หน้าหลัก / โรแมนติก / ของรักท่านนายพล / ตอนที่ 51: ออกมาจับตัวกลับบ้าน

แชร์

ตอนที่ 51: ออกมาจับตัวกลับบ้าน

ผู้เขียน: malinee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 21:01:52

บ้านแม่และบ้านสามีอยู่คนละเมือง มันมีประโยชน์มากนะ อย่างเช่นตอนนี้ หนีออกจากบ้านแล้ว ไม่ต้องวิ่งไปพักที่โรงแรม เธอสามารถกลับมาพักบ้านที่แสนจะอบอุ่น กินอาหารที่พ่อแม่ทํา นอนบนที่นอนเล็ก ๆ ที่เธอแสนจะคุ้นเคย

ลองคิดดูสิ ซ่งเสี่ยวเชียนแทบรอไม่ไหวแล้ว เธอควรกลับไปบ้านของเธอตั้งนานแล้ว ต้องมาทนทุกข์ทรมานที่บ้านหลังนั้น และต้องทนรับความอารมณ์โกรธเหมือนพายุโหมกระหน่ำทุกวัน ที่สําคัญที่สุด ผลของความทุกข์นี้ ไม่มีค่าอะไรเลย เธอเหมือนตัวคนเดียว

มีสิทธิ์อะไร ซ่งเสี่ยวเชียนโกรธจัดและขึ้นรถบัสด้วยสภาพร่างกายที่ไม่พอใจ เมื่อลงจากรถบัสที่ป้ายหน้าชุมชนและเพิ่งเดินเข้าไปในชุมชน จะมีจัตุรัสเล็กๆและเหล่าป้าๆจะพากันเต้นรำกันยามเย็น ก็ไม่รู้ว่าพวกป้าตาดีหรือยังไง

พอซ่งเสี่ยวเชียนปรากฏตัว ก็มีคนสังเกตเห็นเธอแล้ว พอเห็นเธอก็วิ่งเข้ามา จับมือเธอแล้วไม่ปล่อย "โอ้ หนูใช่เพื่อนสาวของตระกูลซ่งที่อยู่บนชั้นหกไม่ใช่หรอหนูไม่ใช่แต่งงานเข้าตระกูลเย่แล้วหรอ ทำไมตอนนี้กลับมาบ้านล่ะแล้วสามีของหนูล่ะ ไม่ได้มากับหนูเหรอ"

ซ่งเสี่ยวเชียนอ้ำอึ้งมาสักพัก ไม่รู้จะตอบยังไง แม้ว่าป้าในชุมชนนี้จะคุ้นเคยกับแม่ แต่เธอไม่คุ้นเคยนิ ตอนนี้ฝูงผึ้งล้อมรอบเธอและถามคําถามที่น่าอึดอัดใจแบบนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

"ทําไมไม่พูดล่ะ อายหรอ ไม่ต้องอาย พวกเราอายุขนาดนี้ พูดกับป้าๆ ไม่เป็นไรหรอก" พวกป้ากระตือรือร้นมาก ซ่งเสี่ยวเชียนแทบจะรับมือไม่ไหว

"เอ่ออ... คุณป้า ๆ พวกคุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง" เธอคิดในใจว่า เรื่องนี้เธอไม่ได้บอกใคร ป้าเหล่านี้รู้ได้ยังไง

"แม่ของหนูพูด พูดกับพวกเราทุกวันว่า ลูกสาวของเธอแต่งงานกับเศรษฐีคนหนึ่ง และดีกับลูกสาวของเธอมาก พวกเราอยากเจอสามีหนูมานานแล้ว สามีของหนูไม่ได้กลับมาด้วยกันหรอ

นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย ซ่งเสี่ยวเชียนใบหน้าซีดเป็นระยะ ๆ กลับบ้านต้องสั่งสอนแม่ของเธอซะแล้ว

"คุณป้าๆ วันนี้หนูมีธุระด่วนจึงกลับบ้าน ไว้คราวหน้านะคะ ถ้าว่างหนูจะคุยกับพวกป้าเยอะๆนะ"

พวกป้าๆมีวิธีสะกดรอยคนอื่นได้ดี และวิธีจัดการกับคนสะกดรอยตาม นั้นก็คือวิ่งหนีซ่งเสี่ยวเชียนยังพูดไม่จบ ก็ตรงไปช่องว่างออกแรงมุด แรงเท้าของพวกป้าๆหรือจะสู้คนหนุ่มสาวได้ แล้วซ่งเสี่ยวเชียนก็วิ่งออกไปหลายเมตรโบกมือให้พวกป้าๆ แล้วหนีเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว

พ่อซ่งและแม่ซ่ง เมื่อเห็นลูกสาวตัวเองกลับบ้าน ก็รู้สึกประหลาดใจมาก ก็นของซ่งเสี่ยวเชียนยังไม่แตะถึงเก็าอี้ ก็พูดเสียงพึมพํา

"แกกลับมาได้ยังไง แกอยู่ตระกลูทําอะไรผิดถูกไล่ออก หรือทะเลาะกับคุณเย่ เป็นเรื่องปกติที่คู่รักสองคนจะทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แกรีบกลับไปขอโทษเขา แล้วทําอาหารดีๆ ให้เขา ไม่แน่เขาอาจให้อภัยแกแล้ว ไป รีบไป ครอบครัวที่ดีขนาดนั้น แกอยากจะสูญเสียไปหรอ "

แม่ซ่งจับมือซ่งเสี่ยวเชียน อยากลากเธอออกไปนอกบ้าน แต่ซ่งเสี่ยวเชียนรีบสะบัดออก "แม่ แม่ไม่คิดถึงลูกสาวของแม่บ้างหรอแม่ทำแบบนี้ได้ยังไง หนูเป็นลูกแท้ ๆ หรือเปล่า

ทําไมหนูทะเลาะกับเขามันถึงเป็นความผิดหนู เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความผิดของเขา ฉันจะไม่กลับไปแล้ว ฉันหย่ากับเขา!"

พอพ่อซ่งได้ยินว่าจะหย่า ก็รีบตบโต๊ะ "แกเพิ่งแต่งงานได้ไม่กี่เดือน จะมาพุดอะไรเรื่องหย่าแกอย่ามาทำตัวไร้เหตุผลตั้งใจใช้ชีวิตของแกไป มีคนอยากได้แก ฉันกับแม่ของแกก็ขอบคุณพระเจ้าขอบคุณพระเยซูแล้ว แกอย่าให้ใจที่พวกเราเพิ่งปล่อยวางได้กับมาทุกข์ใจอีก ฉันกับแม่แกใกล้จะลงโลงแล้ว ยังจะให้พวกเราเป็นห่วงอีกหรอ"

ซ่งเสี่ยวเชียนตกใจกับเสียงตบโต๊ะ แต่ในใจก็ยิ่งน้อยใจมากขึ้น ก็ไม่รู้ว่าเย่จื่อหยางใช้คาถาอะไรให้พ่อแม่ของเธอ ทำไมทุกคนถึงเข้าข้างเขาขนาดนี้!

