้เขาจึงต้องมาเป็นพยานที่ลานประหารในใจเขาคิดว่ายังไงกู้รั่วอวิ๋นจะต้องมาชิงตัวนักโทษแน่ คนของตระกูลกู้ร้อยกว่าชีวิตถูกทหารคุมตัวเดินออกมานั่งคุกเข่าที่ลานประหาร ด้านหน้าของพวกเขาคือกู้เฟิงพี่ชายของกู้รั่วอวิ๋นและกู้ห้าวเหวินอดีตแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินที่ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่สภาพของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากซากศพเท่าใดนักชาวเมืองนับพันที่มาดูการประหารตระกูลกู้ที่ยิ่งใหญ่และเป็นตระกูลที่สืบเชื้อสายยาวนานมานับร้อยปี ทั้งสตรีและเด็กของตระกูลกู้ต่างร่ำไห้ขอความเป็นธรรมมีเพียงกู้เฟิงที่ยังคงมีสายตาแข็งกร้าวเซียวอี้เหิงมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา เขากำลังรออยู่ รอเวลาที่กู้รั่วอวิ๋นจะปรากฏตัว กู้รั่วอวิ๋นที่แฝงตัวมากับชาวเมืองมองไปที่บิดาและพี่ชายของนางด้วยดวงตาแดงก่ำ นางไม่รู้ว่าจะมีโอกาสช่วยเหลือบิดาและพี่ชายของนางมากเท่าใด แต่ที่แน่ๆ เซียวอี้เหิงจะต้องวางกับดักไว้รอนางแล้วอย่างแน่นอน เป็นนางที่จะยอมกระโดดลงไปในกับดักนั่นหรือไม่การประหารเริ่มต้นขึ้นนายทหารที่ทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตกว่ายี่สิบคนเดินตรงมาที่สมาชิกของสกุลกู้ พวกเขาต่าง

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   กลับหมู่บ้านเถาฮวา

    ก่อนการประหารสกุลกู้ในข้อหาก่อกบฏเสี่ยวหลันจื่อ ที่ออดอ้อนขอให้เซียวอี้เหิง พานางและทุกคนออกไปเดินเที่ยวตลาดของเมืองหลวง เซียวอี้เหิงที่ทนการรบเร้าของนางไม่ได้จึงให้ฉีเหลยเป็นองครักษ์พร้อมด้วยฉีอิงกับฉีหลิงเขายังไม่วางใจเรื่องของกู้รั่วอวิ๋น เขาเกรงว่าข่าวที่ได้มาว่านางอยู่ที่แคว้นฉู่จะกลายเป็นข่าวลวง บางทีนางอาจอยู่ที่นี่แล้วก็ได้เซียวอี้เหิงให้คนของเขาตามหาทั้งในที่ลับและที่แจ้งติดประกาศไปทั่วเมืองวางเงินรางวัลนำจับสูงลิ่วเพื่อกดดันให้นางออกมา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาไม่อยากให้เสี่ยวหลันจื่อออกไปนอกจวน เพราะเขาเกรงว่านางจะถูกคนของกู้รั่วอวิ๋นทำร้าย“ท่านไม่ต้องเป็นห่วงรับรองว่าข้าจะไม่ดื้อเด็ดขาดออกไปแค่เพียงไม่นานข้าจะรีบกลับมาแล้วจะซื้อขนมมาฝากท่านนะ”เสี่ยวหลันจื่อทำเสียงออดอ้อน เซียวอี้เหิงนั้นรู้สึกหนักใจแต่ทำอย่างไรได้นางไม่ใช่สัตว์แต่นางเป็นมนุษย์ จะขังนางเอาไว้แต่ภายในจวนอย่างเดียวก็คงไม่ได้ มันไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา ทางที่ดีคือเขาต้องจับตัวกู้รั่วอวิ๋นให้ได้เขาจึงจะรู้สึกวางใจที่เสี่ยวหลันจื่ออยากออกมาเที่ยวข้างนอกในวันนี้ก็เป็นเพราะหลิวหลี เมื่อวานนางมาหาเสี่

