หน้าหลัก / โรแมนติก / คะนึงครวญ / ตอนที่5. อยากกลับบ้าน

แชร์

ตอนที่5. อยากกลับบ้าน

            “คุณพี่ คุณพี่เจ้าขา”

            “ชอบหรือไม่”

            “เบาหน่อยเจ้าคะ อื้อ คุณพี่...อิชั้น...ไม่ไหว”

            “ทนอีกหน่อย พี่ใกล้แล้ว โอ้ววว”

            นั้นเป็นเสียงที่ดังมาจากห้องข้างๆ ซึ่งย่าหยาเข้าใจดีว่าเกิดกิจกรรมอะไรในห้องนั้น แต่ไม่คิดว่าหลวงพิชัยที่ดูเงียบขรึมและใจดีจะร้อนแรงขนาดทำให้พี่สาวร้องครวญครางเกือบทั้งคืน ซ้ำรุ่งเช้ายังได้ยินอีกรอบด้วย ยังดีที่คุณหลวงมาหาพี่ยี่สุ่นวันเว้นสองวันเพราะเกรงใจคุณช้อย ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ได้หลับสนิทเป็นแน่ แต่พี่สาวของเธอตื่นมาหน้าตาแช่มชื่นในขณะที่เธอนอนหลับไม่สนิทเพราะได้ยินเสียงครวญครางรบกวนทั้งคืน  แต่พี่แจ่มดูไม่ทุกข์ร้อนสักนิด คงมีแต่เธอที่ยังไม่ชินสินะ  แม้ยังไม่เคยมีคนรักแต่รู้เรื่องระหว่างชายหญิงดี และพอเข้าใจได้ว่าผู้หญิงในยุคนี้ต้องพึ่งพาสามี ถ้าไม่ได้รับความรักความโปรดปรานก็จะใช้ชีวิตอยู่ยาก

            แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังอยากกลับบ้านอยู่ดี

            มาอยู่ที่นี่ครบสัปดาห์แล้ว เธอยังหาวิธีกลับบ้านไม่ได้ เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่าอะไรทำให้เธอมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ นับว่าเธอยังโชคดีที่มาอยู่ในร่างที่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินๆทองๆ มีที่ซุกหัวนอน อาหารกินอิ่มทั้งสามมื้อ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่สำคัญมีพี่สาวที่รักใคร่เอ็นดูเธอมาก ส่วนคุณช้อยภรรยาเอกของคุณหลวงก็มีเมตตากับพี่สาวและเธอไม่น้อย ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลใจว่าจะมีปัญหา ‘เมียหลวง-เมียน้อย’ อย่างที่เคยอ่านในนิยายหรือดูซีรีย์มา  จะว่าไปก็มีอีกวิธีหนึ่งที่เธอคิดมาหลายตลบแต่ยังไม่เคยลองทำ หลายวันมานี้เธอไม่เห็นหน้าผู้ชายที่ชื่อสินธุ์คนนั้น เธอได้ยินพวกบ่าวสาวๆ พูดคุยกัน คุณสินธุ์เป็นมหาดเล็กหลวง ทำงานรับใช้พระองค์ท่านตามแต่จะบัญชา ไม่ค่อยได้กลับเรือนนัก พวกบ่าวรับใช้ก็หวังจะได้เป็น ‘เมียบ่าว’ อย่างน้อยฐานะความเป็นอยู่ก็ดีกว่าเป็นบ่าวรับใช้เช่นนี้

            ‘ไม่เห็นหล่อตรงไหน’

            ย่าหยาแอบเบ้ปากใส่เวลาได้ยินบรรดาบ่าวรับใช้พูดถึงคุณสินธุ์แถมยังพร่ำพรรณนาถึงความหล่อเหลาองอาจ เอาเถอะ รสนิยมของแต่ละยุคไม่เหมือนกัน เธอจะไปดูแคลนความคิดใครไม่ได้หรอก ว่าแต่...ไม่เห็นคนนั้นกลับเรือนมาหลายวันแล้ว หลายคนพูดว่าบางครั้งบางคราวก็หายหน้าไปเดือนสองเดือนก็มี เธอฉวยโอกาสที่เขาไม่อยู่ไปที่เรือนของเขาคงไม่เป็นไรนะ

            “คุณย่าหยาจะไปไหนเจ้าคะ”  แจ่มที่กำลังปักผ้าเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำท่าจะลุกไปนอกเรือน

            “ปะ..ไป...ไป กะ...เก็บ..ดอกไม้...”   ระยะนี้เธอฝึกพูดบ่อยๆ ทำให้น้ำเสียงดังขึ้นมาอีกนิด แม้จะพูดได้ไม่เป็นประโยคดีนักแต่ก็นับว่าดีกว่าวันแรกๆ อยู่มาก

            “เก็บดอกไม้ตอนนี้รึเจ้าคะ” แจ่มแปลกใจอยู่บ้าง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็นับว่าอาการของย่าหยาดีขึ้นมาก แต่ก็มีบางอย่างที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไป ไม่ชอบให้เธอคอยช่วยอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือไม่ชอบให้ใส่น้ำมันทาผม อาหารการกินก็เปลี่ยนไป ไม่รู้จะเรียกว่าอย่างไรดี

            “อืม”  ย่าหยาพยักหน้ารับ ไม่ว่าจะทำอะไรยี่สุ่นจะให้แจ่มคอยตามประกบเธอตลอด ก็เข้าใจได้ว่าเป็นห่วง แต่เธอเคยชินกับการใช้ชีวิคคนเดียวมาตั้งนานนี่

