ร่างสูงเดินเข้ามาภายในตัวอาคาร ตาคู่คมก็สอดส่องมองหาจุดที่น่าจะเป็นสถานที่ถ่ายทำ ก่อนที่สองเท้าจะเดินไปเรื่อย ๆ โดยที่กองทัพไม่รู้ตัวเลยว่า รูปร่างและหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นขนาดไหน ขนาดผู้ชายด้วยกันยังเหลียวหลังมองจนคอแทบเคล็ด เพราะส่วนประกอบบนใบหน้าของเขาไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่โดดเด่นกองทัพเดินเข้ามาข้างในเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอกับบริเวณลานกว้าง ที่เต็มไปด้วยสตาฟกองถ่ายและกล้องตัวใหญ่ รวมถึงมีคนหลายคนที่อยู่ ณ บริเวณนั้น ลานกว้างถูกจัดตกแต่งใหม่มีพร็อพประกอบวางอยู่เรียงราย ส่วนคนที่เขาตามหาก็กำลังนั่งตัวตรงให้ช่างแต่งหน้าบรรจงปัดแก้ม พร้อมจัดแต่งทรงผมให้อย่างสวยงาม มุมปากหนาเผลอยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นเจ้าขาที่แย้มยิ้มพูดคุยกับช่างแต่งหน้าด้วยความสดใสร่าเริง คุณหมอหนุ่มเดินไปนั่งลงที่มุมหนึ่ง เพื่อรอเวลาให้เจ้าขาทำงานเสร็จ แล้วเขาค่อยเดินเข้าไปขอเสื้อคืน เพราะถ้าเข้าไปตอนนี้คงเป็นการเสียมารยาทน่าดู“น้องเจ้าขาสวยมาก ๆ เลยค่ะลูกสาว”พี่แยมช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายชมเปาะไม่ขาดสาย เป็นช่างแต่งหน้าที่อยูในวงการนี้มานาน แต่เจ้าขาคือคนแรกที่ไม่ว่าจะแต่งหน้าโทนไหนก็สวยไม่
หลังจากที่เที่ยวเล่นพักผ่อนเป็นเวลากว่าสัปดาห์ วันนี้กองทัพก็ยอมเข้ามาที่โรงพยาบาล N เพื่อสัมภาษณ์งานกับอาจารย์หมอของแผนกศัลยกรรมเสียที โดยชื่อที่เขาใช้ในการสมัครเข้าทำงานที่โรงพยาบาลของปู่คือ ไค แมคคินสัน เพราะเขาอยากให้ทุกคนรู้จักและยอมรับเขาที่ฝีมือ มากกว่าที่จะยอมรับและคอยเอาอกเอาใจเขาในฐานะหลานชายเจ้าของโรงพยาบาล N“เรียนจบที่อิตาลีเกียรตินิยมอับดับหนึ่ง ประสบการณ์ทำงานสามปี แต่ได้รับการยอมรับจากทางโรงพยาบาลเดิมให้เป็นหมอมือหนึ่งของแผนกศัลยกรรม อืม ประวัติดีมากทีเดียว”อาจารย์หมออินทัช แพทย์อาวุโสประจำโรงพยาบาล N ได้รับหน้าที่ให้มาสัมภาษณ์นายแพทย์รุ่นลูก ที่อิมพอร์ตมาจากต่างประเทศและเลือกที่จะมาร่วมงานกับทางโรงพยาบาล N ซึ่งหลังจากที่อ่านประวัติของเด็กคนนี้แล้ว เขาค่อนข้างมั่นใจว่าโรงพยาบาล N จะมีนายแพทย์ฝีมือดีเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งอย่างแน่นอน“ทำไมถึงเลือกกลับมาทำงานที่เมืองไทยล่ะครับ ทั้ง ๆ ที่รายได้จากโรงพยาบาลเดิมแตกต่างจากที่นี่ค่อนข้างเยอะพอสมควร”อาจารย์หมอถามเด็กหนุ่มที่นั่งตัวตรงอยู่ตรงหน้าเขา ในขณะที่กองทัพไม่หยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียว ในการคิดหาคำตอบของคำถามนี้ เพราะคำตอบ