"ไม่พูดพวกคุณแล้ว ไม่กลับก็คือไม่กลับ" ซ่งเสี่ยวเชียนก็ไม่อยากอธิบายอะไรอีก เรื่องของเธอกับเย่จื่อหยาง ไม่สามารถบอกพ่อแม่ของเธอได้ ไม่อยากนั้นจะกระทบกระเทือนใจของพ่อแม่เธอมากกว่านี้

เธอรีบวิ่งตรงเข้าไปในห้องนอนเล็ก ๆของตัวเอง ปิดประตูและล็อคอย่างแน่นหนา ซ่อนตัวไม่ออกมา ปล่อยพ่อกับแม่อยู่ข้างนอกตบประตู บอกให้เธอรีบออกมา ความขัดแย้งระหว่างคู่รักก็ไม่สามารถแก็ไขสงครามเย็นได้ มีเรื่องอะไรที่พ่อแม่จะคอยให้คำปรึกษา แต่ก่อนอื่นเธอก็ต้องออกมาก่อน

        ซ่งเสี่ยวเชียนพูดอะไรไม่ออกและตะโกนว่า "ไม่ออกไป! ให้ตายก็ไม่ออกไป!"

ตอนนี้เกือบจะทําให้ความดันโลหิตของพ่อซ่งสูงขึ้นและหลอดเลือดระเบิด แม่ซ่งรีบประคองเขาไปพักผ่อน ผ่านไปสักพัก พ่อซ่งจึงดีขึ้นเล็กน้อย ปากก็พูดว่า "ลูกสาวคนนี้เลี้ยงมาเสียเปล่า ไม่รู้จักเจตนาของพ่อแม่เลย"

ซ่งเสี่ยวเชียนไม่ออกไปข้างนอก ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน พ่อซ่งก็ไม่รู้จะทํายังไงแล้ว เวลาผ่านไปสามทุ่ม จะสี่ทุ่มแล้ว ซ่งเสี่ยวเชียนกําลังเตรียมตัวจะเข้านอน พวกเขาก็ไม่โวยวายแล้ว นอนที่บ้านคืนหนึ่งแล้วกัน แต่วันรุ่งขึ้นยังไงก็ต้องกลับบ้านของเย่จื่อหยาง

แต่สักพักหนึ่งแม่ซ่งก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา "ตาแก่ ก่อนหน้านี้เย่จื่อหยางทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เราหรือเปล่า โน้ตไปไหนแล้ว หมายเลขโทรศัพท์มือถือของลูกเขยจะหายไปได้ยังไง"

พ่อซ่งก็นึกได้เช่นกัน ครั้งที่แล้วเย่จื่อหยางมาที่บ้านของพวกเขา เขาให้เบอร์โทรศัพท์ไว้จึงจากไป กระดาษนั้นเขาเก็บไว้อย่างดี วางไว้ในสมุดโทรศัพท์ รีบไปพลิกดู พบแล้ว พ่อซ่งมองหน้าแล้วฮึ่มมีวิธีจัดการกับลูกสาวตัวดีแล้ว

ซ่งเสี่ยวเชียนยังไม่ได้กินข้าวเย็น อยู่ในห้องนอนเล็ก ๆ ของเธอคนเดียวจนถึงสีทุ่มกว่า ท้องของเธอเริ่มหิวจนเจ็บขึ้นมา นอนอยู่บนเตียงและมองไปที่เพดาน ทันใดนั้นห้องก็ดูเล็กลงทันที เธอยังไม่ต้องปรับตัวเล็กน้อย แต่จะว่าอย่างไรก็เป็นห้องที่เธอพักตั้งแต่พักเด็กจนโต แม้ว่าจะไม่ค่อยพอดี แต่ก็ยังให้ความรู้สึกใกล้ชิดมาก

ดูเวลาบนโทรศัพท์ เกือบ ห้าทุ่มแล้ว พ่อแม่ของเธอก็น่าจะนอนแล้วใช่ไหม ออกไปข้างนอกตอนนี้ไหม ไปดูในครัวว่ามีอะไรให้กินหรือเปล่า

เอามือสัมผัสท้องที่เหี่ยวเฉา ถ้ายังหิวขนาดนี้ต่อไป คืนนี้นอนไม่หลับแน่ เธอลุกขึ้นนั่งและกําลังจะลุกจากเตียง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ซ่งเสี่ยวเชียนถอนหายใจ ทําไมพวกเขาถึงยังไม่นอนล่ะ ยังไม่ยอมแพ้หรอ

"อะไรอีก!" เธอพูดอย่างรำคาญ

"ซ่งเสี่ยวเชียน เปิดประตู!"

พอได้ยินเสียงนี้ ซ่งเสี่ยวเชียนก็ตกใจเล็กน้อย นี่คือเสียงของเย่จื่อหยางนิ ทำไมบ้านเธอถึงมีเสียงของเยจื่อหยาง? หรือว่ามีหูแว่ว

"รีบเปิดประตู!" ตึงตัง ๆ ๆ เคาะอีกสามเสียงเพื่อเพิ่มความพยายามอย่างเห็นได้ชัด ซ่งเสี่ยวเชียนยังคงสงสัยว่าทําไมบ้านของเธอถึงมีเสียงเย่จื่อหยาง ต่อมาก็ได้ยินเสียงคํารามนั้น สติสัมปชัญญะของซ่งเสี่ยวเชียนก็ตื่นขึ้นทันทีและเย่จื่อหยางมาที่บ้านของเธอ

รีบวิ่งไปที่ประตูและเปิดประตูทันที เย่จื่อหยางกําลังมองเธอด้วยสีหน้ามืดครึ้ม จู่ ๆ ซ่งเสี่ยวเชียนก็ขาดความมั่นใจเล็กน้อย มองเขาไม่รู้จะพูดอะไร ต่อมาในหัวก็คิดอย่างรวดเร็วว่า จะกลัวเขาทําไม นี่เป็นบ้านของเธอเ เขาจะทําอะไรได้

  !!

บ้านแม่และบ้านสามีอยู่คนละเมือง มันมีประโยชน์มากนะ อย่างเช่นตอนนี้ หนีออกจากบ้านแล้ว ไม่ต้องวิ่งไปพักที่โรงแรม เธอสามารถกลับมาพักบ้านที่แสนจะอบอุ่น กินอาหารที่พ่อแม่ทํา นอนบนที่นอนเล็ก ๆ ที่เธอแสนจะคุ้นเคย

ลองคิดดูสิ ซ่งเสี่ยวเชียนแทบรอไม่ไหวแล้ว เธอควรกลับไปบ้านของเธอตั้งนานแล้ว ต้องมาทนทุกข์ทรมานที่บ้านหลังนั้น และต้องทนรับความอารมณ์โกรธเหมือนพายุโหมกระหน่ำทุกวัน ที่สําคัญที่สุด ผลของความทุกข์นี้ ไม่มีค่าอะไรเลย เธอเหมือนตัวคนเดียว

มีสิทธิ์อะไร ซ่งเสี่ยวเชียนโกรธจัดและขึ้นรถบัสด้วยสภาพร่างกายที่ไม่พอใจ เมื่อลงจากรถบัสที่ป้ายหน้าชุมชนและเพิ่งเดินเข้าไปในชุมชน จะมีจัตุรัสเล็กๆและเหล่าป้าๆจะพากันเต้นรำกันยามเย็น ก็ไม่รู้ว่าพวกป้าตาดีหรือยังไง

พอซ่งเสี่ยวเชียนปรากฏตัว ก็มีคนสังเกตเห็นเธอแล้ว พอเห็นเธอก็วิ่งเข้ามา จับมือเธอแล้วไม่ปล่อย "โอ้ หนูใช่เพื่อนสาวของตระกูลซ่งที่อยู่บนชั้นหกไม่ใช่หรอหนูไม่ใช่แต่งงานเข้าตระกูลเย่แล้วหรอ ทำไมตอนนี้กลับมาบ้านล่ะแล้วสามีของหนูล่ะ ไม่ได้มากับหนูเหรอ"

