คุณาสินวางร่างของย่าหยาลงบนเตียง เขาปรายตามองไปทางประตูเห็นลูกน้องปิดให้เรียบร้อยก็ถอนหายใจเบาๆ คนตัวเล็กยื่นมาคล้องคอเขาไว้
“พี่สิน” เสียงหวานครางแผ่ว “หยาอยากอาบน้ำ”
เธอต้องการเขาเหลือเกิน แต่สภาพนี้มันก็เกินกว่าตัวเธอเองจะรับได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อุ้มคนตัวเล็กเดินไปที่ห้องน้ำ
“เด็กดี...ให้พี่ช่วยนะครับ”
เขาพูดขณะปล่อยให้เธอลงยืน หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาช่วยถอดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นออกจากร่าง น้ำอุ่นไหลผ่านฝักบัวรินรดร่างเปลือยเปล่า มือใหญ่ค่อยๆ เช็ดใบหน้าสวยอย่างเบามือพลางสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนบ้าง เสียงหวานครางแผ่วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างร้อนรน ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคยแล้วยื่นหน้าไปจูบอกซ้ายของเขา
ชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวเล็กพยายามปลดเข็มขัดของเขาออก เขาจึงเลื่อนมือลงไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าต่อหน้าคนรัก ผ่านมากี่ร้อยปี เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่เขารัก แม้เคยคิดหันหลังให้ความรู้สึกที่มีแต่หัวใจมันไม่ยอมหยุดรักเธอได้เลย
มือใหญ่กุมมือเล็กให้กอบกุมท่อนเนื้อร้อนระอุแล้วนำพาให้เคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ หญิงสาวเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วจนเรียกเสียงครางทุ้มต่ำ มือข้างหนึ่งของเขาบีบเคล้นทรวงอกคู่สวยก่อนจะเลื่อนมือลงไปด้านล่างใช้นิ้วกร้านแยกกลีบเนื้ออ่อนบางออกอย่างโหยหาเท่าที่หัวใจเรียกร้อง หญิงสาวส่งเสียงครางหวานเมื่อได้รับการเติมเต็มที่ต้องการ การขยับนิ้วของเขาเพิ่มความเสียวซ่านรัญจวนจนเธอแทบยืนไม่อยู่ สองร่างเปลือยเปล่าใต้สายน้ำจากฝักบัวที่ชโลมร่างไม่ได้ช่วยลดความร้อนลงได้เลย อุณหภูมิของคนทั้งสองกลับยิ่งทวีความร้อนแรงมากขึ้น ริมฝีปากประกบจูบดื่มด่ำ ความต้องการมีมากเกินจะต้านทาน เขาจับเรียวขางามขึ้นแล้วดันเธอไปชิดกับผนังห้องน้ำย่อตัวเพียงเล็กน้อยเพื่อส่งลำเอ็นแข็งแกร่งเข้าไปในร่องสาวที่เปียกชื้น
“อึก! พี่สิน”
“ไหวไหม?”
คุณาสินถามเสียงพร่า แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับเขาก็ดุนดันแก่นกายใหญ่โตเข้าไปจนหมด ร่องสวาทบีบรัดจนชายหนุ่มครางอีกระลอก มือเล็กเกาะท่อนแขนของเขาไว้แน่นและทันทีที่เขาเริ่มขยับโยกเอว ความเสียวซ่านก็ถาโถม เขาเลื่อนมือมาจับเอวคอดไว้มั่นโยกเอวตอกลำเอ็นอย่างดุดัน ร่องดอกไม้สาวฉ่ำแฉะทำให้การเคลื่อนไหวของเขาเร่งรัวจนร่างเล็กสั่นคลอน เสียงหอบหายใจของสองคนผสานกันจนร่างของหญิงสาวเกร็งกระตุกด้วยถูกส่งไปถึงจุดสุดยอดก่อน เสียงหวีดร้องดังขึ้นทำให้เขาชะงักเล็กน้อย จับเรียวขาเธอให้โอบรัดรอบเอวเขา สองแขนของเธอยกขึ้นคล้องคอเข้าไว้โดยไม่ต้องสั่ง เขาช้อนสะโพกเธอขึ้นทั้งที่แก่นกายยังสอดใส่อยู่อย่างนั้น
“พี่สิน” ย่าหยาระล่ำละลักเรียกชื่อเขา ทุกการก้าวเดินทำให้ท่อนเอ็นกระทุ้งเข้าไปในร่องสาว เธอเสียวซ่านจนหูอื้อตาพร่าไปหมด เขาอุ้มเธอตอกลำเอ็นจนสุดโคนสายตาของเขาจ้องมองเธออย่างร้อนแรง หน้าอกอวบอิ่มบดเบียดกับแผงอกกำยำ เขาทำให้เธอแทบคลั่งเช่นเดียวกับที่เขาก็ไม่อาจยั้งใจได้อีก ตักตวงความสุขจากกายสาวที่เหมือนกลืนกินเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เหมือนหิวโหยมานาน
“ชอบหรือเปล่า” เขาถามทั้งที่ยังกระทุ้งลำเอ็น “บอกพี่สิ”
“ชะ..ชอบ...” เธอตอบเสียงสั่น “พี่สิน หยา...หยาไม่ไหว หยาจะ..จะเสร็จ...”