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ที่ข้าทำไปทั้งหมดก็เพื่อเจ้า

    เมื่อข้ารับใช้ในเรือนมารวมตัวกันที่เรือนหลักของเซียวอี้เหิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เหิงประคองเสี่ยวหลันจื่อเดินมานั่งที่เก้าอี้ด้านหน้าทุกคนนางเงยหน้ามองเซียวอี้เหิงว่าเขากำลังจะทำอะไร ทุกคนในจวนชินอ๋องต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าของเสี่ยวหลันจื่อชัดๆ นางคือนางกำนัลที่ถูกส่งมาโดยไทเฮานั่นเองพวกเขาต่างทำสีหน้าหวาดกลัว มิใช่ว่านางถูกท่านอ๋องฆ่าไปแล้วหรือในตอนนั้น นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แถมตอนนี้นางยังตั้งครรภ์อยู่ เสียงวิจารณ์ของเหล่าข้ารับใช้เริ่มดังขึ้น“พวกเจ้าคงจะสงสัยว่าเหตุใดพระชายาของข้าถึงมีใบหน้าเหมือนกับอวี้ซูเหยาใช่หรือไม่ ถึงแม้นางจะมีใบหน้าที่เหมือนกันมากเช่นไรแต่นางคือคนละคน ที่นั่งอยู่ต่อหน้าของพวกเจ้าคือพระชายาเพียงคนเดียวของข้า นามของนางคืออวี้หลันจื่อ ข้าขอห้ามทุกคนพูดเรื่องของอวี้ซูเหยาอีกไม่ว่ากรณีใดก็ตามถ้าหากว่ามีใครที่ไม่ทำตามคิดต่อต้านคำสั่งของข้า จะต้องถูกลงโทษขั้นสูงสุดตามกฏของจวนชินอ๋อง”เมื่อได้ยินเช่นนั้นข้ารับใช้ต่างหวาดกลัวไม่มีใครกล้าปริปากแม้แต่คนเดียวใครเล่าจะกล้าเหิมเกริมต่อต้านคำสั่งของท่านอ๋อง“อีกอย่างหากมีใครคิดไม่ซื่อกับข้าเหมือนที่อวี้ซูเหยาท

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้าได้ยินเสียงสตรี

    หลังจากที่พูดคุยกับหลิวหลีและปลอบใจนางเล็กน้อยเสี่ยวหลันจื่อก็กลับมาที่เรือนของนาง เมื่อฉีหลิงเปิดประตูเรือนทั้งสองก็เห็นเซียวอี้เหิงที่ยืนใบหน้าถมึงทึงอยู่ที่ลานบ้าน“ไปไหนมาอีกแล้วเจ้าตัวดี ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าให้ระวังอย่าเที่ยวออกไปเดินสุ่มสี่สุ่มห้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจ้าข้าจะทำอย่างไร เหตุใดถึงได้ดื้อดึงเหมือนเด็กเล็กเช่นนี้”เซียวอี้เหิงดุเสี่ยวหลันจื่อเสียงอ่อน เขาไม่รู้แล้วว่าจะรับมือกับนางอย่างไรดี ดุก็ไม่ได้ตีก็ไม่ได้ หากทำให้นางร้องไห้ก็เป็นเขาซะเองที่เจ็บปวด เสี่ยวหลันจื่อยืนก้มหน้าท่าทางหูลู่หางตกเหมือนเสี่ยวหงตอนที่โดนดุ ดูน่าสงสารยิ่งนักเซียวอี้เหิงถอนหายใจ ท่าทางเช่นนี้มีหรือเขาจะใจแข็งกับนางได้“ช่างเถอะๆ ข้าไม่ดุเจ้าแล้วเลิกทำท่างทางเหมือนเสี่ยวหงเสียที มานี่มาข้างนอกอากาศยังหนาวเย็นอยู่เข้าไปในเรือนเถอะอย่าอยู่ตรงนี้เลยเดี๋ยวจะไม่สบาย”เสี่ยวหลันจื่อเดินก้มหน้าไปหาเซียวอี้เหิงเกาะแขนเขาทำท่าทางเหมือนยังเศร้าอยู่ แต่ดวงตากลมโตที่ซ่อนอยู่ภายใต้แพขนตาหนาของนางกลับเปล่งประกายซุกซน ตอนที่เดินตามเซียวอี้เหิงไปเสี่ยวหลันจื่อยังหันมายักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉีหลิง ท่าทางทั้งหม