ซ่งเสี่ยวเชียนอ้ำอึ้งมาสักพัก ไม่รู้จะตอบยังไง แม้ว่าป้าในชุมชนนี้จะคุ้นเคยกับแม่ แต่เธอไม่คุ้นเคยนิ ตอนนี้ฝูงผึ้งล้อมรอบเธอและถามคําถามที่น่าอึดอัดใจแบบนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

"ทําไมไม่พูดล่ะ อายหรอ ไม่ต้องอาย พวกเราอายุขนาดนี้ พูดกับป้าๆ ไม่เป็นไรหรอก" พวกป้ากระตือรือร้นมาก ซ่งเสี่ยวเชียนแทบจะรับมือไม่ไหว

"เอ่ออ... คุณป้า ๆ พวกคุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง" เธอคิดในใจว่า เรื่องนี้เธอไม่ได้บอกใคร ป้าเหล่านี้รู้ได้ยังไง

"แม่ของหนูพูด พูดกับพวกเราทุกวันว่า ลูกสาวของเธอแต่งงานกับเศรษฐีคนหนึ่ง และดีกับลูกสาวของเธอมาก พวกเราอยากเจอสามีหนูมานานแล้ว สามีของหนูไม่ได้กลับมาด้วยกันหรอ

นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย ซ่งเสี่ยวเชียนใบหน้าซีดเป็นระยะ ๆ กลับบ้านต้องสั่งสอนแม่ของเธอซะแล้ว

"คุณป้าๆ วันนี้หนูมีธุระด่วนจึงกลับบ้าน ไว้คราวหน้านะคะ ถ้าว่างหนูจะคุยกับพวกป้าเยอะๆนะ"

พวกป้าๆมีวิธีสะกดรอยคนอื่นได้ดี และวิธีจัดการกับคนสะกดรอยตาม นั้นก็คือวิ่งหนีซ่งเสี่ยวเชียนยังพูดไม่จบ ก็ตรงไปช่องว่างออกแรงมุด แรงเท้าของพวกป้าๆหรือจะสู้คนหนุ่มสาวได้ แล้วซ่งเสี่ยวเชียนก็วิ่งออกไปหลายเมตรโบกมือให้พวกป้าๆ แล้วหนีเข้าไปในอาคารอย่างรวดเร็ว

พ่อซ่งและแม่ซ่ง เมื่อเห็นลูกสาวตัวเองกลับบ้าน ก็รู้สึกประหลาดใจมาก ก็นของซ่งเสี่ยวเชียนยังไม่แตะถึงเก็าอี้ ก็พูดเสียงพึมพํา

"แกกลับมาได้ยังไง แกอยู่ตระกลูทําอะไรผิดถูกไล่ออก หรือทะเลาะกับคุณเย่ เป็นเรื่องปกติที่คู่รักสองคนจะทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แกรีบกลับไปขอโทษเขา แล้วทําอาหารดีๆ ให้เขา ไม่แน่เขาอาจให้อภัยแกแล้ว ไป รีบไป ครอบครัวที่ดีขนาดนั้น แกอยากจะสูญเสียไปหรอ "

แม่ซ่งจับมือซ่งเสี่ยวเชียน อยากลากเธอออกไปนอกบ้าน แต่ซ่งเสี่ยวเชียนรีบสะบัดออก "แม่ แม่ไม่คิดถึงลูกสาวของแม่บ้างหรอแม่ทำแบบนี้ได้ยังไง หนูเป็นลูกแท้ ๆ หรือเปล่า

ทําไมหนูทะเลาะกับเขามันถึงเป็นความผิดหนู เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความผิดของเขา ฉันจะไม่กลับไปแล้ว ฉันหย่ากับเขา!"

พอพ่อซ่งได้ยินว่าจะหย่า ก็รีบตบโต๊ะ "แกเพิ่งแต่งงานได้ไม่กี่เดือน จะมาพุดอะไรเรื่องหย่าแกอย่ามาทำตัวไร้เหตุผลตั้งใจใช้ชีวิตของแกไป มีคนอยากได้แก ฉันกับแม่ของแกก็ขอบคุณพระเจ้าขอบคุณพระเยซูแล้ว แกอย่าให้ใจที่พวกเราเพิ่งปล่อยวางได้กับมาทุกข์ใจอีก ฉันกับแม่แกใกล้จะลงโลงแล้ว ยังจะให้พวกเราเป็นห่วงอีกหรอ"

ซ่งเสี่ยวเชียนตกใจกับเสียงตบโต๊ะ แต่ในใจก็ยิ่งน้อยใจมากขึ้น ก็ไม่รู้ว่าเย่จื่อหยางใช้คาถาอะไรให้พ่อแม่ของเธอ ทำไมทุกคนถึงเข้าข้างเขาขนาดนี้!

"ไม่พูดพวกคุณแล้ว ไม่กลับก็คือไม่กลับ" ซ่งเสี่ยวเชียนก็ไม่อยากอธิบายอะไรอีก เรื่องของเธอกับเย่จื่อหยาง ไม่สามารถบอกพ่อแม่ของเธอได้ ไม่อยากนั้นจะกระทบกระเทือนใจของพ่อแม่เธอมากกว่านี้

เธอรีบวิ่งตรงเข้าไปในห้องนอนเล็ก ๆของตัวเอง ปิดประตูและล็อคอย่างแน่นหนา ซ่อนตัวไม่ออกมา ปล่อยพ่อกับแม่อยู่ข้างนอกตบประตู บอกให้เธอรีบออกมา ความขัดแย้งระหว่างคู่รักก็ไม่สามารถแก็ไขสงครามเย็นได้ มีเรื่องอะไรที่พ่อแม่จะคอยให้คำปรึกษา แต่ก่อนอื่นเธอก็ต้องออกมาก่อน

        ซ่งเสี่ยวเชียนพูดอะไรไม่ออกและตะโกนว่า "ไม่ออกไป! ให้ตายก็ไม่ออกไป!"

ตอนนี้เกือบจะทําให้ความดันโลหิตของพ่อซ่งสูงขึ้นและหลอดเลือดระเบิด แม่ซ่งรีบประคองเขาไปพักผ่อน ผ่านไปสักพัก พ่อซ่งจึงดีขึ้นเล็กน้อย ปากก็พูดว่า "ลูกสาวคนนี้เลี้ยงมาเสียเปล่า ไม่รู้จักเจตนาของพ่อแม่เลย"

ซ่งเสี่ยวเชียนไม่ออกไปข้างนอก ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน พ่อซ่งก็ไม่รู้จะทํายังไงแล้ว เวลาผ่านไปสามทุ่ม จะสี่ทุ่มแล้ว ซ่งเสี่ยวเชียนกําลังเตรียมตัวจะเข้านอน พวกเขาก็ไม่โวยวายแล้ว นอนที่บ้านคืนหนึ่งแล้วกัน แต่วันรุ่งขึ้นยังไงก็ต้องกลับบ้านของเย่จื่อหยาง

แต่สักพักหนึ่งแม่ซ่งก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา "ตาแก่ ก่อนหน้านี้เย่จื่อหยางทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เราหรือเปล่า โน้ตไปไหนแล้ว หมายเลขโทรศัพท์มือถือของลูกเขยจะหายไปได้ยังไง"

พ่อซ่งก็นึกได้เช่นกัน ครั้งที่แล้วเย่จื่อหยางมาที่บ้านของพวกเขา เขาให้เบอร์โทรศัพท์ไว้จึงจากไป กระดาษนั้นเขาเก็บไว้อย่างดี วางไว้ในสมุดโทรศัพท์ รีบไปพลิกดู พบแล้ว พ่อซ่งมองหน้าแล้วฮึ่มมีวิธีจัดการกับลูกสาวตัวดีแล้ว