“อีกนิดนะ เสร็จพร้อมกัน”
คุณาสินประคองร่างเธอลงนอนบนเตียงโดยที่ตัวเขายังยืนอยู่ริมเตียง เขาโน้มตัวดุนดันท่อนเอ็นบดโยกเนิบช้า คนใต้ร่างบิดกายไปมาและเป็นฝ่ายยกสะโพกขึ้นเรียกร้องให้เขากระแทกลงหนักหน่วงกว่านี้ ลึกกว่านี้ แนบชิดกว่าที่เคยทำ ดวงตาคมมองด้วยรอยยิ้มแล้วโยกเอวสอบตามที่เธอต้องการ เขาหยัดกายขึ้นจับเรียวขาเธอพาดบ่าทำให้สะโพกลอยขึ้น ทุกจังหวะการกระแทกกระทั้นเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อเคล้ากับเสียงครางกระเส่าของคนทั้งสอง ย่าหยาสะบัดหน้าไปไม่อาจต้านทานระลอกความเสียวซ่านที่เขามอบให้ได้อีก ร่างเล็กกระตุกเกร็งไปอีกรอบร่องสาวตอดรัดจนชายหนุ่มถึงกับต้องแหงนหน้าคำรามและปลดปล่อยน้ำรักขาวขุ่นรินรดภายในจนเอ่อล้น เขาปรับลมหายใจครู่หนึ่งแล้วค่อยๆ ดึงแก่นกายออกมาพร้อมกับน้ำสวาทที่ไหลออกมาจนเปื้อนเปรอะ เขาจับร่างเล็กให้นอนบนเตียงกว้างก่อนตามขึ้นมานอนเคียงข้าง
ย่าหยาพลิกตัวนอนกอดร่างกำยำ ปลายนิ้วของเขาลูบไล้ไหล่เธอเบาๆเหมือนปลอบโยน ความทรงจำเก่าๆ หวนคืน คล้ายเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งหลายครา เธอเงยหน้ามองเขา สายตาของเธอทำให้ชายหนุ่มเอ่ยถาม
“มีอะไรหรือเปล่า”
“พี่สินเคยคิดไหมว่า ที่เรากลับมาเจอกันหรือจำเรื่องในอดีตได้เพราะบ้านหลังนี้”
“อืม...พี่คิดแบบนั้น แต่ลึกๆ แล้วพี่อยากเก็บที่นี้ไว้เป็นที่ระลึกเรื่องของเรา ก็เลยเขียนพินัยกรรมสั่งเสียไว้ว่าให้ลูกหลานรักษาบ้านหลังนี้ไว้ เผื่อพี่หรือหยากลับมาเจอกัน เราจะได้จำได้ และได้อยู่ที่นี่ด้วยกันอีกครั้ง”
ย่าหยายกมือขึ้นแตะแก้มเขาเบาๆ “ทำไมวันนี้หาหยาเจอค่ะ คงไม่ได้มีเครื่องติดตามตัวที่หยาหรอกนะ”
เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วตอบ
“ก็อยากทำแต่พี่กลัวหยาจะคิดมาก คนของพี่คอยดูอยู่แต่ก็ยังพลาดทำให้หยาถูกจับตัวไป พี่รอให้วาดตายใจคิดว่าพี่ไม่รู้แล้วให้คนสะกดรอยตามวาดจนมาเจอหยา”
“วาด...น่าสงสารนะคะ ต้องเวียนว่ายในความริษยาและรักข้างเดียวไม่จบสิ้น”
เขากระชับวงแขนโอบร่างเล็กแน่นขึ้น “ไม่ว่ายังไง คนที่พี่รักก็มีเพียงหยาเท่านั้น”
“หยาก็รักพี่สินค่ะ”
“หือ?” เขาทำเหมือนไม่ได้ยิน แววตากรุ้มกริ่มจ้องมองคนรัก “ว่าอะไรนะครับ”
“พี่สินได้ยินแล้ว”
“พี่อยากได้ยินหลายๆครั้ง”
“พูดบ่อยๆ เดี๋ยวพี่สินก็เบื่อไม่อยากฟัง”
“พี่อยากฟังมาเป็นร้อยปีแล้ว”
“เอ๊ะ! หยาไม่เคยบอกรักพี่สินเหรอคะ?”
เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าแล้วกอดร่างเล็กแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าจะเป็นแค่ความฝันไป ไออุ่นจากกายแกร่งตอกย้ำว่าเขาคือคนที่หัวใจเธอเพรียกหา หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาแล้วขยับตัวยื่นหน้าไปจูบมุมปากของชายหนุ่ม “หยารักพี่สินค่ะ หยาจะไม่หายไปไหนอีก ครั้งนี้เรามาทำให้มันไม่เหมือนเดิมนะคะ” แววตาของเธอคือคำตอบที่เขารอคอย มีหลายร้อยหลายพันคำที่เขาอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออก อับจนถ้อยคำอย่างน่าสงสาร ความรู้สึกที่มีทั้งหลายทั้งปวงหลอมรวมเป็นอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่หัวใจของเขายังเป็นดวงเดิมที่รักเพียงหญิงเดียวเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป รักครั้งนี้กับหัวใจดวงเดิมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วบทส่งท้าย ข่าวโฮโซสาวชื่อดังและครอบครัวถูกจับข้อหาฉ้อโกงและคดีแชร์ลูกโซ่เป็นที่พูดถึงกับไปทั่ว ช่องข่าวทุกช่องรวมทั้งโลกโซเซียลให้ความสนใจกันมาก แต่นั้นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพอใจมาก เพราะพวกเขาไม่ต้องเป็นเป้าสายตาของใครนัก มารดาของย่าหยาและสามีใหม่บินตรงกลับเมืองไทยตามคำเชิญของว่าที่ลูกเขยเพื่อที่ทั้งสองครอบครัวจะ
ย่าหยานักเขียนสาวที่ขับรถออกมาหาแรงบันดาลให้งานเขียนชิ้นใหม่ หลังจากที่สมองตันคิดอะไรไม่ออกมาเป็นเดือนแล้ว เธอมีรถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่อยู่หนึ่งคันที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเอง ปกติเธอทำงานอยู่ที่บ้านไม่ค่อยได้ออกไปเจอผู้คนเท่าไหร่ ชีวิตเธอมีแค่งานกับงาน พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเล็ก ย่าหยาอาศัยอยู่กับแม่จนเมื่อสองปีก่อนแม่พบรักใหม่กับหนุ่มใหญ่ชาวต่างชาติและย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศ เธออยากใช้ชีวิตที่เมืองไทยจึงไม่ได้ตามแม่ไปด้วย แท้ที่จริง เธอรู้สึกเหมือนเฝ้ารออะไรบ้างอย่าง หรือมีใครสักคนรอเธออยู่ “ว้าว บ้านหลังนี้สวยจัง อยู่ริมน้ำด้วย ขอถ่ายรูปเก็บไว้เขียนนิยายหน่อยนะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปบ้านไม้ทรงไทยริมแม่น้ำหลังหนึ่ง วันนี้ย่าหยารู้สึกเบื่อหน่ายจึงขับรถเล่นชานเมืองกรุงเทพฯ ปีนี้เธออายุยี่สิบสองปีแล้ว เธอเป็นนักเขียนอิสระทำงานด้านนี้มาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนมีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ ที่ สำคัญคือไม่มีภาระเหมือนคนอื่น พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเล็ก ย่าหยามาอยู่กับแม่มาตลอด แต่เมื่อสองปีก่อนแม่พบรักใหม่กับชายชาวอเมริกาและย้ายไปอยู่ด้ว
“ให้หนูช่วยนะคะ” ย่าหยารีบเดินตามยายละเอียด บ้านทรงไทยของภาคกลางจะมีหน้าต่างหลายบาน กว่าจะเสร็จเธอก็โดนน้ำฝนสาดใส่จนเสื้อผ้าเปียกชื้นไปหมด “แย่แล้วๆ หนูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า อยู่แบบนี้จะเป็นหวัดเอา” “หนู...” เธอกอดอกยกมือขึ้นถูกแขนไปมาเพราะเริ่มหนาว “ถ้าไม่รังเกียจเอาเสื้อผ้าของยายไปใส่ก่อนนะ อย่าใส่เสื้อเปียกๆเลย จะไม่สบายเอา” ย่าหยาพยักหน้ารับ ปากเริ่มสั่นเพราะความหนาว หญิงสาวเดินตามร่างของหญิงชรา แม้ภายนอกมองเห็นเป็นบ้านทรงไทยโบราณ แต่ด้านในทันสมัยครบครันด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดวางอย่างลงตัว ยายละเอียดเดินนำไปที่ห้องหนึ่ง “นี่เป็นห้องรับรองแขก มีห้องน้ำในตัว หนูใช้ห้องนี้ได้ เดี๋ยวยายจะเอาเสื้อผ้ามาวางไว้ให้” “ลำบากคุณยายแล้ว” “ไม่เป็นไรๆ ไปเถอะรีบไปอาบน้ำเสียก่อน” ย่าหยาก้าวเข้าไปด้านใน สายตาสะดุดที่เตียงสี่เสาแบบโบราณมีม่านมุ้งสีขาวเข้ากับผ้าปูที่นอนลูกไม้นั้น เธอเดินเลยไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านใน มีผ้าขนหนูและเครื่องใช้ทุกอย่างครบครันราวกับห้องนี้มีคนอ