            “รอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ แจ่มชุนผ้าใกล้เสร็จแล้ว”

            “ไม่ ...ไม่”   เธอโบกมือไปมา “จะ..ไป..เอง”

            “ไปคนเดียวไม่ได้นะเจ้าคะ เกิดเป็นลมเหมือนครั้งก่อนจะทำอย่างไร”

            “ไม่..ไม่เป็นลม”

            “มีเรื่องอะไรรึ”  ยี่สุ่นก้าวออกจากในห้องพร้อมผ้าไหมในอ้อมแขนเอ่ยถามบ่าวคนสนิท

            “คุณย่าหยาสิเจ้าค่ะ อยากไปเก็บดอกไม้ อิชั้นบอกให้รอก่อน เพราะชุนผ้าใกล้เสร็จแล้ว แต่ก็อยากไปคนเดียว”

            “อยู่แต่ในเรือนคงเบื่อแย่”  ยี่สุ่นหัวเราะเบาๆ แล้วยื่นผ้าส่งให้แจ่ม “น่าจะพอตัดเสื้อกับผ้านุ่งให้ย่าหยานะ เป็นสาวแล้วแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูดี จะได้ไม่เสื่อมเสียชื่อเสียงไปถึงคุณหลวง ผู้อื่นจะดูแคลนเอาว่าคุณหลวงกับคุณช้อยเลี้ยงดูคนไม่ดี”

            “เจ้าค่ะ”  แจ่มรับผ้าพับนั้นมาไว้

            ยี่สุ่นหันมาคุยกับน้องสาว “เก็บดอกไม้อยู่บริเวณเรือนของเราได้ อย่าไปไหนไกล พี่จะเตรียมของว่างไว้ให้”

            “อื้ม”  ย่าหยาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มแล้วถลาลงจากเรือนราวกับผีเสื้อตัวน้อย

            “อย่าวิ่ง ประเดี๋ยวหกล้ม”

            “คุณย่าหยาดูดีขึ้นมากเลยนะเจ้าค่ะ พยายามพูด พยายามดูแลตัวเองไม่อยากให้อิชั้นช่วยแล้ว”

            “เห็นแบบนี้แล้ว ฉันก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี”

            “แต่วันข้างหน้าถ้าคุณย่าหยาได้ออกเรือน คุณยี่สุ่นก็ตามไปดูแลไม่ได้แล้ว อย่างไรให้คุณย่าหยาฝึกทำอะไรๆ ด้วยตนเองอย่างนี้ก็ดีแล้วเจ้าค่ะ”

            “คิดเรื่องออกเรือนก็กลัวเหลือเกิน ฉันยังโชดดีได้เข้าเรือนคุณหลวง แม้จะเป็นเมียรองแต่คุณช้อยก็ใจกว้างมีเมตตาต่อฉัน  พ่อแม่ของคุณหลวงก็ลาลับไปแล้ว ฉันไม่ต้องเจอปัญหากับแม่ผัว กลัวแต่ว่าถ้าย่าหยาออกเรือนไปจะเจอคนรังแกเอา”

            “อย่าเพิ่งกังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึงเลยเจ้าค่ะ ถ้าคุณย่าหยาออกเรือนจริงๆ อิชั้นจะขอตามไปปรนนิบัติดูแลคุณย่าหยาเอง”

            “ขอบใจนะพี่แจ่ม ฉันไม่เคยเห็นพี่เป็นบ่าวเลย พี่ดูแลฉันกับน้องและยังตามมาที่นี่อีก”

            “อย่าพูดเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ ชีวิตอิชั้นมีวันนี้ได้ก็เพราะกำนันไม้ที่เมตตาช่วยเหลือมา และคุณทั้งสองก็ดูแลอิชั้นดีมากเหลือเกิน ไม่ได้ลำบากเช่นคนอื่นเขา แค่นี้อิชั้นก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรแล้วเจ้าค่ะ”

            “พอแล้ว ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว แจ่มชุนผ้าผืนนั้นเสร็จแล้วตามฉันไปที่ครัวใหญ่นะ ฉันจะไปดูเสียหน่อยว่าจะทำอะไรให้ย่าหยากินเป็นมื้อเที่ยง”

            “เจ้าค่ะ”

            มือเรียวเล็กคว้าตะกร้าติดมือมาด้วย เพราะเกรงว่าผู้อื่นจะรู้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจมาเด็ดดอกไม้ อาศัยว่าใครต่อใครคิดว่าเธอสติไม่ดีทำให้ไม่มีใครสนใจว่าเธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่เรือนสินธุ์  หญิงสาวกวาดตามองจนแน่ใจว่าไม่มีใครจึงทำตัวเป็นแมวขโมยเดินย่องๆ ขึ้นไปบนเรือน ได้ยินว่าคนผู้นี้รักสันโดษไม่ชอบให้มีบ่าวไพร่มารบกวน ในเรือนจึงไม่มีใครเฝ้า แต่คุณช้อยสั่งคนมาทำความสะอาดทุกเช้าเพราะไม่รู้ว่าเจ้าของเรือนจะอยู่หรือไปตอนไหน  เธอเปิดประตูเข้าห้องนอนของเขา เตียงสี่เสาหลังใหญ่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ข้าวของเครื่องใช้อยู่ครบครัน เธอวางตะกร้าแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status