ซ่งเสี่ยวเชียนยังไม่ได้กินข้าวเย็น อยู่ในห้องนอนเล็ก ๆ ของเธอคนเดียวจนถึงสีทุ่มกว่า ท้องของเธอเริ่มหิวจนเจ็บขึ้นมา นอนอยู่บนเตียงและมองไปที่เพดาน ทันใดนั้นห้องก็ดูเล็กลงทันที เธอยังไม่ต้องปรับตัวเล็กน้อย แต่จะว่าอย่างไรก็เป็นห้องที่เธอพักตั้งแต่พักเด็กจนโต แม้ว่าจะไม่ค่อยพอดี แต่ก็ยังให้ความรู้สึกใกล้ชิดมาก

ดูเวลาบนโทรศัพท์ เกือบ ห้าทุ่มแล้ว พ่อแม่ของเธอก็น่าจะนอนแล้วใช่ไหม ออกไปข้างนอกตอนนี้ไหม ไปดูในครัวว่ามีอะไรให้กินหรือเปล่า

เอามือสัมผัสท้องที่เหี่ยวเฉา ถ้ายังหิวขนาดนี้ต่อไป คืนนี้นอนไม่หลับแน่ เธอลุกขึ้นนั่งและกําลังจะลุกจากเตียง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ซ่งเสี่ยวเชียนถอนหายใจ ทําไมพวกเขาถึงยังไม่นอนล่ะ ยังไม่ยอมแพ้หรอ

"อะไรอีก!" เธอพูดอย่างรำคาญ

"ซ่งเสี่ยวเชียน เปิดประตู!"

พอได้ยินเสียงนี้ ซ่งเสี่ยวเชียนก็ตกใจเล็กน้อย นี่คือเสียงของเย่จื่อหยางนิ ทำไมบ้านเธอถึงมีเสียงของเยจื่อหยาง? หรือว่ามีหูแว่ว

"รีบเปิดประตู!" ตึงตัง ๆ ๆ เคาะอีกสามเสียงเพื่อเพิ่มความพยายามอย่างเห็นได้ชัด ซ่งเสี่ยวเชียนยังคงสงสัยว่าทําไมบ้านของเธอถึงมีเสียงเย่จื่อหยาง ต่อมาก็ได้ยินเสียงคํารามนั้น สติสัมปชัญญะของซ่งเสี่ยวเชียนก็ตื่นขึ้นทันทีและเย่จื่อหยางมาที่บ้านของเธอ

รีบวิ่งไปที่ประตูและเปิดประตูทันที เย่จื่อหยางกําลังมองเธอด้วยสีหน้ามืดครึ้ม จู่ ๆ ซ่งเสี่ยวเชียนก็ขาดความมั่นใจเล็กน้อย มองเขาไม่รู้จะพูดอะไร ต่อมาในหัวก็คิดอย่างรวดเร็วว่า จะกลัวเขาทําไม นี่เป็นบ้านของเธอเ เขาจะทําอะไรได้

  !!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 52: ก็ชอบแล้วช่วยไม่ได้

      เงยคางขึ้นแล้วพูดว่า "คุณมาที่นี่ได้ยังไง"  เย่จื่อหยางมองไปที่พ่อซ่งและแม่ซ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา จากนั้นเดินเข้าไปในห้องเล็ก ๆ ของซ่งเสี่ยวเชียนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และปิดประตู พอเย่จื่อหยางเข้ามา ห้องเล็ก ๆ นี้ก็ดูเหมือนห้องจะเล็กกว่าเดิม สาเหตุอาจเป็นเพราะเย่จื่อหยางสูงเกินไป"เธออยากทําให้เรื่องของเราเป็นเรื่องใหญ่ จนแม้แต่พ่อแม่เธอก็รู้เหรอ ตอนนี้พ่อแม่ของเธอดีใจมากที่เธอแต่งงานกับฉัน เธออยากให้พวกเขารู้ความจริง แล้วโกรธพวกเราจนตายหรอ”"เหอะ! ฉันเห็นว่าคุณกําลังคิดเพื่อตัวคุณเองมั้ง ให้พ่อแม่ของฉันรู้ว่าจุดประสงค์ของการแต่งงานของคุณไม่บริสุทธิ์ พ่อแม่ของฉันจะคิดว่าคุณเป็นคนหลอกหลวงและเกลียดคุณ คุณไม่อยากให้พ่อแม่ของฉันรู้ คุณแค่อยากรักษาภาพลักษณ์ของผู้ชายที่ดีที่จอมปลอมของคุณใช่ไหมซ่งเสี่ยวเชียนพูดอย่างโมโห เย่จื่อหยางไม่ตีผู้หญิง ถ้าเขาอดทนหรือทำอะไรไม่ถูกจริงๆ หรือเป็นไอ้สารเลวสักหน่อย เขาก็คงจะชกสักหมัดแต่เขาไม่ใช่ เขาเป็นสุภาพบุรุษ"รีบตามฉันกลับบ้าน ทะเลาะกันแบบนี้ เธอมีความสุขมากหรอ เดิมทีเธอก็ไร้เหตุผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • ของรักท่านนายพล   ตอนนที่ 53: คู่สร้างคู่สมอะไร

    ตอนนี้แค่คิดในใจว่า ถ้าเย่จื่อหยางแยกจากเธอ และฉีกกระดาษแผ่นนั้นระหว่างพวกเขา ในใจเธอต้องรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากถึงแม้จะไม่เจ็บปวดจนถึงสุดขั้วหัวใจ แต่ในใจก็ยังรู้สึกไม่ดี ก็คิดในใจว่าอย่าปล่อยมือ ไม่อนุญาตให้เขาจากไปซ่งเสี่ยวเชียนขยี้ผมตัวเองและกลายเป็นเล้าไก่ไปแล้ว เฮ้อ นั่นไม่ใช่ประโยคที่ว่า ใครชอบก่อนคนนั้นก็แพ้ ซ่งเสี่ยวเชียนไม่อยากแพ้หรอก เธอต้องชนะสิ เธอจะจับเย่จื่อหยางไว้ในมือให้แน่น อย่าให้เขาหนีไปได้"กินก๋วยเตี๋ยว!"  ในขณะที่ซ่งเสี่ยวเชียนกําลังคิดฟุ้งซ่านอยู่ในสมอง เสียงของเย่จื่อหยางก็ดังขึ้นและมีน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อยบอกให้เธอกินมากินข้าว ทันทีที่ซ่งเสี่ยวเชียนหันไปก็เห็นเขาวางชามเล็ก ๆ ไว้บนโต๊ะ ดวงตาของเขามองไปที่เธอแล้วมองไปที่ชามก๋วยเตี๋ยวนั้นหมายความว่า ลุกขึ้นมากินก๋วยเตี๋ยวซ่งเสี่ยวเชียนจิบปาก ไม่รู้จักเรียกเธอกินข้าวอย่างอ่อนโยนหรือไง  เธอลุกขึ้นนั่งแล้วเดินไปที่โต๊ะเล็ก ๆ นั้น เย่จื่อหยางปิดประตูและนั่งข้างเตียงของเธอ เฮ้ ห้องนี้เล็กมาก แม้แต่ม้านั่งส่วนเกินก็ไม่มี เย่จื่อหยางนั่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 54: เตียงพัง