‘คุณสินธุ์’ อุ้มร่างที่เบาหวิวตรงดิ่งไปที่เรือนจรุงจิตซึ่งเป็นเรือนที่ ‘หลวงพิชัย’ ยกให้เมียรองได้อยู่อาศัยนั้นก็คือ ‘ยี่สุ่น’ ซึ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ราวๆ สิบวันแล้ว โดยมีบ่าวรับใช้ชื่อแจ่มและน้องสาวที่ได้ยินว่าสติไม่ค่อยดีชื่อย่าหยามาอยู่ด้วย ชายหนุ่มร่างกำยำอุ้มร่างเล็กที่ไม่มีแรงดิ้นรนขัดขืนมาถึงเรือนจรุงจิต บรรดาบ่าวรับใช้แตกตื่นแต่ไม่กล้าส่งเสียงพูดอันใด ได้แต่ก้มหน้าหลุบตาลงไม่กล้ามอง ‘เจ้านาย’ ยี่สุ่นที่วิ่งตามมารีบเดินไปเปิดประตูห้องเล็กซึ่งเป็นห้องของย่าหยาให้เขาเข้าไปเพื่อว่างร่างที่ไร้เรี่ยวแรงลงบนเตียง “ย่าหยา! เหตุใดเป็นเช่นนี้”ยี่สุ่นบีบมือน้องสาวที่รักราวกับเป็นลูกก็ว่าได้ เพราะมารดาตายจากไปตอนที่ย่าหยาอายุเพียงแปดขวบ นางเป็นพี่จึงเลี้ยงดูน้องคนนี้แทนมารดาทุกสิ่ง และเมื่อตนต้องแต่งงานออกเรือนมาเป็นเมียรองของหลวงพิชัย นางก็ขออนุญาตให้พาย่าหยามาด้วย เพราะที่บ้านไม่เหลือใครแล้ว หากนางไม่อยู่ก็ไม่มีใครดูแลย่าหยา ซึ่งหลวงพิชัยก็เมตตารับน้องสาวของนางมาอยู่ด้วย “แจ่มไปละลายยาหอมมาเร็วๆ แล้วให้คนไปตามหมอมาด้วย” “เจ้าค่ะคุณยี่สุ่น”
ย่าหยาอ้าปากแต่ไม่มีเสียง ยี่สุ่นที่นั่งอยู่ใกล้น้องจึงพูดแทน “ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ ขอบพระคุณคุณช้อยที่ให้หมอมาตรวจอาการน้องสาวอิชั้นเจ้าค่ะ” “เห็นสองคนคอยดูแลกันเช่นนี้ ฉันก็สบายใจ” หลวงพิชัยพูดแล้วอดมองมาทางย่าหยาไม่ได้ ได้ยินว่าแม่เป็นคนจีนทั้งสองพี่น้องจึงผิวขาวผุดผ่อง แต่กลับมีดวงตากลมโตราวกับหยดน้ำวาวใส ท่าทีขี้อายปนประหม่าชวนมองยิ่งนัก “แล้วนี่พ่อสินธุ์ล่ะ กลับมาแล้วไม่ใช่รึ ไม่มากินข้าวกินปลาพร้อมหน้าพร้อมตากันบ้างหรือไร” หลวงพิชัยพูดขึ้นอย่างเพิ่งนึกได้ “มาแล้วขอรับ” เสียงดังขึ้นจากด้านหลังก่อนที่เจ้าของร่างกำยำจะเดินเข้ามานั่งรวมวงรับประทานอาหารเย็น “ฉันซ้อมดาบกับทิดจ้อยเหงื่อท่วมตัวเลยไปอาบน้ำก่อนมาที่นี่ก็เลยมาช้าไปสักหน่อย” สายตาคมปลาบจับจ้องมายังย่าหยา หญิงสาวหดคอด้วยความเคยชิน แต่นึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นคนใจร้ายที่แกล้งเธอ จึงฝืนทำใจกล้ายืดแผ่นหลังตั้งตรงแล้วเชิดปลายคางขึ้น ชายหนุ่มมองแล้วกลั้นยิ้มขำ นึกถึงตอนที่หญิงสาวกลัวจนตัวสั่นแต่พยายามดิ้นรนสุดชีวิต ตอนนี้ก็ยังทำตัวเหมือนแมวน้อยขู่ฟ่อๆ ทั้งที่กล
“คุณพี่ คุณพี่เจ้าขา” “ชอบหรือไม่” “เบาหน่อยเจ้าคะ อื้อ คุณพี่...อิชั้น...ไม่ไหว” “ทนอีกหน่อย พี่ใกล้แล้ว โอ้ววว” นั้นเป็นเสียงที่ดังมาจากห้องข้างๆ ซึ่งย่าหยาเข้าใจดีว่าเกิดกิจกรรมอะไรในห้องนั้น แต่ไม่คิดว่าหลวงพิชัยที่ดูเงียบขรึมและใจดีจะร้อนแรงขนาดทำให้พี่สาวร้องครวญครางเกือบทั้งคืน ซ้ำรุ่งเช้ายังได้ยินอีกรอบด้วย ยังดีที่คุณหลวงมาหาพี่ยี่สุ่นวันเว้นสองวันเพราะเกรงใจคุณช้อย ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ได้หลับสนิทเป็นแน่ แต่พี่สาวของเธอตื่นมาหน้าตาแช่มชื่นในขณะที่เธอนอนหลับไม่สนิทเพราะได้ยินเสียงครวญครางรบกวนทั้งคืน แต่พี่แจ่มดูไม่ทุกข์ร้อนสักนิด คงมีแต่เธอที่ยังไม่ชินสินะ แม้ยังไม่เคยมีคนรักแต่รู้เรื่องระหว่างชายหญิงดี และพอเข้าใจได้ว่าผู้หญิงในยุคนี้ต้องพึ่งพาสามี ถ้าไม่ได้รับความรักความโปรดปรานก็จะใช้ชีวิตอยู่ยาก แต่ถึงอย่างไรเธอก็ยังอยากกลับบ้านอยู่ดี มาอยู่ที่นี่ครบสัปดาห์แล้ว เธอยังหาวิธีกลับบ้านไม่ได้ เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่าอะไรทำให้เธอมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ นับว่าเธอยังโชคดีที่มาอยู่ในร่างที่ไม่เดือดร้อ