“พี่ทัพขา”เสียงเรียกที่ดังลั่นไปทั่วบริเวณหน้าทางเข้าโรงพยาบาลทำเอากองทัพที่เพิ่งออกเวรหยุดชะงักอยู่กับที่ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงง พร้อมกับมองสาวสวยที่วิ่งอ้าแขนกว้างตรงมาที่เขาจนกระทั่งหมับ“พี่ทัพของน้อง คิดถึงจังเลย ฮือ ๆ”ไทน์นี่กอดพี่ทัพของตัวเองด้วยความคิดถึง ในขณะที่กองทัพได้แต่ยืนอึ้งให้หญิงสาวกอดโดยไร้การปัดป้อง น้ำเสียงนี้ช่างคุ้นหูแต่หน้าตาทำไมช่างไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยส่วนไทน์นี่เมื่อไร้การตอบสนองจากพี่กองทัพ ใบหน้าสวยที่มีหยาดน้ำตาเปรอะเปื้อนด้วยความคิดถึงคนที่เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ ก็เงยหน้าขึ้นมองกองทัพ ที่ก้มหน้ามองเธอด้วยสายตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่รู้จักเธอ“อะไรกันเนี่ย อย่าบอกนะคะว่าพี่ทัพจำไทน์นี่ไม่ได้”ไทน์นี่ถามอีกฝ่ายอย่างงอน ๆ ใบหน้าสวยที่เปื้อนด้วยหยาดน้ำตาบึนปากอย่างงอแง ก่อนที่กองทัพจะมีสีหน้าที่ตกใจเล็กน้อย เพราะไทน์นี่ในอดีตกับตอนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจนเขาจำไม่ได้จริง ๆ“ก็เล่นสวยกว่าพราวขนาดนี้พี่ทัพจะจำได้ไงล่ะ”พราวฟ้าที่เดินตามหลังมาแซวไทน์นี่ยิ้ม ๆ ในขณะที่กองทัพหลุดยิ้มออกมาน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดูไทน์นี่ ที่ตอนนี้กลายเป็น
“พราวโต๊ะข้าง ๆ นั่นใช่คุณเจ้าขาปะ”ไทน์นี่ที่เหลือบมาเห็นดาราสาวในดวงใจ ก็รีบยื่นหน้าไปกระซิบถามพราวฟ้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามทันที ได้ยินแบบนั้นพราวฟ้าจึงแสร้งทำเป็นหันไปมองทางอื่น แต่สายตากลับชำเลืองแอบมองดาราสาวสวยชื่อดัง ที่เธอชื่นชอบและติดตามอินสตาแกรมอยู่ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความดีใจ มือบางยื่นมาจิกเล็บลงบนมือของเพื่อนจนคนข้าง ๆ ถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ“พราวเบา ๆ หน่อยไทน์นี่เจ็บนะ”ไทน์นี่กระซิบบอกเพื่อนเสียงเบาด้วยความเจ็บ ก่อนที่พราวฟ้าจะสะดุ้งน้อย ๆ แล้วรีบปล่อยมือบางอย่างรู้สึกผิด แต่ดวงตากลมโตยังแอบเหล่มองโต๊ะข้าง ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง นั่นทำให้เจ้าขาที่กำลังทานอาหารอยู่ ค่อย ๆ หันมามองด้านข้าง เมื่อเธอรู้สึกว่ากำลังมีคนแอบมองอยู่ แล้วก็พบเข้ากับสาวสวยโต๊ะข้าง ๆ ที่กำลังมองมาที่เธอด้วยความดีใจ เจ้าขาก้มหัวทักทายพร้อมกับยิ้มให้อย่างไม่ถือตัว สองสาววัยใสยิ่งยิ้มปลื้มที่ดาราสาวไม่เย่อหยิ่งอย่างที่ใคร ๆ เขาพูดกัน“น้องพราวชอบคุณเจ้าขาเหรอคะ”กองทัพที่เห็นน้องสาวจ้องเจ้าขาไม่วางตา เอ่ยถามด้วยความสนใจใคร่รู้ พราวฟ้าที่เขินอายอยู่รีบดึงสายตากลับมาสบตา
