โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
โรงพยาบาล N“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 8 สัปดาห์แล้วค่ะ”คำบอกเล่าของคุณหมอวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า ทำเอามือของเจ้าขาสั่นระริกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ หยาดน้ำตาพลันไหลรินลงมา จนหน้ากากผ้าที่เธอสวมอยู่เปียกชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา เมื่อเธอต้องพบเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน ที่เกิดขึ้นจากความสะเพร่าและอารมณ์เพียงชั่ววูบของเธอ ถ้าหากคืนนั้นเธอไม่หลงใหลไปกับเจ้าของแววตาสีน้ำตาลคู่นั้น เธอก็คงไม่ต้องมานั่งเสียใจในวันนี้ถ้าหากว่าย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าหากว่า...Go back in the timeณ กรุงโรมประเทศอิตาลีโรงพยาบาล Hกองทัพเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เขามีเคสผ่าตัดยาวกว่าสี่ชั่วโมง เป็นเคสผู้ป่วยฉุกเฉินที่ประสบอุบัติเหตุค่อนข้างหนัก ทำให้ต้องใช้เวลาไม่น้อยกับการรักษาครั้งนี้ ร่างสูงบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ ก่อนที่ใครบางคนจะเดินตามออกมาจากห้องผ่าตัดติด ๆ“วันนี้ไปดื่มด้วยกันไหมคะหมอไค”ไลร่า...คุณหมอสาวสวยประจำแผนกศัลยกรรมเอ่ยปากชวนกองทัพ หรือหมอไคไปดื่มด้วยกัน หากแต่ใบหน้าหล่อเหลากลับอมยิ้มและส่ายหน้าปฏิเสธ คุณหมอคนสวยมองรอยยิ้มนั้นพลางหัวเราะออกมาเล็กน้อย ด้วยความคุ้นชินกับปฏิกิริย
ตุบเสียงแผ่นหลังบอบบางที่กระทบกับผนังห้องนอนที่เย็นเยียบ สัมผัสรุนแรงทำเอาเจ้าขาสะดุ้งน้อย ๆ ร่างกายของเธอตอนนี้ถูกกักขังอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของผู้ชายแปลกหน้า คน ๆ นี้มีกลิ่นกายหอมเป็นเอกลักษณ์ จนเธอเผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอด มือใหญ่ยกขึ้นมาจับที่ใบหน้าสวยของเธออย่างอ่อนโยน ดวงตาสองคู่สบกันท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงแสงสลัวจากดวงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามากองทัพมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกหิวกระหายในรสชาติเซ็กซ์ ผู้หญิงที่เขาเผลอหันมาสบตาแล้วถูกสะกดไว้ราวกับต้องมนตร์ เธอสวยและเซ็กซี่มากในสายตาของเขา นิ้วเรียวยาวค่อย ๆ ลากไล้จากใบหน้าสวยลงมาแตะที่ริมฝีปากอวบอิ่มเบา ๆ กลิ่นหอมจากกายสาวปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะค่อย ๆ ก้มหน้าลงไปหาริมฝีปากสีพีชวาววับน่าสัมผัสกองทัพค่อย ๆ แตะเบา ๆ เพื่อลองเชิงหญิงสาวที่ตัวสั่นเทาเล็กน้อย มันทำให้เขารู้สึกคลางแคลงใจว่า นี่เป็นการแสดงหรือเธอตัวสั่น เพราะกำลังประหม่าจากสัมผัสของเขากันแน่ ในขณะที่กำลังคิดหาเหตุผลอยู่นั้น ความคิดก็ต้องหยุดลง เมื่อกองทัพได้สัมผัสกับความหวานราวกับน้ำผึ้งเดือนห้าจากริมฝีปากนุ่ม ที่จูบตอบเขาอย่
เช้าวันต่อมาควันสีเทาพวยพุ่งออกจากริมฝีปากสีไวน์ของคุณหมอหนุ่มที่ตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน ในขณะที่ใครบางคนที่เขาพามาด้วยเมื่อคืน ยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียง ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มราวกับกำลังฝันดี กองทัพเพ่งพิศมองใบหน้าเนียนสวยด้วยความรู้สึกเอ็นดูเด็กสาวไม่น้อย ภายนอกแต่งตัวสวยเซ็กซี่ แต่ใครเลยจะรู้ว่าใบหน้าที่สวยงามน่าหลงใหล กลับแฝงไปด้วยความไร้เดียงสากองทัพรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เธอยังบริสุทธิ์ แต่กลับเลือกที่จะลุกขึ้นเดินตามเขามา จนกระทั่งเรื่องราวมาจบลงบนเตียงด้วยสัมผัสที่เร่าร้อน ผิวเนื้อเนียนขาวละเอียดอย่างคนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หน้าอกอวบที่เด้งสู้มือยามถูกฟัด เพียงแค่คิดความใหญ่โตที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมก็พองโตขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเรื่องอารมณ์ความต้องการทางเพศ คุณหมออย่างเขามักจะควบคุมมันได้ดีมาเสมอ“อื้อ”เจ้าขาร้องครางขึ้นมาเสียงเบา ก่อนที่ดวงตากลมโตจะลืมตาขึ้น พลางกะพริบตาปริบ ๆ ในขณะที่สมองกำลังประมวลผลถึงเรื่องราวในค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้าเนียนสวยค่อย ๆ แดงระเรื่อราวกับลูกเชอร์รี ร่างเล็กกระวีกระวาดผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อภาพทั้งหมดมันย้อนกลับกล