    จากนั้น ในใจเขาก็มีแรงกระตุ้นอยากจะไปกอดเธอ เขารู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องอดทนแล้ว อยากกอดก็กอดสิ ลุกขึ้น นอนอยู่ข้างซ่งเสี่ยวเชียนทันทีเตียงเก่าส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด แต่เหมือนจะฝืนรั้งไว้  ซ่งเสี่ยวเชียนตกใจจนทําให้วิญญาณเกือบจะออกจากร่าง ผลักเขาออก ผู้ชายคนนี้จู่ๆก็นอนอยู่ที่นี่ทำไม"คุณ คุณทําอะไร!"เย่จื่อหยางยกแขนยาวและโอบกอดไหล่ของเธอแล้วลากเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ซ่งเสี่ยวเชียนต่อต้านก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ได้แต่อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเชื่อฟัง จริง ๆ แล้วการถูกเขากอดไว้แบบนี้ก็ไม่แย่ เต็มไปด้วยกลิ่นของเย่จื่อหยาง กลิ่นที่พิเศษนั้น ทําให้เธอไม่รังเกลียด ทําให้เธอเบิกบานใจช่างเถอะ ให้เขากอดไปเถอะ แค่กอดนั้นเอง ก็ไม่ได้เสียเปรียบอะไร ก็ไม่อยากไปถามเขาว่าจะมากอดเธอทำไมด้วย ยังไงในหัวของผู้ชายก็ไม่เคยแสร้งอะไรที่บริสุทธิ์อยู่แล้วแต่ถ้าเขาได้คืบจะเอาศอก ก็เตะออกจากเตียงเย่จื่อหยางกอดเธอ และรู้สึกว่าพอใจแล้ว คืนก่อนถูกซ่งเสี่ยวเชียนกอดระหว่างนอนหลับ ทําให้เขาปรับตัวให้เข้ากับการนอนที่มีคนอื่นในตอนกลางคืน ตอนนี้รู้สึกว่าตอนกลางค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 55: การยั่วยุ

       แต่รําคาญก็ส่วนรำคาญ พวกเขาคุยกันได้ขนาดนี้หรอเลย ทําให้ซ่งเสี่ยวเชียนแน่ใจมากขึ้นเรื่องหนึ่ง ตอนนี้เย่จื่อหยางเป็นคนของเธอ ไม่ว่าจะพูดถึงเย่จื่อหยางยังไง จากปากของพวกเขา นั้นคือสามีของซ่งเสี่ยวเชียน ในใจก็รู้สึกชนะแบบใครไม่สามารถเปรียบได้  คำพูดนั้นว่ายังไงนะ? ผู้หญิงมีความเป็นเจ้าของไม่น้อยไปกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะตอนนี้ที่ซ่งเสี่ยวเชียนหลงรักเย่จื่อหยางแล้วซ่งเสี่ยวเชียนฝึกงานในโรงพยาบาลมาสองเกือบสามเดือนแล้วและสามารถสังเกตการผ่าตัดได้แล้ว ในตอนเช้า ผู้อำนวยการเฉินได้จัดการผ่าตัดให้ซ่งเสี่ยวเชียนตรวจดู ผู้ป่วยมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายและเป็นเพียงการผ่าตัดบายพาสหัวใจแบบธรรมดาถึงแม้จะมีความเสี่ยงแต่ขอเพียงเป็นศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ อัตราความสำเร็จจะอยู่ที่ 100%  ครึ่งหนึ่งของโรงพยาบาลของรัฐแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนทางทหาร ศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์หลายคนจบการศึกษาจากแพทย์ทหารและโดยพื้นฐานแล้วก็เป็นทหาร ซ่งเสี่ยวเชียนบางครั้งก็รู้สึกว่าไม่เข้ากันและปรับตัวไม่ค่อยได้แต่เมื่อได้รู้จักกับแพทย์ทหารเหล่านี้ ยังไม่มีใค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 56: ติดกับดัก

     พูดผิดหรือเปล่า? เธอพูดอย่างกับตัวเองเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่ง ซ่งเสี่ยวเชียนเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่เฉินเฉิน “ตอนนี้ ฉันไม่เห็นหน้าเธอ”เฉินเฉินไม่เชื่อคําพูดที่ตัวเองเพิ่งได้ยินเล็กน้อย ยังไม่มีใครพูดแบบนี้กับเธอด้วยปากแบบนั้นเลย "เธอหมายความว่ายังไง ฉันใจดีประคองเธอออกมา เธอไม่พูดขอบคุณก็ช่างเถอะ ยังพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีก!"ซ่งเสี่ยวเชียนลุกขึ้น ยืนประจันหน้ากับเฉินเฉิน "คําพูดเหล่านั้นเมื่อกี้จงใจพูดให้ฉันฟังใช่ไหม จริง ๆ แล้วฉันไม่สนใจว่าเธอกับเย่จื่อหยางจะเคยจูบกันมาก่อนไหม ไม่สนใจเลยว่านั่นเป็นจูบแรกของพวกคุณหรือเปล่า ตอนนี้ฉันแค่อยากให้เธอหายออกไปจากหน้าฉัน รู้สึกไม่พอใจเหรอ เธอตีฉันสิ!"   เฉินเฉินก็ถูกประโยคของซ่งเสี่ยวเชียนกระตุ้น ยกมือขึ้นก็พร้อมที่จะตบ แต่ซ่งเสี่ยวเชียนตอบสนองได้เร็วกว่าเธอ มือของเฉินเฉินยังไม่ได้ตีลงมา ซ่งเสี่ยวเชียนก็แกว่งมือเธอไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันก็ใช้ปากยั่วยุนั้นมองหน้าเธอตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่ซ่งเสี่ยวเชียนคิดว่ายังไงเธอก็เป็นคนมีการศึกษา ไม่ควรใช้กำลังแก็ปัญหา ไม่อย่างนั้น ฝ่ามือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-24
  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 57: ฉันโง่!

    ซ่งเสี่ยวเชียนพูดอย่างไม่ยอมแพ้ว่า "คณบดี คุณต้องจัดการอย่างเป็นกลาง ฉันตีเธอใช่ฉันผิด ฉันหุนหันพลันแล่น ฉันยอมรับผิดแล้ว ก็ควรผ่อนปรนไม่ใช่เหรอ"  เฉียนอ้ายเลอเดินเข้ามาพอดี เธอถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงพอสมควร โรงพยาบาลต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเชิญเธอมา แม้ว่าตอนนี้งานบรรยายและคําแนะนําการผ่าตัดจะยุ่งมาก แต่ก็ยกเฉียนอ้ายเลอเป็นผู้มีพระคุณของโรงพยาบาล" โอ้ว ศาสตราจารย์เฉียน คุณมาได้ยังไง มีปัญหาเรื่องงานหรอ" คณบดีรีบทักทายเฉียนอ้ายเลอ"คณบดี คุณอายุมากกว่าฉัน อย่าเรียกฉันศาสตราจารย์อะไรเลยค่ะ แบบนี้ฉันรับไม่ไหว” วันนี้ฉันได้ยินเรื่องที่ซ่งเสี่ยวเชียนลงไม้ลงมือกับคนอื่น เลยตั้งใจจะมาดูว่าคุณจะจัดการยังไง ฉันเพิ่งได้ยินที่หน้าประตูเหมือนกัน ซ่งเสี่ยวเชียนยอมขอโทษ ทําไมต้องยืนกรานที่จะไล่เธอออกด้วย"คําพูดของเฉียนอ้ายเลอนั้นถูกต้องสําหรับคนนอกมอง เธอมองไปที่เฉินเฉินที่อยู่ข้าง ๆ ใช้สายตากวาดมองอย่างละเอียด แล้วเธอจึงเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ ซ่งเสี่ยวเชียน แค่นี้ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตอนนี้เขาต้องออกหน้าให้ซ่งเสี่ยวเชียน"โอ้ เรื่อง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-24
  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 58: กล้าหาญไปเลย!

