Home / โรแมนติก / คะนึงครวญ / ตอนที่ 3. เปล่งเสียงไม่ได้

Share

ตอนที่ 3. เปล่งเสียงไม่ได้

‘คุณสินธุ์’ อุ้มร่างที่เบาหวิวตรงดิ่งไปที่เรือนจรุงจิตซึ่งเป็นเรือนที่ ‘หลวงพิชัย’ ยกให้เมียรองได้อยู่อาศัยนั้นก็คือ ‘ยี่สุ่น’ ซึ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ราวๆ สิบวันแล้ว โดยมีบ่าวรับใช้ชื่อแจ่มและน้องสาวที่ได้ยินว่าสติไม่ค่อยดีชื่อย่าหยามาอยู่ด้วย

            ชายหนุ่มร่างกำยำอุ้มร่างเล็กที่ไม่มีแรงดิ้นรนขัดขืนมาถึงเรือนจรุงจิต บรรดาบ่าวรับใช้แตกตื่นแต่ไม่กล้าส่งเสียงพูดอันใด ได้แต่ก้มหน้าหลุบตาลงไม่กล้ามอง ‘เจ้านาย’ ยี่สุ่นที่วิ่งตามมารีบเดินไปเปิดประตูห้องเล็กซึ่งเป็นห้องของย่าหยาให้เขาเข้าไปเพื่อว่างร่างที่ไร้เรี่ยวแรงลงบนเตียง

            “ย่าหยา! เหตุใดเป็นเช่นนี้”

ยี่สุ่นบีบมือน้องสาวที่รักราวกับเป็นลูกก็ว่าได้ เพราะมารดาตายจากไปตอนที่ย่าหยาอายุเพียงแปดขวบ นางเป็นพี่จึงเลี้ยงดูน้องคนนี้แทนมารดาทุกสิ่ง และเมื่อตนต้องแต่งงานออกเรือนมาเป็นเมียรองของหลวงพิชัย นางก็ขออนุญาตให้พาย่าหยามาด้วย เพราะที่บ้านไม่เหลือใครแล้ว หากนางไม่อยู่ก็ไม่มีใครดูแลย่าหยา ซึ่งหลวงพิชัยก็เมตตารับน้องสาวของนางมาอยู่ด้วย

            “แจ่มไปละลายยาหอมมาเร็วๆ แล้วให้คนไปตามหมอมาด้วย”

            “เจ้าค่ะคุณยี่สุ่น” 

            เกิดความโกลาหนภายในเรือนหลังเล็ก ยี่สุ่นเพิ่งสังเกตว่าใต้ผ้าห่มที่คลุมร่างของน้องสาวนั้นคือผ้าแถบที่หลุดรุย นางหันไปทางคุณสินที่ยืนกอดอกจ้องมองอยู่ นางอาจไม่ใช่คนฉลาดนักแต่พอเดาได้ว่าเกิดเรื่องใด

            “คุณสินธุ์เจ้าคะ อย่าได้ถือสาหาความน้องสาวของอิชั้นเลยนะเจ้าคะ ย่าหยากำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก อิชั้นเป็นคนเลี้ยงดูน้องจนมาถึงตอนนี้ ถ้าย่าหยาทำสิ่งใดล่วงเกินคุณสินธุ์ไป อิชั้นขอกราบ..”

            “ไม่ต้อง”  ชายหนุ่มร้องห้าม “อย่างไรเสียเธอก็มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ฉัน แม้จะเป็นเมียรองของพี่ชายฉันก็เถิด”   เขาอดมองไปยังร่างเล็กที่เหมือนจะหลับไปแล้ว

            “ขอบพระคุณที่คุณสินไม่ถือสา ย่าหยาเพิ่งเข้ามาอยู่ที่นี่ น้องคงหลงทางจึงได้ไปอยู่ที่เรือนคุณสินธุ์ได้”

            “ช่างเถิด” 

เขามองแล้วก็รู้สึกผิด คงตื่นตกใจถึงกับเป็นลมไปเลยสินะ  หางตารับรู้การเคลื่อนไหวจึงเบี่ยงตัวหลบให้บ่าวรับใช้รีบเอาแก้วยาหอมเข้ามา  ยี่สุ่นประคองร่างของน้องสาวขึ้นนั่งแล้วค่อยๆ ป้อนยาหอมให้จิบที่ละนิดจนหญิงสาวได้สติ  ดวงตากลมคู่หนึ่งกะพริบตาปรับสายตาครู่หนึ่งก่อนมองมาทางเขาแล้วท่าทางหดคอเหมือนเต่าตัวน้อย

“ย่าหยาอย่าเสียมารยาท นี่คุณสินธุ์น้องชายคุณหลวงพิชัย  ไหว้คุณสินธุ์สิจ๊ะ”

หญิงสาวยกมือไหว้อย่างขลาดกลัวอีกฝ่ายยกมือรับไหว้

“คราวหน้าคราวหลังอย่าไปวุ่นวายที่เรือนของฉันอีกล่ะ ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”

ย่าหยาค่อยๆลดมือที่ไหว้อยู่ลงแล้วแอบแลบลิ้นใส่ เธอไม่คิดว่าเขาจะเห็นแต่เขากลับจ้องเขม็งทำให้เธอหดคออีกครั้ง ชายหนุ่มส่ายหน้าระอาใจแล้วก้าวเท้าออกไปทันที

“ขวัญเอยขวัญมา อย่าเที่ยวเดินเพ่นพ่านอีก ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรานะย่าหยา”

หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วค่อยๆ จิบยาหอมจนหมด เผลอมองไปยังมุมหนึ่งซึ่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเห็นเงาตัวเองในกระจกก็ต้องตกใจ

“มีอะไรรึ”

ย่าหยาส่ายหน้าไปมาแล้วชี้นิ้วไปที่หมอนทำท่าจะขอนอน  ยี่สุ่นก็พยักหน้าเข้าใจประคองน้องสาวลงนอน

เมื่อครู่ ความทรงจำของ ‘ย่าหยา’ ไหลบากเข้ามาในหัวของเธอ  ย่าหยาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงหลุดมาอยู่ในยุคอดีตเช่นนี้ได้ เธอเป็นนักเขียนย่อมเป็นนักอ่านด้วย อ่านนิยายย้อนยุคทะลุมิติมาก็มาแต่ไม่คิดว่าเจอเข้ากับตัว  ตอนนี้เธอติดอยู่ในร่างของย่าหยาซึ่งชื่อเดียวกับเธอ แต่ว่าเจ้าของร่างนี้อายุเพียงสิบเจ็ดและยังเคยเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายจนเป็นคนไม่ยอมพูด หลายคนเข้าใจไปว่าย่าหยาเป็นใบ้แท้จริงเธอแค่ไม่พูดเท่านั้น

ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้นะ แล้วนี่เธอจะทำยังไงถึงจะได้กลับบ้านในปีพ.ศ.2567ได้กันล่ะ

เฮ้อ!

            ถึงเวลารับประทานอาหารเย็น  ย่าหยาที่อาการดีขึ้นถูกเชิญให้ไปร่วมกินอาหารที่เรือนใหญ่ เธอได้รับความทรงจำจากเจ้าของร่างเดิมทำให้รู้ว่าที่ผ่านมา ผู้อื่นเข้าใจว่าหญิงสาวเป็นใบ้ แต่เพราะในวัยเด็กได้เห็นผู้เป็นแม่ถูกโจรฆ่าตายต่อหน้าในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าตามคำสั่งของมารดา

            ‘อย่าส่งเสียง อย่าร้อง เชื่อแม่นะ’

            เด็กหญิงตัวน้อยกัดปากตนเองแน่นจนเป็นแผลมองดูแม่ที่สิ้นใจด้วยสภาพน่าอนาถ เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่อาจรู้ได้ พ่อของตนนำลูกน้องคนสนิทออกตามหาจึงได้พบลูกสาวคนเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ นับจากวันนั้น น้อยนักที่จะได้เด็กน้อยเอ่ยวาจา ไม่ว่าบิดาจะพยายามหาหมอเก่งกาจเพียงใดมารักษาแต่เด็กน้อยก็ไม่ยอมพูด  ยี่สุ่นผู้เป็นพี่สาวคอยดูแลเลี้ยงดูย่าหยาแทนแม่ที่ตายจาก  พ่อของเธอคือกำนันไม้ หลายเดือนก่อนหลวงพิชัยเป็นตัวแทนพระองค์ท่านออกตรวจความสงบเรียบร้อยตามหัวเมืองต่างๆ เกิดเหตุปะทะกับโจรชั่ว เพื่อปกป้องหลวงพิชัย กำนันไม้ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะสิ้นใจได้ฝากฝังให้ช่วยดูแลบุตรสาวทั้งสอง หลวงพิชัยจึงตกปากรับคำรับยี่สุ่นเป็นเมียรอง ส่วนย่าหยานั้นก็รับมาอยู่ด้วยกันเพื่อที่พี่น้องจะได้ไม่ต้องอยู่ห่างไกลกัน

            ย่าหยาที่เงียบใบ้ถูกนางวาด-คนสนิทของคุณช้อยเมียเอกของหลวงพิชัยแกล้งให้ไปช่วยทำความสะอาดเรือนสินธุ์ซึ่งเป็นเรือนของคุณสินธุ์- น้องชายของหลวงพิชัย ย่าหยาถูกขังไว้ในห้องนอนของคุณสินธุ์ด้วยเหตุผลใดไม่อาจรู้ได้  เธอตื่นขึ้นมาก็กลายอยู่ในร่างของย่าหยา หรือว่าดวงจิตของย่าหยาในภพนี้จะไปอยู่ในร่างของเธอในปีพ.ศ.2567 กันนะ  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ย่าหยาที่แสนไร้เดียงสาและไม่มีใครปกป้องจะทำอย่างไร โลกในอนาคตน่ากลัวกว่ายุคนี้เสียอีก

            “อาการดีขึ้นแล้วรึแม่ย่าหยา”

คุณช้อยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง นางเป็นเมียพระราชทานของหลวงพิชัย แต่งงานอยู่กันมาห้าปียังไม่มีลูก บ้านอื่นล้วนมีเมียเล็กๆ รับเมียบ่าวกันให้วุ่นวาย แต่คุณหลวงยังไม่รับใครมาเป็นเมียรองหรือแม้แต่เมียบ่าว เพิ่งจะมีแม่ยี่สุ่นที่รับมาอยู่ด้วย แม้จะเจ็บช้ำใจอยู่บ้างแต่ก็ต้องฝืนทำใจกว้างยอมรับเรื่องนี้  และที่สำคัญคุณหลวงย้ำนักหนาว่าอย่างไรเสียนางก็เป็นเมียเอกเมียรักของเขาไม่มีวันที่จะยกใครขึ้นมาแทนที่

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status