กองทัพ กันต์กวี / Kai Mckinson ศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลชื่อดัง หน้าตาดีราวกับลูกรักของพระเจ้า นิสัยน่ารัก อบอุ่น อ่อนโยน แต่กลับร้อนแรงดั่งไฟแผดเผายามโลดแล่นอยู่บนเตียง ภายนอกหน้าตาดูใสซื่อแต่ใครเลยจะรู้ว่าข้างในร้ายกาจดั่งเสือที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อให้แหลกคามือ ❤️❤️❤️ แรกพบเพียงสบตาก่อเกิดความรู้สึกตกหลุมรัก กลับมาพบกันอีกคราดั่งพรหมลิขิตที่ขีดเขียนทำให้เส้นทางของเรามาบรรจบ และจบลงด้วยคำว่ารัก เจ้าขา จันทร์กระจ่าง ดาราสาวชื่อดังเบอร์หนึ่งของวงการ เธอสวยและเย่อหยิ่งราวกับราชินี ภายนอกดูแรงๆแต่ข้างในกลับอ่อนโยนและอ่อนไหวราวกับสนต้องลม โดยเฉพาะลมรักที่พัดพาหัวใจของเธอให้ตกไปเป็นของเขาอย่างง่ายดาย ❤️❤️❤️ สัมผัสเดียวในวันวานดั่งสายใยที่ผูกเราเอาไว้ เมื่อพานพบกันอีกคราหัวใจก็ถูกผูกติดไว้กับเธอตลอดกาล
View Moreที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที
หลังกลับมาจากท่องเที่ยวสองแฝดที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยก็พากันนั่งเล่นของเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทำเอากองทัพที่วางแผนจะแอบแซ่บกับเมียจ๋าต้องหันไปมองลูกชายด้วยสายตาตัดพ้อ ส่วนน้องกรรฐ์กับพี่เกรย์ที่ไม่รู้เท่าทันแผนของบิดาได้แต่หันมายิ้มร่าให้กับกองทัพอย่างไร้เดียงสา“ไม่ต้องมายิ้มให้พ่อเลยนะเจ้าแฝด นี่ก็สี่ทุ่มแล้วทำไมตาใสแจ๋วแบบนี้ ง่วงบ้างไหมลูก ง่วงหน่อยนะ ง่วงสักนิดก็ยังดีลูกจ๋า ไปนอนกันดีไหมเดี๋ยวพ่อร้องเพลงกล่อมนอน”กองทัพถามลูกชายที่มองหน้าบิดาพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดากำลังพูดกับตนเอง ก่อนที่เด็กชายทั้งสองคนจะเมินพ่อและหันกลับไปนั่งเล่นของเล่นกันต่อทำเอาคุณพ่อได้แต่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ที่สองแฝดไม่ยอมง่วงนอนสักทีจันทร์กนกที่เดินลงบันไดมามองลูกเขยด้วยความเห็นใจ ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ลูกเขยน่าจะอยากใช้เวลากับลูกสาวของเธอสองต่อสองสินะ คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินลงมาหาหลานชายทั้งสองที่พากันเล่นของเล่นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย พลังเยอะเหลือเกินนะหลานยาย“ทัพไปนอนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้สองแฝดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่เองอยู่กับยายเจ้าแ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากหนึ่งวันสู่หนึ่งเดือนและหนึ่งเดือนเดินทางมาจนครบหนึ่งปี พี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ต่างได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากกองทัพและเจ้าขา รวมไปถึงเด็กหญิงของขวัญที่รักและเอ็นดูน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนมากระหว่างทางของการเติบโตจากวัยทารกก้าวไปสู่วัยหนึ่งขวบ เด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนต่างได้รับความรักจากคุณทวดทั้งสองคนที่หลงรักหลานชายที่ขี้อ้อนจนหมดใจ หากแต่เมื่อไหร่ที่แฝดอยู่กับย่าแก้มแล้วนั้น เด็กชายทั้งสองคนเป็นต้องหาเรื่องงอแงใส่ผู้เป็นย่าจนแก้มใสถึงกับกุมขมับทุกครั้งที่แวะมาหาหลานรักทั้งสองคน พร้อมกับตบท้ายด้วยการงอนหลานกลับบ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไปเมื่อเด็ก ๆ เติบโตพอที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว กองทัพกับเจ้าขาก็พาลูกชายทั้งสองคนกับลูกสาวคนโตบินมาเที่ยวที่ประเทศอิตาลีอีกครั้ง และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมคุณยายจันทร์กนกที่ตอนนี้มีคนรู้ใจไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ อีกต่อไป “น้องกรรฐ์ครับมาใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว”กองทัพร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความเหนื่อยใจ เพราะกว่าที่เขาจะจับสองแฝดอาบน้ำได้ก็แทบหมดแรงเพราะลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นซนมาก ถ้าเทียบกับ
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป
โรงพยาบาล N“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์แล้วค่ะ”คำบอกเล่าของคุณหมอวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า ทำเอามือของเจ้าขาสั่นระริกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ หยาดน้ำตาพลันไหลรินลงมา จนหน้ากากผ้าที่เธอสวมอยู่เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเธอต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน ที่เกิดขึ้นจากความสะเพร่าและอารมณ์เพียงชั่ววูบของเธอ ถ้าหากคืนนั้นเธอไม่หลงใหลไปกับเจ้าของแววตาสีน้ำตาลคู่นั้น เธอก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจในวันนี้ถ้าหากว่าย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าหากว่า...Go back in the timeณ กรุงโรมประเทศอิตาลีโรงพยาบาล Hกองทัพเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เขามีเคสผ่าตัดยาวกว่าสี่ชั่วโมง เป็นเคสผู้ป่วยฉุกเฉินที่ประสบอุบัติเหตุค่อนข้างหนัก ทำให้ต้องใช้เวลาไม่น้อยกับการรักษาครั้งนี้ ร่างสูงบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ ก่อนที่ใครบางคนจะเดินตามออกมาจากห้องผ่าตัดติด ๆ“วันนี้ไปดื่มด้วยกันไหมคะหมอไค”ไลร่า...คุณหมอสาวสวยประจำแผนกศัลยกรรมเอ่ยปากชวนกองทัพ หรือหมอไคไปดื่มด้วยกัน หากแต่ใบหน้าหล่อเหลากลับอมยิ้มและส่ายหน้าปฏิเสธ คุณหมอคนสวยมองรอยยิ้มนั้นพลางหัวเราะออกมาเล็กน้อย ด้วยความคุ้นชินกับปฏิกิริย...
Comments