    เพื่อนที่อยู่รอบข้างเจียงจิ่งเฟิงมีแต่คนพูดมาก เมื่อเจอเย่จื่อหยางที่เหมือนก้อนหิน เขาก็รู้สึกน่าเบื่อมากและคีบอาหารให้ภรรยาของเขา "ที่รัก นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณก็อย่าไปยุ่งเลย ให้เขาจัดการเอง นี่คือจุดจบของความวุ่นวาย ผมน่ารักกว่า ในชีวิตนี้ผมจะรักคุณคนเดียว"พูดพลางยื่นปากเข้าไปใกล้ๆ อยากจูบเลย ถูกเฉียนอ้ายเลอตบหน้าเข้าให้ สุดท้ายก็กินข้าวอย่างเชื่อฟังวันที่สองเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นตลอดเวลาแล้ว ยังมีเสียงร้องของจั๊กจั่นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซ่งเสี่ยวเชียนไปหาอะไรกินที่ครัวเพื่อเติมท้องตอนเที่ยงคืนเมื่อคืน หลังจากนั้นก็นอนถึงสิบเอ็ดโมงเช้าถึงจะตื่นต่อมาเฉียนอ้ายเลอก็เปิดประตูเข้าไปในห้อง ตบก้นเธอและดึงผ้าม่านเปิดออกให้หมด แสงแดดส่องจนซ่งเสี่ยวเชียนจำเป็นต้องตื่นขึ้นมาทันที เธอยืนเอามือกอดออก แล้วพูดว่า “ซ่งเสี่ยวเชียน ยังไม่ตื่นอีก เธอรู้ไหมเย่จื่อหยางออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ฉันถามว่าเขาไปไหน เขาบอกว่าไปหาเฉินเฉิน”พูดจบ รอหนึ่งหรือสองวินาที บนเตียงก็เกิดการเคลื่อนไหวทันที ซ่งเสี่ยวเชียนลุกขึ้นอย่างเร็ว สภาพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-24
  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 59: สถานการณ์เป็นอย่างไร!?

    "คุณตลกจริง ๆ ตามผมมาเถอะ คุณชายเย่รอคุณนานแล้ว" พูดจบ พนักงานก็รีบเดินไปที่ล็อบบี้ ซ่งเสี่ยวเชียนรีบตามไป รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ "คุณชายเย่ เย่จื่อหยางใช่ไหม?" ซ่งเสี่ยวเชียนทวนคำพูดอีกครั้ง และมีเพียงเย่จื่อหยางเท่านั้นที่คนอื่นเรียกว่าคุณชายเย่ แต่เธอถามอีกประโยค แค่ต้องการยืนยันอีกครั้ง  ถ้ารอไม่ถามอะไรเลยรีบตามเข้าไป เข้าไปแล้วพบว่าคนข้างในไม่ใช่เย่จื่อหยาง เหอะๆ เล่นใหญ่กันจริงๆนะ"ใช่" ผู้จัดการพาซ่งเสี่ยวเชียนเข้าไปในลิฟต์และมาถึงชั้นห้า ด้านในเต็มไปด้วยห้องส่วนตัวVIP ในที่สุดเมื่อเลี้ยวตรงมุมก็มาถึงหน้าห้องส่วนตัว ผู้จัดการทําท่าทางเชิญเข้ามาแล้วเปิดประตูให้ซ่งเสี่ยวเชียนเย่จื่อหยางอยู่ข้างในจริง ๆ แต่นอกจากเขาแล้วยังมีคนอื่น ๆ ทุกคนมองซ่งเสี่ยวเชียนด้วยใบหน้าที่จริงจังมองทีละคน และเธอไม่เคยถูกจับตามองแบบนี้มาก่อน ร่างกายของเธอแข็งทื่อและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แต่เย่จื่อหยางยิ้มให้เธอเล็กน้อยและกวักมือให้เธอเข้ามาซ่งเสี่ยวเชียนรู้สึกอายมากจนเธออยากจะหันหลังกลับและจากไปจริง ๆ เธอบอกว่าจะมาจับคนทรยศนิแล้วทำไมห้องนี้ถึงเต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-24

บทล่าสุด

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 82: ไอ้คนโรคจิต!

    เย่จื่อหยางก็เอากล่องที่บรรจุยาบํารุงที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรมาคืนให้ซ่งเสี่ยวเชียน "ไม่จําเป็น"  "ทําไมถึงไม่จําเป็นล่ะ คุณจะกลับบ้านมือเปล่าแบบนี้ไม่ได้" ซ่งเสี่ยวเชียนมองเขาอย่างเงียบ ๆ"ฉันบอกว่าไม่จําเป็นต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจกับเรื่องนี้ เขามองปราดเดียวก็มองออก" เย่จื่อหยางเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีก ทําท่าทางเหมือนเธอให้ฉันทําอะไรฉันก็ไม่ทํา ซ่งเสี่ยวเชียนตะโกนว่า "คุณอยากคืนดีกับคุณพ่อของคุณหรือเปล่า ถ้าคิด คุณก็ต้องลงมือทํา อย่าเอาแต่พูดเฉย ๆ ไม่ได้นะ" จิ้มหน้าอกของเย่จื่อหยาง "คุณเป็นทหาร แน่นอนว่าต้องรู้ว่าการกระทําเป็นพื้นฐานของการทําภารกิจทั้งหมดให้สําเร็จ"เย่จื่อหยางก็มหน้ามองเธอและคิดในใจว่าเขาจะคืนดีกับพ่อของเขาหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?ดูเหมือนเธอจะซีเรียสกว่าเขาอีกเขาถอนหายใจ ซ่งเสี่ยวเชียนพูดถึงขนาดนี้แล้ว เขาคงอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ใช่ไหม ยิ่งไปกว่านั้นการได้คืนดีกับคุณพ่อก็เป็นการแก็ปัญหาที่เขากังวลมานานได้จริง ๆ เขาเงยหน้าขึ้นและลูบหัวของซ่งเสี่ยวเชียน "ทํา เพียงแต่ว

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 81: เลือกเสื้อผ้าให้ดูนิสัย

    เธอกอดหมอนและยิ้มอย่างพอใจ เธอสาบานว่าเธอไม่เคยเจอใครที่เก่งขนาดนี้มาก่อน สามารถปกป้องเธอและขจัดวิกฤตให้เธอได้ทันทีในเวลาฉุกเฉิน ราวกับว่าจู่ๆ กำแพงทึบก็ปรากฏขึ้นในชีวิตของเธอ จะปกป้องเธอตลอดเวลาต่อจากนี้ไป ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยซ่งเสี่ยวเชียนเชื่อ ในอนาคต ตราบใดที่มีเย่จื่อหยางอยู่ข้าง ๆ เธอก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เมื่อฟ้าถล่มยังมีเขาคอยอยู่ข้างๆไม่ใช่หรอเย่จื่อหยางเขียนรายงานเสร็จก็ปิดคอมพิวเตอร์และเดินออกจากห้องหนังสือ ห้องนั่งเล่นมืดสนิท มีเพียงไฟสีเหลืองเข้มดวงเดียวที่เปิดอยู่ ฝาหลังของรีโมทกระจัดกระจายอยู่บนพื้นพร้อมถ่าน เขาหยิบขึ้นมาและวางไว้ มองไปที่ซ่งเสี่ยวเชียนที่นอนอยู่บนโซฟาลืมตาก็ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่   เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง "มีเรื่องอะไรหรอ ทําไมดูมีความสุขขนาดนี้""ไม่มีนิ ฉันก็แค่ดีใจ" ซ่งเสี่ยวเชียนลุกขึ้นยืนต่อหน้าเย่จื่อหยางยิ้มให้เขา แล้วทันใดนั้นก็กระพริบตาให้เขา มุมปากของเขามีรอยยิ้มที่ทําให้เย่จื่อหยางเดาไม่ออก กําลังจะถามว่าทําไมถึงยิ้ม  ทันใดนั้นซ่งเสี่ยวเชียนก็เอื้อมมืออ้อมไปข้างหลังเย่