ครั้งแรกที่เธอได้สติก็ตื่นมาบนเตียงของเขา นิยายที่เคยอ่าน ซีรีย์ที่เคยดู มีบางเรื่องคล้ายกันคือนางเอกตื่นมาบนเตียงพระเอก หรือเตียงจะเป็นสิ่งเชื่อมโยงมิติก็ได้ คราวนี้เธอจะลองนอนบนเตียงนี้เผื่อว่าตื่นอีกครั้งจะได้กลับไปโลกปัจจุบัน คิดได้ตามนี้แล้วย่าหยาก็ปีนขึ้นเตียงนอน จัดหมอนแล้วทิ้งตัวลงนอน เธอหลับตาแต่แสงสว่างที่สาดเข้ามารบกวนการนอน เธอพลิกซ้ายพลิกขวาก็ยังไม่หลับจนต้องลุกขึ้นมานั่ง ‘ทำไมไม่หลับนะ ปกติตอนอยู่โลกโน้น ก็หลับได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมืดหรือแสงสว่างแค่ไหน ทำไมถึงไม่หลับนะ’ ย่าหยาก่นดาตัวเองแล้วทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง‘สงบสติอารมณ์หน่อย ผ่อนคลาย คิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ คิดถึงงาน คิดถึงนักอ่านที่รอตอนต่อไปของนิยาย เอ๊ะ ! หรือจะไม่มีใครรออ่านนิยายของฉันแล้วนะ แงๆ ไม่เอาสิ คิดมากแบบนี้ก็นอนมไม่หลับนะสิ โอ๊ย! จงหลับ หลับ หลับเดี๋ยวนี้’ สายลมเย็นๆ พลิ้วผ่านม่านหน้าต่าง กลิ่นหอมของดอกไม้ไม่รู้สายพันธุ์โชยมาแตะปลายจมูก ย่าหยาเคลิ้มหลับไปอย่างไม่รู้ตัว เป็นจังหวะเดียวกับบานประตูเปิดออกพร้อมเจ้าของเรือนที่กลับเข้ามา ดวงตาคมปลาบเห็น
“สนใจหนังสือรึ” สินธุ์เอ่ยถามเมื่อเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาว เธอหันมาพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มพลางชี้นิ้วไปที่ชั้นหนังสือ เขาเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย จึงให้คนตั้งตู้หนังสือในห้องนอน บางครั้งบางคราวก็เอกเขนกอ่านหนังสือจนผล็อยหลับไป “เอาสิ หยิบไปอ่านดูก็ได้” เขาเสนอแล้วเดินไปที่ชั้นหนังสือ “แต่หนังสือในห้องฉันเป็นหนังสือทางการทหารการปกครอง เธอจะอ่านเข้าใจไหม”‘เขากำลังดูถูกเธอเหรอ’ ย่าหยาตวัดตามองเล็กน้อยแล้วเดินไปเลือกดูหนังสือบนชั้น แน่นอนว่าไม่มีหนังสือนิยายรักให้เธอเลือกอ่าน แต่พวกบันทึกประวัติศาสตร์หรือเรื่องเล่าต่างแดนก็น่าสนใจไม่น้อย คนตัวเล็กเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อหยิบหนังสือเล่มหนึ่งลงมา พอเปิดดูไปสองสามหน้า คิวเรียวก็ขมวดกันยุ่งภาษาไทยแต่เป็นภาษาเก่า การใช้คำและการเรียบเรียงประโยคไม่เหมือนกัน เห็นทีว่าจะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ เอ่อ...สักพักใหญ่ๆ ล่ะนะสินธุ์ไม่กล้าถามว่า ‘อ่านหนังสือออกหรือไม่’ เพราะเกรงจะทำให้หญิงสาวไม่พอใจ แค่เธอมองค้อนเขาก็แทบใจคอไม่ดีแล้ว“เล่มนี้เป็นบันทึกการค้าขายกับชาวฮอลันดา”“ปี..ปีนี้ พ.ศ. อะไร...คะ”ชายหนุ่มเอียงคอมองหญิงสาวเล็กน้อย เธอพูดจา
เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าแล้วกอดร่างเล็กแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าจะเป็นแค่ความฝันไป ไออุ่นจากกายแกร่งตอกย้ำว่าเขาคือคนที่หัวใจเธอเพรียกหา หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาแล้วขยับตัวยื่นหน้าไปจูบมุมปากของชายหนุ่ม “หยารักพี่สินค่ะ หยาจะไม่หายไปไหนอีก ครั้งนี้เรามาทำให้มันไม่เหมือนเดิมนะคะ” แววตาของเธอคือคำตอบที่เขารอคอย มีหลายร้อยหลายพันคำที่เขาอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออก อับจนถ้อยคำอย่างน่าสงสาร