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   หลี่เอ้อกัง

    อาหารมื้อเย็นผ่านไป เสี่ยวหลันจื่อรั้งผู้เฒ่าทั้งสองเอาไว้เพื่อคุยเรื่องที่นางจะกลับไปที่จวนชินอ๋อง และเสี่ยวหลันจื่อต้องการให้ท่านตากับท่านยายไปอยู่ที่นั่นกับนางด้วย“ท่านตาท่านยายเจ้าคะข้ามีเรื่องจะปรึกษากับกับท่านทั้งสอง ตอนนี้ครรภ์ของข้าก็เกือบจะแปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะคลอดเด็กสองคนนี้ ท่านอ๋องอยากให้ข้าไปคลอดที่เมืองหลวงเพราะที่นั่นมีหมอตำแยและยังมีหมอหลวงที่เก่งกว่าที่นี่ อีกทั้งเพราะข้าต้องคลอดทีเดียวถึงสองคนเขาจึงรู้สึกไม่วางใจ แต่ข้าไม่อยากไปอยู่ที่นั่นคนเดียวข้ากลัวว่าตัวเองจะเหงาและตอนที่ข้าคลอดข้าอยากให้ท่านทั้งสองอยู่เคียงข้างข้า จะทำให้ข้ารู้สึกสบายใจ ท่านทั้งสองไปกับข้านะเจ้าคะ”เสี่ยวหลันจื่อใช้เสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์ นางกลัวว่าผู้เฒ่าทั้งสองจะตัดใจทิ้งบ้านเกิดของตนเพื่อไปกับนางไม่ได้“ได้สิ เจ้าเป็นหลานเพียงคนเดียวของข้า ต่อให้เจ้าไม่ขอร้องข้ากับตาแก่นี่ก็จะต้องตามเจ้าไปแน่นอน จื่อเอ๋อเจ้าสบายใจได้และคลอดเด็กทั้งสองคนออกมาอย่างปลอดภัยเถอะ”เสี่ยวหลันจื่อโน้มตัวไปกอดแม่เฒ่าสวีเเละใช้ใบหน้าถูไถที่ไหล่ของนางอย่างที่ชอบทำประจำ แต่เซียวอี้เหิงดึงนางออกมาแล้วอุ้มนางเข้าห้องไ