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 80: ขอบคุณ

    คิดถึงเด็กคนหนึ่งที่อายุ 15-16 ปี เร่ร่อนอยู่กับพวกเขามา 4-5 ปี เพื่อขอทานทุกที่ และเงินที่ขอมามอบให้กับหัวหน้าแก๊งนั้น รับรองว่าทุกคนจะได้กินอาหารไม่อั้นสิ่งที่ทําให้ซ่งเสี่ยวเชียนเจ็บปวดมากกว่าเดิมคือเด็กคนที่ตาบอดทั้งสองข้าง เขาไม่ได้ตาบอดมาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อเขาอายุเจ็ดขวบ เขาถูกจับโดยคนของแก๊งและจากพ่อแม่ไปตั้งแต่นั้นมา คนเหล่านั้นล้างสมองเขาเพื่อให้เขาได้รับเงินมากขึ้น ทําให้เขาคิดว่าการช่วยพวกเขาขอเงินมากขึ้นเป็นเรื่องที่ดีคนเหล่านั้นใช้เหล็กแทงเข้าไปในดวงตาของเด็กน้อย ตั้งแต่นั้นมาเขาก็มองไม่เห็นและคนเหล่านั้นสอนเขาวิธีการแยกแยะขนาดของธนบัตรด้วยมือของเขาและติดตามพวกเขามานานหลายปี และความสามารถในการแยกแยะเงินด้วยมือของเขานั้นมีความชำนาญมากและไม่เคยพลาดเลยซ่งเสี่ยวเชียนก็คิดว่าตอนนั้นเธอให้เด็กคนนั้นไปหนึ่งร้อยหยวน เขาก็สัมผัสไปหลายครั้ง ปากก็ยิ้ม แล้วบอกว่าวันนี้เขาเลิกงานได้แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าของเขามั่นใจมาก ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะถูกล้างสมองโดยคนเหล่านั้นจริง ๆ และจะไม่อดตายเพราะตาบอดสองข้าง ดูเหมือนว่าเขาจะมองว่าเป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายเดียว

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 79: หัวโน

    ซ่งเสี่ยวเชียนไม่ทําอะไรเลย เย่จื่อหยางต้องไปทำกับข้าวด้วยตัวเอง ครั้งนี้เป็นอาหารมังสวิรัติจริง ๆ มังสวิรัติมากกว่าพระกินอีก แม้แต่ผัดกะหล่ำปลีจีนก็ใช้น้ำมันเรพซีด ไม่เปื้อนน้ำมันหมูสักนิดซ่งเสี่ยวเชียนมองอาหารมังสวิรัติที่โต๊ะแล้วพูดไม่ออก ความอยากอาหารเปลี่ยนเป็นระดับต่ำ แต่เย่จื่อหยางกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย แต่ระหว่างที่เย่จื่อหยางกินข้าว เขาขยี้เหนือศีรษะเป็นครั้งคราว ซ่งเสี่ยวเชียนมองเขาอย่างสงสัยในที่สุดหลังจากกินข้าวเสร็จ ขณะที่เขากําลังล้างจาน เธอรีบไปเอามือไปสัมผัสหัวเขา ไม่ลูบก็ไม่รู้พอลูบก็ตกใจโดยไม่รู้ตัว บนหัวของเย่จื่อหยางบวมโนขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้โนใหญ่มากแต่ก็พองเล็กน้อยซ่งเสี่ยวเชียนนึกถึงก่อนหน้านี้เธอโยนเจลอาบน้ำใส่หัวเย่จื่อหยางอย่างแรง ที่แท้หัวปูดโนขนาดนี้เขากลับไม่พูดอะไรโอเค ซ่งเสี่ยวเชียนเป็นคนจิตใจดี ตอนนี้เมื่อได้เห็นสิ่งนี้แล้ว ในใจของเธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา คิดว่าเธอใจร้ายไปหน่อยจริง ๆ บางทีเย่จื่อหยางอาจไม่ได้ตั้งใจบุกเข้ามาแอบดูเธอจริง ๆก็ได้ และใครแอบดูคนอื่นแถมจงใจเปิดประตูอีกพอในใจรู้สึกผิดเธอก็อยากชดเชยไง ดึ

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 76: ทำได้แต่ช่วยเหลือ

    เธอดูเวลาในโทรศัพท์ของเธอ นาทีและวินาทีผ่านไป และห้านาทีผ่านไป เย่จื่อหยางก็ยังไม่ออกมา มีบางอย่างเกิดขึ้นเหรอ? ไม่มีทาง? เขาไม่ใช่เก่งมากหรอ? ไม่ใช่ว่าออกโลงแล้วล้มเหลวเลยนะ?เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นในอาคารที่อยู่ไม่ไกล จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายหยาบคายดังมาจากข้างหลังเธอ “เธอเป็นใคร!? มาทำตัวลับๆล่อๆก็ที่นี่ทำอะไร”ถูกจับได้แล้ว! นี่เป็นความคิดแรกที่เข้ามาหัวของซ่งเสี่ยวเชียนในเวลานั้น จู่ๆ เธอหันกลับมาและเห็นร่างผู้ชายที่มืดๆดำๆ ยืนอยู่ข้างหลังเธอไม่ไกลนัก เขามองดูเธอและทำท่าป้องกันตัว สายตาของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย"ฉ ฉัน...ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย! ฉันหลงทาง..." ซ่งเสี่ยวเชียนมองไปรอบ ๆ และชี้นิ้วไปรอบ ๆ ชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้าสองก้าวดูเหมือนจะสงสัย "มากับฉัน!"เมื่อพูดเช่นนั้น ชายคนนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและจับมือของซ่งเสี่ยวเชียน ปฏิกิริยาตัวสั่นของซ่งเสี่ยวเชียนอยู่ในระดับสูงสุดและเธอก็หลบมือของชายคนนั้นทันที เธอจะปล่อยให้เขาจับเธอได้อย่างไร? นั่นเรียกว่ายอมจำนนฟ้านะ  ซ่งเสี่ยวเชียนกระโดด