ความรู้สึกที่มีทั้งหลายทั้งปวงหลอมรวมเป็นอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่หัวใจของเขายังเป็นดวงเดิมที่รักเพียงหญิงเดียวเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป รักครั้งนี้กับหัวใจดวงเดิมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วบทส่งท้าย ข่าวโฮโซสาวชื่อดังและครอบครัวถูกจับข้อหาฉ้อโกงและคดีแชร์ลูกโซ่เป็นที่พูดถึงกับไปทั่ว ช่องข่าวทุกช่องรวมทั้งโลกโซเซียลให้ความสนใจกันมาก แต่นั้นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพอใจมาก เพราะพวกเขาไม่ต้องเป็นเป้าสายตาของใครนัก มารดาของย่าหยาและสามีใหม่บินตรงกลับเมืองไทยตามคำเชิญของว่าที่ลูกเขยเพื่อที่ทั้งสองครอบครัวจะ
คุณาสินวางร่างของย่าหยาลงบนเตียง เขาปรายตามองไปทางประตูเห็นลูกน้องปิดให้เรียบร้อยก็ถอนหายใจเบาๆ คนตัวเล็กยื่นมาคล้องคอเขาไว้ “พี่สิน” เสียงหวานครางแผ่ว “หยาอยากอาบน้ำ” เธอต้องการเขาเหลือเกิน แต่สภาพนี้มันก็เกินกว่าตัวเธอเองจะรับได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อุ้มคนตัวเล็กเดินไปที่ห้องน้ำ “เด็กดี...ให้พี่ช่วยนะครับ” เขาพูดขณะปล่อยให้เธอลงยืน หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาช่วยถอดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นออกจากร่าง น้ำอุ่นไหลผ่านฝักบัวรินรดร่างเปลือยเปล่า มือใหญ่ค่อยๆ เช็ดใบหน้าสวยอย่างเบามือพลางสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนบ้าง เสียงหวานครางแผ่วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างร้อนรน ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคยแล้วยื่นหน้าไปจูบอกซ้ายของเขา ชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวเล็กพยายามปลดเข็มขัดของเขาออก เขาจึงเลื่อนมือลงไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าต่อหน้าคนรัก ผ่านมากี่ร้อยปี เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่เขารัก แม้เคยคิดหันหลังให้ความรู้สึกที่มีแต่หัวใจมันไม่ยอมหยุดรักเธอได้เลย มือใหญ่กุมมือเล็กให้กอบกุมท
ชายผู้นั้นหน้าซีดมองร่างที่หลับใหลสลับกับหน้าถมึงทึงของวาด มือหยาบกร้านสั่นเทายื่นไปหมายแตะต้องเรือนร่างนวลละออ แต่มีเสียงคนพูดด้านนอกว่า ‘องค์วรสินเสด็จกลับมาแล้ว’ ทั้งสองจึงรีบออกไปราวกับภูติผีวิญญาณร้าย คราวนั้นองค์วรสินกลับมาได้เวลา แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดเพราะองค์วรสินเองก็ถูกปั่นศีรษะเป่าหูว่าเธอเป็นหญิงแพศยาคบชู้ ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยตายจากของเธอและลูกในครรภ์ แรงรักแรงอาฆาตทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเช่นนี้หลายชาติภพ เธอปล่อยวางตั้งแต่ชาตินั้นแต่คนผู้นี้ไม่อาจปล่อยเธอไป มือใหญ่กระชากเสื้อเธออย่างแรงทำให้ย่าหยาได้สติ หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องแล้วยกเท้าขึ้นถีบเปะปะไปทั่วแต่มือที่น่าขยะแขยงพวกนั้นจับเรียวขาเธอแล้วลูบไล้หยาบคาย คนหนึ่งถือสมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ราวกับเธอคือนางเอกหนังAV ที่รับบทสาวสวยถูกขื่นใจ แต่นี่คือชีวิตจริงที่เธอกำลังจะถูกชายแปลกหน้ายำยี ‘พี่สิน’ ย่าหยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อคนรักในใจ ใช่ เธอรักเขา ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อยปีหรือกี่ชาติภพ เธอก็ยังคงรักผู้ชายคนนี้ โครม! เสียงถีบประตูดังสนั่นท