โรงพยาบาล Nร่างสูงเดินถือแก้วกาแฟเดินเข้ามาในโรงพยาบาลอย่างมีความสุขเพราะเมื่อวานได้จูบใครบางคน มันทำให้กองทัพรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ปากนุ่ม ๆ ที่ตอบสนองจูบเขาอย่างอ่อนหวาน มันทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเจือไปด้วยรอยยิ้มจนพยาบาลสาว ๆ ที่เดินสวนกันได้แต่มองตามด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม เพราะรอยยิ้มของหมอกองทัพ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ใครที่ได้พบเห็นเป็นต้องโดนตกไปตาม ๆ กันอ้อ ยกเว้นไว้หนึ่งคนแล้วกัน จะเป็นใครถ้าไม่ใช่คนที่กำลังเดินเข้ามาในโรงพยาบาลโดยที่มีลูกน้องคู่ใจเดินตามมาติด ๆ“อะ แฮ่ม”กฤษฎิ์กระแอมเสียงดังทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ของความคิดได้สติ พร้อมกับมองหาเสียงกระแอมที่ดังอยู่ข้างหู พลันหันมาเจอกับรอยยิ้มที่แลดูมีเลศนัยของผู้เป็นปู่ กองทัพก็ถึงกับผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ เพราะกฤษฎิ์ยืนอยู่ข้าง ๆ หลานชายนั่นเอง“อารมณ์ดีแต่เช้าเชียวนะละ...เอ่อ คุณหมอไค”คำว่าหลานชายเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว แต่กลับเป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการแทน เพราะที่นี่ไม่มีใครรู้ว่ากองทัพคือหลานชายแท้ ๆ ของเขา ทุกคนรู้เพียงแค่ว่ากองทัพเป็นหมอที่มีความสามารถคนหนึ่ง ที่ย้ายกลับมาทำงานที่ประเทศไทยบ
“แล้ววันนี้มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ถึงแวะมาหาพี่ถึงที่ทำงาน”คุณหมอเอ่ยถามน้องสาวคนสวยที่มองหน้าพี่ชายยิ้ม ๆ อย่างมีเลศนัย ทำเอากองทัพรู้สึกระแวงน้องสาวอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่พราวฟ้าจะขยับเข้ามากอดแขนพี่ชายเอาไว้ แต่พี่ชายคนดีกลับขยับถอยหนี ทว่าคนน้องก็ดึงดันพยายามกอดรัดแขนแกร่งเอาไว้แน่นไม่ปล่อย“พ่อเก้าบอกให้เราสองคนออกงานด้วยกันพรุ่งนี้ วันนี้พ่อเก้าก็เลยให้น้องพราวมาพาพี่ทัพไปลองชุดค่ะ”คำบอกเล่าของน้องสาวทำเอาคุณหมอรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เพราะเขาเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่ถึงเดือน แต่บิดากลับจะให้เขาออกงานสังคมที่ไม่คุ้นชินเอาเสียเลย มันเลยทำให้เขาอดที่จะรู้สึกแปลกใจไม่ได้“พี่ทัพเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นานเอง พ่อเก้าก็จะให้พี่ทัพออกงานแล้วเหรอคะ”เอ่ยถามน้องสาวตัวน้อยที่ได้แต่ยิ้มให้เขาแทนคำตอบ เพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบิดากำลังคิดอะไรอยู่ พี่ชายของเธอเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นาน แต่บิดากลับให้เขาไปออกงานสังคม ที่ต้องพบปะกับบุคคลที่มีชื่อเสียงและฐานะทางสังคมทั้งหลาย แต่พี่ชายของเธอไม่ได้มีความคุ้นเคยกับบุคคลเหล่านั้นเอาเสียเลยซึ่งผิดกับเธอที่บิดามักจะควงออกงานสังคมอย