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะ

    เซียวอี้เหิงวางเสี่ยวหลันจื่อเอาไว้ที่เก้าอี้ในห้องโถงของเรือน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เพราะท่านตากับท่านยายไปที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านตั้งแต่เช้าแล้ว น่าจะเป็นเรื่องการแต่งงานของหลิวหลี ถ้าจะให้พูดคือหัวหน้าหมู่บ้านเป็นลูกชายของพี่ชายผู้เฒ่าหลิวดังนั้นหลิวหลีจึงนับเป็นญาติของผู้เฒ่าหลิวเช่นกัน“ฉีหลิงตอนนี่เจ้าอายุเท่าไหร่” เสี่ยวหลันจื่อที่นั่งเรียบร้อยแล้วหันมาซักทันทีที่ฉีหลิงเดินตามเข้ามาในเรือน“อายุสิบเจ็ดเจ้าค่ะ” ฉีหลิงตอบทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่“เจ้ายืนคุยกับข้าได้หรือไม่ คุกเข่าเช่นนี้ข้าจะคุยกับเจ้าได้สะดวกได้อย่างไร” เสี่ยวหลันจื่อสั่งนาง ฉีหลิงมีท่าทีลังเล มองไปที่เซียวอี้เหิงอย่างหวาดๆ นางรู้ว่าพระชายานั้นใจดีขนาดไหน แต่กับนายเหนือหัวของพวกเขาแล้วต่างไม่กล้าล่วงเกิน“เจ้าทำตามที่นางบอกเถอะ ต่อไปนี้ทุกเรื่องของเจ้าสองพี่น้องข้าจะยกให้พระชายาเป็นคนดูแล นางสั่งอะไรเจ้าก็ทำตาม” เซียวอี้เหิงสั่งเสียงเรียบ“เพคะ” ฉีหลิงลุกขึ้นยืนแต่ยังคงก้มหน้า พวกเขาถูกสั่งสอนมาตั้งแต่ที่เริ่มเข้าฝึกเป็นองครักษ์เงาว่าห้ามมองหน้าเจ้านายเมื่ออยู่ต่อหน้า“ฉีหลิงตั้งแต่นี้ไปเจ้าสองพี่น้องมาเป็นคนของข้าเจ้าย

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้าอยากอยู่กับเจ้าตลอดไป

    ​ในตอนสายสองผู้เฒ่ากลับมาที่เรือนเห็นฉีเหลยนั่งอยู่ที่ห้องโถงก็รีบเข้าไปทักทายทันที“เจ้าหนุ่มเหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้าพึ่งไปชายแดนเมื่อเดือนก่อนหรือเหตุใดกลับมาที่นี่อีกแล้วเล่า เจ้านี่ช่างทุ่มเทให้กับงานเหลือเกินคราวนี้มาด้วยเรื่องอะไรล่ะ หรือว่ามีความลับอะไรที่ต้องมาบอกพวกเราอีกหรือ ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทถูกคุมขังไปแล้วหรืออย่างไร”ผู้เฒ่าหลิวซักฉีเหลยยาวเหยียดอย่างอยากรู้อยากเห็น ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนสายลับเข้าไปทุกที ตอนนั้นเขายังเคยรู้เรื่องที่เป็นความลับระดับแคว้นเชียวนะ ช่างน่าปลาบปลื้มใจเสียจริงเหมือนกับว่าเขาเป็นคนสำคัญอย่างไรอย่างนั้นผู้เฒ่าหลิวทำท่าทางฝันเคลิ้มอยู่ในภวังค์คนดียว แม่เฒ่าสวีมองสามีของนางอย่างหมั่นไส้ สักวันตาเฒ่านี่คงได้ตายเพราะชอบสอดรู้เรื่องชาวบ้านเป็นแน่ แม่เฒ่าสวีไม่สนใจคู่ยากของตนหันมาหาฉีเหลยมองอย่างจับผิดนางกลัวว่าครั้งนี้จะมีเรื่องอีกฉีเหลยทำหน้าเหมือนกลืนหวงเหลียนเข้าไป จะทำอย่างไรได้พอเขาไปถึงที่ชายแดน ท่านอ๋องก็สั่งให้เขาติดตามกลับมาที่เมืองหลวงอีกครั้งเกิดเป็นฉีเหลยช่างทรมานยิ่งนัก ก้นของเขาด้านหมดแล้วเพราะขี่ม้ากลับไปกลับมาไม่ได้หย