“เอ่อ...เจ้านายครับ ผมไม่เห็นคุณย่าหยาเลยครับ” “อะไรนะ?” “ผมเข้ามารับเอกสารตามที่เจ้านายสั่ง ผมมาถึงคอนโดแล้วแต่ไม่พบคุณย่าหยาเลยครับ เอ่อ...โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ผมถามนิติกรคอนโดก็บอกว่าเห็นคุณย่าหยาเดินออกไปหน้าคอนโดแล้วยังไม่กลับเข้ามาครับ” “เป็นไปได้ยังไง” “ผมว่าแปลกๆนะครับ” “รอที่นั้นก่อน เดี๋ยวฉันลองติดต่อย่าหยาอีกที” คุณาสินวางสายจากลูกน้องแล้วโทรหาย่าหยา ใจของร้อนรุ่มไม่สนใจว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนตึกสูงระฟ้าแต่หัวใจของเขากำลังดำดิ่งอย่างหวาดวิตก หญิงสาวไม่รับสายและครู่ต่อมาก็เหมือนทโทรศัพท์ดับไปเสียเฉยๆ เขาสบถหัวเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโทรตามลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาพบเขาทันที และโทรสั่งให้คนของเขาอีกคนไปขอดูกล้องวงจรปิดที่คอนโด เขาสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติให้มั่น หากเป็นเรื่องอื่นเขาคงรับมือด้วยความใจเย็น แต่นี่เป็นเรื่องของย่าหยา ผู้หญิงที่ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา ผ่านมาหลายชาติภพ เขาไม่
“โทษหยาเหรอคะ แต่พี่สินเริ่มก่อนนะ” เธออายจนหน้าแดงเรื่อ ไม่รู้ทำไมตอนเช้าเขาถึงมี ‘อารมณ์’ จนต้องจัดหนักก่อนไปทำงานทุกที เธอทำงานที่บ้าน ตื่นสายก็ไม่เป็นไรแต่เขานี่สิ “พี่เป็นเจ้าของบริษัท ไปถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เขายื่นหน้าไปแล้วกระซิบข้างหู “ต่ออีกรอบได้นะครับ” “คนบ้า! ไปทำงานเลย” “ครับๆ รับคำสั่งคุณภรรยาครับ” ย่าหยาไม่อยากจะโต้ตอบอีก ดูเหมือนพูดอะไรไปก็จะเข้าทางเขาเสียหมด คุณาสินยิ้มกว้างแล้วจูบหน้าผากคนรักเบาๆ ก่อนออกไปทำงานเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิม เหมือนได้ของหายที่หาไปนานกลับมา 2-3คืนแรก เขานอนหลับไม่สนิทนักเพราะกังวลและกลัวว่าเธอจะหายไป และกลัวว่าเธอจะหวนกลับไประลึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณาสินเดินออกมาจากห้องของคนรัก เขาไม่อยากเร่งรัดเธอเกินไป แต่อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนขี้กลัวไปเสียทุกอย่าง บางทีเขาก็นึกขำตัวเอง ตอนที่ยังหาเธอไม่เจอมันก็เป็นความรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง แต่เมื่อได้พบเธอ ได้โอบกอดอีกครั้ง กลับกลัวว่าจะเสียเธอไป เขาอยากใช้ชีวิตกับเธอเ
ทันที่ริมฝีปากร้อนของคนทั้งสองประกบกันอีกครั้ง ร่างกายผ่าวร้อนทาบทับลงมาบดเบียดแนบชิด สิ่งที่ใหญ่โตนั้นร้อนระอุคลอเคลียกลีบเนื้ออ่อนบางที่ยามนี้ฉ่ำชื้นเพราะถูกปลุกเร้าด้วยนิ้วมือร้ายกาจ คุณาสินผละจากริมฝีปากสวยแล้วพรมจูบลำคอขาวผ่องจนเป็นแดงเรื่อ ซุกไซและโลมเลียลำคอระเรื่อลงมาที่เนินอกสวยอีกครั้ง ขบเม้มดูดดึงที่ปลายถันจนเปียกชุ่มทำให้หญิงสาวเผลอใช้ปลายนิ้วจิกลงที่ต้นแขนกำยำอย่างลืมตัว “อื้อ พี่สิน...” ความต้องการของหญิงสาวทวีคูณ ขยับบดเบียดร่างแนบชิดพร้อมกับแยกเรียวขาออก ความปรารถนาจะถูกเติบเต็มทำให้เรียกร้องอย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาส่งนิ้วไปสำรวจเบื้องล่างอีกครั้งขยับนิ้วในร่องสาวจนมั่นใจว่าน้ำรักของเธอมากพอจึงประคองแก่นกายของตนส่งเข้าไปที่น้อย “อ๊ะ!” “อย่าเกร็ง” เขาพูดเสียงพร่าและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ ดวงตาของเธอปรือฉ่ำไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ แต่เพราะถูกปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ เขาขยับเอวสอบดุนดันเข้าไปที่ละน้อย ขยับออกถอยเข้าเพิ่มความลึกไปที่ละนิดจนปลายหัวบากมุดเข้าไปในร่องสาว ย่าหยาตัวสั่นระริกในขณะที่อีกฝ