งานเลี้ยงรถยนต์คันหรูหยุดลงหน้าทางเข้างานซึ่งเต็มไปด้วยบรรดานักข่าว จากหลาย ๆ สำนักที่เตรียมมาทำข่าวแขกที่ถูกเชิญมาในงานเดินแบบเครื่องเพชรครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดง เซเลบริตี้ ไฮโซชื่อดัง หรือนักการเมืองที่เป็นที่รู้จักของสังคม ประตูรถถูกเปิดออกก่อนพราวฟ้าจะเดินลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี ผิดกับใครบางคนที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดกล้องในมือของสำนักข่าวถูกลดลงอย่างพร้อมเพรียงกัน เมื่อพบว่าผู้ที่ลงมาจากรถ คือพราวฟ้าลูกสาวคนเล็กของเก้าทัพ นักธุรกิจชื่อดังที่หลายคนต่างยำเกรง และเป็นหลานสาวของคุณกฤษฎิ์ ท่านประธานโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขามากมายทั่วโลก กิตติศัพท์ของสองพ่อลูกคู่นี้ล้วนไม่ธรรมดา ด้วยเป็นผู้มีอิทธิพลที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากต่อกรด้วย แม้กระทั่งสำนักข่าวชื่อดังก็ยังถูกห้ามทำข่าวและถ่ายรูปลูกหลานของตระกูลพิสิฐกุลวัตรดิลก“ยิ้มหน่อยสิคะ พี่ทัพทำหน้าเหมือนอึไม่ออกมาเป็นสิบปีไปได้ เดี๋ยวสาว ๆ เห็นจะไม่ประทับใจเอานะคะ”พราวฟ้าที่เดินมาควงแขนพี่ชายกระซิบข้างใบหูอย่างแซว ๆ หากแต่กองทัพกลับทำหน้าเซ็งไร้อารมณ์สุนทรีย์ มางานที่ไม่ชอบและหาความสนุกไม่เจอแบบนี้ เขา
หลังจากที่เดินกลับเข้ามายังหลังเวทีแล้ว พี่เอมมี่ก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พร้อมกับชะเง้อคอมองไปที่หน้าเวทีที่มีกองทัพนั่งอยู่ ก่อนที่เจ้าขาจะเดินมาลงบนเก้าอี้ที่ทีมงานจัดเตรียมไว้ให้พร้อมกับหยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่มแก้กระหาย“เป็นไง เซอร์ไพรส์ไหมจ๊ะลูกสาว คุณไคหล่อมากเลยอะเนอะ คนอะไรไม่รู้ล้อหล่อนั่งไกลขนาดนั้น แต่ออร่าความหล่อนี่เด่นมาแต่ไกลเชียว นี่ถ้าได้เข้าวงการนะ คุณแม่รับรองว่าดังพลุแตกแน่นอนค่ะ”พี่เอมมี่จีบปากจีบคอพูดชมคุณไคไม่หยุดปาก ส่วนเจ้าขาก็ได้แต่เสมองไปทางอื่นราวกับว่าไม่ได้สนใจหรือตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่เอมมี่พูด ผิดกับเพลงพิณที่นั่งอยู่ไม่ไกล แต่กลับเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งคู่อย่างสอดรู้สอดเห็น จนกระทั่งถึงช่วงเวลาของการประมูลชุดเครื่องเพชร นางแบบหลายคนทยอยออกไปเดินโชว์เครื่องเพชรตามลำดับ จนมาถึงเครื่องเพชรชุดสุดท้ายซึ่งผู้ที่สวมมันอยู่ก็คือเจ้าขานั่นเองครั้งนี้เจ้าขาเดินออกมาด้วยความมั่นใจไร้อาการเคอะเขินต่อสายตาคมกริบที่จ้องมายังเธอไม่วางตา ร่างระหงเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าเวทีซึ่งห่างกับร่างสูงเพียงแค่เอื้อม ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเผลอสบเข้ากับดวงตาของคนเจ้าเล่ห์อย่างไม่ตั้งใจ แ