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   อยู่พร้อมหน้า

    เสี่ยวหลันจื่อเปิดประตูออกไปพบว่าคนที่มาเคาะประตูคือหลู่หลิงเซียน“คุณหนูหลู่ ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ” เสี่ยวหลันจื่อคิดว่าตั้งแต่วันนั้นนางน่าจะเลิกราไปเล้วไม่คิดว่าจะยังมาที่นี่อีก“เจ้าไม่คิดจะเชิญข้าเข้าไปข้างในหน่อยหรือ”เสี่ยวหลันจื่อเบี่ยงตัวหลบให้นางเข้ามาด้านใน เมื่อเข้ามานั่งที่ห้องโถงเรียบร้อยแล้ว หลู่หลิงเซียนเป็นคนกล่าวขึ้นก่อน“ที่ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้าบางอย่าง”หลู่หลิงเซียนเหมือนจะรู้ว่าเสี่ยวหลันจื่อคิดอะไร จึงชิงออกตัวก่อน“ดูเหมือนเราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันจนสามารถไปมาหาสู่ ข้าเองก็เป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้นจะช่วยอะไรคุณหนูหลู่ได้กัน”หลู่หลิงเซียนขยับตัวอย่างอึดอัด“ความจริงข้ากำลังจะแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รัก และมีเรื่องบางอย่างที่ข้ายังติดใจอยู่ สามีของเจ้าผู้นั้นเป็นใครกันแน่”เสี่ยวหลันจื่อมองหลู่หลิงเซียนอย่างครุ่นคิด“เจ้ารู้อะไรมา” เสี่ยวหลันจื่อถามนาง“ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน การค้าของตระกูลหลู่เหมือนจะเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น เดิมทีตอนแรกข้าคิดว่าเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้นแต่นึกไม่ถึงว่าถึงขั้น ทำให้ท่านพ่อของข้าต้องล้มป่วยลง ตระกูลห

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ปลดตำแหน่งรัชทายาท

    เซียวเทียนฉีเดินตรงมาที่หน้าโต๊ะทรงงานของหยวนหมิงฮ่องเต้เพื่อคุกเข่าคารวะ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำความเคารพแท่นฝนหมึกก็ลอยมาที่หัวของเซียวเทียนฉีอย่างแม่นยำ เลืออาบหน้าของเขาทันที ขันทีหลีที่เห็นดังนั้นถึงกับตกใจ ฝ่าบาทตีองค์ชายที่ตนเองรักที่สุด เขาได้เห็นในสิ่งทีไม่ควรเห็นเข้าเสียแล้ว“สำนึกผิดหรือยัง เจ้าลูกอกตัญญู” หยวนหมิงฮ่องเต้ตะโกนด่าเขาลั่นห้อง“ไม่ทราบว่าลูกทำสิ่งใดผิดพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อโปรดบอกลูกให้เข้าใจ”หยวนหมิงฮ่องเต้ขว้างถ้วยชาที่อยู่ใกล้มือที่สุดไปที่เซียวเทียนฉีอีกครั้ง มันตกกระทบพื้นแตกกระจาย มีเศษของแก้วกระเด็นขึ้นมาบาดที่ใบหน้าของเขาจนเลือดออก“ยังจะมาทำไขสือ เรามีทั้งหลักฐานและพยานว่าเจ้าสมคบคิดกับรัชทายาทแคว้นฉู่เพื่อก่อสงครามขึ้น ไหนเจ้าลองหาเหตุผลดีๆ มาสักข้อให้เราไม่ต้องปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาทที”เซียวเทียนฉีหนังศรีษะชาวาบหลังจากที่ได้ยินหยวนหมิงฮ่องเต้พูดว่าจะปลดเขาออกจากตำแหน่งรัชทายาท“ใครเป็นคนบอกเสด็จพ่อว่าลูกสมคบคิดกับแคว้นฉู่เพื่อก่อสงคราพ่ะย่ะค่ะ หรือจะเป็นเสด็จอาชินอ๋อง เสด็จพ่อรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ใส่ความลูกหรือแท้จริงเขาอาจหวังบัลลังที่เป็น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status