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 75: คุณติดหนี้ฉัน100หยวน

    เย่จื่อหยางสังเกตมันอย่างละเอียด ดังนั้นจึงไม่มีข้อผิดพลาด เด็กน้อยเล่นซอได้อย่างชำนาญมาก เหมือนว่าเขาเริ่มเรียนรู้มันตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก"น่าสงสารจัง..." ซ่งเสี่ยวเชียนมองเด็กตาบอดคนนั้นซึ่งอายุน่าจะเพียงสิบสามหรือสิบสี่ปีเท่านั้น แต่ไม่สามารถมองเห็นโลกที่สวยงามใบนี้ แม้ว่าตอนนี้โลกจะปกคลุมไปด้วยหมอกควัน แต่ในบางครั้งก็มีท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและเมฆเป็นสีขาวสำหรับเด็ก นี่เป็นสิ่งที่โหดร้ายมาก เดิมทีซ่งเสี่ยวเชียนเป็นคนที่มีจิตใจดีอยู่แล้ว เธออดไม่ได้ที่จะหยิบกระเป๋าสตางค์ของเย่จื่อหยางออกมา หยิบแบงค์ร้อยหยวนออกมาแล้วยื่นให้เด็กน้อย "เด็กน้อย เอาเงินไปซื้อของอร่อยๆที่อยากกินนะ อย่าอดไว้”เด็กหยุดเล่นซอ รีบหยิบธนบัตรจากมือของซ่งเสี่ยวเชียน วางไว้ใต้จมูกแล้วดมกลิ่น จากนั้นใช้มือแตะอย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็ยิ้ม “ขอบคุณผู้มีน้ำใจ วันนี้งานของผมเสร็จแล้ว ผมสามารถกลับก่อนได้”เมื่อพูดจบ ก็รีบเก็บสิ่งด้วยความไว หยิบไม้นำทางเดินหนีไป จากไปโดยไม่หันกลับมามองซ่งเสี่ยวเชียน

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 74: พบตำรวจ

      การซื้อผักก็เป็นงานที่ต้องใช้สายตา ตรงไหนสดใหม่ตรงไหนเน่า แต่บางครั้งผักหัวใหญ่สีเขียวขจีไม่มีร่องรอยของแมลงสักตัว บางทีอาจจะฉีดยากําจัดศัตรูพืชที่มากเกินไป ขนาดแมลงไม่ไม่กล้ากิน คุณยังกล้ากินอยู่หรอการต่อรองราคาก็เป็นความรู้อย่างหนึ่ง ขณะที่ซ่งเสี่ยวเชียนกําลังคุยราคากับเจ้าของพ่อค้าหาบเร่คนหนึ่ง จู่ ๆ ก็ถูกเด็กคนหนึ่งชน เด็กคนนั้นชนเธอแรงมาก เธอโซซัดโซเซเกือบล้ม โชคดีที่ถอยหลังไปหลายก้าวจึงไม่ล้มลงเด็กน้อยพยายามพูดขอโทษเธอ ซ่งเสี่ยวเชียนอดทนต่อความโกรธไว้คิดว่าเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง "ไม่เป็นไรจ้ะ แต่คราวหน้าอย่าวิ่งเล่นในสถานที่แบบนี้อีกมันอันตราย"   เด็กน้อยยิ้มให้เธออย่างเข้าใจ แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ซ่งเสี่ยวเชียนยังคงต่อรองราคากับพ่อค้าหาบเร่ต่อไป แต่ในเวลานี้พ่อค้าคนนั้นกลับมองเธอด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป ซ่งเสี่ยวเชียนมองเสื้อผ้าของตัวเอง มีอะไรแปลกไปหรอ"พ่อค้า มีอะไรหรอทําไมจู่ ๆ ก็มองฉันด้วยสายตาแบบนี้ กะหล่ำปลียังจะขายไหม""เอ่อ สาวน้อย ฉันก็หวังดีจึงขอเตือนคุณหน่อย คราวหน้ามาซื้อผักอย่าให้เด็ก ๆ พวกนั้นเข้าใกล้คุ

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 78: เป็นเป็นคนขี้ขลาด

    ซ่งเสี่ยวเชียนเห็นเนื้อสัตว์และตาของเธอก็เปล่งประกาย เนื้อจานหนึ่งวางอยู่ตรงหน้านักชิมคนหนึ่ง เธอไม่สนใจว่าจะมีรอยแผลเป็นหรือไม่ จึงรีบคีบเนื้อชิ้นหนึ่งกิน แล้วอุทานว่า "เย่จื่อหยาง ฝีมือคุณก็ไม่เลวนิ อร่อยมากกก ครั้งหน้าฉันจะกินอันนี้ด้วย"  "ไม่มีครั้งหน้า" เย่จื่อหยางพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วหยิบเบียร์ที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาดื่ม ดื่มเบียร์ลงทำให้เขาผ่อนคลายลงมาก และมองซ่งเสี่ยวเชียนที่มีความสุขในการกินเนื้อจึงถามว่า"วันนี้ผ่านอะไรมาเยอะแยะ เธอยังกินข้าวลงอีกหรอ"   ซ่งเสี่ยวเชียนพูดด้วยรอยยิ้ม "คุณคิดว่าฉันใจสลายแล้วหรอ ฉันไม่ได้ขี้กลัวง่าย ๆ ขนาดนั้น และแน่นนอนมีคุณอยู่ข้าง ๆฉันจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก" เธอตบไหล่ของเย่จื่อหยางและยกนิ้วโป้งให้เขา"วันนี้ทําได้ดีมาก กดไลค์"เย่จื่อหยางถูกล้อให้หัวเราะแล้ว เขาหัวเราะเสียงดังและดื่มเหล้าไปด้วย "แต่ก็ยังทําเธอได้รับบาดเจ็บนะ"ซ่งเสี่ยวเชียนคีบเนื้อชิ้นใส่ในชามของเขา "แผลเล็กน้อยแค่นี้เอง คุณโทษตัวเองแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกผิดนะ" ซ่งเสี่ยวเชียนกะพริบตาให้เขา เย่จื่อหยาง

  • ของรักท่านนายพล   ตอนที่ 73: อาย

       "คุณหมายความว่าไง?"ซ่งเสี่ยวเชียนถามเขาอย่างจริงจัง เย่จื่อหยางหุบปากไม่พูดถึงอีกแล้ว ซ่งเสี่ยวเชียนนิสัยขี้โวยวายแบบเธอ ถ้ามีคนจะลักพาตัวเธอไป คงต้องตะโกนเสียงดังออกมาแน่ ทั้งถนนคงรู้ว่าคนที่จะลักพาตัวเธอไปคือพวกค้ามนุษย์  เงียบไปสักพัก เย่จื่อหยางก็ถามว่า "ยังโกรธอยู่หรอ""ทําไมจะไม่โกรธ!? คุณคิดว่าแค่ไม่กี่คําก็สามารถปลอบฉันได้หรอต้องชดใช้" ซ่งเสี่ยวเชียนเอื้อมยื่นมือไปขอสิ่งของจากเย่จื่อหยาง เขาผลักมือออกแล้วบอกว่าไม่มี ซ่งเสี่ยวเชียนก็กระโจนเข้ามากัดเขา ครั้งนี้เย่จื่อหยางฉลาดขึ้น เขาหลบอย่างไว ทําให้ซ่งเสี่ยวเชียนกัดเพียงว่างเปล่า  แค่วินาทีเท่านั้น ซ่งเสี่ยวเชียนรู้สึกว่าเธอกับเขาเหมือนคนรักกัน การสัมผัสร่างกายเล็กๆน้อยๆก็ไม่ได้น่าอายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เธอยังกล้าที่จะกัดเขาด้วยจากนั้นเธอก็เขิลอายแล้ว ทําไมตอนนี้พวกเขาใกล้ชิดกันขนาดนี้วินาทีต่อมาเธอก็นึกถึงสิ่งที่สําคัญมาก "คุณปู่ของคุณบุกเข้ามาที่บ้านเมื่อวันก่อน"ทันใดนั้นสีหน้าของเย่จื่อหยางก็เปลี่ยนไป ถามอย่างจริงจังว่า "หมายความว่าอะไร"

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status