“ถ้า...ถ้าฉันไม่ใช่คนในอดีตชาติที่คุณตามหา คุณจะชอบฉันไหม?” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้ม เขามองเธอนิ่งนานจนเธอรู้สึกเห็นตัวเองในแววตาของเขา “ถ้าคุณเป็นผู้หญิงร้ายๆ หรือมีคนรักแล้ว ผมคงคอยให้ความช่วยเหลือคุณอยู่ห่างๆ แต่นี่คุณเป็นคนอ่อนโยน จริงใจ ถึงคุณจะเลี้ยงหมาแมวเองไม่ได้แต่ก็ช่วยสนับสนุนโอนเงินช่วยเหลือหมาแมวจรอยู่ตลอด นี่ยังไม่รวมที่คุณตรงสเป็คผมอีกด้วยนะ” “คุณรู้ได้ไง...เราเพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอ” เธอมองเขาอย่างไม่เชื่อนัก “ก็คุณเป็นคนที่ผมสนใจ ผมถึงอยากรู้ทุกเรื่องของคุณ” เขายิ้มแววตากรุ้มกริ่ม“แล้วฉันไปตรงสเป็คคุณตรงไหน”“สเป็คผมก็ตัวเล็กซ่อนรูป อะไรที่ผมควรเห็นคนเดียวก็ให้ผมมองคนเดียวก็พอ” ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์ค็อกเทลที่ดื่มไปหลายแก้ว เธอก้มหน้าไม่กล้าสบตากับเขาอีก ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปล้างมือแล้วรินน้ำอุ่นใส่แก้วเซรามิกสีเทาแล้วถือกลับมาให้หญิงสาว “ดื่มน้ำอุ่นๆ แก้แฮงค์ได้บ้าง” มือเรียวเล็กรับน้ำมาดื่มอย่างว่าง่าย เธอจิบไปไม่กี่คำก็ส่งแก้วคืนให้เขา ปลายนิ้วสัมผัสกันเล็กน้อย ทว่าราวกั
“ไหวหรือเปล่า” น้ำเสียงคุ้นเคยเจือความห่วงใยทำให้ย่าหยาเอี้ยวใบหน้าไปมอง แต่ริมฝีปากปัดปลายคางของชายหนุ่มที่โน้มหน้าลงมาพอดี “คะ...คุณ...คุณสิน” “เมาหรือไม่สบาย” “ไม่ได้เมาเสียหน่อย” คุณาสินหัวเราะในลำคอ “คนเมาที่ไหนบอกว่าตัวเองเมา” “นี่คุณ!” “เอ่อ...” เจ้าของงานวันเกิดเอ่ยขึ้น “ย่าหยาจะไม่แนะนำหน่อยเหรอว่า...” ตอนนี้สายตาของเพื่อนสนิททุกคู่จ้องมองที่ย่าหยาและคุณาสิน เพื่อนสาวไม่ได้ขี้เหร่สมัยเรียนก็มีหนุ่มๆมาจีบเยอะแยะแต่ย่าหยาไม่สนใจ แล้วนี่ใครกัน เบ้าหน้าฟ้าประธานแบบนี้เพื่อนสาวไม่เคยปริปากพูดเลยสักคำ “เอ่อ...นี่คุณสิน...คุณาสินเป็น...” “เป็นคนตามจีบย่าหยาครับ” คุณาสินชิงพูดก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ “กรี๊ด!” เพื่อนๆที่เมาได้ที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างตื่นเต้น “ตายแล้วยัยย่าหยา มีหนุ่มหล่อมาจีบไม่เห็นเล่าให้เพื่อนฟังเลย” ย่าหยาอายจนหน้าแดงจัด เธอหันไปกวาดตามองเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตผูกเนคไทหลวมๆ เข้ากับกางเกงสแล็คสีเข้ม ไม่เห็นเขาหลายวั
คุณาสิน... ชื่อของเขาทำให้เธอพลิกตัวขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือไปหยิบโน้ตบุ๊กมาเปิดแล้วค้นหาประวัติของผู้ชายคนนั้น แล้วเธอก็อ้าปากค้าง เขาไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด ไม่ใช่เจ้าของบ่อน้ำมันแต่ทำธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งที่อายุเพิ่งจะยี่สิบแปดเท่านั้น นามสกุลของเขายังเป็นนามสกุลเดิม เขายังคงเวียนว่ายในห้วงกรรมของตนละมั้ง? ส่วนเธอที่จำอะไรไม่ได้และบอกตัวเองเสมอว่าอยู่กับปัจจุบันมีเพียงความรู้สึกเดียวก็คือเหมือนรอใครสักคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธออยู่นี่ไม่ได้ตามแม่ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ต่างประเทศ หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา ตอนนี้เธอควรจัดการเรื่องของตัวเองดีกว่า หยุดงานเขียนไปหลายวัน รายได้ก็หดหาย มีเรื่องให้สะสางอีกมาก เธอไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเขานี่ยังไงก็ต้องทำงานหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเหมือนเดิมนั้นแหละ ชีวิตปกติของย่าหยาคือเขียนนิยายอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมของตัวเอง นานๆ จึงจะออกจากบ้านไปเปลี่ยนบรรยากาศสักครั้ง หรือไม่ก็ไปซื้อของใช้เข้าบ้านสัปดาห์ละหน ส่วนอาหารการกิน เธอกินง่ายอยู่ง่าย ถ้าไม่สั่งแบบเดริเวอรี่ก็ซื้ออาหารแช่แข็งมาใส่ตู้เย็น